Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

+3
feyralin
ryu77
sinnerdarker
7 posters

Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Tue 20 Jan 2015, 01:21

+++++++++++++++++++++




หากหลับตาลง ปล่อยสติให้ร่วงหล่นสู่ห้วงนิทรา

จะพบกับโลกที่ไม่มีวันเป็นจริง

.

.




ในสถานที่แห่งนี้ กาลเวลาเป็นสิ่งที่ไม่มี หรือหากแม้ไหลผ่าน ก็ยากจะรู้สึกได้

ในความว่างเปล่าอันมืดมิด มีเพียงเสียงหยดน้ำที่ทำให้ครองสติไว้ได้ ยามหลับใหลและยามตื่น ดูคล้ายไร้เส้นแบ่งแก่กัน

กระนั้น เมื่อเวลาผ่านไป ยามที่หลับตาลง ปล่อยตนสู่ห้วงฝัน กลับพบกับโลกอีกใบหนึ่ง

โลกที่สว่างสดใส เปี่ยมล้นด้วยความความสุขอันอ่อนโยน




++++++++++++++++++++





จางฉี่หลิงลืมตาขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง

ห้องทรงสี่เหลี่ยม คลับคล้ายคลับคลาว่ารู้จัก แต่ก็ไม่รู้จัก

เสียงพัดลมเพดานดังหึ่ง ยินเสียงรถราที่ยังคงขับเคลื่อนในยามราตรี ภายในห้องมีเครื่องเรือนไม่มากนัก ทว่าเพียงพอให้คนอยู่อาศัย

เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน แลดูสมบุกสมบัน ผ่านการใช้งานมานาน

เขานอนอยู่บนเตียง คลุมผ้าห่มมาถึงคอ จางฉี่หลิงลุกขึ้นนั่ง ก้มมองร่างข้างกาย พลันประกายตาก็อ่อนแสงดื่มด่ำ

อู๋เสีย

จางฉี่หลิงจ้องมองใบหน้านั้น.. ยื่นมือไปแตะสัมผัส เขาชะงักเล็กน้อย ลังเลอยู่พักใหญ่ถึงจะแตะมือลงบนใบหน้านั้นจริงๆ

อบอุ่น อ่อนนุ่ม

มีชีวิต

ชายหนุ่มผมดำหรี่นัยน์ตาลง เกลี่ยนิ้วลงบนดวงหน้าของคนที่เขาถวิลหา อู๋เสียหลับตาพริ้ม ได้ยินเสียงหายใจเบาๆ ดังออกมาพร้อมแผ่นอกที่ขยับขึ้นลง  

นี่คือความจริงหรือความฝัน

คำถามนั้นดังขึ้นในห้วงความคิดเขา วินาทีแรกคือโลกใบนี้เป็นความฝัน ทว่าสัมผัสนี้คล้ายกับดูเหนือจริงเกินไป..แต่หากเป็นความจริง เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

เขาไม่มีวันตัดสินใจเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกอยู่มาแต่แรก

นี่ต้องเป็นความฝันแน่นอน

ระหว่างที่ร่วงหล่นสู่ห้วงคิดฉับพลัน หยาดน้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลลงจากปลายหางตาของอู๋เสีย ไหลลงมาหยดหนึ่ง ตามด้วยหยดแล้วหยดเล่า รู้สึกคล้ายได้ยินเสียงสะอื้น ดังนั้นชายหนุ่มจึงลุกขึ้นนั่ง มองใบหน้าของคนที่ร่ำไห้ทั้งที่ยังหลับและกล่าวขึ้นแผ่วเบา

“อู๋เสีย..”

ทันที่ที่เขาเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไป อู๋เสียก็ลืมตาขึ้น

“เสี่ยวเกอ..” เสียงแผ่วเบางึมงำเรียกชื่อเขา ดูคล้ายกับสติยังกลับมาไม่เต็มที่นัก จากนั้นก็ขยับตัวนอนตะแคงมองใบหน้าเขา ไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

เพียงแค่จ้องมอง

จางฉี่หลิงขยับปลายนิ้วเกลี่ยหยาดน้ำตาจนเหือดแห้ง นัยน์ตาจดจ้องมองการเคลื่อนไหวของร่างตรงหน้า

“ทำไมถึงร้องไห้” เขากล่าวถามออกไป แนบฝ่ามือกับใบหน้าที่บัดนี้ไร้รอยน้ำตา เกลี่ยนิ้วโป้งที่ขอบตาซึ่งยังคงเหลือรอยชื้นแผ่วเบา

อู๋เสียไม่ได้ตอบอะไรเขา เพียงหลับตาลง ก่อนจะยกมือแตะบนฝ่ามือเขาที่แนบแก้มเจ้าตัวอยู่

ฝ่ามือืที่แตะบนมือเขาอบอุ่น..อบอุ่นจนยากจะเชื่อว่าเป็นเพียงฝัน

ความเงียบดำเนินเนิ่นนาน กระทั่งอีกฝ่ายเอ่ยออกมา “แค่ฝันร้ายน่ะ”

อู๋เสียเอ่ยตอบ ยกแขนขึ้นดึงร่างเขาลงไป ก่อนจะขยับร่างซุกอ้อมแขนของเขา เห็นดังนั้นจึงขยับแขนให้อีกฝ่ายหนุนนอน อู๋เสียขยับเข้ามาโดยไม่ตะขิดตะขวงเขินอาย ก่อนจะยกสองแขนขึ้นโอบเขาไว้ แนบแน่น

จางฉี่หลิงชะงักไปเล็กน้อย เขาลังเลครู่หนึ่งจึงจะโอบกอดร่างตรงหน้าเอาไว้ รู้สึกถึงไออุ่นและลมหายใจ ร่างกายที่สั่นสะท้านน้อยๆ ซึ่งหากไม่ขยับแนบชิดจะไม่รู้สึกถึง

เห็นดังนั้น เขาจึงขยับมือข้างที่ร่างตรงหน้านอนหนุนมาลูบเส้นผมนุ่มฟูเบาๆ ต้องการให้ร่างในอ้อมแขนผ่อนคลาย ไม่นานนัก ร่างที่สั่นเทาน้อยๆ ในอ้อมแขนก็เริ่มหายใจสม่ำเสมอ หลับลึกไปในที่สุด

จางฉี่หลิงหรี่นัยน์ตามองร่างในอ้อมแขน จูบแผ่วเบาที่เรือนผมของร่างที่แอบอิงซบเขาก่อนจะปล่อนตนลงสู่ห้วงนิทราเช่นกัน



+++++++++++++++++++



ในโลกแห่งความฝันนี้ เขาตัดสินใจอยู่กับอู๋เสีย

จางฉี่หลิงจดจำเรื่องราวได้เลือนราง เขามาหาอีกฝ่าย บอกว่าทุกสิ่งจบสิ้นแล้ว กำลังเคว้งคว้างว่างเปล่า

..ถูกแล้ว เขามาเพื่อบอกลา ทว่ามิใช่เพื่อลาร้างไปยังเบื้องหลังประตูบานนั้น ตัดขาดจากโลกใบนี้ไปสิบปี เพียงมาบอกลา เพราะจากนี้ไปคงไม่มีโอกาสได้พบกันอีก เขาอาจจะหายไปจากโลกนี้ เคว้งคว้างอยู่ที่ไหนซักแห่ง เป็นเงาหลอกหลอนว่างเปล่า ..แต่ไหนแต่ไรไม่เคยได้ผูกพันกับโลกใบนี้ จึงไม่คิดอาทรอะไร

ทว่าในเวลานั้น กลับนึกถึงผู้ที่บอกคำคำนึงไว้ได้…

คนที่บอกว่าหากจางฉี่หลิงคนนี้หายไป อยางน้อยจะเป็นคนที่รู้ คนที่ในยามเขาสติเลือนราง ตบหน้าเบาๆ แล้วบอกให้กลับบ้านด้วยเสียงสั่นเครือ

รู้สึกตัวอีกที จึงเดินทางมายังหังโจว ปรากฏตรงหน้าคนที่มีตัวตนเด่นชัดในห้วงคิดของตน บอกทุกสิ่งที่ควรบอก ร่ำลาโดยคิดว่าจะไม่ได้พบกันอีก

ตอนนั้นอู๋เสียจึงชวนให้อยู่ด้วยกัน และเขาตอบรับ นั่นไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร ตอนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องปฏิเสธ อยู่ด้วยหรือไม่อยู่ด้วย ไม่ต่างกัน ตัวเขาในความฝันไร้ที่ไป ยามทุกอย่างจบสิ้นลงก็คล้ายรู้สึกถึงความว่างเปล่า ไร้จุดหมาย

คำตอบรับก็คล้ายไหลลื่นไปกับสายน้ำหลั่งริน

หลังจากที่อยู่กับอู๋เสีย จางฉี่หลิงเป็นเช่นที่ตนเป็นมา เขาว่างเปล่า ไร้ความปรารถนา นิ่งเงียบ เป็นก้อนหินที่ไม่คิดจะทำสิ่งใดเพื่อขับเคลื่อนตัวเอง พร้อมที่จะนั่งอยู่เฉยๆ ทั้งวันโดยไม่ทำอะไร

ทว่าอู๋เสียไม่ยอมให้เขาทำเช่นนั้น

นายน้อยสามสกุลอู๋ลากเขาขึ้นจากเก้าอี้ หางานให้ทำ บางครั้งก็พาไปที่ร้านด้วยกัน ยืนยันให้กล่าวอรุณสวัสดิ์ในตอนเช้า กินข้าวด้วยกัน ข้าวเที่ยงห้ามขาด ตอนเย็นต้องรอกลับมากินที่บ้าน บางครั้งหากว่างจากที่ร้าน อู๋เสียก็จะลากเข้าออกไปเดินข้างนอก พูดอะไรมากมายให้ฟังทั้งที่เขาไม่ได้ขอ และไม่เคยตอบรับมากไปกว่าการผงกหัว

และผู้พูดไม่เคยเหนื่อยล้าที่จะพูดกับเขา

มีบ้างที่อีกฝ่ายหัวเสียที่เขาไม่พูด บางทีก็นิ่งเงียบใส่กัน ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อได้อยู่ด้วยกันนานกว่าที่เคยเป็น ก็คล้ายกับเคยชินไป

อู๋เสียลากเขาไปที่ตลาดกลางคืน พาเข้าไปในมหาวิทยาลัยที่เคยเรียน หากว่าวันไหนไม่ได้ออกไปไหน ก็จะนั่งอยู่ที่สวนในบ้าน ฟังเสียงกระดิ่งดังยามสายลมพัดผ่าน

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่านั่นเป็นสิ่งน่าพึงใจ ไม่รู้เมื่อไหร่ที่รักเสียงหัวเราะกังวานของร่างตรงหน้า ไม่รู้เมื่อไหร่ที่พวกเขาเริ่มนอนบนเตียงเดียวกัน อิงแอบความอบอุ่นของกันและกัน

ไม่รู้เมื่อไหร่ ที่การรอคอยให้กลับมาบ้านเป็นเรื่องปกติ

ไม่รู้เมื่อไหร่ ที่การสัมผัสกันและการเป็นสิ่งที่โหยหา …ปรารถนากันและกัน

..เมื่อไหร่กัน ที่เป้าหมายของเขาเริ่มปรากฏขึ้นเลือนราง และทั้งหมดชี้ไปที่ร่างที่อยู่ข้างกัน

ชี้ไปที่อู๋เสีย

เปล่งประกายเด่นชัดในโลกที่เขาถูกตัดขาด และพาเข้าให้เชื่อมโยงกับมันอีกครั้ง



.

.

.

ระหว่างนั้น

ก็คล้ายกับลืมเลือนบางอย่างไป


+++++++++++++++++





วันนี้มีงานเทศกาล

อู๋เสียไม่ลังเลที่จะลากเขาออกไปด้วยกัน พร้อมกับร่ายว่าเทศกาลนี้เป็นงานใหญ่ มีร้านรวงขายเต็มถนนหนทาง โคมสีแดงสวยประดับอักษรมงคลแขวนประดับตลอดเส้นทาง ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนและเสียงครึกครื้น

เจ้าตัวจับมือเขาไว้แน่น บอกว่ากลัวจะพลัดหลงกัน เพราะว่าคนเยอะ และกลัวจะมองโน้นมองนี่จนเผลอไผล จางฉี่หลิงไม่ได้พูดอะไรแต่รู้แก่ใจ..ในสายตาเขา ความครึกครื้นนี้มีความหมายเพียงเพราะเปล่งประกายในดวงตาของอู๋เสีย

เขาไม่มีวันปล่อยมืออู๋เสียไป

อู๋เสียซื้อของเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นขนม ของเล่นที่ไม่ค่อยมีขาย หรือเครื่องเรือนแปลกๆ ปัญหาคือเมื่อซื้อเสร็จ เจ้าตัวกลับโยนมาให้เขาถือไว้ ส่วนตัวเองก็เดินตัวปลิว ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าพูดมาเองว่ากลัวพลัดหลง

แต่สายตาเขาจับจ้องแต่อู๋เสีย ดังนั้นคงไม่เป็นไร

นายน้อยสามสกุลอู๋ชะลอฝีเท้า ขยับกลับมาเดินเคียงข้างเขา ลังเลครู่หนึ่งแล้วว่าขึ้น “นี่ อยากรู้ไหมว่าฉันฝันร้ายเรื่องอะไร”

จางฉี่หลิงหรี่ตาลง ครุ่นคิดเล็กน้อย ดูเหมือนช่วงนี้อู๋เสียจะร้องไห้ตอนที่หลับ..และตื่นขึ้นมาพร้อมกับฝันร้าย

“เรื่องอะไร?” เขากล่าวถามออกไป

อู๋เสียนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำพูดออกมา

“…ฝันว่านายหายตัวไป”  ร่างข้างกายพึมพำแผ่วเบา

ตอนนั้นเองที่เขารู้สึกราวกับหัวใจกระตุก หยุดก้าวขาเดินตามร่างที่ยังเดินไปข้างหน้า

“ฝันว่านายจากฉันไป มาบอกลา แล้วก็ไม่กลับมาอีก…”

ในเวลานั้น ความทรงจำก็ไหลรินลงมา แจ่มชัด ไม่อาจลืม

..ช่วงเวลาที่เขาจากมา ช่วงเวลาที่อู๋เสียตามเขามาถึงภูเขาหิมะ วิงวอนขอร้องไม่ให้จากไป

แต่เขาไม่อาจทำได้ ไม่อาจละทิ้งหน้าที่เพื่อสิ่งเชื่อมโยงนี้ได้ เขามีภารกิจที่ต้องทำ และสิ่งนั้นสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด …บอกตัวเองว่าสำคัญ ต้องทำ และไม่อาจปล่อยให้คนที่แสนไร้เดียงสารับมันไว้ได้

นั่นเป็นทางเลือกที่ไม่มีวันผิดเพี้ยนไปของเขา

.

.

.

และที่นี่

“งี่เง่าดีเนาะ”

อู๋เสียเอ่ยกลั้วหัวเราะ หันมามองเขาที่อยู่ห่างออกมาหลายก้าว ชะงักฝีเท้า สีหน้าประดับรอยยิ้มพลันเลือนหาย แทนที่ด้วยความประหลาดใจ ความตื่นตระหนก “…เสี่ยวเกอ?”

..เขารู้แล้ว รู้มาตลอด...แต่บางครั้งเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์กระมัง

เลือกลืมในสิ่งที่อยากลืม

จางฉี่หลิงรู้สึกได้….บางสิ่งในโลกนี้เริ่มไม่สมจริง สรรพเสียงรอบกายพลันเลือนหาย ผู้คนที่เดินคลาคล่ำค่อยๆจางหายไป เหลือตัวตนเพียงเขาและร่างตรงหน้า

.

.

เขาเข้าไปในนั้นแล้ว ในโลกที่มืดมิดว่างเปล่า ไร้สรรพเสียง สรรพสิ่ง สรรพชีวิต

.

.


เขาหลุบตาลง เปล่งเสียงออกมา



“ไม่หรอก”



.

.

..ความฝันของอู๋เสียไม่ได้ไร้ความหมาย...หรือบางทีก็คงเป็นลางบอกเหตุ..

.

.

เปรี๊ยะ!

.

.

..เพราะว่าที่นี่…

.

.





จางฉี่หลิงมองใบหน้าเจ็บปวดที่จดจ้องมา ใบหน้าที่ราวกับจะบอกให้เขาหยุดพูด หยุดการกระทำทั้งหมดนับจากนี้ไป ทว่าจางฉี่หลิงรู้ดีว่าตนทำแบบนั้นไม่ได้

เขาปล่อยให้โลกใบนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้…

จางฉี่หลิงหลับตาลง กำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึก

และกล่าวสิ่งที่อยู่ในห้วงความคิดออกไปอย่างชัดเจน





“เพราะโลกทางนี้ต่างหากที่เป็นความฝัน”

เคร้ง!





สิ้นสุดคำพูดของเขา โลกทั้งใบก็แตกสลายไป กลายเป็นเศษกระจกเงา ร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง

ไม่เหลือเค้าโครงของโลกฝันอันงดงาม

เขารู้แต่แรกว่านี่คือความฝัน..ทว่าสุดท้ายกลับดำดิ่งลงไป ลืมเลือนว่าตนอยู่ในความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง ตัวเลือกที่ไม่เคยมีให้เดินไป

ฝันดีที่เลวร้าย

เพราะยามที่รู้สึกตัว..ก็รู้ว่ามันโล่งกลวงเพียงใด



“….นี่คือความฝันหรือ?”


น้ำเสียงสั่นเครือดังขึ้นแผ่วเบา จางฉี่หลิงมองตรงไปทางอู๋เสีย ดวงตาคู่นั้นคลอหน่วง จ้องมองมาด้วยความหวังริบหรี่ที่ทำให้เขาปวดหัวใจ

ทั้งที่เป็นแค่ตัวตนในความฝัน..ก็ยังทำให้เจ็บปวดทรมาน

จางฉี่หลิงไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาเพียงผงกหัว ยืนยันว่าสิ่งนั้นคือความจริง


“...ทั้งหมดคือเรื่องหลอกลวง?”


ทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ เขาไม่แน่ใจ

เขาปรารถนาจะอยู่ข้างอู๋เสียจริงๆ รักช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ตัวตนของอู๋เสีย..สำคัญสำหรับเขาจริงๆ

ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลในความฝันนั้นเป็นของจริง

แม้จะคิดเช่นนั้น จางฉี่หลิงก็ไม่ได้ตอบออกไป เขาก้มหน้าลงมองพื้น ปล่อยให้ความเงียบทับถมลงมาในความมืดอันว่างเปล่า

เขาคล้ายได้ยินเสียงหยดน้ำอีกครั้ง และภาพของอู๋เสียก็คล้ายเลือนรางไป

อีกไม่นาน..คงตื่นจากความฝันนี้

“..ฉันต้องไปแล้ว” จางฉี่หลิงกล่าวออกไป มองเห็นอู๋เสียที่กำลังเลือนรางจางหายเบิกตากว้างตื่นตระหนก รีบวิ่งเข้ามากอดเขาเอาไว้แน่น ร่างกายสั่นระริก ซุกใบหน้าลงในอกเขา ราวกับไม่ต้องการให้จากไป

ทั้งที่อยู่ในความฝัน.ใยร่างนี้จึงอบอุ่นนัก แม้รางเลือนใกล้สูญหาย ก็ยังอบอุ่น รู้สึกถึงกลิ่นอายที่เคยคุ้น ชัดเจนจนคล้ายไม่ใช่ความฝัน

แต่นี่คือความฝัน เป็นอย่างอื่นไม่ได้..จางฉี่หลิงมั่นใจ

เพราะเขาไม่มีทางเลือกเส้นทางที่จะได้อยู่กับอู๋เสีย..หน้าที่นั้นยังได้รับการสืบทอด

..นี่เป็นโลกที่ดีเกินไปสำหรับเขา

“ไม่ไปไม่ได้หรือ…อยู่ด้วยกันต่ออีกซักนิดก็ยังดี” อู๋เสียกล่าวเสียงสั่นเครือ โอบกอดเขาไว้แน่น ร่างกายสั่นสะท้าน “นายหายไปคราวนี้ จากความฝันอันนี้ เมื่อไหร่เราถึงจะได้พบกันอีกครั้ง เมื่อไหร่..เสี่ยวเกอ เมื่อไหร่ถึงจะได้เจอนายอีกครั้ง ฉันคิดถึงนาย..คิดถึงนาย..ไม่อยากห่างจากนายแม้แต่วินาทีเดียว”

คำกล่าวตัดพ้อนั้นทำให้ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้าใส่

เขารู้…หากความฝันนี้สิ้นสุดลง อีกหนึ่งสิบปีจะรออยู่

บางทีมันอาจจะสั้นลง..สั้นลงมากแล้ว ทว่าก็ยังคงต้องรอต่อไป ในความว่างเปล่าที่มีเพียงเสียงหยดน้ำ

สิบปีอื่นที่อยู่ในนั้น จางฉี่หลิงไม่แน่ใจว่าตนเคยทรมานหรือไม่ สิ่งเหล่านั้นรางเลือนแทบไร้ความสำคัญ ทว่าสิบปีที่ต้องเฝ้ารอโดยรู้ว่ามีคนที่เห็นตัวตนของเขาอยู่ข้างนอก…

เขาไม่อาจบอกได้ว่าไม่ทรมาน

จางฉี่หลิงกัดฟันกรอด ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาเพียงโอบกอบร่างตรงหน้าตอบ..กอดไว้ให้แน่นที่สุด ให้รับรู้ถึงสัมผัสนี้ให้นานที่สุด

ก่อนที่จะรางเลือนไป

ร่างของอู๋เสียในอ้อมแขนสั่นสะท้าน รู้สึกถึงหยาดน้ำตาที่ไหลริน เขาจึงเผลอไผล เกลี่ยปลายนิ้วบนใบหน้า ลบเลือนรอยน้ำตานั้นอย่างเคยชิน..เหมือนกับที่เคยทำยามหลงอยู่ในเงาฝัน

อู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองเขา …ในดวงตาคู่นั้นบอกเล่าความรู้สึกมากมาย เสียใจ เจ็บปวด สิ้นหวัง โกรธเกรี้ยว

..และไม่ปรารถนาจะพรากจาก

ร่างในอ้อมแขนสบถแผ่ว ดึงคอเขาลงไปจูบโดยไม่ไถ่ถาม จางฉี่หลิงรู้สึกได้ถึงรสเลือดจางๆ.. รู้สึกถึงคลื่นความรู้สึกที่ส่งผ่านมาหา เจ็บปวด ทรมาน ดังนั้นจึงจูบตอบกลับไป ทิ้งไว้ทั้งความโหยไห้ และความปรารถนา

โอบกอบและมอบจุมพิตแก่กันกระทั่งโลกใบนั้นรางเลือนหายไป

.

.

.

ยามลืนตาตื่นขึ้น ก็อยู่กับโลกอันมืดมิดใบเดิม

และรู้ดี จะไม่ได้ฝันถึงโลกใบนั้นอีกตลอดไป




END

เป็นฟิค Liar Dream : ฝัน ลวง หลอก เวอร์ชั่นจากมุมมองของจางฉี่หลิงค่ะ คิดจะเขียนนานแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้เขียนจริงๆ

ฟิคจากฟากของนายน้อยให้ไปตามลิงค์นี้นะคะ [OS] #dmbjdaily (ฝัน) ฝัน ลวง หลอก -Liar Dream- [ผิงเสีย]
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4053
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty Re: [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by ryu77 Tue 20 Jan 2015, 02:49

พี่ซินคะ!!! ทำหนูร้องไห้ แงงงงงง ;;__;;
เป็นคนที่sensitiveกับเรื่องดราม่าอยู่แล้ว แล้วยิ่งบรรยายฝั่งเสี่ยวเกอ โอ๊ยยย น้ำตาแตกค่ะ
เสี่ยวเกอเป็นประเภทที่ไม่ยอมพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา ชอบเอาแต่เก็บความคิดนั้นเอาไว้กับตัวเอง คือแบบ...เพราะเป็นคนแบบนี้ไง เวลาที่เจ็บปวดจะรู้สึกได้เลยว่า แม่ง เจ็บปวดจนไม่สามารถกดมันเอาไว้แค่ภายในใจได้แล้วไง
โลกแห่งความฝัน เปรียบได้กับ โลกแห่งความหวังและความปรารถนาที่เสี่ยวเกอต้องการแต่ไม่มีทางเป็นจริงได้ ก็คือ...การเลือกที่จะอยู่ข้างนายน้อย
เสี่ยวเกอ แม่งงงงง!!!!
ryu77
ryu77
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 64
Points : 3539
Join date : 01/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty Re: [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by feyralin Tue 20 Jan 2015, 15:14

แอบอ่านตั้งแต่เมื่อคืน อัดอั้นตันใจเพิ่งได้มานั่งเม้น..
ฮืออออ แงงงงงง มันเจ็บปวด มันรวดร้าว มันทรมานนนนนนน
บางทีก็คิดนะคะว่าในหัวเสี่ยวเกอนี่มีอะไรอยู่บ้าง เพราะดูนิ่งๆเหม่อๆตลอด แต่พอจะไปดันมาลานายน้อยนี่แหละ..แสดงว่าต้องมีคิดอยู่ใช่มั้ย คิดเยอะด้วยแหละ เพราะพูดออกมาไม่ได้เลยยิ่งต้องเก็บเอาไว้ เข้าใจเลยว่าความรู้สึกที่มีอะไรอยู่ในหัวมากมายแต่ไม่สามารถเอ่ยปากพูดกับใครได้ มันเป็นอะไรที่โคตรทรมาน แงงงงงงง รออีกหนึ่งสิบปีนะ ไม่นานหรอกเสี่ยวเกอ ไม่นานความฝันก็จะกลายเป็นความจริงแล้ว

ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ T_T
*เม้นเพ้อซะเยอะ*
feyralin
feyralin
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 118
Points : 3628
Join date : 21/12/2014
ที่อยู่ : เนเวอร์แลนด์แดนแห่งกาว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty Re: [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Shiaeri Tue 20 Jan 2015, 19:17

โกหกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พี่ซินโกหก ;________;
ฟิคนี้ม่ามมมมมมมมมมมมม โฮฮฮฮฮฮฮฮ ชีวิตพังไปรอบกับ Liar dream ตามมาพังกับอันนี้ต่อ
เจ็บปวดรวดร้าวหัวใจมากค่ะ /เขียนดายอิ้งแมสเซจว่า*ผิงเสีย*
จะตาย โฮ O<--< พี่ช่างฆาตกรรมได้เลือดเย็นนักกกกกกก
Shiaeri
Shiaeri
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 135
Points : 3654
Join date : 10/11/2014
ที่อยู่ : หน้าประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty Re: [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Amnesia Tue 20 Jan 2015, 19:25

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
(இдஇ`。)(இдஇ`。)(இдஇ`。)(இдஇ`。)
/สาดน้ำตาใส่ฟิค

โอ้ย มันหน่วง มันเศร้า โอ้ยยยย
มันไม่ใช่ความฝันของคนใดคนหนึ่ง มันเป็นความฝันของทั้งสองคน
และที่ชัดเจนคือ นายน้อยเป็นความเกี่ยวโยงเดียวของเสี่ยวเกอต่อโลกใบนี้จริงๆ
อดทนหน่อย อีกไม่นานก็จะได้เจอกันแล้วนะ

ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ
(இдஇ`。)(இдஇ`。)(இдஇ`。)(இдஇ`。)
/สาดน้ำตาสิบสิตรใส่อีกรอบ
Amnesia
Amnesia
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 14
Points : 3422
Join date : 14/01/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty Re: [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Yuwadee Wana Tue 20 Jan 2015, 22:15

เศร้ามากกกกค่ะ
ดีใจที่ได้อ่านมุมมองของเสี่ยวเกอ อยากรู้ความคิดของเสี่ยวเกอมาตลอดว่าคน ๆ นี้คิดอะไรอยู่
ในความรับผิดชอบที่แบกอยู่อันหนักอึ้งนี้ เค้าคิดจะหลีกหนีมันบ้างไหม เคยคิดเห็นแก่ตัวบ้างหรือเปล่า
เสี่ยวเกอ นายไม่ไปไม่ได้หรือ อู๋เสียร่ำร้อง
ส่วนจางฉี่หลิงได้แต่เพียงนิ่งงัน ถ้าเขาไม่ไป คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้จะต้องแบกรับมันแทน ซึ่งเขาไม่มีวันยอม ดังนั้น เขามีแต่ต้องไป


ฮรืออออออออ เศร้าเกินไปแล้วววววววว
Yuwadee Wana
Yuwadee Wana
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 352
Points : 3827
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]  Empty Re: [OS] #dmbjdaily (หลับ) ยามเมื่อหลับตาลง [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by fufasleepy Wed 21 Jan 2015, 12:58

ทั้งเศร้าและเหงาเลยจริงๆ เสี่ยวเกอ.... ทำไมไม่รั้งให้ฝันต่อไปจนครบ 10 ปีเลยกันนะ
ขอบคุณมากสำหรับการวาดภาพในใจให้นะคะ ><
fufasleepy
fufasleepy
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 36
Points : 3472
Join date : 09/12/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ