[OS] #dmbjdaily (Kiss Day) ว่าด้วยเรื่องจูบ [หลายคู่]

by **sup-pak** Mon 25 May 2015, 21:20

ฟิคสั้นก่อนหน้านี้

Short Fic :

- ที่รัก

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (1)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (4)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (5)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (6)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (7)

- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง (1)

- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง (2)

- ความหนักใจของนายอ้วน

- ความหนักใจของนายอ้วน (อีกแล้ว)

- อีกด้านที่ปาหน่าย

- ความเหมือนในความต่าง

- วันหนึ่งของอู๋เสีย

- Truth or Dare

FIC

-ครอบครัวของผม The Series (1)

#dmbjdaily

หัวข้อ Ride : The Bittersweet Moment
หัวข้อ Sexy : The Most Sexiest Person
หัวข้อ แป้ง : Happy Birthday
หัวข้อ Help : สิ่งที่อยากให้ช่วย
หัวข้อ Free : My Time
หัวข้อ Tissue : Can you remember me?
หัวข้อ Pink : Story About Pink
หัวข้อ Pink : Story About Pink (Again)
หัวข้อ Blue : Blue Hood
หัวข้อ Blue : When I'm Feeling Blue
หัวข้อ Red : ด้ายแดง
หัวข้อ สลับเพศ : ความคิดไร้สาระ
หัวข้อ Sleeping beauty : How to Help Menyouping?

[OS] #dmbjdaily (Kiss Day) ว่าด้วยเรื่องจูบ [หลายคู่]

By: ซุปผัก

จูบที่หน้าผากหมายถึงมิตรภาพและการอวยพร

ผมนั่งอยู่ข้างเตียงเมินโหยวผิง หลังกลับออกมาจากวังของเจ้าแม่ซีหวังหมู่เขาก็มีสภาพเป็นแบบนี้ หมอให้ยาระงับอาการประสาทแบบอ่อนและบอกให้เขานอนพักผ่อน

ผมขอสารภาพว่าสภาพของเขาทำให้ผมรู้สึกสงสารและเวทนา

มองนิ่งๆ อยู่เกือบนาทีผมก็เขยิบไปใกล้

“ รู้ไหมว่านายกำลังผลาญเงินฉันอยู่น่ะ รีบๆ ลืมตาได้แล้ว” ค่ารักษาราคาไม่ใช่ถูกๆ นะ

เมินโหยวผิงนิ่ง

ผมถอนหายใจ “ ฉันกับนายอ้วนเป็นห่วงนายนะ รีบหายไวๆ ล่ะ”

ก้มลงจูบหน้าผากของเขาแผ่วเบา

จูบที่แก้มคือการเป็นที่รัก ความหวังดี ความพึงพอใจ

“อาเฮียรู้ความหมายของการจูบตำแหน่งต่างๆ ไหม” เสี่ยวฮัวถาม

ผมหรี่ตา “ ไม่รู้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นกับชีวิตฉันนี่”

“ไม่โรแมนติกซะเลย แบบนี้สาวๆ ถึงได้ไม่มอง”

“จะหาเรื่องหรือไง” ผมเริ่มฉุน

เสี่ยวฮัวโบกมือปฏิเสธแต่นั่นยิ่งยั่วอารมณ์ผม

“ อย่างน้อยฉันก็รู้ละกันว่าจูบที่ปากคือฉันรักเธอ”

เห็นเสี่ยวฮัวหัวเราะ ผมถามเสียงห้วนว่าเขาขำอะไร อีกฝ่ายก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมโดยไม่ทันให้ตั้งตัว ริมฝีปากเรียวบางแบบผู้หญิงแทบจะชิดกับริมฝีปากผมแต่แล้วมันก็เคลื่อนมาประทับที่แก้มผมแทน

“ทำบ้าอะไรของนายน่ะ” ผมดันเขาออกทันทีและถ้ามองไม่ผิดผมคิดว่าเขายิ้มเศร้าแปลกๆ

“นี่ฉันใจดีแล้วนะเนี่ยเลยไม่จูบที่ปาก”

ผมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจ

“ฉันรู้หรอกว่าริมฝีปากนี้มีไว้ให้คนนั้นคนเดียว”

หน้าผมร้อนเมื่อนิ้วเรียวของเสี่ยวฮัวแตะปากผม ยิ่งกว่าคือคำพูดของเขา

“ แล้วไอ้จูบที่แก้มนี่แปลว่าอะไร” ผมถามกุกกักเมื่อเสี่ยวฮัวเลิกแตะ

“เรื่องนั้นอาเฮียต้องไปหาความหมายเองนะ”

ผมนั่งลง วางแขนบนโต๊ะ ไม่รู้ทำไมผมจึงไม่อยากจะรู้ขึ้นมา

จูบที่แขนคือการหลงรัก

ตอนที่ผมกำลังเผลอ เสี่ยวฮัวก็จูบที่แขนของผมซึ่งวางเท้าที่โต๊ะ ผมตกใจร้องลั่นถามเขาว่าทำอะไร

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วน่ะ” เขาว่า

จูบที่เปลือกตาคือการหลงใหล ชื่นชม

เฮยเสียจื่อจับหน้าของผมด้วยสองมือ เห็นเขายิ้มไม่น่าไว้ใจ แล้วก็จริง นายแว่นนี่จูบเปลือกตาผม

“ทำบ้าอะไรวะ!”

“ นายน้อยสามไม่รู้หรือไงว่าการจูบที่เปลือกตาแปลว่าอะไร” เฮยเสียจื่อหัวเราะ “ มันแปลว่าผมกำลังชื่นชมคุณนะที่เห็นคุณสามารถฝึกท่าใช้เข่าบิดคอได้สำเร็จเกินครึ่งทั้งที่เป็นแค่นายน้อย”

“ฉันฟังดูแล้วไม่เห็นเหมือนนายชื่นช,ฉันเท่าไรเลย”

นายแว่นหัวเราะ

จูบที่ใบหูคือยั่วยวน เชื้อเชิญ

ผมรีบเอามือจับใบหูข้างซ้าย หันควับไปจ้องคนที่รีบผละออกเขม็ง

“จูบที่ใบหูคือการเชื้อเชิญไงครับ ผมกำลังเชิญให้นายน้อยเข้ามาสู้กับผมได้ตามสบาย”

“นายได้เชิญชวนให้ฉันเอาเท้าเตะนายแล้วนายแว่น!”

จูบที่หลังมือคือการเคารพรัก ยกย่อง นับถือ

“พี่พานหน้าพี่ไปโดนอะไรมาน่ะ” ผมสังเกตว่าพานจื่อแก้มข้างหนึ่งแดงเป็นปื้นยังกับโดนตบมา

“ ผมไปทำตัวไม่ดีใส่ผู้หญิงน่ะครับนายน้อย” พานจื่อหัวเราะแห้งๆ ผมพยักหน้า แต่หลังจากนั้นผมก็ได้รู้จากเฮยเสียจื่อว่าแท้จริงแล้วอาสามไปชกต่อสั่งสอนลูกน้องจนมือเป็นแผล พานจื่อจับดูแล้วไม่รู้บ๊ะจ่างตัวไหนเข้าสิงดันก้มลงไปจูบที่แผล ซึ่งก็คือหลังมืออาสามนั่นแหละ

ผลก็คือโดนตบสั่งสอนโทษฐานลามปาม

“ฉันจะไม่ถามว่านายรู้ได้ยังไง” ผมบอกเฮยเสียจื่อ “แล้วก็จะถือซะว่าฉันไม่เคยได้ยินเรื่องพรรค์นี้มาก่อน”

จูบที่หลังเท้าคือการสวามิภักดิ์ เป็นลูกน้อง

“ หืมมมม เขาว่าการจูบที่หลังเท้าคือการอยู่ใต้อำนาจเป็นลูกน้องงั้นเหรอ” เพราะเสี่ยวฮัวกับนายแว่นดำผมเลยต้องมาหาข้อมูลพวกนี้เอาไว้บ้าง

และตอนนี้ผมก็ใช้คอมพิวเตอร์ที่ร้าน

หวังเหมิงมองมาที่ผม

“ ถ้าขึ้นค่าจ้างเป็นหมื่นหยวน ผมจะยอมนะครับ”

ผมมองกลับ

“ฉันกระทืบนายแล้วเอาเท้าประทับลงไปน่าจะง่ายกว่านะ หยุดอู้แล้วไปทำงานได้แล้ว!”

จูบที่เส้นผมคือการคิดคะนึงถึง

“ฉันกลับมาแล้วเหล่าอู๋” เหลาหย่างสวมกอดเพื่อน พอดีศีรษะของอีกฝ่ายมันตรงกับปากเขาพอดี เลยอดไม่ได้จูบที่เส้นผมนั่นไวๆ หนึ่งครั้ง

“ไอ้เชี่ย!” ผมด่า น่าขนลุกจริงๆ จากนั้นก็ดึงหูเขาจนร้องจ๊าก ประกาศว่าอย่ามาเข้าใกล้ผมอีก!

จูบที่เส้นผมคือการคิดคะนึงถึง (อีกรอบ)

“ เสี่ยวเกอ” ผมร้องเรียกชื่อเขา กอดแน่นขึ้น สูดหายใจลึกๆ เมินโหยวผิงของผมอยู่ตรงนี้จริงๆ ไม่ใช่เพียงการฝันไปอย่างที่แล้วมา สิบปีที่ยาวนานจบลงแล้ว
ผมจูบที่เส้นผมสีดำของเขา ย้ำซ้ำๆ หลายครั้ง

“ ฉันคิดถึงนาย”

จูบที่สันจมูกคือการให้ความสำคัญและการเอ็นดู

เมินโหยวผิงจูบที่สันจมูกของผมเบาๆ จากนั้นกระซิบเรียกชื่อผม

“เสี่ยวเสีย…”

จูบที่หลังคอคือการหลงใหล ยึดติด

ผมก้มลงทำบัญชี จึงไม่สนใจเสี่ยวฮัวที่อ้อมมาด้านหลัง ทันใดนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างนิ่มๆ อุ่นๆ บริเวณคอด้านหลัง

ผมรีบหันไป เห็นเสี่ยวฮัวส่งยิ้มหวานให้ สมองผมยังไม่ประมวลผลก็รู้สึกถึงไอเย็นยะเยือก

ผมหันกลับมา

เมินโหยวผิงยืนตรงกรอบประตู

จูบที่ลำคอด้านหน้าคือความปรารถนา ความต้องการ

“ สะ เสี่ยวเกอ” ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงสั่น

เจ้าของชื่อละใบหน้าออกจากลำคอของผมที่ถูกทำเป็นรอยแดงและรอยฟันหลายรอย

“ ทำไมคืนนี้นาย…” ผมยังพูดไม่ทันจบเขาก็ก้มมาอีก เฮ้! ให้ฉันถามให้จบก่อนได้ไหม

จูบที่หน้าอกคือการครอบครอง การเป็นเจ้าของ

ก่อนหน้านี้ผมด่าเขาในใจ และราวกับว่าเมินโหยวผิงอ่านใจได้ หมอนี่ตอบพึมพำ เลื่อนต่ำลงไปที่หน้าอกซะแล้ว

“ นายเป็นของฉันอู๋เสีย” เขาบอกชัดเจน

จูบที่เอวคือการผูกมัด

“ อ๊ะ! เสี่ยวเกอ…ตรงนั้น…อ๊ะ!”

เมินโหยวผิงไม่ฟังคำทัดทานของผมเลย แต่เอาเถอะ เวลานี้สติผมกระเจิดกระเจิงหมดแล้วได้แต่ปล่อยให้เขาจัดการ (?)

จูบที่ฝ่ามือคือการวิงวอน อ้อนวอน

ผมยืนตรงหน้าเขา พวกเรามองหน้ากัน

เมินโหยวผิงเอื้อมมือมาจับมือของผม หงายขึ้นแล้วประทับริมฝีปากได้รูปลงไป บริเวณที่เขาสัมผัสร้อนขึ้นมา อันที่จริงมันลามมาถึงใบหน้าผมด้วย

“ นายจะช่วยอยู่กับฉันได้ไหม”

ถึงนายไม่บอกฉันก็ไม่ยอมแยกจากนายอยู่แล้ว และถ้านายคิดจะหายไปล่ะก็ฉันก็จะตามหานายจนกว่าจะเจอ

จูบที่ริมฝีปากคือฉันรักเธอ

ผมเคยจินตนาการว่าจูบแรกของผมจะต้องเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน ไม่ต้องสวยมากแต่ก็พอดูได้ ที่สำคัญคือเป็นคนที่ผมรัก แต่ในความเป็นจริง (อันแสนเศร้า) จูบแรกของผมดันเสียให้ผีแม่ย่า มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายเสียจนทำเอาผมขยาดการจูบไปเลย (แต่อันที่จริงก็ไม่เคยได้จูบสาวคนไหนอยู่แล้วน่ะนะ)

เคยคิดว่าจะไม่นับจูบนั้น และเอาจูบที่สองเป็นจูบแรกแทนก็มาพลาดอีก

เมินโหยวผิงถูกพิษและผมก็ไม่รู้บ้าอะไรเลยจูบเขา ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เก้าครั้ง กลายเป็นว่าจูบที่สองถึงสิบเป็นของนายเรือพ่วงหน้าตาย แย่จริงๆ

จูบที่สิบเอ็ดเป็นของนายอ้วน ผมจะไม่พูดอะไรมาก เขาอุตส่าห์ช่วยผายปอดให้ ไม่งั้นผมคงตายไปแล้ว ครั้งนี้ผมต้องทนกับคำจิกกัดเรื่องการเชื้อโรค เรื่องขยะแขยง เรื่องปากผมหันแห้ง แตก ไม่นุ่ม ไม่น่าจูบอีกสารพัด

ผมกัดริมฝีปากล่าง รู้สึกเจ็บหัวใจจี๊ดๆ

จูบที่สิบสองเมินโหยวผิงได้ไปอีกแล้ว มันเกิดขึ้นหลังผมบ่นพึมพำเรื่องที่นายอ้วนเหยียดหยามริมฝีปากผม ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีแค่ผมกับเขาสองคน กว่าจะรู้ตัวหมอนี่ก็ก้มลงมาแตะปากผมด้วยปากเขาไวๆ หนึ่งครั้ง

“ ฉันไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างที่เขาบอกเลย”

ผมอ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาขาดน้ำ

จูบที่สิบสามถึงยี่สิบเอ็ดก็ตกเป็นการเอาคืนจูบเก้าครั้งก่อนหน้านี้ของเมินโหยวผิง

จากนั้นผมก็เลิกนับ คิดว่าคงจะจูบไปเกินห้าสิบครั้งแล้วแน่ๆ ถึงจะมีจูบโดยบังเอิญหรือโดนเสี่ยวฮัว หรือนายแว่นแกล้งบ้างแต่มันก็เป็นส่วนน้อยนิดเมื่อเทียบกับบางคน
“ฉันรักนายจางฉี่หลิง” ผมบอกเขา ตามด้วยการครางในลำคอเบาๆ เมื่อเมินโหยวผิงจูบผม

ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องจูบแรกหรืออะไรนั่นแล้ว สำหรับผมตอนนี้มีแค่ว่าการจูบกับคนที่ผมรักก็ทำให้ทุกจูบนั่นมีค่ายิ่งกว่าจูบไหนๆ แล้ว

แถมๆ

จูบที่หน้าผากคือการอวยพร (อีกสักที)

“ ปีนี้ป๊ากับม๊าก็ขอให้เสี่ยวเสียร่างกายแข็งแรง มีความสุขนะ” ผมหัวเราะเมื่อป๊าจูบหน้าผากผม ถึงจะอายุขึ้นเลขสามผมก็ยังชอบที่พ่อแม่ผมอวยพรผมเช่นนี้ในวันปีใหม่

“ แล้วก็…” พ่อส่งยิ้มให้ผม “ ขอให้คนรักของเสี่ยวเสียมีความสุขด้วย”

รอยยิ้มผมค้างทันที

“ ขอให้รักกันมั่นคง อย่าลืมพามาพบพวกป๊าด้วยนะ จะได้พูดคุยอย่างเป็นทางการเสียทีว่าเขาจะแต่งเข้าตระกูลอู๋หรือเสี่ยวเสียจะแต่งเข้าตระกูลจาง”

!!!

Talk : โมเมนต์จูบที่สองถึงเก้านี่มาจากเดลี่ Sleeping beauty นะคะ สามารถติดตามได้จากลิงค์ข้างบนนะคะ

by **Mayao** Mon 25 May 2015, 22:13

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จูบที่คอมัน ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ มากเลยคร่าาาาา แอร๊ยยยยยย น่าร้ากกกกกกก ขำพานสาม กรั่กๆๆ อาสามไม่คิดจะให้รางวัลลูกน้องหน่อยหรอคะ 5555555555 ชอบค่ะ ขอบมากกกกก ฟิคน่ารักค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มม