Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [Implied ผิงเสีย]
4 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [Implied ผิงเสีย]
ฟิคสั้นก่อนหน้านี้
Short Fic :
- ที่รัก
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (1)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2)
#dmbjdaily
หัวข้อ Ride : The Bittersweet Moment
หัวข้อ Sexy : The Most Sexiest Person
หัวข้อ แป้ง : Happy Birthday
………………………………..………………………………..
[OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [ผิงเสีย]
By: ซุปผัก
นายอ้วนประหลาดใจมากที่เห็นผม ซึ่งมันไม่แปลกหรอก ก็ผมเล่นโผล่มาหาเขาปาหน่ายโดยไม่บอกก่อน สภาพของเขาตอนนี้ดูผอมลงไปเล็กน้อย ผิวคล้ำกว่าเก่า แต่ที่ผมดีใจคือสีหน้าของเขาดูดีขึ้น ท่าทางอมทุกข์เมื่อตอนที่ผมกลับหังโจวดูน้อยลง
อากุ้ยปล่อยให้พวกเรานั่งคุยกันตรงระเบียง เขานำชาสมุนไพรมาเสิร์ฟแล้วหลบไปอย่างรู้งาน
“นายสบายดีนะ” ผมเริ่มบทสนทนา
นายอ้วนหัวเราะเล็กน้อย “แน่นอน เสี่ยอ้วนแข็งแกร่งจะตาย”
ผมพยักหน้า ยิ้มเล็กน้อย เราทั้งคู่เงียบอีกครั้ง
“ว่ามาสิ” นายอ้วนบอก ผมหันไปมองหน้าเขา เลิกคิ้ว สงสัยว่ารู้ได้ไง “นายไม่มาถึงที่นี่เพื่อจะชมธรรมชาติใช่ไหมล่ะ มีอะไรก็ว่ามาเสี่ยอ้วนยินดีรับฟังอยู่แล้ว”
ผมยิ้ม คนคนนี้รู้ทันผมทุกอย่าง
“ ฉันกลัวว่าเล่าไปจะทำให้นายไม่สบายใจ แต่คิดไปคิดมาฉันก็อยากให้นายรู้” ผมสูดหายใจลึกๆ มองทิวทัศน์รอบด้าน “ อาทิตย์ก่อนฉันไปฉางไป๋ซานมา”
นายอ้วนถามว่าผมไปทำอะไรเมื่อเห็นผมเว้นช่วง
“ ฉัน…ตามเสี่ยวเกอไป” ผมเล่า เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เขามาพบผมที่ร้าน เรื่องที่ผมตามเขาไปถึงฉางไป๋ซาน จนถึงเรื่องที่เขาตัดสินใจเข้าประตูสำริดนั่น
นายอ้วนฟังเสร็จแล้วไม่ได้พูดอะไร ผมเองก็ไม่เร่งรัด สายลมพัดมา ต้นไม้แถวนั้นสั่นเบาๆ
“ ให้ลัญจกรผีไว้อันหนึ่งงั้นเหรอ เสี่ยวเกอทำยังกับหมั้นนายไว้ก่อนเลยนะ ” นายอ้วนพูดในที่สุด ผมหันมาว่าเขาแบบไม่จริงจัง
“ฉันเล่าตั้งนาน นายดันพูดถึงเรื่องนี้เนี่ยนะ”
นายอ้วนยิ้ม “ มันอดไม่ได้นี่หว่า”
ผมหัวเราะเบาๆ “ นายรู้อะไรไหม ฉันตั้งฉายาให้หมอนั่นด้วยนะ ฉันเรียกหมอนั่นว่าเมินโหยวผิง”
นายอ้วนหัวเราะก๊าก “ รือพ่วงตัวถ่วงเหรอ นายใจร้ายกับเสี่ยวเกอมากเลย”
“ ช่วยไม่ได้ ตอนแรกที่เจอฉันคิดว่าเขาเป็นพวกทำตัวน่าเบื่อ ไม่สนใจใคร ลึกลับ ไม่น่าไว้ใจ…” แต่การเดินทางกับเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าความจริงเขาไม่ใช่ตัวถ่วง ตรงข้ามเขาเก่งมาก และเขาก็คอยช่วยเหลือผมกับคนอื่นตลอด ในความจริงอาจเป็นผมเองที่เป็นตัวถ่วง
จะว่าไป…ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ผมเริ่มสนใจเรื่องของเขามากมายขนาดนี้…
จุดเริ่มต้นอาจเป็นตอนที่ผมรู้ว่านายเมินโหยวผิงเกี่ยวข้องกับคณะของอาสาม เพื่อจะสืบหาความจริงผมเลยต้องสนใจเขาด้วย แต่เมื่อผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย หลังได้สงบสติแล้วทบทวนเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมาผมก็พบว่ามันไม่ใช่แค่นั้น
ที่โกลมุด เขา…เมินโหยวผิง…จางฉี่หลิง…บอกผมว่าเขาเป็นคนไม่มีอดีตและไม่มีอนาคต ด้วยนิสัยของผม อย่างที่นายอ้วนหรือใครๆ ก็ชอบเรียกว่าเทียนเจิน ผมจึงได้ปลอบเขาไป ไม่รู้เขาเชื่อแค่ไหน บางทีเขาอาจจะลืมไปแล้วหลังความจำเสื่อมอีกครั้งก็ได้
ถึงเขาลืม แต่ผมไม่ได้ลืม ผมจะช่วยเขา อย่างน้อยก็คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมทำได้…
“ ฉันอยากจะช่วยเขา แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันช่วยได้แค่ไหน”
“ ช่วยได้สิ” นายอ้วนพูด “ ถ้าสิ่งที่เราทำมามันสูญเปล่าแล้วล่ะก็เสี่ยวเกอก็คงจะไม่มาบอกนายหรอกว่าหน้าที่เขาเสร็จสิ้นแล้ว”
ผมยิ้มเศร้าๆ “ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มไม่อยากให้มันสำเร็จเลยว่ะ ” บางทีเมินโหยวผิงอาจจะไม่จากไปถ้าเขายังไม่บรรลุหน้าที่ ถึงเขาจะเร่รอน หายตัวไปคว่ำกรวยหรือตามหาอดีต แต่อย่างน้อยก็ยังได้เจอกัน
“ ไม่มีประโยชน์หรอก” นายอ้วนถอนหายใจ “ถึงเราไม่ช่วยเขา เสี่ยวเกอก็วิธีตามหาในแบบเขา จะช้าหรือเร็วสักวันเขาก็ต้องรู้”
ก็จริงแต่ผมก็ยังอดเศร้าไม่ได้
“แต่ว่านะ…สำหรับเสี่ยอ้วน สิ่งที่สำคัญที่สุดในการช่วยเสี่ยวเกอไม่ใช่เรื่องที่เราช่วยเขาทำภารกิจสำเร็จหรือตามหาความทรงจำได้หรอก”
“สมบัติเหรอ”
นายอ้วนหันมาค้อนผม “ บรรยากาศกำลังซึ้งๆ นายทำพังหมดเลยนะ ถึงเสี่ยอ้วนจะชอบสมบัติแต่จากการคว่ำกรวยที่ผ่านมาเสี่ยอ้วนได้รับสิ่งที่สำคัญกว่านั้นอีก”
ผมถามว่าคืออะไร
“ มิตรภาพไง”
ผมนิ่งอึ้ง
“มองแบบนั้นไม่คิดว่าคนอย่างฉันจะพูดอะไรแบบนี้ล่ะสิ แต่ฉันพูดจริงนะ สมบัติก็ส่วนสมบัติ แต่การได้เจอนายกับเสี่ยวเกอเป็นอะไรที่ดีกว่านั้นมาก หลังจากหยุนไฉ่ตาย เสี่ยอ้วนก็ไม่คิดจะไปจากที่นี่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของพวกนายแล้วเสี่ยอ้วนจะไป ไม่ว่าจะคว่ำกรวยเจอศพโลหิตเป็นร้อย เจอผีแม่ย่า เจอมี่ลั่วถัวหรืออะไรก็แล้วแต่ ต่อให้ต้องตายฉันก็จะไปช่วยพวกนาย ฉันอาจจะไม่เก่งกาจเทพมากแต่อย่างน้อยฉันก็จะไม่เสียใจที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับพวกนาย”
“…”
“ ฉันคิดว่าเสี่ยวเกอเองก็คิดแบบเดียวกัน เขาถึงได้คิดสละชีวิตช่วยเหลือพวกเรานับครั้งไม่ถ้วน”
“ทั้งนายและเขาเป็นคนดีจริงๆ ” ผมว่า ขอบตารู้สึกแสบจากการพยายามกลั้นน้ำตาไว้
“ เฮ้ออออ พวกฉันไม่ใช่คนดีหรอกนะ ถ้าใช่คงไม่ลงกรวย ขุดสุสานผู้อื่น แล้วก็คงไม่ปล่อยให้คนอื่นต้องตายด้วย” ผมปลอบเขาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหอสกุลจางเป็นเหตุจำเป็น นายอ้วนพูดต่อว่า “ ฉันเข้าใจ แต่ที่ฉันต้องการจะสื่อก็คือทั้งฉันและเสี่ยวเกอต่างก็ทำเพื่อคนสำคัญเท่านั้นเอง นายเข้าใจไหมว่าทำไมเสี่ยวเกอถึงเข้าประตูบ้านั่นไป ฉันคิดว่าเขาไม่ได้ทำตามหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น”
นายอ้วนหันมามองหน้าผม
“ เขาทำเพื่อนาย เหล่าอู๋”
แล้วยังยืนยันต่อ
“ เราไม่ได้คบกันนานมากขนาดที่เสี่ยอ้วนพูดได้เต็มปากว่ารู้ใจแต่ก็คิดว่ามองไม่ผิด หากนายขอร้องให้เขาอยู่ที่นี่ ต่อให้เป็นภารกิจฉันว่าเขาก็ยอมอยู่ แต่ที่เขาไม่ฟังและต้องไปเพราะเขารู้ว่าถ้าไม่ไป นายจะต้องเป็นคนไป”
ผมพลันรู้สึกกระจ่างชัดในความรู้สึก
…นายเป็นสิ่งเชื่อมโยงโลกใบนี้ของฉัน…
คนอย่างเมินโหยวผิง เมื่อเขาทำภารกิจเสร็จเรียบร้อยเขาก็ไม่มีเป้าหมายใดในชีวิตอีก จะฆ่าตัวตายหรือไปไหนก็ได้ แต่ทำไมเขาต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าผม ทำไมต้องมาลา แล้วตอนที่อยู่บนภูเขาหิมะเขาก็อุตส่าห์กลับมาช่วยอีก เขายอมสละเวลาสิบปีไปอยู่ข้างในประตูนั่น
…เพื่อผม
และพอมองย้อนกลับมา การที่ผมลำบากไล่ตามเขาไปถึงฉางไป๋ซาน พยายามเกลี้ยกล่อมทุกวิธีทาง และที่แน่ชัดที่สุด…ความรู้สึกสิ้นหวังและความรู้สึกเศร้า ตอนแรกผมคิดว่าเพราะผมรู้สึกเหมือนพลาด เหมือนล้มเหลวในการรั้งให้เขาอยู่ต่อ แต่ความจริงผมเศร้าที่จะไม่ได้เจอเขาต่างหาก สิบปี…สิบปีที่ผมจะไม่เห็นเขา ไม่ได้เจอเขา
…เพราะเขา
“ตัวเสี่ยอ้วน สำหรับพวกนายแล้วก็คือมิตรภาพ แล้วพวกนายล่ะมองกันว่ายังไง…เป็นยิ่งกว่านั้นใช่ไหม” นายอ้วนยกถ้วยชาขึ้นจิบ “ ฉันจะแปลกใจมากถ้าพวกนายยังไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองอีก อย่าให้เสี่ยอ้วนต้องเหนื่อยอธิบายเลยนะเทียนเจิน”
ผมเองก็ไม่ต้องการให้เขาอธิบาย ผมยกมือขึ้นปิดปาก กลั้นเสียงสะอื้นในลำคอ
เหตุผลที่ทำให้คนคนหนึ่งเสียสละขนาดนี้ กับอีกคนที่ต้องตามตื๊อขนาดนั้น
มันยังมีเหตุผลอื่นอีกเหรอ…
ผมชอบเขา!
ผมชอบเมินโหยวผิง…จางฉี่หลิง…คนใบ้จาง…จะชื่ออะไรก็ช่าง!
ในเวลานี้ผมถึงเข้าใจความรู้สึกของนายอ้วนที่สูญเสียหยุนไฉ่ไป แต่เขาก็ปลอบผมด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ว่า อย่างน้อยเสี่ยวเกอก็ยังสามารถกลับมาได้
“ สิบปีนี่จะว่าไม่นานก็ไม่นาน จะว่านานก็นานเนอะ” ผมพึมพำออกมาหลังจากหยุดร้องไห้แล้ว
นายอ้วนมองธรรมชาติแสนสวยเบื้องหน้า
“ เมื่อผ่านสิบปีไปได้นายจะพบว่ามันไม่นานเลยกับการรอคอยใครสักคน ระหว่างนี้นายก็ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนนาย และครั้งหน้าที่นายจะไปฉางไป๋ซานอย่าลืมบอกเสี่ยอ้วนล่ะ เสี่ยอ้วนจะรีบไปต้อนรับการกลับมาของเสี่ยวเกอ แล้วจะว่าเขาสักหน่อยที่ไปไม่ลาเลย ทำแบบนี้ได้ยังไง”
ผมหัวเราะ มองท่าทางฮึดฮัดของนายอ้วน
“ ถ้านายเหงาก็มาหาฉันที่หังโจวได้นะ ฉันจะพาไปกินหมูตงพออีก”
“ ครั้งที่แล้วฉันไม่ทันกินก็โดนนายลากออกไปแล้วเซ็งชิบ”
“ถ้านายสัญญาว่าจะไปเยี่ยมฉันฉันก็สัญญาว่าจะไม่ลากนายออกมาก่อนที่นายจะฟาดอาหารหมดครึ่งภัตตาคาร”
นายอ้วนหัวเราะพลางส่ายหน้า “ ขอเวลาฉันหน่อย”
“ ไม่เป็นไร ฉันรอได้” ผมรอได้อยู่แล้ว ทั้งนายอ้วน ทั้งเมินโหยวผิงนั่นแหละ ผมจะรอ
…………………………..
Talk : ตอนนี้แอบเหนื่อยกับการเค้นอารมณ์ TT __ TT ถ้ารู้สึกเนื้อหาวนไปวนมาก็ขออภัยนะคะ ไม่รู้จะเขียนบรรยายยังไงให้ตรงที่สุด ฮือออออ
จริงๆ ตอนนี้เป็นช่วงหลังเล่มสิบ ก่อนจะครบสิบปี มันเป็นเรื่องราวก่อนตอนแป้ง แต่เผอิญตรงกับเดลี่เลยลงให้ก่อน ถ้าใครอ่านตอนนี้แล้วอยากรู้สึกดีขึ้นให้ย้อนกลับไปอ่านตอนแป้งเลยค่ะ (คิดว่า) จะดีขึ้นนะ
อย่างที่คุณหนานไพ่ว่าในท้ายเล่มสิบนั่นแหละ นายน้อยเป็นเทียนเจิน อ่อนต่อโลก ดีต่อทุกคน เสี่ยวเกอที่ไม่ค่อยสนใจใครก็เสี่ยงชีวิตเพื่อสองคนนี้ และนายอ้วนที่แม้จะดูเหมือนเห็นแก่ตัวแต่จริงๆ คือคนที่เข้าใจทั้งคู่และคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด
ความจริงเราว่านายอ้วนนี่น่าสงสารมากเลยนะคะ//ซบพุงเสี่ยอ้วน ไม่เป็นไรนะ ได้แต่หวังในใจว่าภาคสองจะไม่ดราม่าเกินไป อะไรก็ได้แต่อย่าทำร้ายสามเหลี่ยมนี้เลยยยยยยยย
เฮ้อออออออออออออ กลับไปแต่งนิยายที่ค้างต่อดีกว่า เดี๋ยวโดนกัดหัว 5555
Short Fic :
- ที่รัก
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (1)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2)
#dmbjdaily
หัวข้อ Ride : The Bittersweet Moment
หัวข้อ Sexy : The Most Sexiest Person
หัวข้อ แป้ง : Happy Birthday
………………………………..………………………………..
[OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [ผิงเสีย]
By: ซุปผัก
นายอ้วนประหลาดใจมากที่เห็นผม ซึ่งมันไม่แปลกหรอก ก็ผมเล่นโผล่มาหาเขาปาหน่ายโดยไม่บอกก่อน สภาพของเขาตอนนี้ดูผอมลงไปเล็กน้อย ผิวคล้ำกว่าเก่า แต่ที่ผมดีใจคือสีหน้าของเขาดูดีขึ้น ท่าทางอมทุกข์เมื่อตอนที่ผมกลับหังโจวดูน้อยลง
อากุ้ยปล่อยให้พวกเรานั่งคุยกันตรงระเบียง เขานำชาสมุนไพรมาเสิร์ฟแล้วหลบไปอย่างรู้งาน
“นายสบายดีนะ” ผมเริ่มบทสนทนา
นายอ้วนหัวเราะเล็กน้อย “แน่นอน เสี่ยอ้วนแข็งแกร่งจะตาย”
ผมพยักหน้า ยิ้มเล็กน้อย เราทั้งคู่เงียบอีกครั้ง
“ว่ามาสิ” นายอ้วนบอก ผมหันไปมองหน้าเขา เลิกคิ้ว สงสัยว่ารู้ได้ไง “นายไม่มาถึงที่นี่เพื่อจะชมธรรมชาติใช่ไหมล่ะ มีอะไรก็ว่ามาเสี่ยอ้วนยินดีรับฟังอยู่แล้ว”
ผมยิ้ม คนคนนี้รู้ทันผมทุกอย่าง
“ ฉันกลัวว่าเล่าไปจะทำให้นายไม่สบายใจ แต่คิดไปคิดมาฉันก็อยากให้นายรู้” ผมสูดหายใจลึกๆ มองทิวทัศน์รอบด้าน “ อาทิตย์ก่อนฉันไปฉางไป๋ซานมา”
นายอ้วนถามว่าผมไปทำอะไรเมื่อเห็นผมเว้นช่วง
“ ฉัน…ตามเสี่ยวเกอไป” ผมเล่า เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เขามาพบผมที่ร้าน เรื่องที่ผมตามเขาไปถึงฉางไป๋ซาน จนถึงเรื่องที่เขาตัดสินใจเข้าประตูสำริดนั่น
นายอ้วนฟังเสร็จแล้วไม่ได้พูดอะไร ผมเองก็ไม่เร่งรัด สายลมพัดมา ต้นไม้แถวนั้นสั่นเบาๆ
“ ให้ลัญจกรผีไว้อันหนึ่งงั้นเหรอ เสี่ยวเกอทำยังกับหมั้นนายไว้ก่อนเลยนะ ” นายอ้วนพูดในที่สุด ผมหันมาว่าเขาแบบไม่จริงจัง
“ฉันเล่าตั้งนาน นายดันพูดถึงเรื่องนี้เนี่ยนะ”
นายอ้วนยิ้ม “ มันอดไม่ได้นี่หว่า”
ผมหัวเราะเบาๆ “ นายรู้อะไรไหม ฉันตั้งฉายาให้หมอนั่นด้วยนะ ฉันเรียกหมอนั่นว่าเมินโหยวผิง”
นายอ้วนหัวเราะก๊าก “ รือพ่วงตัวถ่วงเหรอ นายใจร้ายกับเสี่ยวเกอมากเลย”
“ ช่วยไม่ได้ ตอนแรกที่เจอฉันคิดว่าเขาเป็นพวกทำตัวน่าเบื่อ ไม่สนใจใคร ลึกลับ ไม่น่าไว้ใจ…” แต่การเดินทางกับเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าความจริงเขาไม่ใช่ตัวถ่วง ตรงข้ามเขาเก่งมาก และเขาก็คอยช่วยเหลือผมกับคนอื่นตลอด ในความจริงอาจเป็นผมเองที่เป็นตัวถ่วง
จะว่าไป…ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ผมเริ่มสนใจเรื่องของเขามากมายขนาดนี้…
จุดเริ่มต้นอาจเป็นตอนที่ผมรู้ว่านายเมินโหยวผิงเกี่ยวข้องกับคณะของอาสาม เพื่อจะสืบหาความจริงผมเลยต้องสนใจเขาด้วย แต่เมื่อผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย หลังได้สงบสติแล้วทบทวนเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมาผมก็พบว่ามันไม่ใช่แค่นั้น
ที่โกลมุด เขา…เมินโหยวผิง…จางฉี่หลิง…บอกผมว่าเขาเป็นคนไม่มีอดีตและไม่มีอนาคต ด้วยนิสัยของผม อย่างที่นายอ้วนหรือใครๆ ก็ชอบเรียกว่าเทียนเจิน ผมจึงได้ปลอบเขาไป ไม่รู้เขาเชื่อแค่ไหน บางทีเขาอาจจะลืมไปแล้วหลังความจำเสื่อมอีกครั้งก็ได้
ถึงเขาลืม แต่ผมไม่ได้ลืม ผมจะช่วยเขา อย่างน้อยก็คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมทำได้…
“ ฉันอยากจะช่วยเขา แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันช่วยได้แค่ไหน”
“ ช่วยได้สิ” นายอ้วนพูด “ ถ้าสิ่งที่เราทำมามันสูญเปล่าแล้วล่ะก็เสี่ยวเกอก็คงจะไม่มาบอกนายหรอกว่าหน้าที่เขาเสร็จสิ้นแล้ว”
ผมยิ้มเศร้าๆ “ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มไม่อยากให้มันสำเร็จเลยว่ะ ” บางทีเมินโหยวผิงอาจจะไม่จากไปถ้าเขายังไม่บรรลุหน้าที่ ถึงเขาจะเร่รอน หายตัวไปคว่ำกรวยหรือตามหาอดีต แต่อย่างน้อยก็ยังได้เจอกัน
“ ไม่มีประโยชน์หรอก” นายอ้วนถอนหายใจ “ถึงเราไม่ช่วยเขา เสี่ยวเกอก็วิธีตามหาในแบบเขา จะช้าหรือเร็วสักวันเขาก็ต้องรู้”
ก็จริงแต่ผมก็ยังอดเศร้าไม่ได้
“แต่ว่านะ…สำหรับเสี่ยอ้วน สิ่งที่สำคัญที่สุดในการช่วยเสี่ยวเกอไม่ใช่เรื่องที่เราช่วยเขาทำภารกิจสำเร็จหรือตามหาความทรงจำได้หรอก”
“สมบัติเหรอ”
นายอ้วนหันมาค้อนผม “ บรรยากาศกำลังซึ้งๆ นายทำพังหมดเลยนะ ถึงเสี่ยอ้วนจะชอบสมบัติแต่จากการคว่ำกรวยที่ผ่านมาเสี่ยอ้วนได้รับสิ่งที่สำคัญกว่านั้นอีก”
ผมถามว่าคืออะไร
“ มิตรภาพไง”
ผมนิ่งอึ้ง
“มองแบบนั้นไม่คิดว่าคนอย่างฉันจะพูดอะไรแบบนี้ล่ะสิ แต่ฉันพูดจริงนะ สมบัติก็ส่วนสมบัติ แต่การได้เจอนายกับเสี่ยวเกอเป็นอะไรที่ดีกว่านั้นมาก หลังจากหยุนไฉ่ตาย เสี่ยอ้วนก็ไม่คิดจะไปจากที่นี่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของพวกนายแล้วเสี่ยอ้วนจะไป ไม่ว่าจะคว่ำกรวยเจอศพโลหิตเป็นร้อย เจอผีแม่ย่า เจอมี่ลั่วถัวหรืออะไรก็แล้วแต่ ต่อให้ต้องตายฉันก็จะไปช่วยพวกนาย ฉันอาจจะไม่เก่งกาจเทพมากแต่อย่างน้อยฉันก็จะไม่เสียใจที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับพวกนาย”
“…”
“ ฉันคิดว่าเสี่ยวเกอเองก็คิดแบบเดียวกัน เขาถึงได้คิดสละชีวิตช่วยเหลือพวกเรานับครั้งไม่ถ้วน”
“ทั้งนายและเขาเป็นคนดีจริงๆ ” ผมว่า ขอบตารู้สึกแสบจากการพยายามกลั้นน้ำตาไว้
“ เฮ้ออออ พวกฉันไม่ใช่คนดีหรอกนะ ถ้าใช่คงไม่ลงกรวย ขุดสุสานผู้อื่น แล้วก็คงไม่ปล่อยให้คนอื่นต้องตายด้วย” ผมปลอบเขาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหอสกุลจางเป็นเหตุจำเป็น นายอ้วนพูดต่อว่า “ ฉันเข้าใจ แต่ที่ฉันต้องการจะสื่อก็คือทั้งฉันและเสี่ยวเกอต่างก็ทำเพื่อคนสำคัญเท่านั้นเอง นายเข้าใจไหมว่าทำไมเสี่ยวเกอถึงเข้าประตูบ้านั่นไป ฉันคิดว่าเขาไม่ได้ทำตามหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น”
นายอ้วนหันมามองหน้าผม
“ เขาทำเพื่อนาย เหล่าอู๋”
แล้วยังยืนยันต่อ
“ เราไม่ได้คบกันนานมากขนาดที่เสี่ยอ้วนพูดได้เต็มปากว่ารู้ใจแต่ก็คิดว่ามองไม่ผิด หากนายขอร้องให้เขาอยู่ที่นี่ ต่อให้เป็นภารกิจฉันว่าเขาก็ยอมอยู่ แต่ที่เขาไม่ฟังและต้องไปเพราะเขารู้ว่าถ้าไม่ไป นายจะต้องเป็นคนไป”
ผมพลันรู้สึกกระจ่างชัดในความรู้สึก
…นายเป็นสิ่งเชื่อมโยงโลกใบนี้ของฉัน…
คนอย่างเมินโหยวผิง เมื่อเขาทำภารกิจเสร็จเรียบร้อยเขาก็ไม่มีเป้าหมายใดในชีวิตอีก จะฆ่าตัวตายหรือไปไหนก็ได้ แต่ทำไมเขาต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าผม ทำไมต้องมาลา แล้วตอนที่อยู่บนภูเขาหิมะเขาก็อุตส่าห์กลับมาช่วยอีก เขายอมสละเวลาสิบปีไปอยู่ข้างในประตูนั่น
…เพื่อผม
และพอมองย้อนกลับมา การที่ผมลำบากไล่ตามเขาไปถึงฉางไป๋ซาน พยายามเกลี้ยกล่อมทุกวิธีทาง และที่แน่ชัดที่สุด…ความรู้สึกสิ้นหวังและความรู้สึกเศร้า ตอนแรกผมคิดว่าเพราะผมรู้สึกเหมือนพลาด เหมือนล้มเหลวในการรั้งให้เขาอยู่ต่อ แต่ความจริงผมเศร้าที่จะไม่ได้เจอเขาต่างหาก สิบปี…สิบปีที่ผมจะไม่เห็นเขา ไม่ได้เจอเขา
…เพราะเขา
“ตัวเสี่ยอ้วน สำหรับพวกนายแล้วก็คือมิตรภาพ แล้วพวกนายล่ะมองกันว่ายังไง…เป็นยิ่งกว่านั้นใช่ไหม” นายอ้วนยกถ้วยชาขึ้นจิบ “ ฉันจะแปลกใจมากถ้าพวกนายยังไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองอีก อย่าให้เสี่ยอ้วนต้องเหนื่อยอธิบายเลยนะเทียนเจิน”
ผมเองก็ไม่ต้องการให้เขาอธิบาย ผมยกมือขึ้นปิดปาก กลั้นเสียงสะอื้นในลำคอ
เหตุผลที่ทำให้คนคนหนึ่งเสียสละขนาดนี้ กับอีกคนที่ต้องตามตื๊อขนาดนั้น
มันยังมีเหตุผลอื่นอีกเหรอ…
ผมชอบเขา!
ผมชอบเมินโหยวผิง…จางฉี่หลิง…คนใบ้จาง…จะชื่ออะไรก็ช่าง!
ในเวลานี้ผมถึงเข้าใจความรู้สึกของนายอ้วนที่สูญเสียหยุนไฉ่ไป แต่เขาก็ปลอบผมด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ว่า อย่างน้อยเสี่ยวเกอก็ยังสามารถกลับมาได้
“ สิบปีนี่จะว่าไม่นานก็ไม่นาน จะว่านานก็นานเนอะ” ผมพึมพำออกมาหลังจากหยุดร้องไห้แล้ว
นายอ้วนมองธรรมชาติแสนสวยเบื้องหน้า
“ เมื่อผ่านสิบปีไปได้นายจะพบว่ามันไม่นานเลยกับการรอคอยใครสักคน ระหว่างนี้นายก็ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนนาย และครั้งหน้าที่นายจะไปฉางไป๋ซานอย่าลืมบอกเสี่ยอ้วนล่ะ เสี่ยอ้วนจะรีบไปต้อนรับการกลับมาของเสี่ยวเกอ แล้วจะว่าเขาสักหน่อยที่ไปไม่ลาเลย ทำแบบนี้ได้ยังไง”
ผมหัวเราะ มองท่าทางฮึดฮัดของนายอ้วน
“ ถ้านายเหงาก็มาหาฉันที่หังโจวได้นะ ฉันจะพาไปกินหมูตงพออีก”
“ ครั้งที่แล้วฉันไม่ทันกินก็โดนนายลากออกไปแล้วเซ็งชิบ”
“ถ้านายสัญญาว่าจะไปเยี่ยมฉันฉันก็สัญญาว่าจะไม่ลากนายออกมาก่อนที่นายจะฟาดอาหารหมดครึ่งภัตตาคาร”
นายอ้วนหัวเราะพลางส่ายหน้า “ ขอเวลาฉันหน่อย”
“ ไม่เป็นไร ฉันรอได้” ผมรอได้อยู่แล้ว ทั้งนายอ้วน ทั้งเมินโหยวผิงนั่นแหละ ผมจะรอ
…………………………..
Talk : ตอนนี้แอบเหนื่อยกับการเค้นอารมณ์ TT __ TT ถ้ารู้สึกเนื้อหาวนไปวนมาก็ขออภัยนะคะ ไม่รู้จะเขียนบรรยายยังไงให้ตรงที่สุด ฮือออออ
จริงๆ ตอนนี้เป็นช่วงหลังเล่มสิบ ก่อนจะครบสิบปี มันเป็นเรื่องราวก่อนตอนแป้ง แต่เผอิญตรงกับเดลี่เลยลงให้ก่อน ถ้าใครอ่านตอนนี้แล้วอยากรู้สึกดีขึ้นให้ย้อนกลับไปอ่านตอนแป้งเลยค่ะ (คิดว่า) จะดีขึ้นนะ
อย่างที่คุณหนานไพ่ว่าในท้ายเล่มสิบนั่นแหละ นายน้อยเป็นเทียนเจิน อ่อนต่อโลก ดีต่อทุกคน เสี่ยวเกอที่ไม่ค่อยสนใจใครก็เสี่ยงชีวิตเพื่อสองคนนี้ และนายอ้วนที่แม้จะดูเหมือนเห็นแก่ตัวแต่จริงๆ คือคนที่เข้าใจทั้งคู่และคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด
ความจริงเราว่านายอ้วนนี่น่าสงสารมากเลยนะคะ//ซบพุงเสี่ยอ้วน ไม่เป็นไรนะ ได้แต่หวังในใจว่าภาคสองจะไม่ดราม่าเกินไป อะไรก็ได้แต่อย่าทำร้ายสามเหลี่ยมนี้เลยยยยยยยย
เฮ้อออออออออออออ กลับไปแต่งนิยายที่ค้างต่อดีกว่า เดี๋ยวโดนกัดหัว 5555
sup-pak- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 39
Points : 3413
Join date : 10/04/2015
Re: [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [Implied ผิงเสีย]
ฉันอาจจะไม่เก่งกาจเทพมากแต่อย่างน้อยฉันก็จะไม่เสียใจที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับพวกนาย”
ตรงนี้อ่านแลวงงๆ เล็กน้อยค่ะ เหมือนมีคำว่าไม่เกินมาจุดใดจุดหนึ่งหรือเปล่าคะ
กับอีกอันตรงเหล่าอู๋ อันนั้นเหลาหย่างเรียกหรือเปล่าคะแง รู้สึกเหมือนเสี่ยอ้วนจะเรียกเสี่ยวอู๋ กับเทียนเจินนะคะ
ผมชอบเขา!
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ นายน้อยขรา
แง โมเอะมากค่ะ ชอบที่พอรู้ใจตัวเองก็ทำท่าจะร้องไห้ด้วย แงงงงงง
งานนี้ขอยกเครดิตให้เสี่ยอ้วนคนขี้ชง! /ตีพุงเสี่ยรัวๆ ด้วยความเขิน
Malangporyim- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 290
Points : 3781
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทุ่งด้วงโฮโม
Re: [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [Implied ผิงเสีย]
รักความเป็นสามเหลี่ยมเหล็ก ฮรือออออ
คนทียังอยู่ก็ประคองกันไป...เพื่อรอวันที่คนจากไปจะหวนคืน
...ว่าแต่เสี่ยอ้วนนี่ชิปเปอร์ตัวหลักของแฟนดอมนี้ใช่ไหม ชงซะ...
คนทียังอยู่ก็ประคองกันไป...เพื่อรอวันที่คนจากไปจะหวนคืน
...ว่าแต่เสี่ยอ้วนนี่ชิปเปอร์ตัวหลักของแฟนดอมนี้ใช่ไหม ชงซะ...
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3635
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3) [Implied ผิงเสีย]
กว่านายน้อยจะรู้ตัวนะ อีกแค่สิบปีเอง
nightsza- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 51
Points : 3281
Join date : 28/06/2015
Similar topics
» [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2) [Implied ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (น้ำ) สาเหตุที่ผิงเสีย is real [Implied ผิงเสีย]
» [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (5) [ผิงเสีย]
» [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (6) [ผิงเสีย]
» [Drabble] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (4) [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (น้ำ) สาเหตุที่ผิงเสีย is real [Implied ผิงเสีย]
» [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (5) [ผิงเสีย]
» [OS] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (6) [ผิงเสีย]
» [Drabble] สาเหตุที่ผิงเสีย is real (4) [ผิงเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth