Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[SF] Fear [ผิงเสีย]

+5
meanato
Feran.FS
Fenrir
oilypicca
Rainxx_fon
9 posters

Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Rainxx_fon Wed 29 Oct 2014, 17:23

Title : Fear
Author : rainnxx_fon
Paring : ผิงเสีย
Rate : PG
Warning ; Spoil! เล่ม 10 นะค้า

_______________________________________



คำพูดที่ยังดังก้องไปมาอยู่ในหัว เปรียบกับมันเหมือนเทปวีดีโอที่เล่นไปจนจบแล้วกรอกลับมายังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง..
ผมยังจำมันได้ดี..


‘ ...นับจากนี้อีกสิบปี ถ้านายยังจำฉันได้’




คำพูดที่เป็นเหมือนสัญญา ที่ผูกมัดตัวผมไว้อยู่อย่างนี้

หึ.. ลืมอย่างนั้นรึ? ดูเหมือนเขาจะประเมินผมต่ำเกินไปเสียล่ะมั้ง?

ผมสะบัดศีรษะ ลบความคิดที่ก่อกวนอยู่ในหัวออกไปจดจ่อกับสถานการณ์เบื้องหน้าที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้.. ยกบุหรี่ที่คีบไว้ขึ้นมาสูดเข้าปอดสองสามเฮือกใหญ่
พ่นควันออกมาโดยที่ริมฝีปากเหยียดยิ้มออกบางเบา

ราวกับจะเย้ยหยันตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อกลับเข้าสู่ความจริงตรงหน้า หัวใจที่คิดว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นเวลานับสิบปี ทั้งที่คิดว่ามันคงแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าตัวเขาที่แสนไร้เดียงสาในอดีตนั่น..

อันที่จริง.. เขาก็ยังคงเป็น ‘เทียนเจินอู๋เสีย’ เหมือนเดิม
ไม่ควร.. ผมไม่ควรลากพวกเขาเข้ามาเกี่ยวในครั้งนี้ด้วยเลย..


นึกมาถึงตอนนี้มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ในเมื่อทุกคนที่ร่วมเดินทางมากับเขาในหนนี้
เหล่าคนสำคัญทั้งหลายของผม.. ต่างทยอยจากไปทีละคน.. ทีละคน..

“อู๋เสีย! มัวแต่เหม่ออะไรอยู่ รีบไปเข้าสิ! เสี่ยอ้วนจะยันเอาไว้ให้เอง!!” เสียงตะโกนดังก้องปลุกสติผมที่ใกล้จะแตกกระเจิงเต็มทนให้กลับมา ผมจึงตะโกนเสียงดังตอนกลับไป

“เฮ้ย! อย่าคิดอะไรบ้าๆ!”

“หยุดพูดแล้วไปซะอู๋เสีย! นายลืมไปแล้วหรือยังไงว่าเพราะอะไรที่ทำให้นายมาถึงที่นี่กัน!”

คำพูดของนายอ้วนที่พูดออกมาทำให้ผมสะอึก.. ปากที่คิดจะแหกปากด่าบรรพบุรุษหมอนั่นกลับกลายเป็นหุบสนิททันที
ผมกัดริมฝีปากของตัวเองจนเลือดไหลซิบ รสชาติคาวของโลหิตไหลเข้ามาในปากหากแต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอีกแล้ว มองแขนขวาของตนที่เลือดหยุดไหลไปนานแล้ว ความเจ็บก็กลายเป็นชาไปเสียแล้ว..

แต่ร่างอ้วนๆตรงหน้าเขาก็ไม่ได้มีสภาพต่างไปจากเขาเท่าไหร่  แล้วจะให้ผมวางใจได้ยังไงกัน!

ตอนนี้หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาอีกคน.. ผมคง..

ผมผืนกล้ำกลืนความรู้สึกไว้.. หมุนตัวหันหลังก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

“นายอ้วน! อย่าพึ่งเป็นอะไรจนกว่าฉันจะกลับมาล่ะ!”

“เออ!”

ผมวิ่งออกห่างจากเสียงที่เกิดจากการปะทะกันเข้ามากขึ้นเรื่อยๆ พยายามสกัดกั้นคลื่นอารมณ์อ่อนแอบ้าๆเอาไว้ สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เมื่อมองไปยังบานประตูเหล็กสำริดตรงหน้า

สิ่งที่ต้องสูญเสียไปทั้งหมด.. นั้นเป็นเพื่อคนผู้เดียวเท่านั้น
10 ปี.. เป็นเวลา 10 ปี.. ที่ผมรอคอยวันนี้

บานประตูสำริดตรงหน้าค่อยแง้มเปิดออกอย่างช้าๆ เมื่อเห็นตราลัญจกรที่อยู่ในมือของผม หัวใจเต้นถี่รัวอย่างตื่นเต้นและตื่นกลัว.. หากแต่ตอนนี้ผมไม่สนอะไรทั้งสิ้น คาดหวังเพียงคนคนเดียวเท่านั้น..
คนผู้นั้นที่อยู่เบื้องหลังประตูสำริดบานนี้!

เวลาเพียงไม่กี่นาทีหากแต่ยาวนานเกินไปในหัวผม หัวใจเต้นถี่แทบหยุดไปเมื่อเห็นเงาร่างหนึ่งท่ามกลางความมืดมิดเบื้องในนั้น
เงาร่างค่อยขยับเข้าใกล้อย่างช้าๆ.. จนรูปร่างค่อยปรากฏให้ผมเห็นทีละส่วน
เส้นผมสีดำยามนี้ยาวเหยียดต่างจากหนล่าสุดที่ผมเห็นเขา.. หากแต่ทุกสิ่งที่รวมกันเป็นเขานั้น ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว

เขายังเหมือนเดิมทุกอย่าง.. รวมถึงใบหน้านิ่งเฉยราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์นั้น

“จาง...ฉี่หลิง..” ผมเอ่ยปากพูดออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวสักนิด ในใจบังเกิดความรู้สึกบางอย่างเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหุบ ขอบตาร้อนผะผ่าว

ให้ตายสิ! ผมแม่งดีใจจนบ้าไปแล้วรึ!

ร่างนั้นเข้าใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ.. ผมยิ่งเห็นเขาเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ริมฝีปากเหยียดยิ้มออกมาจากภายในหัวใจ.. ความสุขใจที่ล้นปรี่มันทำให้เขาหยุดรอยยิ้มบนใบหน้าไม่ได้
ขณะที่คิดจะเอ่ยปากด่าบรรพบุรุษเขาสักชุด.. หากแต่คำพูดแรกที่ได้ยินจากร่างนั้นกลับทำให้ผมนิ่งงัน..

ร่างทั้งร่างแข็งค้างราวหิน สิ่งที่ผมหวาดกลัวที่สุดมันเป็นจริงขึ้นมา..
กี่ชีวิตที่ต้องเสียไป.. โลหิตที่หลั่งไหลยังคงเป็นพยาน หากแต่ผมไม่เสียใจสักนิด

ทุกสิ่งเพื่อคนคนเดียว

และคนผู้นั้น.. กำลังทำให้ผมแตกร้าว

เขาพูดประโยคนั้น.. ที่ผมแสนหวาดกลัวที่สุดออกมาได้ยังไงกัน..?





นายเป็นใคร?










_________________________________

ให้ตายสิ.. ฝันบ้าอะไรกัน

พริบตาที่ตื่นจากฝันบ้าๆนั่น แผ่นหลังเปียกชื้น ตามหน้าผากก็ผุดเม็ดเหงื่อออกมายังกับพึ่งไปวิ่งยังไงยังงั้น หากแต่ความนุ่มของเตียงที่นอนอยู่กับสภาพห้องที่เห็นตอนนี้ทำให้ผมเข้าใจได้ว่า..  เมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน

ผมสบถด่าในใจเบาๆ.. หากแต่ลมหายใจที่พุ่งพล่านยังไม่อาจหยุดลงง่ายๆ หัวใจยังเต้นถี่ยังกับกลองยังไม่หยุดลง

อู๋เสีย.. มันก็แค่ฝันน่า

หากแต่ก็ยังไม่สงบสักทีจนผมชักจะรำคาญ จึงเอื้อมแขนไปแตะข้างกายที่หวังจะมีไออุ่นของใครสักคนช่วยยืนยัน หากแต่มันกลับว่างเปล่า..

หัวใจชาวาบ.. รู้สึกหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าเจอบ๊ะจ่างอีก
หายไปไหน.. หรือเขาจะหนีผมไปอีกแล้ว?

ความหวาดกลัวแล่นริ้วขึ้นมาทันที สองขาก้าวลงจากเตียง พุ่งออกไปยังด้านนอก สีหน้าตื่นกลัวราวกับคนบ้า

หวังเพียงเห็นเงาร่างนั้น.. หวังแค่นั้นจริงๆ!

ไม่มี.. ไม่มี! ที่ไหนก็ไม่มี!

หัวสมองคิดฟุ้งซ่านจนแทบจะเป็นบ้า ตามหาไปทั่วทั้งบ้านกลับไม่เจอ .. หากแต่สุดท้ายเมื่อเปิดประตูบ้านออกไป หัวใจที่ไม่สงบค่อยหยุดนิ่งลง ลมหายใจติดขัดค่อยผ่อนคลายช้าๆ..
เงาร่างตรงเบื้องหน้าที่กำลังแหงนมองฟ้าอยู่นั้น.. ไม่ได้จากผมไปไหน..

แต่ดูเหมือนความผิดปกติของผมที่จู่ๆก็หุนหันโผล่ออกมาอย่างนั้นจะทำให้เขารู้สึกตัว หมอนั่นจึงหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉยเช่นเดิม หากแต่แววตาปรากฏแววงุนงงจางๆ
เห็นเช่นนั้นริมฝีปากผมก็เหยียดยิ้มเบาๆ นี่เป็นสิ่งที่ผมดีใจที่สุด

อย่างน้อย.. เขาก็เริ่มแสดงความรู้สึกออกมาบ้างแล้ว แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม

ผมพยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงให้เข้าที่ สูดลมหายใจเข้าปอดสองสามเฮือก เดินตรงเข้าไปหาร่างที่ยังมองผมไม่ละไปไหน
หากแต่พอเดินออกมาจริงๆร่างก็สั่นด้วยความหนาว มองตัวเองที่สวมเพียงเสื้อยืดสีขาวบางๆเท่านั้นก็อดก่นด่าตัวเองไม่ได้.. นี่รีบขนาดลืมหยิบเสื้อนอกออกมาด้วยซ้ำ

หากแต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่ได้จู่ๆก็ผีเข้าวิ่งออกมาชมจันทร์ หากแต่เตรียมตัวมาพร้อมด้วยจากผ้าคลุมกันลมลายลูกเจี๊ยบเหลืองอ๋อยที่ไม่ได้เข้ากับหน้าตาของเจ้าตัวนั่น.. เขาห่อตัวอยู่ภายใต้มันจนเห็นแค่หัวที่โผล่พ้น ดูแล้วน่าขำเสียจนอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะออกมา

ดูเหมือนหมอนั่นจะงุนงงไม่น้อยที่จู่ๆผมก็หัวเราะออกมา หากแต่แววสงสัยก็ค่อยๆจางไป ก่อนที่ริมฝีปากนั่นจะกล่าวคำพูดออกมาโดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยถาม

“ฉันนอนไม่หลับ” .. ก็เลยต้องออกมาชมดาวชมจันทร์กับเจ้าลูกเจี๊ยบนั่นน่ะรึ?

ยิ่งคิดผมก็ยิ่งขำ ความขุ่นมัวจากความฝันเมื่อครู่จางไปอย่างช้าๆ ส่ายหัวระอากับคนตรงหน้า เมื่อหยุดหัวเราะจึงรู้สึกว่าอากาศข้างนอกมันชักจะหนาวเกินไปล่ะ..

“เสี่ยวเกอ ฉันหนาว” พูดด้วยสีหน้าที่หุบยิ้มไม่ได้ ยืนกอดอกจ้องคนตรงหน้า

หมอนั่นก็ยังคงเป็นหมอนั่น เขาเพียงมองผมเฉยๆอย่างนั้นแต่ไม่ได้ขยับตัวสักนิดเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่ผมจะสื่อ
เห็นอย่างนั้นผมก็ชักจะหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ.. ทีอย่างนี้ล่ะหัวช้าเหลือเกิน

หนนี้ผมไม่พูดหากแต่อ้าสองแขนออก คราวนี้ไม่รู้ผมก็จนปัญญาแล้วจริงๆ

และเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาก้าวเข้ามาหาผมช้าๆ ก่อนจะใช้ผ้าคลุมนั่นโอบเราทั้งสองคนไว้ อ้อมแขนแข็งแกร่งรวบผมเข้าไปในอ้อมกอด ทำให้ความหนาวเมื่อครู่ราวกับไม่ได้เกิดขึ้น ไออุ่นในอ้อมกอดนั้นโอบล้อมให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มจนแก้มแทบปริ สองแขนจึงโอบเขาตอบเช่นกัน ใบหน้าซุกไปยังแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้น..

อบอุ่น.. และสัมผัสได้ถึงเลือดเนื้อเช่นนี้.. เขาไม่ใช่ภาพมายา

ผมพลันนึกถึงความฝันเมื่อครู่แล้วก็คิดได้ว่ามันงี่เง่า.. ก็จริงที่การไปที่ฉางไป๋ซานในตอนนั้นมันไม่ได้สวยหรู หากแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่ล้มหายตายจาก.. และผมยังได้เขากลับคืนมา..

และที่แน่นอนคือ.. เขาไม่ได้ลืมผมไปอย่างที่ผมกลัว

ยิ่งคิดถึงก็พลันกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ดูเหมือนหมอนั่นจะรู้ตัว ริมฝีปากที่ไม่ค่อยพูดจึงเอ่ยออกมา

“เป็นอะไร?” แม้คำพูดจะสั้นเช่นเดิมหากแต่แฝงไปด้วยแววห่วงใย แม้เขาไม่แสดงออกแต่ผมก็รับรู้ว่าเขาเป็นห่วงขนาดไหน

“ฉันขอถามนายคำถามเดียว.. นายจะไม่หนีไปไหนอีกแล้วใช่ไหม?” ถามออกไปทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก..

หากหมอนั่นตอบมาว่า ไม่ ล่ะ..

หากหมอนั่นเลือกที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง..

ถ้าเป็นอย่างนั้น.. ผมต้องทำยังไงถึงจะรั้งเขาไว้อีกครั้ง..

ดูเหมือนความสั่นไหวจะฉายออกในแววตา.. หมอนั่นจ้องมองตาผมนิ่งๆด้วยสีหน้านิ่งเฉยเช่นเดิม และเขาก็ไม่ตอบอะไรผมมาเช่นกัน..

ขณะที่ผมกำลังคิดจะถอดใจ.. ใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่แสดงสีหน้าใดพลันโน้มก้มลงมาอย่างช้าๆ ไออุ่นจากลมหายใจที่เป่ารินรดใบหน้าทำให้ใจสั่นรัวยากควบคุมอีกครั้ง.. ก่อนที่ริมฝีปากนั่นจะประทับลงมาแนบแน่น.. หากแต่อ่อนโยน

ริมฝีปากที่สัมผัสแผ่วเบาค่อยลึกซึ้งขึ้น.. สองแขนของผมโอบกอดร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั่นแน่น โดยที่ฝ่ามือข้างที่มีสองนิ้วยาวผิดปกตินั่นจะประคองใบหน้าผมเอาไว้ ให้แหงนรับสัมผัสนั่นมากยิ่งขึ้น
“เสี่ยวเกอ.. เดี๋ย-” ผมที่ถูกฉกชิงลมหายใจไปเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็รีบทวงถามคำตอบ หากแต่กลับถูกริมฝีปากนั่นแนบสนิทลงมาอีกหน และคราวนี้แตกต่างจากหนที่แล้ว

สัมผัสหนนี้กลับลึกซึ้งยิ่งกว่าหนก่อน.. มันรุกเร้าปั่นป่วนสมองของผมจนแทบคลั่ง ยั่วเย้าสติอารมณ์ให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ ผมที่ปล่อยให้ตัวเองรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจจึงเผยอริมฝีปากออก ให้เรียวลิ้นรุกล้ำเข้ามาพัวพันและปั่นป่วนผมได้ตามใจชอบ.. จูบดูดดื่มที่แทบพรากลมหายใจของผมไป

และเมื่อหมอนั่นถอนริมฝีปากออกมาอีกหนให้ผมได้หายใจ.. ยังไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็ประทับริมฝีปากลงมาอีกหน.. ซ้ำไปซ้ำมา.. โดยที่ผมขี้เกียจที่จะเอ่ยปากอีกต่อไป จึงยินยอมรับแต่โดยดีอีกทั้งยังให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เช่นกัน

แต่คำตอบนั้นแม้เขาจะไม่ตอบออกมา.. หากแต่ผมก็รู้คำตอบของมันแล้ว

ท่ามกลางสติที่ถูกยั่วเย้าจนพร่ามัว.. อากาศหนาวเหน็บนั่นแทบไม่เป็นผลต่อผมแล้ว ผ้าคลุมลายลูกเจี๊ยบย่อคงห่อเราสองคนไว้ อ้อมแขนยังคงโอบกอดไม่คลายออก.. ผมคล้ายได้ยินเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบาๆที่ข้างหู

“ฉันเคยบอกนายไว้แล้วอู๋เสีย.. ความเชื่อมโยงระหว่างฉันกับโลกใบนี้.. ก็คือนาย ต่อจากนี้.. ถึงนายจะไล่ฉันไป.. ก็ไม่มีวันที่ฉันจะไปไหนอีกแล้ว”

อ๋อ.. นั่นสินะ.. เขาเคยบอกผมมาอย่างนั้นจริงๆ..

คราวนี้ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน.. หรือมันจะเป็นความจริงก็ช่าง.. ผมไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว

ตราบใดที่เขายังอยู่ข้างผม.. อยู่ข้างกายเช่นนี้.. โอบกอดผมเช่นนี้.. สัมผัสผมเช่นนี้.. จูบผมเช่นนี้.. ให้ผมได้รู้สึกถึงตัวตนของเขา.. รู้สึกจังหวะของหัวใจที่เต้นอยู่ในร่างนั้น

แค่นั้นก็พอแล้ว.. พอที่มันจะลบล้างความ กลัว ที่อยู่ภายในใจของผม..

ความกลัว.. ที่ว่าเขาจะลืมเลือนผมไปอีกครั้ง..

++++++++++ END ++++++++++

สวัสดีค่า >_</
นี่เป็นฟิคผิงเสียเรื่องแรกที่ลองแต่งเลยค่า (หลังจากตามซุ่มอ่านของหลายๆท่านมานาน)
มือใหม่หัดแต่งค่ะ อยากจะแต่งออกมาหวานๆ ไหงกลายเป็นดราม่าเล็กๆซะงั้น (ฮ่าๆ)
สรุปฟิคนี้ทั้งตอนเพื่อความมโนในตัวเรา 555
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านนะค้า หากมีโอกาสอาจจะแต่งต่ออีก!

Rainxx_fon
Rainxx_fon
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 58
Points : 3562
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : สิงอยู่ตามฝาบ้านสกุลอู๋ <3

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by oilypicca Wed 29 Oct 2014, 22:58

โอ๋เด็กน้อยฝันร้าย มาๆให้เสี่ยวเกอกอดปลอบนะ
นึกว่าจะดราม่าซะแล้ว แฮ่ สุดท้ายจบด้วยความหวาน//ด้วงแดดิ้น
ขอบคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ >.<
oilypicca
oilypicca
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 61
Points : 3555
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ใต้เตียงเรือนหอสกุลจาง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Fenrir Wed 29 Oct 2014, 23:51

อ่านตอนแรกแล้วหัวใจจะวายตาย แต่พออ่านจบค่อยดีใจหน่อย...ว่าในที่สุดก็แฮปปี้ซะที เยียวยาจิตใจที่วันนี้เจอแต่ฟิคชวนระทมมากๆเลยค่ะ ;w;
Fenrir
Fenrir
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 117
Points : 3636
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ไหสักใบในบ้านสกุลอู๋

http://fenrirsglue.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Thu 30 Oct 2014, 09:36

โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย//ระเบิด

ฉากจบทำหมาตัวนี้ตายแล้วค่ะ ฮรือออออออออออ

แต่งได้สุดยอดมากเลยค่ะ อ่านแล้วอยากได้ตอนต่---------#แค่กๆๆๆ แต่ถ้ามีฉากหลังจากนั้นก็ดีนนะค---
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3964
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by meanato Thu 30 Oct 2014, 14:22

เกือบหัวใจวายตายแล้วน่ะ
meanato
meanato
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 487
Points : 3983
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Naitear Fri 31 Oct 2014, 00:44

อ่านจบครึ่งแรกแล้วก็อุทาน 'ว่าไงน้าาาาาาา!!' เสียงดังเลยค่ะ 555555555555 T w T] แหม่นายเมินน ให้นายน้อยรอตั้งนานแล้วยังจะลืมนายน้อยอีกเหรออ ฮือออออออ

แต่ให้อภัย ก๊าวหนุ่มผมยาวค่ะ //ฮา

ฟิคตอนครึ่งหลังนี่หวานมากกกกกก ด้วงจิบิดตัวตายอยู่ในซากหมอนแล้วค่ะ นายเมินนี่เงียบๆแต่ก็แอบหื่นนะ! รุกไม่หยุดเชียว! (แฮ่ก แฮ่ก)

ขอบคุณสำหรับฟิคฟหกดฟหกดาสสวนี้นะคะ(?) U//v//U
Naitear
Naitear
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 232
Points : 3778
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by MinMin Wed 05 Nov 2014, 20:51

ตอนอ่านถึงประโยค "นายเป็นใคร" ...คือแบบว่าลมหายใจสะดุดกึก ช็อคเล็กๆ นายเมินโหยวผิงงงงงงง หยุดทำร้ายนายน้อยสักที!!!!

พอรู้ว่าเป็นความฝันถึงแบบ เฮ้ออออออออ แล้วก็มาเห็นผ้าคลุมลายลูกเจี๊ยบ 555+ หวานเชียว อ่านไปจิกหมอนไป

ถ้ากลับมาแล้วนายห้ามไปไหนอีกนะ!!! อยู่กับนายน้อยไปนานเลยยยยยยยยยย
MinMin
MinMin
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 222
Points : 3865
Join date : 28/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by gaaraclub Sat 22 Nov 2014, 13:27

เห็นประโยคนายเป็นใคร ตอนแรกนึกว่าจะดราม่าซะแล้ว กำลังเตรียมตัวจะหาเรื่องเสี่ยวเกอเลยค่ะ *ว่าไปงั้นด้วงบ่าวมิกล้าว่าขุ่นท่านหรอก 555555

โล่งใจที่เป็รเพียงความฝัน น่ารักมุ้งมิ้งกับลูกเจี๊ยบด้วย >\\\<
gaaraclub
gaaraclub
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 81
Points : 3573
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] Fear [ผิงเสีย] Empty Re: [SF] Fear [ผิงเสีย]

ตั้งหัวข้อ by Evan_tear Tue 24 Feb 2015, 01:49

อ่านตอนต้นจบ นี่เกือบดราม่าล่ะ แต่ตอนจบนี้แบบ โอ๊ยนายน้อย น่ารักกกก //เขินจุง
Evan_tear
Evan_tear
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 9
Points : 3390
Join date : 15/02/2015
Age : 30

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ