Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
#ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
+10
falenda
meanato
Eli-kun
Luckey.B
panadda_au
yakusoku
annminki
prince501
The_Dark_Lady
anurakbeer
14 posters
หน้า 1 จาก 1
#ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
Chapter 4
เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
กล่าวถึงเรื่องประหลาดอีกเรื่องหนึ่ง
เฉินเสวี่ยหาน ไม่เข้าใจทิเบต หลังปลดประจำการเขามาก็มาทิเบต อาศัยอยู่ที่นั่นหนึ่งปีกว่า แล้วมาอยู่มูทัว (ทำเชิงอรรถ Medog County อำเภอหนึ่งใน Nyingchi ของเขตปกครองตนเองทิเบต) สามปี แต่ก็เพียงแค่อยู่เฉยๆ
ทิเบตในยุคนั้น ความยากลำบากเกินกว่าใครจะคิดได้ แต่ว่า เมื่อไหร่ที่ปรับตัวได้ ก็มักจะพบเหตุผลที่ทำให้ตนนั้นอยู่ต่อไป
เฉินเสวี่ยหานก็เช่นกัน ความเข้าใจที่เขามีต่อทิเบต มีเท่าที่ตาเห็น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ต่อ ก็เพียงแค่ ชินแล้ว
ในสายตาของเขา การเรียบเรียงทุกสิ่งของทิเบตออกมาเป็นตัวอักษร คือการทิ้งต้นสายไปหาปลายเหตุ เขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจทิเบต เพราะสำหรับเขา ทิเบตไม่ใช่แนวความคิดหนึ่ง สิ่งที่เขาชื่นชอบคือตัวตนของมันที่นี่ ไม่ใช่ชื่อ สำหรับอาคันตุกะผู้เดินทางมาพร้อมกับความชื่นชมศรัทธาต่อวัฒนธรรมอันลี้ลับของทิเบต เฉินเสวี่ยหานไม่เห็นพ้องด้วยเท่าไหร่ ทำไมต้องมาที่นี่ เหตุผลก็คืออากาศอันสดชื่นและเบาบางของที่นี่ อยู่ในภูเขาหิมะที่กว้างไพศาล อยู่ในทุ่งกว้างหรือเมืองหิมะที่สงบนิ่งดุจสรวงสวรรค์ ไม่ได้อยู่ในเรื่องเล่าตำนานที่เพ้อเจ้อเกินจริง
ช่วงระยะแรกๆ เขาอาศัยรับจ้างทำธุระทั่วไปให้นักท่องเที่ยว เป็นลูกหาบ เพื่อหาเงินซื้อนมเนยและเนื้อแกะกิน เมื่อมาถึงมูทัว เขาเปิดโรงแรมผุๆ ขึ้นแห่งหนึ่ง ยุคนั้นไม่ได้มีคนมีเงินเยอะแยะที่เปลืองพลังสมองมาตามหาความหมายของชีวิตกันที่ทิเบตเยอะแยะเหมือนอย่างตอนนี้ ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่ เป็นญาติของพวกทหารในประจำการ และพวกหน่วยป้องกันชายแดนประจำพื้นที่
ในมูทัว หนึ่งปีจะมีแปดเดือนที่หิมะปิดภูเขา ภูเขาตัวสงลาซาน หิมะตกหนัก ฤดูกาลที่หิมะปกคลุม ลูกค้าก็ยิ่งน้อย เขาอาศัยอยู่คนเดียวในโถงหลังโรงแรม ความเงียบสงัดนั้นทำให้เขาลุ่มหลง และน้อยนักที่จะมีคนมารบกวนความสงบของเขา
เขาไม่รู้ว่าความปรารถนาในการหลบหลีกลี้โลกเช่นนี้ของเขามาจากไหน อาจเป็นเพราะสมัยเด็ก ตนเคยใฝ่ฝันในความเงียบสงบขณะยืนอยู่บนปลายยอดภูเขาหิมะ ทำให้เขาไล่ตามมันมา
แต่ว่า ก็ไม่ใช่ทุกปี ที่เขาจะได้ดื่มด่ำกับความเงียบสงบเช่นนี้ ฤดูหนาวปีนั้น คือข้อยกเว้น
ฤดูหนาวปีนั้น เฉินเสวี่ยหานจำไม่ได้ว่าเป็นเดือนไหนแล้ว จำได้แต่เพียงว่า หิมะได้ตกลงมาสามวันติดกันแล้ว ขณะเขาตื่นเช้าขึ้นมากวาดหิมะ ก็เห็นพระลามะรูปนั้น ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
นั่นเป็นลามะจากวัดจี๋ลาซื่อ เหมือนจะชื่อจาจี๋ เคยแอบขอเหล้าจากเฉินเสวี่ยหานดื่มเมื่อนานมาแล้ว วัดจี๋ลาซื่อเป็นวัดทิเบตบนภูเขาหิมะ ตั้งอยู่ไม่สูงจากระดับน้ำทะเลมากเกินไปนัก สมัยเป็นลูกหาบ เฉินเสวี่ยหานเคยไปที่นั่นบ่อยๆ จึงสนิทกันดี
จากวัดจี๋ลาซื่อมาถึงที่นี่ ใช้เวลาเดินทางครึ่งวัน ขณะนั้นท้องฟ้าเพิ่งสาง หิมะยังไม่หยุดตก ตามตัวลามะจาจี๋เกาะเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง เห็นได้ว่าลงจากเขามาตั้งแต่กลางดึก ต่อให้เป็นลามะที่ชำนาญเส้นทาง การลงเขาในคืนหิมะตก ก็ยังเป็นเรื่องอันตรายมาก เฉินเสวี่ยหานคาดว่าคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทำให้เขาต้องยอมเสี่ยงขนาดนี้
จาจี๋เหมือนกับใช้เรี่ยวแรงไปหมดสิ้นแล้ว ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่เคลื่อนไหวใดๆ เฉินเสวี่ยหานถามเขาด้วยภาษาทิเบตสำเนียงแข็งๆ ว่าเป็นอะไร
จาจี๋ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงควักเงินออกมาเล็กน้อย พูดว่า “ช่วยหาของกินให้หน่อย อะไรก็ได้ ฉันยังต้องรีบเดินทางต่อ”
เฉินเสวี่ยหานถาม “ไปไหน”
จาจี๋ตอบ “วัดมาผู่ซื่อ”
วัดมาผู่ซื่อเป็นวัดใหญ่ อยู่นอกเขตมูทัว เฉินเสวี่ยหานประหลาดใจมาก เพราะการเดินทางข้ามเขาตัวสยงลาซานในฤดูกาลนี้เป็นอันตรายมาก แม้จะมีเหตุผลที่มากมายแค่ไหน ก็ควรรอให้หิมะหยุดตกแล้วหาคนมาร่วมเดินทางด้วย ไม่อย่างนั้นจะเจอหิมะถล่มขนาดเล็กได้ง่าย ขณะนี้เส้นทางภูเขาหลายจุด มองไม่เห็นทางแล้ว
ดังนั้นเฉินเสวี่ยหานเชิญจาจี๋เข้ามาข้างใน จัดเตรียมชิงเคอวอวอ (หมั่นโถวชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งข้าวชิงเคอของที่ราบสูง) มาให้จำนวนหนึ่ง แล้วถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรที่วัดใช่ไหม
จาจี๋แอบขอเหล้าจากเขาอีกสองสามกา แล้วจึงพูดว่า “เรื่องเป็นอย่างนี้ ที่วัดเรามีแขกมา พระอาจารย์ท่านสั่งให้ฉันไปแจ้งข่าวนี้กับพวกพระที่วัดมาผู่ซื่อ”
เฉินเสวี่ยหานฟังแล้วก็แปลกใจ “แขก? แขกมาจากไหน? มีนักท่องเที่ยวขึ้นเขาไปหรือ”
ในฤดูกาลนี้ ยังจะมีคนเดินทางเข้ามูทัวอีกหรือ ในเวลานี้คิดจะข้ามภูเขาตัวสยงลาซาน ต่อให้เป็นคนในพื้นที่ ยังไม่กล้าบุ่มบ่าม เว้นเสียแต่จะมีคาราวานคณะใหญ่เข้ามาจากข้างนอก แต่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็ต้องได้ยินบ้างแล้ว แต่นี่ไม่มี และอีกอย่าง นี่เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาหิมะ จะมีแขกไปเยี่ยม ก็ยิ่งแปลกประหลาด
จาจี๋ส่ายหน้า พลางห่อชิงเคอวอวอพลางพูดว่า “ไม่ใช่แขกที่เข้ามาจากข้างนอก” แล้วชี้ไปยังเทือกเขาหิมะขาวโพลนเหยียดยาวที่ไกลออกไป “เป็นแขกที่ออกมาจากข้างในภูเขาหิมะ”
ภาษาทิเบตของพระจาจี๋เจือปนสำเนียงประหลาด เฉินเสวี่ยหานฟังแล้วแปร่งหู จาจี๋ต้องเป็นคนต่างถิ่น ถูกพ่อแม่ส่งมาบวชเป็นลามะที่นี่ วัดจี๋ลาซื่อแม้จะเป็นวัดเล็กๆ ที่เก่าโทรม แต่พระเกอเชลามะใหญ่ที่นั่น เป็นปราชญ์ผู้ทรงปัญญาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ว่ากันว่ามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว มีคนจำนวนมาก ส่งลูกชายของตนเข้าวัดบนภูเขาหิมะแห่งนี้ เพื่อเรียนรู้ปัญญา
มาจากข้างในภูเขาหิมะ อาจเป็นวิธีการพูดแบบเป็นปริศนาธรรม คำพูดของพระลามะบ่อยครั้งจะเข้าใจยาก มักมาจากต้นตอที่ลึกซึ้ง
เฉินเสวี่ยหานรู้ว่า ธุระกงการของวัดพูดไปเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง อีกทั้งการถามมากก็เป็นการเสียมารยาท จึงช่วยพระจาจี๋บรรจุสิ่งของ ใส่เหล้าและอาหาร
ตามความเคยชิน เขาจะเดินเป็นเพื่อนจาจี๋ช่วงหนึ่ง ช่วยแบกห่อของสัมภาระ นับเป็นวิธีบูชาพระพุทธคุณอย่างหนึ่ง แม้เฉินเสวี่ยหานไม่ได้นับถือพุทธ แต่เขาชื่นชอบบรรยากาศสงบสุขภายใต้พิธีการเช่นนี้
หิมะเบาบางลงหน่อย ภูเขาตัวสยงลาซานที่ห่างไกลออกไปขาวโพลน กลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับก้อนเมฆท้องฟ้าสีขาวขุ่น ทิวทัศน์เช่นนี้ ทำให้จิตใจเคลิบเคลิ้ม พวกเขาไม่ได้พูดคุยกัน ฟังเสียงย่างก้าวบนพื้นหิมะ เดินเท้ากันหนึ่งชั่วโมง จาจี๋ก็หยุด เฉินเสวี่ยหานอดใจไม่ได้ เอ่ยถามขึ้นว่า ถามหาชาวบ้านสองสามคนร่วมเดินทางไปด้วยดีกว่าไหม
จาจี๋ยิ้มให้เฉินเสวี่ยหาน ส่ายหน้าตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะต้องราบรื่นด้วยดี” เขาพูดอย่างสงบ ดูออกว่าแม้จะเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย แต่เปี่ยมด้วยมุทิตาจิต พูดจบก็ทำท่าคารวะต่อเฉินเสวี่ยหาน หมายถึงการบอกลา
เฉินเสวี่ยหานทำความเคารพกลับ แม้จะรู้สึกสงสัย เกิดอะไรในวัดลามะกันแน่ ทำให้ลามะหนุ่มรูปนี้แสดงสีหน้าสงบอย่างเป็นสุขเช่นนี้ออกมาได้
เขาเหม่อลอยเล็กน้อย มองส่งจาจี๋เดินห่างออกไป ขณะนี้เอง จาจี๋เดินอีกไม่กี่ก้าว พลันหันกลับมาพูดอะไรกับเขาคำหนึ่ง
เขาจับใจความไม่ได้ คำพูดคำนั้น เหมือนกับปลิวหายไปกับเกล็ดหิมะ รอจนเขาอยากจะไล่ตามขึ้นไป ลามะหนุ่มก็หายลับไปกับหิมะขาวโลนแล้ว เหมือนกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนเลย
เรื่องราวสองเรื่องนี้ เกิดขึ้นในสถานที่ที่ห่างไกลกันพันลี้ ทว่า ความลับของเรื่องราวทั้งสอง เมื่อบอกเล่าออกมาโดยละเอียด สุดแสนจะเหนือความคาดหมาย สุสานโบราณใต้แผ่นดินจงหยวน กับอาคันตุกะจากทุ่งหิมะแห่งทิเบต มีความเกี่ยวโยงอันไม่มีใครรู้กันเช่นใด มวลปริศนาก้อนใหญ่ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์จีนที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังนี้ จะถูกคลี่คลายเพราะความประจวบเหมาะของเรื่องนี้
Talk
ตอนเช้าติดงานเกี่ยวกับวันแม่ เที่ยงเจอ #dmbjs จนลืมทิเบตไปเลย ขออภัยครับ
วันอาทิตย์หน้าแล้วนะ งาน #dmbjonly ใครที่ไปงาน แวะมาทักทายได้นะครับ ผมมีหนังสือทำเองออกเล่มนึง
งานก็มีอยู่แค่นั้น วนๆ เอาเดี๋ยวก็เจอเนอะ คุณจั่นฯ อยู่ข้างผม
แล้วก็เที่ยงมั้ง มีคิวขึ้นเวทีด้วย
รายละเอียดติดตามกันที่เพจงานนะครับ
มาๆๆ ให้มากกว่า 20 คำถามเลยเอ้า (ติดตามภาคทิเบตของจีนจนหมดก๊อกแล้ว)
วันก่อนเดินอยู่ในแฟชั่นฯ ก็เจอผู้อ่านเข้าชาร์จ ว่าผมเป็นคนแปลปัญจะใช่มั้ย เอ้ย จอมโจรใช่ไหม เอ้ยไปหลายเอ้ยจนแน่ใจว่าเป็นนักอ่านบันทึกฯ เราแน่ ตอบไปว่าใช่แล้วก็ขอบคุณกัน พอแยกกันสักพักมีวิ่งย้อนมาหาผมอีก ทีนี้ยืนคุยยาว ล้วงความลับซาไห่กับทิเบตไปมากโข
ที่สำคัญ ไม่ใช่สายกาวด้วยนะ
นักอ่านบันทึกฯ สายนอร์มอลหายากมากกก คุณเบียร์นี่เล่าแมนๆ เลยครับ เกือบไม่เป็นแล้วสิ ชินแต่เล่ากาวๆ
เจอกันตอนหน้า อนึ่ง ตอนหน้าสำคัญมาก ให้สามคำ มี ทุก เรือ (หลัก) !
ใช่ป่าวหว่า...
เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
กล่าวถึงเรื่องประหลาดอีกเรื่องหนึ่ง
เฉินเสวี่ยหาน ไม่เข้าใจทิเบต หลังปลดประจำการเขามาก็มาทิเบต อาศัยอยู่ที่นั่นหนึ่งปีกว่า แล้วมาอยู่มูทัว (ทำเชิงอรรถ Medog County อำเภอหนึ่งใน Nyingchi ของเขตปกครองตนเองทิเบต) สามปี แต่ก็เพียงแค่อยู่เฉยๆ
ทิเบตในยุคนั้น ความยากลำบากเกินกว่าใครจะคิดได้ แต่ว่า เมื่อไหร่ที่ปรับตัวได้ ก็มักจะพบเหตุผลที่ทำให้ตนนั้นอยู่ต่อไป
เฉินเสวี่ยหานก็เช่นกัน ความเข้าใจที่เขามีต่อทิเบต มีเท่าที่ตาเห็น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ต่อ ก็เพียงแค่ ชินแล้ว
ในสายตาของเขา การเรียบเรียงทุกสิ่งของทิเบตออกมาเป็นตัวอักษร คือการทิ้งต้นสายไปหาปลายเหตุ เขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจทิเบต เพราะสำหรับเขา ทิเบตไม่ใช่แนวความคิดหนึ่ง สิ่งที่เขาชื่นชอบคือตัวตนของมันที่นี่ ไม่ใช่ชื่อ สำหรับอาคันตุกะผู้เดินทางมาพร้อมกับความชื่นชมศรัทธาต่อวัฒนธรรมอันลี้ลับของทิเบต เฉินเสวี่ยหานไม่เห็นพ้องด้วยเท่าไหร่ ทำไมต้องมาที่นี่ เหตุผลก็คืออากาศอันสดชื่นและเบาบางของที่นี่ อยู่ในภูเขาหิมะที่กว้างไพศาล อยู่ในทุ่งกว้างหรือเมืองหิมะที่สงบนิ่งดุจสรวงสวรรค์ ไม่ได้อยู่ในเรื่องเล่าตำนานที่เพ้อเจ้อเกินจริง
ช่วงระยะแรกๆ เขาอาศัยรับจ้างทำธุระทั่วไปให้นักท่องเที่ยว เป็นลูกหาบ เพื่อหาเงินซื้อนมเนยและเนื้อแกะกิน เมื่อมาถึงมูทัว เขาเปิดโรงแรมผุๆ ขึ้นแห่งหนึ่ง ยุคนั้นไม่ได้มีคนมีเงินเยอะแยะที่เปลืองพลังสมองมาตามหาความหมายของชีวิตกันที่ทิเบตเยอะแยะเหมือนอย่างตอนนี้ ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่ เป็นญาติของพวกทหารในประจำการ และพวกหน่วยป้องกันชายแดนประจำพื้นที่
ในมูทัว หนึ่งปีจะมีแปดเดือนที่หิมะปิดภูเขา ภูเขาตัวสงลาซาน หิมะตกหนัก ฤดูกาลที่หิมะปกคลุม ลูกค้าก็ยิ่งน้อย เขาอาศัยอยู่คนเดียวในโถงหลังโรงแรม ความเงียบสงัดนั้นทำให้เขาลุ่มหลง และน้อยนักที่จะมีคนมารบกวนความสงบของเขา
เขาไม่รู้ว่าความปรารถนาในการหลบหลีกลี้โลกเช่นนี้ของเขามาจากไหน อาจเป็นเพราะสมัยเด็ก ตนเคยใฝ่ฝันในความเงียบสงบขณะยืนอยู่บนปลายยอดภูเขาหิมะ ทำให้เขาไล่ตามมันมา
แต่ว่า ก็ไม่ใช่ทุกปี ที่เขาจะได้ดื่มด่ำกับความเงียบสงบเช่นนี้ ฤดูหนาวปีนั้น คือข้อยกเว้น
ฤดูหนาวปีนั้น เฉินเสวี่ยหานจำไม่ได้ว่าเป็นเดือนไหนแล้ว จำได้แต่เพียงว่า หิมะได้ตกลงมาสามวันติดกันแล้ว ขณะเขาตื่นเช้าขึ้นมากวาดหิมะ ก็เห็นพระลามะรูปนั้น ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
นั่นเป็นลามะจากวัดจี๋ลาซื่อ เหมือนจะชื่อจาจี๋ เคยแอบขอเหล้าจากเฉินเสวี่ยหานดื่มเมื่อนานมาแล้ว วัดจี๋ลาซื่อเป็นวัดทิเบตบนภูเขาหิมะ ตั้งอยู่ไม่สูงจากระดับน้ำทะเลมากเกินไปนัก สมัยเป็นลูกหาบ เฉินเสวี่ยหานเคยไปที่นั่นบ่อยๆ จึงสนิทกันดี
จากวัดจี๋ลาซื่อมาถึงที่นี่ ใช้เวลาเดินทางครึ่งวัน ขณะนั้นท้องฟ้าเพิ่งสาง หิมะยังไม่หยุดตก ตามตัวลามะจาจี๋เกาะเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง เห็นได้ว่าลงจากเขามาตั้งแต่กลางดึก ต่อให้เป็นลามะที่ชำนาญเส้นทาง การลงเขาในคืนหิมะตก ก็ยังเป็นเรื่องอันตรายมาก เฉินเสวี่ยหานคาดว่าคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทำให้เขาต้องยอมเสี่ยงขนาดนี้
จาจี๋เหมือนกับใช้เรี่ยวแรงไปหมดสิ้นแล้ว ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่เคลื่อนไหวใดๆ เฉินเสวี่ยหานถามเขาด้วยภาษาทิเบตสำเนียงแข็งๆ ว่าเป็นอะไร
จาจี๋ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงควักเงินออกมาเล็กน้อย พูดว่า “ช่วยหาของกินให้หน่อย อะไรก็ได้ ฉันยังต้องรีบเดินทางต่อ”
เฉินเสวี่ยหานถาม “ไปไหน”
จาจี๋ตอบ “วัดมาผู่ซื่อ”
วัดมาผู่ซื่อเป็นวัดใหญ่ อยู่นอกเขตมูทัว เฉินเสวี่ยหานประหลาดใจมาก เพราะการเดินทางข้ามเขาตัวสยงลาซานในฤดูกาลนี้เป็นอันตรายมาก แม้จะมีเหตุผลที่มากมายแค่ไหน ก็ควรรอให้หิมะหยุดตกแล้วหาคนมาร่วมเดินทางด้วย ไม่อย่างนั้นจะเจอหิมะถล่มขนาดเล็กได้ง่าย ขณะนี้เส้นทางภูเขาหลายจุด มองไม่เห็นทางแล้ว
ดังนั้นเฉินเสวี่ยหานเชิญจาจี๋เข้ามาข้างใน จัดเตรียมชิงเคอวอวอ (หมั่นโถวชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งข้าวชิงเคอของที่ราบสูง) มาให้จำนวนหนึ่ง แล้วถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรที่วัดใช่ไหม
จาจี๋แอบขอเหล้าจากเขาอีกสองสามกา แล้วจึงพูดว่า “เรื่องเป็นอย่างนี้ ที่วัดเรามีแขกมา พระอาจารย์ท่านสั่งให้ฉันไปแจ้งข่าวนี้กับพวกพระที่วัดมาผู่ซื่อ”
เฉินเสวี่ยหานฟังแล้วก็แปลกใจ “แขก? แขกมาจากไหน? มีนักท่องเที่ยวขึ้นเขาไปหรือ”
ในฤดูกาลนี้ ยังจะมีคนเดินทางเข้ามูทัวอีกหรือ ในเวลานี้คิดจะข้ามภูเขาตัวสยงลาซาน ต่อให้เป็นคนในพื้นที่ ยังไม่กล้าบุ่มบ่าม เว้นเสียแต่จะมีคาราวานคณะใหญ่เข้ามาจากข้างนอก แต่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็ต้องได้ยินบ้างแล้ว แต่นี่ไม่มี และอีกอย่าง นี่เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาหิมะ จะมีแขกไปเยี่ยม ก็ยิ่งแปลกประหลาด
จาจี๋ส่ายหน้า พลางห่อชิงเคอวอวอพลางพูดว่า “ไม่ใช่แขกที่เข้ามาจากข้างนอก” แล้วชี้ไปยังเทือกเขาหิมะขาวโพลนเหยียดยาวที่ไกลออกไป “เป็นแขกที่ออกมาจากข้างในภูเขาหิมะ”
ภาษาทิเบตของพระจาจี๋เจือปนสำเนียงประหลาด เฉินเสวี่ยหานฟังแล้วแปร่งหู จาจี๋ต้องเป็นคนต่างถิ่น ถูกพ่อแม่ส่งมาบวชเป็นลามะที่นี่ วัดจี๋ลาซื่อแม้จะเป็นวัดเล็กๆ ที่เก่าโทรม แต่พระเกอเชลามะใหญ่ที่นั่น เป็นปราชญ์ผู้ทรงปัญญาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ว่ากันว่ามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว มีคนจำนวนมาก ส่งลูกชายของตนเข้าวัดบนภูเขาหิมะแห่งนี้ เพื่อเรียนรู้ปัญญา
มาจากข้างในภูเขาหิมะ อาจเป็นวิธีการพูดแบบเป็นปริศนาธรรม คำพูดของพระลามะบ่อยครั้งจะเข้าใจยาก มักมาจากต้นตอที่ลึกซึ้ง
เฉินเสวี่ยหานรู้ว่า ธุระกงการของวัดพูดไปเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง อีกทั้งการถามมากก็เป็นการเสียมารยาท จึงช่วยพระจาจี๋บรรจุสิ่งของ ใส่เหล้าและอาหาร
ตามความเคยชิน เขาจะเดินเป็นเพื่อนจาจี๋ช่วงหนึ่ง ช่วยแบกห่อของสัมภาระ นับเป็นวิธีบูชาพระพุทธคุณอย่างหนึ่ง แม้เฉินเสวี่ยหานไม่ได้นับถือพุทธ แต่เขาชื่นชอบบรรยากาศสงบสุขภายใต้พิธีการเช่นนี้
หิมะเบาบางลงหน่อย ภูเขาตัวสยงลาซานที่ห่างไกลออกไปขาวโพลน กลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับก้อนเมฆท้องฟ้าสีขาวขุ่น ทิวทัศน์เช่นนี้ ทำให้จิตใจเคลิบเคลิ้ม พวกเขาไม่ได้พูดคุยกัน ฟังเสียงย่างก้าวบนพื้นหิมะ เดินเท้ากันหนึ่งชั่วโมง จาจี๋ก็หยุด เฉินเสวี่ยหานอดใจไม่ได้ เอ่ยถามขึ้นว่า ถามหาชาวบ้านสองสามคนร่วมเดินทางไปด้วยดีกว่าไหม
จาจี๋ยิ้มให้เฉินเสวี่ยหาน ส่ายหน้าตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะต้องราบรื่นด้วยดี” เขาพูดอย่างสงบ ดูออกว่าแม้จะเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย แต่เปี่ยมด้วยมุทิตาจิต พูดจบก็ทำท่าคารวะต่อเฉินเสวี่ยหาน หมายถึงการบอกลา
เฉินเสวี่ยหานทำความเคารพกลับ แม้จะรู้สึกสงสัย เกิดอะไรในวัดลามะกันแน่ ทำให้ลามะหนุ่มรูปนี้แสดงสีหน้าสงบอย่างเป็นสุขเช่นนี้ออกมาได้
เขาเหม่อลอยเล็กน้อย มองส่งจาจี๋เดินห่างออกไป ขณะนี้เอง จาจี๋เดินอีกไม่กี่ก้าว พลันหันกลับมาพูดอะไรกับเขาคำหนึ่ง
เขาจับใจความไม่ได้ คำพูดคำนั้น เหมือนกับปลิวหายไปกับเกล็ดหิมะ รอจนเขาอยากจะไล่ตามขึ้นไป ลามะหนุ่มก็หายลับไปกับหิมะขาวโลนแล้ว เหมือนกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนเลย
เรื่องราวสองเรื่องนี้ เกิดขึ้นในสถานที่ที่ห่างไกลกันพันลี้ ทว่า ความลับของเรื่องราวทั้งสอง เมื่อบอกเล่าออกมาโดยละเอียด สุดแสนจะเหนือความคาดหมาย สุสานโบราณใต้แผ่นดินจงหยวน กับอาคันตุกะจากทุ่งหิมะแห่งทิเบต มีความเกี่ยวโยงอันไม่มีใครรู้กันเช่นใด มวลปริศนาก้อนใหญ่ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์จีนที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังนี้ จะถูกคลี่คลายเพราะความประจวบเหมาะของเรื่องนี้
Talk
ตอนเช้าติดงานเกี่ยวกับวันแม่ เที่ยงเจอ #dmbjs จนลืมทิเบตไปเลย ขออภัยครับ
วันอาทิตย์หน้าแล้วนะ งาน #dmbjonly ใครที่ไปงาน แวะมาทักทายได้นะครับ ผมมีหนังสือทำเองออกเล่มนึง
งานก็มีอยู่แค่นั้น วนๆ เอาเดี๋ยวก็เจอเนอะ คุณจั่นฯ อยู่ข้างผม
แล้วก็เที่ยงมั้ง มีคิวขึ้นเวทีด้วย
รายละเอียดติดตามกันที่เพจงานนะครับ
มาๆๆ ให้มากกว่า 20 คำถามเลยเอ้า (ติดตามภาคทิเบตของจีนจนหมดก๊อกแล้ว)
วันก่อนเดินอยู่ในแฟชั่นฯ ก็เจอผู้อ่านเข้าชาร์จ ว่าผมเป็นคนแปลปัญจะใช่มั้ย เอ้ย จอมโจรใช่ไหม เอ้ยไปหลายเอ้ยจนแน่ใจว่าเป็นนักอ่านบันทึกฯ เราแน่ ตอบไปว่าใช่แล้วก็ขอบคุณกัน พอแยกกันสักพักมีวิ่งย้อนมาหาผมอีก ทีนี้ยืนคุยยาว ล้วงความลับซาไห่กับทิเบตไปมากโข
ที่สำคัญ ไม่ใช่สายกาวด้วยนะ
นักอ่านบันทึกฯ สายนอร์มอลหายากมากกก คุณเบียร์นี่เล่าแมนๆ เลยครับ เกือบไม่เป็นแล้วสิ ชินแต่เล่ากาวๆ
เจอกันตอนหน้า อนึ่ง ตอนหน้าสำคัญมาก ให้สามคำ มี ทุก เรือ (หลัก) !
ใช่ป่าวหว่า...
anurakbeer- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 184
Points : 3934
Join date : 27/10/2014
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
คุณเบียร์สปอยขนาดนี้ ต่อให้วันพุธมีเรียน เราจะแอบอ่านในมือถือ...//อิบ้า
ตอนนี้เหมือนจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากคำบอกเล่าซึ่งนำไปสู่ความเชื่อมโยง
...ผู้มาเยือนจากในเขาคนนั้นเป็นใครหนอ...
PS.งาน #dmbjonly เอาเล่มบันทึกจอมโจรฯไปให้คุณเบียร์เซ็นได้ไหมคะ...
ตอนนี้เหมือนจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากคำบอกเล่าซึ่งนำไปสู่ความเชื่อมโยง
...ผู้มาเยือนจากในเขาคนนั้นเป็นใครหนอ...
PS.งาน #dmbjonly เอาเล่มบันทึกจอมโจรฯไปให้คุณเบียร์เซ็นได้ไหมคะ...
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3634
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
เอิ่มมมม ไม่มีครเข้าไปแต่มีคนออกมา ใคร? นายเมินเหรอ???
แล้วก่อนไปจาจี๋พูดว่าไรเค้าอยากรู้???
รอต่อไปค่ะ ขอบคุณมากมายสำหรับคำแปลนะคะ
ส่วนเรื่องงานอาทิตย์หน้า อยากไปมากแต่ไม่สะดวกเลยค่ะ เพราะความห่างไกล เฮ้อออออ
ปอลิง. ปูเสื่อรอตอนต่อไปนะคะ ^^
แล้วก่อนไปจาจี๋พูดว่าไรเค้าอยากรู้???
รอต่อไปค่ะ ขอบคุณมากมายสำหรับคำแปลนะคะ
ส่วนเรื่องงานอาทิตย์หน้า อยากไปมากแต่ไม่สะดวกเลยค่ะ เพราะความห่างไกล เฮ้อออออ
ปอลิง. ปูเสื่อรอตอนต่อไปนะคะ ^^
prince501- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3265
Join date : 23/07/2015
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
เรานี่เปิดคอมรอตั้งแต่เที่ยงคืนเรยเอ้า!!!
สิ่งที่รอคอยกำลังจะมา~~~
สิ่งที่รอคอยกำลังจะมา~~~
annminki- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 46
Points : 3483
Join date : 30/11/2014
Age : 31
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
ขอบคุณมากค่า นายเมินออกมาจากเขาสินะ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
ปาดดดดด ตบเข่าฉาด ถูกใจก็ตรงทอร์คนี่ล่ะค่ะ มีทุกเรือหลัก !!!??
panadda_au- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 69
Points : 3539
Join date : 27/10/2014
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
ณจุดๆนี้อยากรู้มากเลยค่ะว่าจาจี๋พูดอะไร รึจะเกี่ยวกับพ่อเมิน
แขกจากในภูเขา เมินแน่ๆเลย อิอิ
คุณเบียร์สปอยมางี้ พลาดไม่ได้เลยคะ
เอ๊ะๆๆ แต่ก็เหมือนจะปูเสื่อรออยู่ตลอดอยอยู่แล้วนินะ ฮาๆๆๆ
ฮรึกๆ พูดถึงงาน #dmbjonly แล้วจะร้อง ไปไม่ได้ด้วงตัวนี้กลับไทยไม่ทัน
ฮอลลลลล ดี้นเป็นด้วงโดนเลือดพ่อเมินอีกรอบ T^T
แขกจากในภูเขา เมินแน่ๆเลย อิอิ
คุณเบียร์สปอยมางี้ พลาดไม่ได้เลยคะ
เอ๊ะๆๆ แต่ก็เหมือนจะปูเสื่อรออยู่ตลอดอยอยู่แล้วนินะ ฮาๆๆๆ
ฮรึกๆ พูดถึงงาน #dmbjonly แล้วจะร้อง ไปไม่ได้ด้วงตัวนี้กลับไทยไม่ทัน
ฮอลลลลล ดี้นเป็นด้วงโดนเลือดพ่อเมินอีกรอบ T^T
Luckey.B- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 102
Points : 3306
Join date : 20/07/2015
ที่อยู่ : ใต้ถุนบ้านสกุลจาง ใต้ดินบ้านอาสาม
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
นึกว่าวันนี้จะไม่มีทิเบตตอนใหม่ซะแล้ว มารอตั้งแต่เที่ยงเลยนะ ฮรือ
อ่านตอนนี้แล้วอยากไปเที่ยวทิเบตเลยแฮะ ดูเงียบสงบดี
อืม แขกที่ออกมาจากภูเขาหิมะก็คงจะเป็นเขาคนนั้นหรือเปล่า ต้องใช่แน่ๆ
ว่าแต่ออกมาจากข้างในภูเขาหิมะได้ไง นายไปทำอะไรในเขา หรือนายถือกำเนิดขึ้นมาจากหิมะ OoO
งาน dmbjonly คงไม่ได้ไป ความจริงก็เสียดายเหมือนกัน
ขอบคุณคุณเบียร์สำหรับคำแปลค่ะ <3
อ่านตอนนี้แล้วอยากไปเที่ยวทิเบตเลยแฮะ ดูเงียบสงบดี
อืม แขกที่ออกมาจากภูเขาหิมะก็คงจะเป็นเขาคนนั้นหรือเปล่า ต้องใช่แน่ๆ
ว่าแต่ออกมาจากข้างในภูเขาหิมะได้ไง นายไปทำอะไรในเขา หรือนายถือกำเนิดขึ้นมาจากหิมะ OoO
งาน dmbjonly คงไม่ได้ไป ความจริงก็เสียดายเหมือนกัน
ขอบคุณคุณเบียร์สำหรับคำแปลค่ะ <3
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3436
Join date : 04/03/2015
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
ทุกเรือ...ทุกเรือหลัก....//นั่งปักหลักคอยค่ะ
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3961
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
อยากอ่านต่ออ่า #ฝนเล็บใส่จอ
ยิ่งอ่านยิ่งมีแต่ปริศนา
ขอบคุณที่แปลให้อ่านค่ะ
ปล.แล้วพบกันที่งานdmbjonlyค่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งมีแต่ปริศนา
ขอบคุณที่แปลให้อ่านค่ะ
ปล.แล้วพบกันที่งานdmbjonlyค่ะ
falenda- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 30
Points : 3227
Join date : 27/07/2015
Age : 29
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
เจอสปอยส์คุณเบียร์เข้าไป ดิ้นเป็นด้วงโดนเลือดเสี่ยวเกอสาด ฮอลลลลล
ขอบคุณมากครับ //ตั้งตารอวันอาทิตย์หน้า ฮรู่มมม
ขอบคุณมากครับ //ตั้งตารอวันอาทิตย์หน้า ฮรู่มมม
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
ขอบคุณค่ะ ^__^
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3828
Join date : 27/10/2014
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
เฉินเสวี่ยหานได้พบกับเงื่อนงำพิสดารโดยไม่รู้ตัว แต่เพราะไม่รู้เลยปล่อยมันไปตามเงาร่างของพระจาจี๋
hnee- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 203
Points : 3674
Join date : 27/10/2014
Re: #ภาคทิเบต Chapter 04 เรื่องประหลาดเรื่องที่สอง
ชอบการบรรยายตอนนี้จังค่ะ
ความสวยงามของทิเบต บางครั้งมิใช่เพราะมีจุดมุ่งหมาย
แต่ด้วยความเงียบสงบรอบกาย
ก็มีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้กัน
แม้ว่าวันที่ถูกทำลายความสงบด้วยผู้มาเยือนอันพิเศษนั้นจะดึงดูดกว่าทิวทัศน์ก็เถอะ
ปริศนาผู้ออกมาจากภูเขาหิมะ
ที่ทำให้พระลามะท่านนั้นยิ้มออกมาคืออะไรกันนะ
ไปติดตามลอยเรือหลักตอนหน้าดีกว่า
ความสวยงามของทิเบต บางครั้งมิใช่เพราะมีจุดมุ่งหมาย
แต่ด้วยความเงียบสงบรอบกาย
ก็มีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้กัน
แม้ว่าวันที่ถูกทำลายความสงบด้วยผู้มาเยือนอันพิเศษนั้นจะดึงดูดกว่าทิวทัศน์ก็เถอะ
ปริศนาผู้ออกมาจากภูเขาหิมะ
ที่ทำให้พระลามะท่านนั้นยิ้มออกมาคืออะไรกันนะ
ไปติดตามลอยเรือหลักตอนหน้าดีกว่า
arshura09- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 118
Points : 3144
Join date : 14/01/2016
Similar topics
» #ภาคทิเบต Chapter 02 เรื่องประหลาดเรื่องที่หนึ่ง (1)
» #ภาคทิเบต chapter 03 เรื่องประหลาดเรื่องที่หนึ่ง (2)
» #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร
» #ภาคทิเบต Chapter 06 การเริ่มต้นใหม่ของโชคชะตา
» #ภาคทิเบต Chapter 07 ภาพวาดสีน้ำมันของทิเบต
» #ภาคทิเบต chapter 03 เรื่องประหลาดเรื่องที่หนึ่ง (2)
» #ภาคทิเบต Chapter 05 จุดเริ่มต้นแห่งวัฏจักร
» #ภาคทิเบต Chapter 06 การเริ่มต้นใหม่ของโชคชะตา
» #ภาคทิเบต Chapter 07 ภาพวาดสีน้ำมันของทิเบต
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth