Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

+8
rainyday515
oilypicca
Nathael
meanato
aathewolf
Fenrir
Naitear
MinMin
12 posters

Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by MinMin Wed 29 Oct 2014, 00:55




สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน






ผมกำลังใช้เสียมตอกลงดินเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้เมื่อตอนที่ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง

“เสียแรงที่อุตส่าห์คว่ำกรวยด้วยกันมานาน นายแม่งคิดจะเก็บเอาไว้คนเดียว”

เสียงของนายอ้วนดังมากจนผมสะดุ้งเผลอปล่อยเสียมในมือหลุด เขาเดินออกมาจากที่ไหนสักแห่งที่ผมไม่ทันสังเกต ท่าทางกระฟัดกระเฟียดพร้อมจะต่อยคนทันทีถ้าผมไม่มีคำอธิบายที่ดีพอสำหรับการออกมาขุดดินคนเดียวแบบนี้

“ฉันก็คิดแล้วเชียวว่ามันแปลกๆ ไอ้แผ่นกระดาษเก่าๆนั่นมันคือแผนที่สุสานใช่มั้ย” นายอ้วนโวยวายใส่ผม “ตอนที่ฉันถามนายก็เอาแต่บ่ายเบี่ยง หมามันยังรู้บุญคุณคน นายมันยิ่งกว่าหมา ที่ผ่านมาช่วยเหลือกันแทบตาย แต่พอมีของดีก็ไม่แบ่ง”

นายอ้วนด่าผมไม่ยั้ง ไม่เว้นจังหวะให้ผมได้อธิบายเลยสักนิด ผมทั้งเหนื่อยทั้งท้อจากการขุดดินมาครึ่งค่อนวันแล้วยังต้องมาเจอเขาโวยวายใส่แบบไม่รู้เรื่องอย่างนี้ ความอดทนของผมจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว ผมหยิบกระดาษที่ถูกเก็บไว้นานจนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แห้งกรอบแหว่งขาดบางส่วนมาให้เขา

“นายอยากได้นักก็เอาไป มันไม่ใช่แผนที่สุสานห่าเหวอะไรทั้งนั้น อยากไปคว่ำกรวยตักดินที่ไหนก็ไป” ผมบอกนายอ้วน ไม่สนใจท่าทางหงุดหงิดบ่นงึมงำของเขา ผมกำลังจะหยิบเสียมขึ้นมาขุดดินต่อ แต่ก็พบว่ามีใครอีกคนอยู่ด้วย

เมินโหยวผิงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าผมตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เขาถือเสียมของผมอยู่ ท่าทางเหมือนจะไม่ยอมคืนให้ง่ายๆ

“นายก็จะหาเรื่องฉันอีกคนใช่มั้ย” ผมถามอย่างหงุดหงิด นี่มันเวรกรรมอะไรของผมวะเนี่ย อุตส่าห์ออกเดินทางมาเงียบๆคนเดียว ไอ้พวกนี้ยังตามมารังควานอีก แม่งเอ๊ย!!!

“ที่นี่ไม่มีสุสาน” หน้านิ่งๆของเขามีรอยย่นเล็กน้อยจากการขมวดคิ้วสงสัย “นายจะขุดหาอะไร”

“ไม่เกี่ยวกับนาย” ผมยื่นมือออกไปเป็นสัญญาณว่าขอเสียมคืน แต่เมินโหยวผิงไม่มีทีท่าว่าจะขยับ กลับเป็นนายอ้วนเสียอีกที่ถามด้วยเสียงดัง

“ที่นี่ไม่มีสุสาน? น้องเสี่ยวเกอ เป็นความจริงเหรอ” พอเห็นเมินโหยวผิงพยักหน้า นายอ้วนก็หันทางผม “งั้นนายจะมาลับๆล่อๆทำอะไรแถวนี้”

...ผมจะอธิบายตัั้งนาน นายอ้วนไม่ฟัง แต่พอเมินโหยวผิงพูดไม่กี่คำก็เชื่อเลย โคตรไม่ยุติธรรม

“ฉันก็บอกนายตั้งแต่แรกแล้วว่าไอ้นั่นมันไม่ใช่แผนที่ลายแทงสุสานอะไรทั้งนั้น นายแม่งก็ไม่ฟัง”

“ก็นายทำตัวน่าสงสัยนี่หว่า ถ้านายอธิบายอย่างจริงใจไม่ทำท่าทางพิรุธเหมือนพวกโจรขโมยของ คนอย่างเสี่ยอ้วนมีหรือจะไม่ฟัง” นายอ้วนกลับคำเปลี่ยนท่าทีเร็วยิ่งกว่ากิ่งก่าเปลี่ยนสี “เอาน่า เสี่ยวอู๋ พวกเราร่วมเป็นร่วมตายกันมามาก นายก็รู้ว่าเสี่ยอ้วนไว้ใจได้ น้องเสี่ยวเกอก็เชื่อถือได้ มีเรื่องอะไรต้องปิดบังด้วยหรือ”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกนาย” ผมยืนยันคำเดิม กำลังจะขอเสียมคืนจากเมินโหยวผิง แต่พอหันไปเห็นสีหน้าของเขา ผมก็เผลอกลืนน้ำลายก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ

จริงๆหน้าของเขาก็ยังนิ่งเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ผมสัมผัสได้ถึงความสงบก่อนพายุมาเยือน เหมือนเมื่อครั้งที่อยู่ในสุสาน เวลาที่ผ่านสถานการณ์สงบเรียบร้อยทีไร เรื่องต่อไปต้องเป็นเรื่องซวยจนแทบเอาชีวิตไม่รอดทุกที ผมบอกตัวเองซ้ำว่านี่คือเมินโหยวผิง ไม่ใช่ผีแม่ย่าหรือศพโลหิตอะไรทั้งนั้น และที่ที่ผมอยู่ตอนนี้ก็คือแถวชานเมืองที่มีรถผ่านไปมา ยังมีนักท่องเที่ยวแวะมาเป็นพักๆ ไม่ใช่ในสุสานที่เต็มไปด้วยกับดักกลไก

“นายว่าน้องเสี่ยวเกอแปลกไปมั้ย” นายอ้วนกระซิบถาม ผมถึงได้รู้สึกตัวว่าก้าวถอยหลังมาหลายก้าว ห่างจากเมินโหยวผิง แต่จากประสบการณ์แล้ว ถ้าเขาคิดจะหักคอผมจริงๆ ต่อให้ห่างมากกว่านี้ ผมก็ไม่รอดอยู่ดี

เสียงของเสียมปักลงดินทำให้เราสองคนสะดุ้ง ผมกับนายอ้วนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เหงื่อซึมหลังทั้งที่อากาศไม่ร้อน แล้วในวินาทีต่อมา เมินโหยวผิงก็หันหลังเดินไป ส่วนผมกับนายอ้วนยังตะลึงไม่หาย กว่าพวกเราจะได้สติกลับมา เมินโหยวผิงก็เดินหายไปไกลเสียแล้ว

“น้องเสี่ยวเกองอนไปแล้ว นายมัวแต่เล่นตัว เป็นไงล่ะ”

“งอนบ้าอะไรล่ะ นายแม่งยุ่งไม่เข้าเรื่อง จะตามมาทำไม” ผมอดสบถด่าเขาในใจไม่ได้ คราวนี้เรื่องที่มันจะง่ายเลยไม่ง่าย แทนที่ผมจะรีบทำธุระแล้วรีบกลับ ต้องมายุ่งวุ่นวายกับสองคนนี้อีก

“นายก็อธิบายมาสิ”

ผมสูดหายใจเข้า มองนายอ้วน จากการแต่งตัวและอุปกรณ์ที่สะพายอยู่บนหลัง บอกชัดเจนว่าเขาตั้งใจจะมาคว่ำกรวย ความพร้อมที่มีการเตรียมการแบบนี้แสดงว่าเขาตั้งใจจะตามผมมาตั้งแต่รู้เรื่องกระดาษแผ่นนั้น แถมยังพาเมินโหยวผิงมาด้วยอีก...นายอ้วนแม่ง คิดแต่จะขุดหาสมบัติจริงๆ ตัวเองทำมาค้าขึ้นกิจการขยายใหญ่โตขนาดนี้ยังไม่พออีกหรือไงวะ

ผมจุดบุหรี่สูบหนึ่งมวน ก่อนจะขอกระดาษเก่าๆคืนมาจากเขา คลี่กางมันออกมาอย่างเบามือเพราะกลัวมันขาดเพิ่ม ร่องรอยการขีดเขียนเส้นดูไม่เหมือนแผนที่ หากให้เปรียบแล้วคงเหมือนการขีดเส้นเล่นๆของใครสักคนมากกว่า

...จริงๆก็ไม่ต้องเปรียบหรอก เพราะมันเป็นรอยขีดเขียนที่ผมทำขึ้นมาเอง

ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน นายอ้วนมาขอให้ผมช่วยตีราคาของให้ ตอนนั้นผมกำลังวุ่นกับการจัดของเก่าในร้าน จึงบอกให้เขารอ ถ้ารอไม่ได้ก็ไปที่ไหนก่อนก็ได้แล้วค่อยมาอีกทีหลังผมปิดร้าน

แต่ไม่รู้วันนั้นนายอ้วนกินอะไรผิดเข้าไป ถึงได้อาสาจะช่วยผมจัดของ ผมไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องวุ่นวายตามมาอย่างนี้ไม่งั้นผมคงไล่เขากลับไปแล้ว

ผมให้นายอ้วนไปช่วยหวังเหมิง ส่วนตัวเองจัดการเอกสารบนโต๊ะ งบบัญชีตัวแดงเต็มพรืดทำให้ผมเริ่มเครียด ได้ยินเสียงนายอ้วนพูดเรื่อยเปื่อยไม่หยุด ไอ้โน่นน่าสนใจ ไอ้นี่ท่าทางราคาดี ฟังไปสักพักก็เริ่มหนวกหู ผมเลยส่งสัญญาณบอกให้หวังเหมิงพาเขาไปนั่งดื่มชาที่ไหนสักแห่ง ทำยังไงก็ได้ให้เขาหุบปากเสียที ผมตรวจบัญชีไม่รู้เรื่อง

ตอนนั้นเองที่นายอ้วนถามขึ้นมาว่า

"มีกระดาษอะไรอยู่ในไหนี่ด้วย"

นายอ้วนถือไหใบหนึ่ง ยกขึ้นส่อง ท่าทางเหมือนส่องกล้องดูดาว ท่ามกลางกองไหที่หวังเหมิงรื้อออกมา ผมหันไปมองหวังเหมิงถามด้วยสายตาว่าเขารู้เรื่องนี้มั้ย พอเห็นเขาส่ายหน้า ผมก็สบถในใจ แม่ง นายอ้วนมาไม่ถึงชั่วโมงเจออะไรแล้วก็ไม่รู้ ส่วนลูกจ้างร้านอยู่มาตั้งนานดันไม่รู้อะไรเลย เอาไว้ผมจะหักเงินเดือนของเขา

ตอนที่ผมเดินไปถึง นายอ้วนก็หยิบกระดาษเก่าๆแผ่นหนึ่งออกมาจากไหแล้ว ทั้งที่ปากไหเล็กกว่ามืออ้วนๆของเขาพอสมควร เขาล้วงมันออกมาได้ยังไง ผมสงสัยจริงๆ

"เสี่ยวอู๋ นี่คือแผนที่สุสานหรือเปล่า"

ผมดึงกระดาษมาจากนายอ้วน ทั้งที่ผมแน่ใจว่าออกแรงไม่มาก แต่มันกลับทำให้กระดาษเกิดรอยฉีกขาดแทบจะแบ่งเป็นสองส่วน ผมรีบบอกให้นายอ้วนปล่อยมือ แล้วเอามันมากางบนโต๊ะ

กระดาษเก่าๆ แห้งกรอบเป็นสีเหลือง มีรอยแหว่งขาดเหมือนถูกสัตว์เจาะแทะ และล่าสุดมีรอยฉีกขาดตรงกลาง ทำให้เนื้อหาบางส่วนดูไม่ต่อกัน ผมขมวดคิ้วมองเส้นที่ขีดเขียนยุ่งเหยิงทั่วทั้งแผ่น มีทั้งเส้นโค้งเป็นรูปคล้ายภูเขา เส้นวาดขดๆเหมือนก้อนอะไรสักอย่าง วงกลมกระจัดกระจายทั่วดูไม่มีความหมาย นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มอาชีพนี้ที่ผมมองหาสาระจุดสนใจจากแผ่นกระดาษตรงหน้าไม่ได้เลย

ผมใส่แว่นตา ค่อยๆไล่ดูอย่างละเอียดอีกครั้ง มีเสียงนายอ้วนถามเป็นระยะ ผมบอกให้เขาเงียบ เพราะต้องการใช้สมาธิ ผมจับเนื้อกระดาษมันไม่เก่ามาก ไม่น่าจะเกินยี่สิบปี เส้นที่เขียนไว้ก็น่าจะเป็นหมึกปากกาที่หาได้ไม่ยาก ดูจากสีของเส้นที่ขีดเขียนยิ่งสนับสนุนความคิดที่ว่ามันไม่ใช่ของเก่าอะไรมากมาย

หรือจะมีใครแกล้งเล่น เอาไปใส่ไว้ในไห

ผมเลื่อนสายตา ไล่ไปเรื่อยๆจนถึงมุมด้านล่างของกระดาษ สังเกตเห็นเส้นขีดตรงนี้ประหลาดกว่าที่อื่น เค้าโครงของเส้นแปลกๆพวกนี้ดูคุ้นเคยมาก หลังจากเพ่งมองอยู่ประมาณบุหรี่หนึ่งมวน ผมก็เริ่มมองเห็นว่ามันมีส่วนที่น่าจะเป็นตัวอักษรในเส้นเหล่านั้น พอเริ่มเห็นว่าเป็นตัวอักษร ผมก็นึกอะไรบางอย่างออกมาได้ หันไปรื้อค้นของจากชั้นหนังสือ เปิดลิ้นชักวุ่นวายไปหมดจนนายอ้วนถามว่า

"เจออะไรแล้วเหรอ"

ผมส่ายหน้า แต่มือก็รื้อค้นของต่อไปจนกระทั่งเจอสมุดเก่าๆเล่มหนึ่งที่ผมเคยใช้สมัยเด็กๆ เพียงเปิดไปหน้าแรก ผมก็เข้าใจทันทีว่ากระดาษที่เหมือนถูกขีดเขียนแกล้งเล่นนั่นคืออะไร เส้นอักษรยึกยือแปลกๆนั่นคือชื่อผมกับเหลาหย่างนั่นเอง

เชี่ย!!! ผมลืมไปแล้วว่านี่เป็นแผนที่ที่ผมกับเหลาหย่างช่วยกันเขียนขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นผมยังเด็ก เอาเรื่องที่ฟังจากปู่ไปเล่าให้เหลาหย่างฟัง แล้วเกิดนึกสนุกกันสองคนตามประสาเด็กที่ฟังเรื่องผจญภัยแล้วตื่นเต้น อยากไปขุดสุสานบ้าง แต่ด้วยความที่ยังเด็ก ยังไงก็ไม่มีทางไปขุดสุสานได้ พวกเราจึงหาของมาฝังลงดิน แกล้งทำเป็นฝังสมบัติสร้างสุสานย่อมๆแบบเด็กเล่นเอาไว้ จากนั้นก็ช่วยกันเขียนแผนที่ ผมเขียนบ้าง เหลาหย่างเขียนบ้างจนเส้นดูมั่วซั่วไปหมด กว่าจะเขียนเสร็จก็มืดค่ำดึกดื่น ถูกผู้ใหญ่เดินมาตบหัวพาตัวกลับบ้าน วันต่อๆมา พวกเราจะกลับไปขุดสุสานแต่พอมองแผนที่ก็พบว่ามันไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย เดินตามหายังไงก็ไม่เจอจุดที่เอาของไปฝังไว้เสียที สุดท้ายพวกเราก็ล้มเลิก

มันนานแค่ไหนไม่รู้ แต่เรื่องพวกนี้ผมลบออกไปจากความทรงจำ จนเพิ่งจำได้เมื่อเห็นกระดาษแผ่นนี้อีกครั้ง สงสัยต้องเป็นไอ้เหลาหย่างแน่เลย มันแอบเอามาใส่ไว้ในร้านของผมตอนไหนกัน

“เสี่ยวอู๋ นายเจออะไรจริงๆแล้วใช่มั้ย” นายอ้วนชะโงกมองสมุดบันทึกในมือผม “ไอ้หยา นี่มันอะไรน่ะ อักษรจากบันทึกโบราณงั้นเหรอ”

"บันทึกโบราณบ้านพ่องเอ็งสิ ไอ้กระดาษแผ่นนั้นไม่มีอะไรทั้งนั้น" ผมตอบ เก็บสมุดเก็บกระดาษพับใส่กระเป๋าเสื้อ “ก็แค่กระดาษที่มีใครมาเขียนแกล้งเล่น นายอย่าสนใจเลย” ผมบ่ายเบี่ยง จะให้บอกเขาได้ยังไงว่ามันคือแผนที่ที่ผมเขียนเล่นเอง ดูเองไม่รู้เรื่อง แถมยังจำไม่ได้อีกต่างหาก ลองบอกเขาคงโดนล้อไปอีกสามรุ่น

แต่นายอ้วนยังติดใจสงสัย เขาถามผมอีกหลายครั้ง ผมก็บอกเรื่องของอายุกระดาษ ลักษณะการขีดเขียนหรืออะไรก็ตามแต่ในทฤษฎีเพื่อให้เขาหมดความสนใจ สุดท้ายก็เปลี่ยนไปถามเรื่องของที่เขาจะเอามาให้ผมตีราคา นายอ้วนทำท่าไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็เอาของออกมาให้ผมตีราคา พอหมดธุระ เขาก็ขอตัวกลับทันที

หลังจากวันนั้นผมไม่ได้ติดต่อกับนายอ้วนอีก ผมไม่คิดว่าเขาจะติดใจอะไรนักหนา การจัดของที่ร้านก็ยุ่งวุ่นวาย พอมีเวลาว่าง ผมจึงได้โอกาสหยิบหยิบแผนที่เด็กเล่นนั่นขึ้นมาดูอีกครั้ง พลันคิดถึงเหลาหย่าง ไอ้เพื่อนไม่เจียมตัวที่ไปคว่ำกรวยจนได้เรื่อง ตั้งแต่จดหมายฉบับสุดท้ายที่หลังจากเหตุการณ์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ผมกับเขาก็แทบเป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน พอมาเจอของชวนนึกถึงอดีตแบบนี้ ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ไหนๆก็จะไม่เจอเขาอีกแล้ว ผมขอไปขุดหาของที่เคยลืมไว้สักหน่อย

ผมเตรียมตัวไม่มาก เพราะนี่ไม่ใช่การลงสุสานคว่ำกรวย แค่ตามหาของแบบเด็กๆ เอาไปเท่าที่จำเป็นก็พอ แต่เมื่อมาถึงแล้วผมก็ต้องพบว่าพื้นที่แถบนี้เปลี่ยนไปมาก สัญลักษณ์บนแผนที่ที่ผมพยายามนึกย้อนและถอดความแทบไม่เหลืออยู่เลย ผมจึงต้องอาศัยความทรงจำเลือนรางงมทางไปเรื่อยๆจนมาถึงป่าที่คิดว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่ฝังของเอาไว้ ผมลองขุดดู ขุดแล้วขุดอีก ขุดจนเหนื่อยแต่ก็ไม่พบอะไรที่มีเค้ารางว่าจะเป็นของที่ผมเคยฝังไว้

แม่ง...ผมไม่เคยนึกหงุดหงิดกับความทรงจำของตัวเองมากขนาดนี้มาก่อนเลย แล้วตอนนั้นเองนายอ้วนก็โผล่มาด่าผม

พอฟังผมเล่าจบ นายอ้วนก็จุดบุหรี่สูบ พ่นควันออกมาด้วยสีหน้าเซ็งสุดขีด

“นายก็ดันทำตัวน่าสงสัยแบบนั้น เรื่องมันก็แค่นี้เอง”

“เออ มันไร้สาระ เพราะฉะนั้นถึงได้บอกไงว่าไม่เกี่ยวกับพวกนาย” ผมจุดบุหรี่สูบอีกมวน พอเงยหน้ามองท้องฟ้าครึ้มๆก็เริ่มสังหรณ์ใจว่าอีกไม่นานฝนคงตกแน่ “นายกลับไปเถอะ ไม่มีสมบัติอะไรทั้งนั้น”

“นายแน่ใจใช่มั้ยว่าไม่ได้อ่านแผนที่มั่วซั่วนั่นผิด” นายอ้วนถามเหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด “ใช่แถวๆนี้แน่นะ”

ผมพยักหน้า คิดว่าถ้าขุดแถวนี้ไปอีกสักพักจนฟ้ามืดแล้วยังไม่เจอ ก็คงถอดใจกลับแล้วค่อยมาขุดใหม่พรุ่งนี้ พออัดบุหรี่เข้าปอด ผมก็เตรียมจะขุดต่อ แต่พอหันไปหาจุดที่ผมจำได้ว่าเมินโหยวผิงปักเสียมลงไป ก็พบว่ามันมีแต่ความว่างเปล่า

เสียมของผมหายไป?

ผมหันไปหานายอ้วน เห็นเขาถือเสียมอยู่ในมือก็พูดทันที “พอไม่ได้สมบัติอะไร นายเลยจะขโมยเสียมของฉันไปเลยเหรอ”

“นี่เสียมของฉัน ฉันจะขโมยของนายไปทำเศษเหล็กอะไร เสียมของนายก็อยู่...อ้าว” นายอ้วนหยุดคำพูดที่จะเอาไว้ด่าผมเมื่อพบว่าเสียมที่เคยปักลงพื้นไม่อยู่แล้ว พวกเรามองหน้ากัน ในเมื่อไม่ใช่เขา ไม่ใช่ผม แล้วมันจะหายไปได้ยังไง

...หรือว่าแม้แต่ที่นี่ก็ยังมีผี

“คงเป็นน้องเสี่ยวเกอ” นายอ้วนพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาไม่แน่ใจ แต่ผมก็คิดว่าอย่างน้อยมันน่าเชื่อกว่าความคิดของผม ที่ผมไม่เข้าใจคือเมินโหยวผิงเดินกลับมาตอนไหน และเขาจะเอาเสียมของผมไปทำไม

“นายเอาเสียมของฉันไปใช้ก่อน ฉันจะไปหาเสียมอันใหม่มา” ผมรับเสียมมาจากนายอ้วนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจจนเขาด่า “นายมันเทียนเจินอู๋เสีย เสี่ยอ้วนลงทุนออกมาแล้ว ยังไงก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้าง แค่ช่วยสหายตามหาของนิดหน่อย เสี่ยอ้วนไม่แล้งน้ำใจขนาดนั้น”

ถ้าเวลาคว่ำกรวยด้วยกันเขาจะมีน้ำใจแบบนี้ไม่หนีไปก่อนคนเดียว ผมคงจะเชื่อคำพูดของเขามากกว่านี้

นายอ้วนแยกไปหาของมาช่วยขุด ผมที่เหลืออยู่คนเดียวก็มองแผนที่ สลับกับมองสถานที่รอบตัว ก่อนจะตัดสินใจเดินลึกเข้าไปข้างใน หาจุดที่น่าจะใช่แล้วเริ่มขุดดิน

ขุดลึกไปได้สักหน่อยแล้วไม่เจออะไรผมก็เปลี่ยนที่ ขุดๆเดินๆอยู่อีกพักใหญ่ จนเริ่มรู้สึกว่าท้องฟ้ามืดครึ้มลงเรื่อยๆ ถ้าผมกลับก่อนตอนนี้แล้วสวนทางกับนายอ้วนคงไม่ดี ผมจึงเดินหาจุดที่จะขุดต่อไป แต่เดินไปได้ไม่นานก็เจอเมินโหยวผิง เสียมของผมอยู่กับเขาจริงๆด้วย แม่ง! นอกจากจะหายตัวเก่งแล้วเขายังพัฒนาหยิบฉกของเก่งด้วย แต่จะว่าไปโจรขุดสุสานอย่างพวกเราถ้าหยิบฉกของไม่เก่งคงไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว

ผมกำลังจะเรียกเขา เมื่อตอนที่เขาปักเสียมลงดิน เสียงของเสียมกระทบบางอย่างดังกังวานไปทั่วป่าที่เงียบสะงัดแห่งนี้ ผมไม่รอช้า รีบวิ่งไปดูทันที เมินโหยวผิงเห็นผมก็ไม่ได้มีสีหน้าแปลกใจอะไร เขาถอนเสียมออก ตักขุดดินเพียงไม่กี่ครั้ง ก็พบกล่องไม้เก่าๆถูกฝังอยู่ในดิน ผมก้มตัวลง ใช้มือปัดกวาดดินออกจากมัน พอเห็นชัดเจนก็พบว่านี่คือของที่ผมกับเหลาหย่างเอามาฝังไว้จริงๆด้วย

ผมใช้มือขุดด้วยความตื่นเต้น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เมินโหยวผิงหยุดยืนมองเฉยๆ ความสนใจของผมทั้งหมดอยู่ที่กล่องไม้ ความทรงจำเมื่อตอนที่เอามันมาฝังไว้พร้อมกับเหลาหย่างเริ่มกลับมาชัดเจน ใจเต้นรัวเมื่อสามารถหยิบมันขึ้นมาได้ ผมกำลังจะเปิดกล่องแต่ติดที่เมินโหยวผิงใช้สองนิ้วของเขากดมันเอไว้เสียก่อน

ผมมองหน้าเขา เห็นคิ้วขมวดเล็กน้อย “มีปัญหาอะไรเหรอ” ผมถาม ถึงจะจำมไม่ได้ว่าของที่เอาไปฝังไว้คืออะไร แต่ของที่เด็กเอาไปฝังมันคงไม่มีอันตรายร้ายแรงอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีโอกาสโตขึ้นมาจนตอนนี้ได้

เมินโหยวผิงไม่ตอบ เขาชักมือกลับเหมือนเป็นสัญญาณให้เปิดกล่องได้ ผมไม่รอช้าที่จะดูของข้างใน ในหัวเต็มไปด้วยความอยากรู้ ความรู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างจากเวลาเปิดโลงศพในสุสาน

ผมคาดว่าของข้างในคงไม่พ้นก้อนหิน เข็มกลัด หรือปิ่นปักผมที่เหลาหย่างเอามาโดนไม่บอกแม่ ดังนั้นพอเห็นว่าข้างในไม่ใช่ของเหล่านั้น มีเพียงผ้ามีขาวหนึ่งผืนเท่านั้น ผมก็อดสงสัยไม่ได้ หยิบขึ้นมา สภาพของมันบ่งบอกว่าเป็นของเมื่อไม่นานมานี้ สะบัดคลี่ออกก็พบว่ามีรูปถ่ายหล่นออกมาหนึ่งใบ

...ภาพถ่ายเก่าๆของผมกับเหลาหย่างสมัยเด็กกอดคอกันยิ้มให้กล้อง ด้านหลังมีแม่ของเขายิ้มอย่างสดใส ท่าทางในภาพนั้นบอกถึงความสุขของคนทั้งสามในภาพได้เป็นอย่างดี

ผมจำได้ว่านี่เป็นภาพที่แม่ของเขาเก็บเอาไว้ที่บ้าน ทำไมมันมาอยู่ที่นี่ ในหัวผมมีแต่คำถาม พอพลิกดูด้านหลังภาพก็เห็นข้อความเขียนไว้อย่างลวกๆ ราวกับคนเขียนรีบเร่ง แต่ลายมือนั้นผมจำได้ว่าเป็นของเหลาหย่าง...และได้อธิบายคำตอบของสิ่งที่ผมสงสัย

หลังจากเรื่องต้นไม้ศักดิิ์สิทธิ์ ฉันก็ไม่กล้าเจอนายอีก ขอโทษที่ออกมาขุดออกไปโดนไม่บอกนาย แต่ฉันขอเก็บของในกล่องนี้ไว้ หากนายยังจำได้แล้วมาขุดเจอในภายหลัง นายอาจจะด่าว่าหาว่าฉันขี้ขโมย แต่อย่างที่ฉันเคยบอกนาย ความทรงจำของฉันค่อยๆลืมเลือนหายไป สักวันฉันอาจจะจำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่างน้อยตอนที่พอจะยังจำอะไรได้ ฉันอยากเก็บของทุกสิ่งที่ฉันมีความทรงจำร่วมกับนายเอาไว้ บางทีสิ่งเหล่านั้นอาจจะย้ำเตือนและชะลอให้การลืมเลือนช้าลง...หรือบางทีถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ขอภาวนาให้ฉันยังคงจดจำนายได้
ฉันทิ้งรูปถ่ายเอาไว้หนึ่งใบ มันเป็นรูปที่ฉันชอบที่สุด อาจจะเห็นแก่ตัวที่อยากจะให้นายจดจำฉันไว้ แม้ฉันจะลืมนาย แต่ถ้าเป็นไปได้ ขอให้นายเก็บรูปนี้ไว้ และอย่าลืมฉัน แม้เราจะไม่ได้พบกันอีก
สุดท้ายนี้ ฉันอยากขอบคุณนาย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน

เซี่ยจื่อหยาง

ผมอ่านทวนข้อความด้วยสมองว่างเปล่า ครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนผมรับรู้แต่ไม่อาจจะเข้าใจ ในส่วนหนึ่งของจิตใจผมยังคงติดอยู่กับความทรงจำที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ทั้งที่คิดว่าลืมไปแล้ว มันกลับวนเวียนเข้ามาเองโดนที่ผมไม่รู้ตัว ตั้งแต่ตอนสมัยเด็กที่พวกเราอยู่ด้วยกัน จนถึงครั้งสุดท้ายที่พวกเราออกเดินทางฝ่าฟันเรื่อยพิศดารที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์...ผมจำเขาได้ จำได้ดี และไม่อาจลืม ผมหวนคิดย้อนกลับไป ถ้าหากตั้งแต่แรกผมไม่เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับการคว่ำกรวย ไม่อวดดีอวดเก่งโม้โน่นี่จนเขาสนใจแล้วไปคว่ำกรวยทั้งที่ยังอ่อนหัด เขาก็คงไม่ตาย…

ผมจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จนลืมไปว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว ผมสัมผัสได้ว่าบนหัวตัวเองมีคนเอาผ้ามาคลุมไว้ เงยหน้ามองเมินโหยวผิงถึงได้รู้ว่านั่นเป็นเสื้อตัวนอกของเขา

“ฝนตก”

ผมมองเห็นหยุดน้ำบนรูปถ่าย ได้ยินที่เขาพูดก็เงยหน้ามองฟ้า ยื่นมือออกไป สัมผัสไม่ได้ถึงฝนสักเม็ด แต่ทิวทัศน์ที่ผมมองนั้นพร่ามัว ตอนนั้นผมถึงได้เข้าใจว่า...ไม่ใช่ฝนหรอก น้ำตาของผมเองต่างหาก

ผมดึงเสื้อของเมินโหยวผิงลงมาคลุมหน้า ร้องไห้ออกมาท่ามกลางความเงียบของผืนป่า เสียงสะท้อนของความเสียใจที่ผมเก็บอยู่ในใจดังออกมาโดยมีเขายืนฟังอยู่ข้างๆ

ผมจำไม่ได้ว่าร้องไห้ไปนานแค่ไหน แต่จำได้ว่าอยู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก แล้วนายอ้วนก็มาพอดี ผมส่งเสื้อคืนให้เมินโหยวผิง คิดว่าเขาอาจจะถามอะไรบ้าง แต่เมินโหยวผิงก็คือเมินโหยวผิง ผมขอบคุณความเงียบใบ้ของเขา เพราะถ้าเขาถาม ผมก็คงไม่พร้อมจะอธิบาย ผมใช้สายฝนที่กระหน่ำสาดใบหน้ากลบเกลื่อนน้ำตา ขณะพยายามโต้เถียงพูดคุยกับนายอ้วนตลอดทางกลับ



สามวันหลังจากนั้น ผมกำลังจะงีบหลับในร้านเมื่อตอนที่นายอ้วนเดินเข้ามาพร้อมกับเมินโหยวผิง และผู้ชายอีกสองคนที่ถืออุปกรณ์ข้าวของอะไรมาเยอะแยะ ผมด่าเขาว่าจะใช้ให้ผมตีราคาอะไรนักหนา ทำไปก็ฟรีไม่มีค่าตอบแทนอะไรสักอย่าง นายอ้วนทำเสียงจิ๊จ๊ะบอกว่าเขายอมลงทุนทำสิ่งเหล่านี้เพื่อผม ผมไม่เคยสำนึกบุญคุณรับรู้ความใจดีของเขาบ้างเลย

ผมหันไปขอคำอธิบายจากเมินโหยวผิงแทน เพราะนายอ้วนมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการจัดของที่มีผู้ช่วยถือมาให้

“ถ่ายรูป”

คำตอบที่ผมได้ไม่ช่วยอะไรเลยสักนิด สุดท้ายผมก็ได้แต่มองนายอ้วนกับสหายตั้งเสาตั้งของอย่างถือวิสาสะในร้านของผม พอข้าวของเข้าที่ ผมถึงได้มองเห็นภาพรวมของทั้งหมด

“นายจะมาถ่ายรูปร้านฉันทำไม” ผมถามนายอ้วน

“ที่ระลึก” เขาตอบแล้วกวักมือเรียกผมกับเมินโหยวผิงเข้าไปในจุดที่เขาจัดฉากตั้งกล้องเตรียมไว้ “พวกเราลงสุสานคว่ำกรวยด้วยกันหลายครั้ง ไม่เคยมีรูปร่วมกันเลย ไหนๆน้องเสี่ยวเกอที่ไม่เคยพูดอะไรจะออกปากขอสักที เสี่ยอ้วนจะใจร้ายเมินเฉยก็ไม่ได้”

ผมมองเมินโหยวผิง เขาต้องไปเล่าอะไรให้นายอ้วนฟังแน่ๆ นึกว่าเงียบๆเลยไว้ใจ ที่ไหนได้ ปากสว่างพอๆกับนายอ้วนเลยนี่หว่า

นายอ้วนให้ผมยืนตรงกลางเขากับเมินโหยวผิงยืนขนาบข้าง ถ่ายรูปแรกไปดูเหมือนถ่ายรูปทางการ พวกเราสามคนยืนตรงเกร็งตัวไม่แพ้กัน เขาเลยบอกให้ถ่ายใหม่ ยืนตำแหน่งเดิมแต่เปลี่ยนท่าทาง ถ่ายไปอีกสองครั้งก็ไม่ต่างจากครั้งแรกเท่าไรนัก นายอ้วนเริ่มโวยวายจัดโน่นนี่นั่นใหม่ สรุปแล้วกว่าจะได้รูปที่นายอ้วนพอใจ ก็ใกล้เวลาปิดร้านของผมพอดี

ผมมองภาพที่นายอ้วนยื่นมาให้ ตัวผมที่ยิ้มอยู่ในภาพกำลังหัวเราะชอบใจเพราะเถียงชนะนายอ้วนเรื่องอะไรสักอย่างในบรรดาหลายๆเรื่องที่เถียงกันมาทั้งวัน ตัวนายอ้วนเองก็ยิ้ม ท่าทางเขาไม่ได้ติดใจอะไรเลย ที่ทำให้ผมแปลกใจคือเมินโหยวผิงที่อยู่ทางขวาของผม ในภาพนั้นเขายิ้มนิดๆ มือข้างหนึ่งพาดมาวางบนไหล่ของผม...ทำไมผมไม่รู้สึกตัวเลย

“เอาล่ะ ทีนี้ก็มาฝังสมบัติกันบ้าง” นายอ้วนหยิบกล้องไม้มาจากไหนไม่รู้ ตามด้วยสมบัติเล็กๆน้อยๆวางลงไปในกล่อง “เสี่ยอ้วนฝังสมบัติเอาไว้ ไม่มีทางลืม ถ้านายมาแอบขุดไปคนเดียวโดยไม่บอก เป็นเรื่องแน่”

ผมเถียงไปว่าผมจะแอบขุดขึ้นมาทำไม นายอ้วนทำหน้าตาน่าหมั่นไส้แต่ก็ไม่เถียงต่อ เขาบอกให้ผมเขียนอะไรสักอย่างไว้ที่หลังรูปถ่าย มันกะทันหันเกินไม่ ผมนึกไม่ออก เลยเขียนแค่วันที่กำกับไว้พร้อมกับชื่อตัวเอง แล้วบอกให้นายอ้วนกับเมินโหยวผิงเขียนชื่อตัวเองลงไปด้วย

“พรุ่งนี้ค่อยเอาไปฝัง” นายอ้วนบอก “คราวนี้เขียนแผนที่ให้รู้เรื่อง ถ้านายเขียนลายแทงได้มั่วซั่วก็ให้น้องเสี่ยวเกอเขียนแทน อีกสิบปีข้างหน้าจะได้ไม่ต้องมาขุดหลุมทั่วป่าแบบนี้อีก”

ผมหมดแรงจะเถียงกับเขาต่อจึงบอกให้เขาไปเก็บของ เพราะผมจะปิดร้านแล้ว จากนั้นพวกเราก็ไปหาอะไรกินกัน แล้วก็แยกย้ายกันไป พอกลับมาถึงบ้าน ผมก็หยิบรูปถ่ายออกมาดูอีกครั้ง นึกถึงคำพูดของนายอ้วนก็อดเห็นด้วยไม่ได้ว่าพวกเราคว่ำกรวยด้วยกันหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีรูปร่วมกันเลย บางทีนี่อาจเป็นรูปที่สำคัญที่สุดของพวกเราก็ได้

ผมหยิบเอากล้องดิจิตอลมาถ่ายรูปนี้เอาไว้อีกที ส่งไฟล์เข้าคอมเก็บไว้กับรูปที่ผมถ่ายคู่กับเหลาหย่าง

ไม่รู้ว่าเมินโหยวผิงรู้เรื่องของผมได้ยังไง ผมจำไม่ได้ว่าเล่าอะไรออกไปให้เขาฟัง เขาถึงได้เอาไปบอกนายอ้วน แล้วนายอ้วนถึงได้ทำแบบนี้ แต่ผมก็ต้องขอบคุณเขา...อย่างน้อยผมก็คิดว่าเขาทำเพื่อผม ถึงความจริงเขาอาจจะทำไปเพียงเพราะสมเพชที่เห็นผมร้องไห้ก็เถอะ

ผมไม่รู้ว่าจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทางข้างหน้าที่พวกเราต้องก้าวเดินไปอาจเจอเรื่องอันตราย เรื่องพิศดาร อาจต้องลำบากลำบน และอาจต้องจบชีวิตลงโดไม่คาดฝัน

เหลาหย่างเคยบอกว่าอำนาจของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อาจจะอยู่กับผมไปอีกสักพัก ถ้าอย่างนั้น ผมจะอธิษฐานได้ไหม

สำหรับเหลาหย่าง ผมขอให้เขามีความสุข แม้พวกเราจะไม่ได้เจอกันอีก

และสำหรับพวกเรา...ผม เมินโหยวผิงและนายอ้วน
...ถึงพวกเราจะเถียงกัน ทะเลาะกัน อาจจะมีทิ้งกันบ้าง แต่สุดท้ายพวกเราก็สามารถกลับมายิ้มและหัวเราะด้วยกันได้ ผมไม่อาจพูดได้เต็มปากว่ามีความสุข เพราะแต่ครั้งที่พวกเรารวมตัวกันจะมีแต่เรื่องวุ่นวาย แต่ละสุสานที่พวกเราเจอก็แทบจะเอาชีวิตไปทิ้ง

แต่ถึงอย่างนั้น...ผมก็ขอให้รอยยิ้มและช่วงเวลาที่พวกเรามีกันและกันคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป...









MinMin
MinMin
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 222
Points : 3863
Join date : 28/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by Naitear Wed 29 Oct 2014, 12:22

โอยยยย ;; - ;; อ่านแล้วซึ้งมากค่ะ น้ำตาจะไหลกับแก๊งสามเหลี่ยมเหล็ก #ซรับ
ส่วนตัวชอบมิตรภาพของสามคนนี้มากค่ะ ต่างคนต่างปกป้องซึ่งกันและกันอยู่ห่างๆ ถึงรวมกันสามคนทีไรจะซวยทุกที แต่ก็ไม่เคยจะทิ้งกันจริงๆ
ขอบคุณสำหรับฟิคซึ้งๆนะคะ T v T
Naitear
Naitear
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 232
Points : 3776
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by Fenrir Wed 29 Oct 2014, 12:23

เสี่ยวเกอ....เห็นนิ่งๆแต่บงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลังนะคะ จะเนียนไปแล้ว!!! (แอบเอาเสียมไปขุด+เอาเสื้อมาคลุมนายน้อย+ไปเล่าให้นายอ้วนฟัง+ยิ้มแแถมวางมือบนไหล่นายน้อยตอนถ่ายรูป.......เยอะนะนาย)

อู๋เสีย ตอนนี้นายไม่ได้มีแค่เพื่อนสนิทอย่างเหลาหย่างที่จะเห็บไว้ในความทรงจำและถ่ายรูปร่วมกันแล้วนะ นายยังมีนายเมินน่าเบื่อกับนายอ้วนปากสว่างอีกคนแล้วตอนนี้ ขอให้แฮปปี้ตลอดไปนะ <3
Fenrir
Fenrir
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 117
Points : 3634
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ไหสักใบในบ้านสกุลอู๋

http://fenrirsglue.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by aathewolf Wed 29 Oct 2014, 14:06

/มาร้องไห้ให้กับเหลาหย่าง โฮวววว เรื่องพ่อหนุ่มคนนี้ อ่านกี่เรื่องกี่ทีก็น้ำตาตก ; - ;

นายน้อยมีเพื่อนใหม่ มีคนใหม่ๆในชีวิตที่สำคัญกับเขามากๆไปแล้ว มีแต่นายที่กอดความทรงจำเดิม ทั้งๆที่มันค่อยๆละลายหายไป

ชอบฟิคนี้ค่ะ อ่านแล้วพอคิดถึงเหลาหย่างอีกฝั่งของจดหมายก็ร้าวรานขึ้นมาทันที

ว่าแต่เสี่ยวเกอ....นายนี่มาเงียบๆแล้วกินเรียบนะคะนะ 555
aathewolf
aathewolf
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 34
Points : 3532
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by meanato Wed 29 Oct 2014, 15:31

เหลาหย่าง...ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
meanato
meanato
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 487
Points : 3981
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by Nathael Wed 29 Oct 2014, 16:53

โอย น้ำตาซึมค่ะ ดีที่คนผ่านไปมาไม่ได้สนใจมอง ไม่งั้นคงสงสัยว่ายัยป้านี่อ่านอะไร ท่าทางจะเป็นเอามาก555

มันซึ้งและมันน่ารักมากเลย อบอุ่นมากด้วย

555เห็นด้วยที่ว่าเสี่ยวเกอมาเงียบ ๆ แต่เนียนกินเรียบที่สุดค่ะ Laughing

Nathael
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 18
Points : 3508
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by oilypicca Wed 29 Oct 2014, 19:32

"น้องเสี่ยวเกองอนไปแล้ว..." นี่คิดถึงหนุ่มรูปงามงอนให้ตายง้อ 5555555
เหลาหย่าง นายยังอยู่ในใจของเราเสมอ #เศร้า
เสี่ยวเกอที่รัก นายนี่นะ เห็นเงียบๆ วางแผนไว้เพียบสิท่า แอบยิ้มกับวางแขนบนไหล่นั่น//ด้วงล้มตาย

ขอบคุณสำหรับฟิคค่าาาา
oilypicca
oilypicca
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 61
Points : 3553
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ใต้เตียงเรือนหอสกุลจาง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by rainyday515 Wed 29 Oct 2014, 21:08

อ่านเพลินเป็นที่สุด ชอบภาษาการเขียนมากเลยค่ะ เหมือนต้นฉบับที่แปลไทยมาเป๊ะเลย
เหมือนได้อ่านเนื้อเรื่องจริงๆ ที่ไม่ใช่ฟิก 55555+
ชอบที่เสี่ยวเกอแอบทำอะไรๆให้นายน้อยเงียบๆแบบนี้ <3
rainyday515
rainyday515
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 26
Points : 3515
Join date : 29/10/2014
Age : 35

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Thu 30 Oct 2014, 10:32

//วิ่งมากรี๊ดอัดใส่คำว่าเหลาหย่าง...(?)

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ พ่อหนุ่มแว่นที่ถูก(ทุกคน)ลืม(เพียงเพราะฉากสบตา)

เทียบเสี่ยวเกอกับเหลาหย่างแล้ว ไอ้ตรงที่ *ความทรงจำขาดหาย*เนีย เหมือนกันแปลกๆนะคะ ก็เลยมีนายน้อยเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงตัวเองไว้กับโลกนี้เหมือนกันสินะคะ #ด้วงมโน

เสี่ยวเกอเนี่ย...แอบหึงอยู่สินะคะ...//ด้วงระเบิด
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3962
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by gaaraclub Sat 22 Nov 2014, 08:00

ซึ้งมากค่ะ เนื้อหากินใจมาก จริงด้วยที่3คนนี้ไม่มีรูปด้วยกันเลย
อีก10ปีไว้เจอกันอาจจะได้ออกมาช่วยขุดหากันอีก <3
gaaraclub
gaaraclub
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 81
Points : 3571
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by zerin Sat 29 Nov 2014, 21:26

เหลาหย่างงงงง โอย ชอบมากๆเลยค่ะคุณมินอ่านแล้วรู้สึกถึงอารมณ์ ความหมาย ความเศร้า ความอบอุ่น หลายๆอย่าง ชอบตอนเสี่ยวเกอมาขอให้ถ่ายรูปด้วยกันบ้าง>< ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆแบบนี้ค่ะ
zerin
zerin
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 188
Points : 3687
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : เกาะอยู่หลังประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง] Empty Re: [SF] สิ่งที่ฝังอยู่ในดิน [ผิงเสีย+เหลาหย่าง]

ตั้งหัวข้อ by Starsong Thu 29 Jan 2015, 23:28

ผิดคาดเล็กๆที่ของในกล่องโดนเหลาอย่างเปลี่ยนตัดหน้าไปซะแล้ว คิดถึงนายจัง หวังว่าคำอธิฐานของนายน้อยจะเป็นจริงนะ ;-;

ส่วนเสี่ยวเกอ มานิ่งๆแต่เนียนตลอดเลยนะคะ ,,- -,,
ทั้งแอบเอาเสียมไปช่วยขุด เอาเสื้อมาคุลมให้อ้างว่าฝนตก ไปบอกเสี่ยอ้วนจนได้ถ่ายรูปรวมด้วยกัน แถมยังแอบโอบไหลนายน้อยอีก!!! (เรื่องนี้กรี๊ดสุดค่ะ!! แงแง //////v/////)

ลองคิดเรื่องต่อจากนี้ตอนที่เสี่ยอ้วนใจสลายอยู่ปาหน่าย เสี่ยวเกอเข้าประตูไปแล้ว เหลือนายน้อยมาขุดสมบัติอยู่คนเดียวแล้ว..... พรากค่ะ พรากเลย ฮือออ
Starsong
Starsong
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3500
Join date : 13/01/2015
ที่อยู่ : ในถ้วยชาอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ