Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง)

3 posters

Go down

[OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง) Empty [OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง)

ตั้งหัวข้อ by Eli-kun Tue 07 Apr 2015, 18:52


“นี่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ”

“หล่อนชื่อฮั่วหลิง เรียนอยู่คณะโบราณคดี”

“แม่เจ้าโว้ย สวยยังกับนางฟ้า”

“ใช่ไหมล่ะ ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียวนะ หล่อนยังรวยด้วย ได้ยินคนเขาร่ำลือกันว่าตระกูลของหล่อนเป็นเศรษฐี พ่อของหล่อนเป็นนายทหารใหญ่หรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะ”

ฮั่วหลิงยกยิ้มมุมปากเมื่อสดับฟังเสียงของนักศึกษาหนุ่มสองคนที่สนทนากัน หญิงสาวมักได้ยินคนพูดถึงเธอในทำนองนี้เสมอ และสิ่งที่พวกเขาพูดก็ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อย ฮั่วหลิงมีรูปโฉมงดงามชนิดที่เวลาเดินผ่านพวกผู้ชายต้องเหลียวหลัง เธอเป็นบุตรีของตระกูลฮั่ว บิดาของเธอเป็นผู้มีอำนาจในวงการการเมืองและการทหาร ส่วนมารดาของเธอ ฮั่วเซียนกู ก็เป็นหญิงงามหยาดฟ้ามาดิน จนได้รับฉายาว่าเทพธิดา แน่นอนว่าตัวเธอเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านางแม้แต่นิดเดียว

หญิงสาวผู้ซึ่งสมบูรณ์พร้อมด้วยรูปโฉมและฐานะ ตระกูลฮั่วให้ความสำคัญกับผู้หญิง ตั้งแต่เล็กฮั่วหลิงจึงถูกเลี้ยงดูมาแบบเอาอกเอาใจ ไม่ว่าเธอปรารถนาสิ่งใด เพียงแค่ชี้นิ้วสั่ง คนรอบตัวก็จะพยายามเสาะหานำมาประเคนให้ถึงที่

สิ่งนี้คือความภาคภูมิใจอย่างยิ่งยวดของเธอ เธอเป็นที่รักของทุกคน แม้ในบรรดาเพื่อนรุ่นเดียวกัน ฮั่วหลิงก็ยังโดดเด่น พวกเขาทุกคนชอบเธอ เธอเป็นที่ต้องการเสมอ

จนกระทั่งวันหนึ่ง จู่ๆก็มีนักศึกษาใหม่คนหนึ่งย้ายเข้ามาในคณะโบราณคดี คนผู้นี้เป็นใครก็ไม่รู้ รู้เพียงเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ฮั่วหลิงได้แต่สงสัยว่าอาจจะมีใครบางคนหนุนหลังเขาอยู่ ถึงได้ย้ายเข้ามาเรียนในช่วงนี้ของปีได้

นักศึกษาใหม่คนนั้นสะพายเป้เดินเข้ามาในห้องเรียน ฮั่วหลิงเคยพบคนหน้าตาดีๆมาบ้าง แต่คนนี้จัดว่าอยู่ในประเภทค่อนข้างดีมากทีเดียว ผิวของเขาขาวจัด รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน ไม่ได้อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแต่ก็ไม่ได้ผอมแห้ง ท่าทางเยือกเย็นของเขาที่เหมือนไม่หวาดกลัวกับสิ่งใดจับใจเธอตั้งแต่แรกเห็น

ฮั่วหลิงอดไม่ได้ที่จะไปทำความรู้จักกับเขาสักหน่อย

“สวัสดี ฉันชื่อฮั่วหลิง จากวันนี้ไป เราจะเป็นเพื่อนร่วมคณะกันแล้ว มาทำความรู้จักกันไว้เถอะนะ” หญิงสาวเอียงคอด้วยท่าทีน่ารัก “แล้วนายล่ะ ชื่อว่าอะไร”

ชายผู้นั้นค่อยๆหันมาหาเธออย่างเชื่องช้า ท่าทางของเขาช่างขาดความกระตือรือร้นเสียจนเธอสังเกตได้ แต่เมื่อเธอได้เห็นใบหน้าเขาชัดๆในใจก็ยังอดชื่นชมไม่ได้ ตาของเขาสวยเหลือเกิน ดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนทีเดียว และไม่เพียงเท่านั้น ดวงตาของเขายังทำให้เธอนึกถึงดวงตาของฮั่วเซียนกูผู้เป็นมารดา ดวงตาที่สงบนิ่งและใสกระจ่าง อยู่พ้นเหนือจากโลกีย์ทั้งปวง
   
“จางฉี่หลิง” เป็นคำตอบสั้นๆเพียงคำตอบเดียว ฮั่วหลิงจึงรู้ว่านั่นเป็นชื่อของเขา ชายหนุ่มเพียงเอ่ยออกมาอย่างเรียบง่าย น้ำเสียงที่ไม่สื่ออารมณ์ใดๆของเขาทำให้ฮั่วหลิงเกิดความรู้สึกแปลกๆที่บรรยายไม่ถูก เขาตอบเพียงเท่านั้นก็หันกลับไปตามเดิม เริ่มหยิบพวกตำราหนังสือออกมาจากเป้สะพายของตัวเอง

ฮั่วหลิงบังเกิดความสนใจในตัวจางฉี่หลิงผู้นี้อย่างประหลาด ทุกครั้งที่สบโอกาส เธอจะเข้าไปใกล้ พยายามหาเรื่องพูดคุยชวนสนทนา แต่หญิงสาวพบว่าบางครั้งเขาดูคล้ายไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เธอกำลังพูด บางครั้งก็เหม่อลอยเหมือนคำพูดของเธอลอยลมผ่านไป หรือบางครั้งที่เธอพูดเสียยืดยาวแต่เขากลับตอบรับด้วยคำสั้นๆเพียงคำเดียว

คนพิลึก หญิงสาวคิด ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำทีเมินเฉยใส่เธอเหมือนคนผู้นี้มาก่อน บรรดาพวกผู้ชายในคณะต่างพากันอิจฉาตาร้อนที่เธอชอบเข้าไปป้วนเปี้ยนใกล้ๆเขา นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอเข้าหาใครก่อน ปกติเป็นพวกเขาที่จะเข้าหาเธอ แต่ฮั่วหลิงไม่สนใจ  

พวกเพื่อนผู้หญิงที่ค่อนข้างสนิทกันแอบมากระซิบถามเธอว่า เธอชอบจางฉี่หลิงคนนี้หรือ เธอไม่ตอบ พวกเพื่อนของเธอก็เลยพากันสรุปเอาเองว่าเธอต้องชอบ ไม่เช่นนั้นเธอก็คงจะไม่ตามตื๊อเขา

บางครั้งฮั่วหลิงก็สงสัยตัวเองว่าเธอชอบจางฉี่หลิงจริงๆหรือเปล่า เธอได้ข้อสรุปว่าเธอค่อนข้างพึงพอใจในรูปร่างหน้าตาของเขา แต่ลึกลงไปในใจเธอรู้ดีกว่านั้น เธอแค่ต้องการให้เขาเลิกเมินเธอ หันมามองเธอตรงๆ พูดคุยกับเธออย่างตรงไปตรงมา ฮั่วหลิงอยากจะเอาชนะจางฉี่หลิงคนนี้ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนต้านทานเธอได้ และจางฉี่หลิงก็จะไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน

เธอต้องการจะพิสูจน์ว่าความภาคภูมิใจในตัวเองของเธอนั้นไม่ผิด นั่นจึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด


   
................................................................................................................................................................................


สุสานใต้สมุทร ทะเลซีซาร์
       
“เสี่ยวจาง ช่วยฉันดูเครื่องเคลือบชิ้นนี้หน่อยสิ มันคืออะไร” ฮั่วหลิงเอ่ยด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน

จางฉี่หลิงชำเลืองมองเธอด้วยท่าทีเหมือนเบื่อหน่าย ก่อนจะตอบเรียบๆ “ฉันไม่รู้”

“เสี่ยวจาง ห้ามตอบแบบขอไปทีนะ ตั้งใจดูให้ดีๆก่อน” ฮั่วหลิงยังคงไม่ยอมแพ้

เธอเห็นจางฉี่หลิงถอนหายใจก่อนจะรับเครื่องเคลือบไปจากมือเธออย่างเสียไม่ได้ เขาพินิจดูเครื่องเคลือบแต่ละชิ้น ท่าทางไม่ได้สนอกสนใจมากนัก แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง หญิงสาวก็เห็นว่าดวงตาของเขาฉายแววฉงน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นมา

นายท่อนไม้นี่ตาสว่างได้ซะที ฮั่วหลิงคิด พร้อมกับเอ่ยถาม “ว่าไง เสี่ยวจาง มันคืออะไรเหรอ”

“เครื่องเคลือบพวกนี้ไม่ใช่ภาชนะฝังร่วมธรรมดา หมายเลขที่สลักอยู่บนเครื่องเคลือบคล้ายกับเป็นลำดับของอะไรบางอย่าง” จางฉี่หลิงกล่าว

พวกเขาลองนำเครื่องเคลือบเหล่านั้นมาเรียงกัน แล้วก็ได้พบกับความมหัศจรรย์ของสิ่งก่อสร้าง 'ตำหนักทิพย์พิมานเมฆ' ผลงานอันยิ่งใหญ่ของสถาปนิกวังฉางไห่ พวกเพื่อนๆในคณะต่างพากันดีอกดีใจที่พวกเขาได้ค้นพบความลับนี้ ฮั่วหลิงเองก็เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ เพราะเธอเป็นคนค้นพบเครื่องเคลือบพวกนั้น ด้วยความดีใจ จึงหอมแก้มจางฉี่หลิงไปทีหนึ่ง พวกผู้ชายที่เหลือพากันอิจฉาตาร้อนทันที

เสียก็แต่จางฉี่หลิงไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ฮั่วหลิงรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆต่อการกระทำของเธอแม้แต่น้อย แต่ก็ได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้เงียบๆ

ด้วยการนำของจางฉี่หลิง พวกเขาก็ได้มาถึงก้นสระที่มีไอน้ำลอยคลุ้ง บรรยากาศที่นี่แปลกประหลาด ตอนที่พวกเขากำลังจะกลับออกไปกันนั้น ก็พบว่าจางฉี่หลิงไม่ได้ตามมาด้วย พอทุกคนกลับไปตามหา ก็ได้เห็นจางฉี่หลิงกำลังนั่งยองๆอยู่หน้าป้ายศิลา

พวกเพื่อนๆพากันส่งเสียงเรียก แต่จางฉี่หลิงไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ฮั่วหลิงพลันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เงาสูงใหญ่อยู่ลึกถัดเข้าไปในหมอก ห่างจากจางฉี่หลิงแทบไม่เกินสองเมตร เพื่อนหัวไวคนหนึ่งพลันนึกขึ้นมาได้ว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ตั้งของรูปปั้นวานรหิน ดูท่าคงจะมีใครบางคนเล่นพิเรนทร์ขึ้นไปยืนอยู่บนรูปปั้น เงาจึงได้ดูสูงใหญ่น่าสะพรึงเช่นนั้น

เหวินจิ่นเกิดความคิดว่าคนที่เล่นพิเรนทร์อาจจะเป็นอู๋ซันเสิ่ง คนรักของเธอ เขาอาจจะตื่นขึ้นมาและไม่เห็นคนอื่นๆ จึงแอบตามมา และไปยืนอยู่บนรูปปั้น

ฮั่วหลิงไม่รู้ว่าเหวินจิ่นไปเอาความมั่นใจนั้นมาจากไหน เดี๋ยวเดียวเหวินจิ่นก็เดินปึงปังเข้าไปในหมอกแล้ว ตั้งท่าจะเล่นงานอู๋ซันเสิ่งเต็มที่ เพราะทิศทางที่ตั้งของรูปปั้นของวานรหินเต็มไปด้วยหมอก คนที่ยืนอยู่ข้างนอกจึงมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในบ้าง เห็นแต่เงาของคนสองคนที่กอดรัดกันไปมา สักพักก็เงียบลง ทุกคนจึงมั่นใจว่านั่นคืออู๋ซันเสิ่งไม่ผิดแน่ พากันโล่งอก

ฮั่วหลิงรู้สึกเป็นห่วงจางฉี่หลิง จึงวิ่งไปหาคนที่นั่งอยู่หน้าป้ายศิลา ตบไหล่เขาเบาๆ ถามว่า “เสี่ยวจาง เธอมานั่งเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้”

แต่นึกไม่ถึงคนคนนั้นกลับลุกพรวดขี้นมา ฮั่วหลิงตกใจจนกรีดร้อง แล้วเธอก็ได้พบว่าคนที่นั่งยองๆอยู่หน้าป้ายศิลาจนถึงเมื่อครู่ไม่ใช่จางฉี่หลิงแต่เป็นอู๋ซันเสิ่ง อู๋ซันเสิ่งเองก็ดูเหมือนจะตกใจที่เห็นเธอ ส่งเสียงร้องแปลกๆออกมา ยกมือปิดหน้าวิ่งหนีไป

พวกเขาไล่ตามไปจนได้พบกับห้องลับที่มีแบบจำลองของตำหนักทิพย์ฯ ในห้องนั้นมีทางลับที่เชื่อมเข้าไปสู่ห้องส่วนที่ลึกเข้าไปอีก พวกเขาทุกคนตัดสินใจจะเดินเข้าไปด้วยกันทั้งหมด ทันใดนั้นฮั่วหลิงก็นึกถึงความจริงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ถ้าคนที่ยืนอยู่บนรูปปั้นหินไม่ใช่อู๋ซันเสิ่งแต่เป็นจางฉี่หลิง ถ้าอย่างนั้นเมื่อสักครู่ก็หมายความว่า เงาของคนสองคนที่พวกเธอเห็นกอดกันกลมอยู่ในหมอก คือจางฉี่หลิงกับเฉินเหวินจิ่น  

ฮั่วหลิงพลันบังเกิดความอิจฉาขึ้นมาทันที มองตรงไปเบื้องหน้าก็เห็นเหวินจิ่นกำลังเดินเคียงคู่ไปกับจางฉี่หลิง

จะใกล้กันเกินไปแล้ว ฮั่วหลิงทนไม่ได้ เดินตรงเข้าไป จงใจเบียดแทรกคนสองคนนั้นให้ออกห่างจากกัน  

หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมประหลาด เพื่อนๆแต่ละคนของเธอพากันหมดสติลงไปทีละคน ก่อนที่สติของฮั่วหลิงจะขาดหาย เธอยังได้เห็นภาพชวนบาดตาอีกภาพหนึ่ง เหวินจิ่นล้มลง กำลังจะหมดสติเช่นกัน แต่จางฉี่หลิงกลับใช้แขนประคองเหวินจิ่นไว้ ทำไมเขาจึงไม่มาช่วยเธอบ้าง ฮั่วหลิงคิดอย่างน้อยใจก่อนที่จะหมดสติไป




................................................................................................................................................................................



           
วันแล้ววันเล่าผ่านไป ในความมืดมิด ฮั่วหลิงก็ยังครุ่นคิด

สิ่งที่เธอเคยภาคภูมิใจนักหนา รูปโฉมงดงาม ฐานะร่ำรวยล้นฟ้า บัดนี้ยังสำคัญกับเธออีกไหม

ในยามที่เธอถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง เพื่อนกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่พากันจากไป เพราะพวกเขายังมีความจริงที่ต้องค้นหา เพราะเธอกำลังจะกลายเป็นอสุรกาย

อีกไม่นาน เธอก็คงจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปทั้งหมด ความทรงจำของเธอค่อยๆขาดหายไปทีละนิด ภาพครอบครัวที่อบอุ่นและความทรงจำที่สดใจตราตรึงใจในช่วงวัยรุ่นคล้ายกับมีเมฆหมอกสีดำลอยเลื่อนมาคลอบคลุมทีละนิด ฮั่วหลิงไม่รู้สึกอันใด จิตใจเธอว่างเปล่า เธอไม่ได้ตาย หากแต่ก็เหมือนกับไม่ได้มีชีวิตอยู่เช่นกัน

ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาสู่ห้วงความคิดของเธอราวกับสายน้ำหลาก ในช่วงวินาทีสุดท้ายนั้นก่อนที่ทุกสิ่งจะสูญสลายไปตลอดกาล เธอจำครอบครัวของเธอได้ เธอได้เห็นพวกเขา บิดามารดาของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮั่วเซียนกู มารดาของเธอ หญิงผู้นั้นส่งรอยยิ้มปราณีราวกับแม่พระมาให้คล้ายกับจะปลอบประโลมเธอจากความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่เธอได้เผชิญ ฮั่วหลิงน้ำตาไหลอาบแก้ม อย่างน้อยสวรรค์ก็ยังมีเมตตาต่อเธอ นั่นคงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เธอได้เห็นมารดาของตัวเอง


แล้วฮั่วหลิงก็ได้เห็นคนอีกคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เห็น ในความคิดคำนึงของเธอ อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกแรงกล้าบางอย่างที่ยังคงตกค้าง ชายผู้ที่ทำลายความภาคภูมิใจ ความทรนงตนของเธอจนย่อยยับเป็นผุยผง เธอจำหน้าเขาได้ แต่นึกชื่อเขาไม่ออก เขาชื่อว่าอะไรนะ

“เสี่ยวจาง” ริมฝีปากบางพึมพำชื่อนั้นออกมาแผ่วเบา ในยามนี้สติสัมปชัญญะกลับแจ่มชัดขึ้นอย่างน่าประหลาด เธอจดจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอเขา ไปจนถึงเหตุการณ์ที่ทะเลซีซาร์ สถานที่ที่เปลี่ยนผันชีวิตเธอไปตลอดกาล

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็นเขา เธอยังจำได้ว่าตัวเองกระเง้ากระงอด พยายามจะเรียกร้องความสนใจจากเขามากเพียงไหน ยังจำได้ตอนที่เธอจุมพิตเขาที่แก้ม

หลังจากที่กลุ่มของพวกเธอถูกโจมตี เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดพบว่าตนเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอเห็นเพื่อนๆของเธอทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเหวินจิ่น หลี่ซื่อตี้ หรือแม้แต่คนอื่นๆ แต่เธอไม่เห็นเขา เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย

ฮั่วหลิงรู้สึกได้เสมอมาว่าตัวตนของชายคนนี้แตกต่างจากพวกเธอ เขาไม่ใช่แค่นักศึกษาธรรมดา บทบาทของเขาในเรื่องนี้ยังไม่จบ และหญิงสาวก็ไม่อาจรับรู้ได้ว่าในภายภาคหน้าโชคชะตาจะนำพาเขาให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับผู้ใดอีก มันยังคงเป็นปริศนาก้อนใหญ่ที่เธอขบคิดไม่ตก แต่เรื่องราวหลังจากนี้ ตัวเธอเองไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมเล่นอีกต่อไปแล้ว

เธอไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเขา และจะไม่มีวันได้เป็น

ใช่แล้ว เวลาของเธอกำลังจะหมดลง  ส่วนเขายังคงต้องก้าวต่อไป อีกนานแค่ไหนกว่าเรื่องราวเหล่านี้จะสิ้นสุดลง อีกนานแค่ไหนกว่าคนผู้นี้จะบรรลุถึงจุดหมายปลายทาง อีกนานแค่ไหน แต่นั่นก็ไม่สำคัญสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว

ทุกอย่างดับวูบ ฮั่วหลิงมองไม่เห็นสิ่งใดอีก หญิงสาวที่ชื่อว่าฮั่วหลิงได้จากไปแล้ว ตลอดกาล

ภายในห้องมืดนั้น ร่างผอมบางรางหนึ่งกำลังใช้หวีสางผมยาวสลวยของตัวเองอย่างแผ่วเบา

 
     FIN  


์NOTE: อยากลองเขียนฟิคเกี่ยวกับตัวละครผู้หญิงในเรื่องบันทึกฯมานานแล้ว เห็นหัวข้อเดลี่วันนี้แล้วนึกถึงฮั่วหลิงขึ้นมาทันที รู้สึกว่าฮั่วหลิงเป็นตัวละครที่มีชะตาชีวิตน่าสงสารอีกคนหนึ่ง Y____Y ความจริงแล้วผู้หญิงทุกคนในเรื่องนี้น่าสงสารทั้งหมดเลย

กลัวมากๆว่าจะเขียนฮั่วหลิงหลุดคาร์ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกสนุกสักนิดก็ดีใจแล้วค่ะ จริงๆนะ ขอบคุณมากที่อ่านกัน *ยิ้มเขิน*


แก้ไขล่าสุดโดย Eli-kun เมื่อ Tue 07 Apr 2015, 23:55, ทั้งหมด 3 ครั้ง
Eli-kun
Eli-kun
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 80
Points : 3437
Join date : 04/03/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง) Empty Re: [OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง)

ตั้งหัวข้อ by casey Tue 07 Apr 2015, 19:06

เมื่อกี้เห็นลบไป วิ่งมาเม้นใหม่อีกรอบ

ชอบจังค่ะ ไม่ค่อยเห็นฮั่วหลิงเลย ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องเปลี่ยนเป็นอะไรไม่รู้นี่คงทั้งรู้สึกกลัวแล้วก็แย่มากๆแน่
ยิ่งกับคนที่ภูมิใจในตัวเองด้วยแล้ว
casey
casey
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3587
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง) Empty Re: [OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง)

ตั้งหัวข้อ by Eli-kun Wed 08 Apr 2015, 02:30

แอร๊ ก่อนหน้านี้ที่ลบเพราะเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อยค่ะ
ฟิคฮั่วหลิงเหมือนจะไม่มีใครเคยเขียนเลย เท่าที่ค้นดูในบอร์ด ดีใจที่ชอบนะคะ รู้สึกว่าฝีมือเขียนฟิคของตัวเองยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ *ปาหัวใจใส่รัวๆ*
Eli-kun
Eli-kun
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 80
Points : 3437
Join date : 04/03/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง) Empty Re: [OS] Pride & Envy (ฮั่วหลิง, จางฉี่หลิง)

ตั้งหัวข้อ by Cathareen Wed 08 Apr 2015, 17:30

;;;A;;; ฮั่วหลิงงงงง
ช่วงเวลาที่ใกล้จะกลายร่างแบบ เศร้ามากค่ะ มันคงสิ้นหวังมาก เรารู้ตัวว่าเรากำลังตายแล้ว ;;w;;
ฮืออออ อินมากค่ะ ชอบมาก ;;w;;
พอมาคิดอีกทีแล้วก็น่าสงสาร เข้ามาเกี่ยวข้อง รับรู้ แต่ก็ต้องตายไป ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าจะจบยังไง
ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ ;w;
Cathareen
Cathareen
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 149
Points : 3596
Join date : 24/12/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ