Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7

5 posters

Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7 Empty [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7

ตั้งหัวข้อ by MinMin Thu 09 Jul 2015, 21:47





Lost Memories

fiction บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
Pairing เมินโหยวผิงxอู๋เสีย
Timeline หลังเล่มสิบที่เมินโหยวผิงเดินทางไปยังประตู สำริด ผ่านไป 2 ปี



ผมรู้สึกเหมือนโดนตีหัวจนทำให้สติมึนงง มองคนที่หน้าตาเหมือนผม เสียงเหมือนผม และบอกว่าตัวเองคืออู๋เสีย ถ้าเขาเป็นอู๋เสีย แล้วผมเป็นใครล่ะ ที่ผ่านมาผมอาศัยชื่อนี้เป็นที่ยึดมั่นมาตลอด ถึงแม้จะจำอะไรไม่ได้ แต่ก็นับว่ายังรู้ชื่อตัวเอง ยังแน่ใจว่ามีตัวตนอยู่จริงๆ แต่เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้...ความจริงชื่อนี้เป็นของคนอื่นงั้นหรือ

ผมพยายามหาข้อโต้แย้ง แต่มันเป็นความพยายามที่สูญเปล่า เพราะความทรงจำของผมเป็นหน้ากระดาษขาวโพลน ไม่มีอะไรในนั้นเลย สิ่งที่จำได้ตอนนี้มีแค่เหตุการณ์ไม่กี่วันก่อนเท่านั้น จะว่าไป คนที่บอกว่าผมชื่ออะไรก็คือกลุ่มนักสำรวจเก๊ที่หลอกผม...จริงๆแล้วเขาหลอกผมมากแค่ไหน มีอะไรบ้างที่ผมเชื่อพวกเขาได้ แต่ซุ่นจื่อก็เรียกผมว่า “คุณอู๋” ส่วนนายแว่นดำเรียกผมว่า “นายน้อย”

...ผมเป็นใครกันแน่

หรือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...เป็นการหลอกลวง ทุกอย่างที่ผมทำเป็นแผนการของใครบางคน จริงๆผมอาจจะไม่ใช่อู๋เสีย แต่ถูกหลอกให้เชื่อว่าเป็นอู๋เสีย…

ตอนนั้นเอง ผมรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่ไหล่ มือของเมินโหยวผิงวางอยู่ตรงนั้น ปกติผมจะมองเขาเป็นก้อนหินไม่ก็มนุษย์เงียบที่ฟังผมพูดพล่าม เป็นหุ่นยนต์ที่ไม่รู้จักการตอบโต้ เป็นสัมภาระชิ้นใหญ่ที่ผมต้องพาไปไหนมาไหนด้วยทั้งที่ไม่รู้ว่าทำไม แต่น่าแปลกที่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกดีใจมากที่เขายืนอยู่ข้างๆผม อุ่นใจที่ไม่กี่วันก่อนพวกเราเดินทางด้วยกัน...อย่างน้อยผมก็มีคนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หากตัวผมเป็นเรื่องหลอกลวง ก็ยังมีเขาที่ยืนยันได้ว่าผมเคยมีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่ใช่เพียงภาพลวงตาของใครบางคน

เมินโหยวผิงมองผมก่อนจะหันไปหาคนหน้าเหมือนผม

“นายไม่ใช่อู๋เสีย”

“นายก็ไม่ใช่เสี่ยวเกอ” ไอ้หมอนั่นเถียงกลับ “เสี่ยวเกอไม่มีทางอยู่ที่นี่”

สองคนนั้นจ้องหน้ากัน ผมมองสลับพวกเขา แล้วก็เห็นหวังเหมิงยืนหัวหดอยู่ไม่ไกล เขามองผมอยู่ ท่าทางเหมือนมีอะไรอยากพูดด้วย ตอนที่คิดว่าควรเดินไปถาม เมินโหยวผิงเอื้อมมือไปหาหมอนั่น คลำหลังใบหู ผมคิดว่าคงเป็นวิธีการตรวจสอบว่าเขาปลอมตัวเป็นผมหรือเปล่า ทว่าคลำสักพักเมินโหยวผิงก็ดึงมือกลับ มองด้วยความสงสัย

“ฉันบอกแล้วว่าฉันคืออู๋เสียตัวจริง” หมอนั่นชี้มาทางผม “ไอ้หมอนั่นตัวปลอม นายก็ตัวปลอม ปลอมเป็นเสี่ยวเกอทำไม”

ผมพูดอะไรไม่ออก เมินโหยวผิงหันมามองผม เอื้อมมือมาหา ตอนนั้นผมคิดว่าแย่แล้ว...เขาสงสัยว่าผมเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ถ้าหากผมเป็นตัวปลอม เขาจะใช้ดาบที่สะพายอยู่ตัดคอผมหรือเปล่า

ผมรีบจับหน้าตัวเองดึงๆยืดๆยืนยันตัวเองสุดๆ แต่มือของเมินโหยวผิงกลับคว้าแขน ดึงผมเข้าหาตัว ผมเซถลาไปซบอกเขา วินาทีเดียวกับที่รู้สึกว่าอะไรบางอย่างเฉียดผ่านท้ายทอยไป ผมได้ยินเสียงหวังเหมิงร้องอย่างตกใจ กับเสียงกระสุนเจาะเข้าผนังร้าน เชี่ย! รายรับปกติก็ติดตัวแดงอยู่แล้ว ผมยังต้องจ่ายค่าซ่อมแซมร้านใหม่ด้วยเหรอ!

ผมสบถในใจก่อนจะรู้สึกตัว

ไอ้คนหน้าเหมือนผมเดินออกมานอกร้าน ตอนนั้นเอง ผมจึงสังเกตว่ารอบตัวเรามีคนมาล้อมไว้ คงเป็นพวกเดียวกับที่จะจับผมตอนอยู่สถานี คราวนี้จำนวนคนไม่ใช่น้อยๆ เมินโหยวผิงคนเดียวไม่น่าจะรับมือไหว ถ้าเป็นบ๊ะจ่างคงไม่ครณามือ แต่มนุษย์ที่ฆ่าไม่ได้ สู้ด้วยแล้วลำบาก

ผมมองสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน พยายามคิดหาทางรอด หากไม่ปะทะกันก็ต้องยอม แต่เมื่อกี้พวกนั้นใช้ปืนแบบเก็บเสียง กะยิงทะลุหัวให้ตาย คิดว่าไม่น่าจะเจรจากันได้แล้ว วินาทีนั้นผมคิดว่ายังไงก็ต้องฝ่าไปแน่ๆ แต่จะฝ่าไปยังไง

ตอนนั้นเอง รถแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งผ่าเข้ามา พวกที่ล้อมวงอยู่แตกฮือ ผมจำได้ว่าแท็กซี่คันนี้คือคันที่มาส่งพวกเราในตอนแรก จะว่าไปผมไม่ได้ให้ค่าโดยสารเขา เขาขับมาทวงงั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเขามาได้จังหวะพอดี ผมจะจ่ายให้เขาเป็นพิเศษ ขับผ่าพวกนี้อีกรอบเถอะ แล้วผมจะสรรเสริญเขาไปอีกนาน

รถแท็กซี่คันนั้นจอดตรงหน้าผม มองเข้าไปจึงเห็นว่ามีคนนั่งอยู่เบาะหลัง เขาเปิดประตูลงมา ดูเป็นผู้ชายท่าทางภูมิฐาน ใส่เสื้อเชิ้ตสีชมพู สูทสีดำ มือหนึ่งกดโทรศัพท์มือถือส่งข้อความบางอย่าง แล้วไม่กี่วินาทีต่อมา รถหลายคันเข้ามาจอดขวางทางปิดหน้าปิดหลัง คนหลายคนเดินลงมา จำนวนมากกว่าพวกแรกอย่างเห็นได้ชัด

ผู้ชายเชิ้ตชมพูเก็บโทรศัพท์มือถือ มองคนหน้าเหมือนผมแล้วยิ้ม “ว่าไง อู๋เสีย”

เชี่ย! พวกเดียวกันหมดเลยเหรอ

ผมรู้สึกหมดสิ้นทางหนีโดยสมบูรณ์แบบ นายเชิ้ตชมพูหันมามองผมบ้าง แต่เมื่อมองเมินโหยวผิง สายตาของเขาก็เปลี่ยนไป

“เฮยเสียจื่อไม่ได้ล้อเล่นสินะ”

“ไอ้หมอนี่มันปลอมเป็นฉัน” คนหน้าเหมือนผมชี้หน้าผม “เสี่ยวฮัว นายรู้เรื่องนี้อยู่แล้วเหรอ”

“เฮยเสียจื่อติดต่อมา หมอนั่นบอกว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว อาจจะมีอู๋เสียตัวปลอม”

“ไอ้หมอนี่ต่างหากตัวปลอม” ผมและคนหน้าเหมือนผมพูดพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างชี้หน้ากันเอง หากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่พลาดคือตายแบบนี้ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นภาพที่ตลกไม่น้อย

“ฉันกับอู๋เสียเป็นเพื่อนสมัยเด็ก เล่นด้วยกันบ่อยๆ พอโตขึ้นมาก็เคยทำงานร่วมกันหลายครั้ง ฉันรู้จักอู๋เสียดี เพราะฉะนั้น แยกตัวจริงตัวปลอมไม่ยาก” นายเชิ้ตชมพูยิ้ม “ฉันจะถามคำถามสามข้อ”

“ฉันตกเขา ความจำเสื่อม จะไปตอบได้ยังไง” ผมประท้วงทันที รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ไอ้หมอนี่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของผมจริงๆเหรอ ทำไมยังแยกผมตัวจริงตัวปลอมไม่ออก

“จริงๆนายอาจจะไม่ได้ความจำเสื่อม แต่แกล้งจำไม่ได้เพราะตอบไม่ได้” หมอนั่นยักไหล่ “ตระกูลฉันยึดหลักรอบคอบ ฉันต้องคาดการณ์อะไรไว้หลายๆอย่าง”

ถ้ารอบคอบแล้วมองความจริงไม่ออกก็เอาไอ้ความรอบคอบนั่นโยนแม่น้ำทิ้งไปเถอะ!

จิตใจผมไม่อยู่กับการตอบคำถามแล้ว ผมคิดอย่างเดียวว่าจะหนียังไง หันไปมองเมินโหยวผิง พบว่าเขายืนนิ่งดูใจลอย สถานการณ์แบบนี้นายยังเหม่อได้อีกเหรอ!!!

“คำถามที่หนึ่ง ฉันมีรอบเอวกี่นิ้ว”

ผมสำลักอากาศ ความคิดวาบขึ้นมาเลยว่าหมอนี่คือคุณชายเก้าที่นายแว่นดำพูดถึงแน่ๆ ผมมองเอวของเขา อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองเคยถามคำนี้โรคจิตแบบนี้จริงๆเหรอ เมื่อหันไปมองไอ้คนหน้าเหมือน เห็นหมอนั่นทำหน้าตะลึงตกใจไม่แพ้ผม คำถามของนายเชิ้ตชมพูเด็ดจริงๆ

“ไม่มีใครตอบได้ งั้นคำถามข้อที่สอง เฮยเสียจื่อเรียกฉันว่าอะไร”

“คุณชายเก้า” คำตอบพร้อมกันทั้งผมและไอ้ตัวปลอม เสี่ยวฮัวพยักหน้า ถามคำถามต่อไปทันที

“ฉันเกิดวันที่เท่าไหร่”

เชี่ย! ผมจะไปรู้ได้ยังไง

ผมเหงื่อแตกพลั่ก ส่วนไอ้ตัวปลอมนั่นตอบได้ทันที จบเห่แล้ว ผมจับมือเมินโหยวผิง เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ เมินโหยวผิงหันมามองผมอย่างช้าๆ นายช่วยเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้หน่อยได้มั้ย!!! ถ้าพวกเราหนีไม่รอด ตายไปทั้งที่ยังความจำเสื่อม ยมบาลข้างล่างถามอะไรมาก็ตอบไม่ได้ อาจโดนท่านพญายมพิโรธง่ายๆนะเฟ้ย!

“ได้คำตอบแล้ว” นายเชิ้ตชมพูพูดอย่างอารมณ์ดี ชักวัตถุประหลาดออกมาจากแขนเสื้อ พุ่งตรงเข้าซัดไอ้คนหน้าเหมือนผมทันที หมอนั่นโดนฟาดกระเด็นไม่ทันตั้งตัว หวังเหมิงวิ่งหลบเข้าไปในร้าน เสี่ยวฮัวตามไปซัดต่อทว่าหมอนั่นเบี่ยงตัวหลบ ดีดตัวถอยห่างไปไกล

“นายทำบ้าอะไรน่ะ เสี่ยวฮัว” ไอ้หมอนั่นยังพยายามหลอกว่าตัวเองเป็นผม ถึงตรงนี้นายเชิ้ตชมพูทำสีหน้าเย็นชา เสียงพูดไม่มีความร่าเริงอีกต่อไป

“เลิกเล่นละครได้แล้ว ฉันทนดูนายปลอมเป็นอู๋เสียมาหลายวัน เห็นแล้วหงุดหงิดสายตา ลงทุนศัลยกรรมมาทั้งทีน่าจะศึกษานิสัยของอู๋เสียมาให้ดีกว่านี้”

“ฉันคืออู๋เสียตัวจริง!”

“ถ้าเป็นอู๋เสียตัวจริง เมื่อกี้นายไม่ควรกระโดดหลบ เพราะอู๋เสียไม่มีทางหลบได้ อีกอย่าง อู๋เสียน่ะ แม้แต้ชื่อจริงของฉันยังจำไม่ได้ จะไปจำวันเกิดของฉันได้ยังไง”

ทำไมผมรู้สึกว่าเหตุผลของเขาช่างแทงใจดำผมเหลือเกิน พูดขนาดนี้ด่ามาเลยดีกว่าว่าผมมันกาก ไม่ได้เรื่อง แถมยังโหดร้ายจำชื่อเพื่อนสมัยเด็กไม่ได้

ไอ้ตัวปลอมมื่อรู้ว่าแถต่อไปไม่ได้แล้วก็ชักปืนออกมายิง เสี่ยวฮัวหลบแล้วพุ่งตัวไปซัดต่อ ส่วนพวกที่เหลือตะลุมบอนกันเอง ผมจึงรู้ว่าไอ้พวกที่ล้อมผมตอนแรกเป็นพวกหมอนั่น ส่วนพวกที่ลงจากรถทีหลังเป็นพวกของเสี่ยวฮัว

ตอนแรกคนของเสี่ยวฮัวมีมากกว่า แต่ไอ้นั่นคงเรียกพวกมาเพิ่ม จำนวนคนที่ปะทะกันตอนนี้ชุลมุนวุ่นวาย ผมเกือบโดนไม้เขวี้ยงมาฟาดหัวแล้ว หากเมินโหยวผิงใช้มือรับไว้เสียก่อน ผมตัดสินใจหนีเข้าไปในร้านแบบเดียวกับหวังเหมิงแล้วก็พบว่าในร้านมีคนของพวกนั้นดักอยู่ด้วย ผมเห็นหน้าต่างหลังร้านเปิดอยู่ คงปีนเข้ามาจากทางนั้น หวังเหมิงยืนทำอะไรไม่ถูก ท่าทางขวัญกระเจิงสติหลุดหาย ผมเข้าไปตบหน้าเขาสองสามที เมินโหยวผิงจัดการไอ้พวกที่บุกรุกเข้ามา ผมได้ยินเสียงข้าวของในร้านแตก หันไปตะโกน

“เบาๆหน่อยเสี่ยวเกอ! ร้านฉันติดตัวแดงอยู่”

เมินโหยวผิงหันมาพยักหน้า ก่อนจะเปลี่ยนจากการใช้แท่งเหล็กฟาดเป็นใช้มือบีบขมับของอีกฝ่ายแทน ผมได้ยินเสียงเขาร้องอย่างทรมานก่อนจะสลบไป เมินโหยวผิงโยนหมอนั่นออกไปนอกหน้าต่าง แล้วปีนออกไป ผมลากหวังเหมิงปีนตามไปด้วย เมินโหยวผิงจัดการกวาดล้างเส้นทางข้างนอกแล้ว การปะทะกันฝั่งนี้ไม่ดุเดือดเท่าข้างหน้า ผมบอกให้หวังเหมิงรีบหนีไป กลับบ้านไปก่อนก็ได้ หยุดงานยาวๆสักหนึ่งสัปดาห์

“เจ้านายกลับมาจริงแล้วใช่มั้ย” หวังเหมิงถามผมด้วยหน้าตาเหมือนจะร้องไห้

ความทรงจำของผมยังไม่กลับมา ที่สั่งไปทั้งหมดที่แค่สัญชาตญาณทำไปโดยไม่รู้ตัว ผมพยักหน้า แล้วผลักเขาให้รีบวิ่งไป หวังเหมิงหยิบอะไรบางอย่างยัดใส่มือผม

“เจ้านายอย่าลืมให้เงินเดือนย้อนหลังด้วยนะ” เขาบอกก่อนจะมุดๆหนีไป ผมมองตาม แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนกันแน่ ทั้งจำชื่อเพื่อนสมัยเด็กไม่ได้ ทั้งไม่ให้เงินเดือนลูกน้อง แถมยังมีคำถามโรคจิตอย่างรอบเอวของคนอื่นขนาดกี่นิ้ว...ทำไมดูไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

ผมเก็บของที่หวังเหมิงให้มายัดลงกระเป๋ากางเกง ตอนนั้นเองมีคนฟาดหลังผม รู้สึกเจ็บวูบกระดูกสั่น แต่ก็ต้องฝืนหันตัวกลับ ไอ้ลอบกัดกำลังหวดแท่งเหล็กลงมาอีกรอบ ผมกลิ้งตัวหลบ เห็นเงาโฉบลงมาจากฟ้า ปรากฏว่าเป็นเมินโหยวผิง เข่าลอยกระแทกไอ้ลอบกัดนั่นกระเด็นไปไกล สมน้ำหน้า!

เมินโหยวผิงยื่นมือมา ดึงผมให้ลุกขึ้นยืน ตอนนั้นเองผมจึงเห็นว่ารอบข้างตรงนี้มีคนนอนล้มให้เกลื่อน

“ฝีมือนายหมดเลยเหรอ เสี่ยวเกอ”

เมินโหยวผิงส่ายหน้า ชี้ไปยังทิศที่ยังคงมีการตะลุมบอนอยู่ ผมจึงเห็นว่านอกจากเขายังมีผู้ชายตัวใหญ่อีกคนถือแท่งไม้ฟาดคนรอบข้างจนกระเด็น ท่าทางเหมือนช้างอาละวาดฟาดงวงฟาดงา ไม่รู้ว่าอ้วนแบบนั้นไปเอาความคล่องแคล่วมาจากไหน ผมเห็นคนหนึ่งยกไม้ฟาด แต่หมอนั่นหลบได้ แถมยังหันไปฟาดกลับด้วยมือเพียงข้างเดียว แล้วยึดไม้จากไอ้นั่นมา ถือสองมือไล่ทุบคนอื่น ดูเป็นการรังแกข้างเดียว ผมชักรู้สึกสงสารคนดวงกุดกลุ่มนี้ยังไงไม่รู้

นายอ้วนจัดการล้มทุกคนจนหมด ก็หันมาหาพวกเรา

“เทียนเจิน ขึ้นรถ!” เขาโบกมือ ผมไม่รู้ว่าคำเรียกนั่นหมายถึงผมหรือเปล่า แต่ความรู้สึกบอกว่าใช่ อีกอย่างผมคุ้นเคยกับนายอ้วนคนนี้มากๆ และเมินโหยวผิงก็ไม่มีท่าทางต่อต้านอะไร เขาพยุงผมตามนายอ้วนไป

รถของนายอ้วนจอดอยู่ไม่ไกล เขาตัวใหญ่ ปรับเบาะที่นั่งคนขับถอยมาจนข้างหลังแทบไม่เหลือที่นั่ง ผมกับเมินโหยวผิงจึงต้องเบียดกันอยู่ฝั่งเดียว พอเขาออกรถกระชาก ผมก็เซไปซบคนข้างๆ ตัวของเมินโหยวผิงแข็งจริงๆ มีแต่กล้ามเนื้อ ถ้าเป็นผู้หญิงตัวนิ่มๆผมคงมีความสุขกว่านี้

“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่นายไปทำอะไรมาฮึ” นายอ้วนส่งเสียงไม่พอใจ “บอกแล้วไงว่าถ้ามีที่ไหนจำเป็นต้องไปให้มาตามฉัน อย่าปล่อยให้ฉันต้องมีเรื่องเสียใจอีกในชีวิตนี้”

“งั้นนายช่วยบอกฉันหน่อย”

นายอ้วนหันหน้ากลับมา “เรื่องนายตัวปลอมน่ะเหรอ”

นั่นก็เรื่องที่ผมอยากรู้ แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่อยากรู้ที่สุด ผมมองเมินโหยวผิงแล้วหันกลับไปมองเขา ถามว่า

“ฉันกับเสี่ยวเกอ พวกเราเป็นใครกันแน่”







MinMin
MinMin
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 222
Points : 3843
Join date : 28/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Thu 09 Jul 2015, 22:35

นายน้อยย กลับมาจำได้ซะทีเถอะ ว่าแต่สงสัยมากว่าทำไมเสี่ยวเกอถึงออกมาก่อน
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Thu 09 Jul 2015, 22:36

ลูกแกะหลงทางตัวน้อย...ฮรืออออ น่ารัก ตอนถามนายอ้วนนี่น่ารัก //แกโฟกัสที่อะไรยะ...
คุณชายเซี่ยคนดี แงงงง แยกออกด้วยเรื่องแบบนั้น ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเลย
มากันวันต่อวัน... ขอบคุณมากค่า
รู้สึกได้เติมกาวไปผจญควิซต่อ
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3634
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Fri 10 Jul 2015, 03:12

5555555555555555555555555555
ขนาดชื่อจริงยังจำไม่ได้ เทียนเจินแอบกระอั่กเลยนะนั่น กร๊ากกก
สรุปไปทำอะไรมาถึงได้ความจำเสื่อมล่ะเนี่ยยย
เสี่ยวเกอก็สัญชาตญาณดีมาก จำไม่ได้ยังรู้อีกเนอะว่าใครตัวจริง //บอกแล้วว่าจางอากงเค้าจำกลิ่นนายน้อยได้ แค่กๆ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7 Empty Re: [Fic] Lost Memories [ผิงเสีย] Chapter7

ตั้งหัวข้อ by tamahome Fri 10 Jul 2015, 08:21

จำชื่อเพื่อนสมัยเด็กไม่ได้ สาอะไรกับวันเกิด แง~~~~~ รุ้สึกกระทบซัมวัน 5555555 //โอ๋นะคะคุณชาย
ชอบที่นายน้อยความจำเสื่อมแต่ยังคงรุ้สึกคุ้นเคย คำสบถก็เหมือนเดิม ความรู้สึก มุมมอง ความผูกพันก็เหมือนเดิมนี่แหละค่ะ แบบว่าสายสัมพันธ์ลึกซึ้งทะลุซีลีบรั่มไปแล้วอะไรงั้นอ่ะ TwwT
tamahome
tamahome
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 32
Points : 3504
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ