Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

+9
Amzinas
Dreamy
Tang_An-An
Duke_of_Florence
Narakas
SilverCloud
karnalone
casey
faliona01
13 posters

Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Mon 15 Dec 2014, 01:05

title : Mafia and police ยิงแม่มเลย!!! ล่า รัก สุดขอบฟ้า

rate : NC 18

parring : ผิงเสีย

หมายเหตุ : เอาเวลาแต่งเรื่องอื่นมาลง one short เนี้ยนะ ฮะฮะฮะ
เขาว่ากันว่า แนวที่อยากอ่านถ้าไม่มี ก็แต่งมันขึ้นมาซะ!

ขอให้คนที่หลงเข้ามาอ่าน มีความสุขกันเยอะๆนะคะ!!!!
อ่านจบแล้ว อย่าเอาช้อนมาตีคนแต่งนะคะ XD

==================================================

“หยุด! นี้คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนวางอาวุธลงซะ!!”

เสียงประกาศพร้อมอาวุธปืนถูกชักขึ้นมาตั้งอยู่ระดับสายตา กลุ่มคนในเครื่องแบบบุกเข้ามายังโกดังร้างแห่งหนึ่งแถวน่านน้ำฝั่งตะวันตก เขตแดนของกลุ่มนายทุนธุรกิจมืดกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทางการจับหางได้และมีคำสั่งลงมาให้ทุบทำลายโกดังค้าของเถื่อนแห่งนี้

ผมอู๋เสีย เจ้าหน้าที่ทางการระดับ 1 ของกรมตำรวจ ตามจริงก็ไม่อยากจะยืดความยาวโชว์เรื่องของตัวเอง แต่ผมเป็นถึงสายลับของตำรวจโลกเชียวนะ!

“บุก! บุก! บุก! ค้นให้ทั่ว ยึดของกลางให้หมด ใครขัดขืนอนุญาตให้ใช้อาวุธได้ทันที”

คำสั่งถ่ายทอดออกมาพร้อมๆตำรวจในชุดเกราะและโล่กันกระสุนถยอยเข้ามาจับกุมคนในโกดัง ผมตั้งอาวุธค่อยๆเล็งไปที่ละส่วนด้านหลังมีนายแว่นดำคอยเป็นคู่หูคุ้มกันประกบอีกคน

“หมอบ! หมอบลงไป! ห้ามลุกหรือเงยหน้าขึ้นมา หมอบลงไป!!”

เสียงตำรวจหลายนายออกคำสั่งจากเบื้องหลัง พวกผม 2 คนค่อยๆผ่านหลักฐานสินค้าของกลางไปทีละจุด แน่นอนว่ารวดเร็วและว่องไวอย่างยิ่งในการยึดของกลางครั้งนี้  

หลบมาเรื่อยๆจนถึงส่วนท้ายที่ไร้ผู้คน บันไดเหล็กขึ้นสนิทสีแดงซีดถอดยาวไปอีกชั้น ผมหันมาผยักหน้าให้นายแว่นดำซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามเป็นการเข้าใจกัน ผมตั้งปืนในระดับไหล่เรียงแถวตอนลึกมีนายแว่นประกบหลังเดินเรียบชิดกำแพง ก่อนจะพบประตูเหล็กขึ้นสนิท

‘นายเปิดประตู’ ผมส่งสัญญาณนิ้วให้นายแว่นดำเป็นคนเปิด ปืนในมือกระชับแน่น รู้สึกตื้นเต้นจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา นายแว่นเอื่อมมือจับกลอนประตูเหงื่อใสๆผุดขึ้นเล็กน้อยตรงขมับก่อนจะทำหน้าตกใจ

“อู๋เสีย! ประตูเปิดไม่ออก!” เฮยเสียจื่อพูดเสียงเบาอย่างแตกตื่น

“ชิบหายละ เอาไงดีวะ” ผมเลียริมฝีปาก คนที่พวกผมตามจับอยู่นี้อาจจะอยู่ข้างบน

“ก็ไม่รู้อะนะ แต่ฉันแค่กำลังจะบอกว่าที่ประตูมันเปิดไม่ออก” นายแว่นยิ้ม ส่วนผมทำหน้างง “เพราะมันเป็นประตูเลื่อนวะ”

สัส!

ประตูถูกกระชากเปิดอย่างแรง ผมพุ่งชาร์ตออกไปทันทีด้วยความรวดเร็ว กลิ้งหลบพร้อมมองซ้ายขวาสะบัดปืนไปตามทิศทางก่อนจะพบว่าที่ๆผมยืนอยู่เป็นลานโล่งกว้างไม่มีสิ่งกีดขวางแม้แต่น้อย ข้างหน้าผมหากมองดูจะเห็นผืนน้ำสีดำบ่งบอกว่าโกดังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ท่าเรือสินค้าแห่งหนึ่ง แน่นอน! อย่างผิดกฎหมายละนะ

“อู๋เสีย! ข้างบน!!”

นายแว่นดำร้องด้วยความตกใจพร้อมๆกับพุ่งออกมาจากประตู หอบตัวผมกลิ้งหลบไปอีกทาง เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นจากด้านบนแฉล็บหัวผมไปนิดเดียวอย่างที่ผมไม่รู้ตัว

ผมตวัดหน้าหันไปมอง ตาลุกวาวแทบจะจุดไฟออกมา เบื้องหน้าผมไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนักค้าโลกมืดอันดับ 1 ของโลก ที่ผมร่วมมือกับทางการตามจับเขามาเกือบ 3 ปีเต็มแล้ว

จางฉี่หลิงหรือนักธุรกิจหนุ่มจากจีนแผ่นดินใหญ่ผู้ขึ้นชื่อด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ เบื้องหน้าเปิดโรงพยาบาลเอกชนและบริษัทผลิตเครื่องประดับ ส่วนเบื้องหลังคอยเอาเงินดำมาฝอกให้กลายเป็นเงินขาวผ่านทางโรงพยาบาลเอกชนและบริษัทในเครือตนเอง ยังไม่นับเรื่องค้าขายอาวุธผิดกฎหมาย ทองคำแท่งมูลค่ามหาศาล รวมถึงธุรกิจค้าทาสข้ามชาติและอื่นๆนับไม่ถ้วนจนขึ้นแบล๊คลิสของกรมตำรวจ เป็นจอมวายร้ายอันดับ 1 ที่ไม่มีใครตามจับได้เสียที

“ไอ้บัดสบจางฉี่หลิง ไอ้ลูกหมาเอ๊ย!!” ผมด่าลั่นยิงปืนสวนกลับไปแต่กลับไม่โดนเขาสักนัดเดียว

เส้นผมพลิ้วตามแรงลม ตัวผมกลิ้งล้มลุกไปกับพื้นคอยหลบลูกกระสุนที่ถูกปล่อยออกมาไม่หยุด ลูกปืนจากจางฉี่หลิงค่อยๆถูกยิงออกมาไล่บี้ผมกับเฮยเสียจื่อไปจนถึงริมขอบลานโล่ง

เบื้องหน้าผมเป็นผืนน้ำสีดำสนิทส่องประกายสีเงินแผ่วจางสะท้อนแสงจันทร์ส่วนเบื้องหลังเป็นพญามัจจุราชในชุดสูทถือปืนพก .44 แม็กนั่ม เสริมรังปืนบรรจุลูกกระสุนเป็นออฟชั่นเสริม

“จางฉี่หลิง! นายเลิกเล่นสนุกกับสุนัขทางการแล้วไสตูดมานั่งคอปเตอร์มันจะดีกว่าไหม?”

ผมหันหลังไปมองแทบจะอ้าปากค้างพร้อมๆกับเฮยเสียจื่อที่ถึงกับผิวปากยามได้ยินเสียงของชายอีกคน ปืน .44 แม็กนั่มค่อยๆลดการ์ดลง ตามมาด้วยชายอีกคนในชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพูค่อยๆก้าวออกมาในระดับสายตา มือเนียนนุ่มถือปืนออกมารับพร้อมบอดี้การ์ดอาวุธครบมือคุ้มกันกาย

เบื้องหน้าผมคือสุดยอดนักโทษหมายจับ 2 คน ไม่มีอะไรจะสุดยอดไปมากกว่านี้แล้ว…

จางฉี่หลิงและเซี่ยอวี่เฉิน สุดยอดนักโทษคดีหมายจับผู้มีค่าหัวสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ คนหนึ่งเป็นเจ้าพ่อค้าอาวุธเถื่อนและทองคำ อีกคนเป็นเจ้าพ่อค้าทาสและสถานเริงรมย์ ไม่มีอะไรจะสุดยอดไปมากกว่านี้แล้ว

“ว๊าว… วันนี้เราได้พบคุณชายคนงามแห่งปักกิ่งด้วยละ!” เฮยเสี่ยจื่อยิ้มหยอกเย้า

สิ้นคำพูดลูกกระสุนก็ถูกยิงออกมา 1 นัด เพียงแต่เฮยเสี่ยจื่อกลับเอี่ยวหัวหลบเหมือนรู้เส้นทางปืน

“ดุไม่เปลี่ยน” ตามด้วยเสียงหัวเราะที่ผมแทบเหลือกตา

“ถ้านายยังไม่หุบปาก รอบนี้ฉันมั่นใจว่าไม่พลาดแน่” ปืนสีเงินยกโบกไปมาในอากาศ พร้อมๆกับเหล่าบอดี้การ์ด 5 คน ถือปืนเล็งลงมา

“คราวนี้นับว่าพวกฉันพลาดทำให้พวกนายสาวมาถึงนี้ได้ ถือว่าของกลางพวกนี้เป็นรางวัลที่นาย 2 คน ตามจับพวกฉันมาไม่ได้ตลอด 3 ปี แล้วกัน ไม่สิ! 3 ปีกับอีกครึ่งหนึ่งสินะ!” เจ้าตัวยักไหล่ถอนหายใจมองพวกผมยิ้มๆ

“พูดดีไป… เซี่ยอวี่เฉิน อย่าลืมว่าพวกเรายังมีคนมาด้วยอีก” ผมกัดฟันตอบเส้นเลือดแทบขึ้นหน้า

เสียงหัวเราะกวนประสาทดังเยาะเย้ยผมกัดฟันแน่นต่างจากเฮยเสียจื่อที่ยิ้มร่าต่อปากต่อคำได้อยู่นิดหน่อย บอดี้การ์ดคนหนึ่งยกมือเชิญให้จางฉี่หลิงขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทางด้านหลังพร้อมๆกับเซี่ยอวี่เฉินที่โบกมือลายิ้มแย้มอย่างสดใสก้าวขึ้นเครื่องบินไปโดยที่พวกผมทำอะไรไม่ได้

เฮยเสียจื่อยกมือมาตบไหล่พร้อมๆกับผมที่ถอนหายใจมองสุดยอดนักโทษระดับชาติที่ใกล้จะขึ้นทะเบียนดำเป็นระดับโลกอยู่มะรอมมะร่อ ก้าวขึ้นเครื่องบินที่จอดอยู่ด้านหลัง ปืนพกในมือค่อยๆลดการ์ดลงเก็บใส่ซองหนังปิดประเป๋าอย่างดี เห็นเซี่ยอวี้เฉินโบกมือลงมาข้างๆมีจางฉี่หลิงผู้เงียบขรึมกำลังนั่งหลับตาอยู่บนเครื่องบินที่ค่อยๆลอยขึ้นท้องฟ้า หันไปมองเฮยเสียจื่อที่ยิ้มไม่หยุดโบกมือตอบกลับไปเป็นการเชือดเฉือนผมก็สุดจะถอนหายใจ

รู้ไหม? มันเป็นเรื่องน้ำเน่าชิบหาย และโคตรจะคงคอนเซ็บเดิมมากๆ

พอผู้ร้ายจากไปตำรวจก็พึ่งมา

ผมมองนายตำรวจหลายนายพร้อมอาวุธครบมือวิ่งขึ้นมายังด่านฟ้านี้ชนิดที่กลุ่มผู้ร้ายเมื่อสักครู่เทียบไม่ติดแล้วผมก็แทบอยากจะลงไปทุบพื้นแล้วร้องไห้ออกมา

ไอ้ห่าราก! พวกมึงไปปลูกหัวไชเท้าอยู่หลังเขากันรึไงวะ ถึงมาป่านนี้


หลังจากกลับมาถึงศูนย์บัญชาการผมกับนายแว่นดำก็โดนด่าเละเรื่องจับตัวคนร้ายมาไม่ได้ถึงแม้ผลงานของรางวัลจะเป็นที่หน้าพอใจก็ตาม จบการเทศนาผมกับนายแว่นดำก็มานั่งหน้าบูดอยู่ในห้องพักกัน 2 คน ไม่สิ มีผมคนเดียวต่างหากที่หน้าบูด

“โดนด่าเละทุกที ไม่ใช่โยนขี้มาให้พวกเรารึไง เหอะ! ทำไมไม่สั่งไอพวกบ้าผลงานข้างล่างให้คุมลูกน้องดีๆละ รอบนี้มีแต่เรา 2 คนไม่ใช่หรือไงที่ไล่ตามจนทัน แต่พวกมันดันมั่วแต่เก็บผลงานในโกดังไม่เห็นหัวพวกเรา”

อุตส่าห์สั่งกับชับ ประสานงานกันอย่างดีก่อนบุกแล้วแท้ๆ แล้วนี้อะไร ชิ!

“อย่าขี้งอนน่าอู๋เสีย” เฮยเสียจื่อกางหนังสือพิมพ์อ่านอย่างไม่ไยดี “ว่าแต่นายจะแค้นใจอะไรหนักหนา ถ้าทนไม่ไหวนายก็ยื่นเรื่องขอกลับฮ่องกงไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาทนอยู่ที่นี้ให้โดนด่าฟรีๆจริงไหม”

“ไม่ใช่ว่านายควรทำเรื่องย้ายตัวเองด้วยเหมือนกันรึไง มาด้วยกันไปก็ต้องไปด้วยกันสิ”

“เทียนเจินอู๋เสีย ตามจริงแล้วไอ้ฉันจะไปก็อยากไปอยู่หรอกนะ แต่แบบว่าคนร้ายที่ไล่จับทุกวันนี้มันรู้สึกหน้าสนใจมากกว่านั่งๆนอนๆรับตังฟรีที่กรมตำรวจกลางอะนะ”

“หน้าสนใจขนาดนั้น?” ผมเหล่มอง

“ใช่ขนาดนั้น”

“ขนาดจับนายไปนั่งยาง?”

“ใช่นั่งยาง”

“เผาทั้งเป็นอะนะ”

“ใช่! เผาทั้งเป็น ระทึกใจดีไหมละ?”

“พ่อมึงเหอะ!” ผมแหกปากด่า “มึงมันบ้าไปแล้ว!!!”

“หยาบคายจริง! นี้ละเสน่ห์ของเซี่ยอวี่เฉิน ยังไม่นับที่เขาส่งสไนเปอร์มาลอบยิงฉันทุกๆวันที่ 15 ของเดือนอีกนะ นายว่าน่ารักไหมละ”

ผมกรอกตาขึ้นส่ายหัวพรืดต่างจากเขาที่หัวเราะหึๆในคออ่านหนังสือพิมพ์ในมืออย่างไม่ใส่ใจ ไม่มีอะไรจะพูดผมก็ขีดๆเขียนๆเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ ดูเหมือนว่างบประจำกองอาชญากรรมจะติดตัวแดงอีกแล้ว

“เฮยเสียจื่อ นายรู้จักตำรวจที่ชื่อเหล่าหยางไหมวะ?” ผมหันไปถามหลังจากอ่านข้อมูลนายตำรวจคนหนึ่งที่ผมไม่คุ้นหน้าเลย ดูเหมือนว่าเขาจะได้ขึ้นเงินเดือนขาดแต่รอการอนุมัติจากผม

“ไม่อะ นายรู้จักหรอ” นายแว่นดำส่ายหัวยังคงอ่านข่าวละครในหนังสือพิมพ์ไม่หยุด

“ก็ไม่เหมือนกัน….” ผมค่อยๆไล่มองประวัติก่อนจะตัดสินใจปั้มตราอนุมัติให้ผ่าน แม้จะนึกหน้าไม่ออกก็ตาม

“ถ้านายจะให้เหล่าหยางผ่านการขึ้นเงินเดือน ทำไมนายถึงไม่อนุมัติให้หวังเหมิงขึ้นเงินเดือนเหมือนกันละ”

ผมเงยหน้ามองเห็นเฮยเสียจื่อขมวดคิ้วมองผมอย่างข้องใจ

“เพราะบัญชีติดตัวแดง” ผมตอบ

“อืม เพราะบัญชีติดตัวแดง” แล้วเขาก็อ่านหนังสือพิมพ์ต่อ “ไม่ใช่เพราะหวังเหมิงบ้านมีตังใช่ไหม”

“ไม่ใช่เพราะมีตัง”

“ผลงานไม่พอหรอ” เขาถามย้ำ

“พอแต่ไม่ให้ขึ้น”

“แป๊กเงินเดือน?”

“ใช่! แป๊กเงินเดือน”

“นั้นสินะ แป๊กเงินเดือนจริงๆ…”

“นั้นสิ แป๊กเงินเดือนจริงๆ…”

………………..


หมดช่วงทำงานผมก็เดินเข้าห้างแบกกล่องนม กล่องเบ้อเร่อมา 3 กล่อง พร้อมกับคาราเมลชีส มะเขือเทศสีแดงและก็หัวไชเท้ารวมถึงเต้าหู้อันโตๆสีขาวเกลี้ยงกลับบ้านเป็นมื้อเย็น วันนี้ผมว่าจะทำซุปเต้าหู้หัวไชเท้ามากินแก้เซ็งฉลองโดนด่า

บ้านน้อยโดดเดี่ยวกลางทางที่มีต้นไม้ล้อมรอบ ปู่ผมชอบความเงียบสงบบ้านนี้เลยถูกซื้อมาเพราะปู่บอกว่า ‘เงียบสงบดีแถมตอนเช้าก็มีกวางให้ยิงเล่นแกเซ็ง’ ด้วยเหตุผลอันติสแตกสุดๆ บ้านนี้ก็เลยถูกซื้อมาด้วยราคาน้อยนิดเพราะห่างไกลตัวเมือง แน่นอนว่าสุดท้ายก็มีแต่ผมอยู่คนเดียวและแน่นอนยิ่งกว่าคืออาหารของกวางในป่าที่หากมีตัวไหนใกล้อดตาย สุดท้ายก็กลายเป็นผมต้องเลี้ยงพวกมันอยู่ดี

กลายเป็นผมรับหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าไปเสียชิบ วันดีคืนดีแบกหมีตัวเท่าควายขึ้นรถปิกอัพขับเข้าตัวเมืองเพราะโดนกำดักสัตว์ก็มีเหมือนกัน

ค่อยๆบิดไขลูกกุญแจก่อนผมจะก้มหน้ามองพื้นบ้าน พื้นพรมเช็ดเท้าอันสกปรกของผมเนื่องจากมันไม่ค่อยได้ซักทำให้มันมีฝุ่นเกาะอยู่ไม่น้อย ผมมองก่อนจะถอนกุญแจบ้านคืนออกมา ถอยหลังออกมา 3 ก้าว ก่อนแผ่นหลังจะปะทะกับใครบางคน

หมัดถูกง้างสวนขึ้นทันทีชกไปเต็มแรงอย่างไม่ต้องคิด ของในมือตกกระจายเกลื่อนพื้น ผมปล่อยสวนไปอีกหมัดแต่คนตรงหน้ากลับรับได้อย่างท่วงที มือหยาบกำข้อมือผมแน่นก่อนจะกระชากตัว หมุนตัวผมลอยกลางอากาศเหมือนลูกข่างลูกโต แน่นอนว่าผมที่เป็นอันดับ 1 ของกรมตำรวจย่อมถูกฝึกมาอย่างดีค่อยๆพลิกกายหมุนแรงเตะก้านคอคนตรงหน้าแต่ไม่เป็นผล เจ้าตัวเพียงแค่ยกมือขึ้นมากันโดยหันฝ่ามือออกรับ 2 นิ้วยาวของมือข้างนั้นกดกระดูกต้นขาจนผมเจ็บแปล็บอย่างไรคำอธิบาย แต่ผมกลับไม่สนใจชกหมัดพุ่งเข้ากระเดือกคนตรงหน้า แต่เจ้าตัวเพียงแค่ถอยหลังและชักมีดออกมาจากข้างตัว พร้อมๆกับผมที่หยิบมีดพกออกมาจ่อที่คอหอยเขาทันที

ยืนประจันหน้าโดยมีมีดคนละเล่นอยู่บนคอ เรา 2 คนไม่พูดจา มีเพียงมีดคนละเล่มแท่นคำพูด

“นี้คือคำทักทายของสกุลอู๋?”

“แล้วคำทักทายของสกุลจางคือบุกบ้านคนอื่นรึเปล่า?”

เห็นเขาไม่ตอบผมก็แยกเขี้ยวไม่สบอารมณ์ ถ้าไม่ติดว่ามีดเขาก็อยู่บนคอผม รับรองว่าผมคงวิสามัญเขาไปแล้ว

สุดยอดอาชญากรข้ามชาติปรากฏตัวตรงหน้าเป็นใครบ้างไม่หวาดระแวง จางฉี่หลิงเห็นผมแสดงท่าทางปฏิปักษ์ก็ค่อยๆลดมือลงยกมีดออกจากคอผมโยนไปอีกทางและยกมือ 2 ข้างเป็นการบอกยอมแพ้โดยมีมีดของผมเองจ่ออยู่บนคอ

“เยี่ยม นายหน้าจะสำนึกตัวได้ตั้งแต่แรกแล้วละนะ เอ้า! หันหลังมา เอามือไขว้หลังด้วย”

ผมยิ้มแก้มตุ่ย เอามีดลงจากมือและหยิบกุญแจมือสีเงินออกมาแทน จางฉี่หลิงลดมือลงยืนหันหลังให้ผมแต่โดยดีไม่มีขัดขืน ผมก็ปลดล๊อคกุญแจสวมเข้าที่ข้อมือเขาทันที

ขณะที่กำลังจะกดล๊อคจางฉี่หลิงกลับหันตัวมาประจันหน้าตวัดมือเกี่ยวกุญแจมือให้มันมาล๊อคข้อมือผมแทน แต่ผมกลับชักมือกลับอย่างว่องไว เอี่ยวข้อแขนบิดให้มันไปล๊อคกับเสาประตูทางเข้า

เงียบ ไม่พูดจา

จางฉี่หลิงมองหน้าผมนิ่งเอื่อมระอาเล็กน้อยเหมือนรู้ทันอยู่แล้วต่างจากผมที่หัวเราะเสียงเข้มในคอ

“อย่ามองกันแบบนั้น!! ใครที่ไหนจะยอมให้จับฟรีๆโลกนี้ไม่มีหรอก” ผมไหวไหล่ไม่ใส่ใจ ปล่อยให้กุญแจมือสีเงินคาเสาบ้านโดยไม่คิดจะแก้ออกมา

ผมไขประตูบ้านเปิดเข้าไป ห้องกว้างสบาย มีพรมปูบนพื้นด้านหน้าคือโซฟารับแขกตัวยาวที่ผมชอบทิ้งตัวนอนเล่นดูบอลคู่บิ๊กแมทช์ยามค่ำคืน ตื่นสลึมสลือตื่นยามรุ่งสางไปทำงานเป็นประจำ

อากาศอุ่นสบายกว่าข้างนอกมากผมถอดรองเท้าเก็บไว้บนชั้นวางหน้าประตูก้าวเข้าห้องตามมาด้วยมิสเตอร์จางฉี่หลิงที่ถือวิสาสะตามเข้ามาโดยที่ผมยังไม่อนุญาตแม้แต่นิดแถมยังล๊อคประตูให้อีกต่างหาก

เสื้อโค๊ทสีเทาเข้มของจางฉี่หลิงถอดลงมาแขวนไว้กับเสาไม้ที่ผมตั้งเอาไว้หน้าทางเข้าตลอดเวลาเผื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือน ผมมองจางฉี่หลิงกระทำตามอำเภอใจแต่ไม่ว่าอะไร เดินขึ้นชั้น 2 ไปอาบน้ำปล่อยแขกผู้มีคดีนั่งรอคาโซฟา

รอได้ก็รอไป!


หลังอาบน้ำจนตัวเบาสบายผมก็แต่งตัวเดินลงมาข้างล่าง พบว่าจางฉี่หลิงยังคงนั่งอยู่บนโซฟาไม่ขยับไปไหนและไม่พูดอะไรด้วย เพียงแต่จ้องผมที่เดินลงมานั่งข้างๆเขาและไขว้ห้างผิวปากสบายอารมณ์มือถือกระป๋องเบียร์จิบเรื่อยเปื่อยแค่นั้น

“ค่าปรึกษาครั้งละ 30 นะ สกุลเงินดอลล่าร์ด้วย หึหึ” ผมแกล้งหยอกเขาเล่น หมุนกระป๋องเบียร์ในมือเป็นวงกลม แน่นอนว่าเบียร์ที่ผมดื่มอยู่นี้เป็นเบียร์ดีของเบลเยี่ยมเชียวนะ “หยิบรีโมตขวามือนายให้หน่อยสิ ฉันจะดูสารคดีสัตว์โลกน่ารัก”

จางฉี่หลิงหยิบมาให้ตามที่ผมร้องขอ สารคดีพาโนราม่าหลากหลายผ่านตาผมไปเรื่อยก่อนที่ผมจะตัดสินใจเลือกตอนหมีแพนด้ามานั่งดูระหว่างรอคนใบ้เอ่ยปาก

ระหว่างจิบเบียร์ดูทีวี ผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโยนทิ้งไว้บนโซฟาสลับขาไขว้ จิบเรื่อยๆจนหมดกระป๋องก็ไม่เห็นว่าคนข้างๆมันจะพูดอะไรสักที ผมก็ตั้งท่าจะเดินไปหยิบเบียร์กระป๋องใหม่ ระหว่างไปก็ตั้งใจจะกดเบอร์โทรฉุกเฉินไปด้วยเป็นการแก้เซ็ง

พอผมลุกก็รู้สึกเป๋ไปนิดหนึ่ง ผมชอบจิบเบียร์ระหว่างพัก ไม่ใช่รักในการดื่ม แต่ผมคิดว่ามันทำให้หลับง่ายดี

ไม่ทันไรแขนผมก็ถูกคว้าไว้ กระชากเข้าหาอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาจนล้มทับลงไปบนตัวเขา ตอนที่ผมกำลังจะเงยหน้าด่าเขาว่า ‘ไอ้เวรเอ๊ย! ดึงหาห่าอะไร’ ก็เจอเขาจ้องเขม็งจนเก็บคำลงคอ ผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เขาตั้งใจจะลุกไปอีกแต่ข้อมือกลับถูกเขาบีบแน่น โดยเฉพาะไอ้สองนิ้วสุดพิเศษของเขาที่ทำเอาผมปวดต้นขาตั้งแต่อาบน้ำแล้ว

“อย่ามามองหน้าเหมือนฉันผิดนะ นายไม่ดีเองที่หนีไปอเมริกาใต้ แถมกลับมายังขนของเถื่อนมาเป็นกรุ จะโทษฉันก็ไม่ได้เรื่องนี้นายไปตีค่าราคาของเอากับเสี่ยวฮัวเถอะ!” ผมไถลตัวลงไปนอนกับโซฟา เท้าหน้าบนตักเขา มืออีกข้างไล่นิ้วถือกระป๋องเบียร์เปล่าๆด้วยนิ้วเดียว จ้องหน้าเขาเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด

“นายรู้ว่าเป็นฉัน”

“ก็รู้นะสิ ถึงได้วิ่งไปถล่มเป็นเบอร์แรกเลย ดีใจไหมละ” ผมยิ้มน้อยๆหัวเราะหึหึจ้องหน้าเขา

“มันอันตราย”

“พอๆกับนายเอาปืนยิงเฉี่ยวกบาลฉันเมื่อวันก่อนด้วยปะ?” สงวนคำชิบหาย คนอะไร

“อันนั้นฉันตั้งใจยิงจริงๆ”
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3758
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Mon 15 Dec 2014, 01:07

ผมค้อนตาเหลือก

“แม่มก็ตั้งใจยิงทุกนัดแหละ!!!” ทุบตักเขาไปทีหนึ่งก่อนจะซุกหน้าออดอ้อน “คราวหลังจะทำอะไรก็ไปทำไกลๆเขตฉันสิ จะได้อ้างว่าไปไม่ทันได้ นี้อะไร! ขนของข้ามหน้าข้ามตาเหยียบหัวหมาของทางการกันหน้าตาเฉย เหมือนแมวไม่มีผิด” ผมบ่นหน้าตึง

“พรมแดนตรงนั้นส่งของง่ายที่สุดแล้ว” กระป๋องเบียร์ถูกหยิบออกโยนไปด้านหลังโซฟาจนได้ยินเสียงดังเคล้งยามมันตกลงกระทบพื้น “คราวหลังจะส่งกันให้เงียบกว่านี้”

ฟังจบปุปผมเลยทุบตักเขาไปอีกป๊าป แม่มยังจะมีครั้งที่ 2 รู้ไหมไอ้ของกลางที่ยึดมาได้มันกี่พันกี่ล้านกัน คิดว่ามีตังและอิทธิพลคุมทั่วโลกแค่นี้อย่ามาคิดว่าผมจะหวั่น ไม่ใช่เพราะผมไล่กวดเขามา 3 ปีครึ่งหรือไง ถึงได้รู้ไส้รู้พุงขนาดนี้

ม้วนมากี่ขดๆเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องบนเตียงของเขายันค้ายาเสพติดข้ามชาติมีหรือผมจะไม่รู้

“ได้ข่าวว่าสาวอเมริกาขาวสวย นายว่าจริงไหม” ผมถามหยอกเขามือค่อยๆวนคว้านวนรอบตัวจางฉี่หลิง ก่อนจะล้วงสะโพกคว้ามีดสั้นยาวโง้งขนาด 24 ซม. ออกมา จางฉี่หลิงทำหน้าตกใจกึ่งประหลาดใจเล็กน้อยเอื่อมมือมาจะคว้าคืน ยื้อแย่งกัน 2 คน แต่ผมกลับกระชากมาอีกทางถลึงตามองจนเขายอมยื่นมือกลับไป

“สวย แต่อวบ” ผมเท้าคางผยักหน้า ปล่อยมีดสั่นในมือลงพื้นกระทบพื้นบ้านดังเคล้งเหมือนกระป๋องเบียร์ก่อนหน้า

“ไม่ซ้ำหน้าเลยสิ”

“นายก็เหมือนกัน”

ผมเลิกคิ้วเบิกตาหัวเราะหึๆ ก่อนจะอดใจไม่ไหวอ้าปากหัวเราะ ฮะ ฮะ กดเสียงสะใจออกมา ดูเหมือนว่าเขาก็จับได้เหมือนกัน จางฉี่หลิงยืนมือมาลูบไล้ลำตัวแต่ถูกผมตีมือจนต้องยอมรามือไป

“ได้ทั้งไปเที่ยว ได้ทั้งกอดสาว แถมยังหอบปัญหามาอีกกระบุง ทำไมฉันยังจับนายเข้าซังเตไม่ได้อีกนะ ฉันกับเจ้าแว่นดำก็ไม่ได้กระจอกแท้ๆ” ผมบ่นอุบ มันเป็นปัญหาคับข้องใจของผมจริงๆ

“แล้วครั้งนี้ไม่ลองจับดูละ” เขายกคิ้วท้ายทายส่วนผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก

“กุญแจโดนล๊อคอยู่ตรงเสาบ้าน ไม่ได้ปลดกลับมา เอาเป็นเน็คไทใช้ไปก่อนดีไหม?”

อา…น่าสนุกไม่เลว

ผมลุกตั้งใจจะไปหยิบมาใช้จริงๆแต่กลับถูกจางฉี่หลิงรั้งตัวไว้ให้นอนอยู่ที่เดิม ผมยิ้มนิดๆยามเขายกนิ้วไล้ใบหน้าผมจนถึงริมฝีปากก่อนที่ผมจะกัดนิ้วมือนั้นเบาๆ จูบเสียงเซ็กซี่อีก 1 ทีแถมให้ด้วยเอ้า!

ค่อยๆคลานขึ้นไปนั่งบนตักด้วยท่าหมิ่นเหม่อย่างแรงวนนิ้วไล่บนอกเขาอย่างนึกสนุก ก่อนจะก้มหน้าลงตรงซอกคอทิ้งกลิ่นอายตนเองลงไปยามได้ยินเสียงสูดหายใจเข้าลึกๆของคนตรงหน้า

“จุ๊ๆๆ…” ผมมองหน้ายกนิ้วส่ายเป็นการปฏิเสธ “เสี่ยวเกอ สาวๆที่นู้นเขาดูแลนายดีไหม” ผมยิ้มมองลงไปยังนัยน์ตาสีเพลิงนิลของคนตรงหน้าเอ่ยชื่อเรียกที่ผมใช้เรียกเขายามอยู่กัน 2 คน

“ก็ดี…” ผมฟังเขาพูดแล้วก็ผยักหน้าอืออาในลำคอว่าเข้าใจ

“บนเตียงละ มีกี่คน” ผมค่อยๆก้มหน้าสูดกลิ่นหอมสมุนไพรจางๆของเขาก่อนจะเริ่มกัดกระดุมปลดออกมาทีละเม็ดด้วยฟันของผมเอง

“…4… บางครั้งก็ 5 คน”

“ก็เยอะดีนะ” ผมขมวดคิ้วจ้องเขาที่ไม่หลบสายตากับผม

การใช้ฟันปลดกระดุมเสื้อนี้ เป็นอะไรที่ยากลำบากและท้าทายมาก กระดุมต้นคอค่อยๆถูกผมงัดขึ้นพร้อมกับเป่าลมหายใจรดผิวของเขา แอบเห็นว่าผิวขาวๆของจางฉี่หลิงแอบขึ้นลายสักที่สั่งทำพิเศษแล้วผมก็อนุมัติให้ตัวเองว่าสอบผ่านทันที

“ว่าแต่ อะไรทำให้นายสมองเลอะเลือนถึงขนาดถ่อมาหาฉันหึ! เสี่ยวเกอ” ผมถามขณะที่ก้มหน้าสาละวนอยู่กับการปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายตรงท้องน้อยของเขา

“มาดูหมาที่ตัวเองฝึกเอาไว้ก็แค่นั้น”

ฟังจบผมก็ยกมือตบปากเขา ขมวดคิ้วไม่พอใจ กระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายถูกแกะไปแล้ว ตรงหน้าผมจึงเหลือผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตลายทางเปลือยแผ่นอกขาวๆนั่งมองผมนิ่งๆเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่ง

“งั้นเอาเป็นว่า นายกลับบ้านตัวเองไปนอนหลับสักตื่นหนึ่งดีไหม แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอาคนทั้งสำนักงานไปจับนายทันที” ผมยกมือกอดคอเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

จางฉี่หลิงยังคงไม่สะทกสะท้านแต่มือของเขากลับไม่นิ่งด้วยเหมือนเจ้าของ นิ้วยาวๆลากไล้ผ่านลำตัวผมค่อยๆแทะเล็มไปทีละส่วน กว่าจะรู้ตัวอีกทีเขาก็ปลดกระดุมเสื้อผมไปแล้วและกว่าจะรู้ตัวอีกทีเข็มขัดรัดกางเกงผมก็ถูกเขาปลดไปถือโบกอยู่ในมือแล้วเช่นกัน…

ตอนไหนวะ!!!

ผมหน้าหงิกใส่เขาเอื้อมมือจะไปคว้ามาคืนแต่กลับถูกยกห่างออกไป ผมเลยได้แต่หายใจฟึดฟัดอยู่บนตักเขาด้วยความหัวเสียแทน

“น่าเบื่อ! ไม่เล่นแล้ว” ผมปล่อยเขาเป็นอิสระ “เอาลูกโม่ยิงหัวนายสัก 2 นัดนับว่าดีกว่าจริงๆ”

ผมลงไปนั่งดูทีวีต่อเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาระคดีหมีแพนด้าน่ารักกำลังนั่งแดกใบไผ่อย่างอร่อย จะว่าไปก็เป็นปัญหาระดับชาติเหมือนกันกับวิกฤตสูญพันธ์ของหมีแพนด้า ว่าแต่… เกินกว่าครึ่งของลักลอบค้าสัตว์ไอ้คนข้างตัวเขาก็จับแม่มส่งขายต่างประเทศซะเกลี้ยงเลยไม่ใช่หรือไงวะ

โว๊ะ! หงุดหงิด

คราวนี้ผมลุกไปทางห้องครัวหยิบเบียร์มากินจริงๆแต่ยังไม่ทันจะเปิดตู้เย็นร่างก็ถูกเหวี่ยงลงไปนอนหงายอยู่บนโต๊ะหินอ่อนเนื้อเย็นกลางห้องครัว

“บรีวด๊อก โตเกียว ก่อนไหม จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน” ผมเสนอชื่อเหล้าดีกรีแรงให้เขาตัวหนึ่ง “หรือจะเบียร์ดำดี แต่ในข้อเสนอนี้ไม่มีตัวฉันอะนะ” ผมโบกมือยื่นข้อเสนอแต่กลับไม่ได้รับความสนใจ

“ช่วงนี้ฉันคงอบรมนายไม่ดีสินะ” จางฉี่หลิงยืนหน้านิ่งตอบเสียงเย็นพร้อมเข็มขัด 1 เส้นในมือที่ผมเห็นอนาคตตัวเองรำไร

“แปลกจริง! ฉันคิดว่านายรู้ตั้งแต่แรกว่าหมาตัวนี้เลี้ยงไม่เชื่อง” ผมยิ้มมองเขาที่ย่างสามขุมเข้ามา มือค่อยๆเอื่อมมือไปควานหามีดในลิ้นชัก ตายละหว่า! ลืมไปว่าย้ายไปเก็บตู้ชั้นบนแล้ว

“คงต้องสอนกันใหม่ตั้งแต่ต้นว่าหมาที่ดีควรทำตัวยังไงกับเจ้านาย”

“แบบว่าอาหารหมาที่เจ้านายให้ไม่อร่อยอะนะ ก็เลยทำใจรักไม่ลง” ผมยิ้มกริ่มผละหนีไปอีกทางแต่ไม่พ้นโดนเขาสกัดขาล้มกระแทกพื้นแต่ผมกลิ้งตัวม้วนหนีออกนอกประตูแทน

ดูเหมือนรอบนี้จางฉี่หลิงจะเสียอานเลยทีเดียว ผมควรจะภูมิใจดีไหมเนี้ยที่ทำให้ธุรกิจของเขาเกิดหยุดชะงักพังไปชั่วขณะแบบนี้ ผมวิ่งมาถึงหน้าประตูบ้านกำลังเอื้อมมือจับกลับถูกเขาแท็กจากข้างหลังจนล้มหน้าขมำไม่เป็นท่า

“เฮ้ย! เจ้าบ้า!” ผมแหกปากทันทีเมื่อเขาจับล๊อคเอามือผมไขว่หลัง กลายเป็นสลับตำแหน่งประจำตัว โจรกระจอกกับตำรวจประจำบ้านไปซะชิบ!

เข็มขัดที่เขาดึงออกไปถูกจับมารัดมือทั้ง 2 ข้างจนขยับไม่ได้ ความโรคจิตแบบนี้ทำเอานึกถึงวันแรกที่เขาบุกมาบ้านผมด้วยตัวคนเดียวพร้อมกับปืน Colt 1911 ออโต้สล๊อตในมือ ไล่ยิงผมตั้งแต่หน้าประตูบ้านยันห้องนอนชั้น 2 ส่วนหลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไร

ไอเชี้ยข้างหลังผมแม่มก็โรคจิตพอๆกับไอ้แว่นที่ทำงานนะแหละ

“กรมตำรวจนายจะยอมหลับตา 1 ข้าง ตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้” เขาเอ่ยทวน

ผมจะบอกอะไรให้นะ ว่าตำรวจที่ขาวสะอาดโคตรคนดีมันไม่มีจริงในโลกหรอก การจับคนร้ายข้ามชาติในบางกรณี บางทีก็ต้องมีการจับมือร่วมกันกับอีกกลุ่มหนึ่ง ตัวอย่างก็เช่นคนที่กำลังคร่อมหลังผมอยู่นี้เป็นต้น
“ตามกฎสัญญาพวกเราจะยอมให้นายขนของเถื่อน แต่เป็นเขตเหนือวะ นายพลาดเอง” ผมกัดฟันตอบ พยายามบิดข้อแขนออกจากเข็มขัดที่รัดเอาไว้

จางฉี่หลิงเงียบไปก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหู

“สัญญาที่ตกลงข้อที่ 2 คือ นายจะอนุญาตให้พวกฉันขนของเถื่อน แต่ไม่ใช่ยึดของกลางและไปขายกินกันเอง”

หืม! อันนี้ผมไม่รู้แหะ แต่ก็ไม่แปลกใจ เรื่องลักลอบส่งของกลางมันก็ต้องมีกันอยู่แล้ว แต่ใครจะจับได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่ฝีมือวางแผนแต่ละคน

“โทษที อันนั้นเกินขอบเขตที่ฉันรับผิดชอบวะ ถ้าจะไล่บี้เอายังไง นายไม่สนใจลงไปใส่เสื้อส้มกินข้าวในคุกดูละ อาจจะรู้ก็ได้ นายรู้ไหมนักโทษในคุกแม่มยังรู้เรื่องมากกว่าตำรวจอย่างพวกฉันอีก”

“อู๋เสีย สัญญาซื้อขาย มีชื่อนายอยู่ด้วย”

หา!

คราวนี้ผมหงายเงิบอ้าปากค้าง ก่อนจะมองดูเขาที่ค่อยๆหยิบกระดาษออกมาฉบับหนึ่ง กางออกมาตรงหน้า ผมอ่านสัญญาซื้อขายอาวุธนี้อย่างละเอียดทุกข้อ ก่อนจะพบว่าผู้ลงลายมือขายเป็นชื่อผมเอง

ใช่! เป็นชื่อผม ลายมือผม แต่ผมไม่ได้เซ็นวะ

“สัญญานี้เป็นของปลอม แต่ลายมือที่ลงอยู่เป็นของฉันจริงๆ เพียงแต่ฉันไม่ได้เป็นคนเซ็น” ผมบอกเขา ก้มหน้าลงบนพื้นถอนหายใจเสียงดัง พยายามหมุนข้อมือให้ออกจากเข็ดขัดหนังแต่กลับดึงไม่ออกแม้แต่นิด

จางฉี่หลิงไม่ตอบคำถามแต่มือเขากลับค่อยๆไล่แผ่นหลังเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของผมทีละนิดอย่างกระหาย ผมที่นอนนิ่งถึงกับสะดุ้งตัวลุกพรวดแต่ถูกเขายันกลับลงไปนอนแอ๊กอยู่บนพื้น

“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!!” ผมแหกปากเหมือนรู้ชะตา

“นายเริ่มก่อนก็ต้องเล่นให้จบ” เขากระซิบบอกข้างหู “หมาที่ดีต้องไม่ดื้อกับเจ้านาย”

“แกไม่ใช่เจ้านายฉัน!!!” ผมแหกปากตะคอกโวยใส่เขาก่อนตัวจะถูกยกขึ้น

แล้วจางฉี่หลิงก็แบกผมพาดบ่าไปโยนโครมบนโซฟาที่กำลังมีสาระคดีสัตว์โลกน่ารัก ตอนสิงโตกำลังไล่จับลูกกวางกินฉายอยู่บนทีวี ผมหน้าตื่น มองเขาที่เลียริมฝีปากพร้อมแนบลงมาประกบทับทันที

ไม่ต้องพูดถึงมือที่ถูกมัดไขว้หลัง มันยังดีกว่าครั้งแรกที่เจอกันมาก เพราะครั้งนั้นเขาจับผมล่ามลงบนเตียงติดที่นอนยามเราโรมรันกันตลอด 1 สัปดาห์

“พูดเพราะๆ” จางฉี่หลิงบอก ผมเลยตอบเขาไปว่า ‘ไอ้ระยำ’ ทีหนึ่ง

“โอ๊ย!!” ผมแหกปากก่อนจะซูดลมหายใจด้วยความเจ็บแปล็บ ยามสัมผัสได้ถึงรสเลือดในโพรงปาก

จางฉี่หลิงแม่มกัดลิ้นผม

“พูดเพราะๆ” เขาพูดย้ำ แต่ผมหน้าทะมึนยิ่งกว่าเดิม มองเขาที่ค่อยๆถอดเสื้อผ้าตัวเองออกทาบทับตัวผม

“ขอเวลานอก!!!!!!! ขอเวลานอกได้ไหม!!!” ผมสูดหายใจลึกหลังจากแหกปากตะโกนต่อรอง จนเขาหยุดชะงัก

“ข้อแลกเปลี่ยน?” เขาพูดเสียงเรียบ

“เอาเป็นคืนนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวนายดีไหม แต่แลกกับการปล่อยตัวฉันไปนะ หวา…”

จางฉี่หลิงกระชากกางเกงผมออกในทีเดียวโยนลงไปกองบนเสื้อตัวเองพร้อมๆกับกางเกงของเจ้าตัวที่ถูกปลดลงมาถึงหน้าแข็ง ส่วนด่านหน้าจ่อประชิดอยู่ช่องทางข้างหลังผม ก้มหน้าสูดกลิ่นหอมสบู่ที่ผมพึ่งอาบน้ำเสร็จไปอย่างพอใจ เจ้าตัวก็กระซิบถาม

“พร้อมหรือยัง?”

“พร้อมเชรี้ยอะไรละโว๊ย!!!!!!!!!!!!” ผมกรีดร้องเสียงหลง พร้อมๆกับเขาดันกายเข้ามาในทีเดียว

เงียบสนิท

จุกอย่างไม่ต้องพูด ผมหุบปากสนิททันทีกัดฟันจากความรู้สึกเจ็บจากเบื้องล่าง หลับตาแน่นสะกดความเจ็บปวดที่คนบนตัวมอบให้อย่างเอาแต่ใจ

“ไม่ปากเก่งอีกแล้วหรือ?” จางฉี่หลิงถามเสียงพร่า รู้สึกได้เลยว่าคนตรงหน้ากำลังพึงพอใจกับปฏิกิริยาที่ผมแสดงออกมา

ถ้ามือผมไม่ถูกมัด ผมคงชกหน้าเขาไปแล้ว

เห็นผมไม่ตอบจางฉี่หลิงก็ยิ้มเยาะขยับกายช้าๆเรียกความเจ็บปวดจนผมนิ่วหน้ากัดฟัน รู้สึกเห่อร้อนในดวงตา มองเขาด้วยสายตาที่พร่าเรือน เห็นเขาขยับกายเข้าออกช้าๆ ทรมานผมทีละนิดก็แทบจะบ้า นิ้วมือยาวๆของเขาค่อยๆลากไล้ผ่านลำตัวจนผมหลุดเสียงครางเครือปนกับความรู้สึกถูกรุกราน

สะโพกผมถูกยกขึ้นพร้อมๆกับเขาที่ดันกายเข้ามาลึกกว่าเดิม

“พอ!... จาง…ฉี่…อึก! อย่าลึกไป…มากกว่านั้น” ผมกัดฟันบอกเขาเสียงครืดคราดในคอ

“นายกำลังรู้สึกดี?” ผมถลึงตามอง ต่างจากเขาที่ยิ้มกริ่มประกบจูบลงมา พร้อมลากไล้ผ่านซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสบู่ “นายกำลังทำฉันแทบบ้า ผ่อนคลายกว่านี้หน่อยสิ อู๋เสีย”

ผมไม่ตอบคำหลับตาแน่นรับสัมผัสที่เขามอบให้อย่างสะท้าน รู้สึกเจ็บที่ข้อมือเพราะถูกเอาไขว้หลัง ผมที่นอนหงายตัว ทาบทับลงไปบนมือ 2 ข้าง ยามนี้รู้สึกเจ็บจนกลั่นน้ำตาไม่อยู่

“ปล่อยมือ… ได้ไหม” ผมข้อร้องกระท่อนกระแท่น จางฉี่หลิงยิ้มพรายผยักหน้าตอบตกลง ค่อยๆปลดเข็ดขัดที่รัดมือผมออก

รู้สึกได้ว่ามือค่อยๆเป็นอิสระก็ค่อยๆดึงมันออกมาก่อนจะถูกกระชากไปรวมไว้ด้านบน

“เฮ้ย!!” ผมแหกปากร้องก่อนจะหุบสนิทเพราะเขากระแทกกายเข้ามาลึกกว่าเดิม ได้แต่เบิกตากัดฟันมองเขามัดมือผมไปอยู่ด้านบนแทน

ช่องทางข้างหลังรู้สึกชื้นแชะมากขึ้น ผมได้แต่กัดฟันไม่อยากยอมรับความจริง ยามสัมผัสเข้าออกนั้นเข้ามาลึกมากเท่าไรเสียงชื้นแชะด้านหลังก็แทบทำให้ผมคลั่งมากขึ้นเท่านั้น เสียงหอบครางในคอค่อยๆถูกปล่อยออกมาพร้อมกับจางฉี่หลิงที่กระแทกกายเร็วถี่กว่าเดิม

“อา… เจ็บ… พอเถอะ…” ผมอ้อนวอนครวญครางสั่นสะท้าน

แก่นด้านหน้าถูกรูดรั้งพร้อมความรู้สึกร้อนผ่าวยามเขาไล่จูบลงมาตามกาย

นายตำรวจอันดับ 1 ของกรมกำลังเริงร่ากับเพลงรักบนโซฟาตัวโปรดประจำบ้าน แน่นอนว่ากับอาชญากรอันดับ 1 ของโลก ณ ตอนนี้ เสียงร้องครวญครางเปล่งอารมณ์ บิดกายเย้ายวนโดยไม่ได้ตั้งใจ เสียงครางเครือและหยาดน้ำตายิ่งทำให้รู้สึกหน้าแกล้งขึ้นไปอีก

ติ๊ด ตีดี….. ตีดิดิส!

ผมหันไปมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองก็แทบจะบ้าตาย จางฉี่หลิงหยุดขยับกายก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา มองหน้าจอ

“เพื่อนนาย เฮยเสียจื่อ” ผมขมวดคิ้ว ยังหอบหายใจหนัก เหงื่อพราวระยับไปทั่ว

“ปล่อยมือฉันที”

จางฉี่หลิงเอื่อมมือไปปลดสายรัดโยนทิ้งไปอีกทาง ผมสะบัดข้อมือ ก่อนกดรับโทรศัพท์

“มีอะไรเฮยเสียจื่อ” ผมพูดทักลงในโทรศัพท์

“พรุ่งนี้ฉันจะซื้อของเข้าที่กรม นายจะฝากซื้ออะไรเข้าห้องไหม”

“ไม่ละ…อ๊ะ!”

ผมตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันยกโทรศัพท์หันไปอีกทาง หลับตากลั้นเสียงสะกดอารมณ์ตัวเองเพราะว่าคนบนตัวกำลังเริ่มขยับกายอีกครั้ง นี้เขาคุยโทรศัพท์อยู่นะ!!!

“เป็นอะไรหรือเปล่าอู๋เสีย?” เจ้าแว่นถามสงสัย

“เปล่าไม่มีอะไร…ตกใจ…มากไปหน่อย” ผมชักโทรศัพท์กลับมาคุย กัดฟันตอบทีละคำ เหงื่อบนหน้าพราวมากกว่าเดิม

“นายทำอะไรอยู่เนี้ย”

“เล่นเกมอยู่” ผมเลี่ยงตอบ

“ที่บ้านอะนะ?” เขาถามย้ำ

“อืม…”

“เกมอะไรบอกฉันมั้งสิ”

“ตัวต่อ” ผมกลั้นใจตอบ จางฉี่หลิงเลิกคิ้วมองยิ้มๆ

“ชั้นบนชั้นล่างอะ ว่างๆไว้ไปเล่นด้วย”

“ชั้นล่าง เล่นตัวต่อ แต่อยู่ข้างล่างนะ” ผมยกมือหยิกจางฉี่หลิงที่ค่อมกายลงมาฟังด้วยพร้อมเอาหน้าซุกไซ้ซอกคออย่างพึงพอใจ

“ดีๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปเล่นด้วย ว่างพอดี” เฮยเสียจื่อหัวเราะร่า เหมือนตั้งใจว่าจะมาจริงๆ

จบคำ ขณะที่ผมกำลังจะพูด จางฉี่หลิงก็ยกมือมาคว้าโทรศัพท์ผม กรอกเสียงตัวเองลงไปแทน

“ไม่ต้องมา”

“เชรี้ย!!!!!!!!!!” ผมแหกปากลั่น หน้าตื่น มองเขากดปิดโทรศัพท์โยนมันไปอีกทาง “นายพูดลงไปได้ยั…อ๊ะ…อื้อ…… เสี่ยวเกอ หยุด…เดี..ว นี้ คุยกับ…ฉั…นก่อน”

ผมหอบกระเซ้า จางฉี่หลิงเห็นผมครวญครางทรมานกลับพึงพอใจกระแทกกายเข้ามามากกว่าเดิม ผมอ้าขารับยกมือกอดตัวเขาบิดกายหอบครางรู้สึกเหมือนใกล้จะปลดปล่อย

“ถ้าฉันยังเสร็จไม่ถึง 3 ครั้ง นายอย่าหวังว่าจะได้ปล่อย” จางฉี่หลิงมองผมด้วยตาวาว รวบตัวผมขึ้นนั่งบนตักขยับกายสอดใส่

คราวนี้แจ็คพอตกว่าเดิม ผมกรีดร้องเสียงหลง คร่ำครวญไม่เป็นภาษา อา… นี้มันแกล้งกันชัดๆ



รุ่งเช้าผมมาทำงานในสภาพอ่อนแรง เดินเข้าห้องประจำตำแหน่ง ที่มีผมกับนายแว่นดำนั่งกันอยู่ 2 คนเท่านั้น พอเดินมาถึงโต๊ะผมก็ฝุบหน้าลงทันที

“…นายจะพักก่อนไหม” ผมหันไปมองเฮยเสียจื่อเห็นเขาลดหนังสือพิมพ์ของวันนี้ลงมามองผม “สภาพนายวันนี้แย่มาก รู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าที่กรมตำรวจนี้ตัวเองหน้างาบขนาดไหน”

“งาบพ่อง! ไอ้โรคจิต” ผมเงยหน้าด่า แม้แต่เสียงยังแหบแห้ง

“เอ้า! พูดความจริงก็มาด่ากัน ตั้งแต่นายเปิดประตูเดินเข้ามา มีใครบ้างไม่เหลี่ยวมองนายคอแทบหัก” นายแว่นก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์ต่อเหมือนไม่สนใจ

“โดยเฉพาะวันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เหมือนออร่าฟีโรโมนสีชมพูฟรุ้งฟริ้งลอยออกมาเต็มตัวไปหมด ทางทีนะอู๋เสีย วันนี้นายควรกลับบ้านไปนอนดีๆ ก่อนที่พักกลางวันจะมีพวกยอมตายลากนายเข้าห้องเก็บของ ก่อนโดนนายเอาลูกซองของกลาง เป่ากบาลดับอนาจเป็นการจบชีวิตที่หน้ารันทดสิ้นดี จริงไหม?”

ผมหันไปมองแยกเขี้ยวขาววาววับ ฟังเขาพูดจาไร้สาระก็หยิบปากกาปาใส่เขา เจ้าตัวเพียงยกหนังสือพิมพ์ปิดหน้า ก้มหน้างุดๆ หลบเลี่ยงไปอีกทางยิ่งน่าโมโหสิ้นดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนึกถึงคำพูดของใครบางคนที่เจอกันเมื่อวาน

‘อีก 3 วันฉันต้องไปส่งของแถวเขตนายอีก ถ้ารอบนี้นายยังมาขวางฉันไม่เลิก การเตือนในครั้งนี้จะเพิ่มทวีขึ้นไปอีก’

บัดซบ!!! ยิ่งคิดแล้วยิ่งเจ็บใจ

ผมยกมือทุบโต๊ะ ปั้งๆ จนเฮยเสียจื่อยังสะดุ้ง มองผมเป็นเหมือนผู้หญิงขี้วีนคนหนึ่งกำลังเมนมา อารมณ์เสียเหวี่ยงไม่หยุด ผมมองเขาเขม็ง

“เฮยเสียจื่อ!!! นายเช็คของกลางสิว่ามีอะไรสูญหาย ถ้าพบความผิดปกติ ลากคอแม่มมาให้ฉันได้เลย” ผมกล่าวฉุนเฉียวหัวเสียเล็กน้อย ก่อนจะกระชับลงไปอีกคำสั่ง

“และก็เปิดประชุมให้ด้วย วันนี้ฉันจะแจกเอกสารสั่งตรวจน่านน้ำและโกดังเก็บของ แถวเขต 8 ทั้งหมด ใครมาช้าแม่แต่คนเดียว…”

เฮยเสียจื่อกลืนน้ำลายลงคอ พับหนังสือพิมพ์ลงโต๊ะถอยอย่างหวาดๆ มองผมกัดฟันพูดออกมาทีละคำ พร้อมยกนิ้วปาดคอกล่าวคำสุดท้าย

“มันตาย!!!!”

=====================================================

จบการเขียน (เอาการ์ดป้องกันการโจมตี ก่อนสะบัดปีกบินพรึบ ลงหลุมสุสานไปลึกขึ้นกว่าเดิม)
อย่าทำฉ้านเลย..................... XD


แก้ไขล่าสุดโดย faliona01 เมื่อ Mon 15 Dec 2014, 12:23, ทั้งหมด 1 ครั้ง
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3758
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by casey Mon 15 Dec 2014, 02:08

มันช่างร้อนแรง คุณตำรวจอู๋ทำไมเซ็กซี่ขนาดนี้คะ
casey
casey
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3597
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by karnalone Mon 15 Dec 2014, 12:05

มันแจ่มมากค่ะ!!

อู๋เสียร้อนแรงมาก เซ็กซี่มาก 

ไอ้เราก็นึกว่านายจะคุณธรรมจ๋าซะอีกนะ คิดๆ อยู่ว่าอย่างอู๋เสียนี่น่าจะไปเป็นพ่อค้าโลกมืดมากกว่าตำรวจนะ //โดนต่อย  แต่อ่านมาเรื่อยๆ  นายมาถูกทางแล้วล่ะ ยิ่งมาจับคู่กับแว่นอีก โคตรเข้ากัน ๕๕๕๕ 

อู๋เสีย เสี่ยวเกอ เสี่ยวฮัว นี่รู้กันใช่มั้ยเนี่ย แล้วนั่นรวมแว่นด้วยเปล่าคะ ๕๕๕๕  นี่แว่นมันนับว่าที่เสี่ยวฮัวส่งสไนเปอร์มายิงทุกครึ่งเดือนคือการส่งคำทักทายบอกรักรึไง ๕๕๕ ชอบ แว่นโรคจิตได้ใจดีแท้  คุณชายมานิดเดียวแต่ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ออก  นึกภาพคุณชายนับในคลับสวมบทอันดับสองโลกใต้ดินค้าทาสแล้วมันได้อารมณ์มากฮะ

ชอบมากเลยค่า //คารวะ มีต่อมั้ยคะ ถ้ามีจะรอนะคะ//ปูเสื่อจิบชา

karnalone
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 115
Points : 3608
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Mon 15 Dec 2014, 12:34

โอ๊ยยย แบบนี้มัยใช่เลย! เสี่ยวเกอมาดผู้ร้ายนี่มันก๊าวใจสุดๆ >< แลดูเป็นหนุ่มเอสอีกต่างหาก นายน้อยเองก็แสบใช่ย่อย แถมดูท่าจะร้ายไม่ใช่เบา เสี่ยวเกอถึงกับเอาแทบไม่อยู่
คู่แว่นกับคุณชายก็บอกรักกันได้เอสเอ็มดีจริงๆ คุณชายรักมากถึงกับต้องส่งสไนไปจ่อยิงทุกเดือนเชียวนะคะ อยากเห็นพาร์ทของสองคนนี้จัง อยากรู้ว่าใครจะถูกใครกดก่อนกัน ถถถถ
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Narakas Mon 15 Dec 2014, 16:35

เป็น OS ที่ยาวสะใจมากค่าาาาา
ตอนแรกก็คิดว่าเสี่ยวเกอมาดผู้ร้าย ดูไม่ค่อยเข้ายังไงก็ไไม่รู้ มาอ่าน อื้อหือออออ มันใช่เลยยยยยย ผิงเสียนี่แต่งแบบไหนก็แซ่บค่ะะะะ (ยกเว้นดราม่า...)

จะติดตามฟิคผิงเสียเรื่องถัดไปนะคะ ><
Narakas
Narakas
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 263
Points : 3852
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Duke_of_Florence Mon 15 Dec 2014, 16:47

อ่านจบแล้ว ชอบการวางพล็อตและตัวละครของไรท์เตอร์ ตั้งแต่ซีรีส์สวรรค์แล้ว ไม่จำเจดี แถมนายน้อยอู่เสียของคุณยังแสบสัน ช่างต่อปากต่อคำ ยั่วโมโหและท้าทายเสี่ยวเกอตลอดเวลา นายน้อยแบบไม่เทียนเจินนี่มันก็ก๊าวไปอีกแบบนะ ทั้งเสี่ยวเกอทั้งอู๋เสียนิสัยไม่เหมือน original 100% แต่ก็ไม่หลุดคาร์จนน่าเกลียด ประมาณนี้ล่ะ กำลังดี เพราะเป็น AU ด้วยนี่เนอะ ว่าแต่จะเขียนเป็นเรื่องยาวรึเปล่า น่าจะต่อได้อีก เพราะเห็นมีเกริ่นถึงคู่เฮยฮัวด้วย จะรอติดตามต่อนะ รอซีรีส์สวรรค์ด้วย กดดันไรท์เตอร์เยอะๆ 555
Duke_of_Florence
Duke_of_Florence
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 113
Points : 3590
Join date : 31/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Tang_An-An Mon 15 Dec 2014, 19:47

อร้ายยยยยยยยย
เรื่องแนวนี้สเปกเลยเจ้าค่ะ
อู๋เสียเซ็กซี่สุด ๆ แต่เก่งเกินไปนะ555555
แอบมีเสี่ยวฮัวกับนายแว่นด้วยยย
หวังเหมิงน่าสงสารทำไมนายไม่ได้ขึ้นเงินเดือน
ส่วนเหลาหย่างมาจากไหน ฉันว่านายต้องเป็นไอ้คนปลอมเอกสารซื้อขายอาวุธของอู๋เสียแหง ๆ
สุดท้ายขอบคุณสำหรับฟิคดีๆ นะเจ้าคะ><รักไรเตอร์ จุ้บ ๆ
Tang_An-An
Tang_An-An
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 225
Points : 3704
Join date : 29/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : ร่อนเร่พเนจรไปตามท้องทุ่ง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Dreamy Tue 16 Dec 2014, 11:15

.................................. // พบด้วงนอนตายคากองเลือดปริศนา
คือมันฟินมากกกกกกกก นายน้อยช่างเป็นตำรวจที่ร้อนแรงอะไรเช่นนี้
ชอบการวางโครงเรื่องมาก แอบขำตอนนายแว่นเล่นมุขประตูเลื่อน คือยังกล้าเล่นเวลานี้นะนาย ฟฟฟฟฟ

ฟิคสนุกมากเลยค่ะ -w-b
Dreamy
Dreamy
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 124
Points : 3605
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Amzinas Wed 17 Dec 2014, 23:59

เฮ้ย ชอบบบบบบ มันได้ฟีลมากอะ มีต่อเถอะนะนะ
เวอร์ชั่นนี้ดูแมนๆ+เซ็กส์ซ๊่มากเลย
แอบคิดว่านายน้อยกับเสี่ยวเกอ แล้วตาแว่นจะเป็นไงกับเสี่ยวฮัว
ชอบบบบบบ

Amzinas
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 28
Points : 3509
Join date : 02/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Ak_Zokyo Sun 21 Dec 2014, 15:49

จริงๆไม่คิดว่าจะอ่านผิงเสียพิศาลได้... เคยคิดว่าคาร์ไม่ส่ง แต่วันนี้เจอ AU อันนี้แล้วเปลี่ยนใจ โอเค ถ้าเป็นเซตติ้งAUนี้โอเคเลยค่ะ คุณพระ... นี่มันแซ่บ!!

ตอนแรกตกใจเซทติ้ง นายน้อยกะนายแว่นเป็นตำรวจ เสี่ยวเกอกะเสี่ยวฮัวเป็นผู้ร้ายเหรอ อ่านไปอ่านมา เข้าใจเลย อู๋เสียเอ๋ย นายเป็นตำรวจมือสะอาดไม่ได้หรอก แบบนี้ยิ่งแซ่บไปใหญ่เลยค่ะ ส่วนที่OOCแต่คิดตามAUแบบนี้เราให้ผ่าน ฟฟฟฟฟฟฟฟ

สงสารเหลาหย่างกะหวังเหมิงค่ะ (ถึงใจนึงเราจะคิดว่าใช้ชื่อเซี่ยจื่อหยางมาขอแต่นายน้อยจำไม่ได้ จำได้แต่เหลาหย่างจะเรียลกว่าก็เถอะ) ไม่ขึ้นเงินให้หวังเหมิงเพราะบ้านมีตัง นายน้อยยยย แย้แย่ 55555555 นี่มันจะน่าเศร้าไปแล้ว 55555555555


faliona01 พิมพ์ว่า:“ใช่! เผาทั้งเป็น ระทึกใจดีไหมละ?”

“หยาบคายจริง! นี้ละเสน่ห์ของเซี่ยอวี่เฉิน ยังไม่นับที่เขาส่งสไนเปอร์มาลอบยิงฉันทุกๆวันที่ 15 ของเดือนอีกนะ นายว่าน่ารักไหมละ”


แอบชอบท่อนแว่นโม่ยให้วิธีบอกรัก(?)ของคุณชายจัง ส่งลูกปืนมาเป็นของขวัญ จับนั่งยางระเบิดภูเขาเผากระท่อมเป็นการบอกรักแบบนี้ แงงงง โอย ชอบอ่ะ ชอบกว่าที่คิดค่ะ ช่วงถึงบ้านทั้งช็อตกุญแจมือ ปลดกระดุม กระป๋องเบียร์ โต๊ะหินอ่อน เข็มขัด โซฟา ทำไมจุดเรียกเลือดเรื่ยราดแบบนี้คะ ไม่รู้จะสกรีมในอันไหนก่อนเลย /แฮ่ก ชอบบทสนทนาด้วย ดูเถื่อนๆทันๆกันดีค่ะ ชอบมากๆเลย

หวังว่าจะได้เห็นฟิคอื่นต่อจากเซ็ตติ้งมาเฟียที่รัก(?)นี้อีกนะคะ ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านกันค่า
Ak_Zokyo
Ak_Zokyo
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 154
Points : 3657
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Nepenthes Fri 09 Jan 2015, 17:30

แห่มมมม /////
Nepenthes
Nepenthes
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 42
Points : 3457
Join date : 01/01/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Sun 18 Jan 2015, 17:57

ตายแล้วค่ะ.. /แงง

ฟืดดดดด ฟิคนี้เลิศมากค่ะ เขียนต่อเถอะค่ะเขียนต่ออออออ T////T ผิงเสียเซ็ทติ้งนี้แซร่บมากก แงงง ขอโทษที่มาเมนต์ช้ามากนะคะ คือเผอิญเพิ่งมีโอกาสได้มาลองอ่าน่คะฟืดดดด //ตายสนิทไม่เหลือชีวิตค่ะ แฮ่กๆๆๆๆ

sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4065
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC) Empty Re: [OS] Mafia and police ล่า รัก สุดขอบฟ้า [ผิงเสีย] (NC)

ตั้งหัวข้อ by Starsong Mon 19 Jan 2015, 23:16

กรี๊ดดด!!! อู๋เสียฟิคนี้ไม่เทียนเจินแล้ว //ดีใจจจ XD

ชอบที่ดูจะเจ้าเล่ห์&เถื่อนมากขึ้นกันทั้งคู่ นายน้อยอัพเซะกุซี่ขึ้น2000%
ส่วนนายเมินนี่นิ้วคล่องจังนะคะ จะปลดจะถอดนี่สำเร็จในวิเดียว! ยิ่งตอนยักคิ้วให้นายน้อยทีนี่ทำด้วงตายค่ะะะ >__<bb
แต่ถึงนายน้อยอัพสกิลแล้วยังไงก็ยังสู้นายเมินไม่ได้อยู่ดีเนอะ ฮา
ฉากที่บู๊ใส่กันหน้าบ้านนี่มันส์มากก แต่ฉากบู๊(?)ที่โซฟาลุ้นระทึกยิ่งกว่า (แฮก *.,*b)

“ไม่ว่าจะเรื่องบนเตียงของเขายันค้ายาเสพติดข้ามชาติมีหรือผมจะไม่รู้” สะดุดใจกับประโยคนี้มากกกค่า คือเรื่องแรกเนี่ยรู้ดีเพราะอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วยทุกครั้งใช่ป่าวคะ??? เอร๋ย //////v/////
(โดนจับขังห้องมืด แงแง...)

ยังไงๆก็รู้สึกว่ามาดนายแว่นนี่ไม่เหมาะกับตำรวจเอาซะเลย เหมือนค่อนไปทางมือปืนหรือมาเฟียจะใช่มากกว่า แต่แบบนี้ก็ได้อารมไปอีกแบบแฮะ ><

ปล. มองหมายเหตุแล้วขยี้ตาอีกที ทำไมเป็น one short ล่ะคะ??? มันควรเป็นฟิคยาวไม่ใช่เหรอออ จะรอตอนต่อไปนะะะ รอพาร์ทSMของเฮยฮัวด้วย อ้อ! ซีรีย์สวรรค์ก็ยังรออยู่นะคะะะ //ออดอ้อนไรต์เตอร์ ;;v;;

ปล.อีกที เหลาย่างก็โดนลืมอีกแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าหมังเหมิงนะ ไม่โดนลืมก็จริง แต่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือนนี่เจ็บปวดกว่าอีก ;;[];;
Starsong
Starsong
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3491
Join date : 13/01/2015
ที่อยู่ : ในถ้วยชาอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ