Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

+12
nightsza
falenda
Rozenkreuz
panadda_au
yakusoku
annminki
Luckey.B
murasaki
Malangporyim
prince501
The_Dark_Lady
anurakbeer
16 posters

Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by anurakbeer Wed 12 Aug 2015, 13:48

Chapter 5
จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ภายหลังเหตุการณ์นั้น เหตุที่ผมหยิบปากกาขึ้นมาเริ่มบันทึกเรื่องราวต่อมาในภายหลัง เป็นเพราะเรื่องราวดังกล่าวได้ดำเนินไปอย่างคาดไม่ถึง การดำเนินไปของเรื่องนี้ แม้ไม่ได้ตื่นเต้นระทึกขวัญเหมือนอย่างที่ผมเคยคิด แต่ปริมาณของข่าวสารข้อมูลที่มันนำมานั้น เกินความคาดหมายของผมมาก

หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมเข้าใจหลักการข้อหนึ่ง ปริศนาและข้อเท็จจริงของเรื่องราวมากมาย คุณไม่ต้องจงใจเสาะหา รอให้ทุกสิ่งตกตะกอนนิ่ง มันจะค่อยๆ ผุดลอยขึ้นมาตามการผันผ่านของกาลเวลาด้วยตัวมันเอง

เคยมีปราชญ์คนหนึ่งพูดว่า มีเพียงเมื่อน้ำลด จึงจะเห็นว่าใครไม่สวมกางเกงใน หรือหากต้องบรรยายด้วยตัวอย่างที่ใกล้ตัวมากกว่าก็คือ เมื่อคุณจงใจตามหาสิ่งของอย่างหนึ่ง บ่อยครั้งที่คุณพลิกบ้านหาก็ยังไม่เจอ แต่เมื่อคุณไม่จงใจตามหามัน มันมักจะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าคุณเฉยๆ ในบางเวลา

ปริศนาพวกนี้ ก็เช่นกัน

ภายหลังเหตุการณ์นั้น ผมง่อยเปลี้ยเป็นเวลายาวนานช่วงหนึ่ง ในช่วงเวลานั้น ผมเผชิญกับสองสภาวะในเวลาเดียวกันมาโดยตลอด หนึ่งคือซึมเศร้าโศกามาก ไม่อยากทำอะไรเลย อยากแต่เพียงนอนอยู่บนเก้าอี้เอน ทบทวนภาพเหตุการณ์ในช่วงก่อน จากนั้นก็ครุ่นคิดว่า บรรดาการตัดสินใจในยามนั้น หากไม่ได้ตัดสินใจเยี่ยงนั้น จะบังเกิดผลลัพธ์อย่างไร ครุ่นคิดว่าหากผมไม่ยึดติดจนเกินไป ไม่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำขนาดนั้น ผมอาจจะค่อยๆ ก้าวไปสู่วิถีชีวิตอีกแบบหนึ่งทีละก้าวๆ บางทีอาจเป็นสุขกว่าตอนนี้ เมื่อมองจากในแง่มุมหนึ่ง การไม่รู้เรื่องเรื่องหนึ่งดีกว่ารู้มากมาย การรู้ เจ็บปวดกว่าการไม่รู้มากมาย

อีกสภาวะหนึ่งก็คือให้กำลังใจตัวเองไม่หยุด บอกกับตัวเองว่าธุระบางเรื่อง แม้ไม่อยากทำแค่ไหน ผมก็ต้องไปทำ

ดังนั้น ผมจึงดูแลร้านของอาสาม ด้วยสภาพจิตใจที่ขัดแย้งกันเองเช่นนี้เรื่อยมา เริ่มแรก เนื่องจากไม่มีพานจื่อ ธุระหลายอย่างมีผมตัวคนเดียว ทำให้ย่างก้าวยากเย็น และในยามที่ผมหดหู่ อยากจะถอนตัวถอยกลับออกมา ก็จะนึกถึงเพลงเพลงนั้นที่พานจื่อร้องให้ผมฟังก่อนตาย

“นายน้อยสามก้าวไปข้างหน้า นายน้อยสามต้องไม่ถอยหลัง”

ผมไม่มีสิทธิ์ก้าวถอยหลัง

บนสนามการค้าเช่นนี้ นิยามของคำว่าก้าวไปข้างหน้า ที่จริงเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยมาก หากผมท้อถอยให้กับเรื่องแค่นี้ ผมจะผิดต่อผู้คนจำนวนมากจริงๆ ผมจึงพยายามอย่างยิ่งมาตลอด

จนถึงไตรมาสที่สองของปีที่สอง เรื่องราวหลายอย่าง ผมได้บริหารจัดการมันแล้ว ผมจับเคล็ดได้อย่างหนึ่ง ที่แท้เมื่อเรื่องเรื่องหนึ่ง คุณได้จัดการกับมันจนสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะเมื่อคุณได้กระโดดข้ามช่วงแห่งการค้างคาสะสมแต่ต้นไปจนถึงระดับหนึ่ง เรื่องราวก็จะเรียบง่ายขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะคุณจะมีโอกาสให้ทำผิดพลาด มีโอกาสให้กลับลำ และเมื่อผลกำไรโดยรวมมีมากกว่าผลขาดทุน ระบบนี้ของคุณก็จะอยู่รอดไปได้

ที่ดียิ่งกว่าคือ เคล็ดหลายอย่างของอาสาม ผมค่อยๆ คลำพบแล้ว

จนถึงไตรมาสที่สาม ผมทยอยคัดลูกจ้างที่ไม่เหมาะกับผมออก แทนที่ด้วยคนที่เหมาะกับผมทีละคน แม้จะไม่คึกคักรุ่งโรจน์เหมือนอย่างยุคอาสาม แต่กิจการหน้าด่านก็ดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่น

มองดูกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ผมเริ่มเกิดความเชื่อมั่นในความสามารถตนเองนิดหน่อย ผมพบว่าตนเองไม่ได้ง่อยเปลี้ยเหมือนอย่างที่เคยคิด---ที่แท้ความสำเร็จมันมีวิธีการ ซ้ำยังไม่ได้ยากเย็น

ภายหลังบริหารจัดการช่องทางดั้งเดิมแล้วเสร็จ ผมสร้างคนไปพร้อมๆ กับวางแผนทิศทางในภายหลัง แล้วก็ออกไปเยี่ยมเยือนบรรดาคนเก่าคนแก่ พวกที่ไปเยี่ยมเยือนง่ายที่สุด ย่อมเป็นพวกเสี่ยวฮัว เสี่ยวฮัวถึงบัดนี้ก็ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้เพราะความท้อแท้ของตัวผมเอง ผมไม่ค่อยได้เอาใจใส่เรื่องอาการบาดเจ็บของเขามากนัก เขาก็เป็นบุคคลที่สำคัญยิ่งคนหนึ่งเช่นกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาและคณะตอนนั้น ผมถึงกับไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว

ซิ่วซิ่วคอยดูแลเสี่ยวฮัวอยู่ตลอด ผมไม่ไปหาเสี่ยวฮัว เหตุผลประการหนึ่งก็เพราะเธอ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดกับท่านย่าฮั่ว ส่งผลกระทบต่อเธอรุนแรงเกินไป แต่ระหว่างบริหารจัดการธุรกิจของอาสาม ผมได้เรียนรู้คุณลักษณะอันมีค่าหลายอย่าง อย่างเช่นการเผชิญความเจ็บปวด ผมรู้ว่า ในยามที่โอกาสถึง เลือกหลบลี้หนีหน้า คือวิธีการแก้ไขที่แย่ที่สุด

ความเจ็บปวดมีแต่ต้องระบายออกมามันจึงจะค่อยๆ ทุเลาเบาบาง การเก็บกักไม่เกิดประโยชน์มากนัก ความเจ็บปวดเมื่อขึ้นถึงจุดสูงสุดมันย่อมเดินสู่ทางลาดลง

ภายหลังการเยี่ยมเยียนหลายครั้ง ความเข้าหน้ากันไม่ติดกับซิ่วซิ่ว ค่อยๆ คลี่คลาย ผมพักอาศัยอยู่ในปักกิ่งช่วงหนึ่ง ไปช่วยเหลือจัดการกิจการภายในตระกูลให้เสี่ยวฮัวโดยเฉพาะ เนื่องจากผมมีเส้นสายและอิทธิพลของอาสามทางภาคใต้ ทำให้ค่อยๆ มีอำนาจในการพูดมากขึ้น และทำให้ผมมีคุณสมบัติช่วยเหลือคนได้มากขึ้น

บางคุณสมบัติ ที่จริงผมไม่ได้ต้องการ แต่เมื่อมีมันแล้ว ก็เหมือนจะทิ้งมันไปไม่ได้

เมื่อสะสางทุกอย่างจนเรียบร้อย ผมกับพวกเสี่ยวฮัว จึงเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ผมเล่ารายละเอียดบางเรื่องในหอบ้านสกุลจางที่ผมไม่ได้บอกพวกเขา : พวกเครื่องประดับแบบทิเบตกับวงแวนสองวงที่พบเจอในโลงศพ และเรื่องราวช่วงสุดท้ายของเมินโหยวผิง

เสี่ยวฮัวฟังแล้วเกิดความรู้สึกหลากหลาย เขาเหมือนจะเบื่อหน่ายปริศนาทั้งหมดนี้เล็กน้อย เขาบอกผมว่า ปกติเขาจะไม่เป็นเช่นนี้ สำหรับเขาแล้ว ชีวิตของตนเองทั้งชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเผชิญ เขารับตำแหน่งหัวหน้าวงศ์ตระกูลตั้งแต่เด็ก เข้าร่วมกับการต่อสู้แย่งชิงทั้งหมด เรื่องราวที่น่ารังเกียจขยะแขยงทุกอย่าง เขาผ่านมาหมดแล้ว เขาจะไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับวิถีชีวิตใดๆ อีกแล้ว แต่บัดนี้กลับมีอารมณ์นี้ขึ้นมาได้ แสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์นี้

ผมเอาเครื่องประดับที่มีกลิ่นอายทิเบตสองสามพวงนั้น ซึ่งนำออกมาจากโลงศพนั่นให้เสี่ยวฮัวดู ส่วนที่ไม่ได้เอามา ผมก็ใช้วิธีวาดออกมาเป็นรูป เมื่อเสี่ยวฮัวดูแล้ว ก็บอกกับผมว่า “ของพวกนี้เป็นเครื่องประดับทางพุทธศาสนาสายทิเบต มันบอกได้เพียงว่า เจ้าของโลงศพใบนั้นเหมือนจะเป็นคนที่สนอกสนใจสิ่งของเกี่ยวกับทิเบตมากหน่อยเท่านั้น ไม่สามารถบอกอะไรมากไปกว่านี้”

ผมพูดกับพวกเขาว่า “ในเมื่อมันอยู่ในโลง ฉันรู้สึกว่า วัตถุฝังร่วมพวกนี้น่าจะมีความหมายพิเศษบางอย่างไม่มากก็น้อย อย่างเช่น ถ้าเป็นเสี่ยวเกอ วัตถุฝังร่วมของเขาก็ต้องเป็นดาบโลหะดำ ถ้าเป็นเฉินผีอาซื่อ ก็อาจจะเป็นลูกเหล็ก ดูจากสิ่งของที่ฝังร่วม เราน่าจะตีความข้อมูลบางอย่างได้”

เสี่ยวฮัวกล่าว “นายหมายความว่าเขามีสายเลือดชาวทิเบตงั้นหรือ”

ผมพูด “บางทีอาจมีช่วงเวลาหนึ่ง ที่เขาเคลื่อนไหวอยู่ในทิเบตเป็นเวลานาน”

เสี่ยวฮัวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง พูดว่า “อิทธิพลของบ้านสกุลจางนั้นใหญ่โตมาก หากพวกเขาจะเคลื่อนไหวอยู่ในทิเบตบ้างเป็นครั้งคราว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

ผมกล่าว “ฉันไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก ฉันแค่รู้สึกว่า เครื่องประดับชนิดนี้พบเห็นได้ทั่วไป ในเมื่อเลือกใส่ของพวกนี้ลงไปร่วมฝัง เครื่องประดับพวกนี้ ก็อาจจะมีเบาะแสที่พวกเราไม่รู้ ถ้านายมีคนที่รู้เรื่องพวกนี้ น่าจะให้พวกเขามาดูสักหน่อย พวกเราจะปล่อยผ่านทุกสิ่งที่อาจมีเบาะแสไม่ได้”

เห็นได้ชัดเจนว่า เสี่ยวฮัวรู้สึกว่าโอกาสสำเร็จมีไม่มาก ผมไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงด่วนตัดสินเช่นนี้ บางที การที่เมื่อภายหลังเรื่องราวเช่นนี้จบลงแล้ว แต่ผมยังมีความสงสัยใคร่รู้อยู่ ก็นับเป็นอาการป่วยจิตในตัวเองอยู่แล้ว

แต่ว่า เขาไม่ห้ามผม

พวกเราตรวจสอบเครื่องประดับทุกชิ้นอย่างละเอียด เครื่องประดับชาวทิเบตพวกนี้มีขนาดใหญ่มากทั้งสิ้น อีกทั้งงานฝีมือหยาบกร้าน ดุดัน รายละเอียดในนั้นส่วนมากเป็นวัตถุมงคลของชาวทิเบตดั้งเดิม และเมื่อจำแนกแยกแยะอย่างละเอียด จะพบว่ามีจำนวนมากไม่ได้เป็นของพุทธศาสนานิกายทิเบต แต่เป็นของลัทธิบอน (ทำเชิงอรรถ บอน หรือเพิน ศาสนาประจำชาติดั้งเดิมของชาวทิเบต)

พวกเราพยายามหาเครื่องประดับชิ้นที่แตกต่างไปจากเครื่องประดับชาวทิเบตธรรมดาทั่วไป เครื่องประดับส่วนใหญ่ เป็นประเภทเครื่องประดับธรรมดา แต่มีส่วนน้อยที่ผมรู้สึกสนใจ ในหมู่เครื่องประดับทั้งหมด โดยเฉพาะพวกที่ร้อยเป็นพวงๆ จะมีเม็ดกลมประหลาดสีแดงหนึ่งเม็ดรวมอยู่ด้วย

พวกเราต่างรู้ว่า เครื่องประดับชาวทิเบตส่วนมากจะทำจากหินซีบีดส์สีแดง หรือหินโมราสีแดง หินซงเซียงสีแดง (松香石=หินยางสน /แปลชั่วคราว) แล้วยังมีปะการังสีแดง แต่หินเม็ดกลมเม็ดนี้ ไม่ได้ทำจากวัสดุเหล่านั้น

ผมถามเสี่ยวฮัว “หาใครมายืนยันหน่อยได้ไหม ว่านี่คือหินอะไร”

บ้านสกุลเซี่ยมีความเชี่ยวชาญทางด้านตรวจสอบอัญมณีค่อนข้างสูง แต่เห็นได้ว่าเสี่ยวฮัวไม่ได้ถนัดด้านนี้เป็นพิเศษ เขาเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายมากตั้งแต่เด็ก กำลังหลักของเขาไม่ได้เอามาใช้กับวิธีการแยกแยะสมบัติโบราณ ในส่วนนั้นจะมีบุคลากรของตระกูลที่ฝึกมาเฉพาะทาง ดังนั้นเสี่ยวฮัวยื่นของพวกนี้ให้ซิ่วซิ่ว ถามเธอว่า “เธอลองดูซิ ว่ามันคืออะไร”

ผมไม่นึกว่าซิ่วซิ่วจะเป็นมืออาชีพในเรื่องอัญมณีพวกนี้ และแล้วผู้หญิงก็คือผู้หญิง เธอมองดูอัญมณีพวกนี้แบ้วพูดว่า “หินชนิดนี้หายากมาก มันเป็นออร์แกนิก เจมส์ (Organic Gems) ชนิดหนึ่ง”

ผมอึ้งไป ด้วยไม่เคยได้ยินว่าโลหะก็นับเป็นอัญมณีอย่างหนึ่งได้ด้วย ซิ่วซิ่วกล่าว “นี่เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนผสมของโลหะกับหิน ยังไม่มีชื่อทางการในท้องตลาด แต่ผู้คนส่วนใหญ่เรียกมันว่า หินแสงจันทร์”

ผมฟังแล้วในหัวระเบิดตู้ม นึกขึ้นได้ว่าในหอบ้านสกุลจางใช้หินชนิดนี้จำนวนมากสร้างกลไกไว้ส่วนหนึ่ง

ซิ่วซิ่วพูดว่า “หินชนิดนี้มีคุณสมบัติแปลกๆ หลายอย่าง ประการหนึ่งก็คือเหมาะสำหรับงานแกะสลักจิ๋ว คนจำนวนมากจะแกะสลักข้อมูลลับพิเศษลงไปบนนี้ เพราะคุณสมบัติความทนทานของตัวมัน มีสรรพคุณทำให้การแกะสลักขนาดจิ๋ว ชัดเจนเป็นพิเศษ”

ผมรับหินเม็ดนี้มาจากมือซิ่วซิ่ว ส่องดูอย่างละเอียด พูดว่า “บนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรอยู่นะ"

ซิ่วซิ่วกล่าว "เพื่อเป็นการซุกซ่อนข้อมูลลับ ข้อมูลนี้จะถูกแกะสลักไว้รอบๆ รูร้อย คุณดูสิ ตรงรูร้อยนี่จะหยาบกว่ามากใช่ไหม เมื่อดูอย่างนี้ คุณจะรู้สึกว่ามันแค่เป็นรอยเสียดสี แต่ความจริงบนนั้นอาจแกะสลักลวดลายที่ละเอียดมากเอาไว้"

ซิ่วซิ่วพูดพลางหยิบมือถือของเธอขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชั่นอะไรอย่างหนึ่งในนั้นแล้วเอาไปจ่อ หินกลมเกลี้ยงนี้ก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า แล้วก็มองเห็นภาพแกะสลักจิ๋วที่ไม่เป็นระเบียบอยู่รอบวงรูนั่นจริงๆ มันคืออะไรกันนะ ผมสูดหายใจเฮือก มองดูอย่างละเอียด พลางบอกให้ซิ่วซิ่วขยายมากกว่านี้

ซิ่วซิ่วส่ายหน้า "ถ้าขยายมากกว่านี้ ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง แต่ฉันรู้สึกว่า ดูแค่นี้ก็ชัดเจนมากแล้ว ภาพแกะสลักบนนี้ เป็นภาพแมงป่องที่หัวหางชนกัน"

แมงป่อง?! ผมดูมือถือซิ่วซิ่วอย่างละเอียด พบว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันคือแมงป่องตัวหนึ่งจริงๆ!

ทำไมถึงเป็นแมงป่อง ถ้าเป็นกิเลนตัวหนึ่ง ผมยังรู้สึกว่ามีเหตุผล แต่นี่เป็นแมงป่อง---เสี่ยวเกอเกิดราศีพิจิกงั้นหรือ

ความเป็นจริงก็คือ แมงป่องมีความหมายซ่อนเร้นมากมายในลวดลายภาพวาดตามประเพณีของจีนโบราณ แมงป่องมีความหมายเยอะมากในวัฒนธรรมทิเบต ในสภาพแวดล้อมของที่ราบสูง แมงป่องทิเบตคือสัตว์ที่ผู้คนต้องหวาดกลัว แต่แมงป่องตัวนี้ ดูไม่เหมือนแมงป่องทิเบต มันเหมือนลวดลายของชาวจีนเผ่าฮั่นมากกว่า มันน่าจะเป็นผลจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนและวัฒนธรรมทิเบต

รูปภาพแกะสลักนี้ คือผลลัพธ์ทั้งหมดที่พวกเราได้จากการศึกษาพวกเครื่องประดับ เสี่ยวฮัวเหมือนกับไม่ได้รู้สึกผิดคาด ผมถึงกับรู้สึกว่า เขาคงคิดว่าที่เจอเบาะแสนี้สักอย่าง ก็นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว

ผมเริ่มจากสอบถามผู้เชี่ยวชาญสองสามคนเกี่ยวกับรูปภาพนี้ ได้ข้อมูลที่คลุมเคลือก้ำกึ่งมากองโต ลวดลายแมงป่อง ไม่ใช่ไม่มีเรื่องราวเล่าขาน แต่เพราะมีเรื่องบอกเล่ามากมายเกินไป แต่เมื่อผมนำมาขบคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองกลางดึก กลับพบว่า ไม่มีเรื่องที่มีคุณค่าเลยแม้แต่นิดเดียว

เสี่ยวฮัวบอกว่า บางทีภาพที่เห็นนั่นอาจเป็นแค่ความบังเอิญ ตัวเจ้าของศพเองอาจไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่ามีภาพแกะสลักนั่นอยู่บนพวงเครื่องประดับที่ฝังร่วมกับตน

สำหรับบ้านสกุลจาง ที่มีนิสัยเป็นนักสะสม เรื่องเช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูง

แต่ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกว่ามันเป็นจุดผ่าทางตัน และเพื่อแสดงความสนับสนุนผม เสี่ยวฮัวตามเพื่อนมาสองสามคน ช่วยขยายภาพแกะสลักนั้นจนสุด ประกาศลงหนังสือพิมพ์ กระจายลงอินเทอร์เน็ต และสอบถามจากเพื่อนฝูง

เขาตั้งเงินรางวัลไว้สูง โดยหวังว่าคนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแมงป่องเช่นนี้ หรือสามารถค้นเจอข้อมูลที่ใกล้เคียง สามารถเข้ามาหาพวกเรา

เสร็จจากธุระพวกนี้ ก็คือช่วงเวลาแห่งการรอคอย ผมนึกในใจว่า ชั่วเวลาสั้นๆ จะยังไม่เห็นผลใดๆ ก็ไม่ตั้งความหวัง ดังนั้นจึงกลับเมืองหังโจว ดูแลธุรกิจต่อไป

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ผมค่อยๆ พบว่า แม้ชีวิตประจำวันจะงานยุ่งมากขนาดนี้ รายรับก็เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ความรู้สึกแร้นแค้นเหมือนเมื่อตอนเพิ่งเปิดร้าน ก็ยังผุดขึ้นในใจเป็นพักๆ

เวลาของผมส่วนใหญ่ก็จะอยู่แต่ในร้านตัวเอง บัญชีการเงินของร้านผมนั้นแยกขาดกันกับร้านอาสาม ยังคงซบเซาเหงาหงอยเช่นเดิม บางครั้งยังต้องโยกเงินทุนของอาสามกลับมาช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟทางผมเป็นครั้งคราว หากไม่ใช่เพราะผมไร้น้ำยาแล้วละก็... ผมเริ่มสงสัยว่า ร้านของพ่อผมหลังนี้ ฮวงจุ้ยไม่ดีใช่หรือไม่

แต่ไม่รู้ทำไม ผมยังคงชอบอยู่ที่นี่ นอนอยู่บนเก้าอี้เอน ฟังเสียงวิทยุ โบกพัดใบลานอันเก่า ขบคิดเรื่องราวต่างๆ ผมรู้สึกว่า มีเพียงอยู่ที่นี่เท่านั้น ผมจึงเป็นอู๋เสีย เมื่อผมออกจากห้องนี้ไป ผมก็จะกลายเป็นคนอีกคน คนคนนี้ บนตัวจะมีเงาของพานจื่อ อาสาม และผู้คนแบบต่างๆ เขาไม่ใช่ตัวผมเลย แม้ในยามที่ผมสวมวิญญาณของพวกเขา ผมสามารถไม่ไปคิดถึงพวกเขา ไม่ไประลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีต แต่ผมรู้ตัวเองดีว่า วิถีชีวิตที่ดวงวิญญาณเหล่านี้นำพามา ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากได้

แต่แม้ไม่ใช่สิ่งที่อยากได้ สิ่งที่โชคชะตาจะพามา ท้ายที่สุดก็ต้องมา


Talk:
ดูเหมือนจะจบวิกฤตเรดไลน์ เดดไลน์ของ #dmbjonly กันแล้วนะครับ
ก็เหลือแต่สารพัดเซอร์ไพรส์ในงานกันละ
สำหรับตอนนี้ ครบ . ทุก . เรือ (หลัก) ! อย่างที่ผมบอกไว้ในทอล์กที่แล้วหรือเปล่านะ
เอ เหมือนจะตกๆ อะไรไปบ้างหรือเปล่า เอ นึกไม่ออกๆ

เจอกันวันอาทิตย์ครับ
แล้วก็
สุขสันต์วันแม่ ^^

anurakbeer
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 184
Points : 3935
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Wed 12 Aug 2015, 14:11

ขาดเฮยฮัว ฮัวเฮยอยู่นะคะ...//โดนตบ
เท่าที่ดูก็มีผิงเสีย ฮัวเสีย ซิ่วเสีย(?) แค่ก
นายน้อยบรรยายกระบวนการอัพควีนแล้วก็แบบ...ชอบบบบ
จับทริคของตัวเอง...แล้วก็ค่อยๆสร้างมันขึ้นมาใหม่
---อีตอนบ่นเรื่องร้านตัวเองแล้วก็เรื่องบุคลิก เรื่องสกิลนี่น่าเอ็นดูจริงๆ
ไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหน เธอก็คืออู๋เสียของฉันเสมอนะ แงงง
อาฮัวยังคงซัพพอร์ตนายน้อยสามอย่างแข็งขัน น่าสงสารจริงๆ
PS.ไอ้น้ำลดคนไม่ใส่กางเกงในโผล่นั่นมันอะไรกัน หาคำเปรียบเปรยที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วเรอะ นายน้อย
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3635
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by prince501 Wed 12 Aug 2015, 14:19

นายน้อยคิดได้ไงว่าเสี่ยวเก้อเกิดราศีพิจิก 555 แต่ก็จริงนะทำไมถึงเป็นแมงป่องไม่ใช่กิเลน ผิงเสียไฟท์ติ้ง!!! 555 ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ

prince501
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 64
Points : 3266
Join date : 23/07/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by Malangporyim Wed 12 Aug 2015, 14:20

แง อ่านถึงบทนี้แล้วพบว่า...จำไม่ได้แล้วว่าหอสกุลจางมีกลไกอะไรมั่ง 5555 ร้องไห้ 5555

เรือหลักนี่รวม 3703 ไว้แล้วใช่ไหมคะ /ซับๆ

แง ไม่มีเหลาหย่าง 5555 (ก็บอกแล้วไงไม่ใช่เรือหลัก!) ตอนนี้เสี่ยวฮัวเท่มาก ชัดเจน (ในความเบื่อ) มาก แง ชอบจัง ขอบคุณสำหรับแปลค่ะ กิ๊บก๊าวๆ มิตรภาพๆ

Spoiler:
Malangporyim
Malangporyim
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 290
Points : 3781
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทุ่งด้วงโฮโม

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by murasaki Wed 12 Aug 2015, 14:33

“นายน้อยสามก้าวไปข้างหน้า นายน้อยสามต้องไม่ถอยหลัง”

อ่านประโยคนี้แล้วน้ำตาซึมเลย ฮื่ออออออ เฮียพานคิดถึงเฮียมากๆเลย  Sad Sad Sad Sad
murasaki
murasaki
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 11
Points : 3252
Join date : 14/06/2015
Age : 30

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by Luckey.B Wed 12 Aug 2015, 14:44

อู๋เสียอัพสกิล หาทริคการค้าการทำงานเจอแล้ว นายน้อยสู้ๆนะ ยังไงก็รักนะนายน้อย
ชอบตอนนายน้อยบรรยายมากเลย มันมีอะไรให้คิดตามเยอะจริงๆ
แมงป่องมาแล้วๆ ดีนะที่มีแม่หญิงซิ่วๆช่วยดูให้ไม่งั้นคงจะหายากอยู่
เสี่ยวฮัวก็เหมือนจะไม่สนใจแต่ก็สนับสนุนเต็มที่เหมือนเดิมเลย เสี่ยวฮัวคนงาม
แต่แอบขำ เห็นแมงป่องแล้วคิดไปถึงวันเกิดเมินได้ไงเนี่ยนายน้อย กาวมาเบาๆทันที อิอิ

อืม....ท่านนักปราชญ์ท่านนั้นช่างเปรียบเทียบเสียจริง น้ำลดคนไม่ใส่กางเกงใน เนี่ย ฮาๆๆๆๆ
Luckey.B
Luckey.B
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 102
Points : 3307
Join date : 20/07/2015
ที่อยู่ : ใต้ถุนบ้านสกุลจาง ใต้ดินบ้านอาสาม

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by annminki Wed 12 Aug 2015, 15:26

นายอ้วนเล่าาาาาา


หายไปไหนนนนนนนน

ฉันรอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเรยนะ~~~~
annminki
annminki
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 46
Points : 3484
Join date : 30/11/2014
Age : 31

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Wed 12 Aug 2015, 15:50

นายน้อยคะ เจอแมงป่องก็นึกถึงราศีเกิดเสี่ยวเกอเลยรึคะ
ในหัวของนายน้อยนี่คิดถึงแต่เสี่ยวเกอจริงๆ
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3831
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by panadda_au Wed 12 Aug 2015, 16:53

กำลังคิดตามนายน้อยเครียดๆ เจอ.. เสี่ยวเกอเกิดราศีพิจิกงั้นหรือ เข้าไปเอิ่มมม เครียดต่อไม่ถูกเลยค่ะ #dmbjเป็นนิยายตลกสินะ 5555
panadda_au
panadda_au
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 69
Points : 3540
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Wed 12 Aug 2015, 22:39

ถถถถถถถ
กระบวนการอัพควีนนายน้อย เป็นเช่นนี้เองน้อ
นี่เห็นรูปแมงป่องนึกถึงราศีเกิดเสี่ยวเกอเลยเน้อออ แอร๊ย
เรือหลักครบ //แต่เฮยเฮยหายไปอ่ะ อะไรนะ?เฮยเฮยไม่นับเป็นเรือหลัก? ไม่จริงน่าาาาา
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3849
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by falenda Thu 13 Aug 2015, 23:08

อ่านไปมันก็มีปริศนาอ่ะนะ
แมงป่องเอย
ทิเบตเอย
แลเห็นเค้าลางเห็นความวุ่นวาย

แต่ไอ้ปรัชญากางเกงใน กับมโนถึงเสี่ยวเกอมันอะไรนายวะคะ นายน้อย
falenda
falenda
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 30
Points : 3228
Join date : 27/07/2015
Age : 29

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by nightsza Fri 14 Aug 2015, 01:24

อะไรๆก็คิดถึงเสี่ยวเกอตลอดเลยนะนายน้อย
nightsza
nightsza
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 51
Points : 3281
Join date : 28/06/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by FunnyLee Thu 20 Aug 2015, 12:02

นายน้อยไม่เทียนเจินแล้ว เสี่ยวฮัวเป็นอะไรอ่ะ ทำไมนอนโรงพยาบาลนานจัง แล้วใครไปช่วยนายออกมาหึหึ อย่าบอกนะ นายแว่นดำ อ่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ
FunnyLee
FunnyLee
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 88
Points : 3301
Join date : 12/07/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by Yuwadee Wana Sat 22 Aug 2015, 03:10

แงงงงงง คิดถึงพี่พานนนนน

สงสารเสี่ยวฮัวมากกกกกก อุตส่าห์ไปช่วยจนบาดเจ็บปางตาย
นายน้อยไม่ไปเยี่ยมเลย ไม่สนใจใยดีซักกะติ้ดด
แต่พอจะมีธุระล่ะก็ รีบไปหาเชียว

แหมมมมม นายน้อยคะ อะไร ๆ ก็คิดถึงแต่เสี่ยวเกอตลอดเลยนะคะ
ได้ข่าวว่า หินเครื่องประดับนั่นพบในโลงศพคนบ้านสกุลจาง ไม่ใช่โลงเสี่ยวเกอนะคะ ไหงโยงไปว่าเสี่ยวเกอเกิดราศีพิจิกได้ล่ะเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้เสี่ยวฮัวหึงได้ยังไงล่ะคะ อิอิ
Yuwadee Wana
Yuwadee Wana
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 352
Points : 3829
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by hnee Wed 29 Jun 2016, 02:22

อาเสียย้ำคิดย้ำทำก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากทางใจกับตัวเองล่ะนะทำไงได้ล่ะ ต่อให้ย้อนกลับไปกี่ครั้งย่อมไม่เปลี่ยนการตัดสินใจหรอกเชื่อเถอะ แต่ดีจริงๆที่อาเสียสามารถค้นพบเคล็ดลับของตัวเองจัดการธุรกิจได้แล้ว คำพูดของพานจื่อทำให้รู้สึกเศร้าลึก สภาพของอาเสียในเวลานั้นช่างน่าเวทนา แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ต้องขอบคุณพานจื่อจริงๆ

ในที่สุดก็นึกถึงเสี่ยวฮัวขึ้นมาได้นะอาเสีย เรื่องคาใจกับซิ่วๆก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ คนเราเมื่อยอมเผชิญหน้าทุกอย่างย่อมต้องคลี่คลาย แต่เสี่ยวฮัวเจ็บหนักน่าดู อยู่โรงพยาบาลนานมาก ดีที่มีซิ่วๆคอยอยู่ดูแลให้ อาเสียก็ได้ตอบแทนเสี่ยวฮัวด้วยการช่วยจัดการงานให้เสี่ยวฮัว ทำได้ดีมากๆจ้ออาเสีย ไม่เสียทีที่เสี่ยวฮัวคอยช่วยเหลือมาตลอด และแม้แต่ตอนนี้ที่ทำท่าจะไม่เห็นด้วยกับอาเสีย แต่ก็ไม่ขัดไม่แย้งแถมยังพยายามให้ความร่วมมือช่วยทุกทางด้วย และยังได้ซิ่วๆช่วยอีกแรง

แต่ขำทั้งคำเปรียบเปรย น้ำลดเห็นว่าใครไม่ใส่กางเกง แล้วยังมี เสี่ยวเกอเกิดราศีแมงป่องอีก ขำเบาๆได้ตลอดจริงๆอ่ะอาเสีย 5555555 แล้วตบท้ายด้วยร้านซบเซาจะใช่เพราะตัวเองไร้น้ำยารึเปล่า หรือฮวงจุ้ยร้านไม่ดี เอิ้กๆๆๆ ก็นะ....จะยังไงที่นี่ก็คือสถานที่ของอาเสียที่แท้จริงนี่นา อ่านแล้วอดสงสารเอ็นดูอาเสียขึ้นมาไม่ได้

hnee
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 203
Points : 3675
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

#ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร  Empty Re: #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร

ตั้งหัวข้อ by arshura09 Fri 08 Jul 2016, 21:34

ทุกการเติบโตย่อมมีความเจ็บปวดรออยู่
และการดูให้เห็นมัน แล้วก้าวผ่านมันได้ คือการเติบโตไปอย่างสง่างาม
เชื่อว่ากว่าอาสาม พานจื่อจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
ก็คงไม่ต่างไปจากนายน้อยในเวลานี้เช่นกัน

มันเป็นการยากโดยแท้
ที่จะก้าวไปทั้งที่เจ็บปวดรวดร้าว
แต่นายน้อยของเราก็ชนะความซึมเศร้าตรงนั้นมาได้
และบ่มเพาะความสงสัยใคร่รู้ไปพร้อมๆกับความเก่งกาจจากประสบการณ์


บวกกับการที่มี"เพื่อน"ที่ดี
หลังจากชนะตัวเองจากการหลบลี้หนีหน้า

เสี่ยวฮัวผู้อยากหลีกเร้นจากปริศนา
กับซิ่วซิ่วที่แม้สะเทือนใจเรื่องท่านย่า
แต่ตอนนี้ก็มาเดินด้วยกันอีกครั้ง

เพื่อไขปริศนาเครื่องประดับทิเบตแห่งหอบ้านสกุลจาง
ที่สลักรอย"แมงป่องชนหาง"ไว้ในจุดที่ไม่มีคนคาดถึง

มีความอึ้งในความละเอียดอ่อนของซิ่วซิ่วมากในจุดนี้
ว่าแต่แมงป่องนี้เกี่ยวข้องกับสุสานโบราณสมัยฮั่นที่เสี่ยวเกอไปเจอตอนวัยเยาว์หรือไม่

แต่นายน้อยค่ะ แมงป่องคือราศีเสี่ยวเกอนี่คืออัลไลคะ ถถถถถถ

มาถึงช็อตสุดท้ายก็คิดเหมือนนายน้อย

"ภายนอก"เราอาจเป็นใครคนอื่นที่เราเรียนรู้มาเพื่อดำเนินการในชีวิตให้รายรื่น
แต่"ภายใน"เรายังคงหยุดยืนในจุดที่เราเคยผ่านมา
ตัวเราจริงๆที่เรารู้ว่าเราคือใคร

คิดได้แบบนี้ แสดงว่านายน้อยโตขึ้นมากแล้วจริงๆเจ้าค่ะ

รอตามปริศนาต่อค่ะ
arshura09
arshura09
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 118
Points : 3145
Join date : 14/01/2016

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ