Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

+5
mage
Duke_of_Florence
Narakas
casey
Snake_Blind
9 posters

Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by Snake_Blind Wed 10 Dec 2014, 23:45

[AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย]
Part Intro

-------- Part 1 --------

เสียงกระทบของอาวุธดังสอดประสานกับเสียงโหวกเหวกของชายฉกรรน์หลายคน ท่ามกลางความวุ่นวายคือชายหนุ่มผมดำ
ที่มีใบหน้าราวปะติมากรรม ชายหนุ่มยกดาบสีดำทมิฬในมือ รับการโจมตีของคนนับสิบ แล้วสวนกลับไปอย่างไม่ยากเย็น
การเคลื่อนไหวไร้ที่ติ ทุกการเหวี่ยงดาบ จะต้องมีคนล้มไป 1 คน ใช้เวลาไม่นานผู้คุมทั้งหมดก็สิ้นใจอยู่ที่พื้นรอบตัว
ลวดลายกิเลนที่ผาดผ่านผิวขาวซีด ทำให้ภาพอันน่าตกตะลึงตรงหน้า เป็นดั่งภาพวาดอันแสนงดงาม

“ฝ่าบาท คนของเราจับพวกพ่อค้าทาสที่เหลือไว้แล้ว จะเอาอย่างไรต่อ”

ชายร่างอ้วนในชุดผ้าคลุมแบบชาวทะเลทรายรุ่มร่ามเดินเหยียบข้ามซากศพเข้ามาใกล้ พลางยื่นผ้าคลุมสีน้ำเงินรัตติกาลให้
ชายผมดำที่ถูกเรียก ถึงจะใช้คำแทนตัวอย่างนอบน้อม แต่น้ำเสียงและคำพูดอื่นๆกับพูดด้วยคำพูดเหมือนเป็นสหายกันมากกว่า
มือขาวที่มี 2 นิ้วยาวมากกว่าปกติเอื้อมมารับไปคลุมไหล่ลวกๆ ดวงตาเรียบเฉยกวาดตามองไปรอบๆ

“ฆ่าทิ้ง”

เสียงเรียบเฉยพูดโดยไม่มีแววลังเล ชายร่างอ้วนโค้งคำนับคำสั่งแบบทีเล่นทีจริง แล้วเดินจากมา แต่ถึงกระนั้นผู้ที่มีศักดิ์เป็น
กษัติรย์กลับไม่คิดถือโทษอะไร เอาแต่เหม่อมองไปรอบๆกาย

ฉับพลันเขาได้ยินเสียงร้องของเด็กดังลอยมาแตะโสตประสาท ขายาวก้าวเดินไปตามเสียงไปทางด้านหลังกระโจมหลังหนึ่ง
จึงพบกับเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้เสียงดัง ในอ้อมกอดมีร่างของเด็กหนุ่มที่ดูผิดแปลกไปจากคนทั่วไปที่เขาเคยพบ
กำลังนอนหอบหายใจรวยริน หน้าซีดเผือกด้วยอาการเสียเลือด ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ เรียกความสนใจของเด็กน้อยจากร่างตรงหน้า

“อะ องค์ราชา องค์ราชาเพคะ ได้โปรด ช่วย ช่วยพี่อู๋เสียของข้าด้วย”

เสียงเล็กอ้อนวอนปนสะอื้น มือเล็กๆที่พยุงศีรษะของเด็กหนุ่มสั่นไหว ดวงตาคมที่เรียบเฉยตลอดเวลา บัดนี้สะท้อนดวงหน้าของเด็กหนุ่ม
ร่างสูงคุกเข่าลงก่อนใช้ฝ่ามือเกลี่ยไปตามดวงหน้าขาวซีด การกระทำของคนตรงหน้าคล้ายตกอยู่ในภวังค์ หลิ่งจีไม่กล้าแม้แต่จะ
เปล่งเสียงหรือขยับตัว ก่อนจะรู้ตัว ชายหนุ่มที่ถูกเรียกขานว่าองค์ราชากลับดึงผ้าคลุมบนไหล่มาคลุมตัวเด็กหนุ่มแล้วอุ้มขึ้นแนบอก
เสียงกระพรวนดังกังวาลตามแรงขยับ ดึงความสนใจให้ตาคมมองเพียงชั่วครู่ก่อนก้มหน้าลงมองเด็กน้อย

“เจ้าชื่ออะไร”

มือเล็กปาดน้ำตาบนหน้าตัวเอง ก่อนรีบลุกขึ้นยืนแล้วถวายความเคารพแก่ผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่า

“หลิ่งจีเพคะ”

“.....มาเถอะหลิ่งจี”

เสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ร่างสูงเดินนำออกมาโดยไม่พูดอะไรต่อ หลิ่งจีรีบวิ่งตามมาเกาะชายผ้าคลุมที่ตอนนี้
ห่อหุ้มร่างของคนที่เธอเรียกว่าพี่ชายเอาไว้แน่น ถึงแม้จะเป็นห่วงเท่าใด แต่อะไรบางอย่างในการกระทำของคนตรงหน้า
ทำให่้เธอเชื่อว่าองค์ราชากิเลนจะไม่ปล่อยให้พี่ของเธอต้องเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน

.

.

.

.

เสียงแตรดังขึ้น ณ ยอดป้อมแห่งหนึ่ง ก่อนจะส่งต่อ สอดประสานดังไปจนทั่วอาณาจักรเล็กๆที่รายล้อมไปด้วยหมู่แมกไม้
ชาวอาณาจักรต่างพากันละทิ้งหน้าที่ทั้งหมด แล้ววิ่งมารวมตัวกันเพื่อรับเสด็จกองทัพกิเลนขององค์กษัตริย์ กองทัพกิเลนนั้น
เดินทางออกไปตามล่าขบวนพ่อค้าทาสเพื่อนำพาเหล่าเด็กๆแห่งอาณาจักรกลับมา เป็นเวลาหลายวันที่ไร้ข่าวสารจากกองทัพ
ชาวบ้านแม้จะเชื่อมั่นในแสงยานุภาพของกษัตริย์หนุ่ม แต่ก็อดหวั่นเกรงไม่ได้ว่า กองทัพอาจจะเดินทางไปไม่ทันการ

“เปิดประตู!!!!!”

เสียงนายทหารที่ประจำอยู่บนกำแพงเมืองออกคำสั่ง เหล่าทหารที่เหลือต่างช่วยกันออกแรงดึงบานประตูใหเปิดออก
ก่อนขบวนทหารจะทยอยผ่านประตูเข้ามา ความหวังฉาบอยู่บนทุกใบหน้าที่มารอรับ ก่อนทหารนายนึงจะเลิกประตูผ้าของเกวียนขึ้น
และปล่อยให้เด็กๆออกมา ผู้เป็นบิดามารดาและเครือญาติของเด็กๆที่ถูกจับไป ต่างถลาออกมาข้างหน้า คว้าร่างเล็กๆที่
แสนน่าทะนุถนอมเข้าไปในอ้อมกอด ประชาชนทั่วไปต่างส่งเสียงโห่ร้องอย่างปิติยินดี เกิดบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองไปทั่ว

แต่เสียงดังแซ่งแซ่ก็โรยราลงเมื่อม้าของกษัตริย์หนุ่มเดินผ่านกรอบประตูมา ในอ้อมแขนของร่างสูงมีร่างที่ถูกห่อด้วยผ้าคลุม
ประจำกายนอนหลับไหลอยู่ สร้างความฉงนสงสัยแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียง เมื่อตัวกษัตริย์หนุ่มเอง
ไม่คิดจะกล่าวอะไรต่อประชาชน ได้แต่ควบม้าเงียบๆ มุ่งหน้าสู่เขตพระราชวัง ประชาชนทุกคนไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไร
สัมผัสได้ถึงก้อนความสงสัยที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจของทุกคน องค์ราชาพาใครกลับมา? ทำไมร่างนั้นถึงแน่นิ่งไม่ไหวติง?

ท่ามกลางความอึมครึม เสียงปรบมือดังลั่นเรียกความสนใจ ทุกสายตาหันกลับไปหาชายร่างอ้วนที่ปีนขึ้นมาบนลังขนาดใหญ่
เพื่อให้ทุกคนมองเห้นตนชัดๆ ก่อนป่าวประกาศเสียงดัง

"เอาล่ะ ในเมื่อพวกเด็กๆกลับมาถึงโดยปลอดภัย ข้า หวังพั้งจื่อ ในฐานะหัวหน้าองค์รักษ์และมือซ้ายขององค์ราชา
ขอประกาศว่าให้มีการเฉลิมฉลองเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน นับแต่บัดนี้ไป แต่ถ้าอาหนิงถาม ให้พวกเจ้าบอกว่าเป็นความคิดขององค์ราชาเสียล่ะ"

เสียงหัวเราะครื้นเครงดังไปทั่วทั้งบริเวณ ก่อนที่ทั้งอาณาจักรเข้าสู่การเฉลิมฉลองโดยสมบูรณ์ ข้าวปลาอาหารและสุราถูกยกมาให้
เหล่าทหารกล้าในทันใด เสียงดนตรีดังกังวาล ผู้คนเต้นรำ พูดคุย และ หัวเราะให้กับข่าวดีของเมือง

แต่ห่างออกไปในส่วนลึกของเมือง อาคารปลูกสร้างขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน เป็นที่ประทับผู้ปกครองซึ่งเป็นดั่งตัวแทนของทวยเทพ
ร่างสูงผมดำควบม้าผ่านความเงียบสงัด เข้าไปถึงส่วนทางเข้าซึ่งมีทหารยืนรักษาการณ์อยู่ ทหารผู้น้อยเมื่อเห็นกษัตริย์หนุ่มควบม้า
เข้ามาคนเดียวก็สะดุ้งโหยง รีบทำความเคารพกันยกใหญ่ ฝ่ายผู้มีศักดิ์ไม่ได้สนใจอะไร ตวัดขาลงจากหลังม้าทั้งๆที่ยังอุ้มเด็กหนุ่มไว้แนบอก
ก่อนเดินขึ้นบันไดอันแสนวิจิตรเข้าสู่ตัวอาคาร

“ยินดีต้อนรับกลับสู่วังขอรับ องค์ราชาจางผู้ยิ่งใหญ่”

เสียงลึกลับดังขึ้นท่ามกลางทางเดินที่เงียบเชียบ คนถูกเรียกไม่ได้แสดงท่าทีสนใจอะไร ยังคงเดินก้าวอย่างมั่นคงไปตามทาง
จนคนเอ่ยทักอดไม่ได้ ต้องแสดงตัวออมาจากมุมมืดที่ซ่อนตัวอยู่ ชายหนุ่มในชุดแบบชาวทะเลทรายสีดำทั้งตัวก้าวอย่างกระชับกระเฉง
เพียงไม่นานก็เดินตีคู่เคียงข้างไปกับกษัตริย์หนุ่ม ดวงหน้าคมที่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และ ดวงตาที่ผู้ปิดทับไว้ด้วยผ้าโปร่งบางสีดำ
เพิ่มความลึกลับให้เจ้าตัวไปอีกเท่าตัว

“ข้าได้ข่าวว่าพวกท่านเดินทางกลับมาพร้อมกับเด็กๆที่หายไป ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเสียจริง หวังพังจื่อคงมีข้ออ้างให้เมาหัวราน้ำ
ไปอีกหลายวันเชียว โอ๊ะ ดอกไม้ทะเลทรายหรือท่าน”

เสียงทุ้มแสร้งทำทีเป็นประหลาดใจ เหมือนพึ่งสังเกตเห็นร่างที่อยู่ในอ้อมแขนของอีกคน ยื่นมือกร้านไปหมายจะแตะดวงหน้าของคนที่ยังหลับอยู่

“เฮยเสียจื่อ”

มือใหญ่ชะงักค้างกลางอากาศ เงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีดำของผู้ที่เอ่ยเรียกชื่อตน ทั้งสองยืนมองกันเพียงชั่วครู่
เฮยเสียจื่อก็ตัดสินใจหดมือกลับมาไว้ข้างตัวเหมือนเดิม

“ข้าจะไปบอกอาหนิงให้ว่าท่านกลับมาแล้ว”

ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่รังสีทะมึนของคนหน้ามึน ก่อนจะโดดขึ้นหน้าต่างบานสูง หายไปอย่างเงียบกริบเหมือนตอนขามา
ทิ้งให้ความเงียบกลับมาโรยรอบตัวบุรุษผมดำที่บัดนี้ปัดสำหน้าอึมครึมทิ้งไป เหลือเพียงความนิ่งเงียบเฉยชาตามเดิม
ขายาวๆก้าวเดินไปตามทางเข้าสู่ส่วนลึกของวัง

.

.

.

.

“อือ…..”

เสียงครางในลำคอดังออกมาจากเตียงกว้างที่มีเด็กหนุ่มผมน้ำตาลนอนอยู่ ร่างกายปวดเมื่อยไปทุกส่วน ผิวกายแผ่ความร้อนจากพิษไข้
แต่นอกเหนือจากอาการป่วยไข้ เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดที่แผ่นหลัง เสมือนว่าเหตุการณ์ในทะเลทรายครั้งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น
เด็กหนุ่มพลิกกายนอนตะแคงข้าง ซุกหน้าลงกับหมอนใบโต คิดว่าแท้จริงแล้วเขาคงป่วย แล้วก็เหตุการณ์ทั้งหมดก็คงเป็นแค่ฝันร้ายจากพิษไข้

แต่เมื่อกลิ่นสมุนไพรจางๆที่ไม่คุ้นเคยลอยมาแตะจมูด ทำให้ดวงตากลมโตเบิกตาโพลง พลิกตัวนอนหงายอย่างรวดเร็ว
กล้ามเนื้อส่งเสียงประท้วงแต่สมาธิทั้งหมดของอู๋เสียกลับไปตกอยู่ที่เพดาน……...เพดานสูง ที่สลักภาพกิเลนสง่างามตัวใหญ่
กำลังเดินอย่างสง่างามเหนือก้อนเมฆ เขาแน่ใจว่าหอพักเล็กๆ ของนักศึกษา หรือแม้กระทั้งบ้านใหญ่ตระกูลอู๋ ไม่เคยมีการสลักรูปภาพ
กิเลนขนาดใหญ่อย่างงี้ไว้บนเพดานแน่นอน

ตั้งสติได้ ตัวของอู๋เสียก็เด้งพรวดขึ้นมาจากเตียง แผ่นหลังที่คิดว่าไม่เจ็บปวดตอนแรก เมื่อขยับตัวจนแผลตึงจึงพึ่งรู้สึก
เด็กหนุ่มให้เวลาตัวเองโอดโอยสักพัก ก่อนจะกวาดตามองไปทั่ว

ห้องขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งอย่างวิจิตร แต่ถึงกระนั้นก็มีเครื่องเรือนประดับเพียงน้อยชิ้น หากไม่นับเตียงหลังใหญ่
ที่ประมาณด้วยสายตาแล้วคงจับคนมานอนเรียงได้สัก10คน ก็มีเพียงโต๊ะเขียนหนังสือตัวใหญ กับ ชั้นวางม้วนคัมภีร์ เท่านั้น
ช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับขนาดห้อง ราวกับเจ้าของห้องไม่สนใจประดับตกแต่งอะไรทั้งนั้น

ที่ไหนอีกวะเนี่ย????!!!!!!!

เด็กหนุ่มกรีดร้องในใจ พยายามรีดเร้นความทรงจำสุดท้าย ก็นึกถึงหลิ่งจีกับพวกกองโจรขึ้นมา แต่โจรคงไม่อยู่ในที่โอ่อ่าแบบนี้
หรือเขาจะถูกขายมาในระหว่างที่ยังไม่ได้สติกัน? มือเพรียวยกขึ้นกุมขมับด้วยความปวด แล้วก็พึ่งสังเกตว่าตนไม่ได้ถูกสวมกำไลกระพรวนอีกแล้ว
ก้มลงสำรวจตัวเอง ชุดเดินทางของตนถูกเปลี่ยนออก กลายเป้นเสื้อผ้าสไตล์ชาวทะเลทราย กางเกงแบบผูกตัวหลวมโคร่งเกาะอยู่
บนสะโพกอย่างหมิ่นเหม่ เสื้อคลุมเนื้อบางสีขาว มันบางเสียจนแทบจะมองทะลุได้ อู๋เสียหน้าเห่อร้อนด้วยความเคอะเขินเมื่อเห็น
เครื่องแต่งกายของตน รีบจับกางเกงมาผูกใหม่ให้ แล้วหยิบผ้าห่มผืนที่เล็กที่สุดในบรรดาเครื่องนอนขึ้นมาห่มคลุมตัวเอง

เมื่อได้ของปกปิดกายแล้ว เด็กหนุ่มจึงค่อยๆขยับลงจากเตียง ขาเพรียวออกอาการสั่นเล็กน้อยอู๋เสียจึงค่อยๆเกาะกำแพง
เดินลัดเลาะไปจนถึงประตูซึ่งทะลุออกไปถึงระเบียงสวนสีเขียวขจี ความสวยงามของสวนลอยฟ้ายังไม่อาจทำให้เด็กหนุ่มตื่นตะลึงได้เท่า
ภาพวิวทิวทัศน์ของนครแห่งทะเลทราย ความงดงามและมีชีวิตชีวาแบบที่มองยังไงก็ไม่มีทางอยู่ในยุคสมัยเดียวกับเขาอย่างแน่นอน
นี่มันจะแปลกเกินไปแล้ว คาราวานทาสกลางทะเลทราย ผู้คนพูดภาษาโบราณ แถมยังหลงมาอยู่ในอาณาจักรโบราณย้อนยุคอะไรนี่อีก
มือเพรียวกำขอบระเบียงแน่นจนขึ้นข้อนิ้วกลายเป็นสีขาว สมองอื้ออึงไปด้วยข้อสันนิฐานนับร้อยที่มองยังไงก็เหนือมนุษย์เกินไปหน่อย
ในขณะที่กำลังประมวลผลหาทางออก กลับมีสัมผัสทาบลงบนหัวไหล่ อู๋เสียรีบสะบัดตัว ปล่อยผ้าห่มร่วงลงพื้น ถอยหนีพลางหันกลับไป
มองด้วยความตื่นตระหนก

เบื้องหน้าของเขาคือ ชายหนุ่มตัวสูง รูปร่างติดผอม แต่เต็มไปด้วยกล้ามมัดพอปะมาณ ท่าทางแก่กว่าเขาเพียงไม่กี่ปี
นัยน์ตาสีดำสนิทเรียบนิ่งไม่ต่างกันใบหน้า มือที่ยกข้างอยู่ทำให้อู๋เสียแน่ใจว่านี่คือผู้ที่แตะต้องตัวตนอย่างกระทันหันเมื่อกี้

ใคร?? มาจากไหน???? ทำไมเราไม่ได้ยินเสียงเลย???????

ความหวาดระแวงก่อตัวเป็นความหวาดกลัว อู๋เสียส่ายตาหลุกหลิกหาทางหนี พลางก้าวถอยหลังหนี หมายจะอยู่ให้ห่างคนแปลกหน้า
ให้มากที่สุด แต่พอเขาขยับก้าวขา 1 ก้าว คนตรงหน้ากลับก้าวตามมาอีก 2 ก้าว ยิ่งขยับหนีกลายเป็นยิ่งใกล้ จนในที่สุดก็เป็นอู๋เสีย
ที่ทนความอึดอัดปนน่าหวาดกลัวไม่ไหว ตัดสินใจหยุดยืนแล้วยกมือขึ้นห้าม

“ดะ เดี๋ยว ท่านคือใคร ตะ ต้องการอะไรจากข้า”

เด็กหนุ่มเอ่ยภาษาจีนโบราณออกมาอย่างกระท่อนกระแท่นใส่คนตรงหน้าที่ชะวักค้างไปนิดนึง ความเงียบโรยตัวรอบทั้งสองอยู่สักพัก
จนในที่สุดอู๋เสียที่ยืนตัวสั่นก็ตัดสินใจะอ้าปากพูดอีกรอบเพราะคิดว่าคนตรงหน้าไม่เข้าใจที่เขาพูด

“ข้าถามว่า ท่านคือคะ---- เหวออออ”

เพราะความเงียบที่ทำให้เด็กหนุ่มลดการ์ดลง จังหวะเดียวกันนั้นเองข้อมือผอมโดนคว้าจับไว้ พร้อมออกแรงดึงร่างบางให้เดินตาม

“เดี๋ยว!!! จะพาผมไปไหน??!! ปล่อยนะ!!!!!”

อู๋เสียตื่นตระหนก พ่นภาษาจีนกลางเป็นพรืด พยายามแงะมือที่รัดข้อมือจนอยู่ แต่มือกร้านที่มีนิ้ว 2 นิ้วยาวเป็นพิเศษกลับล็อกแน่น
เขาทั้งดิ้น ทั้งทุบ แต่คนตรงหน้ากลับไม่สะทกสะท้าน ใช้แรงฝืนลากจนกลับมาถึงเตียงใหญ่

“นอน”

คำสั่งสั้นห้วน แต่ทรงอำนาจ อู๋เสียเผลอชะงักไปชั่วครู่ ก่อนทำตัวดื้อดึง ไม่ยอมหย่อนกายบนเตียงกว้าง ยืนแข่งจ้องตากับร่างสูง
จนสุดท้ายคนออกคำสั่งทนไม่ไหว รวบตัวคนดื้อขึ้นก่อนโยนลงเตียงด้วยความรวดเร็ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมากจนคนถูกรวบตัวไม่ทันได้ตั้งตัว รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ร่างกายแนบลงกับผ้าปูเตียงนุ่มๆ อู๋เสียรีบดันตัวพรวด
พยายามจะพุ่งออกจากเตียง แต่ถูกมือแกร่งจับแขนทั้ง 2 ข้างแล้วดันลงกับเตียง เด็กหนุ่มพยายามดิ้น ออกแรงสู้ แต่ก็ได้ผลเหมือนเดิม
จนอาการไข้เริ่มกำเริบ รู้สึกมึนหัวจนจำต้องยอมนอนนิ่งๆ

“ตะ ต้องการอะไร”

อู๋เสียกระซิบเสียงสั่นเครือ ตอนนี้เขาไม่มีแรงต่อกรคนแปลกหน้าคนนี้แล้ว คงได้แต่ต้องพยายามต่อลองกันด้วยคำพูด

นัยน์ตาสีรัตติกาลจ้องมองสักพัก ก่อนคนที่เสมือนเป็นใบ้ จะยอมเปิดปากพูดอีกรอบ

“นอนซะ เจ้ายังไม่หายดี”

พูดจบก็ใช้สายตากดดันด้วยอีกแรง จนอู๋เสียต้องทำใจ พยักหน้ารับเบาๆ มือแกร่งถือยอมคลายแล้วผละออก แต่สายตากดดันก็ยังคง
จ้องอยู่จนอู๋เสียมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม ร่างสูงจึงทำท่าเหมือนวางใจ หมุนตัวเดินตรงไปที่ประตูห้องโดยมีดวงตากลมโตของคนอ่วยมองตามไม่ห่าง

“ช้าก่อน!!”

ตะโกนออกไปแล้วถึงกับอยากจะกัดลิ้นตัวเอง อู๋เสียไม่เข้าใจว่าเขาจะทำแบบนั้นทำไม แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เผลอตะโกนเรียกไปเสียแล้ว
บุรุษผู้เงียบขรึมหันมามอง บนใบหน้าที่ติิดจะนิ่งเรียบมีประกายแห่งความสงสัยเคลือบอยู่เบาบาง

“เอ่อ...คือ…..ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ”

อู๋เสียเอ่ยถามเสียงอ่อมแอ่มพลางเอาหน้าซุกกับหมอน เป็นอีกครั้งที่มีความเงียบเป็นคำตอบ จนอู๋เสียคิดว่าคนหน้ามึนคงจะ
เดินออกจากห้องไปโดยไม่ตอบคำถามของเขาเสียแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อบุรุษผมดำบัดนี้กลับมายืนที่ข้างเตียง
พร้อมกับเสื้อคลุม 1 ตัวที่มีลักษณะคล้ายกับที่คนถือเคยใส่เป๊ะ

“จางฉี่หลิง”

เสียงราบเรียบตอบเนิบช้า ก่อนที่มือแกร่งจะวางเสื้อคลุมไว้ข้างๆเตียง แล้วผละออกไปอย่างรวดเร็ว

อู๋เสียงงงวยกับการกระทำของบุรุษแปลกหน้าคนนี้มาก ได้แต่นั่งมองตาค้างอยู่บนเตียงหลังใหญ่ จนสุดท้ายเรียกสติตัวเองกลับมาได้
เมื่อลมหนาวตามแบบฉบับทะเลทรายยามค่ำคืนพัดเข้ามาจนทำให้เขาตัวสั่น ในจังหวะที่อู๋เสียคิดจะซุกตัวลงนอนในผ้าห่มผืนโต
สายตากลับปะทะกับเสื้อคลุมที่คนหน้านิ่งวางทิ้งไว้ให้ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เอื้อมมือไปลองหยิบขึ้นมาสวม

เสื้อคลุมนี้ถึงแม้จะไม่หนามาก แต่กลับกันลมได้ดี ด้านในบุด้วยขนสัตว์บางๆ ทำให้อุ่นนิดๆยามสวมใส่ อู๋เสียกระชับสาบเสื้อคลุมเข้าหากัน
ก่อนทิ้งตัวลงนอน ความอุ่นสบายบวกกับพิษไข้ ทำให้ร่างเพรียวตกเข้าสู่ห้องนิทราอย่างรวดเร็ว

-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-

-Talk-

จบตอนที่1แล้ว ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่เลย ต้องขอโทษด้วยที่มาต่อได้แบบสั้นๆนะคะ กิ๊ซ TvT
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้ามาอ่านมาเม้นท์ในกระทู้ที่แล้ว รวมถึงฟิคสั้นอีก2เรื่องที่ได้แต่งไว้

(แอบโฆษณา [OS] #dmbjdaily (จาง) "โลหิตจาง" [ผิงเสีย] กับ [OS] Those lip look lonely. [ผิงเสีย] (NC) )

อ่านคอมเม้นท์แล้ว ดีใจมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ตัวเราเองไม่ค่อยได้แต่งฟิคเท่าไหร่ พอคิดว่ามีคนอ่านแล้วชอบ ก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย
ถ้าสหายด้วงท่านไหนอ่านแล้ว มีจุดไหนอยากติชมก็ บอกได้นะคะ จะนำไปพัฒนาต่อยอดในตอนถัดๆไปค่ะ
ส่วนคอมเม้นท์ด้วงกรีดร้อง อันนี้ด้วงปงก็ชอบนะคะ 55555 เหมือนได้แชร์ความด้วงกับเพื่อนๆ
ถ้าใครสละเวลามาคอมเม้นท์ให้ก็ขอบคุณมากๆๆๆเลยค่ะ > <

อนึ่งในฟิคนี้ เราขออนุญาตยืมชื่อ พังจื่อ ตัวละครจากซีรี่ย์ข้างเคียง (คนขุดสุสาน) ซึ่งถูกกล่าวถึงว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับเสี่ยอ้วนในซีรี่ย์นี้
มาใช้เป็นชื่อเสี่ยอ้วน เพื่อง่ายต่อการบรรยายหรือแทนตัวของตัวละครนะคะ หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ ^ ^)/

Snake_Blind
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 41
Points : 3494
Join date : 06/12/2014
Age : 33

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by casey Thu 11 Dec 2014, 00:29

กษัตริย์จางงงงง ยังไงคะ ถึงกับอุ้มชายหนุ่มแปลกหน้ามาไว้ห้องตัวเอง
casey
casey
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3586
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by Narakas Thu 11 Dec 2014, 01:53

รอต่อค่าาาาาา ชอบบบบบบบบบ
ติดตามนะคะ นี่ลัดคิวเรื่องอื่นมาอ่านก่อนเลย

/หนังสือไม่อ่าน พรุ่งนี้มีสอบ ฟฟฟฟฟฟฟฟ
Narakas
Narakas
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 263
Points : 3841
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by Duke_of_Florence Thu 11 Dec 2014, 02:00

ดีใจจังตอนต่อมาแล้ว รอฟิคเรื่องนี้อยู่นะคะ

ในที่สุดท่านราชาจางฉี่หลิงก็มาช่วยอู๋เสีย ตอนที่แล้วนายน้อยตกระกำลำบากจนน่าสงสาร ฉากอุ้มนายน้อยท่าเจ้าหญิงนั่นพระเอกมากค่ะท่านจาง    

ตัวละครเริ่มทยอยออกมามากขึ้น นายแว่นดำยังขี้แกล้งเหมือนเดิม มืออยู่ไม่สุขนะจ๊ะ ฝ่าบาทจางเค้าหวงของเค้า เดี๋ยวมือขาด 555  อาหนิงเป็นอะไร เจ้าหญิงหรือเปล่า?

ยังไม่เคยอ่านคนขุดสุสาน แต่เคยได้ยินเกี่ยวกับตัวละครที่คล้ายๆเสี่ยอ้วนมาเหมือนกัน ชื่อก็คล้ายๆกันด้วยรึเปล่า งง

อยากบอกว่าอ่านทุกฟิคของไรท์เตอร์เลยนะคะ ถ้าดูจากลิงค์ที่ให้ไว้ อิอิ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ  Very Happy
Duke_of_Florence
Duke_of_Florence
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 113
Points : 3579
Join date : 31/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by mage Thu 11 Dec 2014, 16:01

มาแล้วท่านพี่ ข้าสอบเสร็จแล้ว~~~

เรื่องยังไม่ค่อยมีอะไรเพิ่มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เอื่อยไป อยากรู้จังว่าอาหนิงเป็นใคร~
(ตอนนี้ไม่นับท่านมหาราชา แอบอิ๊งอั๊งนายแว่น ////)

มีพิมพ์ผิดนิดหน่อย แต่เมจชอบภาษาบรรยายพี่งู มันลื่น ไหลไปเรื่อยๆไม่ติด
ส่วนชื่อนายอ้วน ลองเสิร์ชเว็บจีนด้วย ก็เขียนเป็นหวังพั่งจื่อเหมือนกัน (แล้วก็บอกไว้ว่าแซ่หวัง 555)
เมจว่าโอเคแหละ <3
mage
mage
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 60
Points : 3527
Join date : 15/11/2014
Age : 30
ที่อยู่ : บ่อปลาบ้านเซี่ย

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by asra Thu 11 Dec 2014, 17:45

คิงจางฉี่หลิงตกหลุมรักแรกพบช่ายม๊าาย >///<

สนุกและน่าติดตามมากเลยค่ะ รอตอนต่ออยู่นะคะ Very Happy
asra
asra
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 47
Points : 3551
Join date : 02/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Thu 11 Dec 2014, 19:09

เจอหน้าครั้งแรกก็อุ้มเข้าห้องกันเลยหรือคะราชาจาง อร๊ายยยย ว่าแต่ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นายน้อย ราชาจาง? ผูกกางเกงซะต่ำนี่คิดอะไรรึเปล่าคะ ถถถถ เหมือนจะหวง ไม่ยอมให้นายแว่น เอ่อ ไม่ได้ใส่แว่นนี่หว่า นายผ้าคาดตาแตะด้วย
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3940
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by kame_kazuha Sat 13 Dec 2014, 11:18

อะไรกัน เจอหน้าไม่ทันไรอุ้มกลับบ้านล่ะ เสี่ยวเกอนิ

kame_kazuha
kame_kazuha
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 274
Points : 3745
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานสักที่

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1- Empty Re: [Fic-AU] The Heart of The Desert [ผิงเสีย] -Part 1-

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Mon 06 Jul 2015, 22:32

อุ้มมากกในห้องเลยหร๊าาาาาาาาาาาาา
กษัตริย์จางใจเร็วมาก ฮ่าๆ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ