Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
+3
MinMin
linpingz
sinnerdarker
7 posters
หน้า 1 จาก 1
[Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
[244 Days Left][Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
ไม่เป็นไร…
...เขากล่าวบอกตัวเองเช่นนั้น สูดลมหายใจลึกและหลับตาลง ปล่อยตนเองให้กลืนหายไปกับความฝันสีดำมืด
.
.
.
รู้สึกถึงสัมผัสเย็นชื้นที่แตะลงบนหน้าผาก สัมผัสนั้นเย็น แต่กลับทำให้หัวใจอบอุ่น
เฮยเสียจื่อลืมตาขึ้น จึงมองเห็นฝ่ามือที่แตะอังบนหน้าผากของตน พร้อมเงาร่างของคนคุ้นเคยที่นั่งอยู่ข้างตนบนเตียงนุ่มสีครีม
“…คุณชาย?”
เขาพึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายไป พยายามยันกายลุกขึ้น แต่กลับถูกดันศีรษะอย่างแรงจนร่างอ่อนแรงหงายเงิบไปนอนกับเตียงเช่นเดิม
“ทำไมนายไม่บอกว่าไม่สบาย?” เซี่ยอวี่ฮัวถามเขากึ่งกล่าวโทษ คิ้วเรียวขมวดมุ่นจดจ้องร่างที่นอนหมดสภาพหน้าแดงเรื่อเพราะพิษไข้บนเตียง นึกเข้าใจว่าเป็นเพราะความรุนแรงของตนในค่ำคืนที่ผ่านมา
เขาไม่คิดขอโทษ ทว่าไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยไว้ให้นอนหมดสภาพเช่นนี้โดยไม่ทำอะไร
เฮยเสียจื่อจดจ้องใบหน้าของคุณชายเก้า ก่อนจะแค่นหัวเราะเสียงพร่า “ไม่เห็น…ต้องบอกให้คุณ..เป็นกัง…วลเลยนี่ครับ..คุณชาย”
“..ฉันไม่เสียเวลากังวลกับนายหรอก แค่รำคาญ” ชายหนุ่มบอกเช่นนั้น ทว่าฝ่ามือยังคงเกลี่ยบนใบหน้าอย่างอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว “ตั้งแต่เช้ากินอะไรหรือยัง? ยาล่ะ?”
“ทานหมดแล้วครับ..คุณชาย” เขากล่าวปดมดเท็ด ความจริงคือตั้งแต่เช้าลุกจากเตียงไม่ไหวจึงยังไม่ได้กินอะไรทั้งสิ้น ทั้งข้าวและยา แม้จะหลับไปบ้างจนไข้ลดแล้วก็ตาม
“…โกหกหน้าด้านๆ คนรับใช้บอกว่าไม่เห็นนายเดินออกจากห้องมาเลยซักรอบ” คุณชายเก้าพึมพำบอกพร้อมพรูลมหายใจ ก่อนจะหยิบชามข้าวต้มมาจากข้างเตียง “ลุกขึ้นนั่งดีๆ แล้วกินซะ กินเองได้ไหม?”
“คุณชาย..ป้อนผมที” เขาลุกขึ้นนั่งแล้วแสร้งออดอ้อน แน่นอนว่าสิ่งที่ได้คือดวงตาคมที่ตวัดมองอย่างเฉียบขาด ดังนั้นเฮยเสียจื่อจึงเพียงยิ้มแหย ยื่นมือไปรับถ้วยข้าวต้มในหม้อดินมาตักกินเอง
ยามที่ข้าวต้มอุ่นร้อนผ่านเข้าไปในกะเพาะ ก็รู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงขึน สติเริ่มกลับมาแจ่มชัดขึ้นทุกขณะ
เขาปรายตามองร่างที่นั่งไขว่ห้างบนเตียงจิ้มโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างๆ มองเสี้ยวใบหน้านิ่งที่สนใจโทรศัพท์มือถือมากกว่าเขา หากเป็นปกติชายหนุ่มคงเข้าไปฉกมันออกมาแล้วขโมยจูบหยอกเย้า จากนั้นก็ไม่แคล้วถูกลงโทษจัดหนัก
..แต่วันนี้สังขารเฮยเสียจื่อไม่เที่ยงนัก ทั้งภายนอกและภายใน ด้านล่างที่รับการกระทำหนักหน่วงไปเมื่อคืนก็คล้ายแผลยังไม่ประสาน ควรจะสงบเสงี่ยมไว้ดีกว่า
แม้จะคิดเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ยังหรี่ตาลงเล็กน้อย มองชื่อบุคคลที่คุณชายกำลังติดต่อด้วย และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณชาย…. ถ้านายน้อยสามโทรมาเรียกหา คุณจะรีบออกไปทั้งๆ ที่รู้แล้วว่าผมไม่สบายไหม?”
เรียวนิ้วที่กดจิ้มบนโทรศัพท์มือถือชะงักกึก ก่อนจะเอ่ยตอบทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากมือถือ “….ไป”
“…ผมก็ว่าแล้ว” เฮยเสียจื่อแค่นหัวเราะในคอ ตักข้าวต้มขึ้นมากินต่อคล้ายไม่รู้สึกถึงสิ่งใด ทว่าภายในใจบิดร้าวจนเหมือนเลือดจะไหลซึมออกมา
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องธรรมาดาที่รู้มาตลอด
หัวเราะแห้งๆ ฝืนยิ้มกลบเกลื่อนไป แค่นั้นก็เพียงพอ ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินอยู่ภายใน
“ตอนนี้เขาไม่เหลือใครอยู่ข้างๆ เปราะบาง ฉันต้องอยู่ข้างเขา เป็นคนเดียวทีทำได้” เซี่ยอวี่ฮัวกล่าวอิบายเหตุผลที่ตนต้อง ‘ไป’ ทว่านายบอดดำรู้ดีว่ามีเหตุผลที่เรียบง่ายกว่านั้น
ก็แค่ให้ความสำคัญไม่เท่ากัน
“ครับๆ ผมเข้าใจ เพราะงั้นช่วยปล่อยคนป่วยนอนหน่อยนะคุณชาย กินเสร็จผมจะนอนยาวแล้ว” เขากล่าวเสียงแห้ง เร่งกินข้าวต้มให้หมด ทว่ากลับถูกถอดแว่นสีดำสนิทออกกะทันหันแล้วตามด้วยฝ่ามือที่ปิดตาทันก่อนแสงจะรบกวน ส่วนข้ามต้มในมือก็คล้ายถูกดึงออกไป
“…คุณชายจะแกล้งอะไรผม?” เขาถามอีกฝ่ายอย่างนึกหวั่น ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงเงียบ ปิดตาเขาไว้เช่นนั้น ก่อนจะพรูลมหายใจเฮือก และว่าขึ้น
“ฉันเป็นคนเดียวที่ไปอยู่ข้างอู๋เสียได้ในยามเปราะบาง” เซี่ยอวี่ฮัวกล่าวบอก หยุดไปเล็กน้อย และพูดต่อด้วยโทนเสียงเชื่องช้า ชัดเจน “..แต่คนที่จะอยู่เคียงข้างฉันได้มีแค่นาย คนที่ฉันจะ ‘กลับ’ มาหามีเพียงแค่นาย เฮยเสียจื่อ
แล้วนายก็ไม่จำเป็นต้องยิ้มทั้งที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น..”
..ไม่ต้องยิ้มทั้งที่ไม่ได้รู้สึกดีไปกับคำตอขของเขา...
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฮยเสียจื่อก็นิ่งเงียบไป เปลือกตาใต้ฝ่ามือขยับไหวตามลูกตาที่เคลื่อนกลอก ซักพักเซี่ยอวี่ฮัวก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นใต้ฝ่ามือ และรอยของเหลวที่ร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงบนแก้มแดงเรื่อทั้งสองข้างของชายหนุ่มร่างโปร่งสูง
คุณชายเซี่ยอ้าปากเล็กน้อยคล้ายจะพูดอะไร ทว่ายามเห็นรอยยิ้มของนายบอดดำที่ยังไม่เลือนหายทั้งที่หยาดของเหลวหลั่งริน เขาก็ได้แต่พรูลมหายใจ กล่าวขึ้นราวกับเป็นเรื่องธรรมดา “….เหงื่อซึมหรือไง”
“ครับ คุณชาย แค่เหงื่อ”เฮยเสียจื่อกล่าวกลั้วหัวเราะ ไร้เสียงสะอื้น ทว่าของเหลวที่อ้างว่าเป็นเหงื่อกลับไหลออกมาอย่างเงียบงัน ด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจทราบว่ายินดีหรือเจ็บปวด
บางทีก็คงผสมผสานกันไปจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว
.
.
ไม่เป็นไร
เพราะรู้ดีมาตลอด แม้มอบหัวใจให้ทั้งดวง ก็ใช่จะได้รับมอบกลับมา เป็นวงโซ่ที่น่าขัน ดวงตาของเซี่ยอวี่ฮัวที่มองตามหลังคุณชายสาม ดวงตาของเขาที่จ้องตามแผ่นหลังของคุณชายเซี่ยอีกต่อ ดังนั้นจึงบอกตนเองว่าไม่เป็ฯไร จอเพียงให้ได้อยู่เคียงใกล้ ประคับประคอง เป็นแหล่งพักพิงและที่ปลดปล่อยอารมณ์ก็เพียงพอ
แต่ทั้งที่รู้ดีหัวใจมนุษย์ก็ยังมิใช่ก้อนหิน สุดท้ายก็ยังมีจุดสิ้นสุด มีขีดจำกัดที่เกินรับไว้ และหัวใจก็ปรารถนาความรัก ดังนั้นจึงเจ็บปวด ยามที่ดวงใจทั้งดวงที่มอบให้ไปไม่ได้รับการตอบแทนกลับมา
แต่อย่างน้อยที่สุด มันก็ไม่ได้เลวร้ายมากเกินไป อย่างน้อยคนตรงหน้าก็ยังยอมให้เขาร้องไห้ รู้ว่ารอยยิ้มนี้ฝิดเฝือนฝืนทนเพียงไร แม้ว่าสุดท้ายตัวเขาเองก็ยังยากจะถอดรอยยิ้มนี้ออก ก็ยังสามารถร้องไห้ออกมาได้
แม้ไม่รู้ว่าคำพูดนั้นน่าเชื่อถือเพียงไร..แต่อย่างน้อย ก็ยังได้รับการใส่ใจ
เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นไร
ไม่เป็นไร
…เพราะอย่างน้อยที่สุด วันนี้ก็ได้รู้..ใช่ว่าจะไม่ได้อยู่ในสายตา
ฟิคนี้แว่นอ่อนแอจัง หลุดคาแรกเตอร์ด้วย ขอโทษค่าาาา ฮืออ ได้กลับมาเขียนฮัวเฮยแล้วเฟร้ยย ไปวิ่งเล่นเรืออื่นนาน/ กลับมากอดรัด ตอนแรกอยากเขียนยาวกว่านี้ แต่โดนข้อสอบทำร้ายมาสาหัสมาก /กระอักเลือด/ เลยขอ Drabble ดีกว่า
วันนี้กำลังตันหัวข้อเดลี่พอดี ขอบคุณแว่นที่ทำให้เราเขียนออก /แว่นบอกถ้าจะทำกันงี้ก็ตันๆ ไปเหอะครับ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
++++++++++++++++++++
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
เขากล่าวเช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า บอกตัวเองซึ่งล่มสลายอยู่ภายใต้หน้ากากแห่งรอยยิ้ม
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
บอกตัวเองยามที่ใครคนหนึ่งเดินจากไป ไม่เหลียวหลังมามอง เพียงเพราะโทรศัพท์จากคนคนเดียว ด้วยธุระที่ไม่ได้สำคัญอะไร
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
บอกตัวเองที่ถูกรุกรานอย่างหนักหน่วงเกรี้ยวกราด สัมผัสอย่างหยาบโลนไร้เกียรติ
แย้มรอยยิ้มแยกเขี้ยวใส่ทั้งที่รู้ดี วันพรุ่งบาดแผลเบื้องล่างจะหนักหนาสาหัสเพียงใด
แย้มรอยยิ้มแยกเขี้ยวใส่ทั้งที่รู้ดี วันพรุ่งบาดแผลเบื้องล่างจะหนักหนาสาหัสเพียงใด
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
บอกตัวเองที่ไม่สบายนอนซมอยู่บนเตียงอย่างเงียบเหงา ข้างกายไร้ร่างของผู้ที่กอดกกเขาในค่ำคืนที่เลยผ่าน ต้นเหตุของความป่วยไข้ในวันนี้
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
บอกตัวเองที่สติเริ่มพร่าเลือนเพราะพิษไข้ ทรมานจนหายใจไม่ออก และโลกที่มองผ่านแว่นตาสีดำช่างมืดหม่นหมองมัว ..เดียวดาย
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
เพียงแค่ยกมุมริมฝีปากขึ้น ก็จะไม่มีใครเห็นความเจ็บปวดข้างใน และสิ่งที่คนมากมายเห็น ก็จะเป็นตัวเขาที่แข็งแกร่งอยู่เสมอ
ไม่เป็นไร…
...เขากล่าวบอกตัวเองเช่นนั้น สูดลมหายใจลึกและหลับตาลง ปล่อยตนเองให้กลืนหายไปกับความฝันสีดำมืด
.
.
.
รู้สึกถึงสัมผัสเย็นชื้นที่แตะลงบนหน้าผาก สัมผัสนั้นเย็น แต่กลับทำให้หัวใจอบอุ่น
เฮยเสียจื่อลืมตาขึ้น จึงมองเห็นฝ่ามือที่แตะอังบนหน้าผากของตน พร้อมเงาร่างของคนคุ้นเคยที่นั่งอยู่ข้างตนบนเตียงนุ่มสีครีม
“…คุณชาย?”
เขาพึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายไป พยายามยันกายลุกขึ้น แต่กลับถูกดันศีรษะอย่างแรงจนร่างอ่อนแรงหงายเงิบไปนอนกับเตียงเช่นเดิม
“ทำไมนายไม่บอกว่าไม่สบาย?” เซี่ยอวี่ฮัวถามเขากึ่งกล่าวโทษ คิ้วเรียวขมวดมุ่นจดจ้องร่างที่นอนหมดสภาพหน้าแดงเรื่อเพราะพิษไข้บนเตียง นึกเข้าใจว่าเป็นเพราะความรุนแรงของตนในค่ำคืนที่ผ่านมา
เขาไม่คิดขอโทษ ทว่าไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยไว้ให้นอนหมดสภาพเช่นนี้โดยไม่ทำอะไร
เฮยเสียจื่อจดจ้องใบหน้าของคุณชายเก้า ก่อนจะแค่นหัวเราะเสียงพร่า “ไม่เห็น…ต้องบอกให้คุณ..เป็นกัง…วลเลยนี่ครับ..คุณชาย”
“..ฉันไม่เสียเวลากังวลกับนายหรอก แค่รำคาญ” ชายหนุ่มบอกเช่นนั้น ทว่าฝ่ามือยังคงเกลี่ยบนใบหน้าอย่างอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว “ตั้งแต่เช้ากินอะไรหรือยัง? ยาล่ะ?”
“ทานหมดแล้วครับ..คุณชาย” เขากล่าวปดมดเท็ด ความจริงคือตั้งแต่เช้าลุกจากเตียงไม่ไหวจึงยังไม่ได้กินอะไรทั้งสิ้น ทั้งข้าวและยา แม้จะหลับไปบ้างจนไข้ลดแล้วก็ตาม
“…โกหกหน้าด้านๆ คนรับใช้บอกว่าไม่เห็นนายเดินออกจากห้องมาเลยซักรอบ” คุณชายเก้าพึมพำบอกพร้อมพรูลมหายใจ ก่อนจะหยิบชามข้าวต้มมาจากข้างเตียง “ลุกขึ้นนั่งดีๆ แล้วกินซะ กินเองได้ไหม?”
“คุณชาย..ป้อนผมที” เขาลุกขึ้นนั่งแล้วแสร้งออดอ้อน แน่นอนว่าสิ่งที่ได้คือดวงตาคมที่ตวัดมองอย่างเฉียบขาด ดังนั้นเฮยเสียจื่อจึงเพียงยิ้มแหย ยื่นมือไปรับถ้วยข้าวต้มในหม้อดินมาตักกินเอง
ยามที่ข้าวต้มอุ่นร้อนผ่านเข้าไปในกะเพาะ ก็รู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงขึน สติเริ่มกลับมาแจ่มชัดขึ้นทุกขณะ
เขาปรายตามองร่างที่นั่งไขว่ห้างบนเตียงจิ้มโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างๆ มองเสี้ยวใบหน้านิ่งที่สนใจโทรศัพท์มือถือมากกว่าเขา หากเป็นปกติชายหนุ่มคงเข้าไปฉกมันออกมาแล้วขโมยจูบหยอกเย้า จากนั้นก็ไม่แคล้วถูกลงโทษจัดหนัก
..แต่วันนี้สังขารเฮยเสียจื่อไม่เที่ยงนัก ทั้งภายนอกและภายใน ด้านล่างที่รับการกระทำหนักหน่วงไปเมื่อคืนก็คล้ายแผลยังไม่ประสาน ควรจะสงบเสงี่ยมไว้ดีกว่า
แม้จะคิดเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ยังหรี่ตาลงเล็กน้อย มองชื่อบุคคลที่คุณชายกำลังติดต่อด้วย และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณชาย…. ถ้านายน้อยสามโทรมาเรียกหา คุณจะรีบออกไปทั้งๆ ที่รู้แล้วว่าผมไม่สบายไหม?”
เรียวนิ้วที่กดจิ้มบนโทรศัพท์มือถือชะงักกึก ก่อนจะเอ่ยตอบทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากมือถือ “….ไป”
“…ผมก็ว่าแล้ว” เฮยเสียจื่อแค่นหัวเราะในคอ ตักข้าวต้มขึ้นมากินต่อคล้ายไม่รู้สึกถึงสิ่งใด ทว่าภายในใจบิดร้าวจนเหมือนเลือดจะไหลซึมออกมา
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องธรรมาดาที่รู้มาตลอด
หัวเราะแห้งๆ ฝืนยิ้มกลบเกลื่อนไป แค่นั้นก็เพียงพอ ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินอยู่ภายใน
“ตอนนี้เขาไม่เหลือใครอยู่ข้างๆ เปราะบาง ฉันต้องอยู่ข้างเขา เป็นคนเดียวทีทำได้” เซี่ยอวี่ฮัวกล่าวอิบายเหตุผลที่ตนต้อง ‘ไป’ ทว่านายบอดดำรู้ดีว่ามีเหตุผลที่เรียบง่ายกว่านั้น
ก็แค่ให้ความสำคัญไม่เท่ากัน
“ครับๆ ผมเข้าใจ เพราะงั้นช่วยปล่อยคนป่วยนอนหน่อยนะคุณชาย กินเสร็จผมจะนอนยาวแล้ว” เขากล่าวเสียงแห้ง เร่งกินข้าวต้มให้หมด ทว่ากลับถูกถอดแว่นสีดำสนิทออกกะทันหันแล้วตามด้วยฝ่ามือที่ปิดตาทันก่อนแสงจะรบกวน ส่วนข้ามต้มในมือก็คล้ายถูกดึงออกไป
“…คุณชายจะแกล้งอะไรผม?” เขาถามอีกฝ่ายอย่างนึกหวั่น ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงเงียบ ปิดตาเขาไว้เช่นนั้น ก่อนจะพรูลมหายใจเฮือก และว่าขึ้น
“ฉันเป็นคนเดียวที่ไปอยู่ข้างอู๋เสียได้ในยามเปราะบาง” เซี่ยอวี่ฮัวกล่าวบอก หยุดไปเล็กน้อย และพูดต่อด้วยโทนเสียงเชื่องช้า ชัดเจน “..แต่คนที่จะอยู่เคียงข้างฉันได้มีแค่นาย คนที่ฉันจะ ‘กลับ’ มาหามีเพียงแค่นาย เฮยเสียจื่อ
แล้วนายก็ไม่จำเป็นต้องยิ้มทั้งที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น..”
..ไม่ต้องยิ้มทั้งที่ไม่ได้รู้สึกดีไปกับคำตอขของเขา...
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฮยเสียจื่อก็นิ่งเงียบไป เปลือกตาใต้ฝ่ามือขยับไหวตามลูกตาที่เคลื่อนกลอก ซักพักเซี่ยอวี่ฮัวก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นใต้ฝ่ามือ และรอยของเหลวที่ร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงบนแก้มแดงเรื่อทั้งสองข้างของชายหนุ่มร่างโปร่งสูง
คุณชายเซี่ยอ้าปากเล็กน้อยคล้ายจะพูดอะไร ทว่ายามเห็นรอยยิ้มของนายบอดดำที่ยังไม่เลือนหายทั้งที่หยาดของเหลวหลั่งริน เขาก็ได้แต่พรูลมหายใจ กล่าวขึ้นราวกับเป็นเรื่องธรรมดา “….เหงื่อซึมหรือไง”
“ครับ คุณชาย แค่เหงื่อ”เฮยเสียจื่อกล่าวกลั้วหัวเราะ ไร้เสียงสะอื้น ทว่าของเหลวที่อ้างว่าเป็นเหงื่อกลับไหลออกมาอย่างเงียบงัน ด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจทราบว่ายินดีหรือเจ็บปวด
บางทีก็คงผสมผสานกันไปจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว
.
.
ไม่เป็นไร
เพราะรู้ดีมาตลอด แม้มอบหัวใจให้ทั้งดวง ก็ใช่จะได้รับมอบกลับมา เป็นวงโซ่ที่น่าขัน ดวงตาของเซี่ยอวี่ฮัวที่มองตามหลังคุณชายสาม ดวงตาของเขาที่จ้องตามแผ่นหลังของคุณชายเซี่ยอีกต่อ ดังนั้นจึงบอกตนเองว่าไม่เป็ฯไร จอเพียงให้ได้อยู่เคียงใกล้ ประคับประคอง เป็นแหล่งพักพิงและที่ปลดปล่อยอารมณ์ก็เพียงพอ
แต่ทั้งที่รู้ดีหัวใจมนุษย์ก็ยังมิใช่ก้อนหิน สุดท้ายก็ยังมีจุดสิ้นสุด มีขีดจำกัดที่เกินรับไว้ และหัวใจก็ปรารถนาความรัก ดังนั้นจึงเจ็บปวด ยามที่ดวงใจทั้งดวงที่มอบให้ไปไม่ได้รับการตอบแทนกลับมา
แต่อย่างน้อยที่สุด มันก็ไม่ได้เลวร้ายมากเกินไป อย่างน้อยคนตรงหน้าก็ยังยอมให้เขาร้องไห้ รู้ว่ารอยยิ้มนี้ฝิดเฝือนฝืนทนเพียงไร แม้ว่าสุดท้ายตัวเขาเองก็ยังยากจะถอดรอยยิ้มนี้ออก ก็ยังสามารถร้องไห้ออกมาได้
แม้ไม่รู้ว่าคำพูดนั้นน่าเชื่อถือเพียงไร..แต่อย่างน้อย ก็ยังได้รับการใส่ใจ
เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นไร
ไม่เป็นไร
…เพราะอย่างน้อยที่สุด วันนี้ก็ได้รู้..ใช่ว่าจะไม่ได้อยู่ในสายตา
END
ฟิคนี้แว่นอ่อนแอจัง หลุดคาแรกเตอร์ด้วย ขอโทษค่าาาา ฮืออ ได้กลับมาเขียนฮัวเฮยแล้วเฟร้ยย ไปวิ่งเล่นเรืออื่นนาน/ กลับมากอดรัด ตอนแรกอยากเขียนยาวกว่านี้ แต่โดนข้อสอบทำร้ายมาสาหัสมาก /กระอักเลือด/ เลยขอ Drabble ดีกว่า
วันนี้กำลังตันหัวข้อเดลี่พอดี ขอบคุณแว่นที่ทำให้เราเขียนออก /แว่นบอกถ้าจะทำกันงี้ก็ตันๆ ไปเหอะครับ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
sinnerdarker- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 343
Points : 4066
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง
Re: [Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย คุณชายขาาาาาาาาาาาาาาาาาาา รักอีเเว่นให้มากกว่านี้สิคะ............ เดี่ยวตอนเเว่นไม่อยู่เเล้วจะเสียใจนะค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
linpingz- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 36
Points : 3530
Join date : 06/11/2014
Re: [Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
"ไม่เป็นไร"
คำนี้มันมีไว้หลอกตัวเองชัดๆเลยค่ะ!!!
คนพูดอาจจะพูดไปเพราะหลอกตัวเอง เพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง แต่มันยิ่งทำให้คนฟังกังวลยิ่งกว่าเดิม
แล้วนายเอาอะไรคิดที่ว่าคุณชายไม่เห็นนายอยู่ในสายตา!!! นายแว่นดำ!!! ตามองไม่ชัดก็ใช้ใจสิคะ!!!!!
คำนี้มันมีไว้หลอกตัวเองชัดๆเลยค่ะ!!!
คนพูดอาจจะพูดไปเพราะหลอกตัวเอง เพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง แต่มันยิ่งทำให้คนฟังกังวลยิ่งกว่าเดิม
แล้วนายเอาอะไรคิดที่ว่าคุณชายไม่เห็นนายอยู่ในสายตา!!! นายแว่นดำ!!! ตามองไม่ชัดก็ใช้ใจสิคะ!!!!!
MinMin- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 222
Points : 3855
Join date : 28/10/2014
Re: [Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
ชีวิตรักนายแว่นช่างเจ็บปวด เป็นไม่ได้แม้กระทั่งตัวแทน แต่อย่างน้อยๆคุณชายก็ยังเห็นนายอยู่ในสายตานะ ถึงจะไม่สำคัญเท่ากับอีกคนก็ตาม TT
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3952
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
ฮือออออออ น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ น้องซิน
แว่นน่าสงสารมากอ่ะ
คือ หลวงกับน้อย เด่นชัดมาก
อารมณ์นี้คือ อยากจับคุณชายมามัดไว้กับเตียงให้ดูแลแว่นตลอดคืน
แว่นน่าสงสารมากอ่ะ
คือ หลวงกับน้อย เด่นชัดมาก
อารมณ์นี้คือ อยากจับคุณชายมามัดไว้กับเตียงให้ดูแลแว่นตลอดคืน
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3840
Join date : 27/10/2014
Re: [Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
แทบจะกระอั่กเลือดตาม เสี่ยวฮัวน่าจะเข้าใจดีที่สุดเลยนี่นา
การให้ความสำคัญที่ไม่เท่าเทียมเนี่ย ฮึก
เสี่ยวเกอในชีวิตมีแต่หน้าที่ต้องแบกรับ นายน้อยไล่ตามแต่เสี่ยวเกอ เสี่ยวฮัวมองเห็นแต่นายน้อย เฮยเฮยแห้วสุดมอบหัวใจให้เสี่ยวฮัว
อ๊าก ช้ำใจอย่างแรง //พุ่งกอดรัดเฮยเฮย ชีวิตรักนายน่าเศร้ามาก ฮือ
การให้ความสำคัญที่ไม่เท่าเทียมเนี่ย ฮึก
เสี่ยวเกอในชีวิตมีแต่หน้าที่ต้องแบกรับ นายน้อยไล่ตามแต่เสี่ยวเกอ เสี่ยวฮัวมองเห็นแต่นายน้อย เฮยเฮยแห้วสุดมอบหัวใจให้เสี่ยวฮัว
อ๊าก ช้ำใจอย่างแรง //พุ่งกอดรัดเฮยเฮย ชีวิตรักนายน่าเศร้ามาก ฮือ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3860
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: [Drabble] #dmbjdaily (ฝืน) It's Alright [ฮัวเฮย]
ฟิคเสียน้ำตา แงงง แว่นนายมันนางเอกมาก
kuramajoy- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 206
Points : 3783
Join date : 27/10/2014
Similar topics
» [Drabble] 'สัมผัส' #dmbjdaily [ฮัวเฮย]
» [Drabble] #dmbjdaily (หมอน) ถวิล [ฮัวเฮย]
» [Drabble] 'สัมผัส' ...ดอกไม้... #dmbjdaily [ฮัวเฮย]
» [Drabble] #dmbjdaily (Chupa chups) untitle(NC-17) [ฮัวเฮย]
» [drabble] #dmbjdaily 251 days left Tear (น้ำตา) ฮัวเฮย
» [Drabble] #dmbjdaily (หมอน) ถวิล [ฮัวเฮย]
» [Drabble] 'สัมผัส' ...ดอกไม้... #dmbjdaily [ฮัวเฮย]
» [Drabble] #dmbjdaily (Chupa chups) untitle(NC-17) [ฮัวเฮย]
» [drabble] #dmbjdaily 251 days left Tear (น้ำตา) ฮัวเฮย
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth