Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

+2
yakusoku
natsume
6 posters

Go down

[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC Empty [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

ตั้งหัวข้อ by natsume Thu 05 Mar 2015, 00:24


Title : สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก
Fandom : 盗墓笔记 [บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน]
Pairing : เมินโหยวผิง x อู๋เสีย [ผิงเสีย] (เมนคู่นี้ แต่เสี่ยวเกอนี่โผล่มาแค่ชื่อจริงๆ)
Rate : PG
Timeline : หลังเล่มสิบ และภาคธิเบต (นายน้อยไปตามหาอดีตเสี่ยวเกอมาแล้วค่ะ)


ตอนก่อนหน้า
[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก ตอนแรก
[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก ตอน2
[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก ตอน3

**Spoiler Warning**

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


[4]

เบื้องหน้าของเราคือบ้านทรงจีนแบบเก่าที่มีรั้วล้อม แต่กินอาณาเขตบริเวณไปถึงตลาด และกว่าจะหาประตูทางเข้าเจอ

เล่นเอาหอบ...

บางทีอาจจะเป็นจวนผู้ว่าการหรืออะไรซักอย่างที่สำคัญ

แม่ของเสี่ยวเหลียนเป็นคนใหญ่คนโตหรือไงนะ?

“เซี่ยอวี้ฮัวที่นัดไว้ครับ” เสี่ยวฮัวเอ่ยกับหญิงสาวที่ออกมารับหน้าประตูใหญ่ ผมกับนายอ้วนเอาแต่มองไปรอบๆด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะเพิ่งเคยเข้ามาที่หรูหราแบบนี้เป็นครั้งแรก

คือก็ไม่ได้หรูหราระดับเดียวกับภัตตาคารที่เราเคยไปก่อวินาศกรรมกันไว้ที่ปักกิ่ง แต่มันให้บรรยากาศดั้งเดิมเหมือนยุคเก่าอะไรประมาณนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบ้านที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยโบราณเอาไว้ด้วย

“เชิญทางนี้ค่ะคุณชายเซี่ย นายหญิงรออยู่ด้านในแล้วค่ะ” เธอถอยออกไปเมื่อเรายืนอยู่หน้าห้องโถงแห่งหนึ่ง ด้านในมีม่านกั้นเอาไว้ เมื่อเดินผ่านเข้าไปจึงได้พบกับ...

หญิงสาวผู้งดงามคนหนึ่ง เธอใส่ชุดกระโปรงยาวและมีผ้าคลุมไหล่ทับ ดวงหน้างดงามหันมาสบตาและยิ้มให้ ดวงหน้าที่ทำให้ผมตกตะลึง เพราะเธอไม่ได้มีใบหน้าเหมือนผมแต่อย่างใด

ทำไม?...ผู้หญิงคนนี้ใช่แม่ของเสี่ยวเหลียนจริงๆงั้นหรือ? เธอยังดูสาวเกินไปด้วยซ้ำ

แต่คำถามของผมก็ได้รับการยืนยันจากยัยหนูผู้ยืนเกาะชายเสื้ออยู่ทันที

“คุณแม่...” เสียงเล็กๆพึมพำ ผมยื่นมือไปลูบหัวเธอเบาๆแล้วดึงเด็กน้อยมาไว้ด้านหลังตัวเอง จากนั้นจึงได้ยินเสียงอีกฝ่ายดังมา

“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณชายเซี่ยและผู้ติดตาม”

“พวกเขาไม่ใช่ผู้ติดตามครับ นั่นเพื่อนผม” เสี่ยวฮัวหักหน้าสุดๆ ไม่เกรงใจเอาเสียเลย

“เสียมารยาทแล้ว ขออภัยด้วยค่ะ ดิฉัน เหม่ยเซียงอิน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ไม่ผิดแน่ ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของฉีเหลียน แต่ทำไม... แซ่ของเธอจึงเป็นแซ่เหม่ยแทนที่จะเป็นแซ่ซือล่ะ?

“ผมเซี่ยอวี้ฮัวครับ ขอบคุณที่อนุญาตให้เราเข้าพบในวันนี้” ทุกอย่างเริ่มเป็นทางการมากขึ้นเมื่อเราทักทายกันจบ ผมจ้องเธอไม่วางตาในขณะที่นายอ้วนเอาเสี่ยวเหลียนไปนั่งตักแล้วโอ๋อยู่ห่างๆ เมื่อเสี่ยวฮัวคุย ‘ธุระปลอม’ ที่เตี๊ยมกันไว้เสร็จ ผมก็เริ่มเข้าประเด็นบ้าง

“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยอะไรออกมา หญิงสาวก็ส่งยิ้มให้ส่วนสาวใช้คนสนิทออกมารับหน้า

“นายหญิงมีโรคประจำตัวและต้องการพักผ่อนค่ะ ถ้าเสร็จธุระแล้วขอเสียมารยาทเชิญ” ก็คิดอยู่แล้วว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น... นี่มันเริ่มจะไปกันใหญ่แล้ว ผมมองตามเหม่ยเซียงอินไปจนกระทั่งเธอหายไปจากสายตา เสี่ยวฮัวจึงกระตุกเสื้อเป็นเชิงเรียก

“เอาไง แผนล่ม” จะให้ทำยังไงต่อได้เล่า? แต่พอเหลือบมองไปที่ยัยตัวเล็กแล้ว...
เด็กน้อยกำลังกลั้นสะอื้นจนตัวโยน หน้าแดงไปหมด ดูทรมานมากเพราะเธอไม่ยอมร้องออกมาแม้แต่แอะเดียว

“เสี่ยวเหลียน...” ผมเรียกยายหนู เธอโผเข้าหาทันที ผมจึงอุ้มไว้แล้วลูบหลังเบาๆ

“อาป๊า... แม่ไม่รักเสี่ยวเหลียนแล้ว แม่จำเสี่ยวเหลียนไม่ได้แล้ว” เสียงสะอื้นดังแผ่วๆอย่างน่าสงสาร ผมแทบขาดใจตามเธอไป เด็กน้อยกำเสื้อผมแน่นซุกหน้าลงแล้วร้องไห้ ผมทำได้แค่เพียงลูบหัวเธอเท่านั้น

“ขอเสียมารยาทค่ะ” พวกผมสามคนสะดุ้งโหยง เมื่อคุณสาวใช้คนสนิทมายืนด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ดวงตาคมกริบของหล่อนมองปราดมาที่ฉีเหลียนก่อนจะหลุบลงต่ำราวกับกำลังใช้ความคิด

“นายหญิงต้องการพบ ‘คุณ’ เพียงคนเดียวเท่านั้นค่ะ กรุณาตามมาด้วยค่ะ” นิ้วยาวเรียวนั้นชี้มาที่ผม เสี่ยวฮัวกับนายอ้วนมองตามแล้วเหมือนจะเข้าใจอะไรรางๆ

ผู้หญิงคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเรามาทำไม...




เราจำเป็นต้องแยกกันตรงนั้น นายอ้วนและเสี่ยวฮัวบอกว่าจะพาเสี่ยวเหลียนออกไปรอที่ทะเลสาบซีหู เพราะถ้าอยู่ที่นี่เด็กน้อยจะยิ่งอดกลั้นเมื่อห่างจากผม ก่อนแยกกันสาวใช้คนนั้นขออุ้มเสี่ยวเหลียนบ้างและถ้าผมได้ยินไม่ผิด หล่อนเรียกยัยหนูของผมว่า ‘คุณหนู’

ผมเดินตามหญิงรับใช้คนนั้นกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้เดินผ่านโถงกลางเหมือนที่เข้ามาตอนแรก เธอกลับพาผมเดินอ้อมมาทางสวนหินด้านข้าง ก่อนที่ผมจะทันได้เอ่ยปากถามอะไรหล่อนก็ชิงตอบเสียก่อน

“การพบกันระหว่างคุณกับนายหญิงครั้งนี้ไม่มีใครรู้นอกจากฉัน หากเดินผ่านโถงกลางกล้องวงจรปิดจะบันทึกการเข้าออกห้องรับแขกของนายหญิงและนายท่านอาจจะทราบเอาได้ เรารู้ตั้งแต่คุณชายคนนั้นติดต่อมาแล้วว่าคุณเป็นคนที่รับดูแลคุณหนูอยู่ในตอนนี้” สีหน้าของเธอหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ในใจ ก็ในเมื่อเสี่ยวเหลียนคือลูกสาวแท้ๆของเธอจริงๆ ทำไมถึงทำเป็นไม่รู้จัก ไม่แม้แต่จะทักหรือคุยเล่นด้วยเลยแม้แต่น้อย

“เรือนกลางไผ่นี่เป็นที่ส่วนตัวของนายหญิง ฉันถ่วงเวลาก่อนที่นายท่านจะกลับมาได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่คงเพียงพอที่จะทราบเรื่องราวได้ทั้งหมด รีบไปพบนายหญิงเถอะค่ะ” เธอค้อมตัวลงเป็นเชิงให้เข้าไป

เดินเข้าไปไม่เท่าไหร่ก็พบกับหญิงสาวคนเดิม นายหญิงเหม่ยเซียงอิน เธอค้อมตัวลงให้ผมก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว

“ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ เถ้าแก่อู๋ แล้วก็ขอบคุณมากนะคะที่รักและดูแลลูกสาวของดิฉันอย่างดี”

“หมายความว่ายังไงกันครับ? ถ้าคุณรู้แล้วว่าผมจะพาเสี่ยวเหลียนมาแล้วทำไมถึง...” การเจรจาเฉพาะกิจนั่นมันอะไร? ปกติแม่จะต้องดีใจที่ได้ลูกคืนไม่ใช่หรือ?

“ดิฉันไม่สามารถเลี้ยงฉีเหลียนได้อีกต่อไปแล้วค่ะ ไม่ว่าจะอยากหรือไม่ก็ตาม” เธอส่ายหน้าพร้อมกับเลื่อนซองเอกสารสีน้ำตาลมาตรงหน้าผม พอแกะออกดูจึงพบว่าเป็นใบสูติบัตรและเอกสารต่างๆที่เซ็นรับรองเรียบร้อยแล้ว มีแม้กระทั่ง
ใบเซ็นรับเป็นบุตรบุญธรรม...

“ทำไม...”

“แต่เดิมที...เด็กคนนี้ถูกขอไว้นานแล้วค่ะ โดยคนๆหนึ่งที่คุณน่าจะรู้จักดี” ผมชะงักไปกับคำพูดนั้น ใคร? ที่ไหน? เมื่อไหร่? ยังไง? ในเมื่อผมไม่มีความเกี่ยวโยงใดๆกับเด็กคนนี้เลยแม้แต่น้อย

“หรือว่าพ่อของเสี่ยวเหลียน...จะเป็นคนที่ผมรู้จัก” ผมถามด้วยหัวใจที่เต้นระรัว กลัวเหลือเกินว่าคำตอบของเธอจะเป็นคำว่า ‘ใช่’ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเดาอีก เขาแค่ฝากผมเลี้ยงลูกเท่านั้น

แต่เธอกลับส่ายหน้า...

“ไม่ใช่หรอกค่ะ พ่อของฉีเหลียนคือเพื่อนสมัยเด็กของดิฉันเองค่ะ เขาเสียชีวิตไปก่อนที่เด็กคนนั้นจะเกิดเสียอีก เพราะอุบัติเหตุ และตัวดิฉันเองก็ป่วยเป็นโรคร้ายที่ไม่มีวันรักษาหาย เพราะงั้นตอนที่คลอดเด็กคนนั้นจึงลำบากมาก” หล่อนเงียบไปอยู่นานราวกับกำลังจมในความคิด ซึ่งผมก็ไม่ได้เอ่ยขัดอะไรออกไป เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังจะเล่าต่อไปนี้ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องสำคัญ

“ดิฉันถูกที่บ้านคัดค้านการแต่งงาน จึงต้องหนีไปกับพ่อของเสี่ยวเหลียน แต่ก็เพราะโรคประจำตัวของดิฉันทำให้อาการกำเริบตอนท้องได้ประมาณเจ็ดเดือน ตอนนั้นคนโบราณเชื่อว่าเด็กที่คลอดก่อนกำหนดที่เป็นเลขคี่จะต้องตายแน่นอน แต่เขาก็มาช่วยพวกเราเอาไว้”

“เขา?”

“ค่ะ เขาบอกว่าเป็นคนรู้จักของคุณ ถ้าดิฉันจำไม่ผิด รู้สึกว่าเขาจะชื่อ จางฉีหลิง” ชื่อของคนที่คุ้นเคยโผล่เข้ามาในบทสนทนา ผมถึงกับร้องโอ้ในใจ เสี่ยวเหลียนมีความเกี่ยวข้องกับหมอนั่นจริงๆด้วย

“ด้วยยาที่เขาต้มให้ดื่ม ทำให้ดิฉันประคองอาการตัวเองได้และรู้สึกดีขึ้นมาก เราบอกกับเขาว่าจะตอบแทนทุกอย่างที่ต้องการ เพราะฉะนั้นเขาจึงขอสัญญาข้อหนึ่งค่ะ” เธอเล่ามาถึงตรงนี้ ผมเริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง ยังไม่ทันตั้งสมมุติฐานอะไรกับตัวเอง หญิงสาวก็เฉลยออกมาเสียก่อน

“เขาขอเด็กคนนี้ไปเป็นลูกค่ะ เขาบอกกับดิฉันว่าไม่ใช่ตอนนั้น แต่คุณจะมารับเธอแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้นตอนที่กำลังไร้หนทางอยู่ดิฉันถึงได้พาเด็กคนนั้นไปที่ทะเลสาบซีหูเพราะรู้ว่าคุณจะเดินผ่านที่นั่นทุกวัน” หา! นี่มันบ้ามากๆเลยนะ ถ้าผมเดินกลับไปเฉยๆโดยที่ไม่สนใจเธอ เสี่ยวเหลียนก็จะนั่งอยู่อย่างนั้นไปอีกนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ได้

“ถ้าผมไม่ได้เดินผ่านที่นั่น ถ้าผมไม่ได้พาเสี่ยวเหลียนเข้าบ้าน ถ้าเธอหนาวตายอยู่ตรงนั้นคุณจะกล้าพูดอย่างนี้อยู่อีกมั้ย! คุณเป็นแม่แท้ๆทำไมถึงทำกับเธออย่างนี้!” ผมรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาทันที แค่เพราะไปสัญญาอย่างนั้น เธอถึงกับต้องเอาลูกไปทิ้งเลยหรอ? จริงๆเธอแค่ไปหาผมที่ร้านแล้วพาเสี่ยวเหลียนไปก็ได้! ในเมื่อเมินโหยวผิงบอกชื่อของผมไว้กับเธอแล้วนี่

“ดิฉัน...ไม่มีทางเลือกอีกแล้วค่ะ เวลาของดิฉันใกล้จะหมดแล้ว และญาติๆของดิฉันก็เร่งเร้าให้จัดงานแต่งงานครั้งนี้เสียเหลือเกิน” หล่อนพูดอย่างอ่อนแรง ผมจึงเพิ่งสังเกตเธอเต็มๆเป็นครั้งแรก ใบหน้าของเหม่ยเซียงอินแม้จะงดงามแต่ก็ซีดเซียว เครื่องสำอางทั้งหลายมิอาจปกปิดรอยโรคได้ทั้งหมด

“แต่งงาน...กับเจ้าของบ้านหลังนี้น่ะหรือครับ?”

“ค่ะ...เพราะเขาอยากได้ตัวดิฉันมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว...ส่วนพวกญาติๆก็อยากได้สมบัติ เด็กคนนั้นจึงเป็นตัวเกะกะ พวกเขายื่นคำขาดเอาไว้ว่าถ้าไม่ทิ้งเสี่ยวเหลียนจะพาไปขายน่ะค่ะ” ความโลภช่างน่ากลัวจริงๆ ดูจากบ้านหลังนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีเงิน หากแต่งกับทางนี้ตัวเองก็สบายไปด้วยสินะ

“แต่ตัวดิฉันเองก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะค่ะ ถึงจะแต่งกันไปสุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี”

“คุณเหม่ยเซียงอิน”

“เวลาของดิฉันมีไม่มากแล้วค่ะ เพราะงั้นจึงอยากฝากเด็กคนนั้นไว้กับคุณและขอให้ได้เห็นหน้าแกเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น” เธอดันซองสีน้ำตาอีกซองมาให้ผม ในนั้นจดบันทึกสิ่งที่ชอบ เกลียด นิสัยส่วนตัว ส่วนสูงตามเดือน พัฒนาการ การเข้ารับวัคซีน และอะไรอีกหลายๆอย่างที่คนเป็นแม่จะทำให้ได้ทั้งหมด ผมรับรู้ได้ถึงความรักที่เธอมีให้เสี่ยวเหลียนน้อยอย่างมากมาย

“คุณ”

“ขอความกรุณาฝากฉีเหลียนด้วยค่ะ คุณอู๋เสีย... เขาบอกว่าคุณจะรักและดูแลแกอย่างแน่นอน”

“เขาหรือครับ?” ผมเอ๊ะใจกับคำพูดนั้น เมินโหยวผิงพูดอะไร

“ค่ะ... หน้าของเด็กคนนั้นไม่เหมือนดิฉันเลยใช่ไหมล่ะค่ะ... จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้เหมือนพ่อแกที่เสียไปด้วย ตอนแรกก็นึกอยู่เหมือนกันค่ะว่าทำไม แต่ก็นึกถึงคำพูดของคนๆนั้นขึ้นมาได้” ใช่ ผมเห็นตั้งแต่ตอนเจอหน้าเธอหนแรกแล้ว ข้อสงสัยทุกอย่างของผมถูกปัดตกไปหมด เพราะงั้นจึงยังไขปริศนาไม่ได้ว่าทำไมเสี่ยวเหลียนถึงหน้าเหมือนผม หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แล้วพูดในสิ่งที่ทำให้ผมถึงกับน็อค

“เขาบอกว่า เด็กคนนั้นจะกลายเป็นลูกของเขากับคุณค่ะ” เพราะประโยคนั้นเองที่ทำให้ผมหน้าร้อนไม่หยุด แม้ว่าจะกลับถึงบ้านตัวเองแล้วก็ตาม




“สรุปว่า... เสี่ยวเกอไปขอเหลียนเอ๋อร์ไว้ให้เป็นลูกนายตั้งแต่แรกแล้วสินะ” นายอ้วนนั่งเท้าคางมองเมินโหยวผิงรุ่นเยาว์ที่นั่งอยู่บนตักผม เสี่ยวฮัวหน้าบูดไปตั้งแต่ได้ยินคำว่าลูกผม ส่วนเด็กน้อยแม้ขอบตาจะบวมช้ำจากการร้องไห้มายาวนาน แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว

“แม่ไม่ได้ทิ้งเสี่ยวเหลียนหรอ?”

“คุณแม่ของเสี่ยวเหลียนป่วยนะคะ และคุณแม่ก็ขอให้อาป๊าไปรับเสี่ยวเหลียนมาเอง ต่อจากนี้อาป๊าจะอยู่กับเสี่ยวเหลียนเองนะ” เด็กหญิงกระพริบตาปริบๆใส่ผม แล้วพยักหน้าหงึกหนึ่ง อาการเหมือนเข้าใจอะไรง่ายๆนั้นทำให้ผมอดกังวลไม่ได้ว่าถ้าเธอมีนิสัยเหมือนเสี่ยวเกอจริงๆ เธอจะเข้าใจแน่หรอ?

หลังส่งเสี่ยวเหลียนเข้านอน พวกผมสามคนก็มานั่งตั้งสมมติฐานอีกพักใหญ่ๆ แต่ตั้งไปตั้งมาก็ไม่ได้เรื่อง พวกเราในนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าจางฉีหลิงไปดำเนินการเรื่องนี้อย่างลับๆตั้งแต่เมื่อไหร่ และทำแบบนี้ทำไม แต่มีจุดหนึ่งที่นายอ้วนพูดว่าเขาทำเรื่องพวกนี้ก็เพื่อผม

“สิบปีน่ะ มันนานใช่มั้ยล่ะ? เสี่ยอ้วนว่าน้องเสี่ยวเกอก็แค่กลัวว่านายจะเหงาล่ะมั้ง” มันเป็นความคิดง่ายๆของเขา แต่ผมก็อดคิดตามไม่ได้

ผม...เหงา...

อาจจะจริงก็ได้ ไม่อย่างนั้นวันนั้นผมคงไม่ตัดสินใจเดินไปที่ทะเลสาบเพื่อเจอกับเด็กหญิงคนที่มีดวงตาเหมือนเขาคนนี้ คงไม่ดั้นด้นตามหาแม่ของเด็กและจบลงด้วยการรับเธอมาเลี้ยงดูอย่างนี้หรอก

สามวันต่อมา ผมก็ได้รับจดหมายแจ้งข่าวร้ายฉบับหนึ่งจากคุณสาวใช้คนนั้น เหม่ยเซียงอินหรือถ้าจะเรียกให้ถูกตามสกุลเดิมก็คือซือเซียงอินนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว เธอยังบอกอีกว่านายหญิงของเธอมีความสุขจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เพราะคุณหนูของเธอได้ไปอยู่ในสถานที่ที่ดีแล้ว และเมื่อผมค่อยๆบอกเรื่องนี้กับเสี่ยวเหลียน แม้จะผิดคาดไปจากที่คิดแต่เด็กหญิงก็พยักหน้ารับรู้ทั้งน้ำตา และบอกสาวใช้คนนั้นเพียงว่าเธอจะไปไหว้หลุมศพของมารดากับบิดาผู้ให้กำเนิดอย่างแน่นอน

จากเด็กน้อยวันนั้นสู่เด็กสาวในวันนี้ ผมกับเสี่ยวเหลียนอยู่ด้วยกันมานานถึงห้าปี ไม่มีวันใดเลยที่จะไม่เป็นห่วง ไปไหนมาไหนถามใครก็บอกว่าเป็นลูกสาวได้เต็มปาก เราไปไหว้หลุมศพพ่อกับแม่บังเกิดเกล้าของเธอด้วยกัน ซือเซียงอินกับซือฟ่งหลิน ภาวนาให้พวกเขานอนหลับอย่างเป็นสุข ผมสัญญากับพวกเขาว่าจะเลี้ยงดูเธออย่างดีและรักเธอเหมือนลูกแท้ๆ เสี่ยอ้วนกับเสี่ยวฮัวเองก็แวะมาหาผมไม่ขาด แวะมาเล่นกับเสี่ยวเหลียนบ้าง หรือพาเสี่ยวเหลียนออกไปเที่ยวบ้าง มีครั้งหนึ่งที่เสี่ยวเหลียนของผมแอบไปฝึกวิชากับเฮยเสียจื่อ ตอนที่จับได้ผมโกรธมากถึงกับขังเธอไว้ในห้องหนึ่งวันเต็มๆ พอความโกรธคลายลงแล้วผมถึงได้พบว่าตัวเองเป็นพ่อได้แย่มาก เสี่ยวเหลียนนั่งคุกเข่าอยู่ในห้องไม่หนีไปไหนเลย จากเรื่องในคราวนั้นทำให้ผมรู้ว่าเธอเองก็รักผมมากเหมือนกัน

คนรู้จักของผมหลายคนไม่รู้ว่าเสี่ยวเหลียนเป็นลูกบุญธรรมจึงมักถามถึงแม่ของเธอ เด็กน้อยของผมก็ฉลาดพอที่จะไม่ตอบอะไรออกไปตรงๆ เธอจึงพูดแค่เพียงว่าแม่ของเธอไปอยู่ในที่ไกลแสนไกลแล้วเท่านั้น ผมพาเสี่ยวเหลียนไปที่บ้านใหญ่หลายครั้ง ถึงเจ้าตัวจะยังขยาดกับอารองอยู่บ้าง แต่ครอบครัวผมก็ต้อนรับหลานสาวคนนี้อย่างดี จนกระทั่งถึงวันนี้...
วันแห่งคำสัญญา และก็เป็นวันเกิดของลูกสาวสุดที่รักของผมด้วย

“ป๊าจะพาเสี่ยวเหลียนไปไหนหรอคะ?” เราขึ้นมาที่ฉางไป๋ซาพร้อมกับนายอ้วน เสี่ยวฮัวและนายแว่นดำ ฮั่วซิ่วๆนั้นพวกเราให้เธออยู่โยงที่ปักกิ่ง ผมบอกเสี่ยวเหลียนแค่เพียงว่าจะพาไปหาคนๆหนึ่งแต่ไม่ได้บอกอะไรไปมากกว่านั้น

“ป๊าจะพาเสี่ยวเหลียนไปเจอคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกคนของเสี่ยวเหลียนนะ” ผมพยายามยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้เด็กสาว เพื่อปกปิดรอยน้ำตาเมื่อคืนนี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ประโยชน์

“ไม่ว่าป๊าจะพาไปไหนเสี่ยวเหลียนจะไปนะ... แต่ถ้าเป็นที่ๆป๊าเสียใจไม่เอานะ” โอย... ผมรักลูกสาวตัวเองจัง

“ไม่เป็นไรหรอก... เพราะป๊าดีใจมากที่หนูเกิดมาเจอป๊าในวันนี้นะ เพราะงั้นถึงต้องไป...” ที่หน้าประตูสำริดพร้อมกับคำสัญญาสิบปีระหว่างผมกับเขา

ถ้าออกมาเจอกันเมื่อไหร่จะเอาคืนเป็นเท่าตัวเลยคอยดู!



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Talk: ดีใจที่ได้เจออีกรอบค่ะ ขอโทษที่ช้า...

บทนี้เฉลยปมเรื่องพ่อแม่เด็กน้อยให้แล้วนะคะ บทหน้าครอบครัวหรรษาแล้วค่ะ (เสี่ยวเกอจะได้มีบทแล้ว!!!)

ช่วงนี้โดนทีสิทตบกบาล มาช้ามากจริงๆ ขออภัย =w="

ไว้เจอกันใหม่นะคะ


แก้ไขล่าสุดโดย natsume เมื่อ Wed 15 Jul 2015, 14:37, ทั้งหมด 1 ครั้ง
natsume
natsume
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 97
Points : 3520
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC Empty Re: [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Thu 05 Mar 2015, 03:09

หืมม ไม่ใช่นายเมิยแอบเอาสูตรผสมอะไรใส่ลงไปในยาให้แม่เสี่ยวเหลียนกินหรอกนะ
ลูกออกมากถึงได้หน้าเหมือนนายน้อย นิสัยเหมือนเสี่ยวเกอ อืมมม น่าคิดๆ มันต้องมีซัมติง
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC Empty Re: [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

ตั้งหัวข้อ by mimky Thu 05 Mar 2015, 06:35

ยาอะไรคะนั่น º÷º
ทำให้เด็กหน้าเปลี่ยนได้!!!
เสี่ยวเหลียนโตมาคงสวยน่าดูเลย ♥
นายน้อยเอาคืนให้หนักเลยนะ!!!
mimky
mimky
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 28
Points : 3490
Join date : 04/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC Empty Re: [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

ตั้งหัวข้อ by KANAE Thu 05 Mar 2015, 18:50

ตอนต่อไป!!
อู๋เสียเอาจริง!! นายเมินออกมาคราวนี้อ่วมแน่!!//...อย่างกับชื่อตอนบอลมังกรเลยแฮะ
KANAE
KANAE
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 37
Points : 3391
Join date : 21/02/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC Empty Re: [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

ตั้งหัวข้อ by Nepenthes Fri 06 Mar 2015, 22:15

ฟังเพลงไปด้วย อ่านไปด้วยย น้ำตามันไหลลลล
Nepenthes
Nepenthes
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 42
Points : 3446
Join date : 01/01/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC Empty Re: [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก4 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Fri 03 Jul 2015, 03:28

ดีใจตรงประโยคว่าตอนหน้าเสี่ยวเกอมีบทแล้ว
ฮือ แล้วทำไมไม่มาต่อล่ะคร้าบ
*ดิ้นๆๆๆ*
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ