Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

+4
tamahome
Rozenkreuz
natsume
sinnerdarker
8 posters

Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Wed 15 Jul 2015, 21:43

บันทึกของเสี่ยวหลิง

-------ที่มา-------

[OS] The Last Moment [ผิงเสีย] [R18] *สปอยเล่มสิบ*

[OS] ของยึดเหนี่ยวอันไม่จีรัง [ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*

-------------เรื่องหลัก-----------

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (1) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (2) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] พี่ชายที่ไม่ยอมบอกชื่อ ~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (3) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง [Imply ผิงเสีย] (3.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] #dmbjdaily (บุหรี่) เลิกได้ไหม? [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*





----------ตอนพิเศษ--------------



[OS] #dmbjdaily (ป่วย) ความลับเวลาไม่สบาย [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] เรื่องของปู่ทวด [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[OS] #dmbjdaily (ประถม) แปดชั่วโมงที่ห่างกัน [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]

[OS] #dmbjdaily (เก้า) การรวมตัวที่ไม่รู้จุดประสงค์ [~~~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special ~~~] [All Character]

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) หน้าที่ของพี่ชาย [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา + เสี่ยวหลิง]

[Drabble] #dmbjdaily (น้องชาย) สิทธิ์ของคนเป็นน้อง [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา+เสี่ยวหลิง]

[Drabble] ~ว่าด้วยภาคซาไห่กับทรงผมใหม่ของอู๋เสีย~ [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[Drabble] ในวันที่อากาศหนาว [บันทึกของเสี่ยวหลิง]


-----ตอนพิเศษหลังเจอเสี่ยวเกอ---------


[Drabble]~ครอบครัวสุขสันต์หลังเราพบกันที่ฉางไป๋ซาน~[บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย/เฮยฮัว]

[Drabble] #dmbjdaily (สำริด) ตลกหลายฉากของสองหนุ่มแห่งต้นสำริด [บันทึกของเสี่ยวหลิง+เหล่าหยาง]

[OS] #dmbjdaily (ทวินเทล) สาเหตุที่ยอมลงให้ [บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ / 10 Years Laters* [อัพเดท : FA by Zerin]


++++++++++++++++++



(6)



ปู่ทวดของผม อู๋เหลาโก่ว เคยเป็นโจรขุดสุสานมาก่อน ท่านโด่งดังอย่างมากในยุคที่การคว่ำกรวยรุ่งเรือง ปู่ทวดได้รับฉายาว่าเป็นราชาสุนัข  หรือทุกคนอาจเรียกท่านว่าหมาห้า ท่านได้ฉายาเหล่านี้มาเพราะสามารถฝึกสุนัขให้ดมกลิ่นหาพิกัดสุสานได้ และสิ่งนี้ทำให้ท่านเป็นที่นับหน้าถือตา จนถึงขั้นเป็นหนึ่งในเก้าตระกูลใหญ่ที่มีอิทธิพลในฉางซาขณะนั้น ปู่ทวดเป็นคนรักสุนัขมาก เตี่ยเล่าว่าเป็นเพราะสมัยก่อนในยุคข้าวยากหมากแพง ท่านเคยได้สุนัขหลายตัวช่วยไว้ จึงรักสุนัขยิ่งกว่ารักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ดังนั้นเมื่อก่อน บ้านเราจึงเคยเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว แต่เพื่อนสี่ขาเหล่านั้น ยามเวลาผ่านไปก็ตายจากไปทีละตัว ปู่ทวดใจสลายทุกครั้งที่เสียพวกมันไป บางครั้ง ท่านได้กอดมันไว้ อยู่เคียงข้างเมื่อมันจากไปอย่างสงบ บางครั้ง ท่านกลับมาไม่ทันดูใจมัน ก็ได้แต่เสียใจที่ไม่อาจอยู่ด้วยในวาระสุดท้าย

ด้วยเหตุนี้ นอกจากเหล่าสุนัขที่ท่านเลี้ยงดูไว้นับแต่ย้ายมาหังโจว ท่านจึงไม่เคยรับหรือซื้อสุนัขตัวใดมาเพิ่มอีกแม้แต่ตัวเดียว ยามเมื่อท่านสิ้นไป บ้านเราจึงไม่เหลือสุนัขคอยวิ่งเล่นซุกซนอยู่ในบ้านอีก ดังนั้น ผมจึงโตมาโดยที่ไม่เคยเข้าใกล้หรือเล่นกับสุนัขตัวไหน

และทำให้ผมยืนกอดขาเตี่ย มองไปทางสุนัขตัวโตที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลังซึ่งอยู่ไกลออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“กลัวเหรอเสี่ยวหลิง?” เตี่ยว่าขึ้นขำๆ ขยับขาให้ผมสะดุ้งเล่น วางมือลงตบหัวหัวเบาๆ ส่วนผมได้แต่เกาะขากางเกงเตี่ย มองไปทางสุนับขนฟูตัวใหญ่ที่นอนหมอบให้ทุกคนลูบหัวเล่น

ผมไม่รู้ว่าตัวเองกลัวสุนัขหรือเปล่า คิดว่าน่าจะกลัว ปกติแล้ว ผมเห็นพวกมันแค่จากไกลๆ ไม่เคยเข้าใกล้ แต่ตอนนี้ กลับอยู่ใกล้มากๆ ทำให้อดที่จะหลบมุม ไม่เข้าไปหาไม่ได้ อีกอย่าง สุนัขตัวนั้นก็ตัวใหญ่มาก ไม่เหมือนตะปูสามที่ผมเคยเห็นตอนฝันถึงปู่ทวด ดังนั้นจึงไม่กล้าเข้าใกล้ และได้แต่กอดขาเตี่ย จ้องมองเจ้าหมาตัวโตยืนแลบลิ้นแฮ่กๆ เลียมือคนที่เข้าใกล้อยู่ไกลๆ

สุนัขตัวนี้ ปู่ใหญ่บอกว่าไปเห็นมันนอนผอมโซอยู่ข้างถนน ท่าทางลักษณะดี เดินผ่านไปผ่านมาก็เห็นอยู่ทุกวัน บางวันก็ซื้อของไปให้กิน บางวันก็แค่ไปทัก แล้วเจ้าหมาก็ไม่ได้ก้าวร้าวอะไร ค่อนข้างเรียบร้อย สุดท้ายอดไม่ได้ จึงรับมาเลี้ยง ปู่ใหญ่บอกว่าพอขัดสีฉวีวรรณ อาบน้ำแปรงขนให้ ก็พบว่าเจ้าหมาจรตัวนั้นมีลักษณะและพันธุ์ดีทีเดียว

ปู่ใหญ่ตั้งชื่อให้สุนัขตัวนั้นว่าเสี่ยไป๋ เพราะขนของมันขาวเหมือนกับหิมะ และตอนนี้ ก็เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในบ้าน…ยกเว้นผม

ก็ผมกลัวนี่นา..

“เอ้า เป็นเหลนปู่ทวดเขาแท้ๆ ทำไมกลัวฮึเรา? เป็นบ้านอู๋ต้องเข้ากับหมาได้สิ” เตี่ยแกล้งหยอกผมเล่น หัวเราะในคอแล้วยิ้มเผล่ ทำท่าจะก้าวขาเดินเข้าไปหาสุนัขตัวนั้น ผมเลยกอดขาเตี่ยไว้แน่นแล้วยึดขาให้ติดกับพื้น แต่เตี่ยแรงเยอะกว่า เลยลากขาพาผมเข้าไปใกล้เสี่ยไป๋มากขึ้นทุกที

“เตี่ย ไม่เอา” ผมบอกเตี่ยเสียงสั่น กอดขาเตี่ยแน่น มองไปทางสุนัขตัวนั้นอย่างหวาดๆ ไม่อยากเข้าไปใกล้มากๆ

“กลัวอะไรหืม เสี่ยไป๋ไม่กัดเราหรอกน่า” เตี่บปลอบผม หยุดเดิน หัวเราะใส่ผมแล้วลูบหัวเบาๆ “เห็นไหม มันออกจะใจดี ไม่อยากลองลูบขนมันหรือ?”

ผมส่ายหน้าพรืด อยากบอกเตี่ยว่าผมเป็นเด็กผู้ชาย ไม่ได้ชอบของน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง ดังนั้นไม่มีทางชอบของนุ่มๆ อย่างขนของสุนัขอยู่แล้ว

..หรือถึงชอบ ผมก็คงไม่กล้าเข้าไปใกล้

ทั้งอย่างนั้น เตี่ยก็ยังแกล้งผม พยายามจะลากให้เข้าไปหาอยู่ดี

“อย่ากลัวน่า เป็นลูกผู้ชายไม่ใช่หรือเรา” เตี่ยพยายามหว่านล้อมผม ก้มลงมามอง แต่ผมส่ายหัวท่าเดียว พยายามฝืนไม่เดินตามขาเตี่ยไป แต่เตี่ยก็ยังลากขาเดินต่อ คราวนี้ผมเลยปล่อยขาเตี่ยแล้วทำท่าจะวิ่งหนี พอเตี่ยเห็นเลยคว้าผมเอาไว้แล้วยกขึ้นมาอุ้ม โคลงตัวเบาๆ เหมือนจะปลอบใจ

“เสี่ยวหลิงอย่าร้องไห้ เตี่ยไม่แกล้งแล้ว” เตี่ยหัวเราะอีกครั้ง ท่าทางจะสนุกที่เห็นผมกลัวสุนัขขนาดนั้น ผมหันไปมองทางอื่นไม่ยอมมองหน้าเตี่ย เตี่ยเห็นแบบนั้นเลยกอดผมเอาไว้แล้วหอมแก้ม ลูบหลังผมเบาๆ

“อย่างอนเตี่ยสิเสี่ยวหลิง เตี่ยขอโทษ เรานี่ท่าจะกลัวจริงจังนะ?” เตี่ยว่าพลางกลั้วหัวเราะ หยุดเดินแล้วมองไปทางเสี่ยไป๋ ผมก้มหน้ากับไหล่เตี่ยซักพักใหญ่ก็เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็มองตามสายตาของเตี่ยไป เสี่ยไป๋นอนหมอบกับพื้น ปล่อยให้ทุกคนลูบขนของมัน อ้าปากหาวกว้าง จากนั้นก็วางศีรษะลงบนขาหน้าของมันตามเดิม

เสี่ยไป๋ไม่เห่าแม้แต่ครั้งเดียว มันเรียบร้อยมาก ยอมให้ทุกคนลูบขนโดยไม่ข่วนหรือไม่กัดเลย ไม่เหมือนกับสุนัขหลายตัวที่ผมเคยเห็น ดังนั้น พอมองไปได้ซักพัก ความประหม่าและความกลัวก็เลยค่อยๆ หายไป

ผมกอดคอเตี่ยไว้ ดวงตาจ้องไปทางสุนัขที่นอนอยู่บนพื้น ทุกคนในบ้านที่ตอนแรกมุงเสี่ยไป๋อยู่เริ่มแยกย้ายกันไปทำงาน เจ้าสุนัขสีขาวเลยได้ที สะบัดขนไปมาแล้วเหยียดขาบิดขี้เกียจ

สะบัดหัวได้นิดหน่อย มันก็ยกศีรษะขึ้น จ้องผมตาแป๋ว

ผมสะดุ้งนิดหน่อย ดวงตาจ้องมองกับดวงตาสีดำกลมสวยคู่นั้น

เสี่ยไป๋จ้องผมอยู่นานก็ยืนขึ้น เดินสี่ขามาหาแล้วย่อขาหลังลง เอียงคอมองตาใส หางข้างหลังแกว่งไกวไปมา

“ว่าไง เสี่ยไป๋” เตี่ยทักไปแล้วยื่นมือลงไปลูบหัวมัน ขยับปลายนิ้วเกาคาง เจ้าหมาขนขาวครางงืดในคอ ยอมให้เตี่ยลูบแต่โดยดี

“เสี่ยวหลิงไม่อยากลองลูบขนเสี่ยไป๋บ้างหรือ” เตี่ยตั้งท่าจะหว่านล้อมผมอีกครั้ง แต่ผมส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เอา  อีกอย่าง ตอนนี้เตี่ยก้มตัวลงไปลูบหัวเสี่ยไป๋ ผมที่เตี่ยอุ้มไว้เลยอยู่ใกล้กับสุนัขตัวนั้นมาก ผมเลยกอดคอเตี่ยแน่น ตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก

เตี่ยเองเหมือนจะรู้ว่าผมกลัว ลูบหัวลูบคางสุนัขตัวโตอยู่ซักพักก็ยืดตัวขึ้นมา แต่ไม่ทันที่ผมจะโล่งใจ ก็ปรากฏว่าเสี่ยไปยืดตัวขึ้นยืนสองขา เกาะเอวเตี่ยแล้วพยายามตะปบผมที่เต่ยอุ้มไว้

ผมสะดุ้งเฮือก กอดคอเตี่ยไว้แน่น ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ส่วนเตี่ยเหมือนจะตกใจที่จู่ๆ เสี่ยไป๋ก็ปีนตัวเอง แต่ไม่ได้ล้มลงกับพื้นเพราะตั้งหลักทัน

เสี่ยไป๋ยื่นหน้ามาดมฟุดฟิดบนตัวผม ท่าทางเหมือนจะสนใจ ผมเลยได้แต่เกร็ง กอดเตี่ยตัวสั่น ตี่ยเห็นแบบนั้นเลยลูบหลังผม และเคาะหัวเสี่ยไป๋ไปเบาๆ

“เดี๋ยวเถอะ เสี่ยไป๋ ลงไปนั่งดีๆ” เตี่ยดุเสียงแข็ง ส่วนเจ้าสุนัขสีขาวตัวโตร้องหงิงแล้วลงไปนั่งดีๆ ทว่ายังจ้องมาที่ผมไม่วางตา สผมกอดคอเตี่ยไว้แน่น ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่กลัวจนตัวสั่นแล้ว

เตี่ยตบหลังปลอบผม ลูบหัวสุนันขนขาวฟูแล้วเดินออกมา เตี่ยบอกผมว่าไม่เป็นไร อีกซักพักคงจะกลับกันแล้ว ให้รีบไปลาปู่ใหญ่ย่าใหญ่และปู่รอง เราจะได้เลิกหายกลัวเสียที

ผมพยักหน้ารับ กำลังจะบอกให้เตี่ยปล่อยผมลงเดิน แต่พอเห็นว่าเสี่ยไป๋ยังเดินตามมาเลยเปลี่ยนใจ ยังกอดคอเตี่ยไว้ ไม่กล้าลงไปเดินเอง

อย่างน้อยให้เตี่ยอุ้มอยู่บนนี้ก็ปลอดภัยกว่านี่นา..

เสี่ยไป๋เดินตามเตี่ยมาจนถึงห้องของปู่ใหญ่ ตอนที่ลากันเรียบร้อย ปู่ใหญ่เห็นว่าสุนัขของตนท่าทางจะชอบผม (เพราะคอยป้วนเปี้ยนเตี่ยจะตะกายเล่นกับผมตลอด )  จึงบอกว่าเสี่ยวเสีย จะลองพาไปที่บ้านหน่อยไหม

ได้ยินแบบนั้น ผมก็สะดุ้งเฮือกทันที

เตี่ยเห็นผมกลัวก็หัวเราะ บอกปู่ใหญ่ไปว่าเตี่ยไม่มีเวลาดูแล อีกอย่าง ผมเองก็กลัวเสี่ยไป๋มากๆ ด้วย ถ้าพาไปเลี้ยงที่บ้าน ผมคงสะดุ้งกลัวจนไม่เป็นอันหลับอันนอน

ปู่ใหญ่ท่าทางแปลกใจมากที่ผมกลัวสุนัข คงเพราะบ้านเราส่วนใหญ่เข้ากับหมาได้ดีเพราะอิทธพลของปู่ทวด แต่ว่าจริงๆ แล้ว เด็กรุ่นราวคราวเดียกับผมจะกลัวสุนัขบ้างก็ไม่แปลกอะไร ดังนั้นท่านจึงเพียงหัวเราะ บอกว่าคราวหน้ามาอยากให้ผมลองเล่นกับเสี่ยไป๋ เพราะไม่ว่าอย่างไร สุนัขตัวนี้ก็เรียบร้อยและน่ารักมากจริงๆ ไม่กัดหรือทำให้เสี่ยวหลิงกลัวแน่นอน

เตี่ยบอกว่าคราวหน้ามาจะลองบอกให้ผมเล่นกับเสี่ยไป๋ แต่ผมคิดในใจว่าคงไม่เล่นด้วยแน่ๆ

ถึงยังไงก็กลัวอยู่ดีนี่นา..



++++++++++++++++



หลังจากนั้นเวลามาบ้านใหญ่ เสี่ยไป๋มักจะวิ่งแจ้นมาหาผมเสมอ และผมก็จะสะดุ้ง ขอให้เตี่ยอุ้มตนทุกครั้ง เสี่ยไป๋ถูกใจผมมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เวลาที่เจอผม ก็มักจะมาอยู่ใกล้ๆ คอยวนหน้าวนหลังจ้องตาแป๋ว แต่ผมเองก็กลัวเสี่ยไป๋มากเหมือนกัน อันที่จริงคือกลัวสุนัขไม่ว่าจะตัวไหน ดังนั้นทุกครั้งที่สุนัขสีขาวตัวนั้นเข้ามาใกล้ ผมจึงมักจะถดหนี หรือไม่ก็วิ่งให้เตี่ยอุ้มไว้เสมอ

พอเป็นแบบนี้หลายครั้งเข้า ปู่ใหญ่ก็แก้ปัญหา เวลาที่ผมมาบ้านก็จะขังเจ้าสุนัขขนฟูเอาไว้ไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน พอผมกลับถึงค่อยปล่อยออกมา ปกติแล้วเสี่ยไป๋ไม่มีบ้านสุนัข มีแค่ที่นอนเป็นเบาะนุ่มๆ เพราะบ้านเราเลี้ยงสุนับแบบปล่อย แต่ก็มีกรงคอกที่ปู่ทวดเคยใช้ล้อมสุนัขของท่าน ดังนั้นเวลาผมมา เสี่ยไป๋ก็จะไปอยู่ในนั้น

ผมรู้สึกโล่งอกที่ไม่ต้องผวาเวลามาบ้านปู่ใหญ่แล้ว แต่ก็รู้สึกผิดที่มันต้องถูกขังเวลาที่ผมมา ไม่มีอิสระเหมือนเวลาที่ผมไม่อยู่ อีกอย่างพอนึกดูแล้ว เสี่ยไป๋ก็เรียบร้อยมากจริงๆ ทุกครั้งที่ผมมาบ้านใหญ่ ถึงจะวิ่งมาหาผมทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยกระโจนใสหรือเห่าใส่ซักครั้ง อาจจะมีส่งเสียงบ้าง แต่ไม่ได้ดังน่ากลัวเหมือนที่ผมเคยเจอ เสี่ยไป๋มักจะจ้องผมตาแป๋ว ตะกายจะขึ้นมาหา ไม่ก็นั่งอยู่ข้างผมนิ่งๆ ไม่เคยพุ่งเข้ามาเลยซักครั้ง

เป็นสุนัขที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน..หรือไม่ อาจจะเพราะผมไม่คุ้นชินกับสุนัข ก็เลยไม่รู้ว่าสุนัขเป็นแบบนี้ทุกตัวหรือเปล่า เพราะถ้าหากว่าสุนัขทุกตัวเป็นแบบเสี่ยไป๋ ผมอาจจะกลัวไปเองก็ได้

เพราะคิดแบบนั้น เวลาไปบ้านใหญ่ ผมเลยพยายามจะเข้าใกล้เสี่ยไป๋หลายครั้ง แต่พอจะเดินเข้าไป ก็ต้องก้าวถอยหลัง…ถึงสมองบอกว่าไม่กลัวแล้ว ก็เหมือนร่างกายกับจิตใจผมยังกลัวอยู่ ห้ามไม่ได้จริงๆ

ผมรู้สึกเสียใจมากๆ เพราะว่าความจริงไม่อยากกลัวเสี่ยไป๋แล้ว แต่ผมเคยโดนสุนัขตัวโตเห่าใส่เสียงดัง พอนึกดูแลก็อาจจะฝังใจอยู่บ้าง (ทำให้ผมเผลอคิดไปถึงปู่รองนิดหน่อย..ผมคิดว่าตัวเองมีเรื่องฝังใจเยอะเกินไปแล้ว) แต่ผมคิดว่าผมชอบเสี่ยไป๋ แค่ยังไม่กล้าเข้าใกล้เพราะกลัวเท่านั้นเอง

ถ้าผมเลิกกลัวเสี่ยไป๋ได้เร็วๆ ก็คงดี



++++++++++++++++++++++++++++



วันนี้ ผมก็มาบ้านใหญ่อีกแล้ว

ระยะนี้เรามาบ้านใหญ่บ่อยมาก เพราะเตี่ยมีเรื่องจะปรึกษากับปู่รอง ความจริงแล้ว เตี่ยจะไปหาปู่รองทีร้านน้ำชาก็ได้ แต่เหมือนส่วนใหญ่เตี่ยจะคุยเรื่องที่ทำให้ต้องอยู่โยง ปู่รองไม่สะดวกจึงให้มาพบในวันหยุดที่อยู่บ้าน พอมาถึง เตี่ยก็ทิ้งผมไว้กับย่าใหญ่แล้วตามหาตัวปู่รอง ผมเล่นอยู่กับคุณย่าใหญ่ซักพัก ย่าใหญ่ก็เดินเข้าครัวไป ดังนั้นเลยกลายเป็นว่า ผมนั่งจ๋องอยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียว

นั่งไปได้ซักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมา

ที่ห้องนั่งเล่นไม่มีหนังสือ ย่าใหญ่ไม่มีวางเอาไว้ ดังนั้นผมจึงลงจากเก้าอี้ เดินไปที่ห้องหนังสือของปู่ใหญ่

ผมจำทางในบ้านใหญ่ได้แม่นมาก เพราะว่ามาหลายครั้ง เดินจนจำได้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน แต่ว่าปกติผมไม่ค่อยได้เดินไปเดินมา เพราะมักจะเล่นกับย่าใหญ่ปู่ใหญ่ในห้องนั่งเล่นเสมอ ความจริงผมเคยอยากถามว่าทำไมเตี่ยถึงไม่อยู่ที่บ้านใหญ่ เพราะบ้านใหญ่กว้างมาก ไม่เหมือนบ้านเรา แต่ผมคิดว่าถึงถามไป เตี่ยก็อาจไม่ยอมตอบคำถาม อีกอย่างคือ ผมชอบบ้านของเรามากๆ ทีเดียว

ดังนั้นก็เลยไม่ได้ถามออกไป

ระหว่างที่กำลังจะถึงห้องหนังสือของปู่ใหญ่ ผมก็สะดุ้งเฮือก เกร็งไปทั้งตัว

ครืด..

เสียงกรนเบาๆ ดังมาจากตรงหน้าผม ตอนนี้ เสี่ยไป๋กำลังนั่งหมอบขวางอยู่หน้าทางเดิน ร่างกายที่ขยับขึ้นลงและเปลือกตาปิดสนิทบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังหลับสบาย

ผมยืนตัวเกร็ง ถึงจะรู้ว่าเสี่ยไป๋หลับอยู่ก็ขยับตัวไม่ได้ ผมตัวแข็งทื่อ ดวงตาจ้องมองสุนัขขนฟูสีขาวที่นอนอยู่ข้างหน้าตน

ความจริงแล้ว เสี่ยไป๋ไม่ได้นอนขวางทางแม้แต่น้ย มันนอนหมอบหลบมุมทางเดินอยู่ แต่ขาผมแข็งมาก ทำยังไงก็ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้

ผมพยายามหันซ้ายหันขวา เผื่อจะมีใครเดินผ่านมา แต่ว่าบนทางเดิน ไม่มีใครอยู่แม้แต่น้อย

พอรู้แบบนั้น ผมก็ชักอยากจะร้องไห้ขึ้นมา แต่ว่าสูดลมหายใจลึกๆ เข้าไว้ จากนั้นก็หลับหูหลับตา พยายามจะเดินผ่านเสี่ยไป๋ไป

แต่ก่อนจะทำแบบนั้น ผมก็ชะงัก

..ผมตั้งใจอยากให้ตัวเองหายกลัวเสี่ยไป๋นี่นา

พอคิดแบบนั้น ผมก็หยุดฝีเท้าของตัวเอง มองไปทางเสี่ยไป๋ที่หลับสนิทอย่างหวาดๆ

อย่างน้อยถ้าเป็นตอนหลับ..ผมก็คงไม่กลัวมากล่ะมั้ง

ผมสูดลมหายใจลึก ก้าวขาทีละก้าวเข้าไปหาเสี่ยไป๋ ก่อนจะนั่งลงยองๆ ยื่นมือไปลูบขนบนหลังของมันอย่างกล้าๆกลัวๆ

“..ว้าว” ผมอดร้องออกมาไม่ได้ ตอนที่มือแตะลงบนแผ่นหลังของเสี่ยไป๋ ลูบขนนุ่มสลวยของมันนิดๆ ขนของเสี่ยไป๋นุ่มมากเหมือนที่เตี่ยกับปู่ใหญ่บอกไว้ แถมยังลื่นๆ ด้วย

ผมลูบขึ้นไปบนศีรษะมัน เหมือนด้ยินเสียงครางงี้ดจนผมสะดุ้งเฮือกถดมือ แต่พอเห็นว่ามันไม่ตื่นขึ้น ผมจึงลูบหัวต่อไป

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใกล้สุนัขได้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะกำลังหลับอยู่ก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่า ความกลัวจะหายไปบ้างแล้ว

ลูบหัวได้ซักพัก ผมก็ลองเลื่อนมือไปเกาใต้คางเหมือนที่เตี่ยทำ ดูเหมือนว่าเสี่ยไป๋จะชอบเพราะมันครางงี้ดขึ้นมา ไถศีรษะเข้ากับมือผม เห็นแบบนั้นปผมก็อดกลั้นยิ้มไม่ได้ จึงขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ใช้อีกมือหนึ่งยกขึ้นลูบศีรษะของมัน

ลูบไปลูบมาซักพัก ก็ปรากฏว่าเสี่ยไป๋ลืมตาขึ้น จ้องผมตาแป๋ว

ผมจ้องตอบกับมัน พอรู้ตัวก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่ปรากฏว่าผมโดนตะปบไว้ จากนั้นก็โดนสุนัขตัวยักษ์โถมใส่ทั้งตัวจนล้มไปนอนกับพื้น

ผมกลัวจนตัวสั่น ขดอยู่กับพื้น กลัวว่าจะโดนงับหรือโดนเห่าใส่ แต่ปรากฏว่าไม่เกิดอะไรแบบนั้นขึ้น

เสี่ยไป๋แค่เลียหน้าเลียตาผม ไถแก้มนุ่มๆ กับแก้มผม จากนั้นก็ผละออกไป จ้องมองตาใส

ผมจ้องดวงตากลมโตสีดำสนิทนั้นกลับไป ไม่นานนักเสี่ยไป๋ก็ลุกไปนั่งแล้วส่ายหางไปมา ส่วนผมลุกขึ้นนั่งพับเพียบ มองเสี่ยไป๋อย่างลังเล

“กะ..กอดได้ไหม?” ผมถามเสี่ยไป๋ พอนั่งแบบนี้แล้วสุนัขสีขาวตัวนี้ก็สูงเท่าผม แล้วพอถามไปผมก็สงสัยตัวเองว่าจะถามไปทำไม…ก็ยังไงถึงสุนัขที่อยู่ตรงหน้าผมเข้าใจ ก็ตอบผมไม่ได้ไม่ใช่หรือ

เสี่ยไป๋เอียงคอใส่ผม ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ แต่พอยื่นมือเข้าใกล้แล้วไม่กัดหรือหนี ผมจึงค่อยๆ โอบร่างสีขาวฌพลัน และกอดเบาๆ

สุนัขตัวโตตัวนี้ขนนุ่มมาก พอกอดแล้วรู้สึกเหมือนกอดหมอนข้างใบโตๆ  ผมอดไม่ไหวเลยกอดแน่นขึ้น ซุกหนเลงกับกลุ่มขนนุ่ม

เสี่ยไป๋ยอมให้ผมกอดแต่โดยดี เหมือนจะขยับจมูกมาดุนแก้มผมไว้ จมูกเปียกๆของเสี่ยให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ

ผมสูดลมหายใจลึกทีนึง ก่อนจะผละออกมา แล้วก็พบว่า ตนไม่กลัวเสี่ยไป๋แล้วจริงๆ

นั่นทำให้ผมดีใจมาก จึงกลั้นยิ้มอีกครั้ง ใบหน้าร้อนขึ้นมาอย่างที่ถ้าดูกระจกก็เห็นริ้วแดงจางๆ ผมกอดสุนัขขนฟูสีขาวแน่นๆอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมา

เสี่ยไป๋นิ่งให้ผมกอดครู่หนึ่ง พอผมปล่อยออกก็จ้องตาแป๋ว จากนั้นก็งับแขนเสื้อผม ดึงๆให้ไปด้วยกัน

ผมงงมาก ไม่เข้าใจว่าทำไม ปรากฏว่าเสี่ยไป๋ดึงผมเข้าไปในห้อง อ้าปากปล่อยเสื้อ แล้ววิ่งไปคาบลูกบอลยางอันเล็กๆมาให้ผม

พอเห็นแบบนั้น ผมก็เลยเข้าใจ

“อยากให้โยนเหรอ?” ผมถามมันไป ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ก็เหมือนว่าเสี่ยไป๋จะพยักหน้า

ผมลองโยนออกไปเบาๆ ลูกบอลไปไกลถึงอีกฟกของห้อง เสี่ยไป๋พุ่งไปคาบลูกบอลลูกนั้น แล้วคาบกลับมาให้ผม ส่งสายตาเป็นประกายบอกให้ผมโยนอีกรอบ

ผมรับลูกบอลยางมาจากปากของเสี่ยไป๋ โยนออกไปให้มันวิ่งไปรับอีกหลายครั้ง บางครั้งลูกบอลตกลงไปหลังเก้าอี้ที่มันไปเอาไม่ถึง ผมก็ต้องวิ่งไปหยิบออกมาให้แล้วโยนใหม่ และเพราะเล่นในห้อง ผมจึงกลัวมากว่าจะโยนอไปโดนอะไรแตกเข้า ดังนั้นจึงวิ่งเปลี่ยนมุมอยู่เรื่อย เราเล่นกันซักพักใหญ่ผมก็เริ่มปวดแขน ดังนั้นจึงผมล้มตัวลงนอน บอกเสี่ยไป๋ว่าขอพักแป๊บหนึ่ง

เสี่ยไป๋เหมือนจะรู้ มันคาบลูกบอลกลับมาแล้วนั่งลงข้างตัวผม ขดตัวนอนลงข้างๆดุนจมูกเปียกๆ กับใบหน้าผมแล้วแลบลิ้นเลีย

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ปกติผมเป็นคนหัวเราะยาก แม้แต่เวลาจะยิ้มยังเขินจนหน้าแดง แต่เพราะว่านี่เป็นสถนัขกหรือเปล่า ผมถึงไม่เขินที่จะยิ้มและหัวเราะออกมา

ผมกอดเสี่ยไป๋เอาไว้ ขดตัวนอนพิงศีรษะกับช่วงลำตัวใกล้คอมัน จากนั้น เพราะความอ่อนเพลีย ก็ดูเหมือนผมจะหลับไป

นอนขดซุกกับสุนัขตัวโตที่ได้เป็นเพื่อนกันในที่สุด


+++++++++++++++++++++++


“เสี่ยวหลิง อยูไหนลูก” ผมร้องเรียกหาลูกชายของตน ตอนนี้ผมคุยธุระกับอารองเสร็จแล้วจึงตั้งใจว่าจะกลับบ้าน แต่เสี่ยวหลิงไม่ได้อยู่ที่ห้องนั่งเล่น คาดว่าคงจะเดินเล่นอยู่ในบ้าน

ผมเข้าใจว่าเสี่ยวหลิงน่าจะไปที่ห้องของเตี่ย ลูกชายคนนี้ชอบอ่านหนังืสอ แต่ปรากกว่าผมเดินไปถึงห้องหนังสือ ก็ไม่มีใครอยู่

“เสี่ยวหลิง อยู่ไหนลูก เสี่ยวห..” พอเดินผ่านห้องห้องหนึ่ง ผมก็เงียบเสียงลง มองเข้าไปภายใน ขยี้ตาอย่างอดจะเชื่อภาพที่ตนเห็นอยู่เบื้องหน้าไม่ได้

แต่เมื่อพบว่าตนไม่ได้ฝัน และไม่ได้ตาฝาดไป ผมก็ระบายยิ้มกว้างเต็มปาก กลั้นหัวเราะไม่ให้คนในห้งอรู้ตัวอย่างเต็มกำลัง

“อู๋เสีย มาทำอะไรแถวนี้” อารองทักผมระหว่างที่เดินมา ผมแตะนิ้วกับปากตัวเองเป็นเชิงให้เขาเงียบ ก่อนจะชี้ไปที่มุมมุมหนึ่งในห้อง

ผมหันไปมองอารองที่นิ่งไป เขาดันแว่นครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินจากไป “ฉันจะไปเอากล้อง แกระวังอย่าให้หลานตื่น”

ได้ยินแบบนั้นผมก็กลั้นยิ้ม อารองไปไวมาก ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกล้องตัวโปรดของแก อารองยกกล้องขึ้น ปรับมุมโฟกัส จากนั้นเสียงถ่ายรูปก็ดังขึ้น แน่นอนว่าเสียงนั้นเบามาก ไม่รบกวนคนที่อยู่ในห้องแม้แต่น้อย

ไม่นานนัก เตี่ยกับม๊าผมก็เดินมา สงสัยว่าอารองกับผมยืนทำอะไรอยู่ พอเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง ทั้งสองคนก็ยิ้ม มองภาพนั้นด้วยกันกับผมเงียบๆ

ตรงนั้น ลูกชายของผมกำลังนอนหลับสบาย ขดตัวกอดอยู่กับสุนัขตัวโตสีขาวที่ทำท่าจะหลับสบายไม่แพ้กัน

ดูจากรอยยิ้ม ก็ดูเหมือนว่ากำลังฝันดี



TBC
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4015
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by natsume Wed 15 Jul 2015, 21:51

//กรีดร้องบ้านแตก
//เป็นคนชอบหมา T^T
//น้องหลิงกะหมา น่ารักมากกกกกกกกกกกก
//แทบอุทานไม่เป็นภาษาคน
natsume
natsume
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 97
Points : 3481
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Wed 15 Jul 2015, 22:01

อาวุธประจำตัวอารอง > กล้องถ่ายรูป
ฮา มุ้งมิ้งเชียวนะครับท่าน

อดเกาหัวแกรกๆไม่ได้ ทำไมกลัวหมานิสัยเรียบร้อยขนาดนี้ล่ะเสี่ยวหลิงเอ้ย //คำพูดจากคนที่เจอหมาแล้วหมาวิ่งหนี ฮ่าๆ
แต่พอเปรียบหมาเป็นแมลงสาบ.... เอ่อ ผมว่าผมพอเข้าใจละ... //หมาไม่กล้าเข้าใกล้ผม แต่ผมวิ่งหนีแมลงสาบ ฮือ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3809
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by tamahome Wed 15 Jul 2015, 22:16

อารองติดกล้องมากๆค่ะ อาควรได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์กล้องหรือสมาร์ทโฟน "ทุกความประทับใจ เก็บภาพลูกหลานคุณได้ด้วยกล้องตัวนี้" 555555 /ตั้งกะคอสเพลย์แล้วนะคะอารองขา กรั่กๆๆๆๆ

เสี่ยไป๋นี่ต้องพันธุ์ทิเบเทียนมาสทิฟฟ์แน่ๆ ตัวใหญ่ๆ ตรงข้ามกะซันชุ่นติง 5555555
tamahome
tamahome
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 32
Points : 3465
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Wed 15 Jul 2015, 22:59

แกร้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เด็กๆกับน้องหมา น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก
โฮรววววว ค่อยๆกระดึ๊บเข้าไปหากัน น้องซานหลิงผู้อ่อนโยน แงงงงงงง
คุณอารองผู้มีกล้องเป็นอาวุธ แงงง ชอบบบบบบบ ซื้อออออออออ
อารองปาปาราซซี่หลาน //คลานไปกอดขา ขอซักรูปสิคะ---โดนถีบ
เห็นแบบนี้แล้ว อยากให้มีโมเม้นท์อ้อนคุณป๊าของเลี้ยงหมาจังเยย
อยากให้คุณป๊าของน้องได้เลี้ยง/ฝึกหมาด้วย ต้องดีมากแน่ๆ
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3595
Join date : 21/06/2015
Age : 28
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Thu 16 Jul 2015, 01:07

ง่อววว เสี่ยวหลิงน่ารักมากค่าา เสี่ยไป๋ก็น่ารัก อยากลองลูบขนจัง
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3791
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Yuwadee Wana Thu 16 Jul 2015, 01:27

อร้ายยยยย อ่านแล้วยิ้มจนแก้มจะแตกอ่ะ
เสี่ยวหลิงกับเสี่ยไป๋จะน่ารักไปแล้ววววว
แล้วอารองคะ จะเห่อหลานไปไหนคะ เอะอะถ่ายรูปตลอด ตั้งแต่ตอนคอสเพลย์แหละ ขอดูรูปบ้างสิคะ ขออัดรูปด้วยสักโหลนึง
Yuwadee Wana
Yuwadee Wana
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 352
Points : 3789
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by HaiSaka Thu 16 Jul 2015, 08:09

เสี่ยวไป๋แลเรียบร้อย เสี่ยวหลิงน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย เลิศศศศศศศ
HaiSaka
HaiSaka
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 20
Points : 3280
Join date : 17/04/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ