Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
+4
Mayao
Cathareen
schneewittchen
sup-pak
8 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
ฟิคสั้นก่อนหน้านี้
Short Fic :
- ที่รัก
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (1)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (4)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (5)
- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง (1)
- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง (2)
#dmbjdaily
หัวข้อ Ride : The Bittersweet Moment
หัวข้อ Sexy : The Most Sexiest Person
หัวข้อ แป้ง : Happy Birthday
หัวข้อ Help : สิ่งที่อยากให้ช่วย
หัวข้อ Free : My Time
หัวข้อ Tissue : Can you remember me?
หัวข้อ Pink : Story About Pink
หัวข้อ Pink : Story About Pink (Again)
หัวข้อ Blue : Blue Hood
หัวข้อ Blue : When I'm Feeling Blue
[OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
By: ซุปผัก
[ ความจริงมันเป็นเรื่องต่อกันแต่ถ้าใครชอบคู่ไหนก็สามารถอ่านเฉพาะช่วงคู่นั้นได้นะคะ จะตัดช่วงเอาไว้ให้ โดยคู่จะเรียงตามลำดับด้านบนเลยค่ะ]
[ฮัวเสีย]
“ อะไรคือด้ายแดงแห่งโชคชะตา”
ตอนนั้นผมอายุกี่ขวบไม่แน่ใจ แต่คงจะไม่โตเท่าไร ผมได้ยินอาสามพูดเรื่องด้ายแดงแห่งโชคชะตากับน้าเหวินจิ่นจึงได้ลองถามดู
“ อะไร ตัวกระเปี๊ยกแค่นี้คิดถามเรื่องของผู้ใหญ่” อาสามหัวเราะ แต่ผมรู้จากท่าทางว่าเขาต้องบอกผมแน่ “ ด้ายแดงแห่งโชคชะตาก็คือด้ายที่ตาเฒ่าพ่อสื่อผูกไว้ให้ฉันกับว่าที่อาสะใภ้แกไงล่ะ”
ที่ไหนได้…พึ่งไม่ได้เลย
ผมเลยเปลี่ยนไปถามอารองแทน
“ ด้ายแดงแห่งโชคชะตาเป็นความเชื่อของชาวจีนเรา เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยราชวงศ์ถัง บัณฑิตนามว่าเหวยกู่ได้พบกับชายแก่ผู้หนึ่งโดยไม่รู้ว่าแท้จริงชายแก่นี่คือเฒ่าจันทราผู้ซึ่งมีหน้าที่นำด้ายแดงมาผูกที่นิ้วของชายหญิงที่เป็นคู่กัน เมื่อผูกกันแล้วต่อให้เจออุปสรรคขวากหนามมากมายขนาดไหนก็จะได้เจอและอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าเฒ่าจันทราเห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะใช้กรรไกรตัดวาสนาตัดด้ายทิ้ง จากนั้นเหวยกู่ก็ถามเฒ่าจันทราเรื่องเนื้อคู่ของตน ผู้เฒ่าชี้ให้ดูเด็กลูกแม่ค้าหน้าตามอมแมมคนหนึ่งบอกว่าเด็กนี่แหละ บัณฑิตรับไม่ได้จึงสั่งให้คนมาฆ่าเด็กนั่นทิ้ง หลายปีผ่านไปเหวยกู่สอบได้เป็นจอหงวน และได้แต่งงานกับลูกสาวเจ้าเมือง ครองคู่กันมานานวันหนึ่งเขาก็สังเกตเห็นหน้าผากของภรรยามีรอยแผลเลยถาม ภรรยาเล่าว่าสมัยนางเด็กมีคนเข้ามาทำร้าย นางยังบอกอีกว่าจริงๆ นางเป็นลูกแม่ค้า เมื่อถูกทำร้ายเจ้าเมืองมาเห็นบังเกิดความสงสารจึงรับมาเลี้ยง เหวยกู่รับรู้ได้ว่านางต้องเป็นเด็กคนนั้นจึงได้ขอขมานางและแม่ของนาง จากนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข”
อารองอธิบายอย่างละเอียดราวกับกำลังเปิดหนังสืออ่านให้ฟัง ความจริงเขากำลังให้อาหารไก่ นี่แหละอารองผม
ผมฟังจบก็ยกมือขึ้นมาดู พลิกทั้งสองข้างแต่ไม่เห็นด้ายที่ว่านั่นเลย หรือว่าเฒ่าจันทราจะตัดด้ายของผมทิ้งไปแล้ว
“ ด้ายนั่นล่องหน มีเพียงผู้ผูกที่เห็น ไม่งั้นก็วุ่นวายกันแย่” อารู้ทัน
“แปลว่าผมก็ต้องมีด้ายนั่นเหมือนกันใช่ไหม” ตอนนั้นผมยังเด็กอาคงไม่อยากทำร้ายความรู้สึกกับจินตนาการของผมจึงยิ้มแล้วตอบว่าใช่
“ แต่แบบนี้ก็น่าสงสารอาเหวินจิ่นน่ะสิ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็อาสามบอกว่าว่ามีด้ายผูกกับอาเหวินจิ่น”
อารองผมหลุดขำ ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีเลยหัวเราะบ้าง ไม่รู้เลยว่าอาอีกคนมายืนอยู่ด้านหลัง อาสามร้ายกาจมาก เขาไม่ลงโทษผมตรงนั้นแต่รอให้คนอื่นในบ้านหลับแล้วจึงแกล้งทำเสียงน่ากลัวหลอกให้ผมตกใจนึกว่าเป็นผี (แต่ผมก็ไปฟ้องพ่อกับอารองตอนหลัง)
วันต่อมาผมไปเล่นกับเสี่ยวฮัว ผมเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง แปลกใจที่เธอรู้เรื่องนี้แล้ว
“ ปู่รองเคยเล่าให้ฟังน่ะ” เสี่ยวฮัวบอก
“ แล้วเสี่ยวฮัวเชื่อไหม” ผมถาม
เสี่ยวฮัวส่ายหน้า “ มันเป็นแค่นิทาน”
“นิทานบางเรื่องก็มาจากเรื่องนะ” ผมว่า
“ อาเฮียคิดว่าเรื่องนี้ก็จริงเหรอ”
ผมพยักหน้าเร็วๆ
“ แล้วคิดว่าด้ายแดงผูกกับใครล่ะ” เสี่ยวฮัวทำท่าอยากรู้อยากเห็น แต่ผมจะรู้ได้ยังไงในเมื่อด้ายมันล่องหนอยู่ “ ก็เดาสิ”
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเดาว่าใครอยู่ดี เด็กผู้หญิงที่รู้จักก็มีไม่กี่คน เพื่อนในชั้นเรียน ซิ่วซิ่ว แล้วก็เสี่ยวฮัว
“ บางทีอาจจะเป็นเธอล่ะมั้ง” ผมเดา
“ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงน่ากลัวน่าดู” เธอหัวเราะ ผมไม่เข้าใจ บางทีเสี่ยวฮัวก็ดูจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินที่ผมจะเข้าใจ
“ทำไมล่ะ”
เธอนิ่งคิดพักหนึ่ง ก่อนจะตอบผม “ อืมมมม ถ้าใช่มันจะต้องวุ่นวายน่าดู แล้วอุปสรรคก็ต้องเยอะแน่ๆ ”
ผมหัวเราะ “ อารองบอกว่าถ้าเรามีด้ายแดงผูกกันจริงต่อให้เจออุปสรรคอะไรก็จะต้องได้คู่กันแน่”
แต่เสี่ยวฮัวเธอบอกว่าไม่เชื่อเรื่องนี้ ถ้าอยากให้เชื่อก็แสดงด้ายแดงให้เห็นหน่อย
ผมนั่งคิด แล้วก็เกิดความคิดดีๆ ผมลุกขึ้น ขอให้เธอรอตรงนี้ วิ่งกลับไปที่บ้าน ถ้าผมจำไม่ผิดแม่ผมจะมีโบสีแดงเก็บในลิ้นชัก ผมค้นจนเจอ รีบคว้ามันแล้วกลับไปหาเสี่ยวฮัว ผูกโบนั่นกับนิ้วก้อยเล็กๆ ของตัวเองแล้วก็ของเธอ
“ แต่นี่เป็นโบไม่ใช่เหรอ” เสี่ยวฮัวหัวเราะ
ผมทำปากยื่นนิดๆ “ ใช่ ตอนนี้ฉันยังหาวิธีทำให้มองเห็นด้ายแดงนั่นไม่ได้แต่ถ้าวันไหนฉันหาเจอ ฉันจะทำให้เธอเห็น แล้วทีนี้เธอก็จะเชื่อ”
“ ได้ ถ้าเห็นฉันจะเชื่อ” เธอยิ้ม “ ฉันจะรอนะ”
ผมยิ้มกลับ
[หยางเสีย]
ผมชวนเหลาหย่างให้มานั่งดื่มด้วยกัน ตอนนี้อยากจะหาใครสักคนมาฟังเรื่องของผม มันบัดซบสิ้นดี ปกติงานก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว งานล่าสุดยังจะโดนเชิดอีก คอยดูผมจะยืมลูกน้องอาสามไปตามล่ามัน
“ เออน่า เดี๋ยวก็เจอตัว” เหลาหย่างปลอบผม จากนั้นก็ชวนคุยเรื่องอื่น “ เหล่าอู๋นายเชื่อเรื่องด้ายแดงไหม”
ผมเลิกคิ้ว
“ไม่ค่อย ทำไม”
เหลาหย่างทำหน้าเหมือนผิดหวัง “ ทำไมไม่เชื่อล่ะนายน่าจะคุ้นกับเรื่องพวกนี้ดีกว่าฉันไม่ใช่เหรอ”
หมอนี่คงหมายถึงเรื่องที่ตระกูลผมเป็นพวกขุดสุสานน่าจะเจอผีดิบเจออะไรเยอะ เรื่องแบบนี้ก็น่าจะเชื่อ แต่ผมไม่เคยลงกรวยจริงๆ เคยได้แต่ฟังอาสามเล่าก็เลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ นายถามทำไมวะ” ผมย้อนถาม
“ กะ ก็ถามไปงั้น” เหลาหย่างหลบตา ผมยิ้มเจ้าเล่ห์
“ นี่นายแอบไปชอบใครเข้าหรือไง” ผมล้อ “ อาเจียน อาลี่ อาฟาง หรือใครล่ะ”
เขาพ่นลมหายใจแรงๆ “ บะ บ้าแล้ว”
ชัดเจน!
“ใครวะ” ผมยื่นหน้าไปใกล้เขา
เหลาหย่างไม่ยอมบอก
“ ไอ้เชี่ย เป็นเพื่อนกันมานานแค่นี้ก็ไม่บอกไม่ได้เหรอวะ” ผมอารมณ์เสีย
“ เพราะเป็นเพื่อนนั่นแหละเลยบอกไม่ได้” เหลาหย่างพึมพำแต่ผมได้ยิน
“ ทำไม กลัวฉันจะแย่งนายเหรอ หรือว่าคนที่นายชอบเป็นคนที่ฉันรู้จัก”
เหลาหย่างไม่ตอบ
ผมเซ้าซี้อีก ในที่สุดเขาก็เปิดปาก
“ เป็นคนที่นายรู้จักดีเลยล่ะ” แต่ก็แค่นี้แล้วยังมีหน้าย้อนถามผมอีกว่าแล้วผมล่ะมีเล็งใครไว้ไหม
ผมโบกมือแทนการบอกว่าไม่มี
“ แต่ถ้าเรื่องด้ายแดงที่นายพูดมีจริงนะ ฉันก็ขอให้อีกด้านของด้ายเป็นคนรวยๆ มีสมบัติเยอะๆ ช่วยมาปลดตัวแดงบนบัญชีให้ฉันที”
อย่างที่บอกว่าตอนนี้ผมมีปัญหาเรื่องเงิน ร้านจะอยู่จะไปก็ไม่รู้ คงต้องบากหน้าไปขอยืมเงินที่บ้านเพื่อต่อชีวิต ผมถอนหายใจ ชวนเหลาหย่างคุยต่อแต่เขากลับเงียบ
“ฉันมีเรื่องอะไรจะบอก”
ผมนึกว่าเขาจะสารภาพว่าชอบใครจึงได้ตั้งใจฟัง
“ ฉันจะไปคว่ำกรวย”
ผมนี่อย่างเซ็ง ทิ้งตัวกับเก้าอี้ เขาเล่าว่าลูกพี่ลูกน้องมาชวนไป ตอนแรกก็ลังเลแต่ตอนนี้ตัดสินใจแล้ว ผมห้าม แต่เขาไม่ฟัง
“ ฝีมืออย่างนายอ่ะนะ” ผมดูถูกเขาไปที
“ ห่านี่ ยะ อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย หะ หะ เห็นอย่างนี้แต่ฉันน่ะเรื่องเอาตัวรอดเก่งนะ บางทีอาจจะคว่ำกรวยได้เก่งกว่านายที่มาจากตระกูลด้านนี้ซะอีก” เหลาหย่างเถียง
ผมหัวเราะ การแกล้งแหย่เหลาหย่างเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งของผม
“นายจะไปคว่ำกรวยทำไม จะเอาสมบัติไปขาย เอาเงินมาแต่งเมียเหรอ”
“ อืม!” ดันรับคำซะงั้น
“ใครวะ บอกมาเร็ว ไม่บอกตัดเพื่อน”
เหลาหย่างมันตกใจมาก แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมพูด
“เหล่าอู๋”
สุดท้ายตอนจะแยกกันเขาก็เรียกผม
“ ไว้ฉันกลับมาแล้วฉันจะบอกนาย”
ผมเลิกคิ้ว คิดว่าเขาจะบอกชื่อคนที่ชอบผมเลยบอกเออๆ
[ผิงเสีย]
ขณะที่กำลังชุลมุนในกรวย พวกผมวิ่งหนีผีดิบจนสุดทาง ข้างหน้าเป็นทางขาด ดูเหมือนเป็นหน้าผา ผมที่วิ่งนำหน้าสุดหยุดกะทันหัน นายอ้วนวิ่งตามมาหยุดไม่ทัน เขาชนผมเข้าเต็มๆ ผมกับเขากลิ้งลงจากด้านบน โชคดีที่ก่อนจะถึงข้างล่างนายอ้วนกลิ้งลงไปเร็วกว่าผม เลยได้พุงเขาเป็นเบาะรองรับ
“ เชี่ยเอ๊ย!” เขาตะโกนเสียงดังเมื่อผมหล่นทับเขา
ผมลุกขึ้น แหงนหน้ามองข้างบน เห็นเมินโหยวผิงกำลังไถลตัวลงมา ผีดิบพวกนั้นไม่ได้ตามมาด้วย เขาเดินสำรวจรอบๆ นี้ บอกว่าไม่มีทางไปต่อ ต้องกลับขึ้นไปข้างบน
“ แต่ข้างบนนั่นพวกผีดิบยังเดินไปมาอยู่” ผมแย้ง
“ นั่น!” นายอ้วนสายตาดี ชี้รูถ้ำบนผนังหน้าผา เขาลองปีนดูแต่หินพวกนี้มีพืชขึ้นและมันก็ทำให้ลื่นจนจับไม่ได้เลย
“ นายใจเย็นๆ ฉันมีเชือกในกระเป๋า หาอะไรผูกไว้ตรงปลายแล้วโยนขึ้นไปเกี่ยวกับหินข้างบน เท่านี้เราก็ขึ้นไปได้แล้ว” ผมเสนอความคิด วางกระเป๋าลง หยิบเชือกสีแดงออกมา แต่มันสั้นเกินไป
“ คงต้องแบ่งเชือก หนาน้อยลงแต่ยาวขึ้น”
เมินโหยวผิงส่งมีดให้ผม ผมรับมาแล้วรีบทำงานให้เร็วที่สุดเพราะไม่รู้ว่าตรงนี้จะมีอะไรโผล่มาอีกไหม ทำปสักพักเชือกก็พันกันยุ่ง
“นายนี่ไม่ได้เรื่องเลยแค่เชือกก็ยังพันให้ดีไม่ได้” นายอ้วนว่า
ผมอยากด่ากลับแต่มันเป็นความจริงจึงได้แต่เงียบ รีบแก้เชือก อีกสองคนเข้ามาช่วย ผมไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะของนายอ้วน
“ ผีบ้าเข้าสิงนายหรือไง” ผมว่า สะกิดเมินโหยวผิงให้ไปดูหน่อยสิ กำชับด้วยว่าถ้ามีอะไรก็หักคอเลย
“เชี่ยนี่ แค่หัวเราะนิดเดียวจะให้เสี่ยวเกอหักคอเสี่ย”
“นายหัวเราะอะไร” ผมเริ่มอยากรู้อยากเห็น
“ก็ดูมือพวกนายสิ” นายอ้วนชี้ ผมพึ่งสังเกตว่าเชือกสีแดงนั่นพันมือผมยุ่ง ปลายด้านหนึ่งทอดยาวไปอยู่บนมือของเมินโหยวผิง เขาพันเชือกไว้รอบนิ้วทั้งห้าอย่างเรียบร้อย แต่ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าแล้วมันผิดตรงไหน พลันนึกได้ว่าแบบนี้ยังกับด้ายแดงแห่งโชคชะตาน่ะ ว่าแต่ผมคิดเชี่ยอะไรเนี่ย!
ผมรีบแกะเชือกออก นายอ้วนยังล้อไม่จบ
“ ทำแบบนั้นเดี๋ยวนายกับน้องเสี่ยวเกอก็พลัดพรากจากกันหรอก”
“ห่า” ผมด่าเขา
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งผมจะย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีก และวันนั้นที่ว่าก็คือวันที่ผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวบนฉางไป๋ซานนั่นแหละ
…
..
.
ผมนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะอาหารในบ้านของผม เบื้องหน้ามีเหล้าหนึ่งขวดกับแก้วหนึ่งใบ วันนี้ครบหนึ่งเดือนหลังจากเมินโหยวผิงจากไป
ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตอนที่ผมอายุ 27 ผมเคยคิดว่าบางทีเฒ่าจันทราอาจจะเกลียดผมจึงตัดด้ายแดงของผมไปซะแล้ว ทำให้ผมไม่มีแฟนสักที แต่หลังจากที่ผมได้เจอกับเมินโหยวผิง ผมกลับคิดว่าบางทีเฒ่าจันทราคงไม่ได้เกลียดผมแต่คงจะเกลียดผมมาก
ถ้าไม่มีด้ายแดง หรือด้ายนั้นขาด แปลว่าผมไม่มีคู่ ผมอาจจะเศร้าหรือเหงา แต่ถ้าด้ายของผมโยงกับเขา ผมจะทั้งเศร้า เหงาและเจ็บปวดไปพร้อมกัน
การไม่มียังไม่เจ็บเท่ากับมีแต่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้…
…ถ้าหากผูกโยงกัน ต่อให้มีอุปสรรคขวากหนามแค่ไหนก็จะได้พบเจอและอยู่ด้วยกัน…
สำหรับผมอาจจะต้องใช้เวลาถึงสิบปีในการพิสูจน์
“ เฒ่าจันทราอย่าใจร้ายไปมากกว่านี้เลย”
ผมยิ้มขมขื่น ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอึกใหญ่
…
..
.
“นายยิ้ม”
ผมพลิกตัว หันมามองชายที่นอนข้างๆ รอยยิ้มยังอยู่บนหน้า
“ ใช่สิ” ผมตอบ
“ มีเรื่องอะไร” เมินโหยวผิงถาม
“ฉันบังเอิญคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้น่ะ อยากฟังไหม” เขาไม่ตอบผมถือซะว่าตกลง “ นายเคยได้ยินเรื่องด้ายแดงไหม”
เมินโหยวผิงพยักหน้า
“ ฉันได้ฟังเรื่องนี้ครั้งแรกจากอารอง ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่เลย แล้วฉันก็คิดตามประสาเด็กๆ ว่าปลายด้ายแดงของฉันจะมีใครรออยู่นะ จะเป็นผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่หรือจะเป็นผู้หญิงเรียบร้อยหรือว่าน่ารัก” ระหว่างพูดผมก็มองหน้าเขาไปด้วย เมินโหยวผิงยังนิ่งเช่นเคย
“ แล้วนายเจอปลายอีกด้านหรือยัง” เขาถามเมื่อเห็นผมไม่เล่าต่อ
ผมยิ้ม “ เจอแล้ว” พออายุมากจะให้โวยวายปฏิเสธแบบเด็กก็คงไม่ได้ เวลาผมมีไม่เยอะมีอะไรต้องรีบบอกคนสำคัญไว้
“ ฉันเจอนายแล้ว”
ผมมองเมินโหยวผิงยันตัวขึ้นนั่ง เขาใช้มือที่ช่วยชีวิตผมหลายครั้งจับมือข้างซ้ายของผม แล้วทำบางอย่างที่โรแมนติกขัดกับหน้าตา
เขาประทับริมฝีปากได้รูปบนข้อนิ้วผมทีละนิ้ว
นิ้วแรกเขาพูดว่า “ขอบคุณที่เจอฉัน”
นิ้วที่สอง “ ขอบคุณที่ไม่ลืมฉัน”
ต่อมา “ ขอบคุณที่รอฉัน”
ถัดไป “ ขอบคุณที่รักฉัน”
และ “ ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้”
ขอบตาผมแสบ เอื้อมแขนไปดึงเขาลงมากอดแน่น
บางทีสิ่งที่เชื่อมโยงเขากับโลกนี้อาจจะเป็นด้ายแดงนี้ก็เป็นได้…
110 day(s) left
Talk : พาร์ทของคุณชายรองเป็นพาร์ทใสๆ ตอนจบก็ให้จิ้นกันเอาเองเลย จะไปทางเศร้าหรือสุขก็ได้ทั้งนั้น 555 นี่เราทำร้ายคุณชายกี่ครั้งแล้วนะ แต่ครั้งนี้ก็ซอฟต์แล้วนะคะ (จริงๆ )
พาร์ทต่อมาเป็นของแพที่กำลังจะล่มในไม่ช้า หรือล่มแล้วเพราะเจอเรือหลักก็ไม่ทราบ แต่งานนี้ยังเห็นใจเหลาหย่างอยู่จึงจบแบบนี้ (นี่ขนาดเห็นใจนะ)
และเรือหลักของเราเอง เมื่อเป็นเรือหลักจึงมีอภิสิทธิ์ได้ตอนจบสวยหน่อย อันที่จริงคือมโนมากนั่นเอง โดยเฉพาะตอนท้ายๆ ความจริงนายน้อยนี่ทำร้ายผู้ชาย (?) มาหลายคนเนอะ เลยมาโดนทิ้ง ถือซะว่ากรรมตามทัน (โดนตบกลิ้ง)
ปล. เราไม่ได้เล่นทวิตเลยไม่รู้เลยค่ะ แต่ถ้าคนอ่านชอบก็ดีใจ (หัวเราะ) วันนี้ก็มีคุณชายนะ ไม่ค่อยทำร้ายด้วยหวังว่าจะชอบนะคะ ^^
ขอบคุณคอมเมนต์ทุกอันนะคะ อยากจะตอบเมนต์ทีละเมนต์จังแต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีนอกจากขอบคุณ งื้ออออ ถ้าชอบฟิคเราก็ดีใจมากแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ถ้ายังคิดออกและยังมีไฟก็จะแต่งมาลงเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นก็เป็นเยี่ยงนิยายในเด็ก…อ่อก! (โดนตบ)
Short Fic :
- ที่รัก
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (1)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (2)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (3)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (4)
- สาเหตุที่ผิงเสีย is real (5)
- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง (1)
- ความโชคร้ายของนายอ้วนหวัง (2)
#dmbjdaily
หัวข้อ Ride : The Bittersweet Moment
หัวข้อ Sexy : The Most Sexiest Person
หัวข้อ แป้ง : Happy Birthday
หัวข้อ Help : สิ่งที่อยากให้ช่วย
หัวข้อ Free : My Time
หัวข้อ Tissue : Can you remember me?
หัวข้อ Pink : Story About Pink
หัวข้อ Pink : Story About Pink (Again)
หัวข้อ Blue : Blue Hood
หัวข้อ Blue : When I'm Feeling Blue
[OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
By: ซุปผัก
[ ความจริงมันเป็นเรื่องต่อกันแต่ถ้าใครชอบคู่ไหนก็สามารถอ่านเฉพาะช่วงคู่นั้นได้นะคะ จะตัดช่วงเอาไว้ให้ โดยคู่จะเรียงตามลำดับด้านบนเลยค่ะ]
[ฮัวเสีย]
“ อะไรคือด้ายแดงแห่งโชคชะตา”
ตอนนั้นผมอายุกี่ขวบไม่แน่ใจ แต่คงจะไม่โตเท่าไร ผมได้ยินอาสามพูดเรื่องด้ายแดงแห่งโชคชะตากับน้าเหวินจิ่นจึงได้ลองถามดู
“ อะไร ตัวกระเปี๊ยกแค่นี้คิดถามเรื่องของผู้ใหญ่” อาสามหัวเราะ แต่ผมรู้จากท่าทางว่าเขาต้องบอกผมแน่ “ ด้ายแดงแห่งโชคชะตาก็คือด้ายที่ตาเฒ่าพ่อสื่อผูกไว้ให้ฉันกับว่าที่อาสะใภ้แกไงล่ะ”
ที่ไหนได้…พึ่งไม่ได้เลย
ผมเลยเปลี่ยนไปถามอารองแทน
“ ด้ายแดงแห่งโชคชะตาเป็นความเชื่อของชาวจีนเรา เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยราชวงศ์ถัง บัณฑิตนามว่าเหวยกู่ได้พบกับชายแก่ผู้หนึ่งโดยไม่รู้ว่าแท้จริงชายแก่นี่คือเฒ่าจันทราผู้ซึ่งมีหน้าที่นำด้ายแดงมาผูกที่นิ้วของชายหญิงที่เป็นคู่กัน เมื่อผูกกันแล้วต่อให้เจออุปสรรคขวากหนามมากมายขนาดไหนก็จะได้เจอและอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าเฒ่าจันทราเห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะใช้กรรไกรตัดวาสนาตัดด้ายทิ้ง จากนั้นเหวยกู่ก็ถามเฒ่าจันทราเรื่องเนื้อคู่ของตน ผู้เฒ่าชี้ให้ดูเด็กลูกแม่ค้าหน้าตามอมแมมคนหนึ่งบอกว่าเด็กนี่แหละ บัณฑิตรับไม่ได้จึงสั่งให้คนมาฆ่าเด็กนั่นทิ้ง หลายปีผ่านไปเหวยกู่สอบได้เป็นจอหงวน และได้แต่งงานกับลูกสาวเจ้าเมือง ครองคู่กันมานานวันหนึ่งเขาก็สังเกตเห็นหน้าผากของภรรยามีรอยแผลเลยถาม ภรรยาเล่าว่าสมัยนางเด็กมีคนเข้ามาทำร้าย นางยังบอกอีกว่าจริงๆ นางเป็นลูกแม่ค้า เมื่อถูกทำร้ายเจ้าเมืองมาเห็นบังเกิดความสงสารจึงรับมาเลี้ยง เหวยกู่รับรู้ได้ว่านางต้องเป็นเด็กคนนั้นจึงได้ขอขมานางและแม่ของนาง จากนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข”
อารองอธิบายอย่างละเอียดราวกับกำลังเปิดหนังสืออ่านให้ฟัง ความจริงเขากำลังให้อาหารไก่ นี่แหละอารองผม
ผมฟังจบก็ยกมือขึ้นมาดู พลิกทั้งสองข้างแต่ไม่เห็นด้ายที่ว่านั่นเลย หรือว่าเฒ่าจันทราจะตัดด้ายของผมทิ้งไปแล้ว
“ ด้ายนั่นล่องหน มีเพียงผู้ผูกที่เห็น ไม่งั้นก็วุ่นวายกันแย่” อารู้ทัน
“แปลว่าผมก็ต้องมีด้ายนั่นเหมือนกันใช่ไหม” ตอนนั้นผมยังเด็กอาคงไม่อยากทำร้ายความรู้สึกกับจินตนาการของผมจึงยิ้มแล้วตอบว่าใช่
“ แต่แบบนี้ก็น่าสงสารอาเหวินจิ่นน่ะสิ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็อาสามบอกว่าว่ามีด้ายผูกกับอาเหวินจิ่น”
อารองผมหลุดขำ ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีเลยหัวเราะบ้าง ไม่รู้เลยว่าอาอีกคนมายืนอยู่ด้านหลัง อาสามร้ายกาจมาก เขาไม่ลงโทษผมตรงนั้นแต่รอให้คนอื่นในบ้านหลับแล้วจึงแกล้งทำเสียงน่ากลัวหลอกให้ผมตกใจนึกว่าเป็นผี (แต่ผมก็ไปฟ้องพ่อกับอารองตอนหลัง)
วันต่อมาผมไปเล่นกับเสี่ยวฮัว ผมเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง แปลกใจที่เธอรู้เรื่องนี้แล้ว
“ ปู่รองเคยเล่าให้ฟังน่ะ” เสี่ยวฮัวบอก
“ แล้วเสี่ยวฮัวเชื่อไหม” ผมถาม
เสี่ยวฮัวส่ายหน้า “ มันเป็นแค่นิทาน”
“นิทานบางเรื่องก็มาจากเรื่องนะ” ผมว่า
“ อาเฮียคิดว่าเรื่องนี้ก็จริงเหรอ”
ผมพยักหน้าเร็วๆ
“ แล้วคิดว่าด้ายแดงผูกกับใครล่ะ” เสี่ยวฮัวทำท่าอยากรู้อยากเห็น แต่ผมจะรู้ได้ยังไงในเมื่อด้ายมันล่องหนอยู่ “ ก็เดาสิ”
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเดาว่าใครอยู่ดี เด็กผู้หญิงที่รู้จักก็มีไม่กี่คน เพื่อนในชั้นเรียน ซิ่วซิ่ว แล้วก็เสี่ยวฮัว
“ บางทีอาจจะเป็นเธอล่ะมั้ง” ผมเดา
“ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงน่ากลัวน่าดู” เธอหัวเราะ ผมไม่เข้าใจ บางทีเสี่ยวฮัวก็ดูจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินที่ผมจะเข้าใจ
“ทำไมล่ะ”
เธอนิ่งคิดพักหนึ่ง ก่อนจะตอบผม “ อืมมมม ถ้าใช่มันจะต้องวุ่นวายน่าดู แล้วอุปสรรคก็ต้องเยอะแน่ๆ ”
ผมหัวเราะ “ อารองบอกว่าถ้าเรามีด้ายแดงผูกกันจริงต่อให้เจออุปสรรคอะไรก็จะต้องได้คู่กันแน่”
แต่เสี่ยวฮัวเธอบอกว่าไม่เชื่อเรื่องนี้ ถ้าอยากให้เชื่อก็แสดงด้ายแดงให้เห็นหน่อย
ผมนั่งคิด แล้วก็เกิดความคิดดีๆ ผมลุกขึ้น ขอให้เธอรอตรงนี้ วิ่งกลับไปที่บ้าน ถ้าผมจำไม่ผิดแม่ผมจะมีโบสีแดงเก็บในลิ้นชัก ผมค้นจนเจอ รีบคว้ามันแล้วกลับไปหาเสี่ยวฮัว ผูกโบนั่นกับนิ้วก้อยเล็กๆ ของตัวเองแล้วก็ของเธอ
“ แต่นี่เป็นโบไม่ใช่เหรอ” เสี่ยวฮัวหัวเราะ
ผมทำปากยื่นนิดๆ “ ใช่ ตอนนี้ฉันยังหาวิธีทำให้มองเห็นด้ายแดงนั่นไม่ได้แต่ถ้าวันไหนฉันหาเจอ ฉันจะทำให้เธอเห็น แล้วทีนี้เธอก็จะเชื่อ”
“ ได้ ถ้าเห็นฉันจะเชื่อ” เธอยิ้ม “ ฉันจะรอนะ”
ผมยิ้มกลับ
[หยางเสีย]
ผมชวนเหลาหย่างให้มานั่งดื่มด้วยกัน ตอนนี้อยากจะหาใครสักคนมาฟังเรื่องของผม มันบัดซบสิ้นดี ปกติงานก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว งานล่าสุดยังจะโดนเชิดอีก คอยดูผมจะยืมลูกน้องอาสามไปตามล่ามัน
“ เออน่า เดี๋ยวก็เจอตัว” เหลาหย่างปลอบผม จากนั้นก็ชวนคุยเรื่องอื่น “ เหล่าอู๋นายเชื่อเรื่องด้ายแดงไหม”
ผมเลิกคิ้ว
“ไม่ค่อย ทำไม”
เหลาหย่างทำหน้าเหมือนผิดหวัง “ ทำไมไม่เชื่อล่ะนายน่าจะคุ้นกับเรื่องพวกนี้ดีกว่าฉันไม่ใช่เหรอ”
หมอนี่คงหมายถึงเรื่องที่ตระกูลผมเป็นพวกขุดสุสานน่าจะเจอผีดิบเจออะไรเยอะ เรื่องแบบนี้ก็น่าจะเชื่อ แต่ผมไม่เคยลงกรวยจริงๆ เคยได้แต่ฟังอาสามเล่าก็เลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ นายถามทำไมวะ” ผมย้อนถาม
“ กะ ก็ถามไปงั้น” เหลาหย่างหลบตา ผมยิ้มเจ้าเล่ห์
“ นี่นายแอบไปชอบใครเข้าหรือไง” ผมล้อ “ อาเจียน อาลี่ อาฟาง หรือใครล่ะ”
เขาพ่นลมหายใจแรงๆ “ บะ บ้าแล้ว”
ชัดเจน!
“ใครวะ” ผมยื่นหน้าไปใกล้เขา
เหลาหย่างไม่ยอมบอก
“ ไอ้เชี่ย เป็นเพื่อนกันมานานแค่นี้ก็ไม่บอกไม่ได้เหรอวะ” ผมอารมณ์เสีย
“ เพราะเป็นเพื่อนนั่นแหละเลยบอกไม่ได้” เหลาหย่างพึมพำแต่ผมได้ยิน
“ ทำไม กลัวฉันจะแย่งนายเหรอ หรือว่าคนที่นายชอบเป็นคนที่ฉันรู้จัก”
เหลาหย่างไม่ตอบ
ผมเซ้าซี้อีก ในที่สุดเขาก็เปิดปาก
“ เป็นคนที่นายรู้จักดีเลยล่ะ” แต่ก็แค่นี้แล้วยังมีหน้าย้อนถามผมอีกว่าแล้วผมล่ะมีเล็งใครไว้ไหม
ผมโบกมือแทนการบอกว่าไม่มี
“ แต่ถ้าเรื่องด้ายแดงที่นายพูดมีจริงนะ ฉันก็ขอให้อีกด้านของด้ายเป็นคนรวยๆ มีสมบัติเยอะๆ ช่วยมาปลดตัวแดงบนบัญชีให้ฉันที”
อย่างที่บอกว่าตอนนี้ผมมีปัญหาเรื่องเงิน ร้านจะอยู่จะไปก็ไม่รู้ คงต้องบากหน้าไปขอยืมเงินที่บ้านเพื่อต่อชีวิต ผมถอนหายใจ ชวนเหลาหย่างคุยต่อแต่เขากลับเงียบ
“ฉันมีเรื่องอะไรจะบอก”
ผมนึกว่าเขาจะสารภาพว่าชอบใครจึงได้ตั้งใจฟัง
“ ฉันจะไปคว่ำกรวย”
ผมนี่อย่างเซ็ง ทิ้งตัวกับเก้าอี้ เขาเล่าว่าลูกพี่ลูกน้องมาชวนไป ตอนแรกก็ลังเลแต่ตอนนี้ตัดสินใจแล้ว ผมห้าม แต่เขาไม่ฟัง
“ ฝีมืออย่างนายอ่ะนะ” ผมดูถูกเขาไปที
“ ห่านี่ ยะ อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย หะ หะ เห็นอย่างนี้แต่ฉันน่ะเรื่องเอาตัวรอดเก่งนะ บางทีอาจจะคว่ำกรวยได้เก่งกว่านายที่มาจากตระกูลด้านนี้ซะอีก” เหลาหย่างเถียง
ผมหัวเราะ การแกล้งแหย่เหลาหย่างเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งของผม
“นายจะไปคว่ำกรวยทำไม จะเอาสมบัติไปขาย เอาเงินมาแต่งเมียเหรอ”
“ อืม!” ดันรับคำซะงั้น
“ใครวะ บอกมาเร็ว ไม่บอกตัดเพื่อน”
เหลาหย่างมันตกใจมาก แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมพูด
“เหล่าอู๋”
สุดท้ายตอนจะแยกกันเขาก็เรียกผม
“ ไว้ฉันกลับมาแล้วฉันจะบอกนาย”
ผมเลิกคิ้ว คิดว่าเขาจะบอกชื่อคนที่ชอบผมเลยบอกเออๆ
[ผิงเสีย]
ขณะที่กำลังชุลมุนในกรวย พวกผมวิ่งหนีผีดิบจนสุดทาง ข้างหน้าเป็นทางขาด ดูเหมือนเป็นหน้าผา ผมที่วิ่งนำหน้าสุดหยุดกะทันหัน นายอ้วนวิ่งตามมาหยุดไม่ทัน เขาชนผมเข้าเต็มๆ ผมกับเขากลิ้งลงจากด้านบน โชคดีที่ก่อนจะถึงข้างล่างนายอ้วนกลิ้งลงไปเร็วกว่าผม เลยได้พุงเขาเป็นเบาะรองรับ
“ เชี่ยเอ๊ย!” เขาตะโกนเสียงดังเมื่อผมหล่นทับเขา
ผมลุกขึ้น แหงนหน้ามองข้างบน เห็นเมินโหยวผิงกำลังไถลตัวลงมา ผีดิบพวกนั้นไม่ได้ตามมาด้วย เขาเดินสำรวจรอบๆ นี้ บอกว่าไม่มีทางไปต่อ ต้องกลับขึ้นไปข้างบน
“ แต่ข้างบนนั่นพวกผีดิบยังเดินไปมาอยู่” ผมแย้ง
“ นั่น!” นายอ้วนสายตาดี ชี้รูถ้ำบนผนังหน้าผา เขาลองปีนดูแต่หินพวกนี้มีพืชขึ้นและมันก็ทำให้ลื่นจนจับไม่ได้เลย
“ นายใจเย็นๆ ฉันมีเชือกในกระเป๋า หาอะไรผูกไว้ตรงปลายแล้วโยนขึ้นไปเกี่ยวกับหินข้างบน เท่านี้เราก็ขึ้นไปได้แล้ว” ผมเสนอความคิด วางกระเป๋าลง หยิบเชือกสีแดงออกมา แต่มันสั้นเกินไป
“ คงต้องแบ่งเชือก หนาน้อยลงแต่ยาวขึ้น”
เมินโหยวผิงส่งมีดให้ผม ผมรับมาแล้วรีบทำงานให้เร็วที่สุดเพราะไม่รู้ว่าตรงนี้จะมีอะไรโผล่มาอีกไหม ทำปสักพักเชือกก็พันกันยุ่ง
“นายนี่ไม่ได้เรื่องเลยแค่เชือกก็ยังพันให้ดีไม่ได้” นายอ้วนว่า
ผมอยากด่ากลับแต่มันเป็นความจริงจึงได้แต่เงียบ รีบแก้เชือก อีกสองคนเข้ามาช่วย ผมไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะของนายอ้วน
“ ผีบ้าเข้าสิงนายหรือไง” ผมว่า สะกิดเมินโหยวผิงให้ไปดูหน่อยสิ กำชับด้วยว่าถ้ามีอะไรก็หักคอเลย
“เชี่ยนี่ แค่หัวเราะนิดเดียวจะให้เสี่ยวเกอหักคอเสี่ย”
“นายหัวเราะอะไร” ผมเริ่มอยากรู้อยากเห็น
“ก็ดูมือพวกนายสิ” นายอ้วนชี้ ผมพึ่งสังเกตว่าเชือกสีแดงนั่นพันมือผมยุ่ง ปลายด้านหนึ่งทอดยาวไปอยู่บนมือของเมินโหยวผิง เขาพันเชือกไว้รอบนิ้วทั้งห้าอย่างเรียบร้อย แต่ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าแล้วมันผิดตรงไหน พลันนึกได้ว่าแบบนี้ยังกับด้ายแดงแห่งโชคชะตาน่ะ ว่าแต่ผมคิดเชี่ยอะไรเนี่ย!
ผมรีบแกะเชือกออก นายอ้วนยังล้อไม่จบ
“ ทำแบบนั้นเดี๋ยวนายกับน้องเสี่ยวเกอก็พลัดพรากจากกันหรอก”
“ห่า” ผมด่าเขา
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งผมจะย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีก และวันนั้นที่ว่าก็คือวันที่ผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวบนฉางไป๋ซานนั่นแหละ
…
..
.
ผมนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะอาหารในบ้านของผม เบื้องหน้ามีเหล้าหนึ่งขวดกับแก้วหนึ่งใบ วันนี้ครบหนึ่งเดือนหลังจากเมินโหยวผิงจากไป
ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตอนที่ผมอายุ 27 ผมเคยคิดว่าบางทีเฒ่าจันทราอาจจะเกลียดผมจึงตัดด้ายแดงของผมไปซะแล้ว ทำให้ผมไม่มีแฟนสักที แต่หลังจากที่ผมได้เจอกับเมินโหยวผิง ผมกลับคิดว่าบางทีเฒ่าจันทราคงไม่ได้เกลียดผมแต่คงจะเกลียดผมมาก
ถ้าไม่มีด้ายแดง หรือด้ายนั้นขาด แปลว่าผมไม่มีคู่ ผมอาจจะเศร้าหรือเหงา แต่ถ้าด้ายของผมโยงกับเขา ผมจะทั้งเศร้า เหงาและเจ็บปวดไปพร้อมกัน
การไม่มียังไม่เจ็บเท่ากับมีแต่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้…
…ถ้าหากผูกโยงกัน ต่อให้มีอุปสรรคขวากหนามแค่ไหนก็จะได้พบเจอและอยู่ด้วยกัน…
สำหรับผมอาจจะต้องใช้เวลาถึงสิบปีในการพิสูจน์
“ เฒ่าจันทราอย่าใจร้ายไปมากกว่านี้เลย”
ผมยิ้มขมขื่น ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอึกใหญ่
…
..
.
“นายยิ้ม”
ผมพลิกตัว หันมามองชายที่นอนข้างๆ รอยยิ้มยังอยู่บนหน้า
“ ใช่สิ” ผมตอบ
“ มีเรื่องอะไร” เมินโหยวผิงถาม
“ฉันบังเอิญคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้น่ะ อยากฟังไหม” เขาไม่ตอบผมถือซะว่าตกลง “ นายเคยได้ยินเรื่องด้ายแดงไหม”
เมินโหยวผิงพยักหน้า
“ ฉันได้ฟังเรื่องนี้ครั้งแรกจากอารอง ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่เลย แล้วฉันก็คิดตามประสาเด็กๆ ว่าปลายด้ายแดงของฉันจะมีใครรออยู่นะ จะเป็นผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่หรือจะเป็นผู้หญิงเรียบร้อยหรือว่าน่ารัก” ระหว่างพูดผมก็มองหน้าเขาไปด้วย เมินโหยวผิงยังนิ่งเช่นเคย
“ แล้วนายเจอปลายอีกด้านหรือยัง” เขาถามเมื่อเห็นผมไม่เล่าต่อ
ผมยิ้ม “ เจอแล้ว” พออายุมากจะให้โวยวายปฏิเสธแบบเด็กก็คงไม่ได้ เวลาผมมีไม่เยอะมีอะไรต้องรีบบอกคนสำคัญไว้
“ ฉันเจอนายแล้ว”
ผมมองเมินโหยวผิงยันตัวขึ้นนั่ง เขาใช้มือที่ช่วยชีวิตผมหลายครั้งจับมือข้างซ้ายของผม แล้วทำบางอย่างที่โรแมนติกขัดกับหน้าตา
เขาประทับริมฝีปากได้รูปบนข้อนิ้วผมทีละนิ้ว
นิ้วแรกเขาพูดว่า “ขอบคุณที่เจอฉัน”
นิ้วที่สอง “ ขอบคุณที่ไม่ลืมฉัน”
ต่อมา “ ขอบคุณที่รอฉัน”
ถัดไป “ ขอบคุณที่รักฉัน”
และ “ ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้”
ขอบตาผมแสบ เอื้อมแขนไปดึงเขาลงมากอดแน่น
บางทีสิ่งที่เชื่อมโยงเขากับโลกนี้อาจจะเป็นด้ายแดงนี้ก็เป็นได้…
110 day(s) left
Talk : พาร์ทของคุณชายรองเป็นพาร์ทใสๆ ตอนจบก็ให้จิ้นกันเอาเองเลย จะไปทางเศร้าหรือสุขก็ได้ทั้งนั้น 555 นี่เราทำร้ายคุณชายกี่ครั้งแล้วนะ แต่ครั้งนี้ก็ซอฟต์แล้วนะคะ (จริงๆ )
พาร์ทต่อมาเป็นของแพที่กำลังจะล่มในไม่ช้า หรือล่มแล้วเพราะเจอเรือหลักก็ไม่ทราบ แต่งานนี้ยังเห็นใจเหลาหย่างอยู่จึงจบแบบนี้ (นี่ขนาดเห็นใจนะ)
และเรือหลักของเราเอง เมื่อเป็นเรือหลักจึงมีอภิสิทธิ์ได้ตอนจบสวยหน่อย อันที่จริงคือมโนมากนั่นเอง โดยเฉพาะตอนท้ายๆ ความจริงนายน้อยนี่ทำร้ายผู้ชาย (?) มาหลายคนเนอะ เลยมาโดนทิ้ง ถือซะว่ากรรมตามทัน (โดนตบกลิ้ง)
ปล. เราไม่ได้เล่นทวิตเลยไม่รู้เลยค่ะ แต่ถ้าคนอ่านชอบก็ดีใจ (หัวเราะ) วันนี้ก็มีคุณชายนะ ไม่ค่อยทำร้ายด้วยหวังว่าจะชอบนะคะ ^^
ขอบคุณคอมเมนต์ทุกอันนะคะ อยากจะตอบเมนต์ทีละเมนต์จังแต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีนอกจากขอบคุณ งื้ออออ ถ้าชอบฟิคเราก็ดีใจมากแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ถ้ายังคิดออกและยังมีไฟก็จะแต่งมาลงเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นก็เป็นเยี่ยงนิยายในเด็ก…อ่อก! (โดนตบ)
แก้ไขล่าสุดโดย sup-pak เมื่อ Thu 30 Apr 2015, 09:00, ทั้งหมด 1 ครั้ง
sup-pak- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 39
Points : 3413
Join date : 10/04/2015
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! โดดลงเรืออย่างไว กร๊าวสุดต้องผิงเสียสินะ
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
////A//// กร๊าซ ชอบทั้งสามอันเลยค่ะ แต่ผิงเสียกรี๊ดสุด กร๊าซซซ
Cathareen- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 149
Points : 3596
Join date : 24/12/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
ชอบ ชอบหมดเลยค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดด ยิ่งผิงเสียนี่ฟินไปยันโลกหน้าาาาาาเลยคร้าาาาาาาา
Mayao- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 26
Points : 3319
Join date : 23/04/2015
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
ชอบทุกเรื่องงงงงงง Allเสียจงเจริญ!!!
Tang_An-An- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 225
Points : 3694
Join date : 29/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : ร่อนเร่พเนจรไปตามท้องทุ่ง
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
ที่จริงเหยียบมันทุกเรือค่ะ แต่พอเจอเรือหลักปิดท้มยเท่านั้นแหละ #ผมนี่โดรอิมแพคตายคาทะเลเลยครับ ฟฟฟฟฟฟ
Dreamy- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 124
Points : 3595
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
คู่กับใครก็ไม่แป๊ะเท่ากับเสี่ยวเกอ คู่กิ่งทองใบหยกคนนี้สินะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิๆ หวานได้น่ารักมาก ไม่เลี่ยนแถมได้อมยิ้มรื่นรมย์ใจ ขอบคุณที่เขียนฟิกน่ารักให้อ่านค่ะ ^^
hnee- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 203
Points : 3675
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (Red) ด้ายแดง [ฮัวเสีย,หยางเสีย,ผิงเสีย]
ฟินมากเลย เอาอีกๆๆๆๆ ด้วงเขย่ากรงหนักมาก
Fatcat- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 4
Points : 3006
Join date : 08/02/2016
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily (King) "ราชากับ..." [อ้วนเสีย/ฮัวเสีย/เหมิงเสีย/หยางเสีย]
» [Drabble] คำสาปสกุลเซี่ย [ฮัวเสีย/หยางเสีย]
» [OS] #DMBJdaily (ชุดกะลาสี): How to battle between stuffy bottle and beautiful flower [ผิงเสีย, ฮัวเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (Blue) When I’m Feeling Blue [ฮัวเสีย , ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (Pink) Story About Pink (Again) [ฮัวเสีย,ผิงเสีย]
» [Drabble] คำสาปสกุลเซี่ย [ฮัวเสีย/หยางเสีย]
» [OS] #DMBJdaily (ชุดกะลาสี): How to battle between stuffy bottle and beautiful flower [ผิงเสีย, ฮัวเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (Blue) When I’m Feeling Blue [ฮัวเสีย , ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (Pink) Story About Pink (Again) [ฮัวเสีย,ผิงเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth