Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

+5
Tang_An-An
FateKiRi
SilverCloud
karnzaya
susuwatari
9 posters

Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by susuwatari Tue 18 Nov 2014, 22:41

272 Days left
#dmbjdaily
-----------

ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง
Paring .....xเหลาหย่าง
คำเตือน เรื่องนี้เสื่อมมากกกก โปรดทำใจก่อนอ่านนะคะ ฮาาาา


"เทียนเจินนนนน"

เสียงของเสี่ยอ้วนแผดมาตามสายโทรศัพท์ ผมพยายามปรือตาขึ้นมองนาฬิกาตตตั้งโต๊ะเห็นรางๆว่าเพิ่งตีห้า “เชี่ยแม่งจะโทรมาทำไมแต่เช้า” ผมรับสายแล้วสบถใส่โทรศัพท์แต่ดูเหมือนนายอ้วนจะไม่สนใจเขารีบพูดอย่างรวดเร็วจนผมแน่ใจว่าเขาแทบไม่ได้หยุดหายใจเลยด้วยซ้ำ  ผมยกมือขยี้หัวยุ่งฟูแล้วอ้าปากหาวหลายครั้งติดกัน เมื่อคืนกว่าจะกลับจากงานเลี้ยงรุ่นก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่าแล้ว กะว่าวันหยุดแบบนี้จะนอนตื่นซักสิบโมงที่ไหนได้ดันโดนปลุกตอนตีห้า

นายอ้วนยังคงพล่ามเรื่องสำคัญไปเรื่อยๆ ผมส่งเสียงรับคำเขาเป็นระยะพอให้รู้ว่ายังอยู่ทั้งๆที่สติหลุดลอยไปจนแทบจะถึงฉางไป๋ซานอยู่รอมร่อแล้ว ใช้เวลาไปพักใหญ่กว่าที่นายอ้วนจะหยุดแล้วถามผม “ตกลงเข้าใจแล้วใช่ไหมเทียนเจิน”

เมื่อครู่ผมจับได้แต่คำว่าสำริดๆ คิดว่าเขาคงจะฝากฝังเครื่องหมิงมาให้ผมช่วยปล่อยอีกแน่ ไอ้หมอนี่มันขี้เกียจตัวเป็นขนจริงๆ ผมบ่นในใจอยากกลับไปนอนเต็มแก่เลยออกปากส่งๆไป “อื้อ เข้าใจแล้วเดี๋ยวนายเอาเครื่องหมิงเข้ามาที่ร้านเลยแล้วกัน”

“เทียนเจิน นายไม่ได้ฟังที่เสี่ยอ้วนพูดเลยใช่ไม๊”

เสียงโวยวายดังมาตามสาย นายอ้วนกำลังจะเริ่มพล่ามใหม่ตั้งแต่ต้นผมเลยตัดสินใจกรอกเสียงงัวเงียลงไปว่า ถ้าเขาอยากพูดรอบเดียวจบให้มาหาผมที่บ้านตอบสิบโมงเช้าก็แล้วกัน พูดเสร็จผมก็ปิดโทรศัพท์แล้วซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มอุ่นๆเหมือนเดิม

---------

“ให้ตายเถอะ นายอ้วนนายดูนาฬิกาเป็นรึเปล่า” ผมบ่นใส่หน้าเขาก่อนวางแก้วกาแฟดำสองแก้วลงบนโต๊ะกินข้าว “นี่มันเพิ่งเจ็ดโมงเองนะ” หลังจากวางสายของนายอ้วนไปผมก็กลับไปนอนต่อ แต่ยังไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้านแทบแตก จำใจต้องตื่นขึ้นมาเปิดประตูให้

“แต่นี่มันเรื่องด่วนนะเทียนเจิน” นายอ้วนพูดแล้วก็หยิบเอาสมุดเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป้ข้างตัว ผมรับไปพลิกดูก็เห็นว่าเป็นสูจิบัตรของงานประมูลวัตถุโบราณโดยบริษัทนายหน้าค้าวัตถุโบราณทุนหนาหน้าใหม่ที่กำลังจะจัดขึ้นที่หังโจวในอีกสองสามวัน ความจริงผมก็ได้ข่าวเรื่องงานประมูลนี้มาก่อนแล้วแต่ของในนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจแถมยังแพงหูฉี่ชนิดที่ว่าผมขายนาขายนายอ้วนไปยังไม่พอจ่ายค่าของหนึ่งในสิบด้วยซ้ำไป

ผมพลิกจนจบเล่มก็ยังไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ สะดุดตาก็แต่เครื่องสำริดที่มีอยู่ชิ้นเดียวในรายการนั่นแหละ ผมไล่สายตาอ่านประวัติความเป็นมาแล้วก็ต้องพบว่าวัตถุโบราณชิ้นนี้เก่าแก่ถึงสมัยราชวงศ์โจวเลยทีเดียว

นายอ้วนเห็นผมจ้องเครื่องสำริดชิ้นนั้นอย่างสนใจก็เอ่ยปากขึ้น เทียนเจินตาถึงจริงๆ ชิ้นนั้นแหละที่เสี่ยอ้วนบอกว่าเรื่องใหญ่ ผมเงยหน้ามองเขา แค่ดอกไม้สำริดชิ้นเดียว นายจะเอาไปเป็นของหมั้นสาวหรือไง

“โธ่เอ๊ยเทียนเจิน คนระดับเสี่ยอ้วนแค่ชายตาสาวน้อยสาวใหญ่ขี้คร้านจะวิ่งเข้ามาหาแล้ว” ผมแอบเบ้หน้า ตั้งแต่นายอ้วนหวังเปิดร้านขายวัตถุโบราณในปักกิ่งตัวเลขในบัญชีของหมอนี่ก็พุ่งขึ้นพรวดๆผิดกับร้านค้าท่าเปิ่นของผมราวภูเขาฉางไป๋ซานกับก้นทะเลซีซา พูดแล้วผมก็อดคิดมากไม่ได้

นิ้วป้อมๆเหมือนไส้กรอกเยอรมันของนายอ้วนวางลงบนมุมซ้ายของหน้ากระดาษซึ่งมีการระบุที่มาของสิ่งของชิ้นนั้นๆ ผมอ่านแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะที่มาของดอกไม้สำริดคือเนินเขาแห่งหนึ่งแถบซีอานนั่นเอง ผมยังจำความรู้สึกทั้งหลายได้ชนิดติดตาติดใจ ไล่ตั้งแต่ตอนเจอหนอนกู่ งูยักษ์ ศพในรังไหมไปจนถึงตอนที่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองที่มาด้วยกันนอนแห้งเป็นกระดูกไปตั้งหลายปีแล้ว

ผมเคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้นายอ้วนกับนายเมินโหยวผิงฟังครั้งหนึ่ง พวกเขายังวางแผนกันว่าถ้ามีเวลาจะไปคว่ำกรายนั้นพิสูจน์พลังของต้นไม้เทพเจ้าดูซักครั้ง แต่ผมขอปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่อ้าปากชวนเพราะแค่ครั้งเดียวก็เกินพอสำหรับผมแล้ว

“นายว่ามันจะเกี่ยวกับต้นไม้สำริดที่นายเคยเล่าให้พวกเราฟังรึเปล่าเทียนเจิน” นายอ้วนขยับถามผมอย่างสนใจ ผมพยายามนึกดูจำได้ว่านอกจากศพและหนอนกู่ก็ไม่เคยเจอข้าวของหน้าตาสวยงามแบบนี้ในนั้นเลย คงไม่ได้มาจากต้นสำริดหรอกมั้ง ไม่อย่างงั้นคนที่หยิบฉวยของสิ่งนี้ออกมาคงต้องได้รับพลังอำนาจแปลกๆนั่นติดมาด้วยแน่ๆ

พลันสายตาของผมก็สะดุดกับชื่อและรูปซึ่งถูกตีพิมพ์อยู่ตรงมุมเล็กๆด้านล่าง “เหลาหย่าง” ผมเปล่งเสียงออกมาเบาๆ ถึงคนในประเทศนี้จะมีชื่อแซ่ซ้ำกันมากมายแต่ผมเพื่อนคนสำคัญไม่ผิดแน่ ผมเจอหน้าเขาครั้งสุดท้ายเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเพราะพลังของกิ่งสำริดชายหนุ่มเลยจำอะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ผมจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยภายใต้กรอบแว่นในรูปขนาดเล็ก

“ฉันจำหมอนี่ได้จากรูปที่นายเคยให้ดูนั่นแหละ พอได้ข่าวเลยรีบถ่อมาหาจากปักกิ่ง” นายอ้วนบอก ผมคิดว่าที่เขาถ่อมาคงเพราะอยากรู้เรื่องพลังของต้นสำริดมากกว่าอย่างอื่น “ตกลงนายจะไปงานประมูลกับฉันใช่ไหมเทียนเจินอู๋เสีย” ผมพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ นายอ้วนคว้าบัตรเชิญเข้าร่วมงานออกมาสองใบเหมือนรู้ใจ ผมนัดแนะกับเขาเรื่องเลี้ยงอาหารมื้อค่ำในคืนนี้ก่อนที่จะเดินออกมาส่งถึงหน้าบ้าน ในใจยังสับสนวุ่นวายคิดแต่เรื่องของเหลาหย่าง  

----------

ผมสวมสุดสูทสีกรมท่ายืนกระสับกระส่ายอยู่หน้าภัตตาคารหงฮวายกนาฬิกาข้อมือดูเวลา พอเห็นว่าเลยเวลานัดมาสิบนาทีแล้วก็อดหงุดหงิดเล็กน้อยขึ้นมาไม่ได้ พลันผมก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมาอย่างตื่นเต้นพอหันไปก็เห็นนายอ้วนในสูทสีดำพอดีตัวดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่าตอนผมเห็นเขาใส่สูทครั้งสุดท้าย เขาเดินตรงรี่เข้ามาหาผมกวาดตาขึ้นๆลงๆแล้วออกปากชมเสียงดัง

“นายใส่สูทแล้วดูดีชะมัดว่ะเทียนเจิน เสียดายน้องเสี่ยวเกอหนีไปลงกรวยแล้ว” เสี่ยอ้วนมองผมแล้วพูดถึงนายเมินโหยวผิงตาเป็นประกายแปลกๆ ผมมองหน้าเขาบ้าง “สามเหลี่ยมเหล็กครบทีมได้บู๊สนั่นเมืองเหมือนคราวก่อนอีกหรอก”

ระหว่างที่เราพูดคุยกันคนก็เริ่มทยอยเข้าไปในภัตตาคารสถานกันแล้ว ผมเร่งนายอ้วนให้เดินตามเข้าไปบ้าง บัตรเชิญแบบธรรมดาเลือกที่นั่งได้เฉพาะชั้นหนึ่ง เราสองคนตัดสินใจเลือกนั่งลงตรงโต๊ะติดเสาที่แม้จะเป็นมุมอับมองเห็นเวทีได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็นับว่าเป็นส่วนตัวเอาการ ผมพลิกดูเมนูเห็นแต่ละอย่างแพงหูฉี่ก็ทำใจสั่งไม่ลง นายอ้วนหวังเห็นสีหน้าผมก็ออกปากจะเป็นคนเลี้ยงอย่างใจกว้างผมกลัวเขาจะเสียใจเลยสั่งกับข้าวแพงๆห้าหกอย่าง พอบริกรนำบิลมาวางเห็นนายอ้วนถึงกับยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อบนหน้าผากกว้างๆของเขา

งานประมูลเริ่มต้นอย่างดุเดือด แต่ละชิ้นล้วนแต่มีเหล่าเศรษฐีแย่งกันประมูลเหมือนเห็นเป็นของฟรี ผมได้แต่ปาดเหงื่อมองคนรวยรอบๆตัว หลังพักครึ่งดอกไม้สำริดที่เราหมายตาเอาไว้ก็ถูกนำมาจัดวางบนเวที มันเปล่งกระกายระยิบระยับสวยงามดูท่าทางไม่มีพิษมีภัยอะไร ผมแว่วๆเสียงประมูลให้ราคาถึงสิบล้านหยวนจากเศรษฐีนีชาวตะวันตกคนหนึ่ง

พอการประมูลจบลงผมกับนายอ้วนรีบตรงเข้าไปยืนสอดส่องตรงชานบันไดช่วยกันมองหาเหลาหย่าง นายอ้วนยังบ่นงึมงำเรื่องบิลค่าอาหารไม่ยอมหยุด ผู้คนเดินลงมาไม่ขาดสายล้วนแต่แต่งกายคล้ายๆกันทำให้การมองหาเป้าหมายยิ่งยากขึ้นไปอีก พวกเรามองหากันจนตาลายก็ยังไม่เจอเหลาหย่างเสียที ขณะที่นายอ้วนเริ่มนึกถอดใจชวนผมไปรอด้านหน้าร้านแทนก็มีมือข้างหนึ่งมาแตะบ่าผม

อู๋เสีย เสียงคุ้นเคยเรียกให้ผมหันหน้าไปหา พบว่าเป็นคนที่พวกผมกำลังชะเง้อคอยืดคอยาวเหมือนยีราฟหาอยู่นั่นเอง เหลาหย่างยังคงดูเหมือนครั้งสุดท้ายที่ผมเจอกับเขา ผมกวาดตามองเขาทั่วร่าง คืนนี้เขาสวมสูทสีน้ำเงินเข้มดวงตาภายใต้แว่นไร้กรอบเปล่งประกายเจิดจ้า ผมสีดำสนิมหวีเรียบแปล้ดูมีรัศมีคุณชายเปล่งออกมาผิดกับเหลาหย่างบ้านๆคนเก่าราวฟ้ากับก้นมหาสมุทร

“นาย...เป็นยังไงบ้าง” ผมหาเสียงเจอแล้วเอ่ยทักเขา คนตรงหน้าผมดูสบายดีไม่มีทีท่าเหมือนคนความจำเสื่อมเลยแม้แต่น้อย “ฉันสบายดีอู๋เสีย นายเองก็เหมือนกันสินะ” เขายิ้มให้ผม ผมพยักหน้าเร็วๆยื่นมือไปจับตัวเขา เหลาหย่างยิ้มละไมให้ผมท่าทางเขาดูมีความสุขดี ผมนึกไปถึงวันเก่าๆที่เราไปลงกรวยต้นไม้เทพเจ้าตามคำชวนปนหลอกลวงของเขาด้วยกัน ถึงเขาจะเป็นตัวปลอมแต่เขาก็เป็นเหลาหย่างเพื่อนผมอยู่ดีนั่นแหละ

เหลาหย่างคุยกับผมอีกหลายคำถึงเรื่องดอกไม้สำริดซึ่งเขาเป็นคนเอาออกประมูลอย่างที่ผมเดา ผมถามถึงที่มาแต่เขาไม่ยอมบอกอะไร ดูแล้วเขาไม่เหมือนกับคนความจำเสื่อมที่ผมเคยพบเลยแม้แต่น้อย หลายปีมานี้เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ พลังของกิ่งสำริดสร้างร่างและความทรงจำทั้งหมดของเขาขึ้นมาใหม่งั้นหรือ

ผมนึกถึงพลังของกิ่งสำริดได้ก็อ้าปากจะถามถึงคุณแม่ของเหลาหย่างแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไป ชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนจะรู้ใจผม “แม่ของฉันเสียไปเมื่อปีก่อน” เขาเอ่ยไม่มีท่าทางทุกข์ใจปรากฏบนใบหน้า “ฉันไม่เคยนึกเสียใจหรอกที่ทำแบบนี้ ฉันดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งนี้ได้อยู่สร้างความทรงจำดีๆกับแม่จนถึงวินาทีสุดท้าย” เหลาหย่างยิ้มอย่างอ่อนโยน

“เราได้เจอกันวันนี้คงเป็นพรหมลิขิต” จู่ๆเหลาหย่างก็เอ่ยขึ้น “อู๋เสียหลังจากวันนี้ไปพลังของต้นไม้เทพเจ้าที่อยู่กับนายจะไม่มีวันจางหายไปไหน มันจะติดอยู่กับตัวของนายตลอดไป” ผมไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่กันแน่ เหลาหย่างเองก็ไม่ได้ทำให้มันชัดเจนขึ้น เขายิ้มแล้วกุมมือผมเอาไว้ “อีกสองอาทิตย์ฉันจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ฉันจะหมั่นส่งจดหมายมาหานายแล้วกัน”

“รักษาตัวด้วยนะ” ผมกล่าวออกมาในที่สุด “นายก็เหมือนกันอู๋เสีย จากนี้ไปอย่าเผลอคิดอะไรแผลงๆก็แล้วกัน” เขาทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป ผมมองตามก็เห็นว่าเหลาหย่างเดินออกไปกับผู้ชายผมสีอ่อนร่างสูงคนหนึ่ง จากนี้ไปเขาคงมีความสุขเสียที ผมนึกในใจ ปริศนาอีกมากมายของต้นไม้เทพเจ้าจะยังไม่ได้รับคำตอบแต่ผมก็ไม่รู้สึกค้างคาใจอะไรอีกแล้ว ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้เสี่ยอ้วนฟังระหว่างขับรถไปส่งเขาที่โรงแรม

--------------------------

ผมผลักประตูกระจกใสไปชนเข้ากับเหลาหย่างที่มีสีหน้าเหนื่อยอ่อนแปลกๆ พอเขาเห็นว่าเป็นผมก็รีบเอามือรวบคอเสื้อเชิ้ตสีหม่นเป็นการใหญ่ "นายมาทำอะไรที่โรงแรมแต่เช้า" ผมทักเขาแล้วตบบ่าแรงๆ เหลาหย่างชะงักหน้าแดงลามไปถึงคออย่างรวดเร็ว ผมตกใจกับปฏิกิริยาของเพื่อนถึงกับกระเด้งตัวออกห่างตามสัญชาตญาณ กลัวว่าหมอนี่จะเกิดติดพิษราชาด้วงศพขึ้นมา

เหลาหย่างยังไม่ยอมตอบอะไร เขาหันกลับไปดูทางลิฟท์ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนเล่นเอาผมงงไปหมด พอเป็นไฟที่ประตูลิฟท์กระพริบเปิดเขาก็ตะกุกตะกักบอกลาผม แล้วรีบจ้ำพรวดตรงไปที่ลานจอดรถด้านข้างทันที เมื่อผมหันไปมองด้านในโรงแรมด้วยความสงสัยก็เห็นว่ามีผู้ชายร่างสูงใหญ่ผมสีอ่อนคนหนึ่งเดินตรงมาทางประตู เขาสวมสูทเนี๊ยบกริบเหมือนนักธุรกิจทั่วไป ผมหรี่ตาเล็กน้อย เขาให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับผมอย่างประหลาดเหมือนกับว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน หัวสมองผมแล่นเร็วจี๊พยายามเค้นหาคำตอบ

เขาเองก็มองผมด้วยแววตาเรียบนิ่งจนน่ากลัวเหมือนกับไม่ใช่คน แต่กลางเมืองแบบนี้จะมีบ๊ะจ่างมาเดินเล่นก็คงจะเหลือเชื่อไปหน่อย อีกอย่างบ๊ะจ่างที่ไหนจะใส่สูทเดินเข้าออกโรงแรมเป็นกันล่ะ ผมขมวดคิ้ว จากประสบการณ์คว่ำกรวยมานับครั้งไม่ถ้วน ผมเอาหัวของเสี่ยอ้วนกับนายเมินโหยวผิงเป็นประกันเลยว่าเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดินดินชนิดเดียวกับผมแน่ๆ

จังหวะที่เราสวนกันผมได้กลิ่นประหลาดโชยออกมาจากตัวของผู้ชายคนนั้น กลิ่นนั้นมัน....... ผมพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออกซักทีติดอยู่แค่นิดเดียว พอผู้ชายคนนั้นเดินห่างออกไปคำตอบก็โผล่ขึ้นมาในหัวผมเหมือนกับฟองอากาศผุดขึ้นจากน้ำ “มันกลิ่นของต้นสำริดชัดๆ” จมูกของผมไม่มีทางจำผิดแน่ เล่นไปปีนป่ายกันแทบเป็นแทบตายขนาดนั้น

แล้วต้นสำริดมันกลายร่างเป็นคนได้ยังไง ผมขมวดคิ้วพลางนึกถึงพลังของต้นสำริดที่เหลาหย่างเคยเล่าให้ฟัง ถึงจะกลายเป็นคนก็ไม่มีทางมีกลิ่นของต้นสำริดติดตัวได้ ตอนนั้นที่เหลาหย่างเอากิ่งเล็กๆออกมาให้ผมดูยังกลิ่นไม่แรงขนาดนี้เลย หรือว่า......ไอ้ตัวนี้มันคือร่างแท้จริงของต้นสำริด

พลันสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นว่าผู้ชายคนนั้นเดินไปขึ้นรถคันเดียวกับเหลาหย่างแล้วขับรถอ้อมออกไปด้านหลังโรงแรมอย่างรวดเร็ว “เดินออกจากโรงแรมแต่เช้า ท่าทางมิพิรุธกุมคอเสื้อแถมหน้าแดง สีหน้าดูเหนื่อยอ่อนเหมือนไม่ได้นอน มีผู้ชายเดินตามไปด้วย” ผมเอาคีย์เวิร์ดทั้งหมดมาประกอบกันแล้วถึงกับหน้าซีด

“ชิบหายแล้วไง อย่าบอกนะว่าเหลาหย่างกับเจ้าต้นสำริดนั่น แม่ง......กันแล้ว ให้ตายเถอะโลกรอบตัวผมจะมีอะไรแปลกกว่านี้ได้อีกไม๊ อู๋เสียอยากเป็นลม”

--------------------fin------------------

จบเถอะสงสารเหลาหย่าง/เหลาหย่างร้องไห้ทำไม  
พล๊อตทีแรกนึกออกแต่อะไรที่ติดเรทอีโรติคกว่านี้เยอะค่ะ กับกิ่งสำริดนะคะ ฮา/เชื่อว่าด้วงทุกคนเข้าใจวิล ฮา


แก้ไขล่าสุดโดย susuwatari เมื่อ Thu 20 Nov 2014, 22:41, ทั้งหมด 2 ครั้ง
susuwatari
susuwatari
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 81
Points : 3589
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by karnzaya Tue 18 Nov 2014, 22:50

อ่านจบถึงกับสำลึกน้ำ ไม่นะ เหลาหย่าง นาย...ได้กับต้นสำริดแล้วใช่ไหม 555555555555555555555
karnzaya
karnzaya
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 84
Points : 3606
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : สิงอยู่ในมือถือคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Tue 18 Nov 2014, 23:08

พรวดดดด นี่คือเหตุผลที่เหลาหย่างความทรงจำไม่หายแถมดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นสินะคะ เพราะมีสามีแล้วนี่เอง ถถถถถ
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3940
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by FateKiRi Tue 18 Nov 2014, 23:30

เหลาหย่าง..........กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ๋ๆนะ อย่าร้องไห้ละ 55555555
ที่นายเป็นผู้เป็นคนขึ้นก็เราะคุณต้นสำริดสินะ อั๊ยยะ
FateKiRi
FateKiRi
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 99
Points : 3581
Join date : 27/10/2014

http://inguzfatekiri.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by Tang_An-An Wed 19 Nov 2014, 16:47

โอ้ย...ฮา555555
เออะ...คุณต้นสำริดกับเหลาหย่างนี่ คนเขียนจินตนาการได้ขั้นสุดยอดค่ะ//
สงสารเหลาหย่างเบา ๆ แต่ได้ใจด้วงเลยนะจ๊ะ
Tang_An-An
Tang_An-An
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 225
Points : 3693
Join date : 29/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : ร่อนเร่พเนจรไปตามท้องทุ่ง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by gaaraclub Thu 20 Nov 2014, 14:17

เดี๋ยว.... เดี๋ยวนะคะ...

เหลาหย่างงงงงงง กรี๊ดดดดดดด ทำไมรู้สึกอวยแปลกๆ(?) แงงง 55555
gaaraclub
gaaraclub
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 81
Points : 3551
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Sat 22 Nov 2014, 11:58

พรืดดด ผมนี่จิ้นเลย 5555555
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3942
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by faliona01 Sat 22 Nov 2014, 20:48

ยินดีด้วยนะเหล่าหยางที่ได้แต่งงานกับต้นสำริด...

เดี๋ยวนะ!! ต้นสำริดงั้นหรอ!!!

บัดซบ!

ชีวิตนายคงจะหนีเจ้าต้นสำริดนี้ไม่พ้นเป็นแน่แท้ เหลาหย่างเอ๋ย....
faliona01
faliona01
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 261
Points : 3747
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : เตียงหยกเย็นในถ้ำสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง) Empty Re: [OS] #dmbjdaily (สำริด) ก้าวต่อไปของเหลาหย่าง (.....กับเหลาหย่าง)

ตั้งหัวข้อ by mimky Sat 22 Nov 2014, 21:50

ดุ้นนี้ที่รัก สมชื่อไหมเหล่าหยาง?//คึๆ
mimky
mimky
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 28
Points : 3490
Join date : 04/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ