Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] #dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ) [ผิงเสีย]
3 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] #dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ) [ผิงเสีย]
Title : ความทรงจำ
Fandom : 盗墓笔记 [บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน]
Pairing : เมินโหยวผิง x อู๋เสีย [ผิงเสีย]
Rate : PG
#dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ)
ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝัน
เพราะภาพตรงหน้า ไม่น่าจะมีทางเกิดขึ้นได้
เหลืออีก219วัน ที่ผมจะได้พบกับหมอนั่น และ...ไม่ใช่ที่แบบนี้
“เฮ้ย! เทียนเจิน นายเหม่ออะไรวะ? รีบวิ่งเข้าสิ เดี๋ยวฝูงบ๊ะจ่างก็ตามมาทันหรอก” บ๊ะจ่างบ้านบิดาเอ็งสิครับ ผมจำได้ว่าตัวเองนั่งอยู่ในร้านที่หังโจวแท้ๆ เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องตรงหน้านี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เรื่องที่ผมกำลังลงกรวยอยู่กับเมินโหยวผิงและนายอ้วนเนี่ย!!
จำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรทำหรือเรียกง่ายๆว่าว่างเกินไป ผมเลยไปเอนหลังนอนสบายๆอยู่หลังร้าน ทิ้งหน้าร้านให้หวังเหมิงรับผิดชอบ ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเจ้าลูกจ้างจอมขี้เกียจอย่างมันจะไม่มีอะไรทำเหมือนกันก็ตาม
แล้วตอนนั้นเองที่นายอ้วนก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เขาเพิ่งกลับมาจากปาหน่ายได้สามเดือนแล้วเทียวไปเทียวมาระหว่างปักกิ่งกับหังโจว พอผมถามเขาว่ามีอะไรทำไมรีบอย่างนั้น เขาก็พูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้วลากผมออกจากร้านไป สถานที่ที่เขาลากผมมาก็ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกลเลย บ้านผมเอง นายจะลงทุนไปลากฉันที่ร้านเพื่อกลับมาบ้านทำไมกันเนี่ย เดี๋ยวห้าโมงเย็นผมปิดร้านแล้วก็ต้องกลับมาอยู่ดี พอผมพูดแล้วส่ายหัวปลงๆเขาก็บอกว่านี่เรื่องใหญ่ รอถึงห้าโมงไม่ได้หรอก จนผมสงสัยว่ามันมีอะไนักหนาถึงต้องรีบขนาดนี้
“มีพัสดุส่งมาถึงนาย” ปกติแล้วคงต้องลงที่ร้าน แต่คราวนี้เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบได้มันถึงมาลงที่บ้านผม แค่พัสดุห่อเดียวทำให้นายอ้วนถึงกับต้องวิ่งไปตามผมนี่มันทะแม่งๆอยู่นะ
“พัสดุอะไร? ทำไมนายต้องวิ่งหน้าตั้งขนาดนั้นด้—“ ผมพูดยังไม่จบประโยคดี คำพูดที่เหลือก็ถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อพบว่า ชื่อของใครคนหนึ่งจ่าอยู่หน้ากล่อง
จางฉี่หลิง
สถานที่ส่งคือมณฑลจี๋หลิน ใกล้กับฉางไป๋ซาน... ไม่ผิดแน่ แต่วันที่ฝากส่งคือวันนี้ของเมื่อเก้าปีก่อน
นายจะบอกอะไรฉันกันแน่เมินโหยวผิง
พอเปิดกล่องก็พบกล่องไม้ใบเล็กอีกหนึ่งใบ ไม่ใส่กุญแจเอาไว้และเมื่อเปิดออก ผมและนายอ้วนก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
ในกล่องนั้นคือสร้อยคอโมราที่คั่นด้วยหินประการัง ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดมันถูกฝังร่วมอยู่ในโลงของจางฉี่หลิงคนหนึ่งที่เราพบในหอบ้านสกุลจาง ผมเป็นคนหยิบออกมาเองแต่จำไม่ได้ว่าทำหล่นหายที่ไหน หรือว่านายเมินโหยวผิงจะเก็บได้ ไม่สิ เขาคงเห็นในกระเป๋าผมแล้วหยิบไป แต่ทำไมถึงต้องส่งกลับมาให้ผมด้วยล่ะ นี่ก็สมบัติของตระกูลเขาแท้ๆ
“น้องเสี่ยวเกอส่งอะไรมาให้น่ะ?” นายอ้วนยื่นหน้ามาดูเมื่อเห็นผมเปิดกล่องแล้วเงียบไป ทำให้ผมได้สติแล้วเห็นกระดาษอีกใบหนึ่งใต้สร้อย มีเพียงข้อความสั้นๆประโยคเดียวแต่เขียนด้วยลายมือของหมอนั่นไม่ผิดแน่
ฉันพอใจแล้วกับสิบปีที่ต้องแลกให้นาย จางฉี่หลิง
ทันทีที่อ่านข้อความนั้นจบ สร้อยหินก็เรืองแสงสีขาวแล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีก
ดังนั้นเมื่อเดาจากเศษข้อมูลที่ผ่านๆมา ผมอาจจะสรุปได้คำเดียวสั้นๆว่า ผมกำลังฝัน
แต่มันจะเพิ่มฟังชั่นHDไปมั้ย? ในเมื่อผมกำลังเจอบ๊ะจ่างฝูงใหญ่วิ่งไล่หลังอยู่!!
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!” ผมสบถอย่างเกรี้ยวกราด ส่วนนายอ้วนกล่าวคำสรรเสริญบรรพบุรุษบ๊ะจ่างพวกนั้น เรายังคงวิ่งไม่หยุดไปตามทางดินที่ขรุขระ โดยมีคนใบ้บางคนวิ่งนำหน้าและเขายังคงไม่พูดอะไรออกมาซักคำ
นายเรือพ่วงหันหน้ามามองผมเล็กน้อยทำให้จังหวะการวิ่งของผมชะงัก แต่ก่อนที่ผมจะหน้าทิ่มแล้วทำให้นายอ้วนที่วิ่งตามหลังมาเสียจังหวะไปอีกคน เมินโหยวผิงหรือจางฉี่หลิงก็หิ้วคอเสื้อผมยกขึ้นพาดบ่าแล้วออกวิ่งอีกครั้ง
เพราะสัมผัสนั้นเอง ทำให้ผมเริ่มตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ฝัน
ความร้อนและแรงสั่นสะเทือนที่สัมผัสได้ผ่านเสื้อผ้า ความอบอุ่นของผิวกาย ตอนนี้หมอนั่นกำลังอยู่ต่อหน้าผม
นายคนน่าเบื่อจอมหายตัวอันดับหนึง่ของโลกคนนั้นกำลังแบกผมวิ่งอยู่
“เสี่ยวเกอ...” พอพึมพำเรียกเขา ผมก็พลันรู้สึกว่าน้ำตาตัวเองจะไหล ทำไมกัน ทั้งๆที่ทนมาได้ตั้งเก้าปีแล้วแท้ๆ อีกแค่สองร้อยกว่าวันเท่านั้นเอง แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมกัน ดูเหมือนนายอ้วนที่วิ่งตามมานั้นจะไม่ใช่นายอ้วนที่อยู่กับผมตอนเปิดกล่อง เพราะเขาแทบไม่พูดอะไรเกี่ยวกับการหายตัวไปของจางฉี่หลิงเลย เท่ากับว่ามีผมคนเดียวที่รู้เรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้
“มีอะไร?” ผมสะดุ้งเมื่อเขาตอบกลับมา เมื่อกี้ได้ยินที่พูดงั้นหรือ ปกติจะเงียบไม่ตอบแท้ๆ แล้วไหงคราวนี้ถึงได้ตอบกลับมากันเล่า!
“ที่นี่ที่ไหน?” เพราะไม่รู้จะถามอะไรกลบเกลื่อน เลยถามคำถามสิ้นคิดไป ผมรับรู้ได้ว่าเสี่ยวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนที่ปรายตามามองผม แต่ก็ยังตอบให้
“ทางใต้ดินของตำหนักลู่หวังเจ็ดดารา” สั้น กระชับแต่ได้ใจความ ผมนึกออกในทันที ว่าเมื่อหลายปีก่อนผมก็เคยว่าวิ่งวนอยู่ในนี้ แล้วทำไม...
“อู๋เสีย?” ไม่บ่อยนักที่เขาจะเรียกชื่อผม แถมครั้งนี้ยังเรียกด้วยความสงสัย พวกเราเข้ามาในห้องหินห้องหนึ่งที่คล้ายคลึงกับห้องเก็บสมบัติ คล้ายคลึงกับห้องที่ผมเจอนายอ้วนหวัง เมินโหยวผิงก็พุ่งตัวออกไปที่ผนังผมจึงมองเห็นลวดลายที่แกะสลักเอาไว้ภายใต้แสงไฟสลัวจากไฟฉายเหมือง
ผมกำลังอยู่ในความทรงจำของตัวเองหรอ?
พอเงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะถามให้แน่ใจ ทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไป
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เทียนเจิน! ตื่นสิว้อย! ถ้านายยังไม่ตื่นเสี่ยอ้วนกับน้องเสี่ยวเกอจะทิ้งนายไว้ที่นี้ให้ผีแม่ย่ามาจับไม่แต่งงานด้วยแล้วนะ!” พอได้ยินคำว่าผีแม่ย่าผมก็สะดุ้งพรวด เบื้องหน้าคือสุสานใต้ทะเลซีซาของหวังฉางไห่ ผม นายอ้วนและเมินโหยวผิงกำลังหาทางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีถังออกซิเจน
จากนั้นผมก็ยังเห็นอีกหลายที่ ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่เราทั้งสามคนรวมตัวกันแล้วเกิดเรื่องต่างๆขึ้นมากมาย วังงูในเมืองปิศาจ ตำหนักเจ้าแม่ซีหวังหมู่ หินอุกกาบาตที่เสี่ยวเกอเข้าไปแล้วออกมาความจำเสื่อม จากนั้นก็ไปปาหน่าย ตามหาความทรงจำของเขา เจอหอบ้านสกุลจาง และสุดท้าย...
หน้าประตูสำริด สถานที่ที่เขาบอกลาผม...
“เทียนเจิน! เทียนเจิน! แย่แล้ว! เสี่ยอ้วนความจะทำยังไงดี? เทียนเจินตื่นสิโว้ย!” ได้ยินเสียงพึมพำเหมือนคนสติแตกอยู่ข้างๆหู ผมทนไม่ไหวจึงลืมตาขึ้นดูเล็กน้อย พบว่าเป็นนายอ้วนหวัง และสถานที่คือบ้านผมเอง
กลับมาแล้ว?
สมองยังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน นายอ้วนเข้ามาเขย่าตัวผมอย่างแรงเรียกสติ ผมจึงปัดมือเขาออกเบาๆแล้วบอกว่าไม่เป็นไร เขาเลยบอกว่าเย็นแล้วจะออกไปซื้อของทำกับข้าวพอผมพยักหน้าให้เขาก็ออกไปแต่ยังมิวายหันหน้ามาดูด้วยความเป็นห่วง พอผมดูเวลาก็พบว่าผมสลบไปเกือบสี่ชั่วโมงเลยทีเดียว
สี่ชั่วโมง แต่ย้อนความทรงจำตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้พบกัน จนกระทั่งนายมาบอกลาคิดแค่นั้นน้ำตาผมก็พาลจะไหล จากนั้นจึงได้รู้ว่าผมกำอะไรอยู่ในมือเสียแน่น
สร้อยหินโมราเส้นนั้น สีของมันขุ่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เห็น ผมขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจ แต่ก็วางมันลงบนโต๊ะเบาๆแล้วหยิบกล่องไม้มาดู
บนฝากล่อง ถูกสลักด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษง่ายๆไม่กี่คำ แต่มันทำให้ผมตัวชา
Please forget me not (ได้โปรดอย่าลืมฉัน)
จางฉี่หลิง เมินโหยวผิง นายมันคนเห็นแก่ตัว...
ผมหลับตาแล้วพยายามนึกหน้าหมอนั่นตอนที่ผมเดินไปส่งเขาที่ฉางไป๋ซาน สีหน้านั้นคือคนที่คิดจะทิ้งแล้วทุกสิ่งอย่างและหันหลังให้โลก แต่...
ผมรู้
เส้นด้ายเส้นสุดท้ายที่ยึดเขาเอาไว้กับโลกก็คือผมเอง
เพราะงั้น ผมจะไม่มีวันลืมเขาเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม...
Back scene
“แบบนี้มันเข้าหัวข้อตรงไหนเนี่ยเทียนเจิน?”
“ก็ฉันโดนย้อนเวลากลับไปในความทรงจำตัวเองไง”
“แล้วเสี่ยอ้วนล่ะ?”
“นาย...ก็ ได้เห็นสร้อยด้วยเหมือนกันไง”
“แบบนี้เสี่ยอ้วนก็เป็นส่วนเกินของพวกนายน่ะสิ!!!”
โอ๋ๆนะคะเสี่ยอ้วน รักเสี่ยนะ //ขย้ำพุง แต่คิดมุกให้เสี่ยมิได้เลยตัดทิ้ง (ฮา)
Talk: จะเล่นๆหลายทีแล้วไม่ได้เล่นซักที เจอหัวข้อวันนี้เลยได้เวลาจัด อาจจะไม่ว่างเล่นทุกวันแต่จะหาโอกาสมาเล่นค่ะ
มานับถอยหลังสู่ฉางไป๋ซานด้วยกันค่ะ >w<////
Fandom : 盗墓笔记 [บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน]
Pairing : เมินโหยวผิง x อู๋เสีย [ผิงเสีย]
Rate : PG
#dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ)
ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝัน
เพราะภาพตรงหน้า ไม่น่าจะมีทางเกิดขึ้นได้
เหลืออีก219วัน ที่ผมจะได้พบกับหมอนั่น และ...ไม่ใช่ที่แบบนี้
“เฮ้ย! เทียนเจิน นายเหม่ออะไรวะ? รีบวิ่งเข้าสิ เดี๋ยวฝูงบ๊ะจ่างก็ตามมาทันหรอก” บ๊ะจ่างบ้านบิดาเอ็งสิครับ ผมจำได้ว่าตัวเองนั่งอยู่ในร้านที่หังโจวแท้ๆ เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องตรงหน้านี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เรื่องที่ผมกำลังลงกรวยอยู่กับเมินโหยวผิงและนายอ้วนเนี่ย!!
จำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรทำหรือเรียกง่ายๆว่าว่างเกินไป ผมเลยไปเอนหลังนอนสบายๆอยู่หลังร้าน ทิ้งหน้าร้านให้หวังเหมิงรับผิดชอบ ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเจ้าลูกจ้างจอมขี้เกียจอย่างมันจะไม่มีอะไรทำเหมือนกันก็ตาม
แล้วตอนนั้นเองที่นายอ้วนก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เขาเพิ่งกลับมาจากปาหน่ายได้สามเดือนแล้วเทียวไปเทียวมาระหว่างปักกิ่งกับหังโจว พอผมถามเขาว่ามีอะไรทำไมรีบอย่างนั้น เขาก็พูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้วลากผมออกจากร้านไป สถานที่ที่เขาลากผมมาก็ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกลเลย บ้านผมเอง นายจะลงทุนไปลากฉันที่ร้านเพื่อกลับมาบ้านทำไมกันเนี่ย เดี๋ยวห้าโมงเย็นผมปิดร้านแล้วก็ต้องกลับมาอยู่ดี พอผมพูดแล้วส่ายหัวปลงๆเขาก็บอกว่านี่เรื่องใหญ่ รอถึงห้าโมงไม่ได้หรอก จนผมสงสัยว่ามันมีอะไนักหนาถึงต้องรีบขนาดนี้
“มีพัสดุส่งมาถึงนาย” ปกติแล้วคงต้องลงที่ร้าน แต่คราวนี้เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบได้มันถึงมาลงที่บ้านผม แค่พัสดุห่อเดียวทำให้นายอ้วนถึงกับต้องวิ่งไปตามผมนี่มันทะแม่งๆอยู่นะ
“พัสดุอะไร? ทำไมนายต้องวิ่งหน้าตั้งขนาดนั้นด้—“ ผมพูดยังไม่จบประโยคดี คำพูดที่เหลือก็ถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อพบว่า ชื่อของใครคนหนึ่งจ่าอยู่หน้ากล่อง
จางฉี่หลิง
สถานที่ส่งคือมณฑลจี๋หลิน ใกล้กับฉางไป๋ซาน... ไม่ผิดแน่ แต่วันที่ฝากส่งคือวันนี้ของเมื่อเก้าปีก่อน
นายจะบอกอะไรฉันกันแน่เมินโหยวผิง
พอเปิดกล่องก็พบกล่องไม้ใบเล็กอีกหนึ่งใบ ไม่ใส่กุญแจเอาไว้และเมื่อเปิดออก ผมและนายอ้วนก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
ในกล่องนั้นคือสร้อยคอโมราที่คั่นด้วยหินประการัง ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดมันถูกฝังร่วมอยู่ในโลงของจางฉี่หลิงคนหนึ่งที่เราพบในหอบ้านสกุลจาง ผมเป็นคนหยิบออกมาเองแต่จำไม่ได้ว่าทำหล่นหายที่ไหน หรือว่านายเมินโหยวผิงจะเก็บได้ ไม่สิ เขาคงเห็นในกระเป๋าผมแล้วหยิบไป แต่ทำไมถึงต้องส่งกลับมาให้ผมด้วยล่ะ นี่ก็สมบัติของตระกูลเขาแท้ๆ
“น้องเสี่ยวเกอส่งอะไรมาให้น่ะ?” นายอ้วนยื่นหน้ามาดูเมื่อเห็นผมเปิดกล่องแล้วเงียบไป ทำให้ผมได้สติแล้วเห็นกระดาษอีกใบหนึ่งใต้สร้อย มีเพียงข้อความสั้นๆประโยคเดียวแต่เขียนด้วยลายมือของหมอนั่นไม่ผิดแน่
ฉันพอใจแล้วกับสิบปีที่ต้องแลกให้นาย จางฉี่หลิง
ทันทีที่อ่านข้อความนั้นจบ สร้อยหินก็เรืองแสงสีขาวแล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีก
ดังนั้นเมื่อเดาจากเศษข้อมูลที่ผ่านๆมา ผมอาจจะสรุปได้คำเดียวสั้นๆว่า ผมกำลังฝัน
แต่มันจะเพิ่มฟังชั่นHDไปมั้ย? ในเมื่อผมกำลังเจอบ๊ะจ่างฝูงใหญ่วิ่งไล่หลังอยู่!!
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!” ผมสบถอย่างเกรี้ยวกราด ส่วนนายอ้วนกล่าวคำสรรเสริญบรรพบุรุษบ๊ะจ่างพวกนั้น เรายังคงวิ่งไม่หยุดไปตามทางดินที่ขรุขระ โดยมีคนใบ้บางคนวิ่งนำหน้าและเขายังคงไม่พูดอะไรออกมาซักคำ
นายเรือพ่วงหันหน้ามามองผมเล็กน้อยทำให้จังหวะการวิ่งของผมชะงัก แต่ก่อนที่ผมจะหน้าทิ่มแล้วทำให้นายอ้วนที่วิ่งตามหลังมาเสียจังหวะไปอีกคน เมินโหยวผิงหรือจางฉี่หลิงก็หิ้วคอเสื้อผมยกขึ้นพาดบ่าแล้วออกวิ่งอีกครั้ง
เพราะสัมผัสนั้นเอง ทำให้ผมเริ่มตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ฝัน
ความร้อนและแรงสั่นสะเทือนที่สัมผัสได้ผ่านเสื้อผ้า ความอบอุ่นของผิวกาย ตอนนี้หมอนั่นกำลังอยู่ต่อหน้าผม
นายคนน่าเบื่อจอมหายตัวอันดับหนึง่ของโลกคนนั้นกำลังแบกผมวิ่งอยู่
“เสี่ยวเกอ...” พอพึมพำเรียกเขา ผมก็พลันรู้สึกว่าน้ำตาตัวเองจะไหล ทำไมกัน ทั้งๆที่ทนมาได้ตั้งเก้าปีแล้วแท้ๆ อีกแค่สองร้อยกว่าวันเท่านั้นเอง แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมกัน ดูเหมือนนายอ้วนที่วิ่งตามมานั้นจะไม่ใช่นายอ้วนที่อยู่กับผมตอนเปิดกล่อง เพราะเขาแทบไม่พูดอะไรเกี่ยวกับการหายตัวไปของจางฉี่หลิงเลย เท่ากับว่ามีผมคนเดียวที่รู้เรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้
“มีอะไร?” ผมสะดุ้งเมื่อเขาตอบกลับมา เมื่อกี้ได้ยินที่พูดงั้นหรือ ปกติจะเงียบไม่ตอบแท้ๆ แล้วไหงคราวนี้ถึงได้ตอบกลับมากันเล่า!
“ที่นี่ที่ไหน?” เพราะไม่รู้จะถามอะไรกลบเกลื่อน เลยถามคำถามสิ้นคิดไป ผมรับรู้ได้ว่าเสี่ยวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนที่ปรายตามามองผม แต่ก็ยังตอบให้
“ทางใต้ดินของตำหนักลู่หวังเจ็ดดารา” สั้น กระชับแต่ได้ใจความ ผมนึกออกในทันที ว่าเมื่อหลายปีก่อนผมก็เคยว่าวิ่งวนอยู่ในนี้ แล้วทำไม...
“อู๋เสีย?” ไม่บ่อยนักที่เขาจะเรียกชื่อผม แถมครั้งนี้ยังเรียกด้วยความสงสัย พวกเราเข้ามาในห้องหินห้องหนึ่งที่คล้ายคลึงกับห้องเก็บสมบัติ คล้ายคลึงกับห้องที่ผมเจอนายอ้วนหวัง เมินโหยวผิงก็พุ่งตัวออกไปที่ผนังผมจึงมองเห็นลวดลายที่แกะสลักเอาไว้ภายใต้แสงไฟสลัวจากไฟฉายเหมือง
ผมกำลังอยู่ในความทรงจำของตัวเองหรอ?
พอเงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะถามให้แน่ใจ ทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไป
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เทียนเจิน! ตื่นสิว้อย! ถ้านายยังไม่ตื่นเสี่ยอ้วนกับน้องเสี่ยวเกอจะทิ้งนายไว้ที่นี้ให้ผีแม่ย่ามาจับไม่แต่งงานด้วยแล้วนะ!” พอได้ยินคำว่าผีแม่ย่าผมก็สะดุ้งพรวด เบื้องหน้าคือสุสานใต้ทะเลซีซาของหวังฉางไห่ ผม นายอ้วนและเมินโหยวผิงกำลังหาทางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีถังออกซิเจน
จากนั้นผมก็ยังเห็นอีกหลายที่ ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่เราทั้งสามคนรวมตัวกันแล้วเกิดเรื่องต่างๆขึ้นมากมาย วังงูในเมืองปิศาจ ตำหนักเจ้าแม่ซีหวังหมู่ หินอุกกาบาตที่เสี่ยวเกอเข้าไปแล้วออกมาความจำเสื่อม จากนั้นก็ไปปาหน่าย ตามหาความทรงจำของเขา เจอหอบ้านสกุลจาง และสุดท้าย...
หน้าประตูสำริด สถานที่ที่เขาบอกลาผม...
“เทียนเจิน! เทียนเจิน! แย่แล้ว! เสี่ยอ้วนความจะทำยังไงดี? เทียนเจินตื่นสิโว้ย!” ได้ยินเสียงพึมพำเหมือนคนสติแตกอยู่ข้างๆหู ผมทนไม่ไหวจึงลืมตาขึ้นดูเล็กน้อย พบว่าเป็นนายอ้วนหวัง และสถานที่คือบ้านผมเอง
กลับมาแล้ว?
สมองยังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน นายอ้วนเข้ามาเขย่าตัวผมอย่างแรงเรียกสติ ผมจึงปัดมือเขาออกเบาๆแล้วบอกว่าไม่เป็นไร เขาเลยบอกว่าเย็นแล้วจะออกไปซื้อของทำกับข้าวพอผมพยักหน้าให้เขาก็ออกไปแต่ยังมิวายหันหน้ามาดูด้วยความเป็นห่วง พอผมดูเวลาก็พบว่าผมสลบไปเกือบสี่ชั่วโมงเลยทีเดียว
สี่ชั่วโมง แต่ย้อนความทรงจำตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้พบกัน จนกระทั่งนายมาบอกลาคิดแค่นั้นน้ำตาผมก็พาลจะไหล จากนั้นจึงได้รู้ว่าผมกำอะไรอยู่ในมือเสียแน่น
สร้อยหินโมราเส้นนั้น สีของมันขุ่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เห็น ผมขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจ แต่ก็วางมันลงบนโต๊ะเบาๆแล้วหยิบกล่องไม้มาดู
บนฝากล่อง ถูกสลักด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษง่ายๆไม่กี่คำ แต่มันทำให้ผมตัวชา
Please forget me not (ได้โปรดอย่าลืมฉัน)
จางฉี่หลิง เมินโหยวผิง นายมันคนเห็นแก่ตัว...
ผมหลับตาแล้วพยายามนึกหน้าหมอนั่นตอนที่ผมเดินไปส่งเขาที่ฉางไป๋ซาน สีหน้านั้นคือคนที่คิดจะทิ้งแล้วทุกสิ่งอย่างและหันหลังให้โลก แต่...
ผมรู้
เส้นด้ายเส้นสุดท้ายที่ยึดเขาเอาไว้กับโลกก็คือผมเอง
เพราะงั้น ผมจะไม่มีวันลืมเขาเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม...
Back scene
“แบบนี้มันเข้าหัวข้อตรงไหนเนี่ยเทียนเจิน?”
“ก็ฉันโดนย้อนเวลากลับไปในความทรงจำตัวเองไง”
“แล้วเสี่ยอ้วนล่ะ?”
“นาย...ก็ ได้เห็นสร้อยด้วยเหมือนกันไง”
“แบบนี้เสี่ยอ้วนก็เป็นส่วนเกินของพวกนายน่ะสิ!!!”
โอ๋ๆนะคะเสี่ยอ้วน รักเสี่ยนะ //ขย้ำพุง แต่คิดมุกให้เสี่ยมิได้เลยตัดทิ้ง (ฮา)
Talk: จะเล่นๆหลายทีแล้วไม่ได้เล่นซักที เจอหัวข้อวันนี้เลยได้เวลาจัด อาจจะไม่ว่างเล่นทุกวันแต่จะหาโอกาสมาเล่นค่ะ
มานับถอยหลังสู่ฉางไป๋ซานด้วยกันค่ะ >w<////
แก้ไขล่าสุดโดย natsume เมื่อ Sun 11 Jan 2015, 15:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง
natsume- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 97
Points : 3521
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน
Re: [OS] #dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ) [ผิงเสีย]
โฮรลลลลลล เสี่ยวเกอ นายมันคนร้ายกาจ!!!
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3943
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [OS] #dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ) [ผิงเสีย]
เสี่ยไม่ร้องๆ เรารักเสี่ยนะคะ (กอดพุงนิ่มๆ นุ่มๆ)
เสี่ยวเกอแม่ม ถ้าจะไปก็อย่าทำแบบนี้เลย
ให้เราเฉาตายไปเองดีกว่ามานั่งรับรู้ว่าในอดีตเราเคยทำอะไรด้วยกันมา
แค้นๆๆๆๆๆ
เสี่ยวเกอแม่ม ถ้าจะไปก็อย่าทำแบบนี้เลย
ให้เราเฉาตายไปเองดีกว่ามานั่งรับรู้ว่าในอดีตเราเคยทำอะไรด้วยกันมา
แค้นๆๆๆๆๆ
faliona01- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 261
Points : 3748
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ
Re: [OS] #dmbjdaily 219 days left : Time Machine (ความทรงจำ) [ผิงเสีย]
Feran.FS พิมพ์ว่า:โฮรลลลลลล เสี่ยวเกอ นายมันคนร้ายกาจ!!!
ร้ายกาจจริงๆค่ะ =w=" นายเมินแม่มร้ายเงียบ (หยาบคาย) 55555555555
faliona01 พิมพ์ว่า:เสี่ยไม่ร้องๆ เรารักเสี่ยนะคะ (กอดพุงนิ่มๆ นุ่มๆ)
เสี่ยวเกอแม่ม ถ้าจะไปก็อย่าทำแบบนี้เลย
ให้เราเฉาตายไปเองดีกว่ามานั่งรับรู้ว่าในอดีตเราเคยทำอะไรด้วยกันมา
แค้นๆๆๆๆๆ
มีแต่คนรักเสี่ยเนอะ (เลยโดนเเซะบ่อย) 5555555
จากมุมมองของเรา คนที่ทำอะไรเพื่อเราโดยไม่ถามความเห็นนี่น่าถีบมากๆค่ะ =w="
เพราะคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังนี่เหมือนโดนฆ่าตายทั้งเป็น
เมินโหยวผิง นายมันร้ายกาจจจจ
natsume- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 97
Points : 3521
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน
Similar topics
» [OS] #dmbjdaily 59 days left (Left) ตำแหน่งสำคัญ [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 30 days left : Alone [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (Time Machine) Not any more [ฮัวเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (Time Machine) วิธีที่ใช้ในการมอง [ฮัวเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 'Time machine' (หยางเสีย :: อู๋เสีย + เหลาหย่าง)
» [OS] #dmbjdaily 30 days left : Alone [ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (Time Machine) Not any more [ฮัวเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily (Time Machine) วิธีที่ใช้ในการมอง [ฮัวเสีย]
» [OS] #dmbjdaily 'Time machine' (หยางเสีย :: อู๋เสีย + เหลาหย่าง)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth