Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
#ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
+13
nightsza
sagacity191
annminki
Erh
Yuwadee Wana
DarkAki
DuongHuen
ShiroDia
hnee
scuroluce
yakusoku
Malangporyim
anurakbeer
17 posters
หน้า 1 จาก 1
#ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
Chapter 11
เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
การพบว่าในรูปถ่ายมีคนหายไปคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเขา เพราะรูปถ่ายส่วนใหญ่ถ่ายขณะทำกิจกรรมรอบกองไฟ ทั้งคนเยอะทั้งวุ่นวาย เหตุที่อู๋เสียสังเกตเห็นจุดนี้ เพราะในรูปถ่ายปึกแรกที่เขาได้ดู หลานถิงมีรูปถ่ายคู่กับหญิงสาวอีกคนจำนวนมาก แต่ในปึกนี้ กลับไม่มีเลยสักใบ
“นักวาดภาพประกอบคนนั้นทำไมหายตัวไป” เขาถาม “ที่ชื่อเตาสักอย่าง”
“เตาเตา”
“ใช่ เธอหายไปไหน ถอนตัวไประหว่างทางหรือ” เขามองหน้าหลานถิง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี คงไม่ใช่เกิดเรื่องร้ายขึ้นระหว่างทริปของพวกเขาหรอกนะ แต่ในรูปถ่าย เธอก็ยังยิ้มแย้มสดชื่น ถ้าเพื่อนสนิทของเธอเกิดเรื่องแล้วเธอยังยิ้มแป้นได้ขนาดนั้น เขาคงต้องพิจารณานิสัยใจคอของเธอใหม่แล้ว
หลานถิงขบริมฝีปากล่างทีหนึ่ง แต่แล้วก็พูดว่า “เธอไม่ได้ไปไหน เธออยู่ในรูปถ่ายพวกนี้นี่แหละ---”
เขามองหน้าเธอต่อ “ในรูปไม่มีเธอ”
“มีสิ รูปถ่ายส่วนใหญ่มีเธอทั้งนั้น เธอเป็นคนชอบถ่ายรูป ตอนที่ฉันถ่ายรูปพวกนี้ รูปถ่ายหลายใบฉันใช้เธอเป็นจุดโฟกัสอีกด้วย”
อู๋เสียพลันเข้าใจสิ่งที่เธอตั้งใจจะบอกแล้ว แต่เขาไม่กล้าเชื่อ จ้องมองเธอ รอให้เธอพูดต่อ
เธอพูดต่อไปว่า “แต่ว่า รอจนฉันล้างรูปพวกนี้ออกมา กลับพบว่า ไม่มีเธออยู่บนรูป แม้กระทั่งรูปที่ฉันแน่ใจได้ว่าจงใจถ่ายเธอแน่ๆ ก็ยังไม่มี”
เขาใจหายวาบ มองดูรูปถ่ายพวกนี้ ความคิดวูบแรกไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเธอกำลังหลอกตัวเองหรือเปล่า
ได้ยินบ่อยๆ ว่านักเขียนที่เขียนนิยายลี้ลับมักเขียนจนตัวเองเป็นประสาท หรือว่าหลานถิงปั่นต้นฉบับจนแย่แล้ว แยกไม่ออกว่าไหนคือความจริงไหนคือจินตนาการ
แต่เขามองตาของเธอ ไม่เห็นแววของความสับสนแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้ไหมว่าคุณจำผิด เพื่อนของคุณจงใจหลบกล้อง ผมเคยอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง ในเรื่องมีเพื่อนของคนคนหนึ่งหายตัวไป เมื่อเขาคนนั้นอยากจะหารูปถ่ายของเพื่อนเพื่อลงประกาศคนหาย กลับพบว่าคนคนนี้ไม่เคยมีรูปถ่ายหน้าตรงเลยแม้แต่ใบเดียว ในกองรูปถ่ายทั้งหมด เพื่อนคนนั้นจะจงใจหลบเลี่ยงหรือไม่ก็หันข้างเท่านั้น” อู๋เสียกล่าว เขาได้แต่พยายามทำให้ตัวเองเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริงเพื่อยับยั้งความรู้สึกอยากลุกไปจากที่นี่เสียเดี๋ยวนี้ “สุดท้ายพวกเขาพบว่า ที่แท้เพื่อนคนนี้เป็นสายลับ เคยผ่านการฝึกเรื่องหลบมุมกล้อง”
“นิยายเล่มนั้น ฉันเป็นคนเขียนเอง” หลานถิงมองเขา “มันเป็นแค่นิยาย อีกอย่างตรงนี้ไม่ใช่แค่หันหน้าหนีก็พอ แต่คุณต้องหลบกล้องทั้งหมดให้พ้น ซึ่งค่อนข้างยากมาก”
“แต่...”
หลานถิงพลันยกมือขึ้น “คุณกวน ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อ ฉันเล่าเรื่องพวกนี้ให้คุณฟัง ก็ไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะเชื่อ ฉันแค่อยากถามว่า ในเทคนิคการถ่ายรูป มีสถานการณ์อย่างไร ที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ได้บ้าง”
อู๋เสียอยากตอบไปว่าตอนฝันน่ะสิ แต่เขาก็ยังยั้งไว้ นึกครู่หนึ่ง แล้วบอกตัวเองว่าช่างมันเถอะ เล่นด้วยจนจบก็แล้วกัน พูดด้วยหน้าขรึมว่า “เพื่อนคนนั้นของคุณ เป็นคนปกติหรือเปล่า คุณมองเห็นเธอใช่ไหม”
“แน่นอน” เธอพยักหน้า “ไม่อย่างนั้นฉันต้องเป็นบ้าไปก่อน”
“แล้วสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันตอนนั้นล่ะ คุณถามพวกเขาหรือยัง ตอนนั้นพวกเขาเห็นเตาเตากันไหม”
หลานถิงพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันถามแล้ว แต่พวกเขาจำเรื่องคืนนั้นไม่ค่อยได้ ไม่มีใครกล้ารับรองว่าคืนนั้นเตาเตาอยู่กับพวกเรา นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ฉันงุนงงมาก”
อู๋เสียคิดครู่หนึ่ง พูดว่า “ในทางทฤษฎีแล้ว การถ่ายรูปของกล้องกับดวงตามนุษย์นั้นมีหลักการเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่ตาของคนมองเห็น ใช้กล้องถ่ายรูปก็ควรจะจับภาพได้ ภาพของคนเกิดจากแสงส่องกระทบบนตัวคนแล้วสะท้อนเข้าไปในอุปกรณ์รับแสง การจะทำให้คนคนหนึ่งหายไปจากรูป ก็ต้องทำให้แสงที่สะท้อนจากคนคนนั้นคนเดียว ไม่เข้ารูรับแสงของกล้อง”
หลานถิงตาลุก “แปลว่ามีความเป็นไปได้?”
อู๋เสียส่ายหน้า “ใช้เลนส์กล้องพิเศษบางชนิดสามารถทำในจุดนี้ได้ อย่างเช่น กล้องถ่ายทะลุที่เคยเป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง แต่กล้องชนิดนี้ไม่น่าจะมีคุณสมบัติถ่ายทะลุตัวคนได้ เพราะการถ่ายทะลุเนื้อผ้า ก็แค่ถ่ายทะลุเส้นใยฝ้ายชั้นบางๆ แต่ร่างกายมนุษย์นั้นซับซ้อนมาก มีทั้งโครงกระดูก ผิวหนัง ไขมัน กล้ามเนื้อ ถ้าสามารถทะลุตัวคนได้ ฉากข้างหลังตัวคน หนังสือ เก้าอี้ เม็ดทราย อะไรพวกนั้น ก็อาจทะลุได้หมด นั่นก็คือถ่ายอะไรไม่ติดเลย อีกอย่างคือสำหรับเลนส์กล้องนั้นเท่าเทียมกันหมด ถ้าถ่ายไม่ติดเพื่อนคุณ ก็ต้องถ่ายใครไม่ติดเลย” เขาพูดเสียงหนักแน่นกับเธอ “ดังนั้น ปรากฏการณ์อย่างที่คุณพูด ในทางฟิสิกส์แล้ว เกิดขึ้นไม่ได้”
ตาของเธอหรี่หลัวลงทันที ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แต่ไม่ได้แสดงความผิดหวังมากจนเกินไป
อู๋เสียพูดต่อไปว่า “รูปถ่ายพวกนี้ดูเป็นปกติดี ไม่มีปัญหาแม้แต่นิดเดียว ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นเพราะถูกคนดัดแปลง ถ้าคุณยืนกรานว่าคนที่หายไปจากรูปเป็นคนที่ควรมีอยู่ นั่นก็ต้องอธิบายด้วยศาสตร์ทางวิญญาณเท่านั้นแล้ว ซึ่งจะยิ่งเหลือเชื่อเข้าไปใหญ่ อีกอย่าง คุณยังพูดเองว่าคนอื่นๆ ในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าเตาเตาอยู่ด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ อาจเป็นไปได้ว่า คุณเข้าใจผิดไป”
เธอรวบปอยผมขึ้นทัดหู จิบชาคำหนึ่งแล้วกล่าว “ไม่มีวิธีไหนทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้เลยจริงๆ หรือคะ ต่อให้อาจจะซับซ้อนมากก็ได้”
อู๋เสียส่ายหน้า “คุณต้องเข้าใจผิดไปแน่ๆ”
เธอยิ้มขื่น “ฉันก็อยากให้เป็นความเข้าใจผิด แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ใช่แค่บอกว่าเข้าใจผิดก็จะหลอกตัวเองได้”
อู๋เสียพลันรู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวเล่น ถึงกับโกรธขึ้นมา เขามองหน้าที่จริงจังของหลานถิง นึกในใจว่า ทำอย่างไรจึงจะหลีกไปจากเรื่องนี้ได้
หลานถิงกล่าวต่อไปว่า “อาจารย์กวน คุณอย่าคิดมากเลย ถือเสียว่าฉันเล่าเรื่องตลกละกัน แต่ฉันอยากขอให้คุณช่วยฉันอีกครั้ง คุณจะกรุณาติดต่อเพื่อนของคุณให้ฉันได้ไหม ฉันอยากกลับไปปาตันจี๋หลินอีกครั้ง”
อู๋เสียขมวดคิ้ว “กลับไปอีกครั้ง?”
“รอการรวมตัวของคณะท่องเที่ยวกรุ๊ปหน้าจะใช้เวลานานเกินไป เมื่อครู่นี้คุณบอกว่า คุณมีเส้นสายกับทางนั้น ฉันคิดว่าคุณน่าจะช่วยแนะนำคนที่ไว้ใจได้พาฉันเข้าไป ฉันต้องกลับไปที่กู่ถงจิง เรื่องที่เตาเตาเคยทำที่นั่น ฉันก็ได้ทำด้วยเหทือนกัน ไม่มีเหตุผลที่หากเกิดเรื่องกับเธอ แล้วจะไม่เกิดกับฉัน มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น ที่เธอทำลงไปแต่ฉันไม่ได้ทำ ที่กู่ถงจิงมีภูเขาลูกหนึ่ง ชันมาก พวกเราไม่กล้าปีนขึ้นไป มีแต่เตาเตาปีนขึ้นไปคนเดียว ดังนั้น เหตุที่ทำให้เตาเตาเป็นแบบนี้ อาจเกี่ยวกับภูเขาลูกนั้น คราวนี้ฉันจะปีนขึ้นไปดูบนเขาลูกนั้นด้วย ข้างบนนั้นมีอะไรกันแน่ ที่ทำให้เตาเตาเกิดปัญหาอย่างนี้”
อู๋เสียรู้สึกไม่เข้าท่า นี่เธอถึงกับขอความช่วยเหลือจากเขาอย่างจริงจัง เพราะเรื่องราวพิศวงงงงวยเช่นนี้ อู๋เสียลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้า พูดว่า “คุณหลาน ผมคิดว่าคุณควรไปพบจิตแพทย์ การเขียนนิยายระยะยาวจะทำให้ความคิดวิเคราะห์ผิดปกติ ผมเคยผ่านประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน ผมรู้สึกว่า คุณจะมีธาตุไฟแทรกเล็กน้อย”
เดิมทีเขาคิดว่าหลานถิงจะโกรธ ปรากฏว่าเธอเพียงถอนหายใจ คล้ายกับหมดความสนใจพูดคุยกับอู๋เสียไปเฉยๆ สีหน้าค่อนข้างซีดขาว อู๋เสียมองดูเธอรวบเก็บรูปถ่ายพวกนั้น แล้วพูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณค่ะ อาจารย์กวน ขออภัยที่รบกวนเวลา” พูดพลางก็ลุกขึ้นเพื่อจะจากไป
อู๋เสียรู้สึกไม่สบายใจ ถามว่า “ให้ผมไปส่งคุณไหม”
หลานถิงส่ายหน้า จิตใจเหมือนไม่อยู่กับเขาตรงนี้แล้ว อู๋เสียถามต่อว่า “จริงสิ ทำไมคุณไม่ถามกับเตาเตาโดยตรงล่ะ ว่าเธอเห็นอะไร ทำไมคุณต้องกลับเข้าทะเลทรายด้วยตัวเองด้วย”
หลานถิงเดินออกจากโรงชาอย่างไม่เหลียวหลัง กล่าวว่า “มันเป็นไปไม่ได้แล้ว”
Talk:
ตายๆ ใกล้วันออกอากาศเต้ามู่ เดอะ ซีรี่ส์ อฟช.ปล่อยของรัวๆ ไหนจะหยงเจ่อ
ถามว่าซาไห่ยังจำเป็นมั้ย #เสี่ยอ้วนไม่ได้กล่าว
เอ่อใช่ ผมอาจเปลี่ยน "กวน" เป็น "กวาน" แทนนะครับ เสียงจะตรงกว่า
ไอ้ที่ใช้ "กวน" เพราะจิตใต้สำนึกมันเล่นกลอีกแล้ว (เนื่องจากเป็นตัวเขียนเดียวกับ "เทพเจ้ากวนอู")
เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
การพบว่าในรูปถ่ายมีคนหายไปคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเขา เพราะรูปถ่ายส่วนใหญ่ถ่ายขณะทำกิจกรรมรอบกองไฟ ทั้งคนเยอะทั้งวุ่นวาย เหตุที่อู๋เสียสังเกตเห็นจุดนี้ เพราะในรูปถ่ายปึกแรกที่เขาได้ดู หลานถิงมีรูปถ่ายคู่กับหญิงสาวอีกคนจำนวนมาก แต่ในปึกนี้ กลับไม่มีเลยสักใบ
“นักวาดภาพประกอบคนนั้นทำไมหายตัวไป” เขาถาม “ที่ชื่อเตาสักอย่าง”
“เตาเตา”
“ใช่ เธอหายไปไหน ถอนตัวไประหว่างทางหรือ” เขามองหน้าหลานถิง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี คงไม่ใช่เกิดเรื่องร้ายขึ้นระหว่างทริปของพวกเขาหรอกนะ แต่ในรูปถ่าย เธอก็ยังยิ้มแย้มสดชื่น ถ้าเพื่อนสนิทของเธอเกิดเรื่องแล้วเธอยังยิ้มแป้นได้ขนาดนั้น เขาคงต้องพิจารณานิสัยใจคอของเธอใหม่แล้ว
หลานถิงขบริมฝีปากล่างทีหนึ่ง แต่แล้วก็พูดว่า “เธอไม่ได้ไปไหน เธออยู่ในรูปถ่ายพวกนี้นี่แหละ---”
เขามองหน้าเธอต่อ “ในรูปไม่มีเธอ”
“มีสิ รูปถ่ายส่วนใหญ่มีเธอทั้งนั้น เธอเป็นคนชอบถ่ายรูป ตอนที่ฉันถ่ายรูปพวกนี้ รูปถ่ายหลายใบฉันใช้เธอเป็นจุดโฟกัสอีกด้วย”
อู๋เสียพลันเข้าใจสิ่งที่เธอตั้งใจจะบอกแล้ว แต่เขาไม่กล้าเชื่อ จ้องมองเธอ รอให้เธอพูดต่อ
เธอพูดต่อไปว่า “แต่ว่า รอจนฉันล้างรูปพวกนี้ออกมา กลับพบว่า ไม่มีเธออยู่บนรูป แม้กระทั่งรูปที่ฉันแน่ใจได้ว่าจงใจถ่ายเธอแน่ๆ ก็ยังไม่มี”
เขาใจหายวาบ มองดูรูปถ่ายพวกนี้ ความคิดวูบแรกไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเธอกำลังหลอกตัวเองหรือเปล่า
ได้ยินบ่อยๆ ว่านักเขียนที่เขียนนิยายลี้ลับมักเขียนจนตัวเองเป็นประสาท หรือว่าหลานถิงปั่นต้นฉบับจนแย่แล้ว แยกไม่ออกว่าไหนคือความจริงไหนคือจินตนาการ
แต่เขามองตาของเธอ ไม่เห็นแววของความสับสนแม้แต่น้อย
“เป็นไปได้ไหมว่าคุณจำผิด เพื่อนของคุณจงใจหลบกล้อง ผมเคยอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง ในเรื่องมีเพื่อนของคนคนหนึ่งหายตัวไป เมื่อเขาคนนั้นอยากจะหารูปถ่ายของเพื่อนเพื่อลงประกาศคนหาย กลับพบว่าคนคนนี้ไม่เคยมีรูปถ่ายหน้าตรงเลยแม้แต่ใบเดียว ในกองรูปถ่ายทั้งหมด เพื่อนคนนั้นจะจงใจหลบเลี่ยงหรือไม่ก็หันข้างเท่านั้น” อู๋เสียกล่าว เขาได้แต่พยายามทำให้ตัวเองเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริงเพื่อยับยั้งความรู้สึกอยากลุกไปจากที่นี่เสียเดี๋ยวนี้ “สุดท้ายพวกเขาพบว่า ที่แท้เพื่อนคนนี้เป็นสายลับ เคยผ่านการฝึกเรื่องหลบมุมกล้อง”
“นิยายเล่มนั้น ฉันเป็นคนเขียนเอง” หลานถิงมองเขา “มันเป็นแค่นิยาย อีกอย่างตรงนี้ไม่ใช่แค่หันหน้าหนีก็พอ แต่คุณต้องหลบกล้องทั้งหมดให้พ้น ซึ่งค่อนข้างยากมาก”
“แต่...”
หลานถิงพลันยกมือขึ้น “คุณกวน ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อ ฉันเล่าเรื่องพวกนี้ให้คุณฟัง ก็ไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะเชื่อ ฉันแค่อยากถามว่า ในเทคนิคการถ่ายรูป มีสถานการณ์อย่างไร ที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ได้บ้าง”
อู๋เสียอยากตอบไปว่าตอนฝันน่ะสิ แต่เขาก็ยังยั้งไว้ นึกครู่หนึ่ง แล้วบอกตัวเองว่าช่างมันเถอะ เล่นด้วยจนจบก็แล้วกัน พูดด้วยหน้าขรึมว่า “เพื่อนคนนั้นของคุณ เป็นคนปกติหรือเปล่า คุณมองเห็นเธอใช่ไหม”
“แน่นอน” เธอพยักหน้า “ไม่อย่างนั้นฉันต้องเป็นบ้าไปก่อน”
“แล้วสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันตอนนั้นล่ะ คุณถามพวกเขาหรือยัง ตอนนั้นพวกเขาเห็นเตาเตากันไหม”
หลานถิงพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันถามแล้ว แต่พวกเขาจำเรื่องคืนนั้นไม่ค่อยได้ ไม่มีใครกล้ารับรองว่าคืนนั้นเตาเตาอยู่กับพวกเรา นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ฉันงุนงงมาก”
อู๋เสียคิดครู่หนึ่ง พูดว่า “ในทางทฤษฎีแล้ว การถ่ายรูปของกล้องกับดวงตามนุษย์นั้นมีหลักการเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่ตาของคนมองเห็น ใช้กล้องถ่ายรูปก็ควรจะจับภาพได้ ภาพของคนเกิดจากแสงส่องกระทบบนตัวคนแล้วสะท้อนเข้าไปในอุปกรณ์รับแสง การจะทำให้คนคนหนึ่งหายไปจากรูป ก็ต้องทำให้แสงที่สะท้อนจากคนคนนั้นคนเดียว ไม่เข้ารูรับแสงของกล้อง”
หลานถิงตาลุก “แปลว่ามีความเป็นไปได้?”
อู๋เสียส่ายหน้า “ใช้เลนส์กล้องพิเศษบางชนิดสามารถทำในจุดนี้ได้ อย่างเช่น กล้องถ่ายทะลุที่เคยเป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง แต่กล้องชนิดนี้ไม่น่าจะมีคุณสมบัติถ่ายทะลุตัวคนได้ เพราะการถ่ายทะลุเนื้อผ้า ก็แค่ถ่ายทะลุเส้นใยฝ้ายชั้นบางๆ แต่ร่างกายมนุษย์นั้นซับซ้อนมาก มีทั้งโครงกระดูก ผิวหนัง ไขมัน กล้ามเนื้อ ถ้าสามารถทะลุตัวคนได้ ฉากข้างหลังตัวคน หนังสือ เก้าอี้ เม็ดทราย อะไรพวกนั้น ก็อาจทะลุได้หมด นั่นก็คือถ่ายอะไรไม่ติดเลย อีกอย่างคือสำหรับเลนส์กล้องนั้นเท่าเทียมกันหมด ถ้าถ่ายไม่ติดเพื่อนคุณ ก็ต้องถ่ายใครไม่ติดเลย” เขาพูดเสียงหนักแน่นกับเธอ “ดังนั้น ปรากฏการณ์อย่างที่คุณพูด ในทางฟิสิกส์แล้ว เกิดขึ้นไม่ได้”
ตาของเธอหรี่หลัวลงทันที ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แต่ไม่ได้แสดงความผิดหวังมากจนเกินไป
อู๋เสียพูดต่อไปว่า “รูปถ่ายพวกนี้ดูเป็นปกติดี ไม่มีปัญหาแม้แต่นิดเดียว ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นเพราะถูกคนดัดแปลง ถ้าคุณยืนกรานว่าคนที่หายไปจากรูปเป็นคนที่ควรมีอยู่ นั่นก็ต้องอธิบายด้วยศาสตร์ทางวิญญาณเท่านั้นแล้ว ซึ่งจะยิ่งเหลือเชื่อเข้าไปใหญ่ อีกอย่าง คุณยังพูดเองว่าคนอื่นๆ ในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าเตาเตาอยู่ด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ อาจเป็นไปได้ว่า คุณเข้าใจผิดไป”
เธอรวบปอยผมขึ้นทัดหู จิบชาคำหนึ่งแล้วกล่าว “ไม่มีวิธีไหนทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้เลยจริงๆ หรือคะ ต่อให้อาจจะซับซ้อนมากก็ได้”
อู๋เสียส่ายหน้า “คุณต้องเข้าใจผิดไปแน่ๆ”
เธอยิ้มขื่น “ฉันก็อยากให้เป็นความเข้าใจผิด แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ใช่แค่บอกว่าเข้าใจผิดก็จะหลอกตัวเองได้”
อู๋เสียพลันรู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวเล่น ถึงกับโกรธขึ้นมา เขามองหน้าที่จริงจังของหลานถิง นึกในใจว่า ทำอย่างไรจึงจะหลีกไปจากเรื่องนี้ได้
หลานถิงกล่าวต่อไปว่า “อาจารย์กวน คุณอย่าคิดมากเลย ถือเสียว่าฉันเล่าเรื่องตลกละกัน แต่ฉันอยากขอให้คุณช่วยฉันอีกครั้ง คุณจะกรุณาติดต่อเพื่อนของคุณให้ฉันได้ไหม ฉันอยากกลับไปปาตันจี๋หลินอีกครั้ง”
อู๋เสียขมวดคิ้ว “กลับไปอีกครั้ง?”
“รอการรวมตัวของคณะท่องเที่ยวกรุ๊ปหน้าจะใช้เวลานานเกินไป เมื่อครู่นี้คุณบอกว่า คุณมีเส้นสายกับทางนั้น ฉันคิดว่าคุณน่าจะช่วยแนะนำคนที่ไว้ใจได้พาฉันเข้าไป ฉันต้องกลับไปที่กู่ถงจิง เรื่องที่เตาเตาเคยทำที่นั่น ฉันก็ได้ทำด้วยเหทือนกัน ไม่มีเหตุผลที่หากเกิดเรื่องกับเธอ แล้วจะไม่เกิดกับฉัน มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น ที่เธอทำลงไปแต่ฉันไม่ได้ทำ ที่กู่ถงจิงมีภูเขาลูกหนึ่ง ชันมาก พวกเราไม่กล้าปีนขึ้นไป มีแต่เตาเตาปีนขึ้นไปคนเดียว ดังนั้น เหตุที่ทำให้เตาเตาเป็นแบบนี้ อาจเกี่ยวกับภูเขาลูกนั้น คราวนี้ฉันจะปีนขึ้นไปดูบนเขาลูกนั้นด้วย ข้างบนนั้นมีอะไรกันแน่ ที่ทำให้เตาเตาเกิดปัญหาอย่างนี้”
อู๋เสียรู้สึกไม่เข้าท่า นี่เธอถึงกับขอความช่วยเหลือจากเขาอย่างจริงจัง เพราะเรื่องราวพิศวงงงงวยเช่นนี้ อู๋เสียลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้า พูดว่า “คุณหลาน ผมคิดว่าคุณควรไปพบจิตแพทย์ การเขียนนิยายระยะยาวจะทำให้ความคิดวิเคราะห์ผิดปกติ ผมเคยผ่านประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน ผมรู้สึกว่า คุณจะมีธาตุไฟแทรกเล็กน้อย”
เดิมทีเขาคิดว่าหลานถิงจะโกรธ ปรากฏว่าเธอเพียงถอนหายใจ คล้ายกับหมดความสนใจพูดคุยกับอู๋เสียไปเฉยๆ สีหน้าค่อนข้างซีดขาว อู๋เสียมองดูเธอรวบเก็บรูปถ่ายพวกนั้น แล้วพูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณค่ะ อาจารย์กวน ขออภัยที่รบกวนเวลา” พูดพลางก็ลุกขึ้นเพื่อจะจากไป
อู๋เสียรู้สึกไม่สบายใจ ถามว่า “ให้ผมไปส่งคุณไหม”
หลานถิงส่ายหน้า จิตใจเหมือนไม่อยู่กับเขาตรงนี้แล้ว อู๋เสียถามต่อว่า “จริงสิ ทำไมคุณไม่ถามกับเตาเตาโดยตรงล่ะ ว่าเธอเห็นอะไร ทำไมคุณต้องกลับเข้าทะเลทรายด้วยตัวเองด้วย”
หลานถิงเดินออกจากโรงชาอย่างไม่เหลียวหลัง กล่าวว่า “มันเป็นไปไม่ได้แล้ว”
Talk:
ตายๆ ใกล้วันออกอากาศเต้ามู่ เดอะ ซีรี่ส์ อฟช.ปล่อยของรัวๆ ไหนจะหยงเจ่อ
ถามว่าซาไห่ยังจำเป็นมั้ย #เสี่ยอ้วนไม่ได้กล่าว
เอ่อใช่ ผมอาจเปลี่ยน "กวน" เป็น "กวาน" แทนนะครับ เสียงจะตรงกว่า
ไอ้ที่ใช้ "กวน" เพราะจิตใต้สำนึกมันเล่นกลอีกแล้ว (เนื่องจากเป็นตัวเขียนเดียวกับ "เทพเจ้ากวนอู")
anurakbeer- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 184
Points : 3934
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
อู๋เสียคะ.......555555
กลับมาฮาเหมือนเดิมรัวๆ อีกแล้วนะคะ แง
มาดเท่ก่อนหน้านี้ค่อยๆ สลายอีกแล้ว จะภาคไหนก็เป็นคนที่เท่ได้ไม่นานจริงๆ 55555555 ขำ
ฮือ ; m ;
ขอบคุณสำหรับแปลนะคะ ซาไห่ยังจำเป็นค่ะ ยังจำเป็น แง /เกาะแข้งขานายน้อย
กลับมาฮาเหมือนเดิมรัวๆ อีกแล้วนะคะ แง
มาดเท่ก่อนหน้านี้ค่อยๆ สลายอีกแล้ว จะภาคไหนก็เป็นคนที่เท่ได้ไม่นานจริงๆ 55555555 ขำ
ฮือ ; m ;
ขอบคุณสำหรับแปลนะคะ ซาไห่ยังจำเป็นค่ะ ยังจำเป็น แง /เกาะแข้งขานายน้อย
Malangporyim- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 290
Points : 3780
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทุ่งด้วงโฮโม
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
เป็นเราๆเชื่อหลานถิงนะคะ ไม่รู้เพราะอะไรแต่เป็นเราๆเชื่อคะ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
ทำหน้ามึนตอนนายน้อยอธิบายทฤษฎีการรับภาพ ...พอมีวิชานี่เขาเอาใหญ่ หรือจงใจทำให้สาวมึนตามคะจะได้หลุดพ้นเร็วๆ 5555555555555
แต่นายน้อยแอบเสียมารยาทนะคะที่ไล่สาวไปหาจิตแพทย์เนี่ย //ไล่ตีๆ
แต่นายน้อยแอบเสียมารยาทนะคะที่ไล่สาวไปหาจิตแพทย์เนี่ย //ไล่ตีๆ
scuroluce- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 38
Points : 3508
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
"อู๋เสียอยากตอบไปว่าตอนฝันน่ะสิ" <--- เกือบไปแล้วสินะอาเสีย 55555 ดีแล้วที่ยับยั้งไว้ได้ อ่านปุบก็ขำปั๊บแบบไร้การยับยั้ง ยังไงเสี่ยวเสียก็ยังคงเป็นเสี่ยวเสียอยู่ดี o^^o
ว่าแต่เรื่องซับซ้อนในคราวนี้ ว่าไปแล้วมันดึงดูดใจน่าดู และนี่แหละต้นเหตุที่ทำให้อาเสียต้องเตรียมพร้อมรบไปในทะเลทรายในครั้งนี้สินะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ว่าแต่เรื่องซับซ้อนในคราวนี้ ว่าไปแล้วมันดึงดูดใจน่าดู และนี่แหละต้นเหตุที่ทำให้อาเสียต้องเตรียมพร้อมรบไปในทะเลทรายในครั้งนี้สินะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
hnee- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 203
Points : 3674
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
สนุกมากค่าา
อยากอ่านต่อสุดๆเลยยย >o<
อยากอ่านต่อสุดๆเลยยย >o<
ShiroDia- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 5
Points : 3255
Join date : 04/06/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
กำลังขนลุก
พออ่านเจอ "..ตอนฝันน่ะสิ" เข้าไป
พรืดดดด
พออ่านเจอ "..ตอนฝันน่ะสิ" เข้าไป
พรืดดดด
DuongHuen- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 43
Points : 3393
Join date : 28/02/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
'คุณหลาน ผมว่าคุณควรไปพบจิตแพทย์'
ประโยคสนทนานี้.....
ท่านประมุขต้องการแอบแฝงความนัยอะไรหรือป่าว
อ่านแล้วกระอักเล็กน้อย 555555
ประโยคสนทนานี้.....
ท่านประมุขต้องการแอบแฝงความนัยอะไรหรือป่าว
อ่านแล้วกระอักเล็กน้อย 555555
DarkAki- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 93
Points : 3471
Join date : 27/01/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
หรือว่าสาวน้อยเตาเตาจะหายตัวไปด้วย แล้วไม่มีใครจำว่าเธอไปด้วยกัน นอกจากหลานถิง
เรื่องราวยิ่งมายิ่งซับซ้อน
นายน้อยอ่ะ พอเป็นหญิงสาว ก็ไล่ไปหาจิตแพทย์เชียวนะ ธ่อ
ขอบคุณคุณเบียร์ค่ะ
ซาไห่ยังจำเป็นค่ะ ลงทุกวันแต่ลงวันละนิดก็ยังดีนะคะ
เรื่องราวยิ่งมายิ่งซับซ้อน
นายน้อยอ่ะ พอเป็นหญิงสาว ก็ไล่ไปหาจิตแพทย์เชียวนะ ธ่อ
ขอบคุณคุณเบียร์ค่ะ
ซาไห่ยังจำเป็นค่ะ ลงทุกวันแต่ลงวันละนิดก็ยังดีนะคะ
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3828
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
เอิ่มมมมมมม นายน้อยคะ เรื่องแค่นี้อิฉันว่ามันไม่น่าจะทำใจเชื่อได้ยากขนาดนั้นนะคะ
ผจญภัยตลอดสิบเล่มของนายน้อยยังจะมีอภินิหารเยอะกว่าอีก
ผจญภัยตลอดสิบเล่มของนายน้อยยังจะมีอภินิหารเยอะกว่าอีก
Erh- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 9
Points : 3267
Join date : 28/05/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
ทีตอนแรกยังชมเค้าสวยรัวๆคราวนี้ถึงกับไล่ไปหาจิตแพทย์
อู๋เสีย.....จิตใจของนายช่างหนักแน่นกับคนในประตูยิ่งนัก
อู๋เสีย.....จิตใจของนายช่างหนักแน่นกับคนในประตูยิ่งนัก
annminki- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 46
Points : 3483
Join date : 30/11/2014
Age : 31
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
คนๆนึงจะหายไปรูปเฉยๆได้ไง
นี่มันแปลกเกินไปแล้ว
ขอบคุณค่ะ
นี่มันแปลกเกินไปแล้ว
ขอบคุณค่ะ
sagacity191- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 53
Points : 3513
Join date : 06/11/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
นานๆทีจะมีสาวมาสนใจคุยด้วยนะ นายน้อย
nightsza- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 51
Points : 3280
Join date : 28/06/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
555++ ขอขำก่อน นายน้อยคนเดิมกลับมาแล้ว ถ้านางรู้ว่าโดนอู๋เสียแอบด่าจะโกรธมั้ย แต่ว่านะนายน้อยน่าจะลองเชื่อนางดูหน่อยก็ดีนะ มันต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วเชื่อเหอะค่ะ
prince501- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3265
Join date : 23/07/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
อ้าว ก็ให้คนอื่นลองถ่ายพิสูจน์ดูเลยจิ หรือนางม่องไปแล้วหนอ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
เสี่ยวเสีย...นายหลุดเเล้ว//เกือบหล่อล่ะๆ
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3961
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 11 เรื่องราวของอู๋เสีย (3)
เอาไงดีล่ะคะนายน้อย
ดูท่าแม่หนูคนนี้จะไม่ได้โกหกนะคะ
ดูเธอจริงจังจนแทบพุ่งแล่นไปหาอันตรายในแทบทุกวินาทีขนาดนี้
เพื่อนของเธอหายไป
ในขณะที่ข้อสงสัยของเธอไม่ได้รับความกระจ่าง
ผู้ร่วมเดินทางก็ตอบเธอไม่ได้
แถมคนเชี่ยวกล้องอย่างนายน้อยก็อธิบายไม่ได้อีกต่างหาก
งานนี้นายน้อยจะทำอย่างไร
ดูท่าแม่หนูคนนี้จะไม่ได้โกหกนะคะ
ดูเธอจริงจังจนแทบพุ่งแล่นไปหาอันตรายในแทบทุกวินาทีขนาดนี้
เพื่อนของเธอหายไป
ในขณะที่ข้อสงสัยของเธอไม่ได้รับความกระจ่าง
ผู้ร่วมเดินทางก็ตอบเธอไม่ได้
แถมคนเชี่ยวกล้องอย่างนายน้อยก็อธิบายไม่ได้อีกต่างหาก
งานนี้นายน้อยจะทำอย่างไร
arshura09- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 118
Points : 3144
Join date : 14/01/2016
Similar topics
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 10 เรื่องราวของอู๋เสีย (2)
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 12 เรื่องราวของอู๋เสีย (4)
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 24 ทะเลสาบเคลื่อนที่
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 01 หนุ่มน้อยผู้บาดเจ็บ
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 16 แผนการของอู๋เสีย
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 12 เรื่องราวของอู๋เสีย (4)
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 24 ทะเลสาบเคลื่อนที่
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 01 หนุ่มน้อยผู้บาดเจ็บ
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 16 แผนการของอู๋เสีย
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth