Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Drabble]#dmbjdaily 14 days left (Wu Sanxing) In their sight, In their mind (Implied พานสาม, เอ้อร์เหลียน, ซันเหลียน)
4 posters
หน้า 1 จาก 1
[Drabble]#dmbjdaily 14 days left (Wu Sanxing) In their sight, In their mind (Implied พานสาม, เอ้อร์เหลียน, ซันเหลียน)
กาวทั้งนั้น ไม่มีอะไรผสม ; w ;
...อู๋ซันเสิ่ง…
ในสายตาคนทั่วไปคือลูกชายคนที่สามของสกุลอู๋ หรือไม่ก็เถ้าแก่สาม--พี่สาม เจ้าของร้านค้าขายวัตถุโบราณที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดา กุมอำนาจนับแต่หัวโจวจนถึงฉางซา
เป็นคนที่น่าเกรงขาม…มากไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สมฉายาที่ผู้คนต่างเรียกขานว่าเป็น ‘จิ้งจอก’
...แต่ถ้าหากเป็นความคิดจากมุมมองของคนใกล้ตัวล่ะ
- อู๋เหล่าโกว -
ลูกชายคนที่สามเป็นตัววุ่นวายอย่างแท้จริง สำหรับแผนการที่เขาได้เตรียมมาเนิ่นนานเพื่อจะดึงตระกูลของตัวเองออกมาจากวังวนแห่งชะตากรรม
เจ้าสามเข้ามาแทนที่ตำแหน่งผู้นำของฝั่งใต้ดิน ตำแหน่งซึ่งเขาหมายมั่นให้เจ้ารองเป็นคนรับไป
ทั้งๆที่แทบไม่ได้สอนอะไรให้ แต่เจ้าลูกชายคนนี้กลับขวนขวายด้วยตัวเองจนถึงขนาดนี้
...จุดที่อีกฝ่ายมีชื่อเสียงและถูกยกย่องว่าเป็นมือดีทั้งในหังโจวและฉางซา…
เขายกมืออันอ่อนแรงลูบหัวลูกชายคนที่สามซึ่งนั่งหลับซบเตียงของตนอยู่
ถึงจะไม่ชอบใจนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาภูมิใจในตัวลูกชายคนที่สามคนนี้อย่างยิ่ง
...เวลาของเขาจะหมดลงแล้ว...จากที่คิดว่าอาจจะไม่มีวันนี้
...สิ่งที่ได้ทำเอาไว้คงต้องส่งต่อ
ทั้งๆที่ไม่อยากจะให้เป็นภาระไปถึงลูกหลานแท้ๆนะ
“ลำบากแกแล้ว...เจ้าสาม…”
- อู๋อี้ฉยง -
ถึงภายนอกจะเป็นคนที่ดูไม่เอาถ่าน เกกมะเหรกเกเรไปวันๆก็จริง แต่เขารู้ว่าแท้จริงแล้ว เนื้อแท้ของน้องชายคนสุดท้องนั้นมีอะไรดีๆอยู่
...เหล่าคนติดตามที่พากันเคารพนบน้อมเรียก ‘พี่สาม’
...ร้านค้าโบราณวัตถุที่โตวันโตคืน
...ความรู้ทางโบราณคดีนานัปการที่ซุกซ่อนเอาไว้ในหัวสมองนั้น
...ความฉลาดหลักแหลมเจ้าเล่ห์แสนกล
ตั้งแต่วัยรุ่นมาเขาคุ้นชินกับเสียงทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพ่อกับน้องชายคนสุดท้อง และคำเยินยอจากคนรอบข้างว่าเขานั้นเป็นลูกรัก
...แต่เขารู้ว่าสายตาของพ่อนั้นมีความภูมิอกภูมิใจในตัวน้องสามเสมอ…
ตัวเขาที่มักถูกกันออกจากเรื่องราวสมัยเก่าก่อนของพ่อ ได้แต่รู้สึกว่าน้องชายคนนี้ต่างหาก...ที่เป็นลูกรักแท้จริงของพ่อ บางที น้องอาจจะได้รู้แม้ในส่วนที่เป็นความลับที่สุดของพ่อ
...เขาอาจจะอิจฉาบ้างแต่ก็ไม่มากเพราะน้องสามเองก็เป็นน้องของเขาคนหนึ่ง เขาจึงรักและเอ็นดูอีกฝ่ายอย่างยิ่ง
ในยามที่เขามีปัญหาต้องงัดข้อกับบ้านอื่นในสกุล ก็เป็นน้องชายคนนี้ที่คอยช่วยเหลือ ผลักดันเขาอยู่เบื้องหลังเสมอ ถึงแม้การช่วยเหลือเหล่านั้นจะอยู่ในรูปแบบอันกร้าวกระด้างและบ้าบิ่นก็ตาม
...แต่เขาย่อมรู้ว่าลึกๆข้างในแล้วเด็กคนนั้นยังเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนกับครอบครัวเสมอ
เพราะเป็นแบบนั้น...ในยามที่อีกฝ่ายแวะมาบ้านด้วยใบหน้าอิดโรยและมีร่องรอยเหนื่อยล้า เขาจึงอยากจะให้อีกฝ่ายพึ่งพิงเขาบ้าง ดังเช่นที่อีกฝ่ายคอยช่วยเหลือเขามาตลอด
...แต่ดูเหมือนวันนั้นจะไม่มีวันมาถึง…
- อู๋เสีย -
อาสามของเขาเป็นคนที่ภายนอกดูไม่เอาไหน ดีแต่ด้านร่ำสุรา เคล้านรี เล่นกีฬาบัตรแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ซ่อนคม มีความรู้ด้านโบราณคดีอยู่มากมาย บางที...เขาคิดว่าอาจจะรู้ดีว่าพวกศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
...ก็เป็นโจรขุดสุสานนี่นะ…
ตัวเขาที่แม้จะถูกกันออกจากกิจการดั้งเดิมของตระกูล แต่ก็เป็นพวกชอบอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดจึงพอจับเค้าได้ ยิ่งมีบันทึกของปู่ในครอบครอง เขายิ่งรู้อะไรดีๆมาก
...แต่นั่นก็แค่คำบอกเล่า…
จนวันที่เขาดั้นด้นขอตามอาสามไปคว่ำกรวยหนแรก...ซึ่งนำพาสู่เส้นทางแห่งโชคชะตาอันไม่อาจจะหวนกลับ
เขาอาจจะโกรธเคืองตาจิ้งจอกเฒ่านี่อยู่บ้าง ที่เอาแต่ทิ้งปริศนาระลอกแล้วระลอกเล่าให้เขาไล่ตาม พอเขาไล่ตามมาจนถึงจุดๆหนึ่งก็ดันจะทิ้งเขาเอาไว้กลางทาง
...แต่ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
เขาพับจดหมายของใครบางคน ซึ่งเขาหยิบมาอ่านเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่ทราบ เก็บใส่ซอง ...ปริศนาทุกอย่างเขาคิดว่าเขาพอจะรู้ที่มาที่ไปและบทเฉลยแล้ว
...แต่ถึงอย่างงั้น เขาก็หวัง...เขาไม่อยากจะอ่านตัวอักษรแล้วคาดเดาไปเองแล้วจากนั้นก็คลำทางไปหาจางฉี่หลิงเพียงลำพัง…
...เขาอยากจะให้อาสาม อู๋เซันเสิ่ง...ไม่ว่าจะคนไหนก็ตาม...กลับมา…
เขาอยากจะฟังเรื่องราวจากปากซักครั้ง...อยากจะได้คุณอาผู้เก่งกาจคนนั้นมาอยู่เคียงข้างเป็นผู้ชี้แนะว่าเขาควรก้าวเดินต่อไปอย่างไร
...ในเส้นทางซึ่งเขารับสืบทอดมาจากอีกฝ่าย...แม้อาสามจะไม่ได้ต้องการให้เขารับช่วงต่อก็ตามที
- อู๋เอ้อร์ไป๋ -
เจ้าสามเป็นคนที่น่ารำคาญ แถมยังชอบสร้างความวุ่นวาย เป็นตัวแปรที่ทำเอาแผนการที่พ่อกับเขาร่วมกันคิดมาปั่นป่วนไปเสียหมด
...นับตั้งแต่ที่เจ้านั่นรั้นไปขุดสุสานด้วยตัวเอง...ก็กลายเป็นว่าเจ้านั่นเข้าไปแทนที่ตำแหน่งของเขาโดยสมบูรณ์
ตอนแรกก็นึกหงุดหงิดใจ
...ยิ่งเห็นอีกฝ่ายกลับมาด้วยรอยแผลเต็มตัวก็ยิ่งหงุดหงิด
นานวันจึงได้เห็น...ว่าเรื่องแบบนี้นั้น คงจะเหมาะกับอีกฝ่ายมากกว่า
เขาจึงถอยออกมาแล้วคอยสร้างเส้นสายและสืบหาข่าวอยู่เบื้องหลัง…
...เพื่อที่ซักวันจะได้ช่วยหนุนหลัง ค้ำจุนอีกฝ่ายเอาไว้
เพราะอย่างไร นั่นก็เป็นน้องชายคนสุดท้องที่เขาไม่อาจจะปล่อยมือให้ไปเผชิญกับเรื่องเลวร้ายเพียงลำพังได้
...แม้ว่าในภายหลังเขาแทบจะคลุ้มคลั่งกับเรื่องยุ่งยากที่อีกฝ่ายหามาสุมเพิ่มซึ่งรวมถึง การชักนำใครอีกคนเข้าร่วมใช้นามของอู๋ซันเสิ่งที่ทำให้เขาเสมือนทำเรื่องผิดศีลธรรมในภายหลัง…
- เซี่ยเหลียนหวน -
...ในสมัยเด็กๆนามอู๋ซันเสิ่งเป็นเพียงความน่ารำคาญอย่างหนึ่ง…
อุปนิสัยของเขากับน้องสามบ้านสกุลอู๋เรียกได้ว่าคนละขั้ว
...แต่แล้วเส้นทางแห่งชะตากรรมก็พลันพลิกเปลี่ยน…
เพื่อให้เป้าหมายของแผนการที่คนเป็นพ่อวางเอาไว้นับสิบปีลุล่วง เขาจำต้องละทิ้งตัวตนของตัวเองแล้วใช้ชื่อร่วมกับคนๆนี้…
...อู๋ซันเสิ่ง…
หมอนี่เป็นพวกมุทะลุ บ้าดีเดือด หุนหันพลันแล่น...ทำเอารู้สึกหนักใจอยู่มากที่ต้องประคับประคองแผนการนี้ไปด้วยกัน
...แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้ง อีกฝ่ายสามารถเป็นหลักให้พึ่งพิง
และสามารถไว้วางใจได้…
นานๆไปก็คล้ายกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปโดยไม่รู้ตัว
...เพราะฉะนั้นแล้ว
“รีบๆกลับมาเถอะน่ะ เจ้าซันเสิ่ง…”
- พานจื่อ -
สำหรับเขาแล้ว อู๋ซันเสิ่ง...พี่สาม ก็เป็นเสมือนเจ้าชีวิต…
คนอย่างเขา...ทหารผ่านศึกจากเวียดนาม...ตอนที่พบกัน สภาพเขาแทบไม่ต่างอะไรจากหมาข้างถนน…
ไม่จุดหมาย ไม่มีแรงผลักดันในการใช้ชีวิตต่อไป
...มีเพียงความเจ็บปวดว่าทำไมจึงรอดตาย...แล้วก็พยายามจะผลาญเวลาชีวิตตัวเองอย่างไร้ค่าในทุกๆวัน
การได้พบกับพี่สาม จึงเป็นการได้รับเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ต่อไป…
ตั้งแต่มือนี้ยื่นมาให้ในวันนั้น เขาก็สาบาน...ว่าจะอยู่เพื่อคนๆนี้ไปจนถึงที่สุด…
จะพยายามทำทุกสิ่ง...ถ้าหากนั่นเป็นคำสั่งหรือความปรารถนาของอีกฝ่าย
...แม้กระทั่งยอมเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องคนสำคัญของพี่สามเอาไว้…
เพราะชีวิตของเขานั้น...เขาได้รับทุกอย่างจากพี่สามมามากเกินพอ...แค่เสียสละชีวิตยังนับเป็นเรื่องเล็กน้อย
...อีกอย่างหนึ่ง…
ตลอดช่วงเวลาที่เฝ้ารอ เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ‘พี่สามของเขา’ คงจะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว
...เขาจึงเลือกเส้นทางนี้...เพื่อจะติดตามอีกฝ่ายไป…
ถึงจะล่าช้าไปบ้าง...แต่เขากำลังจะไป…
เพื่ออยู่เคียงข้างพี่สาม...ในอีกฟากฝั่งหนึ่ง...
END
ย้ำอีกครั้งว่ากาวทั้งนั้น
เห็นเดลี่แล้วรู้สึกอยากเขียนอาสามในมุมมองของคนอื่น
ความจริงอยากเขียนจากเสี่ยวเกอกับนายอ้วนด้วยแต่ไม่ไหวแล้ว...
...ส่วนฟิคที่ค้างไว้นั้น แหะๆ ยังไม่ได้ต่อค่ะ//หลบลงไห
...อู๋ซันเสิ่ง…
ในสายตาคนทั่วไปคือลูกชายคนที่สามของสกุลอู๋ หรือไม่ก็เถ้าแก่สาม--พี่สาม เจ้าของร้านค้าขายวัตถุโบราณที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดา กุมอำนาจนับแต่หัวโจวจนถึงฉางซา
เป็นคนที่น่าเกรงขาม…มากไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สมฉายาที่ผู้คนต่างเรียกขานว่าเป็น ‘จิ้งจอก’
...แต่ถ้าหากเป็นความคิดจากมุมมองของคนใกล้ตัวล่ะ
- อู๋เหล่าโกว -
ลูกชายคนที่สามเป็นตัววุ่นวายอย่างแท้จริง สำหรับแผนการที่เขาได้เตรียมมาเนิ่นนานเพื่อจะดึงตระกูลของตัวเองออกมาจากวังวนแห่งชะตากรรม
เจ้าสามเข้ามาแทนที่ตำแหน่งผู้นำของฝั่งใต้ดิน ตำแหน่งซึ่งเขาหมายมั่นให้เจ้ารองเป็นคนรับไป
ทั้งๆที่แทบไม่ได้สอนอะไรให้ แต่เจ้าลูกชายคนนี้กลับขวนขวายด้วยตัวเองจนถึงขนาดนี้
...จุดที่อีกฝ่ายมีชื่อเสียงและถูกยกย่องว่าเป็นมือดีทั้งในหังโจวและฉางซา…
เขายกมืออันอ่อนแรงลูบหัวลูกชายคนที่สามซึ่งนั่งหลับซบเตียงของตนอยู่
ถึงจะไม่ชอบใจนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาภูมิใจในตัวลูกชายคนที่สามคนนี้อย่างยิ่ง
...เวลาของเขาจะหมดลงแล้ว...จากที่คิดว่าอาจจะไม่มีวันนี้
...สิ่งที่ได้ทำเอาไว้คงต้องส่งต่อ
ทั้งๆที่ไม่อยากจะให้เป็นภาระไปถึงลูกหลานแท้ๆนะ
“ลำบากแกแล้ว...เจ้าสาม…”
- อู๋อี้ฉยง -
ถึงภายนอกจะเป็นคนที่ดูไม่เอาถ่าน เกกมะเหรกเกเรไปวันๆก็จริง แต่เขารู้ว่าแท้จริงแล้ว เนื้อแท้ของน้องชายคนสุดท้องนั้นมีอะไรดีๆอยู่
...เหล่าคนติดตามที่พากันเคารพนบน้อมเรียก ‘พี่สาม’
...ร้านค้าโบราณวัตถุที่โตวันโตคืน
...ความรู้ทางโบราณคดีนานัปการที่ซุกซ่อนเอาไว้ในหัวสมองนั้น
...ความฉลาดหลักแหลมเจ้าเล่ห์แสนกล
ตั้งแต่วัยรุ่นมาเขาคุ้นชินกับเสียงทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพ่อกับน้องชายคนสุดท้อง และคำเยินยอจากคนรอบข้างว่าเขานั้นเป็นลูกรัก
...แต่เขารู้ว่าสายตาของพ่อนั้นมีความภูมิอกภูมิใจในตัวน้องสามเสมอ…
ตัวเขาที่มักถูกกันออกจากเรื่องราวสมัยเก่าก่อนของพ่อ ได้แต่รู้สึกว่าน้องชายคนนี้ต่างหาก...ที่เป็นลูกรักแท้จริงของพ่อ บางที น้องอาจจะได้รู้แม้ในส่วนที่เป็นความลับที่สุดของพ่อ
...เขาอาจจะอิจฉาบ้างแต่ก็ไม่มากเพราะน้องสามเองก็เป็นน้องของเขาคนหนึ่ง เขาจึงรักและเอ็นดูอีกฝ่ายอย่างยิ่ง
ในยามที่เขามีปัญหาต้องงัดข้อกับบ้านอื่นในสกุล ก็เป็นน้องชายคนนี้ที่คอยช่วยเหลือ ผลักดันเขาอยู่เบื้องหลังเสมอ ถึงแม้การช่วยเหลือเหล่านั้นจะอยู่ในรูปแบบอันกร้าวกระด้างและบ้าบิ่นก็ตาม
...แต่เขาย่อมรู้ว่าลึกๆข้างในแล้วเด็กคนนั้นยังเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนกับครอบครัวเสมอ
เพราะเป็นแบบนั้น...ในยามที่อีกฝ่ายแวะมาบ้านด้วยใบหน้าอิดโรยและมีร่องรอยเหนื่อยล้า เขาจึงอยากจะให้อีกฝ่ายพึ่งพิงเขาบ้าง ดังเช่นที่อีกฝ่ายคอยช่วยเหลือเขามาตลอด
...แต่ดูเหมือนวันนั้นจะไม่มีวันมาถึง…
- อู๋เสีย -
อาสามของเขาเป็นคนที่ภายนอกดูไม่เอาไหน ดีแต่ด้านร่ำสุรา เคล้านรี เล่นกีฬาบัตรแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ซ่อนคม มีความรู้ด้านโบราณคดีอยู่มากมาย บางที...เขาคิดว่าอาจจะรู้ดีว่าพวกศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ
...ก็เป็นโจรขุดสุสานนี่นะ…
ตัวเขาที่แม้จะถูกกันออกจากกิจการดั้งเดิมของตระกูล แต่ก็เป็นพวกชอบอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดจึงพอจับเค้าได้ ยิ่งมีบันทึกของปู่ในครอบครอง เขายิ่งรู้อะไรดีๆมาก
...แต่นั่นก็แค่คำบอกเล่า…
จนวันที่เขาดั้นด้นขอตามอาสามไปคว่ำกรวยหนแรก...ซึ่งนำพาสู่เส้นทางแห่งโชคชะตาอันไม่อาจจะหวนกลับ
เขาอาจจะโกรธเคืองตาจิ้งจอกเฒ่านี่อยู่บ้าง ที่เอาแต่ทิ้งปริศนาระลอกแล้วระลอกเล่าให้เขาไล่ตาม พอเขาไล่ตามมาจนถึงจุดๆหนึ่งก็ดันจะทิ้งเขาเอาไว้กลางทาง
...แต่ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
เขาพับจดหมายของใครบางคน ซึ่งเขาหยิบมาอ่านเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่ทราบ เก็บใส่ซอง ...ปริศนาทุกอย่างเขาคิดว่าเขาพอจะรู้ที่มาที่ไปและบทเฉลยแล้ว
...แต่ถึงอย่างงั้น เขาก็หวัง...เขาไม่อยากจะอ่านตัวอักษรแล้วคาดเดาไปเองแล้วจากนั้นก็คลำทางไปหาจางฉี่หลิงเพียงลำพัง…
...เขาอยากจะให้อาสาม อู๋เซันเสิ่ง...ไม่ว่าจะคนไหนก็ตาม...กลับมา…
เขาอยากจะฟังเรื่องราวจากปากซักครั้ง...อยากจะได้คุณอาผู้เก่งกาจคนนั้นมาอยู่เคียงข้างเป็นผู้ชี้แนะว่าเขาควรก้าวเดินต่อไปอย่างไร
...ในเส้นทางซึ่งเขารับสืบทอดมาจากอีกฝ่าย...แม้อาสามจะไม่ได้ต้องการให้เขารับช่วงต่อก็ตามที
- อู๋เอ้อร์ไป๋ -
เจ้าสามเป็นคนที่น่ารำคาญ แถมยังชอบสร้างความวุ่นวาย เป็นตัวแปรที่ทำเอาแผนการที่พ่อกับเขาร่วมกันคิดมาปั่นป่วนไปเสียหมด
...นับตั้งแต่ที่เจ้านั่นรั้นไปขุดสุสานด้วยตัวเอง...ก็กลายเป็นว่าเจ้านั่นเข้าไปแทนที่ตำแหน่งของเขาโดยสมบูรณ์
ตอนแรกก็นึกหงุดหงิดใจ
...ยิ่งเห็นอีกฝ่ายกลับมาด้วยรอยแผลเต็มตัวก็ยิ่งหงุดหงิด
นานวันจึงได้เห็น...ว่าเรื่องแบบนี้นั้น คงจะเหมาะกับอีกฝ่ายมากกว่า
เขาจึงถอยออกมาแล้วคอยสร้างเส้นสายและสืบหาข่าวอยู่เบื้องหลัง…
...เพื่อที่ซักวันจะได้ช่วยหนุนหลัง ค้ำจุนอีกฝ่ายเอาไว้
เพราะอย่างไร นั่นก็เป็นน้องชายคนสุดท้องที่เขาไม่อาจจะปล่อยมือให้ไปเผชิญกับเรื่องเลวร้ายเพียงลำพังได้
...แม้ว่าในภายหลังเขาแทบจะคลุ้มคลั่งกับเรื่องยุ่งยากที่อีกฝ่ายหามาสุมเพิ่มซึ่งรวมถึง การชักนำใครอีกคนเข้าร่วมใช้นามของอู๋ซันเสิ่งที่ทำให้เขาเสมือนทำเรื่องผิดศีลธรรมในภายหลัง…
- เซี่ยเหลียนหวน -
...ในสมัยเด็กๆนามอู๋ซันเสิ่งเป็นเพียงความน่ารำคาญอย่างหนึ่ง…
อุปนิสัยของเขากับน้องสามบ้านสกุลอู๋เรียกได้ว่าคนละขั้ว
...แต่แล้วเส้นทางแห่งชะตากรรมก็พลันพลิกเปลี่ยน…
เพื่อให้เป้าหมายของแผนการที่คนเป็นพ่อวางเอาไว้นับสิบปีลุล่วง เขาจำต้องละทิ้งตัวตนของตัวเองแล้วใช้ชื่อร่วมกับคนๆนี้…
...อู๋ซันเสิ่ง…
หมอนี่เป็นพวกมุทะลุ บ้าดีเดือด หุนหันพลันแล่น...ทำเอารู้สึกหนักใจอยู่มากที่ต้องประคับประคองแผนการนี้ไปด้วยกัน
...แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้ง อีกฝ่ายสามารถเป็นหลักให้พึ่งพิง
และสามารถไว้วางใจได้…
นานๆไปก็คล้ายกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปโดยไม่รู้ตัว
...เพราะฉะนั้นแล้ว
“รีบๆกลับมาเถอะน่ะ เจ้าซันเสิ่ง…”
- พานจื่อ -
สำหรับเขาแล้ว อู๋ซันเสิ่ง...พี่สาม ก็เป็นเสมือนเจ้าชีวิต…
คนอย่างเขา...ทหารผ่านศึกจากเวียดนาม...ตอนที่พบกัน สภาพเขาแทบไม่ต่างอะไรจากหมาข้างถนน…
ไม่จุดหมาย ไม่มีแรงผลักดันในการใช้ชีวิตต่อไป
...มีเพียงความเจ็บปวดว่าทำไมจึงรอดตาย...แล้วก็พยายามจะผลาญเวลาชีวิตตัวเองอย่างไร้ค่าในทุกๆวัน
การได้พบกับพี่สาม จึงเป็นการได้รับเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ต่อไป…
ตั้งแต่มือนี้ยื่นมาให้ในวันนั้น เขาก็สาบาน...ว่าจะอยู่เพื่อคนๆนี้ไปจนถึงที่สุด…
จะพยายามทำทุกสิ่ง...ถ้าหากนั่นเป็นคำสั่งหรือความปรารถนาของอีกฝ่าย
...แม้กระทั่งยอมเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องคนสำคัญของพี่สามเอาไว้…
เพราะชีวิตของเขานั้น...เขาได้รับทุกอย่างจากพี่สามมามากเกินพอ...แค่เสียสละชีวิตยังนับเป็นเรื่องเล็กน้อย
...อีกอย่างหนึ่ง…
ตลอดช่วงเวลาที่เฝ้ารอ เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ‘พี่สามของเขา’ คงจะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว
...เขาจึงเลือกเส้นทางนี้...เพื่อจะติดตามอีกฝ่ายไป…
ถึงจะล่าช้าไปบ้าง...แต่เขากำลังจะไป…
เพื่ออยู่เคียงข้างพี่สาม...ในอีกฟากฝั่งหนึ่ง...
END
ย้ำอีกครั้งว่ากาวทั้งนั้น
เห็นเดลี่แล้วรู้สึกอยากเขียนอาสามในมุมมองของคนอื่น
ความจริงอยากเขียนจากเสี่ยวเกอกับนายอ้วนด้วยแต่ไม่ไหวแล้ว...
...ส่วนฟิคที่ค้างไว้นั้น แหะๆ ยังไม่ได้ต่อค่ะ//หลบลงไห
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3635
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [Drabble]#dmbjdaily 14 days left (Wu Sanxing) In their sight, In their mind (Implied พานสาม, เอ้อร์เหลียน, ซันเหลียน)
อ่านจบแล้ว อยากจะจิร้องไห้
อาสาม ทุกคนภูมิใจในตัวอาสามมากกกก
คิดถึงอาเสมอ โดยเฉพาะพี่พาน ฮืออออออออ
ป.ล.มันกาวมาก คิดถึงอาสามนะ อยากให้กลับมาเร็วๆ
อาสาม ทุกคนภูมิใจในตัวอาสามมากกกก
คิดถึงอาเสมอ โดยเฉพาะพี่พาน ฮืออออออออ
ป.ล.มันกาวมาก คิดถึงอาสามนะ อยากให้กลับมาเร็วๆ
darknessdearm- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 36
Points : 3255
Join date : 16/07/2015
Age : 25
Re: [Drabble]#dmbjdaily 14 days left (Wu Sanxing) In their sight, In their mind (Implied พานสาม, เอ้อร์เหลียน, ซันเหลียน)
กระผมอยากจะลองเก็บหมามาเลี้ยงบ้างเลย //เค้าเศร้ากันอยู่แต่ตูคิดถึงอะไรเนี่ย
อ่ะแฮ่ม ชอบตอนพี่ใหญ่พูดถึงน้องสามจังครับ อบอุ่นๆ พี่รองก็ปากแข็ง ใจจริงก็ทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนน้อง ถถถ
อ่ะแฮ่ม ชอบตอนพี่ใหญ่พูดถึงน้องสามจังครับ อบอุ่นๆ พี่รองก็ปากแข็ง ใจจริงก็ทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนน้อง ถถถ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3849
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [Drabble]#dmbjdaily 14 days left (Wu Sanxing) In their sight, In their mind (Implied พานสาม, เอ้อร์เหลียน, ซันเหลียน)
;w; แงง ชอบจังค่ะ มุมมองที่แต่ละคนมีต่ออาสาม
Cathareen- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 149
Points : 3596
Join date : 24/12/2014
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily 14 days left : Wu Sanxing (พานสาม)
» [Drabble] #dmbjdaily 52 days left : Kabe-don (壁ドン) [ว่านวัง,15,เอ้อร์เหลียน,พานสาม] *เพิ่ม* [เฮยฮัว/ฮัวเฮย, ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily 271 days left (อนุบาล) เรื่องที่ต้องคุย [ซันเหลียน]
» [Drabble] ป่วย [ซันเหลียน] 275 days left #dmbjdaily
» [Drabble] #dmbjdaily 46 days left (Zero) Getting to Zero, Starting from Zero (เอ้อร์เหลียน)
» [Drabble] #dmbjdaily 52 days left : Kabe-don (壁ドン) [ว่านวัง,15,เอ้อร์เหลียน,พานสาม] *เพิ่ม* [เฮยฮัว/ฮัวเฮย, ผิงเสีย]
» [Drabble] #dmbjdaily 271 days left (อนุบาล) เรื่องที่ต้องคุย [ซันเหลียน]
» [Drabble] ป่วย [ซันเหลียน] 275 days left #dmbjdaily
» [Drabble] #dmbjdaily 46 days left (Zero) Getting to Zero, Starting from Zero (เอ้อร์เหลียน)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth