Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Now and Forever (ผิงเสีย)

4 posters

Go down

[OS] Now and Forever (ผิงเสีย) Empty [OS] Now and Forever (ผิงเสีย)

ตั้งหัวข้อ by momin Thu 25 Dec 2014, 23:21

Now and Forever






25 Dec. 14




ผมแหงนหน้ามองนาฬิกาที่แขนวอยู่บนผนังร้านที่ตอนนี้ชี้บอกเวลาเกือบจะสี่โมงครึ่งแล้ว ผมรวบเอกสารทั้งหมดไว้บนโต๊ะและเก็บของลงลิ้นชักด้วยความรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นสะพายกระเป๋าคู่ใจ




“จะไปไหนครับเจ้านาย?...” หวังเหมิงที่เห็นท่าทางรีบร้อนของผมก็ทำหน้าตกใจ ถึงแม้ตอนนี้ฝีมือของเขาจะดีขึ้นจนผมวางใจให้ดูแลเรื่องทั้งหมดของร้านแล้ว แต่เขาก็ยังมีท่าทีหวาดระแวง คงเพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้าผมออกจากร้านไปนาน แถมพอกลับมาตามตัวยังเต็มไปด้วยรอยแผลจนเหมือนคนเอาชีวิตไปทิ้ง




“คริสต์มาสทั้งที เลิกร้านเร็วหน่อย นายเองก็อยากไปเที่ยวกับแฟนใช่มั้ยละ?...” พอพูดถึงเรื่องแฟนหวังเหมิงก็หน้าแดงขึ้นมาทันที




“นายก็กลับได้แล้ว ฝากปิดร้านให้ด้วยนะ...”




ผมโยนกุญแจให้หวังเหมิงแล้วก็เดินตัวปลิวออกจากร้านไปทันที หลายปีมานี่ การทำงานต่างๆ แทนอาสามช่างเหนื่อยและลำบากสำหรับผมมาก ยิ่งช่วงแรกๆ ถ้าไม่ได้นายอ้วนและเสี่ยวฮัวคอยช่วยเหลือ ผมคงทำกิจการนี้ล้มไม่เป็นท่าไปแล้วแน่ๆ




พอนึกถึงสองคนนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์แล้วกดส่งข้อความอวยพรวันคริสต์มาสส่งไปให้ และรอสักพักไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมาจากเสี่ยวฮัว ส่วนนายอ้วนน่ะเหรอ รายนั้นชอบโทรมากกว่าการต้องการนั่งกดแป้นพิมพ์ทีละตัว




ก่อนจะถึงบ้านผมแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของเตรียมอาหารเย็น ผมซื้อผัก เนื้อหมูและของจำเป็นอีกสองสามอย่างเพื่อทำหม้อไฟกินเย็นนี้ อากาศหนาวขนาดนี้หม้อไฟเหมาะที่สุดแล้ว




เมื่อเดินออกจากซุปเปอร์มาเก็ตผมรู้สึกชาที่หน้าทันที อากาศที่เย็นเฉียบขนาดที่เสื้อโค้ทก็แทบจะเอาไม่อยู่ทำให้ผมอยากรีบๆ กลับบ้านไปซุกอยู่ใต้ผ้าห่มนวมหนาๆ แล้วเปิดฮีตเตอร์อุ่นๆ พร้อมกับจิบกาแฟร้อนไปด้วย ว่าแล้วผมก็รีบออกแรงในการเดินมากขึ้น ไม่สนใจสองข้างทางที่ตอนนี้ประดับไปด้วยข้าวของต่างๆ สีขาวแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้




เมื่อมาถึงบ้าน อันที่จริงจะเรียกว่าเป็นบ้านของผมก็ไม่ถูกนัก เพราะจริงๆ แล้วบ้านหลังนี้คือบ้านของอาสาม แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผมจึงสบโอกาสขอออกมาอยู่บ้างนอก เถียงกับเตี่ยอยู่นานจนอารองต้องเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยและลงท้ายก็มาอยู่ที่บ้านอาสามหลังนี้ ส่วนบ้านหลังอื่นที่อยู่ในละแวกเดียวกันก็เริ่มมีคนมาเช่าอาศัยมากขึ้น จึงไม่กลายเป็นเมืองร้างอีกต่อไป




ผมเข้าบ้านมาแล้ววางของไว้ที่โต๊ะในห้องครัว แล้วกลับออกมาถอดเสื้อโค้ทวางไว้ที่โซฟา เดินไปเร่งฮีตเตอร์ที่มุมห้องขึ้นอีกหน่อยก่อนจะเข้าห้องครัวไปเตรียมอาหารเย็น หยิบผักออกมาล้างและหั่นจัดเรียงลงหม้ออย่างสวยงาม พร้อมกับเคี่ยวซุปกระดูกหมูสูตรคุณแม่ จะว่าไปแล้วผมเองก็มีฝีมือด้านการทำอาหารพอสมควรเลยละ เสียแต่ว่าไม่ค่อยชอบที่จะลงมือทำ แต่วันนี้พิเศษหน่อยก็เลยช่วยไม่ได้
























“ทำอะไรอยู่น่ะ?...”




ขณะที่ผมกำลังตั้งใจกับการเป็นพ่อครัวหัวป่าอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังทำเอาตกใจจนเกือบจะทำทัพพีในมือหล่นซะแล้ว




หลังจากที่ผ่านมาสิบปี ผมทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้คือการพาตัวเขาออกมาจากประตูสำริด ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนแทบไม่น่าเชื่อ และตอนนี้เมินโหยวผิงหรือจางฉี่หลิงคนนั้นก็มาอยู่ตรงหน้า มาอยู่อยู่กับผมแล้ว




“มาไม่ให้สุ่มให้เสียงฉันตกใจหมดนะเฟ้ย...แล้วมองไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังทำอาหารอยู่...” ผมพูดอย่างอารมณ์เสียที่ถูกทำให้ตกใจ แต่เจ้าคนตัวการท่าจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย ยังทำหน้านิ่งเป็นหินสลักอยู่เหมือนเดิม ผมทำหน้าไม่พอใจก่อนจะหันหลังกลับไปทำอาหารต่อ




“ฉันขอโทษ...” เสียงทุ้มต่ำกระซิบที่ข้างหูก่อนที่เขาจะซบลงที่ไหล่ของผม มือของเขาเอื้อมมากอดเอวผมไว้หลวมๆ ทำท่าทางเหมือนกำลังสำนึกผิดอยู่ยังไงยังงั้น




“ปล่อยก่อน ฉันทำอาหารอยู่...” ผมพูดติดรำคาญเล็กน้อยก่อนจะพยายามแงะมือเขาที่ตอนนี้เพิ่มแรงกอดมากขึ้น และแน่นอนว่าผมสู้แรงของหมอนี่ไม่ได้




“ปล่อยฉันก่อน เสี่ยวเกอ...”




ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงแต่แรงกอดรัดที่เพิ่มขึ้นจนผมแทบจะหายใจไม่ออก ผมถอนหายใจอย่างปลงๆ ปิดเตาแก๊สเพื่อความปลอดภัย แล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา ดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมาอย่างไม่วางตาทำเอาหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะทุกที




“เป็นอะไรของนาย ไม่พูดไม่จาแบบนี้แล้วฉันจะรู้เรื่องมั้ย?...”แต่พอผมถามเขาก็หลบตา หันหน้าไปมองทางอื่นทันที ทำเอาผมแทบจะของขึ้น




“เสี่ยวเกอ...” ผมเรียกเขาอีกครั้ง ไอ้มนุษย์หน้านิ่งนี่ ทั้งที่กอดผมอยู่แท้ๆ แต่กลับไม่มองหน้ากันเลย ให้ตายสิ




“อู๋เสีย คือฉัน...” เขาเรียกผมเสียงเบา ท่าทางดูไม่ค่อยมีความมั่นใจแบบนั้นถ้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าหมอนี่เป็นถึงเจ้าบ้านสกุลจางคนปัจจุบัน




เมินโหยวผิงทำหน้าลังเลอยู่ชั่วครู่ แค่ชั่วครู่เท่านั้น ก่อนที่เขาจะหยิบอะไรบางอย่างยัดใส่มือผมอย่างรวดเร็วและกอดผมเอาไว้แน่น ความรู้สึกอุ่นและนุ่มในมือทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ













“สุขสันต์วันศริสต์มาส...”




เมินโหยวผิงกระซิบที่ข้างหูผมเสียงเบา ผมมองของในมือที่เป็นถุงเท้าสีฟ้าอ่อนอย่างสับสนเพราะกำลังประมวลข้อมูลอยู่




วันนี้วันที่ 25 ธันวาคม

วันนี้เป็นวันศริสต์มาส




ใช่แล้ววันคริสต์มาส...แต่ว่า หมอนี่รู้ได้ไง




“นายรู้ได้ไง?...” ผมถามออกไปอย่างที่คิด เพราะคนที่สกิลการใช้ชีวิตบนดินติดลบระดับเก้าอย่างหมอนี่ไม่มีทางจะสนใจแน่ๆ ว่าวันนี้เป็นอะไรและมีความสำคัญอย่างไร




“นายอ้วน...”




“นายอ้วน?...” ผมทวนคำตอบของเขาอย่างงงๆ นายอ้วนมาเกี่ยวอะไรด้วยละเนี้ย




“หมอนั่นโทรมาที่บ้าน...บอกว่าวันนี้ถ้าซื้อถุงเท้าให้เป็นของขวัญแล้วจะโชคดี...”




ผมแทบจะหลุดหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ฟังจบ นายอ้วนนะนายอ้วน ชอบสอนอะไรผิดๆ ถูกๆ แบบนี้ คนที่ลำบากนั่นมันฉันจะโว้ย




“งั้นเหรอ...ขอบใจมากนะ...” ผมลูบหัวเมินโหยวผิงที่ซบไหล่อยู่เบาๆ ถึงแม้จะมีอะไรเข้าใจผิดไปบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรเลยสักนิด เพราะคนที่ไม่ถนัดการใช้ชีวิตบนดินอย่างหมอนี่ถึงขั้นลงทุนออกไปหาซื้อถุงเท้ามาให้ผมทั้งที่ไม่ได้พบเจอโลกภายนอกมาเป็นสิบปี เพียงเท่านี้มันก็แสดงให้ผมเห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างแล้ว




ผมดันตัวเขาออกเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าและยิ้มให้ ถึงแม้ใบหน้าจะนิ่งขรึมเช่นเดิม หากแต่ดวงตาของเขากลับส่อแววไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำอย่างเห็นได้ชัด




ดูแล้วก็น่ารักดี




“ขอบคุณสำหรับของขวัญ...แต่ฉันไม่มีอะไรให้นายเลย...”




“แค่นั้นก็พอแล้ว...” เมินโหยวผิงยิ้มน้อยๆ ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่นานๆ ทีจะได้เห็น




“แต่ว่า...” ผมยังเถียง




“นายทำเพื่อฉันมามากพอแล้วอู๋เสีย...ขอบคุณที่ไปรับฉัน และขอบคุณที่ไม่ลืมฉัน...”




เขาพูดเสียงเบาก่อนจะจูบผมเบาๆ และผละออกไป  เราต่างจ้องตากันและกัน ราวกับจะส่งผ่านเรื่องราวตลอดสิบปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่เราไม่ได้พบเจอกันแต่กลับคิดถึงกันอยู่ตลอด ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้าย ความเจ็บปวดมากมาย หากแต่ก็ไม่เคยจะถอดใจเลย ผมนึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ล้มเลิกอะไรไปกลางคัน เพราะสุดท้าย ผลที่ได้รับมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม




“งั้นฉันขออะไรนายสักอย่างได้มั้ย เสี่ยวเกอ...” คำตอบของเขาก็คือการพยักหน้าเบาๆ ผมยิ้มออกมาก่อนจะเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย แล้วกระซิบที่ข้างหูเขา









“อย่าทิ้งฉันไปอีกนะ...”




ไม่มีคำพูดตอบรับจากเมินโหยวผิง มีเพียงแค่แรงโอบรัดจากอ้อมกอดที่แน่นขึ้น และความอุ่นจากริมฝีปากที่ทาบทับลงมา เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม เพราะนั่นหมายความได้ว่า




เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป









Now and Forever [End]




แงงงงงงงงงงงงงงงงง
เป็นฟิคที่(เหมือนจะ)ถูกมัดมือชกให้เขียนจากเวย์จัง เลยออกมามึนๆ งงๆ เบลอๆ เยี่ยงนี่แหละฮะ
ถ้าไม่ดีหรือไม่ถูกใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะฮะ T^T
สุขสันต์วันศริสต์มาสนะฮะ มีความสุขมากๆ และอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะฮะ


ด้วยรักจากแต้งค์และผิงเสีย
momin
momin
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 12
Points : 3493
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Now and Forever (ผิงเสีย) Empty Re: [OS] Now and Forever (ผิงเสีย)

ตั้งหัวข้อ by ryu77 Fri 26 Dec 2014, 01:24

ซีรีย์เหมือนชีวิตประจำวันของคู่ข้าวใหม่ปลามันเลยค่ะ
ฉากโอบเอวงี้ จูบงี้
เขินตายเลยค่าาาาา >////<

เมอร์รี่ คริสมาสนะคะ!
ryu77
ryu77
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 64
Points : 3545
Join date : 01/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Now and Forever (ผิงเสีย) Empty Re: [OS] Now and Forever (ผิงเสีย)

ตั้งหัวข้อ by Narakas Fri 26 Dec 2014, 01:36

โอ๊ยยย หวานนน
เหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันจริงๆ ค่ะ แอร๊ยยยยย
Narakas
Narakas
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 263
Points : 3846
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Now and Forever (ผิงเสีย) Empty Re: [OS] Now and Forever (ผิงเสีย)

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Fri 26 Dec 2014, 19:24

หวานนนน อบอุ่นจนหายหนาวกันเลยทีเดียว ฟฟฟฟ นายน้อยเป็นแม่บ้านเต็มตัวแล้วสินะคะ ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เสี่ยวเกอก็อย่าหายไปไหนอีกนะ
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3945
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ