Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

+7
kaew_nya
freya_friend
delivery
pim-lovedmbj
meanato
Mamon
faliona01
11 posters

Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 11:56

ตอนที่ 1 และตอนที่ 2

https://dmbjth.thai-forum.net/t292-topic

https://dmbjth.thai-forum.net/t336-topic

=====================================

แพร์ริ่ง : ผิงเสีย (หันไปมองเนื้อเรื่อง ผิงเสียก็ผิงเสีย!)
Rate : ห๊ะ! เรท เอาเป็นลั่นๆ ก็แล้วกัน
หมายเหตุ : อันนี้เป็นเเค่ครึ่งเเรกนะคะ ไม่ได้สั้นเพราะสมองตัน แต่มันยาวขนาดลากไปเกินที่เรากำหนดคะ
แค่part แรกก็หวดไป 21 หน้า a4 แล้วคะ ตรวจหาคำผิดกับบรรทัดที่ใช้คำวกวนจนตายลายมากๆ
สัญญาว่าจะรีบเอา part 2 มาลงอย่างว่องไวคะ เพื่อไม่ให้ข้างคา แต่คือฉากนี้ยัดเต็มที่มากๆคะ
ก็เเหม๋ หนังโรงใหญ่ทั้งที T^T

======================================

ระเบิดมู้องค์ที่ 3.1.2  (ลั่นๆไปเลยค๊า!!!!!)

หญิงงามมักมีชะตาอาภัพ ลักษณะที่พบเจอคือใบหน้างามดุจหยาดน้ำค้าง ดวงตาแดงเรือดูโศกเศร้าแต่มากล้นไปด้วยเสน่หา ลมหายใจหอมละมุนกรุ่นกลิ่นดั่งบุปผาแย้มบานในวสันต์ ส่วนเรื่องขนาดและรูปร่างค่อยมาดูกันที่ยุคสมัยอีกที

ว่ากันว่าใครมีหญิงรูปลักษณ์แบบนี้ปรากฏในบ้าน หากไม่ฉลาดปราดเปรื่องรู้จักเก็บคำสงวนท่าทีก็มักมีจุดจบไม่ดีงามเท่าไร เพราะใบหน้านั้นมักจะชักจูงแต่ปัญหาเข้ามาวุ่นวายรอบตัวเสมอ หากเกิดมาในฐานะยากจนมักเจอจุดจบไม่ดีงามนัก แต่หากโชคดีมีวาสนาเพียงพอก็อาจได้รับอุปถัมภ์เข้าไปโดยบุคคลมีเงินหนาหนัก ยกเว้นอีกแง่หนึ่งคือเกิดมาเป็นลูกของใครสักคนที่มียศและเงินทอง มันก็อาจจะเป็นอีกเรื่องไปเลย

อู๋เสียมองใบหน้าตัวเองที่ปรากฏบนกระจก มือขวาถือมีดสั้นเล่มเล็กกำลังจดๆจ้องๆวนไปมาบนใบหน้านวลเนียนที่ส่องปรากฏ

หญิงสาวแรกรุ่นในชุดสีแดงปักลายดอกท้อและกระเรียนโบยบินนั่งนิ่งอยู่หน้ากระจก ผมสีดำดั่งขนกายาวสวย ถูกรวบขึ้นปักปิ่นหยกลายก้อนเมฆและดวงดาว รูปร่างสมส่วนแต่ไร้ซึ้งหน้าอกชวนมอง ชุดสีแดงใหญ่ยาวทำให้สตรีที่สวมใส่อยู่ดูตัวเล็กบอบบางหน้าถนอมไว้บนฝ่ามือ

ผมทำหน้าเครียดขรึมกำลังนึกถึงเหตุการณ์ต่อไปที่จะเกิดในอนาคตถัดจากนี้ สิ่งรบกวนอย่างเดียวคงมีเพียงแต่ด้านหลังกายตนเองของตนเอง ประตูกระดาษถูกทุบตีพร้อมเสียงค่ำครวญมากมายตะโกนโหวกเหวกด้านหลัง

“ซานชุน เปิดประตูให้แม่เดี๋ยวนี้ เจ้าอย่าคิดสั้นเลย เห็นแก่แม่ที่รักเจ้ามากคนนี้เถอะ”

“คุณหนูเจ้าคะ เปิดประตูเถอะเจ้าคะ คุณหนูคะ”

“คุณหนูซานชุนได้โปรดอย่าคิดสั้นเลยเจ้าคะ คุณหนูไม่รักเสี่ยวหงคนนี้แล้วหรือเจ้าคะ”

คำพรรณนามากมายคร่ำครวญร้องไห้ผสมปนเปกันไม่หยุด แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากคนในห้องแม้แต่นิดเดียว
ผมมองใบหน้าตนเองอย่างท้อแท้ นึกถึงอนาคต ก่อนจะถอนหายใจออกมา


งานเฉลิมฉลองของตระกูลฮัวถูกจัดขึ้นในสวนดอกท้อเขตบ้านของสกุลอู๋ ปีนี้เป็นปีที่คุณหนูน้อยแห่งสกุลฮัวอายุครบ 100,000 ปี บริบูรณ์ เด็กสาวท่าทางชาญฉลาดและร่าเริงกำลังวิ่งเล่นไล่จับกับเหล่ากระต่ายหยกในสวนท้ออย่างสนุกสนาน ไม่ห่างกันนัก เหล่าเทพจากทั่วสารทิศเริ่มทยอยมาในสถานที่แห่งนี้ ดูคึกคักละลานตาไปทั่ว

สวนท้อสกุลอู๋ใครๆก็ทราบว่าเป็นสถานที่พำนักของเทพชั้นสูงองค์หนึ่งซึ่งเป็นหลานของมหาเทพอู๋เหล่าโก่ว หนึ่งใน 9 ตำหนักใหญ่บนสรวงสวรรค์ที่ไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครพบเห็น เล่าลือกันว่าเทพองค์นี้ในอดีตเคยช่วยชีวิตรัชทายาทสวรรค์สกุลจางทำให้ร่างกายอ่อนแอ ได้แต่นั่งๆนอนๆมีชีวิตเหมือนตาย

แต่ที่สำคัญคือสวนท้อสกุลอู๋เป็นหนึ่งในสองสถานที่ ที่มีลูกท้อสวรรค์ที่ใครทานแล้วจะเพิ่มตบะไป 1,000 ปี ส่วนอีกที่หนึ่งนั้นคือตำหนักสกุลจาง ผู้ได้รับเชื้อเชิญเท่านั้นจึงจะมีสิทธิเข้าไปได้

เหตุใดทำไมเหล่าท้อสวรรค์ที่ควรจะมีแต่ในตำหนักสกุลจางถึงปรากฏที่ตำหนักสกุลอู๋นับว่าเป็นที่โจษจันกันไม่น้อย

เสียงหนึ่งบอกว่า หลานของมหาเทพอู๋เหลาโก่วเป็นสตรีที่งดงามมาก สวนดอกท้อนี้เลยถูกมอบให้เป็นของขวัญจากสกุลจาง แต่อีกเสียงหนึ่งกลับบอกว่าหลานของมหาเทพอู๋เหลาโก่วเป็นบุรุษ สวนท้อนี้ปรากฏขึ้นมาเองในวันครบรอบ 1 เดือนของเด็กน้อยคนนั้น

นับว่าเสียงเล่าลือสมช่างสมกับเป็นเสียงเล่าลือไม่น้อย มั่วซั่วเรื่อยเปื่อยได้อรรถรสดีจริงๆ

ผมมองผู้คนหลั่งไหลเข้ามาที่สวนท้อแห่งนี้อย่างไม่หยุดหย่อน เสียงแสดงความยินดีและเสียงประทัดดังไปตลอดทั่วทั้งงาน ผมยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดจากในหอระฆังตำหนักสกุลอู๋ ไม่ออกไปพบปะทักทายกับใคร ให้ว่ากันตามตรง ผมเกลียดความวุ่นวายวันๆเลยขลุกตัวอยู่แต่ในสวนท้อเล่นกับกระต่ายหยกและจับตาดูโลกมนุษย์ไม่ให้เกิดเหตุวุ่นวายต่างหาก ดวงตาทั้ง 2 ข้างไม่ค่อยดีเวลาเดินทางไกลต้องผูกผ้าไว้ตลอด หากไปปะปนมีแต่จะให้ถูกนินทาและขุดลึกเรื่องราวยิ่งกว่าเดิม

ผมยอมให้คนเล่าลือดีกว่ามานั่งสาธยายความ เพราะยังไงเสียงเล่าลือก็เป็นเสียงเล่าลืออยู่วันยังค่ำ

“ไงสหายโดนปู่กับอาของนายไล่ออกมาจากงานหรือไง”

ผมหันไปมอง เสี่ยอ้วนถือเหล้าดอกท้อที่ผมหมักเอาไว้โบกไปมา บัดซบ! เหล้าขวดนั้นผมหมักไว้กะให้เป็นของขวัญวันเกิดของซืออากงต่างหาก คอยดูผมจะฟ้องท่านเฉินผีอาซือว่าเทพกำหนดดวงชะตาผู้นี้ขโมยเหล้าของขวัญของท่านไป ว่าแต่เสี่ยอ้วนไปขุดเหล้าดอกท้อขึ้นมาจากสวนได้ยังไง

“แหม๋… นายนี้หมักเหล้าดอกท้อฝีมือยอดเยี่ยมไม่มีตก บอกตามตรงไม่ปิดบัง เหล้าไหนี้รสเลิศกว่าเทพสุราหมักด้วยตัวเองเสียอีก อู่เสียเอย… หากคิดจะซ่อนมันก็หัดซ่อนให้ดีกว่านี้หน่อย จุดภูมิสวรรค์ของสวนดอกท้อที่นี้รุนแรงขนาดนี้ ฉันเดินควานๆหาเอาจุดที่พลังอ่อนสุด แต่อุดมไปด้วยพลังไม้ นับว่านายยังอ่อนด้อยนัก” เสี่ยอ้วนจุ๊ปากกล่าวต่อคำ “ฉันยังใจดีหยิบมาไหเดียวแทมยังฝังดินกลับให้เหมือนเดิมด้วย เสี่ยอ้วนเป็นคนดีขนาดไหนกัน”

“คนดีที่ไหนกันเสี่ยอ้วน มาขุดหลุมบ้านคนอื่นเขาแล้วเอาเหล้าไปกินนะ” ผมมองอย่างระอา บอกตามตรง สุราที่ผมหมักแม้แต่ตัวเองยังไม่กล้ากินเลย จอกสองจอกผมก็เป๋แล้ว

“ของดีมีไว้ก็ใช้มั้งสิอู๋เสีย ว่าแต่หลบมาอยู่ไกลจากงานถึงขนาดนี้ไม่กลัวสกุลฮัวจะคิดว่านายรังเกลียดพวกเขาเรอะ!”

ผมนึกถึงคุณย่าฮัวที่มาขอสวนท้อจัดงานวันเกิดให้หลานตัวเอง ไม่ใช่เพราะอยากให้หลานตัวเองเป็นจุดเด่นหรอกรึไง สวนท้อนี้ไม่ว่าเทพองค์ไหนก็อยากมาแทบตาย แต่ผมไม่อนุญาตใครหน้าไหนก็ห้ามเข้า ถ้าไม่มีธุระจำเป็นอย่าหวังจะได้เหยียบแม้แต่หญ้าสักต้นเดียว

เพียงพวกเขาได้ที่นี้มาจัดงานก็แทบจะหน้าบานกันทุกคนแล้ว สกุลฮัวถึงกลับได้สวนท้อสกุลอู๋มาจัดงาน ยืดได้ถึงไหนถึงกัน

นับว่ายัยหนูซิ่วซิ่วโชคดีแท้ ถ้าไม่ติดว่าเธอชอบเอาสาลี่มาฝากผมบ่อยๆสกุลฮัวก็อย่าหวัง

“ได้สวนท้อนี้ไปจัดงานยืดได้ขนาดนี้ ขืนผมโผล่หน้าไป เทพทุกองค์ได้จ้องมาที่ผมเป็นจุดเด่นแทนนะสิ” ผมทำหน้าเบื่อ ผ้าคาดดวงตาที่ยืมมาจากนายเฮยเสียจื่อนับว่ายอดเยี่ยมนัก ไม่มีแสงมาแยงตาสักนิดเดียว

“ไม่ใช่ว่าหลบเสี่ยวเกอหรอกหรือ” ผมมองตาขวาง “ก็เห็นว่าเทียบเชิญไปสกุลจาง คนรับคราวนี้เป็นรัชทายาทสวรรค์จางฉีหลิงแทนมหาเทพจางฉี่ซานที่ติดธุระสำคัญกับพวกภพเซียนไม่ใช่หรือไง”

“เสี่ยอ้วนมั่วแล้ว” ผมแทบจะเป็นตะโกน “ผมเกลียดความวุ่นวายเสี่ยก็รู้ ถึงไม่ออกไปพวกเขาก็คงคิดว่าผมป่วยออกไปร่วมงานไม่ได้อยู่ดี” ผมถอนหายใจ “พ่อกับอารองยิ่งแล้วใหญ่ ฝังผมลงใต้ดินได้คงฝังผมไปแล้ว เพื่อจะไม่ให้ไปที่งาน แล้วนับประสาอะไรกับจางฉีหลิงผมไม่กลัวเขาหรอก”

“ก็แล้วไอที่เขาโผล่มาทีไรก็แวบหายทุกทีนั้นละ”

ผมมองเสี่ยอ้วนที่หัวเราะหน้าแดงก่ำจากพิษสุรา หอระฆังสูงที่ผมยืนอยู่นี้ ถ้าหากพลักเขาตกลงไปตายแล้วอ้างว่าเขาเมาตกลงไปผมคว้าไม่ทัน จะมีใครเชื่อผมไหมนะ หรือไม่บางทีความสูงระดับนี้มันอาจจะช่วยสร่างเมาให้เขาก็เป็นได้

“ผมติดธุระด่วนหรอกเสี่ย ผมถึงได้วิ่งออกมา” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน “เสี่ยเมาแล้วผมว่าเสี่ยกระดกน้ำสักกาหน้าจะดี”

เสี่ยอ้วนหัวเราะดังๆ บอกว่านั้นสิๆเมาแล้วจริงๆ ดื่มชาเล่นให้หายเมาดีกว่า เดี่ยวหยุนไฉ่มาเจอ เขาจะโดนข่วนจนหน้าหงาย

แล้วร่างอ้วนๆของเขาก็จากไป ผมนึกถึงเทพสาวผู้นำทางวิญญาณคนนั้นแล้วก็ยิ้มในใจให้เสี่ยอ้วน ตาของเขาไม่เลวจริงๆ

ผมยืนมองจากหอระฆังสูง ทั่วทั้งงานมีแต่ความยินดี ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากไปร่วมวงด้วย แต่พอผมเริ่มเปิดการสนทนา พวกเขามักจะหยุดพูดและจ้องมองผมอย่างตะลึง ไร้เหตุผลที่สุด มันทำให้ผมดูเหมือนตัวประหลาดเลย เอาไว้ผมฝึกการแสดงหน้าตากับเจ้าหมาของปู่อีกเยอะๆ ผมค่อยทำตัวกล้าๆไปคุยกับพวกเขาทั้งหมดก็แล้วกัน

อากาศข้างบนเริ่มเย็นมาก ผมหน้าจะลงไปได้แล้ว

บันไดแก้วหอระฆังสกุลอู๋ ก้าวแรกส่องอดีต ก้าวที่สองส่องอนาคต ทุกคนในสกุลอู๋แทบจะไม่ย่างก้าวเข้ามาในนี้ ระฆังสกุลอู๋เมื่อถึงเวลาจะลั่นระฆังด้วยตัวเอง ครั้งแรกที่ผมมาที่นี้ ก้าวที่สองของผมคือสีแดง ต่อมาก็วนเข้าเหตุการณ์ที่ผมเกือบตายแต่ก็รอดมาได้ วันถัดมาหลังจากที่ผมหายสนิทก้าวเท้าลงบนบันได ก้าวแรกปรากฏอดีตเช่นเดิม แต่ก้าวที่สองหลังจากนั้นมันไม่เคยปรากฏภาพอะไรอีกเลย แน่นอนผมไม่เคยบอกใคร

การรู้อนาคตตัวเองไม่ใช่เรื่องดีนัก แน่นอนในอีกแง่ ขืนรู้มันก็หมดสนุกพอดี
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 11:59

ตำหนักสกุลอู๋เปิดต้อนรับทุกคนยกเว้นเขตชั้นในสุดที่ให้เฉพาะเหล่า 9 สกุลเท่านั้น เดินไปตามทางก็พบกับท่านเฮยเป้ยเหล่าลิ่วกับภรรยา พอพวกเขาเห็นผมเดินมา ผูกตาด้วยผ้าสีดำก็ตบหลังดังป๊าป! กล่าวว่า ไอหลานชาย โลกนี้สีสันต์งดงามมากมายไม่มองด้วยตาจะมีความสุขอะไร

ผมตอบเขาว่า สีสันต์โลกหล้าล้วนงดงามแต่ไม่อาจงามสู้ภรรยาท่าน หากท่านว่าสีสันต์โลกหล้านั้นงดงาม แต่ดอกไม้แสนงามข้างกายท่านนั้นเล่าอะไรจะงามสู้ได้ พอเขาได้ฟังจบก็ตบหลังผมอีกทีหัวเราะและบอกว่ามีเหตุผล อาหญิงบิดเนื้อผมจนแทบเขียว บอกตอนเด็กเคยอุ้มผมเดินรอบบ้าน โตมาทำไมกล้าพูดอะไรแบบนี้ จบการพูดคุยหัวเราะอย่างสนุกสนาน ท่านเฮยเป้ยเหล่าลิ่วก็ขอตัวไปทักทายสกุลฮัว ผมพยักหน้าปล่อยเขาจากไป เดินไปจนถึงห้องห้องหนึ่ง

ปกติ 9 สกุลจะไม่ค้างพำนัก แต่คราวนี้กลับมีถึง 3 สกุลที่บอกจะอยู่ต่อจนจบงาน 1 ในนั้นคือ สกุลจาง จางฉี่หลิง เขาเลือกห้องที่อยู่ห่างที่สุดแต่เงียบสงบพักผ่อนสบาย ผมลังเลในฐานะเจ้าบ้านที่ดี ถ้าไม่นับเรื่องที่เขาพังประตูห้องผมเมื่อนานมานี้จนผมโดนลงโทษกวาดลานหน้าบ้าน 300 ปี ผมก็ควรจะไปทักทายเขาในฐานะเจ้าบ้านที่ดีเหมือนกัน

เสียงเคาะประตูดังขึ้นผมข่มใจตัวเองที่เต้นดัง ถ้าหากเขาเปิดประตูออกมาผมควรจะพูดอะไรกับเขาเป็นคำแรกดี วันนี้อากาศดีนะ? หรือที่นี่พักผ่อนสบายไหม รึเปล่า
อืม! เอาเป็นสวัสดี ขอให้พักผ่อนอย่างมีความสุข โชคดีนะ ลาก่อน

การประมวนผลเสร็จเรียบร้อยผมก็หัวเราะในใจตัวเอง เคาะประตูห้องเสียงดังรอเขาเปิดออกมา

หืม?

ผมยืนรอก่อนจะเคาะอีกรอบ

ไร้เสียงตอบกลับมา

“จางฉี่หลิง” ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ทั้งห้องเงียบสนิท

เขาไม่อยู่?

ผมค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปในห้อง เสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มลายกิเลนของเขาถูกแขวนเอาไว้กับไม้สูงกว้าง 2 เมตร ผมมองนิ่งอยู่นานหันไปมองด้านหลังว่าไม่มีใครเห็น ก่อนจะทำท่าเก้ๆกังๆยืดแขนและร่างกายเทียบขนาดดู จางฉี่หลิงตัวใหญ่ไม่น้อยพอผมเทียบดูแล้วหากผมจะใส่จริงๆคงต้องแก้ขนาดพอสมควร

เดินวนรอบห้องอีกครั้งหนึ่งตั้งใจว่าจะออกไปพอดี ตาเหลือบไปเจอของสิ่งหนึ่งถูกวางซ่อนเอาไว้ ผมเดินไปถึงที่นอนเลิกมุ้งออกไป ดาบดำเล่มยาววางอย่างสงบผมนึกถึงคำของเสี่ยวฮัว

‘ดาบของจางฉี่หลิงกลั่นขึ้นจากพลังทั้ง 6 พิภพ หนักดั่งขุนเขาไท่ซาน 20 ลูก แรกเริ่มมันถูกปักอยู่ที่รอยแยกระหว่างมิติ พอมันดูดซับพลังมากเข้าก็เริ่มทำลายพิภพทั้ง 6 ทีละนิด จางฉี่หลิงเป็นคนไปดึงมันออกมาเองกับมือ ว่ากันว่าหากผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของจับมัน คมดาบจะฟันวิญญาณออกเป็น 2 ส่วน ’

สิ้นความคิด ผมก็ถอยหลังออกมาทันที ใครมันจะอยากโดนผ่าวิญญาณออกเป็น 2 ส่วนกันละ 3 จิต 7 วิญญาณ โดนผ่าครึ่ง มีแต่ตายกับตาย

ผมหันหลังจะเดินออกไปก่อนยืนตัวแข็งเป็นรูปปั้น

จางฉี่หลิงมองผมอย่างเรียบเฉยแต่สัมผัสได้ถึงบางอย่างในแววตาของเขา ผมถอยห่างหัวใจเต้นโครมคราม หูอื้อตาลาย ผมว่าจะพูดอะไรกับเขานะ ทำไมพอเจอแล้วหัวมันโล่งขาวไปหมดเลย ไม่ๆๆ กลับมาก่อน ต้องตั้งสติไว้

“สวัสดี” ผมทักเขาอย่างฝืดเฝือน เหมือนพูดออกไปเสร็จผมก็ยิ่งสติแตกกว่าเดิม จางฉี่หลิงมองนิ่งๆไม่พูดจาจนผมรู้สึกเหมือนกำลังทักทายกับต้นไม้ต้นหนึ่ง ยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูกกันไปใหญ่

ผมยืนขยับขาก้าวไปก้าวมาก่อนจะสูดลมหายใจอย่างแรงพูดออกมาเสียงดัง

“ขอตัวก่อนนะ!!!”

ได้จังหวะ ผมก็วิ่งสุดตัว เผลอชนเขาไปทีหนึ่ง นิ้วยาวๆ 2 นิ้วของเขาเกี่ยวผ้าคาดตาของผมติดมือ แต่ผมไม่สนใจหลับหูหลับตาวิ่งจนสะดุดธรณีประตูหน้าคว่ำคะมำไปกับพื้น ตะเกียกตะกายยืนมาได้ก็ลุกออกวิ่งหนีทันที

อา….. ผมทำตัวเปิ่นๆอีกแล้ว เวลาเห็นเขาทีไรผมต้องวิ่งหนีทุกที คงต้องโทษเขาที่สมัยเด็กแกล้งผมมากเกินไป

บรรดาหมาของปู่ที่ทำหน้าที่เวรยามเห็นผมวิ่งสุดชีวิตก็วิ่งตามผม ไม่ๆๆๆ พวกแกต้องวิ่งไปอีกทางเพื่อหาคนร้ายต่างหาก ไม่ใช่วิ่งไล่ตามแบบนี้ ไม่เห็นหรือไงในมือฉันไม่มีจานร่อนให้พวกแกงับเล่นนะ!!

เหมือนมันจะไม่เข้าใจวิ่งตามผมเร็วขึ้นอีก คราวนี้ถัดจากจางฉี่หลิงเป็นบรรดาหมาๆของปู่ที่ตัวสูงเท่าเอวผม ขนยาวสวยพลิ้วสะบัดพร้อมกับลิ้นหอยๆและเสียงเห่าดัง โฮ้ง!
ผมกรีดร้องดังลั่นสับขาเต็มเหยียด แล้วสุดท้ายผมก็วิ่งสะดุดขาตัวเองหน้าทิ่มพื้นจนได้ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตามด้วยเสียงร้องจากนรก… ไม่! จากบรรดาหมาของปู่ต่างหาก
1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว กระโจนกลางอากาศกระโดดทับใส่ผมดังอั๊ก! ตามมาด้วย 4 5 6 7 และอีกมากมาย ผมตะเกียกตะกาย แต่ไม่ขยับเลยแม้แต่นิด ลิ้นเปียกๆของมันเลียหน้าเลียตา ผมพ่นน้ำลายพรูดสะบัดหนีหน้ามันไม่หยุด ผมเห็นมันบางตัวกำลังกระโดดไปมาและเห่ารอบตัวผมเหมือนได้รับชัยชนะ

ขณะที่ผมกำลังโดนหมาลุมจนเงยหน้าไม่ขึ้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและคำพูดลอยตามมา

“อู๋เสีย ปู่ดีใจที่เจ้ารักหมาของปู่ขนาดนี้ แต่วันนี้มีแขกเหรือเต็มบ้าน เจ้าก็ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยเถอะ”

ผมแทบกรีดร้องทั้งน้ำตา ไม่!! ท่านปู่เข้าใจผิดแล้ว เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ปู่ครับ ปู่ครับ!! ช่วยหลานด้วย ปู่คร๊าบ!!!

และแล้วผมก็ไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียว เห็นปู่เดินจากไปทรมานใจเหลือแสน เจ้าพวกหมาหายใจแหกๆจนน้ำลายยืดหยดลงบนตัวผม แลบลิ้นแพลบๆ มุดไปมุดมากระดิกหางดิ๊กๆ ผมกล่าวอย่างแค้นใจจ้องพวกมันด้วยสายตาเคียดแค้น ประกาศกร้าวแทบน้ำตาหลั่งริน

พวกแก!

ทุกตัว!

ต้องถูก!

อาบน้ำ!

แน่!!!!



ล่วงเข้ากลางคืนก็ยังคงมีเสียงดนตรีขับร้อง ผมหาวหวอดท่องไว้ให้ตัวเองอดทนให้งานนี้ผ่านไป 9 วัน 9 คืน เทียบระยะเวลาที่อยู่ที่นี้นับเวลาเท่านี้เพียงแค่เสี้ยวลมหายใจ ได้ยินเสียงท่านเออร์กับเสี่ยวฮัวร้องงิ้วลอยมาตามลม ผมยืนฟังอย่างพอใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากลับห้องตัวเอง

เทพสูงอายุท่านหนึ่งพอเห็นผม ก็ตรงมาจูงมือไปพูดคุย ผิวหนังเหี่ยวย่นบนมือทั้ง 2 ของคนแก่ทาบลงมาบนแก้มทั้ง 2 ข้างของผม จับส่ายไปมาบอกว่าเขาโตขึ้นมาก สมัยก่อนที่เขาเคยมาทำธุระตระกูลอู๋ ยังเคยเห็นผมแก้ผ้าตัวล่อนจ่อนเอากางเกงในมาเสียบกิ่งไม้โบกสะบัดเหมือนธงออกศึก ผมยิ้มแก้มปริบอกว่าหลังจากนั้นคุณแม่ผมก็จับพาดตักตีจนก้นลาย หัวเราะครื้นเครงกันสักพัก กอดหอมให้คนเฒ่าคนแก่ชื่นใจผมก็เดินมาถึงห้อง

ผมจะได้พักแล้ว คิดแล้วน้ำตาแทบไหล เสี่ยอ้วนเมาจนตัวเซจับผมร้องงิ้วและเต้นรำต่อหน้าอาหนิงคนงาม ให้พูดเถอะ ตอนนั้นหน้าผมร้อนแทบจะลุกเป็นไฟ ผลท้อในสวนถูกเด็ดจนไม่เหลือ ถึงแม้จะมีตุนอยู่ในคลังเสบียงขนาดที่ 5 แสนปีก็ยังกินไม่หมดก็ตาม คิดแล้วก็เศร้า พวกมันเปรียบเหมือนลูกของผมเลยเชียวนา อุตส่าห์ให้กระต่ายขาวดูแลอย่างดี… หน้าเศร้าจริงๆ

ผมเปิดประตูห้องด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนอย่างแท้จริง งับประตูปิดลงดื่มชาที่ถูกหวังเหมิงเอามาตั้งไว้นานแล้ว ชาฝาดขมแต่ผมก็กลั้นใจดื่มจนสิ้น มันจะทำให้ผมหลับง่ายขึ้นก็เท่านั้น

2 ขาก้าวยาวๆไปจนถึงที่นอนตั้งท่าจะล้มตัวก็สัมผัสถึงบางอย่างข้างใต้ผ้าห่ม ผมหลับตาไม่สนใจล้วงเข้าไปดึงออกมา

นับว่าเป็นเรื่องแค้นใจที่สุด ถ้าตอนนั้นผมยอมหยุดขี้เกียจสักนิด เลิกผ้าห่มออกมาดู

ดาบดำเล่มยาวถูกชักออกมา เหมือนสายฟ้าผ่าดังเปรี้ยงแล่นจากมือถึงร่างกาย ผมสะบัดมืออีกข้างจับผ้าห่มดึงลงไปกองกับพื้นตามด้วยร่างของตัวเองไถลตามลงไปอย่างปวกเปียก ฝักดาบของจางฉี่หลิงถูกติดตรึงแน่นกับฝูกนอน ในมือของผมมีดาบดำของเขา

บัดสบใครเล่นตลกกับผมแบบนี้ จางฉี่หลิงอย่างนั้นใช่ไหม

ผมคิดหัวหมุนร่างทั้งร่างค่อยๆร่วงหล่น ไม่ใช่หล่นลงไปกองกับพื้น แต่มันเป็นอีกรูปลักษณ์หนึ่งที่ผมอธิบายไม่ได้แต่คุ้นเคยอย่างดี เสียงเปิดประตูดังผมเห็นแววตาจางฉี่หลิงมองมาอย่างตกใจก่อนจะหายวับไป
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 12:01

“นายจะลงไปเกิดที่โลกมนุษย์” ผมมองเขางุนงง รู้สึกเหมือนตัวถูกดึงลงไปมากขึ้นอีก แขนทั้ง 2 ข้างโอบอุ้มผมแนบกาย “รอฉัน”

จบคำ ผมแทบอยากจะอ้อนวอนให้ตัวเองมีแรงกว่านี้สักนิด คว้าเก้าอี้ซักตัวฟาดหัวเขาสัก 1 ที เป็นการขอบคุณ

เหล่าเทพยามมีเวลาว่างมักจะแบ่งจิตตัวเองออกครึ่งหนึ่งลงไปเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อบำเพ็ญพลังแน่นอนว่าผมก็เคยทำ แต่ไม่ใช่การลงไปทั้งตัวแบบนี้

ไอบัดซบจางฉี่หลิง เจอกันอีกครั้ง แกตาย!!!


การเกิดแต่ละครั้งเหล่าเทพจะไปคุยกับพวกเทพดวงชะตาก่อนว่าการเกิดครั้งนี้อยากจะได้ดวงชะตาแบบไหน เพศอะไร เมืองอะไร อายุขัยกี่ปี ป่วยกี่ครั้ง ทำอาชีพอะไรเป็นต้น

นับว่าเป็นความบัดซบในโชคดีโดยแท้ที่ดาบของจางฉี่หลิงไม่ผ่า 3 จิต 7 วิญญาณของผมให้แตกดับ แต่กลับผ่ากายหยาบของผมแทน เมื่อวิญญาณไม่มีกายหยาบมันจะล่องลอยและลงไปเกิดที่ภพของมนุษย์ ระหว่างนั้นก็รอให้เสี้ยวกายบีบอัดรวมตัวจนได้ที่รอวันวิญญาณกลับเข้าร่างอีกครั้ง

สกุลฟงแห่งแคว้นลั่วเป็นร้านหมอเล็กๆห่างไกลจากเมืองหลวงชนิดที่ต้องขี่ม้า 3 วันถึงจะเข้าไปถึงตัวเมืองหลวงได้ ผมเกิดมาคราวนี้ไม่ได้เป็นผู้ชาย แน่นอนผมไม่ได้เป็นผู้หญิงอีกต่างหาก พ่อของผมในโลกปัจจุบันตะลึงงง ตอนที่ผมคลอดออกมา โธ่! ช่างหน้าสงสารเหลือเกิน… มองลูกตัวเองด้วยแววตาหมาน้อยแบบนี้

ร่างกายของผมเรียบสนิทแต่ปรากฏรูปลักษณ์ร่องรอยอย่างมนุษย์เช่นแขนขามือเท้ารวมถึงก้นนุ่มนิ่มอย่างเด็กน้อยทั่วไป วันผมเกิด ต้นท้อปรากฏขึ้นรอบบ้าน 3 ต้น บ้านสะพรั้งสูงใหญ่ในวันเดียวจนคนที่มาพบตะลึงงันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยพบเจอ ส่วนพ่อกับแม่ของผมในโลกมนุษย์หลังจากที่พวกเขาทะเลาะกันแทบตาย สรุปได้ว่าในเมื่อผมไม่ปรากฏสัญลักษณ์ เอ่อ… กระเรียนน้อย ตรงหว่างขา จึงพร้อมใจกันสรุปถึกทักกันจนได้ว่า ผมเป็นเด็กผู้หญิง ให้ชื่อฟงซานชุน

น้ำตาอยากจะไหลเหลือเกิน แค้นนี้ฝังใจนัก จางฉี่หลิงนายต้องรับผิดชอบว่าทำไมดาบของนายถึงมาอยู่ในห้องของฉันนะ ไม่งั้นอย่าหวังว่าฉันจะยอมรามือ

ครอบครัวตอนนี้เป็นครอบครัวฐานะทั่วไปบิดาเป็นผู้รู้หนังสือ รักษาคนเจ็บป่วย มารดาเป็นสาวชาวบ้านทอผ้าไปขายในเมืองหลวง นับว่าไม่เลวเลยกับการเกิดแบบเดาสุ่มขนาดนี้ ร่างกายผมไม่เคยขับถ่าย แม่เคยร้องไห้น้ำตาไหลพรากสมัยผมเป็นทารกเมื่อพ่อบอกว่าอาหารที่กินเข้าไปหากไม่ขับถ่ายออกมาจะกลายเป็นพิษสะสมในร่างกาย หน้ากลัวจะตายเข้าสักวัน แม่กอดผมน้ำตาไหลป้อนนมให้ผมดื่ม เวลาผมอิ่มก็พลิกตัวผมตรวจสอบ หน้าอายที่สุดเลย!!

จนแล้วจนรอดผมก็โตมาจน 1 ขวบ น้ำแกงแม่เฒ่าเมิ้งผมก็ไม่ได้กินทำให้จำได้ทุกอย่าง ร่างกายผมปฏิเสธอาหารของมนุษย์กลืนเข้าไปก็คายออกมาหมด พอผมเริ่มชันคอได้ก็ชี้นิ้วร้อง แอ๊ะๆ ไปที่ท้อสวรรค์ นับว่าเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวจริงๆ

ซินแสมีอายุท่านหนึ่งบอกว่าผมเป็นธิดาสวรรค์ลงมาเกิด ธิดาบ้านเอ็งสิ!! ข้าเป็นผู้ชาย

เขายังเล่าต่ออีกว่าผมดูแลสวนท้อของเจ้าแม่หนี่วาเป็นเทพธิดาผู้งามล้ำ ผมพบรักกับเทพสวรรค์ทำให้เจ้าแม่หนี่วาไม่พอใจสาปให้ผมลงมาเกิด

อยากจะบอกมันเหลือเกิน ว่าเจ้าแม่หนี่วาที่แกว่านั้นนะ อาจารย์ป้าข้าเองโว๊ย!!

ด้วยวิญญาณของผมที่เป็นเทพสวรรค์คอยพัดพาสายลมให้โลกมนุษย์ นับแต่เกิดมาสถานที่ที่ผมอยู่จะมีอากาศสดชื่นไม่มีอากาศเสียที่ก่อให้เกิดโรคภัยเลยแม้แต่นิดเดียว เตี่ยกับม๊ารักและตามใจผมมาก แต่มีเพียงอย่างเดียวที่ผมทำใจไม่เคยได้เลยคือการที่เขามักเอาเครื่องประดับของเด็กผู้หญิงมาประดับให้ผม ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรอกนะ แต่มันรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ

ม๊าบอกว่าผมยิ่งโตยิ่งสวยมากขึ้นเรื่อยๆ กลัวจะถูกเดนมนุษย์ลักพาตัวไปขาย อยากจะหัวเราะ แค่ผมกระดิกนิ้วใช้พลัง ผมก็แทบจะเสกลูกพายุขนาดใหญ่ 6 7 ลูก ได้ในทีเดียวเลยนะจะบอกให้

เตี่ยของผมทีแรกมองผมอย่างจับผิด เขากลัวว่าผมจะเป็นปีศาจมาแฝงท้องภรรยาของเขาเกิด แต่สุดท้ายเจอผมใช้ไม้เด็ดที่มักใช้กับเตี่ยบนสวรรค์อู๋อีฉยงสมัยที่ผมยังละอ่อน ถือผลท้อไป 2 ผล วิ่งไปนั่งบนตักเขาเอาผลท้อลูกหนึ่งจิ้มหน้าเขาแล้วร้อง ‘หม่ำๆ’ แล้ววางไว้ข้างตัว ลูก 2 เอาเข้าปาก ผมกัดลูกท้อเสียงดัง ‘แจ๊บๆ’ เลอะเทอะไปหมด ยิ้มจนแก้มตุ่ยแล้วร้องว่า ‘เตี่ยเตีย’

หลังจากนั้นทั้ง 2 คนก็สยบแทบเท้าผม เตี่ยเวลาไปไหนแทบจะอุ้มผมเดินไปเลยพอๆกับม๊าที่เข้ามาแย่งชิงจับผมแต่งตัวจนแทบจะตีกันตายด้วยความหลงลูก บอกแล้วผมมันน่ารัก!

เตี่ยเริ่มสอนหนังสือเมื่อผมอายุได้ 3 ขวบ แต่ที่ทำให้เขาทึ่งได้มากกว่านั้นนอกจากอ่านหนังสือออกคือ ผมหยิบยานับ 1,000 ชนิด และพูดชื่อรวมถึงสรรพคุณของมันได้อย่างถูกต้องทั้งหมดไม่บกพร่องแม้แต่อย่างเดียว

ฐานะทางบ้านเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆจนเตี่ยแทบจะย้ายผมไปอยู่ในเมืองหลวง ผมจะได้เปิดหูเปิดตาสมกับเป็นเด็กสาว ชื่อเสียงผมเลื่องลือขจรขจายว่าเป็นธิดาสวรรค์ย่างก้าว 1 ครั้งสะเทือนแผ่นดิน ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมายลโฉม จะบอกให้ว่าที่ย่างก้าวสะเทือนแผ่นดิน มีแต่เสี่ยอ้วนคนเดียวละวะ!

และก็เริ่มสมคำที่ม๊าบอก งามล่มแผ่นดิมสมราคาคุย ไม่รู้ว่าควรจะยืดอกภูมิใจหรือน้ำตาไหลพรากกันแน่ แต่สุดท้ายก่อนหน้าคนของราชวังจะถือสารสั่งให้ผมเข้าไปเป็นธิดาบุญธรรมของฮ้องเต้ ก่อนนั้นล่วงหน้า 3 วัน ผมก็รีบบอกให้ป๊ากับม๊าเก็บของย้ายบ้านหนีไปอยู่แคว้นชิงโดยที่พวกเขาไม่ทราบเหตุผลแม้แต่นิด
ขืนบอกว่าเขา 2 คนสิว่าจะไม่ได้อยู่กับผมแล้ว มีหวังผูกคอตายแน่ๆ

ขณะนั้นผมอายุได้ 5 ปี โลกมนุษย์ ในใจพร้อมแช่งชักหักกระดูกจางฉี่หลิงไปพร้อมๆกัน

บ้านใหม่แคว้นชิงอุดมไปด้วยทะเลสาบใสดังกระจก ครอบครัวเรา 3 คน ย้ายมาอยู่ที่ชานเมือง (อีกแล้ว) หากแต่สบายขึ้นกว่าแต่ก่อน ถึงแม้ที่นี้อาจจะมีลักษณะค่อนไปทางหุบเขา แต่การกินอยู่สุขสบายนัก รวมถึงเมืองหลวงหลักของแคว้นก็อยู่ใกล้เพียงแค่เดินไป 1 ชั่วยามก็ถึง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขี่ม้าเลย!

แคว้นหุบเขาแบบนี้นับว่าสงบสุขยิ่งนัก เนื่องด้วยมีชัยภูมิเป็นหุบเขาสูงชันยากแก่การโจมตี ผู้คนในเมืองหน้าตายิ้มแย้ม ใจอารีนัก ตอนที่ย้ายมาถึงวันแรกเตี่ยก็ไปคุยกับเจ้าเมืองทันที ส่วนม๊ากับผมเดินเล่นอยู่ในเมือง ด้วยใบหน้าน่ารักและบรรยากาศรอบตัวผมทำให้ทุกคนหลงผมหัวปักหัวปำยิ่งกว่าเก่า อะแฮ่ม! ผมอายุ 5 ขวบเองนะ แอบภูมิใจนิดๆพร้อมกับขนมถังหูลูนับ 10 ไม้ในมือ น่าเศร้าบัดซบ สุดท้ายผมกินมันไม่ได้อีกแล้ว

บ้านหลังใหญ่ชานเมืองค่อยๆถูกสร้างขึ้นมาโดยมีผู้คนในเมืองมาร่วมด้วย คนเฒ่าคนแก่ในเมืองทำตุ๊กตาผ้ามาให้ผมเล่นระหว่างสร้างบ้าน คนเยอะก็ยิ่งเสร็จไว ไม้เป็นแบบขัดต่อไปทีละชั้น ประมาณ 4 วันถึงจะเสร็จ ป๊ากับม๊านอนโยงเฝ้าบ้านที่กำลังสร้าง ส่วนผมโชคดีกว่ามากที่ไม่โดนยุงกัดให้มานั่งตบแปะเล่น อาอึ้ม อาเฮียทั้งหลายแทบจะอ้าแขนรับกันไปดูแลแทบจะไม่อยากคืนพ่อแม่ตัวจริง

แล้วหลังจากนั้นผมก็สร้างปาฎิหาริย์อีกครั้ง ต้นท้อสวรรค์ 3 ต้นงอกเงยมาตามพื้นดินใหญ่โตสูงตระหง่านต่อหน้าต่อตาพวกเขาทั้งเมืองหลังจากบ้านพร้อมเข้าไปอยู่
สมฉายาธิดาสวรรค์ไม่ห่างหายจริงๆ เศร้าใจเหลือเกิน…

พออายุ 6 ขวบ ผมถึงได้เริ่มคิดบำเพ็ญตบะตนเองเสียที พอผมขึ้นสวรรค์ไปจะได้มีพลังอย่างน้อยก็ถึงขั้นปาขาเก้าอี้ตัวเล็กๆใส่หน้าจางฉี่หลิงจาก 1 ตัว เพิ่มเป็น 2 ตัว อื้ม! นับว่ามีการพัฒนา หน้าภูมิใจ

คนเฒ่าคนแก่มักจะมีอาการปวดตามไขข้อกระดูกและปวดหัวบ่อยๆ วันหนึ่งผมเห็นได้ที ตีหน้าน่ารักคุยกับท่านยายสกุลมู่ผู้ชอบแอบเอาหมั่นโถวลูกโตมาให้ผมเป็นประจำ ถามถึงอาการเขา

“ท่านยายจ๋า วันนี้ก็มาอีกแล้ว ท่านยายเป็นอะไรหรือ” ผมมองคุณยายผู้มีใบหน้าอ่อนโยน เดินไปนั่งตักเธอและแกว่งขาเล่น มือบีบๆขยำๆหมั่นโถว เป่าลมฟู่! ฟู่! ทำท่าเหมือนกินแต่ก็คายปากออกไม่งับมันลงไป

“เสี่ยวชุนคนสวยของยาย เป็นห่วงยายด้วยหรือจ๊ะ” แม่เฒ่ามู่หยิกแก้มยุ้ยๆของผม “วันนี้ยายมาหาเตี่ยของหนู อาการปวดหัวของยายไม่ดีขึ้นเลย สงสัยยายคงแก่แล้วจริงๆ”

ผมมองแม่เฒ่ามู่ด้วยดวงตาใสกระจ่าง บันปลายของแม่เฒ่าต้องตายด้วยความทรมานจากอาการปวดหัวเพราะในอดีตได้ทำความผิดทุบตีรังแกสัตว์เข้าที่หัวทำให้พวกมันสิ้นชีพ  นับว่าชาตินี้เกิดมาเป็นคนจิตใจงดงาม อาการปวดหัวของแม่เฒ่าถึงได้บางเบาขนาดขุนเขาคุนหลุนผ่าเป็น 8 เสี่ยง ถึงจะเทียบได้เท่ากรรมที่แม่เฒ่าทำเหลือในชาตินี้

“เสี่ยวชุนช่วยยายนะฮะ” ผมลุกปีนไปบนที่นั่ง จับศีรษะแม่เฒ่าและเป่ามนต์ลงไปดังฟู่!

กรรมเบาที่เห็นว่าได้รับเพียงพอพวกผมสามารถแก้ไขได้ แต่หากว่ามันหนักหนานัก ผมก็ทำได้เพียงบรรเทาให้พวกมันเบาลง

แล้วหลังจากนั้นชื่อเสียงของธิดาสวรรค์ก็ขจรไกลนับหมื่นลี้...
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 12:03

ธิดาสวรรค์ดอกท้อโปรยปราย ฟงซานชุนแห่งแคว้นชิง ใบหน้าดั่งเทพสตรีผู้กระจ่างในโลกหล้า เงียบสงบสงวนท่าที เอ่ยวจีหอมกรุ่นดั่งดอกบัว ยามย่างก้าวมีดอกบัวขาวรองรับ บนใบหน้าหวานโศกดั่งเห็นใจผู้เจ็บป่วยบนโลกหล้าประดับด้วยดวงตาหวานซึ้ง หน้าผากมีแต้มดอกท้อผลิบานเป็นดวงเล็กๆ

ในแผ่นดินสตรีคู่เมืองนอกจากฮองเฮาของฮ่องเต้ มีเพียงฟงซานชุนแห่งแคว้นชิงเท่านั้นที่คู่ควร ยามนางแย้มยิ้ม ยิ้มแรกล้มเมือง ยิ้มสองล้มแผ่นดิน

แม่มเวอร์ชิบหาย พวกเอ็งลืมไปหรือเปล่าว่าข้าไม่มีเพศ เวรเอ๊ย!

บางทีข้าควรจะไปดูนางจิ้งจอกสวรรค์ที่โดนขังอยู่ในถ้ำหินว่าไอยิ้มล้มเมืองมันเป็นยังไงเหมือนกัน

หลังจากนั้นผมก็ต้องคอยหลบพวกลักพาตัวที่จะเอาผมขายทั้งยามตื่นและยามนอน วิญญูชนบนคานบ้านเหล่านี้หากจับตัวได้จะถูกทรมานจนโอดโอยตายทั้งเป็น ด้วยข้อหาทำร้ายธิดาสวรรค์ของแผ่นดิน จนสุดท้ายผมก็ต้องวิ่งเต้นไปช่วยแทบทุกคน ย้ำ! แทบทุกคน

เห้อ! เหนื่อย

การลงมาเกิดแบบไม่มีแบบแผนล้วงหน้านี้มันช่างอลังการเสียจริงๆ เริ่มเข้าใจพวกเทพดวงชะตาแล้ว ว่าทำไมเวลาเทพแต่ละองค์จะลงไปเกิดถึงได้จัดประชุมกัน 4-5 วัน ไม่ได้ผลสรุปไม่เลิกรา

ตอนนี้ผมเลยจะทำอะไรต้องคิดหลัง 3 หน้า 4 ตลอด

บ้านผมถูกทำให้ใหญ่โตยิ่งกว่าเดิม เตี่ยกับม๊ากราบไหว้บรรพบุรุษแทบทุกวันทั้งน้ำตา บอกว่ารุ่นเขาไม่ทำให้เสียใจ รักษาผู้คนทำความดีมาตลอดชีวิต สวรรค์เมตตาส่งธิดาสวรรค์ลงมาให้องค์หนึ่ง ทำให้พวกเขาไม่เคยลำบากเลยแม้แต่นิด

ใช่ ส่งลงมาด้วยดาบดำ ผ่าดังเปรี้ยง! กายหยาบแตกกระจายเลยเชียวละ!

ผมกัดฟันเคียดแค้นถึงจางฉี่หลิงแทบทุกลมหายใจเข้าออก แผนการมากมายผุดมาเป็นดอกเห็ดทุกวันอย่างเอาตะปูไปวางที่หมอนเขา หรือเอาหมาตัวโตไปวางไว้ให้ที่นอนเขาเปื้อนขนหมาเล่น เป็นต้น

เยอะแยะไปหมดเลย เยอะจนบรรยายไม่ถูก

ช่วยเหลือผู้คนไปเรื่อยๆ ผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ มีหลายคนกตัญญูกล่าวปฏิญาณเป็นข้ารับใช้ไม่รับเงินเดือนจากผมมากมายหลายคน เตี่ยกับม๊าเปิดโรงทานพร้อมร้านขายยาไปด้วยผ่านไปเรื่อยจนอายุผมเข้า 15 ปี

แม่ม! รู้สึกฉายาที่เล่าลือถึงผมเริ่มจะไม่ใช่คนทุกที

เป็นเทพสวรรค์ที่ 500,000 ปีจะจุติลงมามั้งละ เป็นดอกไม้ที่เทพสวรรค์นำมาใส่ครรภ์แม่ผมมั้งละ เป็นพลังวิเศษที่กลั่นตัวจาก 6 ภพ อาศัยครรภ์แม่ผมมาเกิดเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์มั้งละ

เยอะ!

ฉายาธิดาสวรรค์เดี่ยวนี้แค่เอ่ยคำผู้คนยังต้องยกมือกราบกราน ใบหน้างามล้มประเทศชาติที่เหล่าชายอกสามศอกอยากได้เป็นคู่เคียงหมอน แน่นอนผมคลอดลูกให้พวกเขาไม่ได้หรอก ฮะฮ่า! บอกตามตรงแม้แต่ฮ่องเต้จากเมืองลั่วหยางยังต้องส่งสายมาตามสืบ กลัวว่าแคว้นชิงจะก่อกบฏ บัดซบดีจริงๆ

ทุกวันนี้ม๊ามักจะลูบหน้าลูบตาบอกผมว่า งามเกินไปจริงๆ จิ้มหว่างคิ้วที่ปรากฏรูปดอกท้อของผมแล้วหัวเราะเบาๆ บอกว่า แม่คลอดเจ้าออกมานับเป็นวาสนาแท้ๆ
ส่วนเตี่ยแทบไม่ต่างกันหากแต่เขากับกลัดกลุ้มแทนในเรื่องบุตรสาวไร้คู่ครอง ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาสู่ขอ แต่คนที่ขอทุกคนล้วนไม่คู่ควรกับบุตรสาวตนต่างหาก

ผมเริ่มคิดถึงตอนที่ผมเกิด ทำไมผมถึงไม่มีพญาเหยี่ยวบินทะยานงอกมาตรงหว่างขากันนะ ผมสงสารเขาเหลือเกิน ไม่งั้นเขาคงไม่ปวดหัวขนาดนี้

แล้ววันหนึ่งผมก็ฝันถึงสรวงสวรรค์ที่ผมจากไป 15 ปีโลกมนุษย์ กลิ่นหอมดอกท้อโรยรินไม่ปะปนกับกลิ่นบนโลกมนุษย์โล่งจมูก เจ้ากระต่ายหยกที่เห็นผมก็ผงกหูยกหางเอียงคอมอง วิ่งลุมมาหาผมเหมือนก้อนหิมะกลมๆขนปุกปุยวิ่งได้ ผมหมอบตัวให้พวกมันคลอเคลียจนพอใจ สักพักผมก็ลุกเดินจากมา มีบางตัวเดินตามมาด้วย บนร่างผมมีกระต่าย 3 ตัวเกาะไม่ปล่อย ตัวหนึ่งเกาะบ่า ตัวที่สองเกาะหัว ตัวที่ 3 อุ้มอยู่ในมือผม ผมเดินไปตามทางเดินเห็นหวังเหมิงเดินสวนมาก็บอกให้เขาเงียบๆ

หวังเหมิงที่ตะลึงงันเห็นวิญญาณผมขึ้นมาถึงนี้ก็เงียบตามคำขอผม ยกมือชี้นิ้วไปที่ห้องนอนผม พูดพึมพำ

“อดทนไว้นะครับนายน้อย”

ผมมองเขาเดินจากไปอย่างงุนงง ค่อยๆทำตัวเบากริบ ลงจุ๊ปากให้พวกกระต่ายเดินเบาๆมันผงกหัวรับคำค่อยๆย่องตามกันมา 1 คน 1 กระต่าย สมานฉันเงียบสงบ ได้ยินเสียงอาหนิงกับหยุนไฉ่ดังลอดประตูมา เสียงแม่ตัวจริงของผมหัวเราะเบาๆบอกถ้าอู๋เสียรู้เรื่องเข้าโกรธจนงอนไม่ยอมหายแน่ๆ

ผมนี้แทบหงายหลังตั้งใจฟังที่พวกพูด ซิ่วซิ่ว หัวเราะชอบใจบอกวันเกิดเธอปีนี้ช่างโชคดีมีอีเว้นต์พิเศษจริงๆ ถูกใจมาก อาหนิงบอกว่าเธอใช้กระจกส่องฟ้าอัดภาพวีดีโอเอาไว้ทุกๆคน จะตัดต่อออกมาทำซีรีงิ้วไว้ให้พวกปู่เออร์แสดงเล่นบนสวรรค์ เสียงหัวเราะใสดั่งกระดิ่งแก้วของภรรยาปู่เออร์ดังออกมา บอกว่าหากสามีไม่แสดง คงเป็นไปไม่ได้ งิ้วน่าสนุกขนาดนี้ คงมีแต่จะตีกับเสี่ยวฮัวแย่งบทตัวแสดงเอก ต่างจากแม่ของผมที่ถอนหายใจ อย่างน้อยก็แสดงโดยท่านเออร์เย่วหงเธอคงไม่ติดใจเอาความ เชื่อว่าเขาต้องแสดงลูกของเธอออกมาได้ดีแน่ๆ

ผมตะลึงนิ่งหันมามองหน้ากันกับพวกกระต่ายขาว มันเอียงหัวคล้ายบอกว่าตนก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ส่วนผมก็เอียงคองงตามมัน 15 ปีนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

ยังไม่ทันที่ผมได้โวยวายร่างผมก็เหมือนถูกดึงลงมายังพื้นดิน ร่างของฟงซานชุนลืมตาโพล่งเหงื่อแตกซิกๆ

บัดซบผมโดนเล่นอะไรอยู่หรือเปล่า ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยละ

เสียงของแม่บนโลกมนุษย์เรียกผม ท่าทางตื่นตกใจ ถึงกับลุกมาปลุกผมให้ตื่นได้ในเวลาย่ำรุ้ง คงจะด่วนมากจริงๆ

ผมรีบใส่เสื้อผ้า แน่นอนชุดผู้หญิง เห้อ… ถอนใจก็ไร้ผล ใส่มา 15 ปีแล้วนี้!

ผมขมวดมวยปักปิ่น เสื้อผ้าอบร่ำด้วยดอกท้อหอมละมุน เทพผู้ดูแลสายลมอย่างผมทำหน้าที่ในสวนท้อไม่พอ เสื้อผ้าในโลกมนุษย์ก็ยังเป็นดอกท้ออีก ชะตาวนเวียนกับดอกไม้นี้จริงๆ

เดินไปตามทาง สาวใช้คนหนึ่งถือโคมไฟนำหน้า ผมเดินตามหลังเธอ ใช่ข้างหน้าอะ คนเดียว แต่ข้างหลังอะ เป็นขบวน บัดซบ! ไม่รู้ฮองเฮาของลั่วหยางจะมีนางกำนัลและคนรับใช้เยอะเท่าผมรึเปล่ายังไม่รู้เลย

ประตูห้องรับแขกเปิดออกห้องยาวนับ 10 เมตร ขนม น้ำชาถูกจัดวาง ดอกไม้ประดับวางตามมาติดๆทำให้ห้องดูสดใส เครื่องดนตรีบรรเลงตามอย่างแผ่วเบา ผมนั่งลงบนเก้าอี้หยกขาวที่คนชาวม่องโกลคนหนึ่งนำเอามาให้ผม เขาค้นหาจนได้แร่ที่ดีที่สุดและสกัดมันมาให้ผมนั่ง ช่าง… ลงทุนจริงๆ

เบื้องหน้าผมมีมู้ลี่ไม้ไผ่กางกั้นอยู่ระหว่างแขกกับผม จากเงาที่ปรากฏ ผมมีแขก 2 คน นั่งพื้นทั้งคู่ คงจะเป็นชาวบ้านมีเรื่องเดือดร้อน

นี้ถ้าผมเป็นผู้หญิงจริงๆนับว่าชาตินี้ผมมีชีวิตที่ขึ้นหน้าจารึกในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

“เรียนคุณหนูฟงซานชุน ท่านเจ้าเมืองกับเสนาธิการของแคว้นชิงเจ้าคะ” ผมที่กำลังจิบชาที่สาวใช้ด้านหลังยกมาให้ฟังคำจบแทบพ่นน้ำชา

พวกเจ้าเอาเจ้าเมืองมานั่งพื้น แต่ข้านั่งโต๊ะเนี้ยนะ!!

2 มาตรฐานชัดๆ 2มาตรฐานเห็นๆ แม้แต่หัวเจ้าเมืองพวกเจ้ายังไม่เว้น

ผมยิ้มเจื่อนๆบอกให้พวกเขาหาเก้าอี้มาให้ทั้ง 2 นั่ง สักพักบ่าวชายก็ยกเก้าอี้ไม้แกะลายดอกท้อเข้ามา 2 ตัว จากที่เห็น 1 อ้วน 1 ผอม งั้นเจ้าเมืองหน้าจะเป็นคนอ้วน เพราะตั้งแต่อยู่ที่เมืองนี้ รัศมีเทพของผมคงทำให้เขาฟันตังแบบประเมินค่าไม่ได้จากค่าเข้าเมืองที่แอบไปตั้งประตูทางเข้าอันที่ 2 ไว้หน้าทางเข้าชานเมือง และยังจัดทำที่พักให้ผู้มาไกล เก็บค่าเช่าในราคาถูกอีกต่างหาก

หัวการค้ายิ่งนัก!

ผมเริ่มสนทนา เสียงพิณคลอเคลียเบาๆ กำยานหอมจุดขึ้นทำให้ทั้งห้องสดชื่นหอมสบาย

“ขอทักทายท่านเจ้าเมือง หลานเป็นเด็กมารยาททรามเสียแล้วที่ปล่อยให้ท่านรอนาน เชิญท่านทั้ง 2 กล่าวธุระมาเถอะ หากช่วยได้ข้ายินดีช่วยเต็มที่” ผมยกมือขอขมา ตั้งแต่ผมอยู่เมืองนี้มาได้รับการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกหลายๆอย่างจากเจ้าเมืองไม่น้อย แต่กลับไม่เคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเลยสักครั้ง พอมีเวลาเจ้าเมืองกลับติดธุระออกไปจากนอกเมืองเสียแล้ว เป็นต้น

“สหายกล่าวแบบนั้นไม่เป็นความจริง จริงไหมขอรับท่านอู๋อีฉยง”

“หือ?” ผมมึนงง

“โธ่! เจ้าไม่หน้ารีบพูดท่านเทพดวงชะตา ข้าอยากจะดูลูกข้าในรูปลักษณ์นี้อยู่เหมือนกัน”
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 12:06

ผมตะลึงนั่งตัวแข็งค้างสั่งให้สาวใช้เลิกม่านขึ้นและไล่พวกนางทั้งหมดออกไป

มู่ลี่ค่อยๆยกตัว ดั่งบุปผาสีแดงแย้มกลีบอวดความงาม สตรีแสนงามในชุดสีแดงยิ้มแย้มล้มชาติ

จนคนมองขนลุกพรึบ!

“อู๋เสีย ป๋าอธิบายได้นะจ๊ะลูกจ๋า” อู๋อีฉยงเหงือกแตกเป็นน้ำตกพอๆกับคนข้างๆ

“เสี่ยอ้วนพูดได้นะ สหายน้อยอู๋เสีย ขอให้สหายใจเย็นก่อนเถอะ”

ผมคำรามลั่น ลุกมาจากเก้าอี้

“ตามผมมากี่ปี!!” ผมคำรามลั่น

ฟังบิดากล่าวเสียงกลั่วสำนึกผิด เจ้าอ้วนหัวเราะหึๆ จิบชาคว้าขนมกุ้ยเข้าปากหยับๆ

“หลังจากลูกอายุ 3 ปี กับอีกครึ่งเดือนจ๊ะ ตอนนั้นจางฉี่ซานกำลังจะส่งกองทัพไปรับเจ้าเข้าเมืองลั่วหยาง ท่านย่าฮัวของเจ้ากำลังรออุ้มเจ้าที่กลายเป็นเด็กตัวน้อยพอดีเลยนะ แต่นึกไม่ถึงเจ้าจะย้ายบ้านหน…”

“พ่อบอกว่า พ่อลงมาอยู่ที่โลกมนุษย์ ตั้งแต่ผมอายุ 3 ปี ครึ่งงั้นเรอะ!!! แล้วยังท่านปู่จางอีก ย่าฮัวอีก ท่านพ่อท่านคายออกมาให้หมด”

นี้นับว่าผมเป็นลูกอกตัญญูไหม ผมเห็นพ่อตัวเองเอานิ้วโบกปัดพัดเหงื่อบนหน้าตัวเองยิ้มเจื่อนไม่สบตา ต่างกับเสี่ยอ้วน

“ตอนนี้ทั่วทั้งสวรรค์เดิมพันทองคำสูงเอาเท่าเขาหวงซาน 8 ลูกต่อกันยังเทียบไม่ติด แพ้ชนะตีบ้านตีเมืองก็ว่าได้ ก็เพราะเจ้าไม่ปรากฏตัวทำให้ทุกคนสนใจเจ้ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพื่อให้รู้เพศเจ้า เห็นโฉมหน้าเจ้า พอพวกเขารู้ว่านายน้อยสกุลอู๋ถูกปรานดาบของจางฉี่หลิงฟันร่างสลายเป็นไอ ก็ตกใจแทบแย่ มีข่าวลือเยอะแยะเลย แต่ไม่รู้อะไรเป็นความจริง นี้ข้ารอฟังเจ้าเล่าเหมือนกันนะเนี้ยว่าในห้องเจ้า 2 คนทำอะไรกันอยู่”

“พวกเขา เจ้าบอกว่าพวกเขางั้นเรอะ!! เจ้าบอกว่าพวกเขาอย่างนั้นเรอะ!!!!” ผมแหกปากลั่น ฟังบิดาแท้ๆสวดมนต์ท่องคถา ส่วนเสี่ยอ้วนหัวเราะลั่นจนน้ำลายกระเด็น
“ใช่พวกเขา ทุกคนที่แรกตกใจกันมากงานเกือบล่มตอนได้ยินเสียงฟ้าผ่า มีเทพบางองค์ที่ไวหน่อยตามไปจนถึงตัวเจ้า เห็นจางฉี่หลิงกอดเจ้าในอ้อมแขนก้มหน้าหันหลังให้ทุกคน ศีรษะซบเจ้าซบแทบอกเขา ไม่ขยับตัว เทพที่เห็นตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก ปู่รองนายอู๋เออร์ไป๋เข่าอ่อนลงไปกองกับพื้นคลานไปหานายเลยนะ นี้ยังไม่นับอาสามของนายที่แทบพลิกบ้านสกุลจางฆ่าล้างโครตเชียวนะเว้ย!”

ผมฟังเล่าน้ำลายแทบฟูมปาก นี้เขาเล่าลือกันไปถึงไหนแล้วนะ ฟังพ่อผมหัวเราะแฮะๆ

“พอทุกคนตัวชาเห็นภาพนั้น จู่ๆก็มีเทพสตรีขี้ตกใจท่านหนึ่งตะโกนก้องว่าเทพสวรรค์รัชทายาทตระกูลจางสังหารท่านชายน้อยสกุล 5 อู๋เสีย เรื่องมันเลยลุกลาม เพราะเทพบางองค์เห็นเพียงเสี้ยวเดียวพอฟังเทพนางนั้นว่าความ ก็กระจายข่าวลงไปอีก ว่ารัชทายาทจางฉี่หลิงสังหารอู๋เสียแล้วเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ก้มซบแทบศพของเจ้า เล่าว่าจางฉี่หลิงร้องไห้เป็นสายเลือด กอดศพเจ้าร้องไห้ไม่หยุด”

“นอกจากนี้เสี่ยยังได้ยินอีกว่าเสี่ยวฮัวกรีดร้องวิ่งไปหาเจ้าทิ้งท่านเออร์เย่วหงอย่างไม่ไยดียื่นมือไปหาเจ้า แล้วร้องไห้น้ำตาไหลพราก พวกเขาเลยลือกันอีกว่าเกิดรัก 3 เศร้า จางฉี่หลิงมาคุยกับนาย บันดาลโทสะสังหารฆ่านายทิ้ง ก่อนตั้งท่าปลิดชีพฆ่าตัวตายตาม ดีพวกเขามาเจอกันสะก่อนเลยช่วยชีวิตไว้ได้ เสี่ยวฮัวยิ่งแล้วใหญ่เขาบอกว่าเสี่ยวฮัวกรีดร้องตบหน้าจางฉี่หลิงดังเพี๊ยะ! ด่าทอไม่หยุดว่าเขาไร้ยางอาย กล้าทำร้ายอู๋เสีย ยิ่งจางฉี่หลิงไม่แก้ตัว นายรู้ไหม สาวน้อยสาวใหญ่บนสวรรค์ฟังนิทานน้ำเน่าใส่ไข่กวนผสมถั่วเน่าของพวกนายที่เละตุ้มเป๊ะไม่มีชิ้นดี แทบจะร้องไห้ให้เสี่ยวฮัวกันทุกคน โธ่… จุ๊ๆ บัดซบดีจริงๆ”

ใช่บัดซบดีจริงๆ

“เทพสตรีบางกลุ่มเล่าว่าคุณชายสกุลอู๋มากล้นเสน่ห์มัดใจท่านชายผู้มีอำนาจคานสวรรค์ถึง 2 คน ทำใจไม่ได้ที่เสี่ยวฮัวกับจางฉี่หลิงทะเลาะกัน แต่ใจเจ้านึกถึงกลัวเสี่ยวฮัวจะลำบากในภาคหน้าที่ยศศักดิ์ไม่สู้ท่านชายจาง เสี่ยวฮัวยังเป็นรองจางฉี่หลิง 1 ขั้น กลัวว่าเสี่ยวฮัวจะลำบากเพราะตัวเองเลยตัดสินใจชักดาบดำของจางฉี่หลิงปลิดชีพตัวเอง พอเจ้าลงไปนอนเป็นบวบต้มจางฉี่หลิงร้องไห้น้ำตาไหลหยดเป็นเลือดกอดศพนายตะโกนเสียงดังจนฟ้าผ่าคร่ำครวญเรียกแต่เจ้า เสี่ยวฮัวที่แสดงอยู่วิ่งมาดูเห็นเจ้าบอกสลบเลือดนองพื้นก็สติแตกวิ่งไปจับมือเจ้าซบหน้าร่ำไห้พร่ำเรียกแต่อู๋เสียๆๆ ร่ำไห้ปานจะขาดใจ เชื่อไหม พวกนางฟังจบร้องไห้สนั่นลั่นสวรรค์ชั่งน้ำตาได้หลายกิโลเลยเชียวนะ!”

“ส่วนของเตี่ย เทพสวรรค์บุรุษทั้งหลายบอกเล่ากันสนั่นหนักแน่นกว่านี้ เขาบอกว่าเจ้าเป็นลูกสาวแก้วตาดวงใจของเตี่ยกับม๊าร่างกายอ่อนแอ แต่คำพูดจาและดวงตาสื่อความหมายได้พันล้านคำ เสี่ยวฮัวกับเจ้าหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็ก แต่สุดท้ายเจ้ากลับพบรักแท้กับจางฉี่หลิง เพราะเขาเคยช่วยเจ้าสมัยสงครามสวรรค์กับปีศาจ เคียงข้างเป็นตายด้วยกัน เกิดเป็นความรักในหัวใจ แต่สัญญาหมั้นหมายกับเสี่ยวฮัวยังคงมี เรื่องนี้เตี่ยกับม๊าและก็อารองของเจ้าถูกแซะจนหน้าชาหาว่าทำร้ายลูกหรือหลานสาวได้ลงคอ กล่าวว่าค่ำนั้นดวงจันทร์เต็มดวง เจ้า 2 คนร่ำสุราบอกรักกันเพียง 2 คน ร่ำไห้กับฟ้าดินสาบานรักมั่น แต่จางฉี่หลิงเป็นโอรสสวรรค์ เป็นรัชทายาทที่จะก้าวเป็นผู้นำ 9 สกุล แย่งชิงภรรยาผู้อื่นย่อมเสื่อมเสียเกียรติ เจ้าทำใจให้เขาถูกนินทาไม่ได้เดินไปหาจางฉี่หลิงร้องเพลง 1 เพลงเพียงเพื่อเขาแต่เพียงผู้เดียว ก่อนใช้พลังวัตรคว้าดาบปาดคอตนเอง ยอมตายแต่ไม่ยอมให้คนรักเสื่อมเสีย จางฉี่หลิงเห็นเจ้าทำเช่นนั้นคำรามดุจสัตว์ป่า กู่ก้องถึงท้องฟ้า พลังวัตรรุนแรงดุจสายฟ้าฟาด พวกเขาอยู่ในงานตกใจวิ่งมาดู บุรุษบางคนสะเทือนใจในความรักของพวกเจ้า 2 คน น้ำตาไหลไม่หยุด แล้วเล่าว่าเสี่ยวฮัวสำนักผิด คลานไปกราบกรานขอขมาเจ้า 2 คน ขอให้ลงโทษ”
ผมชักนิ่งตาเหลือกตัวเกร็ง แทบน้ำลายฟูมปาก เตี่ยวิ่งเข้ามาดูตบๆหน้าผมบอกให้ใจเย็นๆหายใจเข้าลึกๆ นายอ้วนยกน้ำชามาให้จิบบอกให้ผมตั้งสติ ผมสงบใจอยู่นานหายใจเข้าลึกๆก่อนปรับลมหายใจให้เป็นปกติ

“แล้วยังไงต่อ”

เตี่ยลังเลที่จะเล่าสุดท้ายนายอ้วนจึงรับช่วง

“พอท่านอู๋เออร์ไป๋กึ่งคลานไปไปคว้าเจ้าออกมาด้วยมืออันสั่นเทา เออ… อันนี้เขาเล่ามานะ ตบหน้าจางฉี่หลิงกับเสี่ยวฮัวลงไปคนละฉาด อุ้มเจ้าวิ่งหนีเข้าห้องตัวเองไปปู่ของนายมหาเทพอู๋เหล่าโก่วทราบว่าหลานถูกทำร้ายเหมือนแก่ลงไปอีก 10 ล้านปี เป็นลมกลางบ้าน สกุลฮัวรีบเข้าไปตรวจรักษา มีนายแว่นดำคอยกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไป สุดท้ายได้ความว่ากายหยาบแตกสลาย แต่ 3 จิต 7 วิญญาณ ล่วงหล่นลงไปยังโลกมนุษย์ อู๋เสียอย่าให้ฉันเล่า 15 ปีนี้นายเป็นตำนานแสดงงิ้วได้ 18 เรื่องเลยทีเดียวนี้นับแค่โลกมนุษย์เท่านั้น บนสวรรค์เรื่องรัก 3 เศร้าเคล้าขี้หมายิ่งพลุแตกไปใหญ่ ท่านเออร์เย่วหงลงทุนประพันธ์ขั้นมาด้วยตัวเองเลยเชียวนะ”

ผมหอบสะท้านเฮือก

“มีใครบ้างนอกจากเสี่ยอ้วน ท่านจางฉี่ซาน เตี่ย ที่ลงมายืมร่างมนุษย์แบบนี้”

ผมมองเตี่ยกับนายอ้วนมองตากันถอนหายใจยาวๆ เตี่ยเริ่มเล่าต่อจากส่วนที่เหลือ

“เรื่องร้อนไปถึงหูจางฉี่ซาน เข้าหน้าใครแทบติดได้เรื่องว่าเจ้าลงมาเกิดที่โลกมนุษย์ก็แล่นตามหาแทบพลิกแผ่นดิน ได้ความว่าเจ้าไปเกิดเป็นลูกสาวตระกูลฟงก็ให้ทหารส่งตัวไปรับแต่เจ้ากลับหนีไปสะก่อน”

“นี้เทพสวรรค์สาวๆก็เล่าอีกนะ ที่นายหนีไปเพราะทำใจเจอหน้าจางฉี่หลิงไม่ได้ ขี่ม้าหมื่นลี้หลบหนี แม้ตายไม่พบหน้า”

“ท่านเทพดวงชะตาอย่าตัดทอนข้า พอท่านจางฉี่ซางมาใช้ร่างฮ่องเต้ ท่านยายสกุลฮัวก็กลัวน้อยหน้า ไหนๆเรื่องก็เกิดขึ้นในงานตัวเองก็เลยลงสวรรค์ตามมาอีกคน สิงร่างฮองเฮาขององค์จักรพรรดิ คู่อยู่กับจางฉี่ซาน พอเฉินผีอาซือทราบข่าว โกรธจนแผ่นดินสะเทือนลงมาสิ่งร่างฮ่องเต้เมืองจินหลิงสั่งกองทัพให้โจมตีลั่วหยาง เฮยเป้ยเหล่าลิ่ว ได้ข่าวท่านเฉินล้างแค้นก็ตามติดมาอีกคน เป็นแม่ทัพออกรบด้วยตัวเอง ตอนนี้ 2 เมืองแทบจะฆ่ากันตายด้วยเรื่องของเจ้า”

ผมฟังพวกเขาน้ำลายแตกฟองแทบอยากปลดผ้าผูกคอตายคาขื่อคาน วันนี้ผมได้รู้ถึงพิษภัยของการไม่ใส่ใจ และ อะไรก็ได้ของตัวเอง นับว่าผมคิดง่ายเกินไปจริงๆ จากคำบอกเล่า 4 ใน 9 สกุลลงสนามรบแล้ว เพื่อคนงามสกุลอู๋ (ถุย) ผมนิ่งงั้น เริ่มประมวลผล

“มีแค่ 4 คนใช่ไหม เสี่ยอ้วน เตี่ย”

สิ้นคำพูดผมจบเสี่ยอ้วนกลั้นขำทำเสียงหลุดหัวเราะจนพุงสะเทือน เตี่ยทำหน้าบรรลุแล้วถึงแสงธรรม ก่อนกล่าวออกมา

“อู๋เสียเพราะเจ้าไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็น ผู้คนเลยสงสัย พอเจ้าลงมาเกิดบนโลกมนุษย์โดยไม่ผ่านด่านเทพดวงชะตา ไม่ได้เลือกเพศ ไม่ได้เลือกฐานะ ไม่ได้เลือกที่อยู่ ที่สำคัญไม่ได้เปลี่ยนหน้าตาตนเอง เจ้าคิดหรือว่าพวกเขาจะพลาดที่จะมาดูโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า” ผมแข็งค้าง นายอ้วนจิบชาอึกใหญ่ ยกกาเทใส่อีกจอก ฟังพ่อผมเล่าไม่พูดออกมาแม้แต้คำเดียว “ เสียงเล่าลือลั่นไปทั่วปฐพีบอกว่าเจ้าไม่มีเพศ แน่นอนพวกเขาย่อมเข้าใจ เพราะเจ้ามาเกิดโดยตรงผิดธรรมเนียม แต่ใบหน้าของเจ้า หึหึ 15 ปี เจ้านับว่าเก่งกาจ เล่าทวยเทพปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่โดนเตี่ยกันออกไปเสียก่อน เจ้านับว่าติดหนี้บุญคุณเตี่ย”

ผมตัวสั่นคล้ายโลกจะแตก

“เทพทุกองค์ ลงมามากเท่าใด”
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 12:09

สิ้นคำบรรยาย นายอ้วนและเตี่ยมองหน้ากัน ยกจอกชาคารวะแก่กัน ยกดื่มรวดเดียว แล้วหันหน้ามาหาผม พูดเสียงดังพร้อมๆกัน

“เยอะ!!!”

ผมควรจะแขวนคอตายเสียที….

=================================

จบสิ้นเเล้วคะ part 3 ตอน 1

เย้ๆๆๆ อู๋เสียกระเด็นลงมาจากสวรรค์แล้ว เย้ๆๆๆๆ
พวกท่านอย่าตบตีคนอ่านเลย ข้าเอามาลงเเค่พาทเดียวข้าก็สำนึกผิดเเล้ว
ใจข้าอยากเอามาลงให้หมด แต่.... ช่องบอร์ดไม่อำนวยจริงๆ และข้ายังไม่ได้ตรวจทาน พาท 2 เลย
อ่านถึงตรงนี้แบบ นำตาไหลของแท้คะ 21 หน้า คือไม่มีคำใดจะกล่าว
ขอขอบคุณมากๆคะ จะรีบเอาพาท 2 มาลงไม่ให้ผู้อ่านเสียความเชื่อใจคะ เราสัญญา
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by Mamon Sun 16 Nov 2014, 12:38

กรี้ด ชอบฟิคมากค่า >H< ขนาดป่วนไปทั้งสวรรค์แบบนี้ คุณชายจางก็ยังไม่ได้ออก สมเป็นพระเอกออกทีหลังจริงๆ ฮา
Mamon
Mamon
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 14
Points : 3484
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ในโทรศัพท์เสี่ยวฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by meanato Sun 16 Nov 2014, 13:38

ชอบจัง ชอบจัง จะรอตอนต่อไปนะค้าาาา
meanato
meanato
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 487
Points : 3961
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by pim-lovedmbj Sun 16 Nov 2014, 14:03

โอ้ยยย ฮาชีวิตนายน้อยสกุลอู๋จิงรัยจิง มาต่ออีกนะคะ ชอบมากกกกกก

pim-lovedmbj
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 7
Points : 3467
Join date : 06/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by delivery Sun 16 Nov 2014, 18:02

กรีีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด สุดขาดใจ
คือจะบอกว่าเป็นฟิคที่รอคอยมากๆ ในทู้เต้ามูแฟนฟิคคะ
ยาวจัดเต็มมากๆเลย
นี้มันเพนกล้องตามติดชีวิตนายน้อยอู๋เสีย
อยากดูว่าจะเเก้ปัญหากันยังไง
นายน้อยเทียนเจินมากๆ ตอนบอกให้กระต่ายเบาเสียงเเละก็ย่องไปด้วยกัน

delivery
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 15
Points : 3468
Join date : 13/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sun 16 Nov 2014, 19:04

ขอบคุณมากๆคะ
อ่านแล้วสะเทือนไต จะรีบเข็นตอนท้ายมาลงให้อย่างรวดเร็วคะ QvQ
ฮูเร่ ฮุเร่ นายน้อยจงเจริญ คนอ่านจงเจริญ ฮูเร่ ฮูเร่!
ใครสนใจอยากอ่านตัวละครไหนก็บอกได้นะคะ
จะได้เก็บเขียนไว้เป็น ไซต์สตอรี่

กราบขอบคุณจริงๆคะ
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by freya_friend Sun 16 Nov 2014, 20:24

5555555555555555555555555555+ โอ้ยขำ ตอนนี้ขำไม่ไหวแล้ววว ตำนารักสะท้านภพนั่นมันอะไรก๊านนนนน แล้วดู4สกุลมาชิงตัวคนงาม(?)โดยที่คนงาม(?)ไม่ได้รู้เรื่องเรื่องอะไรเล๊ยยยย แล้วยังมีพวกที่อยากมาดูโฉมหน้าอีก 55555555555555555555+

freya_friend
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 10
Points : 3480
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by kaew_nya Sun 16 Nov 2014, 21:41

แอร๊ยยยยยยยยยย มาต่อแล้ววววว
เป็นเรื่องที่เราเฝ้ารอค่ะ
ความจริงเห็นลงตั้งแต่บ่ายๆ แต่ติดที่อยู่ข้างนอก
ต้องอดใจกลับมาอ่านที่บ้านค่ะ

นายน้อยของบ่าวตกสวรรค์ซะแล้ว
โฮกกกกกกก ลงมาก็สร้างตำนานอันลือลั่น
เป็นหญิง(?)งาม ธิดาสวรรค์ กรี๊ดๆๆๆๆๆ

พวกท่านเทพก็ช่างเม้าท์เหมือนกันนะคะ
ข่าวลือมากมายหลายสำนักมาก Gossip กันสุดๆค่ะ
ขำตำนานรักสามเศร้าของเราสามคนนั่นด้วย
ท่านเอ้อร์ถึงกับจับไปประพันธ์บทงิ้ว
อาหนิงมีการอัดวีดีโอด้วยค่ะ ร้ายกาจมาก
(ไรท์ให้หนูแผ่นนึงนะค-- // โดนอู๋เสียเขวี้ยงเก้าอี้ใส่)
อย่างน้อยตอนนี้เจอเตี่ยอี้ฉยงแล้วนายน้อยน่าจะอุ่นใจนะคะ

ว่าแต่..ท่านจางฉี่หลิงบอกให้ "รอฉัน"
แล้วท่านจะโผล่มาเมื่อไหร่คะ
ฉากเปิดตอนคืออะไร เค้าอยากรู้เรื่อง
เอาเป็นว่าจะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ >_^

kaew_nya
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 60
Points : 3525
Join date : 03/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Sun 16 Nov 2014, 23:50

พรืดดดดดด ไม่รู้จะสงสารหรือจะขำนายน้อยดี จากอุบัติเหตุกลายเป็นนิยายรักน้ำเน่าไปซะแล้วอู๋เสียเอ๋ย คาดว่าพอกลับไปคงได้หลบหน้าหนีข่าวไปอีกนับพันปีแน่ๆ ถถถถถ
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3940
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Tue 18 Nov 2014, 15:57

คืออ่านแล้วบอกได้คำเดียวเลย

เยอะ!

5556555 ขำแทบตกเก้าอี้ โถนายน้อยย

สาวๆบนสวรรค์ที่ตีไข่ใส่สีนั่นใช่ด้วงหรือเปล่าคะ 555555
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3942
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by hnee Wed 19 Nov 2014, 16:03

ทุกคนลงมาจนหมดสิ้นแล้ว เสี่ยวเกออยู่ที่ไหนหนอ? ใจหนึ่งอยากให้อาเสียจดจำความรักระหว่างตัวเขากับเสี่ยวเกอได้ในช่วงเวลาที่มาแฝงกายอยู่ในโลกมนุษย์นี้ อยากให้ได้ครองรักกันถึงจะแค่ระยะเวลาเล็กน้อยนับอายุคนบนโลก รอติดตามพาร์ท 2 ต่อไปค่ะ! ^_^

hnee
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 203
Points : 3674
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย) Empty Re: [FIC] ซีรี่สวรรค์องค์ที่ 3 [ผิงเสีย] part 1/2 (มันไม่สั้นเลย)

ตั้งหัวข้อ by Duke_of_Florence Mon 24 Nov 2014, 14:31

หญิงงามล่มเมืองจริงๆ เกิดเป็นอู๋เสียเราคงปวดหัวน่าดู
เรื่องใส่สีตีไข่บนสวรรค์เนี่ยน้ำเน่าสุดๆ อ่านไปขำไป
รอคุณพระเอกปรากฏกายค่ะ
Duke_of_Florence
Duke_of_Florence
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 113
Points : 3579
Join date : 31/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ