Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)

2 posters

Go down

[OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)    Empty [OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)

ตั้งหัวข้อ by Eli-kun Wed 04 Mar 2015, 13:17

บ่ายแก่ๆของวันหนึ่งในปลายฤดูร้อนต้นฤดูใบไม้ร่วง อากาศริมทะเลสาบซีหู เมืองหังโจวกำลังเย็นสบาย ผมเอนหลังอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรด หลับตาพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์

ตอนนี้ผมแต่งงานมีครอบครัวแล้ว หลังจากที่ทนฟังป๊ากับม้าและอารองบ่นจนหูชามานานปี ในที่สุดผมก็สามารถมีวันนี้ได้จริงๆ เมื่อก่อนเพราะมีเรื่องราวหลายอย่างรบกวนจิตใจ มีธุระมากมายให้ต้องจัดการสะสาง ผมจึงไม่มีกะจิตกะใจมาคิดถึงเรื่องพวกนี้ แต่หลังจากช่วยเมินโหยวผิงออกมาจากประตูสำริดสำเร็จ และปิดฉากเรื่องราวทั้งหลายลง จิตใจของผมก็เหมือนกับได้รับการปลดปล่อย ปมต่างๆที่อยู่ในใจคล้ายกับผ่อนคลายลง บัดนี้จึงค่อยสามารถคิดถึงการมีชีวิตได้อย่างแท้จริง

10 ปีผ่านไปแล้วนับจากการผจญภัยครั้งสุดท้ายของผม ตัวผมในตอนนี้นั้นนับว่าได้วางมือจากเรื่องราวต่างๆอย่างแท้จริง แต่ยามที่อยู่ตามลำพัง ว่างเว้นจากการงานต่างๆ กลับพบว่าจิตใจยังคงประหวัดหวนนึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้นอยู่เนืองๆ

ผมนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงผู้คนที่ได้ประสบพบเจอ ร่วมผจญภัยต่อสู้ไปด้วยกัน บัดนี้เมื่อเรื่องราวจบลง พวกเขาต่างก็แยกย้ายกันไปดำเนินชีวิตตามครรลองของตัวเอง

นายอ้วนฐานะล่ำซำ ใช้ชีวิตสุขสำราญราวกับคนหนุ่มไม่เปลี่ยน เปลี่ยนผู้หญิงควงไม่ซ้ำหน้า บางคนอายุคราวลูกคราวหลาน ผมได้แต่ส่ายหน้าระอา บอกให้เขาลงหลักปักฐานจริงจังกับใครซักคนได้แล้ว ไม่ใช่ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยชายไปวันๆ นายอ้วนตบไหล่ผมปุๆ บอกว่าเขาก็อายุปูนนี้แล้ว ชาตินี้คงไม่คิดจะแต่งงานกับใครแล้วล่ะ จนกว่าจะถึงวันที่ลงโลง ก็จะขอใช้ชีวิตเป็นบุรุษเจ้าสำราญแบบนี้ต่อไป ผมขี้เกียจเถียงกับเขา ชีวิตเป็นของเขา ตัวเขาเท่านั้นจึงจะตัดสินใจได้ดีที่สุด

ตั้งแต่การผจญภัยครั้งใหญ่ที่ฉางไป๋ซานคราวนั้น ผมก็ไม่เคยเห็นนายแว่นดำอีกเลย แม้ผมจะให้ลูกน้องหลายคนคอยสืบหาข่าวคราวของเขา แต่ก็ได้รับการยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าหาไม่พบ ราวกับเขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ผมอดรู้สึกเศร้าใจลึกๆไม่ได้ นายแว่นดำเป็นคนหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือผมไว้มากมาย ถึงแม้เขาเป็นคนประหลาดคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ยังนับได้ว่าเป็นมิตรสหายที่แท้จริง บัดนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดี ย่อมทำให้ผู้คนรู้สึกเศร้าใจ  

เสี่ยวฮัวแต่งงานกับซิ่วซิ่วเมื่อสามปีก่อน ผมไปร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย ในหมู่คนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน พวกเราสามคนถือว่าสนิทกันมากที่สุดแล้ว สองคนนั้นหลังจากที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ในที่สุดก็ลงเอยกันได้เสียที แม้ว่าจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างเสี่ยวฮัวกับซิ่วซิ่วว่าเป็นความรักที่แท้จริงของชายหญิงหรือเปล่า บางครั้งพวกเขาให้ความรู้สึกเหมือนคู่รัก แต่บางครั้งดูไปกลับคล้ายพี่น้องมากกว่า แต่ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง รวมไปถึงฐานะของคนทั้งคู่ จะลงเอยกันผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมเลิกไปขบคิดให้มากความ ร่วมแสดงความยินดีให้พวกเขาทั้งคู่อย่างจริงใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สมกันมาก ผมขอให้ทั้งคู่มีชีวิตคู่ที่มีความสุข

คนสุดท้ายที่ต้องกล่าวถึงคือเมินโหยวผิง เป็นเวลาหลายปีแล้วหลังจากที่เขาออกเดินทาง ผมไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหนบ้าง นายอ้วนแอบมากระซิบกับผมว่าน้องเสี่ยวเกออาจจะออกเดินทางรอบโลกก็เป็นได้ ผมคิดดูแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผล เมินโหยวผิงเป็นคนที่ไม่ชอบการผูกมัด เขาไม่เคยหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ  นั่นก็สมกับเป็นตัวเขา ในตอนนี้ผมรู้สึกราวกับเขาได้ใช้ชีวิตเหมือนกันคนธรรมดาคนหนึ่ง อยากไปที่ไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องถูกผูกมัดไว้กับภาระหน้าที่ เป็นอิสระดั่งนก ผมอดดีใจไปกับเขาด้วยไม่ได้ นานๆครั้งเมินโหยวผิงก็จะติดต่อมาหาผมกับนายอ้วนบ้าง ข่าวคราวทุกครั้งที่เขาส่งมาล้วนมาจากสถานที่ต่างๆแทบไม่เคยซ้ำกัน ตั้งแต่มูทัว ในเขตทิเบต ตลาดน้ำที่เมืองไทย ไปจนถึงไร่องุ่นในเมือง Riquewihr ชนบทของฝรั่งเศส เขาเดินทางไปไกลเหลือเกิน แต่เพียงได้รับรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่และสุขสบายดี เท่านั้นก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว

เรื่องราวมากมายพอนานวันเข้า ก็ราวกับจะสลายไปกับกระแสแห่งกาลเวลา หลงเหลือไว้เพียงผงธุลีในความทรงจำ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนชรา ผ่านเรื่องราวหลากหลายมาครึ่งค่อนชีวิต แต่สิ่งที่ผมทำลงไป แม้จะต้องเสียสละผู้คน สิ่งสำคัญของตัวเอง แต่ผมไม่เคยนึกเสียใจ เพราะผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นคุ้มแสนคุ้ม ในที่สุดเรื่องราวลึกลับที่คอยกัดกินตระกูลของผมมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ก็ได้ปิดฉากลงในรุ่นของผม วันพรุ่งนี้จะไม่มีเงื้อมเงาดำที่คอยรังควานครอบครัวของผมอีกต่อไป ลูกหลานของผมจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข เป็นอิสระจากเรื่องพวกนี้ได้อย่างแท้จริง

“ป๊า” แว่วเสียงลูกชายของผมร้องเรียก ผมจึงหลุดออกจากห้วงภวังค์ มองไปก็เห็นลูกชายของผมกับภรรยากำลังเดินเข้ามา เธอยิ้มให้ผม กล่าวเรียก “ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว มาทานข้าวกันเถอะค่ะ”

ผมส่งยิ้มให้เธอกลับไป ตอบว่า “ไปเดี๋ยวนี้แหละ”

แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่อง ทั่วทั้งบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่นสว่างไสว แว่วเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังลอดออกมา วันเวลาที่สงบสุขผ่านไปอีกวัน

FIN

Talk:

ฟิคเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากความคิดชั่ววูบและแรงมโนล้วนๆ จู่ๆก็อยากลองเขียนตอนจบของบันทึกจอมโจรแห่งสุสานฉบับตัวเองดู โดยพยายามเขียนให้จบแบบ Happy ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่านายน้อยกับเสี่ยวเกอต้องรอดชีวิต โดยไทม์ไลน์ในเรื่องก็จะเป็นเหตุการณ์สิบปีหลังจากที่นายน้อยอู๋เสียไปผจญภัยในประตูสำริดและพาเสี่ยวเกอกลับมาได้แล้ว อยากจะลองเขียนตอนจบของตัวละครหลายๆคน เป็นแฟนคลับนิยายเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพิ่งได้ลองแต่งฟิคเป็นครั้งแรก ภาษาที่ใช้อาจจะแปลกๆไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะคะ แอร๊ย เขิน >///<

ขอขอบคุณที่สละเวลามาอ่านกัน ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น ติชมได้ตามสบายค่ะ ♥
Eli-kun
Eli-kun
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 80
Points : 3447
Join date : 04/03/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)    Empty Re: [OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Tue 31 Mar 2015, 13:53

ง่า อยากเห็นเสี่ยวอู๋ตัวน้อยจัง เขี่ยภรรยาทิ้งไปแล้วมโนเป็นเสี่ยวเกอแทน555
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3841
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)    Empty Re: [OS] Every ending is just a new beginning (อู๋เสีย)

ตั้งหัวข้อ by Eli-kun Sat 04 Apr 2015, 00:12

เขี่ยภรรยาทิ้งไปแล้วมโนเป็นเสี่ยวเกอแทน555

คุณภรรยาร้องไห้หนักมาก 555+
Eli-kun
Eli-kun
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 80
Points : 3447
Join date : 04/03/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ