Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15

5 posters

Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15 Empty [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15

ตั้งหัวข้อ by MinMin Sun 19 Jul 2015, 03:06





Lost Memories

fiction บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
Pairing เมินโหยวผิงxอู๋เสีย
Timeline หลังเล่มสิบที่เมินโหยวผิงเดินทางไปยังประตู สำริด ผ่านไป 2 ปี






พวกเรามาถึงโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยจี๋หลิน มีคนของเสี่ยวฮัวรออยู่แล้ว ทันทีที่เห็นเสี่ยวฮัว หนึ่งในนั้นส่งเสื้อสูทให้เขา เขาสวมทับเสื้อตัวที่เปื้อนเลือด ของนายแว่นดำเป็นเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ คงทำเพื่อปกปิดคราบเลือดตามเสื้อผ้า

“ทุกอย่างยังเหมือนเดิม อาการทรงตัว แต่ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น”

ผมเห็นคนเดินตามรายงานให้เสี่ยวฮัวฟัง มีนายแว่นดำเดินประกบอีกข้าง หากเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยเขาคงเหมือนเจ้าพ่อเดินกร่างเข้ามาในโรงพยาบาล ขนาดหมอยังต้องหลีกทางให้ เทียบกับผม นายอ้วน และเมินโหยวผิงแล้ว ราวกับพวกเราอยู่กันคนละโลก

เสี่ยวฮัวมาถึงทางเข้าห้องพักฟื้นพิเศษ เขาพูดคุยกับพยาบาลอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมาบอกว่าให้ผมตามเขาเข้าไป ส่วนคนอื่นรออยู่ข้างนอก นายอ้วนทำท่าไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ คนของเสี่ยวฮัวมีมากกว่า ที่นี่เขาใหญ่ จำใจนั่งรออยู่ข้างนอกกับเมินโหยวผิง

ก่อนเดินเข้าไป นายอ้วนกระซิบบอกผมว่า “ฉันจะเฝ้าเสี่ยวเกอให้ นายรีบๆคุยกับไอ้คุณชายนั่นให้เสร็จ”

ผมพยักหน้าแล้วเดินตามเสี่ยวฮัวไป ผ่านประตูเข้ามาเป็นทางเดินสีขาวสะอาด เขาเดินตรงเข้าไปจนถึงหน้าห้องหนึ่ง เนื่องจากผนังเป็นกระจกใส มองเห็นข้างในได้ชัดเจน

เตียงที่ตั้งอยู่กลางห้องมีคนนอนอยู่ สายจากเครื่องมือมากมายระโยงระยางค์เข้าไปที่ตัวคนคนนั้น จอมอนิเตอร์แสดงเส้นการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ ผมขยับเข้าไปใกล้ เพ่งมองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปหาเสี่ยวฮัว ขอเข้าไปดูข้างในให้เห็นชัดๆ เมื่อเขาพยักหน้า ผมก็เดินเข้าไปหยุดที่ข้างเตียง พิจารณาใบหน้าของคนที่นอนอยู่บนเตียง แล้วก็เข้าใจว่าทำไมเสี่ยวฮัวถึงสงสัยว่าผมอาจจะเป็นตัวปลอม

...คนที่นอนอยู่ตรงนั้นเหมือนผมยิ่งกว่าที่ไอ้ตัวปลอมนั้นอีก…

ผมเดินกลับออกมาข้างนอก เสี่ยวฮัวส่งยิ้มมาให้

“ฉันไม่คิดว่านายเป็นตัวปลอม และไม่คิดว่าคนที่นอนอยู่ในนั้นจะเป็นตัวปลอมเหมือนกัน”

“นายรู้ได้ยังไงว่ามีคนเหมือนฉันอยู่ในโรงพยาบาลนี้”

“มีคนส่งข้อความมาให้ฉัน” เขากดโทรศัพท์เรียกข้อความสั้นๆขึ้นมา “บอกว่านายอยู่ที่นี่ ฉันจึงส่งลูกน้องมาดู และก็พบว่ามีนายอีกคนอยู่ที่นี่จริงๆ”

“นายแน่ใจได้ยังไงว่านี่ไม่ใช่การจัดฉากหลอกอีก”

“ฉันเห็นเบอร์คนที่ส่งข้อความ มั่นใจแน่นอนว่าเขาไม่มีทางหลอกฉันในเรื่องนี้” เขาเก็บโทรศัพท์มือถือ

พวกเราเงียบกันอยู่นาน ในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นว่า

“นายไม่คิดว่าฉันจะเป็นตัวปลอมเหรอ”

“ต่อให้มีนายสักร้อยคนยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็มั่นใจว่าจะสามารถหานายตัวจริงเจอ คนอย่างนายมีแค่คนเดียวในโลกเท่านั้น”

ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นคำชมหรือคำด่า แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร “นายรู้หรือเปล่าว่าเรื่องเป็นยังไงมายังไงบ้าง”

เสี่ยวฮัวยิ้มกว้างขึ้น เอียงคอทำหน้าบ้องแบ๊วก่อนจะเอื้อมมือมาดึงหูทั้งสองข้างของผมอย่างแรง ผมร้องลั่นแล้วก็ต้องรีบหุบปากเมื่อนางพยาบาลในบริเวณนั้นหันมามอง เปลี่ยนเป็นสบถด่าในใจ

“นายทำอะไรไม่บอกฉัน ยังจะมาถามฉันอีก” เสี่ยวฮัวถอนหายใจ “นายรู้มั้ย กว่าฉันจะทำให้เฮยเสียจื่อเล่าออกมาได้ ฉันต้องเสียเวลาขนาดไหน”

“เพราะแบบนั้นนายถึงดึงหูของฉันเหรอ”  

“เผื่อนายจะฟังฉันบ้าง”

“นายก็เล่ามาสิ ฉันฟังอยู่” ผมบอกพลางนวดหูตัวเอง ไม่เข้าใจจริงๆทั้งเมินโหยวผิง ทั้งเสี่ยวฮัว ตัวผอมกว่าผมแต่ทำไมแรงเยอะนัก

“ตอนที่เกิดเรื่อง ฉันอยู่ต่างประเทศ กลับมาถึงรู้ว่าร้านของนายโดนขโมยขึ้นแต่ไม่มีอะไรหายไปเลยสักอย่าง พอฉันจะไปหานายที่ร้าน นายก็อยู่ที่ฉางซาแล้ว พอกลับมาก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฉันฟังสักอย่าง”

“แต่นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

เสี่ยวฮัวพยักหน้า “ไปคุยกันข้างนอกเถอะ”

ผมเดินตามเขากลับไปข้างนอกห้องพักฟื้นพิเศษ เห็นว่านายแว่นดำกับนายอ้วนนั่งรออยู่ข้างนอกแค่สองคน รู้สึกประหลาดใจ

“เสี่ยวเกอล่ะ”

“ไปเข้าห้องน้ำ” นายอ้วนชี้ไปสุดทางเดิน “นายคงไม่ให้ฉันตามไปเฝ้าเสี่ยวเกอในนั้นด้วยหรอกใช่มั้ย”

ที่เขาพูดก็ถูก ถ้าต้องตามไปเฝ้าถึงในห้องน้ำคงดูเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขาเกินไป เมินโหยวผิงอาจจะอึดอัดจนฉี่ไม่ออก แต่ลองคิดอีกที ผมว่าเขาคงไม่สนหรอกว่าจะมีใครถ้ำมองเขาหรือเปล่า นิสัยแบบนั้น ต่อให้เดินแก้ผ้าทั่วโรงพยาบาลก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้

ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จึงขอตัวไปห้องน้ำ แล้วก็ต้องกัดฟันกรอด ในห้องน้ำนั้นว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย ผมไล่เปิดประตูทุกห้อง มองสำรวจทุกซอกทุกมุมของห้องน้ำจนแทบจะมุดลงไปในคอห่านแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาคน...เมินโหยวผิงหายตัวไปแล้ว

ผมเดินออกมาอย่างหัวเสีย นายอ้วนทักว่าผมท้องผูกถ่ายไม่ออกใช่มั้ยถึงได้อารมณ์เสียออกมา ผมด่าเขาบอกว่าเมินโหยวผิงหายตัวไปแล้ว นายอ้วนไม่เชื่อ วิ่งเข้าไปดูในห้องน้ำ ไม่กี่นาทีเขาก็กลับออกมาหน้าจ๋อยๆ

“บางทีเสี่ยวเกออาจจะไม่ถูกใจห้องน้ำตรงนี้ ไปเข้าห้องน้ำที่อื่นก็ได้”

ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังไม่อยากยอมรับความจริงที่เมินโหยวผิงหายตัวไปแบบนี้ จึงแยกย้ายกับนายอ้วนตามหาเขา หาอยู่ค่อนวันก็ไม่เจอ ขนาดเสี่ยวฮัวให้ลูกน้องของเขาช่วยหาด้วย พวกเราก็ไม่พบแม้แต่เงาของเมินโหยวผิง หมอนั่นแม่งจะซ่อนหาเก่งเกินไปแล้ว!

ผมเดินวนรอบโรงพยาบาลอีกสองรอบ แต่ก็ไม่เจอเขา สุดท้ายก็กลับมานั่งพักตรงจุดรอจ่ายยา หงุดหงิดเป็นที่สุด อยู่ๆจะมาก็มา จะไปก็ไป คิดถึงความรู้สึกของคนที่ถูกทิ้งให้รออยู่ตรงนี้บ้างหรือเปล่า มันเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด อยู่ๆก็มาลา แล้วก็เดินไปหน้าตาเฉย ส่วนผมก็เป็นไอ้บ้าที่ได้แต่วิ่งไล่ตามเขา ไล่ตามทั้งๆที่รู้ว่ายังไงก็ไม่มีวันตามทัน ดวงตาที่มองตรงไปยังฉางไป๋ซาน มองตรงไปยังจุดหมาย...ดวงตาคู่นั้นไม่สะท้อนเงาของผมตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผมก็บ้าเองที่ยังดึงดันจะไล่ตามอยู่อย่างนี้

...ใช่ ผมนี่มันบ้าจริงๆ…

เมื่อลองคิดทบทวนดีๆแล้ว ผมก็หัวเราะกับตัวเอง เอนพิงผนัง เงยหน้าขึ้นเอามือปิดตา

ผมพยายามไล่ตามเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย...โดยไม่รู้เลยว่าบางทีเขาอาจจะกำลังวิ่งหนีผมอยู่…



ผมเหนื่อยแล้ว พอกันที…ทั้งเรื่องตัวจริงของผม เรื่องของเมินโหยวผิง…

ผมไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว…

...

ผมนั่งพักอยู่ตรงนั้นจนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าผู้คนรอบข้างเหลืออยู่บางตา ก้มมองนาฬิกาข้อมือถึงได้รู้ว่าตัวเองหลับไปเกือบสิบชั่วโมง!  ผมรีบลุกขึ้น ด่าความขี้เซาของตัวเอง นั่งหลับอยู่ตรงนั้นตั้งนาน คนผ่านไปผ่านมาคงนึกว่าผมเป็นผู้ป่วยที่แอบหนีออกจากห้องมาหาที่นอนใหม่เพราะเบื่อห้องสีเหลี่ยมสีขาวของโรงพยาบาลแน่ๆ

ผมกลับมาที่หน้าทางเข้าห้องพักฟื้นพิเศษ เห็นนายอ้วนกับเสี่ยวฮัวคุยกันอยู่ท่าทางเคร่งเครียด จึงรีบวิ่งไปหาพวกเขา

“ขอโทษ ฉันเผลอหลับ”

ผมคิดว่านายอ้วนจะต้องหันมาด่าผมแน่ๆ ทว่าเขากลับทำเหมือนไม่ได้ยิน พูดคุยกับเสี่ยวฮัวเหมือนไม่เห็นผมอยู่ในสายตา

ผมคิดว่ามันผิดปกติ นายอ้วนเป็นพวกขี้โวยวายไม่มีทางทำเมินแน่นอน ผมจึงลองเรียกชื่อของเขา แต่เขาก็ยังทำเป็นไม่ได้ยิน หันไปเรียกเสี่ยวฮัวก็ได้ผลเช่นเดียวกัน ราวกับพื้นที่ตรงนี้ไม่มีผมอยู่...เหตุการณ์นี้คล้ายกับตอนอยู่ที่สถานีรถไฟ ผมตะโกนเรียกเท่าไหร่นายอ้วนก็ไม่ได้ยิน คนรอบข้างก็ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน

ผมลองเอื้อมมือไปแตะ สะกิดนายอ้วน แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว ถึงแม้ผมจะสัมผัสตัวเขาได้ ทว่าเขากลับไม่รับรู้การคงอยู่ของผม

...หรือว่าพวกเขาจะรวมหัวกันแกล้ง เอาคืนที่ผมแอบไปงีบหลับอยู่คนเดียว

...

“พวกนายโกรธที่ฉันแอบหลับใช่มั้ย” ผมถาม “นายแกล้งทำเป็นไม่เห็นฉันใช่มั้ย เลิกใช้วิธีงี่เง่าแบบนี้เถอะ พวกเรายังต้องหาเสี่ยวเกออีก”

ทว่า...นายอ้วนยังไม่สนใจผม

“เสี่ยวฮัว นายยังติดค้างเรื่องเล่าอยู่เลย” ผมหันไปหาเสี่ยวฮัว “พวกนายสองคนเลิกแกล้งฉันสักทีเถอะ”

ผมพยายามเรียก แต่เสียงของผมส่งไปไม่ถึง

...พวกเขาไม่ได้ยิน และมองไม่เห็น…

ผมลองเงียบ ตั้งใจฟังเรื่องที่พวกเขาคุยกัน ตอนแรกได้ยินว่าคุยเรื่องตามหาคน ผมคิดว่าพวกเขายังตามหาเมินโหยวผิงกันอยู่ ทว่าจริงๆแล้วไม่ใช่เลย...คนที่พวกเขาตามหาคือผม

“ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้วไง” ผมพูดออกมา รู้สึกได้ว่าเสียงของตัวเองสั่นเล็กน้อย แต่คงมีผมคนเดียวที่รู้ เพราะพวกเขาพูดกันอีกแค่สองประโยค จากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามหาผม

...ทั้งที่ผมอยู่ตรงนี้แท้ๆ…

...

ถ้าพวกเขามองไม่เห็นผม...ผมก็สามารถแกล้งพวกเขาได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจะรู้ตัว ผมจะดักตีหัวนายอ้วน แอบเปลี่ยนของกินของเขาให้กลายเป็นอย่างอื่นแทน แอบเอาสายวัดมาวัดรอบเอวเสี่ยวฮัวได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกมองเป็นคนโรคจิต ถ้าเขาจะนั่งผมก็สามารถเอาเก้าอี้ออก หรือถ้าเขาวิ่ง ผมก็สามารถยื่นขาออกไปขัดแกล้งเขาให้ล้มแล้วถ่ายรูปเก็บไว้เอาไปให้เขาดูทีหลัง

ผมหัวเราะกับความคิดของตัวเอง

แต่...ทั้งที่คิดเรื่องสนุกแท้ๆ น้ำตากลับไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

...

...ถ้าผมต้องอยู่ในโลกที่ไม่มีสิ่งใดเชื่อมโยงกับตัวผมเลย โลกที่ต่อให้ผมหายไปก็ไม่มีใครรู้…



ผมคงทนไม่ได้



ผมเดินรอบโรงพยาบาลอีกครั้ง ก้าวผ่านผู้คนมากมาย พยายามทำตัวเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีต่างๆนานา พวกเขาจะหันมาด่าผมก็ได้ จะว่าผมก็ได้ แค่ขอให้เห็นว่าผมอยู่ตรงนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมองเห็น จนในที่สุด ผมก็หยุดเดิน...ยืนนิ่งมองสิ่งรอบตัวที่เคลื่อนไหวโดยไม่มีผม

วินาทีนั้น ผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกตัดขาดจากโลกใบนี้โดยสิ้นเชิง เหมือนหนังเรื่องหนึ่งที่ตัวเอกหลุดเข้าไปอยู่ในมิติทับซ้อน เดินผ่านสวนกับคนอื่นก็ไม่ม่ใครรู้ตัว สุดท้ายก็ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังและตายไปเพียงลำพังโดยไม่มีใครรู้ บางทีจุดจบของผมก็อาจจะเป็นแบบนั้น...หรือแย่กว่านั้น เพราะอย่างน้อยตัวเอกในเรื่องก็ยังมีความทรงจำ ในขณะที่ผมไม่มี…

...ผมไม่มีอะไรเลย…

...หากบอกว่าผมคืออู๋เสีย…
แต่ก็มีอู๋เสียอีกคนนอนไม่ได้สติอยู่ที่นี่

….ผมเป็นใครกัน…

...ในโลกนี้ ผมกลายเป็นคนที่ไร้ตัวตน…



หากหายไปก็คงไม่มีใครรู้…

ผมคิดว่าจิตใจของตัวเองก้าวเข้าสู่กระบวนการพังทลาย ความรู้สึกค่อยๆตายจากไป ขณะที่ขาสองข้างพาร่างของผมเดินไปเอง แต่ละย่างก้าวที่ผ่านผู้คน ตัวตนของผมราวกับจะถูกหั่นทิ้งทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งสุดท้าย ผมมาหยุดที่ดาดฟ้าลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งตอนนี้มีเพียงความว่างเปล่า บางทีเสี่ยวฮัวอาจจะใช้เฮลิคอปเตอร์ไปทำงานอื่นแล้ว

ผมเงยหน้ามองท้องฟ้ากลางคืน ตัดสินใจในทีเดียว ปีนข้ามรั้วกั้นไปยืนตรงขอบตึก สายลมแรงจากข้างล่างตีปะทะขึ้นมา  ผมก้าวเท้าออกไปข้างหน้า ปล่อยมือทั้งสองข้างที่จับรั้วเอาไว้ แล้วร่างของผมร่วงหล่นลงไป

ทว่าการร่วงหล่นนั้นหยุดในเสี้ยววินาที มีมือหนึ่งจับมือของผมเอาไว้ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นใบหน้าของคนที่หายตัวไปไม่บอกไม่กล่าว

เมินโหยวผิงจับมือของผมไว้แน่นแล้วดึงขึ้นมา

ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นเขาอีก ทำใจไปแล้วว่ายังไงก็คงไม่เจอกัน ดังนั้นเมื่อได้พบกันอีกครั้งแถมยังเป็นในสถานการณ์แบบนี้ สมองของผมคิดอะไรไม่ออก เมื่อเท้าแตะถึงพื้น ผมก็ยังคงมองเขา...เนิ่นนานกว่าสติของผมจะประกอบตัวเรียบเรียงคำพูดออกมา

“นายกลับมาทำไม”

เมินโหยวผิงมองผมด้วยสายตานิ่งสงบ

“ฉันเคยบอกนายแล้ว ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันจะรู้”

“แล้วตอนนี้ฉันเป็นอะไร ฉันกลายเป็นมนุษย์ล่องหนใช่มั้ย” ผมหัวเราะฝืดๆ “ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีรู้ว่าฉันมีตัวตน”

“ฉันมองเห็นนาย”

ผมยังคงหัวเราะราวกับเป็นคนบ้าเสียสติ เอื้อมมือไปจับตัวเขา...บางทีเขาอาจจะเหมือนนายอ้วน ผมจับเขาได้ แต่เขาไม่รู้สึกถึงตัวตนของผม

วินาทีนั้นเอง เมินโหยวผิงดึงตัวผมเข้าไปหา และกอดผมไว้ด้วยสองมือของเขา ไม่ต้องมีคำพูดหรือคำอธิบาย ความอบอุ่นจากตัวของเขา สัมผัสของคนที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองยังมีตัวตน

...ผมหลับตา กอดรับสัมผัสนี้ไว้แน่นราวกับเป็นสิ่งสุดท้ายที่เชื่อมโยงตัวตนของผมกับโลกใบนี้...








MinMin
MinMin
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 222
Points : 3848
Join date : 28/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Sun 19 Jul 2015, 05:54

แง้ เศร้าอ่าา นายน้อยอย่าร้องไห้เลยนะ
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3835
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Sun 19 Jul 2015, 14:35

กอดแน่นๆเลยนะ
มันปะแล่มๆอ่ะตอนนี้ แต่ก็ดี
คงใกล้จะคลี่คลายแล้วมั้ง
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3639
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15

ตั้งหัวข้อ by HaiSaka Sun 19 Jul 2015, 15:30

อ๊าาาาาาาาาาาาา กรีดร้องไม่เป็นภาษา

อยากอ่านต่อไวไวจังเลยยยย รอตอนต่อๆนะคะ
HaiSaka
HaiSaka
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 20
Points : 3324
Join date : 17/04/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter15

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Sun 19 Jul 2015, 15:38

น้ำตาร่วงเผาะๆเลยอ่ะ กระซิกๆ
คืออ่านฟิคมาเป็นแสนๆล้านๆเรื่องตลอดทั้งชีวิต อย่างน้อยที่สุดต้องอ่านวันละเรื่อง ให้ยุ่งจนจะฆ่าตัวตายก็อ่าน ต่อให้จะสอบก็อ่าน งานหมักหมมก็อ่าน นอนไม่พอก็ตื่นมาอ่าน เดิน กินข้าว จะทำให้อะไรก็อ่านได้ สกิลแบ่งแยกสมาธิระดับเซียนที่ได้มามาจากการอ่านฟิคทั้งนั้น

แต่ทั้งชีวิตที่อ่านมา มีฉากอยู่ไม่กี่ฉาก ที่ไม่ว่าจะ Cliche แค่ไหนก็อ่านแล้วร้องไห้ อ่านจบวนกลับไปเริ่มอ่านซ้ำใหม่ก็ยังร้องใหม่ 

การที่มีตัวตนอยู่ แต่กลับไม่มีใครรับรู้ถึงเราเลย แม่งโคตรน่าเศร้า เป็นสิ่งที่ผมกลัวที่สุดเลย ความตายไม่เห็นน่ากลัว กลัวแต่มีชีวิตอยู่โดยเหมือนตายไปจากใจคนอื่น

ฮือ คนบ้าจาง ถ้านายหายไปล่ะก็ นายน้อยต้องแตกสลายแน่ๆเลยนะเว้ย ฮือออออ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3853
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ