Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย]

4 posters

Go down

[OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย] Empty [OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by sup-pak Tue 21 Apr 2015, 23:02

ฟิคสั้นก่อนหน้านี้


Short Fic :


- ที่รัก

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (1)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3)

- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (4)

- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง



#dmbjdaily


หัวข้อ Ride : The Bittersweet Moment
หัวข้อ Sexy : The  Most Sexiest Person
หัวข้อ แป้ง : Happy Birthday
หัวข้อ Help : สิ่งที่อยากให้ช่วย


………………………………..………………………………..







[OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย]


By: ซุปผัก





“ พวกแกคิดว่าวันหนึ่งฉันมีเวลาเป็นร้อยชั่วโมงหรือไง! ฉันไม่มีเวลามากพอจะตามล้างตามเช็ดงานของพวกแกหรอกนะ! ไปจัดการให้เรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยแกก็เตรียมใจไว้ได้เลย!”



ผมวางหูโทรศัพท์กระแทกดัง ปึง! เล่นเอาหวังเหมิงสะดุ้ง แต่เวลานี้ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น ผมพึ่งจะเข้าใจความรู้สึกอาสามก็ตอนนี้แหละ ว่าไอ้การที่ลูกน้องทำงานพลาดแล้วหัวหน้าต้องตามแก้ให้น่ะมันเป็นอย่างไร คิดแล้วก็ว่าโชคดีนะที่ผมมีศักดิ์เป็นหลานแปะไว้หน้าชื่อ ถ้าไม่ใช่ล่ะก็คงโดนอาซ้อมตายตั้งแต่เล็กแล้ว




“ ชาครับ” หวังเหมิงยังกลัวอารมณ์โกรธของผมแต่ก็จำต้องทำหน้าที่ ไม่งั้นเงินเดือนที่มีน้อยนิดอยู่แล้วอาจลดลงอีกได้



ผมหยิบถ้วยชาขึ้นมา ในใจยังโมโหไม่หาย พอโมโหมากๆ ก็เผลอสบถด่าบรรพบุรุษของลูกน้องเหล่านั้น ตบท้ายด้วยการบ่นลอยๆ



“ อายุฉันก็ปาเข้าไปจะสี่สิบแล้ว จะอยู่ได้อีกสักกี่ปี พวกมันกะจะใช้งานฉันให้คุ้มไม่ต้องมีเวลาว่างไปทำอะไรเลยหรือไง”
หลังจากนั้นผมก็ระบายกับลูกน้องข้างตัวอีกไม่น้อย








ปิดร้านเสร็จแทนที่จะได้กลับบ้านพักผ่อนผมกลับต้องนั่งรถไปที่ร้านของลูกน้องเพื่อไปดูว่ามันจัดการงานไปถึงไหนแล้ว กว่าจะได้กลับจริงก็เกือบเที่ยงคืน




“ เสี่ยวเกอ?” ผมสังเกตว่าบ้านมันมืดแล้วก็เงียบแปลกๆ เลยลองเรียกหาใครอีกคนที่อาศัยอยู่ด้วย ทว่าไม่มีเสียงใดตอบกลับมา ลองเดินไปที่ห้องนั่งเล่น




ไม่มี?




ไปที่ห้องครัวบ้าง เห็นอาหารถูกห่อพลาสติกใสอย่างดีวางอยู่บนโต๊ะ จำนวนไม่ได้ลดลงเลยแปลว่าอีกคนไม่ได้แตะต้องมันสักนิด เดินหาทั่ว สุดท้ายก็ที่ห้องนอนแต่ก็ไม่พบ



เมินโหยวผิงหายตัวไป?




หากเป็นเมื่อสิบปีก่อนผมคงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ในเวลานี้ไม่ใช่อีกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมคว่ำกรวยอีกแล้ว มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น และเขาก็ตกลงกับผมเองว่าหากจะไปไหนจะไม่หายตัวไปเฉยๆ แต่จะบอกกันก่อน




ผมเริ่มเดือด ตอนกลางวันก็มีเรื่องให้หงุดหงิดจะแย่กลับมายังต้องมาเจอเรื่องนี้อีก แต่จะให้หาตัวเมินโหยวผิงยังไงล่ะ คนนั้นไม่พกโทรศัพท์ซะด้วย




ก่อนที่ผมจะคิดไปไกลว่าโทรหาพวกลูกน้องให้ตามหาดีไหมโทรศัพท์มือถือผมดันดังขึ้นเสียก่อน เบอร์ที่โชว์คือนายอ้วน ผมกดรับด้วยเสียงหงุดหงิด




“ อู๋เสีย…”




ปลายสายกลับเป็นคนที่ผมตามหาอยู่



“ ทำไม…ทำไมนายไปอยู่ที่นั่นล่ะ” ความหงุดหงิดกลายเป็นความสงสัย แล้วกลับมาเป็นโกรธอีกครั้งเมื่อเขาไม่ยอมอธิบายอะไรบอกแค่ว่า




“ อีกสามวันฉันจะไปหานาย”




ผมโกรธจนควันแทบออกหู กระแทกเท้าปึงปังขึ้นบันได ปากบ่นว่าอยากไปไหนก็เชิญเลย ไม่อาบน้ำ ไม่เปลี่ยนชุดแล้ว ผมจะนอนทั้งอย่างนี้แหละ




ไอ้ตอนแรกก็ว่าอย่างนั้นนะ แต่ผมดันนอนไม่หลับสักที เหลือบมองนาฬิกาที่โต๊ะข้างเตียงก็พบว่าเกือบจะตีหนึ่ง นอนพลิกไปพลิกมาหลายที ท้ายที่สุดก็หันไปมองด้านที่ควรจะมีใครอีกคนนอน ผมคว้าหมอนของเมินโหยวผิงมากอดไว้




ให้ตายสิ! ผมชินกับการมีเขานอนข้างๆ มากเกินไป!








กว่าผมจะตื่นก็สิบโมงของอีกวัน ผมรีบลุกขึ้น ยังไม่ทันคิดทบทวนเรื่องเมื่อคืนก็มีโทรศัพท์จากลูกน้องเรื่องนัดสำคัญ ผมเลยได้แต่รีบอาบน้ำ เปลี่ยนชุดเป็นทางการขึ้นแล้วออกจากบ้าน




ธุระที่ว่าค่อนข้างน่าเบื่อและยืดยาดกว่าจะเสร็จก็เย็น จากนั้นผมก็ต้องเข้าไปดูที่ร้าน ต้องเช็คให้แน่ใจว่าลูกจ้างจอมอู้จะไม่ขี้เกียจ (แม้มันจะเป็นไปได้น้อยมาก) ผมเดาไม่ผิดจริงๆ หวังเหมิงแอบงีบ ผมจัดการตะโกนปลุก ขู่เรื่องเงินเดือน เข้าไปเช็คของกับบัญชี สามทุ่มก็กลับบ้าน  ร้องเรียกหาเมินโหยวผิงตามความเคยชิน ตอนนั้นเองที่ผมนึกได้ว่าเขาไม่อยู่




เมื่อวานนี้ผมกำลังหงุดหงิดเลยพาลเรื่องของเขา แต่ตอนนี้ผมอารมณ์เย็นลงแล้วเลยว่าจะโทรไปหาเขาเพื่อขอเหตุผล ระหว่างรอให้อีกฝั่งรับก็นึกไปสารพัดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใช่ไหม เรื่องก็ไม่ใช่ ช่วงนี้ไม่มีเวลาว่างเลยจะไปกินดื่มที่ไหน ไม่สนใจเขาหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่มีทาง ผมชวนเขาคุยทุกวันแหละ มีแต่เขาที่นั่งเงียบๆ ฟังอย่างเดียว หรือจะรำคาญเรื่องนี้ ไม่น่า ถ้าจะรำคาญก็ควรเป็นนานแล้ว




ตกลงว่ามันเรื่องอะไรกันแน่วะ?



“ ฮัลโหล” นายอ้วนรับสาย



“ ฮัลโหล ฉัน…”



“ เสี่ยวเกอไม่อยู่นะเทียนเจิน”



“ หา!?” ผมขมวดคิ้ว “ แล้วหมอนั่นไปไหน”




“ ไปหาคุณชายเซี่ย”




“เสี่ยวฮัว?” ผมทวน สงสัยว่าสองคนนี้เขาไปสนิทกันตอนไหน ทำไมผมไม่รู้



“ เสี่ยวเกอไม่ได้มีบ้านเล็กหรอกน่า”




“ ฉันยังไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย!” ผมว่า “ นายทำฉันขนลุก” ลองจินตนาการถึงสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน มันจะมีรังสีออร่าแปลกๆ แผ่ออกมา




ผมถามต่อ




“ แล้วไปหาเสี่ยวฮัวทำไม”




“ ไว้เขากลับมานายก็ถามเขาเองสิ” นายอ้วนเปลี่ยนเรื่อง ชวนผมคุยเรื่องอื่น คุยได้ราวๆ สิบนาทีผมก็ได้ยินนายอ้วนบอกว่าเสี่ยวเกอกลับมาแล้ว  “ เมียนายขอคุยด้วย”




“ใครเมียวะ!” ผมตะโกนดังๆ ตามด้วยการด่าบรรพบุรุษสกุลหวังเท่าที่จะหาคำหยาบได้




“ อู๋เสียพรุ่งนี้ฉันจะไปรับนาย” เมินโหยวผิงบอกเสียงเรียบ




“ อะไรนะ” ไม่มีหัวไม่มีหางจู่ๆ ก็ขึ้นมา เขาก็ไม่บอกอะไรอีก  ทำตัวมีความลับ พอผมเริ่มจะเดือดเขาก็บอกว่าแค่นี้




คืนนั้นผมทั้งงงทั้งอารมณ์เสีย เผลอหลับไปตอนห้าทุ่ม อาจเป็นเพราะความเหนื่อยสะสม









ตอนผมลืมตา เมินโหยวผิงนั่งอยู่บนเตียงข้างๆ เอานิ้วยาวๆ เกลี่ยเส้นผมบนหน้าผากผม เขาช่วยพยุงผมขึ้น บอกว่าจะรอด้านล่าง ผมจับต้นชนปลายไม่ถูก ตะโกนถามก็ไร้คำตอบ จำต้องทำตามที่เขาพูด



เมินโหยวผิงยืนรอผมด้านล่าง มีกระเป๋าเป้สะพายหนึ่งใบ



“ อย่าบอกนะว่านายจะชวนฉันไปคว่ำกรวย”



เขาส่ายหน้า



“ แล้วนายจะพาฉันไปไหน ขอร้องล่ะช่วยตอบฉันสักข้อเถอะ ฉันงงจะแย่แล้ว”



“ไปเที่ยว”



ห๊ะ!?



เมินโหยวผิงบอกสถานที่ ผมถามว่าทำไมต้องเป็นที่นั่น เขามองหน้าผมแวบหนึ่ง ผมชะงัก กะพริบตาสองสามที อ่อ! นึกออกแล้ว มันเป็นที่ที่ผมเคยเปิดเจอในรายการโทรทัศน์ จำได้ว่าชี้ให้เขาดู อาจจะพูดว่าอยากไปด้วยมั้ง ผมจำไม่ได้…



แต่เมินโหยวผิงจำได้




ผมรู้สึกเขินอายแปลกๆ มันทำให้รู้สึกดี ผมนึกว่าเขาไม่เคยฟังอะไรผม แต่เห็นชัดว่าไม่จริง เขาฟังผมและจำได้ด้วย



งานนี้ผมไม่คิดอะไร ปล่อยให้เขาพาผมไปตามใจเลย








“ ฉันต้องโทรไปบอกพวกลูกน้องก่อน”  ผมนึกได้ตอนที่เกือบจะถึงที่หมาย เมินโหยวผิงจับมือผมไว้ บอกผมว่ามีคนจัดการให้แล้ว



ผมเลิกคิ้ว ถามกลับว่าใคร



“ คนตระกูลเซี่ย”



“เสี่ยวฮัว” เมินโหยวผิงพยักหน้า  “ นายทำอะไรลงไป”



คำถามผมถูกขัดด้วยเสียงตะโกนว่าถึงแล้วของคนขับรถ พวกเราลงเดิน สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทิวทัศน์  มันทำให้ผมลืมเรื่องราวอื่น ได้แต่มองภาพธรรมชาติเบื้องหน้า



“ เดินไปตามทางนี้” เมินโหยวผิงชี้ “ ที่ปลายทางมีจุดดูวิวที่สวยที่สุด”



“ทำไมนายถึงรู้ได้ล่ะ” ผมถามพลางเดินตาม



“ ฉันเคยมา” เขาตอบ ชะลอฝีเท้า  




ผมเลิกคิ้ว เดินเคียงข้างกันไปอย่างนั้น “ มาเที่ยว?”



“ ไม่” เมินโหยวผิงส่ายหน้า “ ถัดจากที่นี่ไป จะมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่นั่นมีสุสาน”



ผมเข้าใจแล้ว เขาเคยถูกจ้างให้มาลงกรวย สงสัยจะเป็นสมัยอยู่กับเฉินผีอาซื่อล่ะมั้ง



ตลอดทางผมมองทิวทัศน์สลับกับชวนอีกคนคุย เมินโหยวผิงตอบสั้นๆ แค่นั้นสำหรับผมก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่จะเรียกว่าฟ้ากลั่นแกล้งหรืออะไรดีล่ะ ท้องฟ้าสดใสเปลี่ยนเป็นครื้ม เมฆฝนก่อตัวจากนั้นฝนก็ตก




“ เชี่ย!” ผมสบถ




คนข้างตัวทำท่าจะถอดเสื้อฮู้ดสีน้ำเงิน ผมคว้ามือเขา บอกว่าไม่ต้อง ผมไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อยไม่ต้องดูแลกันขนาดนั้น




“เดี๋ยวนายป่วย” เมินโหยวผิงว่า




“ ฉันก็กลัวนายป่วย” ผมย้อน




“ ฉันไม่ป่วยง่ายๆ หรอก” เขาบอก




ก็จริง…




“ฉันไม่เป็นไรหรอก” ผมยืนยัน “ แต่ถ้าฉันป่วยจริงๆ นายก็ดูแลฉันด้วย”




เมินโหยวผิงพยักหน้า เดินอีกสักพักฝนก็เริ่มตกหนักกว่าเดิม ครั้งนี้เขาคว้าข้อมือผม บอกว่าข้างหน้ามีศาลาให้หลบได้  พวกเราโชคดีที่มาถึงศาลาก่อนที่ฝนจะตกหนักจนมองเส้นทางไม่เห็น แถวนี้ไม่เหลือใครแล้ว น่าจะกลับกันไปหมด



“ ขอโทษ”




ผมหันควับ มองหน้าเมินโหยวผิงอึ้งๆ “ เรื่องอะไร”




เขามองออกไปข้างนอก มองท้องฟ้าแทนคำตอบ ผมยักไหล่ บอกเขาว่าไม่เป็นไร ตอนนี้ผมอยากรู้มากกว่าว่าอะไรทำให้เขาลากผมมาที่นี่




“ ฉันได้ยินนาย” หลังเงียบไปเมินโหยวผิงก็เริ่มพูด ผมถามว่าได้ยินอะไร “ นายพูดเรื่องเวลา นายบอกว่านายไม่มีเวลาว่าง นายจะอยู่ได้อีกสักกี่ปี”




ดูเหมือนผมจะพูดจริงๆ แต่มันเกี่ยวอะไร




“  ฉันมีเวลามากมายอู๋เสีย มากเกินไปด้วยซ้ำ” เมินโหยวผิงเอื้อมมือมา ดึงผมให้นั่งลงข้างเขา “ตลอดชีวิตฉันกลัวเรื่องตัวตนของตัวเอง กลัวการที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มีอดีตและอนาคตแบบไหน แต่…หลังจากที่ฉันรู้จักนาย แล้วก็พวกนั้นฉันมีอย่างอื่นที่กลัวมากกว่า”




เขามองหน้าผม




“ โรคสูบวิญญาณที่ฉันเป็น ถ้ามันเกิดขึ้น ฉันจะจำเรื่องของนายไม่ได้” นิ้วยาวเป็นพิเศษยกแตะแก้มของผม “ แล้วก็เวลาของนาย เวลาที่จะอยู่บนโลกนี้ ถ้าวันหนึ่งมันหมด…ฉันกลัวเวลาที่สองอย่างนี้จะมาถึง”




ผมวางมือตัวเองซ้อนทับมือของเมินโหยวผิง ขยับตัวเข้าไปใกล้ จูบเขา ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าจะมีใครผ่านมาแล้วเห็นเข้า




“ ฉันเองก็กลัว ไม่ได้กลัวเวลาของฉันจะหมด แต่โอเค ฉันกลัวโรคความจำเสื่อมของนาย…” ผมแตะหน้าผากตัวเองกับหน้าผากเขา รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดริมฝีปาก  ผมกลัวว่าวันที่เวลาของผมหมดลงก็จะเหลือเขาเพียงคนเดียวอีกครั้ง ผมทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ แน่นอนว่าไม่อยากให้เขาฆ่าตัวตายตามผมไปด้วยแน่ สิ่งเดียวที่ผมคิดออกก็คือ…




“ ฉันอาจจะมีเวลาว่างไม่เยอะ แต่ฉันอยากใช้เวลาตรงนั้นอยู่กับนายให้คุ้มที่สุด ฉันสัญญาว่าฉันจะกินข้าวกับนาย ตอนเที่ยงฉันจะโดดงานไป ส่วนตอนเย็นก็จะกลับเร็วๆ จะเข้านอนพร้อมกัน  ฉันอาจจะตื่นสายแต่อย่างน้อยถ้าฉันตื่นก็อยากเห็นนาย  วันหยุดจะปล่อยพวกลูกน้องไม่เอาไหนแม่งทำงานกันเอง ฉันแค่โทรสั่ง เรา ไปเที่ยว ไปไหนก็ได้ หรือจะชวนนายอ้วนกับพวกเสี่ยวฮัวด้วยก็ได้ แต่ถ้านายไม่ชอบจะไปลงกรวยใต้ดิน ใต้ทะเลหรือในภูเขาฉันก็จะไปด้วย”




ขอแค่ให้ผมอยู่กับเขา




เมินโหยวผิงยิ้ม ริมฝีปากนั่นเคลื่อนมาประทับลงบนหน้าผากผม ไล่มาปลายจมูกแล้วหยุดที่ปาก ตอนที่เขาถอนริมฝีปากออกผมเริ่มรู้สึกหน้าร้อนทั้งที่อากาศหนาวจากฝนตก










“ สรุปว่านายไปหานายอ้วนบอกเขาเรื่องนี้ หมอนั่นเลยแนะนำนายให้ไปหาเสี่ยวฮัวเพื่อให้ช่วยจัดการงานแทนฉัน” ผมสรุปเรื่องหลังจากฟังเขาเล่าทั้งหมด ฝนหยุดตกแล้ว พวกผมกำลังเดินกลับ




เมินโหยวผิงพยักหน้า




“ นายขอร้องยังไงน่ะ” ผมอยากรู้มากเป็นพิเศษ



เขาเงียบ




“ เฮ้ บอกฉันมาหน่อย”  




“ เพื่อนาย”




“หือ?”




เมินโหยวผิงไม่ยอมบอกอะไรผมอีก




“ แล้วฉันมีเวลาว่างเท่าไรล่ะเนี่ย” ผมถามคำถามอื่นก็ได้ เขาบอกว่าวันนี้กับพรุ่งนี้ หืมมมมม เยอะอยู่นะ ดีไม่ดีผมจะติดใจแล้วโดดงานสักอาทิตย์ดีไหมนะ แต่ก่อนหน้านั้นคงต้องปิดโทรศัพท์กันคนที่ไปทำงานแทนจะโทรตาม




เมินโหยวผิงหันมามองเมื่อผมจับแขนของเขา





ที่แน่ๆ เวลาว่างของผมยังไม่หมด ผมขอใช้เวลานี้อยู่กับเขาให้เต็มที่เลยละกัน




118 day(s) left



Talk : มโนหนักมากกกกกกกก ( ปิดหน้าปิดตา) Free ในที่นี้ก็คือFree time ค่ะ ถึงหลักๆ จะเกี่ยวกับเวลาและสองเรามากกว่าก็ตาม (หัวเราะ)


คำถามทิ้งท้าย ระหว่างความโชคร้ายของเสี่ยกับผิงเสีย is real อยากให้ลงตอนไหนก่อนคะ


sup-pak
sup-pak
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 39
Points : 3414
Join date : 10/04/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย] Empty Re: [OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Eli-kun Wed 22 Apr 2015, 12:18

เถ้าแก่กับแฟนหนุ่มของเขาหวานกันไม่มีเปลี่ยนเลย
เวลาที่เสี่ยวเกอพยายามทำอะไรเพื่อนายน้อยแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักดีนะคะ อร๊าย

“โรคสูญวิญญาณที่ฉันเป็น ถ้ามันเกิดขึ้น ฉันจะจำเรื่องของนายไม่ได้”

น่าเห็นใจเถ้าแก่เหมือนกันนะ มีแฟนขึ้หลงขี้ลืมเนี่ย ถึงอีกฝ่ายจะลืม แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ สายสัมพันธ์มันก็คงไม่ขาดสะบั้นลงง่ายๆเหมือนกัน เค้าคิดว่างั้นนะ

“ฉันอาจจะมีเวลาว่างไม่เยอะ แต่ฉันอยากใช้เวลาตรงนั้นอยู่กับนายให้คุ้มที่สุด ฉันสัญญาว่าฉันจะกินข้าวกับนาย ตอนเที่ยงฉันจะโดดงานไป ส่วนตอนเย็นก็จะกลับเร็วๆ จะเข้านอนพร้อมกัน ฉันอาจจะตื่นสายแต่อย่างน้อยถ้าฉันตื่นก็อยากเห็นนาย”

ชอบตรงนี้มากๆ น่ารักอบอุ่นเป็นที่สุด โดดงานมากินข้าวเที่ยงอะไรกัน เถ้าแก่นี่มุ้งมิ้งเกินไปแล้ว แบบนี้แฟนหนุ่มทั้งรักทั้งหลงแน่

ชอบฟิคที่ให้ความรู้สึกฟีลกู๊ดแบบนี้จังเลยค่ะ เวลาอ่านอะไรหวานๆแล้วอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้เลย คนสองคนที่พยายามสร้างความทรงจำดีๆด้วยกัน ♥♥♥♥♥

ส่วนคำถามว่าจะลงเรื่องไหนดีระหว่างสองเรื่อง เค้าว่าเอาตามที่นักเขียนสะดวกเลยดีกว่า เพราะไม่ว่าจะลงเรื่องไหนก่อน เค้าก็ตามอ่านทุกเรื่องนะ
Eli-kun
Eli-kun
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 80
Points : 3438
Join date : 04/03/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย] Empty Re: [OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Cathareen Wed 22 Apr 2015, 21:56

อร๊ายยยยย เสี่ยวเกออออออ เป็นการเดทที่น่ารักมากๆ
;w; แต่ประเด็นนี้เป็นกระเด็นที่เศร้าจริงๆค่ะ ซักวันจะต้องมีคนไปก่อน...
ว่าแต่นายเมินไปขอเสี่ยวฮัวยังไง /แอบรู้สึกฮัวเสียนิดๆ--
ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ
ปล.อยากลงเรื่องไหนก่อนแล้วแต่ผู้แต่งเลยค่า
Cathareen
Cathareen
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 149
Points : 3597
Join date : 24/12/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย] Empty Re: [OS] #dmbjdaily (Free) My Time  [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by ด้วงผิงเสีย Fri 10 Feb 2017, 13:37

เสี่ยวฮัวววววววววว....แค่พูดว่าเพื่ออู๋เสีย นายก็ทำทุกอย่างเลยสินะ ช่างเป็นพระรองได้ใจด้วงจริงๆ *-*
ด้วงผิงเสีย
ด้วงผิงเสีย
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 29
Points : 2687
Join date : 18/01/2017
Age : 36

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ