Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Trans] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 8 โลงผียามย่ำค่ำ

Go down

[Trans] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 8 โลงผียามย่ำค่ำ Empty [Trans] #TheMysticNine #เก้าสกุล ตอน 8 โลงผียามย่ำค่ำ

ตั้งหัวข้อ by anurakbeer Mon 04 Jan 2016, 15:38

เก้าสกุล ตอน 8
โลงผียามย่ำค่ำ

ฉีเถียจุ่ยขณะนี้ เย็นเยียบไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนกาลเวลาหนืดแข็ง มองเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นค่อยๆ สอดแขนลึกเข้าไปในรูโลง แขนทั้งท่อนจมมิดไปอย่างรวดเร็ว เหล้าขาวบนตัวระเหยด้วยอุณหภูมิกายที่เพิ่มสูง ถึงขั้นปรากฏเป็นไอน้ำ

รอบด้านไม่มีเสียงแม้แต่นิด ฉีเถียจุ่ยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เหงื่อบนมือทำให้เชือกปอที่ผูกไว้กับฆ้องที่ถือกำอยู่เปียกชุ่ม

ชั่วเวลาไม่กี่นาทีนั้น เสมือนผ่านไปหลายชั่วโมง ทันใดนั้นเอง สีหน้าของเด็กหนุ่มพลันเปลี่ยน คล้ายกับคลำเจอบางสิ่ง แทบจะเสี้ยววินาที เขาก็ตัวสั่น เงยหน้าขึ้นมองจางฉี่ซาน

จางฉี่ซานยืนขึ้น จ้องเขาเขม็ง เห็นเด็กหนุ่มเริ่มใช้อีกมืออีกข้างส่งภาษานิ้ว จางฉี่ซานส่ายหน้าทันที เด็กหนุ่มคนนั้นแม้หน้าซีด หวาดกลัวสุดขีด แต่ท้ายสุดก็ไม่ชักมือออก

หัวใจของฉีเถียจุ่ยแทบจะกระโดดออกมาอยู่นอกอก ในใจของเขา ได้แต่ภาวนาให้เป็นแค่ความตกใจเปล่า แต่ดูจากตอนนี้ การคาดเดาของตนนั้นถูกต้อง ในโลงมีสิ่งผิดปกติอยู่จริง แต่เด็กหนุ่มนั้นคลำเจออะไรกันแน่ เขาไม่รู้จักสัญญาณมือของบ้านสกุลจาง จึงไม่อาจรู้

เรื่องของลูกหลานสกุลจาง เขาเคยได้ยินฝอเหยียเล่าให้ฟังหลายครั้ง บอกว่าหอประจำตระกูลที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ฝึกฝนลูกหลานสกุลจางเข้มงวดมาก เด็กๆ พวกนั้น อารมณ์ต่างๆ ทั้งความดีใจ ความโกรธ ความเศร้า ความสุข ส่วนใหญ่ถูกเกลาหายไปจนสิ้น แต่ลูกหลานรุ่นที่เกิดในฉางซา แม้จะได้รับการฝึกที่เข้มงวดเช่นเดียวกัน แต่ในทางจิตใจ อ่อนโยนกว่ากันมาก

ฉีเถียจุ่ยรู้วิชาศาสตร์แห่งโหงวเฮ้งบนใบหน้า ดูปุ๊บก็รู้ว่าฝอเหยียเล่าอดีตมักมีเรื่องปกปิด แต่สำหรับเรื่องเด็กๆ นั่น น่าจะเล่าตามอารมณ์พาไป แต่ฉีเถียจุ่ยรู้สึกว่า สำหรับเด็กๆ แล้วควรอ่อนแอสักหน่อยดีกว่า หากมีเด็กคนไหน สุขุมเยือกเย็นเกินวัยมาแต่เล็ก ชั่วชีวิตของเด็กคนนี้ เกรงว่าจะเลวร้ายโดยไม่รู้ตัว

คนบ้านสกุลจางต่อให้เป็นเด็กที่ได้ชื่อว่าอ่อนแอ ก็ยังดุดันยิ่งนักในสมรภูมิ เรื่องนี้เขาก็เคยได้ยิน หนุ่มน้อยคนนี้แม้อายุไม่มาก แต่ย่อมไม่ใช่ตัวกระจอกอย่างแน่นอน

จางฉี่ซานอ่านภาษานิ้วของเด็กหนุ่มต่อ สีหน้าขรึมเครียด เขาทำสัญญาณมือ เป็นสัญญาณที่ฉีเถียจุ่ยพอจะเดาออก หมายถึงให้เด็กหนุ่มชักมือออกมา เด็กคนนั้นตัวสั่นแต่แสดงสีหน้าดื้อดึง คล้ายกับต้องการทำต่อ

ฉีเถียจุ่ยหัวแล่นไวมาก นึกในใจว่า พวกเจ้าสื่อสารอะไรกันอยู่กันแน่ เจ้าเด็กนี่คลำเจออะไรบางอย่างที่ชวนขนหัวลุก ทำให้กลัวอย่างจับใจ จางฉี่ซานสั่งให้เขาชักมือออกเพื่อตนจะรับช่วงแทน แต่เขากลับไม่ยอมให้จางฉี่ซานเอาตัวมาเสี่ยงงั้นหรือ แทบจะเป็นเสี้ยววินาทีที่ฉีเถียจุ่ยกำลังใช้ความคิดอยู่นั่นเอง เด็กหนุ่มคนนั้นพลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว ส่งเสียงร้องออกมา จากนั้นก็เห็นหัวไหล่ของเขาจมพรวดลงไปในรูนกหวีดอย่างแรง คล้ายกับถูกพลังมหาศาลกระชากเข้าไป ได้ยินเสียงกระดูกหัวไหล่กระแทกบดแตกร้าว

ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้ทหารใกล้ชิดคนนี้ร้องลั่น จางฉี่ซานกระโดดผางขึ้นไปลนโลง ประคองลำคอของเด็กหนุ่มไว้ ออกแรงงัดขึ้น เส้นเลือดบนแขนปูดโปน ดึงตัวเด็กห่างออกมาครึ่งฟุต พลันเห็นผื่นแดงบนแขนเด็กหนุ่มไต่ลามขึ้นหัวไหล่ จางฉี่ซานตะเบ็งเสียงลั่น "เจ้าหมอดู!"

ฉีเถียจุ่ยงงไปหมดแล้ว เมื่อถูกตะคอกใส่เสียงดัง ฆ้องในมือร่วงตกพื้นเสียงดังเคร้ง ม้าตัวใหญ่ข้างกายยกขาหน้าขึ้นกระชากตัวควบวิ่ง เพียงชั่วพริบตา เบื้องหน้าฉีเถียจุ่ยขาวโพลน ได้ยินแต่เพียงเสียงโลหะเสียดสีกันของคมกรรไกรผีผาเจี่ยน และเสียงกรีดร้องโหยหวนบาดจิตของเด็กหนุ่ม

เสียงของฆ้องสะท้อนก้องอยู่ในโสตของเขาไม่ยอมหยุด หลังจากสีขาวเบื้องหน้าจางหาย ก็คือเลือดที่ท่วมโลงกับแพทย์ทหารที่กรูกันเข้าไป ฉีเถียจุ่ยตาเหลือกขึ้น เกือบเป็นลมสลบไป

"ปาเหยีย (ท่านแปด)!" ยังไม่ทันจะได้ฟื้นสติ ฆ้องใบนั้นก็ถูกรองผู้การยัดกลับเข้ามือเขาอีกครั้ง ม้าศึกข้างๆ ก็ถูกจูงกลับมาเกี่ยวเข้ากับกลไก จางฉี่ซานสลัดเสื้อนอกออก ขึ้นไปย่อตัวนั่งลงบนโลงตรงตำแหน่งเดิมของเด็กหนุ่ม พาดแขนซ้ายไว้ระหว่างคมกรรไกรผีผาเจี่ยน

ยังจะเอาอีก? ฉีเถียจุ่ยตัวสั่น แทบจะคุกเข่าลง เสียงของจางฉีซานสงบนิ่งมาก ไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งตะโกนสุดเสียงเมื่อครู่นี้ "เจ้าแปด มองข้า"

ฉีเถียจุ่ยเงยหน้าขึ้น จางฉี่ซานหยิบเอาแขนท่อนที่ขาดนั่นออกมาแล้ว แขนทั้งท่อนย้อมแดงไปด้วยเลือด เขาโยนท่อนแขนให้แพทย์สนาม จากนั้นก็สอดแขนตัวเองเข้าไปในรูโลงอย่างแรง ฉีเถียจุ่ยหัวสมองขาวโพลน กลิ่นคาวเลือดท่วมจมูกทำให้เขาแทบจะอ้วกออกมาในทันที แต่ด้วยกลัวว่ามือจะอ่อนจนฆ้องร่วงตกพื้น เขาจับฆ้องเอาไว้สุดชีวิต ฝืนตัวเองไม่ให้หมดสติ

พลันเห็นจางฉี่ซานตัวสั่นอย่างแรงทีหนึ่ง คล้ายกับคลำเจอบางสิ่งเช่นกัน แต่เขาไม่มีอาการหวาดกลัวแม้แต่น้อย สีหน้าเข้มขรึม และไม่รู้ว่าเป็นภาพหลอนหรือเปล่า ฉีเถียจุ่ยมองเห็นบริเวณต้นคอและแผงอกของเขา มีเส้นฝอยสีแดงทึบวาบผ่าน จากนั้นแขนทั้งข้างของจางฉี่ซาน ก็บิดอย่างแรงในตัวโลง ไม่มีใครได้ยินเสียงใดๆ ทั้งสิ้น แต่กลับสัมผัสได้ถึงแรงบิดมหาศาล จากนั้น จางฉี่ซานค่อยๆ ชักแขนออกมา ในมือกุมของวัตถุหนึ่งเอาไว้

วัตถุในมือของเขาเปรอะเปื้อนดำสนิท ไม่รู้ว่าเป็นเลือดหรือเป็นสิ่งปฏิกูลภายในโลง เขานำเอาวัตถุชิ้นนั้น ไปส่องดูใต้แสงอาทิตย์อัสดง



Talk:
สวัสดีวันจันทร์แรกของปี 2559 ครับผม
แปลมาให้อ่านตามโพลนะครับ ^^


Sponsor Time :
ว่างๆ อย่าลืมตามไปอ่าน "ทดลองอ่าน" นิยายแปลเรื่องใหม่ของผมด้วยน้า

ที่เพจ Mangmoom Culture นาจา

anurakbeer
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 184
Points : 3945
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ