Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter14
5 posters
หน้า 1 จาก 1
[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter14
Lost Memories
fiction บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
Pairing เมินโหยวผิงxอู๋เสีย
Timeline หลังเล่มสิบที่เมินโหยวผิงเดินทางไปยังประตู สำริด ผ่านไป 2 ปี
“นายใจเย็นๆก่อน”
นายอ้วนวิ่งมาหา ผมสูดหายใจเข้า สงบสติที่กำลังสับสน เสี่ยวฮัวเดินมาอยู่ข้างๆผม คนละฝั่งกับนายอ้วน ใช้โทรศัพท์มือถือเคาะหัวผมหนึ่งที
“หยุดคิดมากได้แล้ว อาเฮีย” เขาทำหน้าทะเล้นใส่ผม “ถ้าออกจากตรงนี้ไปได้ เราก็จะได้รู้ทุกอย่างแล้ว” เสี่ยวฮัวหันไปมองเมินโหยวผิง “แต่ตอนนี้ต้องคิดก่อนว่าทำยังไงนายถึงจะหนีไปได้อย่างปลอดภัย”
คำพูดของเสี่ยวฮัวทำให้ผมกลับมามองรอบตัว จึงรู้ว่าพวกเราห้าคนถูกล้อมด้วยคนจำนวนมาก ผมนึกถึงการยกพวกตีกันแบบในหนัง พวกเขามีอาวุธครบมือ รอแค่อะไรสักอย่างเป็นสัญญาณเริ่มต้น แล้วพวกเขาก็จะถล่มพวกเราทั้งห้าคน สถานการณ์แบบนี้เกือบจะเรียกได้ว่า “สิ้นหวัง”
ผมควรจะจบเรื่องพวกนี้ด้วยการเดินไปหาพวกเขา แล้วปล่อยให้พวกเขาทำอะไรก็ได้เลยดีหรือเปล่า...ถึงอย่างไรผมก็จำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้พวกเขาเอาตัวผมไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น ดีกว่าที่จะอยู่ตรงนี้แล้วพาคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย
...โดยเฉพาะในกรณีที่ผมไม่ใช่อู๋เสียตัวจริง...พวกเขาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตัวตนที่ว่างเปล่าของผม ไม่ควรจะต้องเจอเรื่องแบบนี้
วินาทีที่ผมกำลังจะก้าวออกไป นายแว่นดำกลับหัวเราะขึ้นมาราวกับไม่เดือดร้อนอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
“ผมเตือนคุณแล้ว” เขาหยิบยางเส้นหนึ่งออกมามัดผมข้างหลังเป็นกระจุกเล็กๆ
เสี่ยวฮัวถอดเสื้อสูทโยนทิ้งอย่างไม่สนว่ามันราคาเท่าไร “ฉันยังมีนายไม่ใช่เหรอ ท่านอาจารย์เฮยเสียจื่อ”
นายแว่นดำหัวเราะเสียงดังขึ้น ขณะที่เสี่ยวฮัวดึงกระบองออกมาจากแขนเสื้อ เขาหันมามองผมกับเมินโหยวผิง “พาอู๋เสียหนีไป”
วินาทีต่อมา เขาใช้กระบองประกอบต่อเป็นไม้พลองยันลงไปที่พื้นออกแรงส่งตัวเองกระโดดข้ามหัวพวกนั้นไปนอกวงด้วยท่าทางเหมือนพวกนักกีฬาโอลิมปิกใช้ไม้ค้ำกระโดดข้ามรั้ว เพียงแต่ท่วงท่าของเสี่ยวฮัวสวยงามเหมือนกำลังแสดงกายกรรมอยู่บนเวที เขาเหวี่ยงพลองซัดพวกนั้นจากด้านนอก ทะลวงเปิดทางเข้ามาข้างใน
เมินโหยวผิงอาศัยจังหวะนั้นดึงมือผมพาวิ่ง นายอ้วนทุบคนที่จะวิ่งมาขวางพวกเราแล้ววิ่งตาม ผมเห็นคนอีกหลายคนไล่มา ทว่าอยู่ๆพวกนั้นก็ล้มลง ในมือของนายแว่นดำถือปืนอยู่ คงเป็นฝีมือของเขา
ผมหันกลับมามองข้างหน้า เมินโหยวผิงใช้มือข้างเดียวรับท่อแป๊ปที่ฟาดลงมาก่อนจะดึงท่อแป๊ปเข้าหาตัวแล้วใช้ศอกกระแทกไอ้คนที่จะโจมตีเขาตอนแรก หมอนั่นถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น เมินโหยวผิงเหวี่ยงท่อแป๊ปรับการโจมตีของอีกคน ก่อนจะยกขาถีบเขากระเด็นไปกระแทกคนข้างหลัง ล้มตามกันเป็นโดมิโน ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพนี้เกิดขึ้นจริงๆ นึกว่าจะมีแค่ในการ์ตูน
เสี่ยวฮัวเปิดทางให้พวกเราหนีออกมาได้ ผมหันกลับไปมองเห็นเสื้อเชิ้ตสีชมพูของเขาเลอะคราบเลือดเต็มไปหมดราวกับเป็นลวดลายของเสื้อ เขายังคงควงกระบองฟาดใส่คนที่จะวิ่งตามพวกเรามา นายอ้วนบอกให้ผมเลิกหันไปมองแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง ผมจึงหันกลับมา
พวกเราวิ่งผ่านถนนใหญ่มาจนถึงสี่แยก เจอรถยนต์พุ่งมาจากถนนทุกทิศทางแบบไม่สนสัญญาณจราจร แสงไฟหน้ารถสว่างจ้าส่องมาที่พวกเราเหมือนกับรถตำรวจที่ส่องไฟล้อมจับผู้ร้ายหนีคดี เมินโหยวผิงหยุดวิ่งมองดูสถานการณ์ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีทางรอดแล้ว พวกนั้นมีรถ พวกเรามีแค่ขา จะให้วิ่งหนีรถก็เหมือนมดวิ่งหนีช้าง ไม่กี่วินาทีก็คงโดนช้างเหยียบบี้แบน
ผมเห็นคนจำนวนมากเปิดประตูลงมาจากรถ หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เคยมาหาผมที่โรงพยาบาล ผมจำเขาได้ ไอ้คนที่ดูเหมือนบัณฑิตคงแก่เรียน
“คุณหลอกผม” ผมพูดทันที เขาพยักหน้าตอบกลับว่า
“คุณก็หลอกพวกเราเช่นกัน คุณอู๋ คุณร่วมมือกับโจรขุดสุสานพวกนั้น หลอกให้เราไปที่ฉางซาและฆ่าพวกเราทิ้งในสุสานแห่งนั้น”
“คุณเป็นคนบอกให้ผมไปที่ฉางซาเองไม่ใช่เหรอ” ผมโวยวาย จำได้แม่นว่าเขาเป็นคนให้ผมไปที่นั่นเอง บอกว่ามีคนขโมยของที่ผมต้องการไปซ่อนไว้ที่นั่น ผมถึงต้องไปเจอกับเหตุการณ์มนุษย์กลายพันธุ์
“คุณร่วมมือกับพวกเขา” หมอนั่นชี้ไปที่เมินโหยวผิง
ไอ้นี่แม่งกล่าวหามั่วนี่หว่า ถ้าผมร่วมมือกับเขาจริงคงไม่ถูกหลอกมาจนถึงตอนนี้หรอก
“พวกเราต้องการแค่ของสิ่งนั้น ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง หากคุณส่งมาให้โดยดี พวกเราจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้”
“ขนาดไม่ต้องการใช้ความรุนแรง คุณยังเกือบยิงผมตายที่หังโจว ที่ผมตกเขาก็เป็นฝีมือของพวกคุณด้วยใช่มั้ย”
หมอนั่นไม่สนใจคำถามของผม เพียงแค่ย้ำให้ส่งของมา
ผมไม่มีทางส่งของอะไรให้เขาได้อยู่แล้ว เพราะของสิ่งนั้นไม่ได้อยู่ที่ผม และคนที่ถือมันอยู่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะส่งให้ สถานการณ์ในตอนนี้จึงเหมือนเป็นการวัดใจกันเสียมากกว่า เขาเงียบ ผมเงียบ ต่างคนต่างดูเชิงกันอยู่ แต่หากต้องปะทะกันจริงๆ ผมคิดว่ายังไงพวกเราก็ไม่น่ารอด ถึงที่เห็นตอนนี้จะไม่มีใครถือปืน แต่ผมมั่นใจว่าพวกเขาต้องซ่อนมันไว้ที่ไหนสักแห่ง
หรือผมควรจะกล่อมเมินโหยวผิงให้ส่งลัญจกรให้พวกเขา แต่ถ้าส่งให้แล้ว พวกเขาจะปล่อยพวกเราไปจริงหรือเปล่า
ในหัวของผมมีวิธีงี่เง่ามากมาย แต่ไม่มีอันไหนที่สามารถใช้ได้จริงเลย ผมรู้สึกว่าตัวเองคิดมากจนเกือบเข้าขั้นสติแตก ตอนนั้นเอง เมินโหยวผิงปลดกระเป๋าเป้ลงล้วงหยิบลัญจกรออกมา ผมนึกว่าเขามีวิธีดีๆ แต่สิ่งที่เขาทำคือยื่นมันออกไปข้างหน้าราวกับจะบอกให้อีกฝ่ายมาเอาไปได้เลย
เชี่ย! หมอนี่สติแตกยิ่งว่าผมเสียอีก!!!
ผมตั้งใจจะวิ่งไปคว้ามาเอง ทว่า วินาทีนั้นเองสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น
เมินโหยวผิงโยนลัญจกรขึ้นฟ้า ผมเห็นไอ้นักสำรวจเก๊อ้าปากค้าง กระโดดขึ้นไปคว้า แต่เมินโหยวผิงไวกว่า เขาดึงดาบดำที่สะพายหลังอยู่ออกมาฟันสิ่งที่คนอื่นทุ่มเทตามหาอย่างยากลำบากด้วยความง่ายดาย คมดาบดำกระทบตัวลัญจกรหยก เกิดเป็นรอยร้าวก่อนจะแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆร่วงลงสู่พื้น
ผมกับนายอ้วนหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูก คนอื่นๆที่มองอยู่ก็คงเป็นเช่นนั้น การกระทำของเมินโหยวผิงแทบจะเป็นการดับความหวังทั้งหมด...ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาคือสูญเปล่า มีเพียงเศษซากเป็นพยานแห่งความพยายาม
ทุกคนยังคงตกอยู่ในสภาวะทำอะไรไม่ถูก เมินโหยวผิงที่ดูล่องลอยมาตลอดกลับเป็นคนเดียวที่มีสติครบที่สุดในตอนนี้ เขาก้าวออกไปเผชิญหน้ากับคนพวกนั้นทั้งหมด ในมือยังคงถือดาบดำไว้
“สิ่งที่พวกคุณต้องการ ฉันทำลายไปแล้ว” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เจ้านายของพวกคุณคงรู้ว่าฉันเป็นใคร เพราะฉะนั้น ไปบอกเจ้านายของพวกคุณว่าหากสหายของฉันได้รับอันตรายแม้แต่น้อย ฉันจะฆ่าเขา ต่อให้เขาหนีไปจนสุดขอบฟ้า ฉันก็จะหาจนเจอ เพราะฉันมีเวลาเหลือเฟือ”
คำพูดของเมินโหยวผิงเป็นเหมือนคำสาปอะไรสักอย่างที่สะกดทุกคนตรงนั้นให้หยุดนิ่ง ไม่มีใครขยับอะไรทั้งนั้น ผมเองยังรู้สึกเหมือนเหตุการณ์ไม่กี่วินาทีที่แล้วเป็นความฝัน บางทีอีกหนึ่งวินาทีต่อจากนี้เศษซากลัญจกรอาจจะกลับมารวมกันใหม่ เหตุการณ์ทุกอย่างย้อนเวลา แล้วผมก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจินตนาการของผมเท่านั้น
ทว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางความเงียบนั้นเอง ผมเห็นรถคันหนึ่งเปิดไฟ หักหัวกลับรถ วิ่งออกไปเป็นคันแรก พลัน คนที่ยืนอยู่ก็ทยอยกลับขึ้นรถ แม้แต่ไอ้คนที่ยืนอ้าปากค้างตรงหน้าผมก็หุบปาก เดินกลับขึ้นรถจากไป
เพียงหนึ่งนาที ถนนกลับสู่ความว่างเปล่า ผมต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะดึงสติที่ปลิวหลุดลอยให้กลับมาได้ ผมถอนหายใจโล่งอก นายอ้วนก้มลงไปเก็บเศษซากลัญจกร บ่นพึมพำว่าเสียดายของ เมินโหยวผิงเก็บดาบดำ สะพายกระเป๋า หันมามองผมแล้วพูดว่า
“ฉันต้องไปแล้ว”
“ไปไหน” ผมถามทันที ไม่เข้าใจการกระทำของเขาแม้แต่น้อย ไอ้หมอนี่มาหลอกผมเสร็จแล้วก็ไป ทำตัวอย่างกับพวกหลอกแต่งงานแล้ววันรุ่งขึ้นก็ขอหย่า มันจะมากเกินไปแล้ว
“กลับไปทำหน้าที่ของฉัน”
“แล้วที่หลอกฉันมาทั้งหมดคืออะไร” ผมจ้องเขากลับ “จนถึงวินาทีนี้ นายก็ไม่คิดจะพูดความจริงเลยใช่มั้ย”
เมินโหยวผิงไม่ตอบ...ถ้าผมเดินไปกระชากคอเสื้อแล้วบังคับให้เขาบอกความจริงมา เขาจะเอาดาบดำฟาดผมก่อนหรือเปล่า หรือผมควรจะส่งสัญญาณบอกนายอ้วนให้หยิบเชือก ตอนนี้ถึงเวลาจับตัวเขาแล้ว ถึงจะไม่แน่ใจนักว่าถ้าผมกับนายอ้วนช่วยกันแล้วจะจับเขาได้ก็ตาม
ระหว่างที่ลังเลอยู่นั้น ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อ หันไปดูจึงเห็นเสี่ยวฮัวกับนายแว่นดำ พวกเขาสองคนเสื้อผ้าเปื้อนเลือด แต่ยังเดินตัวปลิวท่าทางสบายดี
“นายปลอดภัยใช่มั้ย” เสี่ยวฮัวถามทันทีเมื่อเดินมาถึงตัวผมพร้อมกับใช้มือจับๆสำรวจ
“ถ้าไม่วางใจ ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีก็ได้ ยังไงพวกเราก็จะไปโรงพยาบาลกันอยู่แล้ว” นายแว่นดำกล่าว ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า
ผมเงยหน้าขึ้นมองตาม เห็นเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่บนฟ้า
___________________________________
สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน
ถึงตรงนี้เราคิดว่าเราสามารถ Talk ได้อย่างสบายใจแล้ว ขอบคุณสำหรับการติดตามมาตลอด 13 ตอน...ถึงแม้มันจะงงและสับสนอยู่บ้างแต่ก็ยังทนอ่านกันมาถึงจุดนี้ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
เรื่องนี้เกิดจากความคิดแรกที่อยากให้อู๋เสียความจำเสื่อมบ้าง ปกติเห็นแต่เมินโหยวผิงความจำเสื่อม ถ้าเมินโหยวผิงเป็นฝ่ายถูกลืมบ้าง จะเป็นยังไงนะ...ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
สำหรับเราแล้ว “ความทรงจำ” คือสิ่งที่ยืนยันตัวตน บอกว่าตัวเองเป็นใคร ผ่านอะไรมาบ้าง พบเจออะไรมาบ้าง จึงกลายมาเป็นคนแบบนี้ การที่เราจะเชื่ออะไร หลายครั้งความทรงจำเป็นสิ่งที่ช่วยเราตัดสินใจ
แต่หากไม่มีความทรงจำ ได้แต่ฟังจากคนอื่นว่าเราเป็นคนอย่างนั้นเป็นคนอย่างนี้...จะถือว่าสิ่งที่คนอื่นพูดนั้นเป็นตัวตนของเราได้หรือเปล่า และคำพูดเหล่านั้น เชื่อได้มากน้อยแค่ไหน
เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรจริงอะไรเท็จ ในเมื่อเราไม่รู้เลยสักอย่าง
จนถึงตอนนี้ Lost Memories ใกล้จะถึงจุดที่มันควรจะเป็น คิดว่าหลายคนคงสามารถเดาเรื่องออกหมดแล้วว่าทำไม เพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ แล้วเมินโหยวผิงออกมาได้ยังไง ลัญจกรของอู๋เสียอยูที่ไหน...และสุดท้ายจะจบอย่างไร…
ยังไงก็ตามแต่ ฝากอีกไม่กี่ตอนที่เหลือด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ >___<
MinMin- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 222
Points : 3854
Join date : 28/10/2014
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter14
เราจะติดตามต่ออย่างแน่นอนค่ะ เพราะเรายังเดาเรื่องไม่ออก
ฮ่อลลลลล
แต่ชอบแนวคิดที่ให้อู๋เสียความจำเสื่อมกับเรื่องความทรงจำและตัวตนจริงๆค่ะ
ฮ่อลลลลล
แต่ชอบแนวคิดที่ให้อู๋เสียความจำเสื่อมกับเรื่องความทรงจำและตัวตนจริงๆค่ะ
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3645
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter14
เรายังเดาไม่ออกค่า จริงๆนะ เพราะงั้นเราจะติดตามต่อไปคะ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3841
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter14
หลายคนที่ว่านั่นอยู่ไหนครับ... //หันซ้ายหันขวา
ผมไม่รู้ววววววววววว ง่อวววววว
สรุปว่าลัญจกรในกระเป๋าตอนนู้นนี่มีสองอันใช่หรือเปล่า อ่านแบบเบลอๆ เข้าใจไปเองว่ามีอยู่กับตัวสองอัน เอาของตัวเองเปิดแหกประตูออกมา? แล้วก็แอบตามไปฉกของอู๋เสีย(ตอนไหนที่ไหนก็ไม่รู้ง่ะ) ที่ฟันกระจุยกระจายนั่นคือของอู๋เสีย? นี่เฮียกะไม่ให้นายน้อยรอตัวเองแล้วเร้ออออ
โซ่ โซ่!! อยู่หนายยย เอาโซ่ที่หลอมจากโลหะดำมาล่ามคนใบ้จางด่วน คิดจะมาก็มาคิดจะหายก็หาย ไม่มีคำอธิบายดีๆแม้แต่หนึ่งพารากราฟ ล่ามเดี๋ยวนี้!เข้าสาย S กันเถอะนายน้อย
แง เดามั่วซั่วตอนสติสตังไม่มี ง่วงจะตายอยู่แล้ว แต่คาใจเรื่องนี้จนนอนไม่หลับเบย แง
รอ ร้อ รอ มาอัพตอนใหม่ๆนะคร้าบ โคตรอยากได้เฉลย เฉลยยยยยย เฉลยผมที โอ้ยยย
*ทุบเสี่ยวเกอรัวๆ* รู้ว่าน้อยใจ แต่เอ็งก็ลืมชาวบ้านเขาไปทั่ว โดนลืมมั่งถึงกับน้อยใจหนีเข้าประตูเลยเรอะ
ผมไม่รู้ววววววววววว ง่อวววววว
สรุปว่าลัญจกรในกระเป๋าตอนนู้นนี่มีสองอันใช่หรือเปล่า อ่านแบบเบลอๆ เข้าใจไปเองว่ามีอยู่กับตัวสองอัน เอาของตัวเองเปิดแหกประตูออกมา? แล้วก็แอบตามไปฉกของอู๋เสีย(ตอนไหนที่ไหนก็ไม่รู้ง่ะ) ที่ฟันกระจุยกระจายนั่นคือของอู๋เสีย? นี่เฮียกะไม่ให้นายน้อยรอตัวเองแล้วเร้ออออ
โซ่ โซ่!! อยู่หนายยย เอาโซ่ที่หลอมจากโลหะดำมาล่ามคนใบ้จางด่วน คิดจะมาก็มาคิดจะหายก็หาย ไม่มีคำอธิบายดีๆแม้แต่หนึ่งพารากราฟ ล่ามเดี๋ยวนี้!
แง เดามั่วซั่วตอนสติสตังไม่มี ง่วงจะตายอยู่แล้ว แต่คาใจเรื่องนี้จนนอนไม่หลับเบย แง
รอ ร้อ รอ มาอัพตอนใหม่ๆนะคร้าบ โคตรอยากได้เฉลย เฉลยยยยยย เฉลยผมที โอ้ยยย
*ทุบเสี่ยวเกอรัวๆ* รู้ว่าน้อยใจ แต่เอ็งก็ลืมชาวบ้านเขาไปทั่ว โดนลืมมั่งถึงกับน้อยใจหนีเข้าประตูเลยเรอะ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3859
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter14
เดี๋ยวๆ ที่บอกว่ามีหลายคนที่เดาออกนั้นคาดว่าจะไม่ใช่เค้าแล้วล่ะ ทางนี้ยังไม่รู้อะไรเลย ฮอยยยย ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงหนอ อยากรู้ๆ
poypoy- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 105
Points : 3586
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านตระกูลอู๋ ใต้เตียงนายน้อยสาม
Similar topics
» Lost Memories [ผิงเสีย] Lost Stories + ลิงค์สั่งจองฟิคค่ะ
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter17
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter6
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter11
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter17
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter5
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter6
» [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter11
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth