Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[To my secret] Naitear

3 posters

Go down

[To my secret] Naitear Empty [To my secret] Naitear

ตั้งหัวข้อ by Naitear Sat 27 Dec 2014, 02:54

สวัสดีค่าคุณซีเคร็ท ~ > v <,, ฝากตัวด้วยนะคะ


เควสต์ของไนร์มีดังนี้ค่ะ


1. อยากเห็นคุณชายฮัวเลี้ยงหมาค่ะ! เอาเป็นหมาแสบๆซนๆ อยากรู้จังว่าคุณชายจะทำยังไง /////

2. โมเมนท์ของเสี่ยวเสียและซิ่วซิ่วตอนเด็กค่ะ สาเหตุที่ทำให้ซิ่วซิ่วเคยอยากแต่งงานกับนายน้อย // v \\

3. อยากเห็นปู่จางปู่เอ้อร์ในยุคซามูไรค่ะ! ปู่เอ้อร์คงเป็นซามูไรที่สวยมากแน่ๆ ~

4. คู่ฮัวเสียค่ะ อยากเห็นฮัวเสียในรูปแบบของ'ด้ายแดง'บ้าง ; v ; ดราม่าหรือหวานก็ได้นะคะ หงุง

5. รีเควสคู่พานสามค่ะ อยากได้แนวที่ว่า "เคยพบกันในความฝัน คอยเฝ้าตามหามาตลอด และในที่สุดก็ได้พบกันในความเป็นจริง" จังเลย ////// #ขอมากไปรึเปล่าฮือ



ที่เรารีเควสมาจะเป็นแฟนฟิค แฟนอาร์ต คลิป MAD โดจิน ฯลฯ ได้หมดเลยค่ะ สุดท้ายนี้ก็...ขอบคุณล่วงหน้านะคะคุณซีเคร็ท! > <
Naitear
Naitear
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 232
Points : 3767
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[To my secret] Naitear Empty Re: [To my secret] Naitear

ตั้งหัวข้อ by heikitsune Sat 24 Jan 2015, 21:38

สวัสดีค่ะ~ ซีเคร็ทมารายงานตัวแล้ว จิ้งจอกแดงเองค่ะ ฮ่าาาาาาา ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย (\\\\w\\\\) มาส่งคุณชายกับน้องหมาค่ะ จากเควสข้อนี้ >>> อยากเห็นคุณชายฮัวเลี้ยงหมาค่ะ! เอาเป็นหมาแสบๆซนๆ อยากรู้จังว่าคุณชายจะทำยังไง /////

ส่วนตัวหมาที่เลี้ยงไม่เคยซนเลย เลยไม่รู้ว่าแต่งออกมาจะได้ฟีลน้องหมาซนๆแบบที่คุณไนร์อยากได้มั้ย Orz

ครั้งแรกที่แต่งมุมน่ารักของคุณชายค่ะ แงงงงงง เขียนสุดชีวิต ไม่ดีตรงไหนต้องขออภัยอย่างสูงนะคะ *กราบ*



...เจ้าบ้านสกุลเซี่ยคนปัจจุบันกำลังปวดหัวยิ่งนัก...

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนที่เก่งสารพัดทั้งบู๊และบุ๋นอย่างเซี่ยอวี้ฮัวกำลังตกที่นั่งลำบาก ทั้งๆที่ปัญหามันก็ปรากฏอยู่อย่างเด่นชัดตรงหน้าแท้ๆแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
คิดไปร่วมยี่สิบกว่าตลบ สุดท้ายก็ได้แต่ทอดถอนใจ
ตรงหน้าชายหนุ่มคือสภาพบ้านที่ดูไปดูมาให้ความรู้สึกคล้ายสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งของตกแต่งทั้งเฟอร์นิเจอร์ล้วนพังพิราบพนาสูญ เละเทะเกินจะบรรยาย
และ...ตัวทำลายล้างก็นั่งกระดิกหางทำตาแป๋วอยู่แทบเท้า
ที่ทับอยู่บนเท้าของเขาคือลูกสุนัขตัวเล็กขนฟูฟ่องกลมดิ๊กสีครีมตัวหนึ่ง หางเล็กๆสะบัดไปมาอย่างแรงด้วยความดีใจจนน่ากลัวว่าถ้ายังสะบัดแบบนี้ต่อไปอีกห้าวินาทีต่อมาหางของมันอาจจะหลุดออกมาได้ ดวงตากลมเป็นประกายสีน้ำเงินเข้มจ้องดวงหน้าหวานของเซี่ยอวี้ฮัวไม่วางตา

“เฮ้อ...” เขาถอนหายใจหนักๆอีกครั้งพลางยกมือขึ้นนวดขมับ

“โฮ่ง!” เสียงใสๆเห่ารับโดยไม่มองบริบทเลยสักนิด...ยิ่งทำให้ผู้เป็นนายปวดตับยิ่งกว่าเดิม

“เจ้าตัวเล็ก” เสี่ยวฮัวเรียกเสียงเข้ม นัยน์ตาสีเข้มสบจ้องดวงตาโตต่างสีนั่นด้วยแววตาขุ่นเคือง มือกร้านหยิบพัดไม้อันเล็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง

ต้องตีให้จำเสียบ้าง ไม่อย่างนั้นบ้านเขาคงไม่เหลือชิ้นดี

“โฮ่งๆ!!” หมาน้อยยังไม่รู้ชะตากรรม ท่าทางในสมองของมันจะบรรจุความทรงจำไว้เพียงว่าเสี่ยวฮัวเป็นเจ้านายแสนดี เป็นเพื่อนเล่นที่เจอหน้าเมื่อไหร่ก็แปลว่าจะมีขนมอร่อยๆให้กิน
ซึ่งไอ้ความคิดแบบนี้มันก็มีมูลเหตุของมัน...

“...อุ...” จากตอนแรกที่คิดจะสั่งสอนให้หลาบจำ เมื่อเจ้าตัวปัญหาเอียงคอทำท่าน่ารักพร้อมกับยกสองขาหน้าทำท่าสวัสดีชวนเล่นหัวใจของเขาก็อ่อนยวบ ลางแพ้โผล่มาให้เห็นทันที

“โฮ่ง!”

“.......”

“โฮ่งๆๆ!”

จบสิ้น...จบสิ้นแล้ว

ในที่สุดชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้จริงๆเมื่อใบหน้านุ่มนิ่มถูคลอเคลียกับข้อเท้าเปลือยเปล่า เขาดันเจ้าตัวแสบลงจากเท้าก่อนหันหลังหมุนตัวเดินไปทางห้องครัว

แน่นอนว่าไม่ได้เดินตัวปลิวลอยชายไปแบบสบายๆ

“แง่ม!” เขี้ยวเล็กๆของเจ้าหมาฝังลงที่ชายขากางเกง ร่างเล็กจ้อยพยายามยื้อผู้เป็นเจ้าของเอาไว้สุดชีวิตเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะเดินหนีไป

“เฮ้ย! กางเกงฉันเป็นรูหมด” เสี่ยวฮัวรีบก้มลงพยายามง้างปากตัวปุกปุยออกด้วยความนิ่มนวลที่สุด และแน่นอนว่าไม่เป็นผลสำเร็จ เจ้าตัวเล็กของบ้านสกุลเซี่ยไม่ยอมถอนเขี้ยวของมันออก เพียงแต่เชยตาขึ้นมองร่างสูง หางยังกระดิกดิ๊กๆเหมือนที่ปัดน้ำฝนของรถยนต์

“โอเค...ไม่ปล่อยก็ไม่ต้องปล่อย” และแล้วขายาวๆก็จำต้องเดินไปโดยลากก้อนขนมีชีวิตก้อนหนึ่งซึ่งนอนแหมะกางขาทั้งสี่ให้ลากไปกับพื้นเหมือนผ้าถูบ้านแต่โดยดี
ครั้นพอเข้าอาณาเขตห้องครัว ลูกสุนัขตัวแสบก็ปล่อยขากางเกงผู้เป็นนายโดยอัตโนมัติ วิ่งฉิวไปจัดการบรรเลงแทะขาโต๊ะกินข้าวไม้สุดหรูอย่างเมามันเรียกรอยยิ้มละเหี่ยใจให้ระบายขึ้นบนใบหน้าเสี่ยวฮัว

“บอกว่าแทะไม่ได้ไงเจ้าตัวเล็ก” บอกด้วยน้ำเสียงเหมือนกับจะดุ หวังให้ทางนั้นเลิกทำร้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเขาเสียที แต่...

“โฮ่ง!” แน่นอนว่าไม่ได้ผล ขาโต๊ะไม้ยังคงถูกประทุษร้ายต่อไป

จะบ้าตาย

เขาหยิบเอาไม้ตายสุดท้ายออกมาจากในตู้เก็บของจิปาถะ มันคือกล่องทรงสีเหลี่ยมจัตุรัสสีเหลืองอ่อน มีภาพลูกสุนัขหน้าตาน่ารักน่าชังพิมพ์ประทับอยู่ ทันที่กล่องถูกเขย่า เจ้าเครื่องจักรทำลายล้างเฟอร์นิเจอร์ก็หยุดการกระทำ ตัวแข็งทื่อเป็นรูปสลักหิน พอเขย่าอีกครั้งหนึ่ง...
“โฮ่งๆๆๆๆ!!!” มันก็ทะยานข้ามห้องมานอนแหมะทับเท้าของเขาอีกครา

ใช่แล้ว ไม้ตายสุดท้ายของเซี่ยอวี้ฮัวคนงามจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากขนมขบเคี้ยวของสุนัข!

ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นกระเบื้องเย็นๆ ยกกล่องขึ้นสูง ใบหน้าแอ๊บแบ๊วของเจ้าตัวเล็กก็เงยตามไปด้วย

“เจ้าตัวเล็กขอมือ” แทนที่จะได้มือ มันกลับเลียมือที่แบอยู่ตรงหน้าซะชุ่มโชก

โอเค เอาใหม่...

“เจ้าตัวเล็กกลิ้งซิ” แทนที่จะกลิ้งมันกลับเอามือมาวางแปะแทน

อีกรอบหนึ่งแล้วกัน

“เจ้าตัวเล็กสวัสดีซิ” แทนที่จะสวัสดีมันกลับพลิกตัวนอนหงายท้องแทน

ไม่ได้สั่งให้แกล้งตายนะ...ขออีกรอบ

“นั่งซิเจ้าตัวเล็ก” ขาหน้าทั้งสองยกขึ้นสวัสดีเขาแทน

เอาเป็นว่าขอยอมแพ้

ขนมรูปท่อนกระดูกสามสี่ชิ้นถูกวางลงดูดให้เจ้าตัวเล็กพลิกตัวไปกิน...โดยที่ก้นกลมๆยังทับอยู่บนเท้าของชายหนุ่ม

สงสัยเขาจะไม่มีพรสวรรค์ด้านการเลี้ยงสัตว์

คิดแล้วก็ยาวไปถึงวันแรกที่ได้เจ้านี่มา

วันนั้นเป็นวันหยุดอันหาได้ยากยิ่ง ทว่าขณะที่กำลังนอนเอกเขนกดูการ์ตูนเรื่องมิเนี่ยนอยู่ เสียงออดประตูบ้านก็ดังขึ้น บังคับให้เขาต้องลากร่างที่ยังอยู่ในชุดนอนไปเปิดประตูแต่โดยดี

“พี่ ฉันฝากเจ้าตัวนี้ไว้กับพี่ได้ไหม” เสียงหวานของผู้มารบกวนบอกกับเขาอย่างรวดเร็วรวบรัดพร้อมกับยื่นตะกร้าพลาสติกแบบล็อคฝาได้สีชมพูแปร๋นมาให้
เสี่ยวฮัวขมวดคิ้วใส่ซิ่วซิ่วก่อนรับตะกร้ามา ทว่าพอรับมาแล้วเขาถึงได้รู้ว่าไอ้สิ่งที่อยู่ข้างในมันขยับได้!!

“ซิ่วซิ่วนี่อะ...” พอจะถามยายตัวแสบก็วิ่งฉิวทิ้งระยะห่างออกไปแล้ว ก่อนจะหันมาตะโกนบอก

“ฉันจะไปเคลียร์ธุระนิดหน่อยที่ต่างประเทศ พาเจ้านั่นไปด้วยไม่ได้ พี่ดูมันให้ฉันก่อนนะ” จบคำซิ่วซิ่วกระโดดขึ้นรถคันหรูจากไป ทิ้งให้เซี่ยอวี้ฮัวอยู่กับความช็อคและความงง สุดท้ายก็ต้องค่อยๆแง้มฝาตะกร้าออก ใบหน้าเลื่อนเข้าใกล้เพื่อส่องดูเจ้าตัวปริศนาข้างใน ในใจภาวนาอย่าให้น้องสาวไปเก็บตัวอะไรแปลกๆจากกรวยมาเลี้ยงเลย

“โฮ่ง!” เสียงเห่าเล็กๆดังขึ้นพร้อมกับลิ้นชื้นๆจู่โจมเลียเข้าที่แก้มของเขา

นั่นแหละคือครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกัน
และจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ฮั่วซิ่วซิ่วก็ยังไม่มารับลูกสุนัขของตนเองคืน

คงไม่ใช่ว่าจะเอามาทิ้งไว้กับเขาแบบถาวรหรอกนะ...

เสี่ยวฮัวหลุบสายตาลงมองลูกสุนัขพันธุ์ผสมที่ยึดเท้าเขาเป็นเตียงนอนอืดแผ่หงายท้องกางขาสบายใจหนำซ้ำยังเอี้ยวหัวมางับขากางเกงของเขาเล่นด้วยความสนุกสนานอีก

สงสัยต้องซื้อกางเกงตัวใหม่

ระหว่างที่คิดมือก็หยิบขนมสำหรับสุนัขยัดใส่ปากเจ้าตัวเล็กอีก อยากรู้จังว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหมาเริ่มกลายเป็นลูกหมูแล้ว

เจ้าตัวเล็ก...อยู่กับเขาอาจไม่ดีเท่าไหร่ หรือจะเอาไปให้เสี่ยวเสียดูแลแทนดี

แรงสั่นเบาๆจากกระเป๋ากางเกงเป็นตัวดึงชายหนุ่มกลับมาสู่โลกปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือสีชมพูน่ารักถูกหยิบออกมารับสาย สายที่โทรเข้ายังเป็นคนเดิมๆและเรื่องเดิมๆ

เรื่องของสุสานโบราณ สมบัติแห่งชาติที่ลักลอบขายกันในตลาดมืด ธุรกิจอันสกปรกจนน่าเบือนหน้าหนี

เซี่ยอวี้ฮัวแปลงร่างกลับมาเป็นคุณชายเก้าผู้ทรงอำนาจในวงการนี้โดยมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องไม่วางตา
เจ้าตัวเล็กของคุณชายเซี่ยนอนนิ่งมองผู้เป็นนายหน้าดำคร่ำเครียดคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทีสงบนิ่งผิดปกติ ในยามนี้เสี่ยวฮัวอาจจะไม่รู้สึกตัว แต่มือข้างที่วางอยู่บนตัวเจ้าตัวเล็กกำลังบีบแน่น แน่นระดับที่ถ้าตอนนี้คนถูกบีบคือนายน้อยสกุลอู๋เขาอาจโดนไฟฉายเหมืองตบดั้งหักได้
หากแต่ลูกสุนัขแสนซนในยามนี้กลับไม่แม้แต่จะร้องประท้วงด้วยความเจ็บปวด มันแค่นอนนิ่งๆให้อีกฝ่ายบีบ จับจ้องด้วยสายตาซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสายตาของสุนัข

สายตาห่วงหาอาทร

เนื้อหาธุรกิจดำเนินยืดยาวกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าร่างโปร่งจะได้ฤกษ์วางสาย

“เฮ้อ!” ทันทีที่กดตัดสายลมหายใจเฮือกใหญ่ก็ถูกถอนออกมาดังๆ ดังยิ่งกว่าตอนเขากลับมาพบว่าบ้านโดนเจ้าตัวเล็กยึดเป็นสนามเด็กเล่นไปเสียแล้ว

“งื้ด~ ~” เสียงครางแผ่วๆดังขึ้น เสี่ยวฮัวก้มหน้าลงมองด้วยความประหลาดใจ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมายังไม่เคยได้ยินมันร้องแบบนี้เลย คงไม่ใช่ว่ากินขนมเยอะไปแล้วปวดท้องนะ

ลิ้นอุ่นเลียที่ฝ่ามือของชายหนุ่มแผ่วเบาจากนั้นจึงวางขาข้างหนึ่งลงอย่างนุ่มนวล
ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าตนเองคิดไปเองหรือเปล่าว่าดวงตาใสสะอาดคู่นั้นทอประกายเป็นห่วงแฝงกังวล

“เป็นห่วงฉันหรือไง” เสียงไพเราะถามแบบติดตลก แต่ที่คิดไม่ถึงคือเจ้าตัวที่โดนถามกลับเอียงคอราวกับจะตอบรับ

“หือ?” มืออุ่นทั้งสองบรรจงอุ้มมันขึ้นมาให้ดวงตาสองคู่สบกัน เจ้าตัวเล็กแลบลิ้นเลียสันจมูกเขา พวงหางแกว่งไกวเบาๆดูคล้ายกำลังไถ่ถามความรู้สึก

โดยไม่รู้สาเหตุ ความขุ่นเคืองที่ตกตะกอนในใจพลันละลายหายไปเหลือแม้ร่องรอย

ใบหน้างดงามคลี่ยิ้มจางๆก่อนเปรยแผ่วเบากับตัวเอง

“บางที...ฉันน่าจะลองไปขอแกมาจากซิ่วซิ่ว”

ว่ากันว่าสุนัขคือเพื่อนแสนดีของมนุษย์....บัดนี้เซี่ยอวี้ฮัวได้พิสูจน์แล้วว่าทฤษฎีนี้เป็นเรื่องจริง


**แถม**
ค่ำคืนนี้อากาศเย็น เซี่ยอวี้ฮัวนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา จอโทรทัศน์แอลซีดีอย่างหรูขนาดใหญ่กำลังฉายการ์ตูนเรื่องป๊อบอาย

“โฮ่ง!” เสียงใสๆเห่าเรียกเขาก่อนเจ้าของเสียงจะวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหยุดเบื้องหน้า

เจ้าตัวเล็กยังคงแอ๊บแบ๊วน่ารักเหมือนเดิมทุกประการ เว้นก็แต่ตัวที่กลมขึ้น กลมขึ้น กลมขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เริ่มเหมือนลูกบอลไหมพรมพองฟูมีชีวิต
เสี่ยวฮัวสาบานได้ว่าเขาไม่รู้จริงๆว่าทำไมสัตว์เลี้ยงของเขาถึงได้กลมขึ้นเรื่อยๆ....

ไม่ เขาเชื่อว่าขนมปังกรอบสำหรับสุนัขวันละหกชิ้นกับอาหารสามมื้อ มื้อละสองกระป๋องไม่ใช่สาเหตุ...เขาเชื่อแบบนั้น

“ขึ้นมาไหมเจ้าลูกบอลชายหาด” มือหนาตบที่ว่างข้างกายเชิญชวน แม้จะเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองแต่ก็อดเปลี่ยนชื่อให้มันไม่ได้จริงๆ

“โฮ่ง!” สิ้นเสียงตอบรับโลกทัศน์ก็มืดลง ขนนุ่มนิ่มเรื่อระสัมผัสใบหน้าคมติดสวย

เจ้าลูกบอลชายหาดดันกระโจนขึ้นมาทับหน้าเขา!!

“ลงไปเจ้าลูกวอลเล่ย์บอล” จังหวะที่จะเอื้อมมือไปหิ้วเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวกลมออก มันก็โดดผลุงลงไปเอง...พร้อมกับคาบของติดปากกลับไปด้วย
.....ไม่ใช่อะไร รีโมตทีวีของเขานั่นเอง

เสี่ยวฮัวระบายลมหายใจช้าๆพร้อมกับยื่นมือออกไป สั่งการด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดแบบที่ใช้สั่งลูกน้องยามลงกรวย
“คืนมาเจ้าลูกฟุตบอล”

น่าเศร้า เจ้าลูกบอลชายหาด เจ้าลูกวอลเล่ย์บอล เจ้าลูกฟุตบอลหรืออีกสารพัดชื่อลูกบอลทรงกลมที่เขาจะสรรหามาเรียกมันไม่ใช่ลูกน้องของเขา ร่างกลมหอบท้องย้วยๆและรีโมตทีวีวิ่งหนีไปด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ ลำบากเจ้านายหนุ่มต้องวิ่งไล่ตามไป

“เอารีโมตทีวีคืนมานะเจ้าอ้วน!”
heikitsune
heikitsune
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 36
Points : 3541
Join date : 27/10/2014
Age : 29

http://beninokitsune.wordpress.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[To my secret] Naitear Empty Re: [To my secret] Naitear

ตั้งหัวข้อ by velvetronica Mon 26 Jan 2015, 20:54

[OS] 'In the real dream' (พานสาม :: พานจือ x อู๋ซันเสิ่ง)


**ของขวัญพิเศษตอบแทนให้ซานต้าผู้น่ารักของเรา~
รีเควสข้อ5.ของไนร์ พานสาม แนวที่เคยพบกันในฝัน~**




กลิ่นคาวเลือดฉุนจมูกไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผะอืดผะอม แต่เขากลับไม่อยากอาหารเลยสักนิดทั้งที่ควรจะหิวแทบไส้ขาด

หัวใจยังเต้น...ลมหายใจยังมี
แต่ความรู้สึกกลวงเปล่าที่กลางอกนั้น...ไม่ว่าอย่างไรก็ถมกลบมันไม่ได้เสียที

"ไอ้พานจื่อ!! กินเข้าสิวะ!"

ใครสักคนพยายามยัดเยียดชามอาหารที่เป็นอะไรสักอย่างคล้ายซุปเละๆ ที่รสชาติเลวสิ้นดีมาให้ หลังจากลองอยู่สองสามครั้งว่าเขาไม่สนใจจริงๆ ฝ่ายนั้นจึงละความพยายามไปในที่สุด

"มันเป็นอะไร?"
"...เห็นว่าเพื่อนมันโดนระเบิดขาดครึ่งตัว สุดท้าย...เลยขอให้มันช่วย"
"เหอะ...มีแต่เรื่องแบบนี้ ไอ้สงครามห่านี่เมื่อไหร่จะจบวะ"
"รบไปเพื่ออะไรยังไม่รู้เลย...ได้แต่นับวันตายอยู่ที่นี่แหละ"
"...เพื่อเอาชีวิตให้รอดไงวะ! แล้วจะได้กลับบ้านกัน!!"

พานจื่ออยากจะหัวเราะให้ดังลั่น คนอย่างพวกเขาไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตที่ 'บ้าน' ได้อีกต่อไป ความตายที่อบอวลอยู่รอบตัวทำให้แม้ในความฝันยังไม่มีภาพอันสวยงาม
วินาทีที่เขาลั่นไกตรงเข้าที่กลางหน้าผากเพื่อน...เขาก็ไม่รู้อีกต่อไปแล้วว่าชีวิตคืออะไร ที่เขายังหายใจอยู่ตอนนี้เพื่อสิ่งใด
ความจริงกับฝันร้ายหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวทั้งยามตื่นและหลับตา

เขากำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด...ทั้งๆ ที่ชีวิตนี้มีอยู่จริงหรือไม่ เขาก็ยังตอบไม่ได้

++++++

ภาพฝันเลือนลางที่เต็มไปด้วยความตาย พานจื่อเห็นตัวเองวิ่งตามใครสักคนแทบเป็นแทบตาย แต่พอจะคว้าเอาไว้ได้...ร่างนั้นก็สลายไป

ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

'ปกป้องฉัน'

คำสั่งสั้นๆ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหายใจไม่ออก...พยายามจะไขว่คว้า แต่กลับหาไม่เจอ

ปกป้องอะไร? ปกป้องใคร?



เสียงกัมปนาทดังสั่นสะเทือนขึ้นมาฉับพลันพร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนลั่นระงม ชายหนุ่มลืมตาตื่น

ใครบางคนตะโกนบอกถึงการลอบโจมตี...ครั้งแล้วครั้งเล่า การรบแบบกองโจรในป่าดงดิบคือยุทธวิธีที่บั่นทอนกำลังพลและกำลังใจที่ดีที่สุด...เขาคว้าปืนขึ้นแล้ววิ่งออกไปเหนี่ยวไกอย่างไร้ความรู้สึก
ไอความร้อนจากระเบิดพุ่งเข้าเฉี่ยวใบหน้ากร้านศึก พานจื่อพลิกตัวหลบแรงปะทะนั้นได้อย่างฉิวเฉียดท่ามกลางความวินาศที่เกิดขึ้น
ชายหนุ่มสบถพรืด ก่อนจะควานหาเอาอาวุธที่อยู่ใกล้มือมาให้มากที่สุด สองหูเงี่ยฟังการปะทะกันที่รอบนอกแล้ววางแผนคร่าวๆ ในหัวอย่างรวดเร็ว
พานจื่อหลับตาลง สะบัดปลายกระบอกไปด้านหลังแล้วซัดกระสุนใส่ศัตรูที่ลอบเข้ามา ก่อนจะก้มตัวหลบแล้วพุ่งเข้าไปประชิดเอาปืนพกฟาดเปรี้ยงเข้าที่กกหู

ศพแล้วศพเล่าที่ร่วงหล่นตรงหน้า...เพราะหมายเอาชีวิตจึงถูกช่วงชิงชีวิต



...วันพรุ่งนี้ที่ไร้ความหมาย ชีวิตถัดไปอาจเป็นเขา



++++++

กลิ่นคาวเลือดไม่ได้ทำให้รู้สึกผะอืดผะอม แต่เขากลับไม่มีแรงที่จะขยับแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มพิงร่างกับผ้าใบเนื้อหยาบอย่างอ่อนแรง จู่ๆ ก็มีเงาคนทอดผ่านหน้าเขาที่นั่งอยู่ตรงมุมเต็นท์ คนตรงหน้าถือเป็นชายหนุ่มร่างเล็กเมื่อเทียบกับเหล่าทหารเดนตายในค่าย แสงจ้าที่ย้อนมาจากด้านหลังทำให้เขาเห็นใบหน้านั้นได้ไม่ชัดเจน

"ชื่ออะไร?" คนคนนั้นถาม "ไม่กลับบ้านแบบคนอื่นเขาหรือไง?"

ชายหนุ่มกะพริบตาช้าๆ กับคำกล่าวนั้น พลันสำนึกขึ้นได้ว่าบรรยากาศรอบตัวได้เปลี่ยนไป ใครหลายคนถึงกับดีใจจนร้องไห้ที่จะได้กลับแผ่นดินเกิด คนเจ็บมากมายที่นอนรออยู่ก็เริ่มเห็นโอกาสรอด
สงครามจบแล้ว...คำคำนี้ของใครหลายคนคงเหมือนเกิดใหม่ แต่สำหรับเขา...มันคือการก้าวสู่ฝันร้ายที่ยิ่งลึกล้ำลงไปอีก

"ว่าไง...ชื่ออะไร"
"...พานจื่อ"

เสียงของเขาแหบต่ำเพราะขาดน้ำ ฟังแทบไม่รู้เรื่อง อีกฝ่ายจึงคุกเข่าลงมาจนใบหน้าเสมอกัน

"ไม่มีที่ไปหรือ?"

คำพูดนั้นฟังดูเย้ยหยันแต่พานจื่อกลับรู้สึกว่ามันคือความเข้าใจอย่างยิ่ง คนคนนั้นอัดบุหรี่เข้าปอดก่อนจะเป่าใส่หน้าเขาแรงๆ

"ฉันอยู่บ้านคนเดียว...จะถือว่าคนเดียวก็ได้ล่ะนะ" ชายหนุ่มยักไหล่ "กำลังคิดอยู่ว่าจะเลี้ยงหมาสักตัว...เอาที่ซื่อสัตย์และใช้งานได้"

เขารู้สึกหัวตื้อไปหมดกับคำพูดนั้นที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่อีกฝ่ายก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มให้กระจ่างนอกจากคำพูดที่ยิ่งทำให้สับสนกว่าเดิม

"ฉันชื่ออู๋ซันเสิ่ง...ถ้าจะเป็นหมาของฉัน นายต้องฟังแต่ฉัน ทำเพื่อฉัน ปกป้องฉัน...แม้แต่ในความฝันก็ตาม"

ว่าจบ คนสกุลอู๋ก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ซึ่งกว่าจะรู้ตัวอีกที...พานจื่อก็ก้าวตามคนคนนั้นไปแล้ว



'ปกป้องฉัน'

เสียงแผ่วเบาในความทรงจำซึ่งสะท้อนไปมาในความรู้สึก พานจื่อเลิกสนใจเรื่องชีวิตไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ เขาเพียงแต่ต้องปกป้องคนคนนี้ก็เท่านั้น



กลิ่นคาวเลือดฉุนจมูกไม่ได้ทำให้เขาผะอืดผะอมเท่าไร...แต่กลิ่นไอพิษบ้านี่มันน่ารำคาญสิ้นดี เพราะอยากจะร้องเพลงให้คนสำคัญของพี่สามเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังหายใจลำบากจนเจ็บไปทั้งอก

ภาพเงาเลือนลางของคนที่เขาต้องปกป้องแทนใครอีกคนลับหายไปสุดสายตา พานจื่อหลับตาลงช้าๆ และเนิ่นนาน

'ปกป้องฉัน'

ชายหนุ่มหัวเราะแผ่วเบา

"พี่สาม...ผมจะปกป้องพี่...แม้แต่ในความฝัน"

เสียงกัมปนาทเลื่องลั่นก่อนจะหายไปในความเงียบงันตลอดกาล...







::talk::

ของตอบแทนค่ะ อุฮิ

ตอนแรกเขียนฮัวเสียให้ไนร์ไว้นะ แต่โดนมินมินล้วงตับไปเมื่อคืน ยอมแพ้...เอาพานสามไปแทนละกัน ฟฟฟฟฟฟฟ

ไม่รู้ว่าตรงรีเควสไหม...แต่แว่บแรกที่อ่านคือคิดถึงเรื่องนี้เลย หวังว่าจะชอบนะจ๊ะ ; v ;

velvetronica
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 100
Points : 3659
Join date : 08/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ