[Trans] 016 Presume (สันนิษฐาน) #ตอนพิเศษ 2015

[anurakbeer]

หายใจไม่ออก นี่เป็นอีกครั้งหลังจากทิเบต ที่ผมรู้สึกถึงอันตรายและแรงกดดันที่มองไม่เห็น นึกถึงตระกูลของผมที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้แรงกดดันนี้ตลอดเวลา ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาตอนตั้งชื่อให้ผมได้เป็นอย่างดี
สาวน้อยยังถามผมอีก "แล้วปู่ฉันหายไปไหนล่ะ"
ผมจับไหล่เธอ "ฉันจะถามคำถามเธอสองสามข้อ สถานการณ์ตอนนี้ แย่กว่าที่เธอคิด ดังนั้นเธอต้องตอบคำถามพวกนี้ตามความจริง"
เธอจะดิ้นหนี ช่างเป็นเด็กน้อยที่ดื้อรั้น แต่ผมจับไว้แน่นมาก

"ปู่เธอ หายตัวไปเมื่อไหร่"
"สองเดือนก่อน" เธอแสดงสีหน้าไม่ชอบใจที่ถูกสัมผัสตัว
"ตกลง เธอฟังให้ดีนะ ภาพแผนผังนี้แสดงถึงความลับที่ซับซ้อน เหตุที่มันยังอยู่บนผนัง ไม่ถูกใครลบทิ้ง แสดงว่าหลังจากลู่ส่าตายแล้ว ไม่เคยมีคนในตระกูลของเขามาที่นี่ ปู่ของเธอฝีมือร้ายกาจมาก สถานที่ที่เขาออกแบบ คนพวกนั้นไม่กล้าบุกเข้ามา"
"ของมันแน่อยู่แล้ว"
"วิธีการทำงานของพวกเขารอบคอบมาก วิธีที่ดีที่สุดก็คือจับตัวปู่เธอไว้ ให้ปู่เธอบอกวิธีแก้กลไกของที่นี่ เรามาลองสมมติเหตุการณ์ทั้งหมดดู เริ่มจาก ผ่านไปนานหลายปี ปู่เธอกลับเข้ามาในนี้แล้วเจอศพของลู่ส่ากับภาพวาดเหล่านี้บนผนัง เขาจัดการกับศพของลู่ส่า นั่นคือความผิดพลาดอย่างแรกของเขา ต้องเป็นเพราะความผิดพลาดนี้ ทำให้พวกนั้นเจอตัวปู่เธอ ศพของลู่ส่าที่ปรากฏตัวขึ้นบนโลกอีกครั้ง ดึงดูดผู้คนคณะนั้นมา ทำให้ปู่เธอถูกจับ"

หญิงสาวมองผม ผมพูดต่อไปว่า "ฉันยังจำที่เธอบอกได้ ว่าเธอไปจากที่นี่ไม่ได้ ต้องให้ฉันเป็นฝ่ายมาหาถูกไหม นี่ไม่ใช่คำโกหกทั้งหมด ข้อความครึ่งหลังนั้นเพื่อถ่วงเวลาฉัน แต่ข้อความครึ่งหน้าเป็นเรื่องจริงของเธอ เธอเข้ามาในนี้เพื่อตามหาปู่ แต่ปู่ของเธอดัดแปลงแก้ไขที่นี่ ทำให้เมื่อเธอเข้ามาถึง พบว่าโครงสร้างดั้งเดิมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว" ผมมองเธอ "เธอออกไปไม่ได้แล้ว ถูกต้องไหม"

แววตาที่เธอมองผม เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาด ไม่ใช่ยอมรับ แต่เป็นสงสัยและขัดขืน

"ไม่ใช่ เธอไม่ใช่กลับออกไปไม่ได้ เธอออกไปได้" ผมจ้องตาเธอ ประมวลผลว่าคำพูดของผมถูกหรือผิด นี่เป็นสิ่งที่หัดมาจากหมอดู

"เธอไม่ใช่ไม่กล้าออกไป ปู่ของเธอทิ้งคำเตือนถึงเธอในนี้ ครั้งสุดท้ายที่ปู่เธอเข้ามาในนี้ พบว่าตัวเองถูกจับตามองแล้ว เขาขังตัวเองอยู่ในนี้นานมาก สุดท้ายก็ตัดสินใจออกไปสะสาง แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวถูกจับตัว เขารู้ว่าเมื่อเขาเกิดเรื่องเธอต้องตามหาตัวเขา จึงทิ้งเบาะแสไว้ให้เธอภายในนี้ เมื่อเธอเข้ามา เห็นคำบอกใบ้ รู้ว่าตัวเองก็ออกไปก็ต้องถูกจับเหมือนกัน จึงทำตัวไม่ถูก"

หญิงสาวขอบตาแดงแล้ว ผมถามต่อไปว่า "คำใบ้ที่ปู่ของเธอทิ้งไว้ให้คืออะไร"

"ปู่ฉันบอกว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร จงมอบภาพเหล่านี้ให้กับคนที่ชื่ออู๋เสีย"

ผมควักบุหรี่ออกมา จุดให้กับตัวเองมือสั่น

"ปู่ฉันยังบอกอีกว่า ถ้าฉันออกไปจากที่นี่ ก็จะถูกจับ ฉันจึงต้องหาทางเอาเอง" หญิงสาวน้ำตาร่วงลงมาแล้ว "ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี ปู่ฉันไม่ได้บอกวิธีกับฉัน เขาเหมือนกับไม่สนใจความเป็นความตายของฉันเลยสักนิด ต้องการรับผิดชอบต่อตัวคุณเท่านั้น หรือว่าคุณจะเป็นลูกนอกสมรสของเขา"

"อย่านับญาติกันตามใจชอบ" ผมนึกในใจ

เจ็ดนิ้วรู้เรื่องผมขนาดนี้ ผมพลันเกิดความรู้สึกว่า เจ็ดนิ้วอาจไม่ใช่คนแปลกหน้า เจ็ดนิ้วเป็นคนที่ผมรู้จัก

ภายในผนังห้องบันได เกิดเสียงลากดึงโซ่ตรวนดังเป็นชุด ผมมองไปทางทิศที่มาของเสียงอย่างเย็นชา ไล่เบี้ยคำถามนี้ในตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

"พวกเขาจะทำร้ายปู่ฉันไหม" หญิงสาวกำสองมือแน่น ลูบคลำแผลเป็นบนมือ
"ไม่หรอก พวกเขาจะเค้นถามปู่เธอ ถึงวิธีเข้ามาในนี้โดยปลอดภัย แต่ปู่เธอน่าจะเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว คนพวกนี้น่าจะถูกปู่เธอลวงเข้าไปในที่ที่เธอเรียกมันว่า 'ชั้นใน' พวกเสียงที่เธอได้ยิน น่าจะเป็นเสียงการเคลื่อนไหวของพวกนั้น" ผมกล่าว เรื่องเหล่านี้หญิงสาวต้องรู้อยู่แล้ว ตอนที่เธอได้ยินเสียง มีความหวาดกลัว แต่ไม่ตื่นตกใจ

นี่เป็นเงื่อนตายเงื่อนหนึ่ง เจ็ดนิ้วหาวิธีแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ออกไปเมื่อไหร่ก็ต้องถูกจับ หมายความว่าจะแจ้งข่าวกับหลานสาวตัวเองไม่ได้ และไม่อาจเตรียมการอื่นใด เขารู้ว่าหลานสาวตัวเองต้องพลาดท่าเหมือนตน สิ่งเดียวที่ทำได้คือเขียนรายละเอียดทั้งหมดออกมา เขาสิ้นหวังมาก แต่หญิงสาวคนนี้กลับทำในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ การที่ผมมายังสถานที่นี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

"ปู่เธออาจเชื่อมั่นในตัวเธอมาก" ผมกล่าว "เธอชื่ออะไร"
"ฉันชื่อถังซ่ง" เธอตอบ
"ถังซ่ง เธอทำอะไรลงไป ถึงได้ล่อฉันมาที่นี่"
"ฉันไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น" ถังซ่งกล่าว "ฉันส่งข้อความถึงปู่ บอกว่า 'ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นข้อความนี้ ฉันเจอโครงสร้างภายในประตูสำริด พาอู๋เสียลงมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะลบภาพพวกนี้ทิ้งให้หมด'"

ผมจ้องเธอปากอ้าตาถลน นี่คือการเจรจากับอีกฝ่าย ข่มขู่อีกฝ่ายโดยตรง


Talk :

ปล่อยของใหม่โบ้มๆ แล้วเมื่อไหร่จะได้ย้อนกลับไปแปลตอนเก่าล่ะ (006 ยังไม่มีคนแปลเลย)
มีคนสงสัย Timeline ของตอนพิเศษนี้ ผมพิจารณาดูแล้ว คิดว่าก็ตรงตามชื่อน่ะครับ "ตอนพิเศษ 2015" คือเหตุการณ์ล่าสุดเลย ผ่านทิเบต ผ่านซาไห่มาแล้วทั้งนั้น

"จับไหล่เธอ" ในต้นฉบับใช้ 勾 (โกว) ตรงตัวคือการเกี่ยว คล้อง หรืออาจจะเป็นเกาะ ผมยังมองภาพไม่ออก ในภาษาไทยแสดงถึงท่ากอดคอ เกาะไหล่ ไม่น่าตรงความหมาย จึงใช้ "จับ" ไปนะ

私生子 (ซือเซิงจื่อ) =ลูกที่ไปเกิดเอง
私 หมายถึงส่วนตัว ส่วนบุคคล ตัวเอง แปลตามฟีลของบริบท (แต่ก็ดูหนักเกินไปหน่อย) คือ 'ไปไข่ทิ้งไว้' สุดท้ายก็ใช้ศัพท์ทางการๆ อย่าง "ลูกนอกสมรส" นะครับ

ในเรื่องเรียก "สถานที่นี้" บางทีก็ใช้ "屋" (ห้อง) บางทีก็ใช้ "房" (บ้าน) นี่ผมยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาอยู่ไหนกันแน่ (ไม่ได้ตามมาตั้งแต่ 001)

ก็ติดตามกันต่อไป

เพิ่มเติม จากที่นายน้อยกล่าวถึงเรื่องการตั้งชื่อของตน

ชื่อของ อู๋เสีย เขียนว่า 吴邪
"อู๋" เป็นแซ่ตามปกติ คือแซ่โง้วในภาษาแต้จิ๋ว
ส่วนเสีย 邪 คือความชั่วร้าย เป็นตัวเดียวกันกับ "ตงเสีย 东邪 = 'มาร' บูรพา" ในเรื่องมังกรหยก

ทั้งนี้อู๋ ยังมีคำพ้องเสียงที่เขียนอีกแบบว่า = 无 แปลว่า "ไร้" หรือ "ไม่มีอยู่" ซึ่งพอเขียนอู๋เสียเป็นแบบใหม่ ก็จะได้ความหมายของ "ไม่มีความชั่วร้าย"
สำนวนจีนมีคำสามัญคำหนึ่งว่า 天真无邪 เทียนเจินอู๋เสีย คือบริสุทธิ์ไร้เดียงสา (ไร้ความชั่วร้าย) นายอ้วนนำคำนี้มาสวม จนกลายเป็นอีกหนึ่งฉายาอู๋เสียไป ทั้งนี้ในเรื่องมีแต่นายอ้วนที่เรียก และเสี่ยวฮัวที่ไม่รู้มาเนียนเรียกได้ยังไง

[feyralin]

นายน้อยคะ!! กุมอก หัวใจเต้นแรงมาก  

พอมีเวลาให้คิดแล้วนายน้อยดูใจเย็นขึ้นนะคะ ไม่ใช่เอะอะก็เสี่ยวเกอๆๆแล้ว ชอบตอนค่อยๆรุกถามสาวน้อยมากอะ ต่อหน้าลูกน้องเถ้าแก่อู๋ก็คงอยู่ในมาดนี้ นี่คงเป็นจุดแข็งที่พัฒนาขึ้นจากเวลาที่ผ่านมาสินะ ทำไงดีหลงรักมากขึ้นอีกแล้ว

เอาจริงๆถึงจะพัฒนาสกิลต่อสู้มาแค่ไหน แต่ในเมื่อเครื่องในไม่รับ สู้ลับความสามารถในการมโนยามวิกฤติ แค่ก--คิดวิเคราะห์ให้เฉียบคมขึ้น จะเป็นประโยชน์กับพวกไม่ได้รู้แล้วจะดิ้นตายแบบนายน้อยมากกว่าเนอะ

ชอบความหมายของชื่อด้วย มันเหมาะมากกกกก นายน้อยมากกกก เทียนเจินมากกกกก นี่นานๆทีจะชมมากกว่าแซะนะคะเนี่ย 5555 #เพ้อเยอะพอๆ

ขอบคุณคุณเบียร์สำหรับแปลค่ะ เห็นสกรีมเรื่องงานทุกวันแต่ก็ยังแปลลงให้ด้วงอ่าน ขอกราบกราน m(_  _)m

[Duke_of_Florence]

อู๋เสียดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะคะ รู้จักคิดวิเคราะห์สถานการณ์และเยือกเย็นขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

เรื่องชักจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว กลุ่มคณะที่จับตัวเจ็ดนิ้วปู่ของถังซ่งเป็นกลุ่มอำนาจไหนกันแน่

ยังบอกไม่ถูกว่าชอบแม่หนูคนนี้หรือเปล่า แต่สัมผัสได้ถึงความบ้าบิ่นแบบแปลกๆจากตัวเธอ ว่าแต่ชื่อถังซ่งนี่ชวนให้นึกถึงพวกราชวงศ์ถังราชวงศ์ซ่งอะไรทำนองนั้นเลย

หายงงเรื่องช่วงเวลาของตอนพิเศษนี้ซักที ขอบคุณคุณเบียร์ที่ให้ความกระจ่างค่ะ

รอติดตามกันต่อไป ประมุขปล่อยตอนใหม่ออกมาอีกแล้ว

[Roon]

...มีดิฉันคนเดียวรึเปล่าที่สัมผัสได้ถึง 'ซัมติง' ระหว่างปู่เจ็ดนิ้วกับนายน้อย *คุณเบียร์อย่าตีด้วง!*

ชีวิตหลานปู่ไม่ยุ่ง ปู่มุ่งแต่อู๋เสีย เอื้อออออ ขอสูดหายใจแรงๆ กับ "ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร จงมอบภาพเหล่านี้ให้กับคนที่ชื่ออู๋เสีย" << เฮือกกกกก อ่านไปหัวใจกระตุกกก นายน้อยเนื้อหอมอีกแล้ว แงงง ใครๆ ก็มุ่งแต่อู๋เสียยยยย

แต่อู๋เสียมุ่งแต่ประตูสำริด T 7 T!!!

เรื่องราวยังงงวยและงุนงง ตกลงนี่มันตอนพิเศษเซอร์วิสรึว่าภาคต่อกันแน่หาาา อยากจะเขย่าคอประมุข และคลานเข่าไปกราบขุ่นเบียร์งามๆ อีกรอบ ด้วงหายเฉาแล้วข่ะ

ปล.ออฟฟิศเชี่ยลไม่มา แต่คุณเบียร์เปิดประเด็นเรือรองซะงั้น ที่คุณชายเรียกเทียนเจินนี่ได้ยินมารึคิดเองคะะะ แงงงงงง ฮัวเสียมากก ระดับนี้คิดเองชัวร์ อย่าไปแกล้งเขามากค่ะคุณช้ายยยยยยยย เห็นพัฒนาแล้วแต่เขายังเทียนเจินเหมือนเดิมนะค้าาา ; 7 ;

[cronflag]

ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับคำแปลมากค่ะ

เห็นได้ชัดเลยว่านายน้อยโตขึ้น ใจเย็นขึ้น เป็นนายน้อยที่ดีค่ะ
เขินกับนายน้อยเวลาใช้หมองมาก ตอนนี้ก็มีเรื่องมาให้คิดต่ออีกแล้ว ซับซ้อนจริงๆ

[fasai777]

ความรู้ใหม่ที่ได้จากคุณเบียร์วันนี้คือความหมายชัดๆของชื่อนายน้อย ช่างเหมาะสมที่สุดในโลกล้า เออ จะว่าไปเราก็เป็นเหมือนคุณเบียร์ว่ามา คืออ่านๆมานี่ยังนึกภาพสถานที่ลึกลับแห่งนี้ไม่ออกเลย ในหัวคิดเอาว่ามันมีห้องวกวนมีบันไดมืดๆอับๆ555 ขอบคุณจะคะที่ทั้งแปลอย่างละเอียดแถมมีเกล็ดความรู้ให้เข้าใจเพิ่มเติมด้วย เริ่ดดดดดดดดดดดด

[Evan_tear]

ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านนะคะ // เข้ามาส่องทุกวันเลย

แบบว่าตอนพิเศษนี้เห็นการเติบโตของนายน้อยเลยค่ะ โตขึ้นเยอะแต่ยังไงก็ยังเป็น นายน้อยอยู่ดี แต่ดูใจเย็นขึ้น ไม่สติแตกง่ายเฉยๆ

ปล. จะรอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ

[Yuwadee Wana]

ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านนะคะ

แอบดีใจที่ได้รู้ที่มาของชื่อนายน้อย
เรื่องราวเข้มข้นขึ้นทุกทีแล้วววว

[Starsong]

ขอบคุณคุณเบียร์สำหรับคำแปลอีกครั้งค่า

พอเสี่ยวฮัวไม่อยู่ด้วยนายน้อยก็กลับมาเท่ได้อีกครั้ง ฮูเร่~~
คิดได้เอง วิเคราะห์สถานการเอง เจรจาเอง มาดนิ่ง สุขุม เยือกเย็นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นโขเลย เก่งแล้วนะคะเนี่ย
เถ้าแก้อู๋เจ๋งค่า

แต่ชื่อของอู๋เสียแปลตามอักษรจริงๆคือความชั่วร้าย?? สงสัยจังว่าใครเป็นคนตั้งชื่อให้เนี่ย? หรือว่าคุณปู่?
นึกถึงอาๆที่เรียกว่าเสี่ยวเสียนี่ให้อารมมารร้ายตัวน้อยยังไงไม่รู้เนอะคะ พอแปลออกมาแบบนี้แล้วรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดูแบบแปลกๆ >___< <3 สมัยเด็กๆนายน้อยคงป่วนน่าดู (ด้วงเริ่มมโน--)
แต่พอเสี่ยอ้วนมาเรียกว่าเทียนเจินนี่ความหมายพลิกจากดำเป็นขาวเลย ก็เทียนเจินก็เหมาะกับนายน้อยมากกว่านี่นา~
ส่วนที่เสี่ยวฮัวรู้ได้ไง เราคิดว่าได้ยินจากที่นายอ้วนเรียกมั้งคะ คนอื่นๆก็คงได้ยินเหมือนกันแต่ไม่ได้เอามาเรียกตาม (ก็นายอ้วนก็เรียกเป็นปกติ ไม่ได้เก็บไว้เรียกกัน 2 คนไรนี้ซักหน่อยนี่นา~~ //เดี๋ยวก่อน!! อย่าเพิ่งอ้วนเสียแถวนี้นะ---)

[SilverCloud]

ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอบคุณคุณเบียร์ที่แปลมาให้อ่านมากเลยนะคะ

มาภาคนี้ดูเหมือนนายน้อยจะวิเคราะห์ได้เป็นเหตุเป็นผลขึ้นนะคะไม่มโนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมดูจะเยือกเย็นขึ้นด้วย (ได้ข่าวตอนก่อนๆก็ยังมโนอยู่เลย ฟฟฟฟ)

[scuroluce]

นายน้อยเท้เท่ >w<

เดี๋ยวนี้รู้จักรุกสาว ใจเย็น คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังน่ารักสำหรับด้วงเสมออออ

[hnee]

ขอบคุณสำหรับคำแปลชื่ออาเสียค่ะ มันมีลูกเล่นเช่นนี้เอง อาเสียเริ่มคิดวิเคราะห์ได้มากขึ้นแล้วกับสถานการณ์ตอนนี้ อีกไม่นานเราอาจจะได้เข้าใกล้ความจริงสักที

ปล.เสี่ยวฮัวนั่นเนียนได้เรื่อยแหละทุกเรื่อง หุหุๆๆๆ

[Rozenkreuz]

จริงด้วย พอเกิดสถานการณ์คับขันขึ้นมาแล้วสุขุมหล่อขึ้นกว่า80% เลยอ่ะนายน้อย!
ชื่อของอู๋เสียมีความเป็นมาลึกซึ้งนะเนี่ย

[arshura09]

ดูเหมือนระยะเวลาสิบปี
เทียนเจินอู๋เสียจะร้ายกาจขึ้นในเรื่องของประสบการณ์การวิเคราะห์เหตุการณ์ไปเสียแล้ว
แข็งแกร่งและมองขาดถึงเรื่องราวที่ซ่อนไว้ได้อย่างเฉียบขาด
สมแล้วที่อาสามมองไว้เป็นทายาท
แต่งานนี้ดูจะมีสิ่งที่เหนือกว่าจะคาดเดาได้อยู่อีกหลายสิ่ง
ทำไมเจ็ดนิ้วถึงต้องกลับลงมาจัดการศพลู่ส่า
และทำไมคนกลุ่มนั้นถึงต้องจับตัวเจ็ดนิ่วไป
และปมสุดท้ายที่ต้องลากดึงอู๋เสียเข้ามาด้วย
จนแม่หนูน้อยผู้ต้องการความปลอดภัยของตัวเอง
ยอมใช้วิธีขู่กรรโชกอีกฝ่ายให้นำอู๋เสียมาให้
งานนี้เสี่ยวฮัวมีเอี่ยวกับฝ่ายนั้นแน่ๆ
ดีไม่ดี อาสามอาจเป็นตัวตั้งตัวตี
มารอดูกันสิว่า นายน้อยสามจะจัดการเรื่องทั้งหมดนี้อย่างไร