Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

+4
tear
sinnerdarker
Naitear
Mill
8 posters

Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by Mill Fri 28 Nov 2014, 03:44

.

Daomu Biji fanfiction (盗墓笔记)
pairing: 花邪 , 瓶邪





            เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นมา สิ่งแรกที่มองเห็นคือวงกลมสีจางที่ซ้อนทับกันอย่างเลือนราง


            เขาปรับโฟกัสสายตาอยู่ครู่หนึ่ง จึงพบว่านั่นคือหลอดไฟที่แขวนอยู่บนเพดานสีขาว
            ดูเหมือนว่าภาพนี้จะเกิดจากการที่เขากำลังนอนหงาย แหงนหน้ามองเพดานห้อง

            สมองสั่งการให้ตัวเองลุก แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนองตาม
            เมื่อทดลองยกแขนขึ้น ก็พบว่าไม่สามารถทำได้เช่นกัน

            ขณะที่ประสาทสัมผัสอย่างอื่นล้มเหลว เขากลับพบว่าจมูกนั้นยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
            กลิ่นอันคุ้นเคยลอยอวลอยู่ในอากาศ เพียงแต่ชั่วขณะนั้นเขาไม่สามารถระบุได้ว่ามันเป็นกลิ่นของอะไร

            ที่หางตาด้านซ้ายมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น

            เมื่อพยายามออกแรงหันไปดู จึงพบว่าด้านซ้ายของเขานั้นมีโต๊ะเล็กๆ ตัวหนึ่งตั้งอยู่ บนโต๊ะนั้นมีที่เขี่ยบุหรี่ซึ่งมีก้นกรองปักอยู่ห้าหกอัน และยังมีซองบุหรี่เปล่าอีกซองหนึ่ง นี่คงจะเป็นที่มาของกลิ่นอันคุ้นเคยเมื่อครู่

            ต้นตอของความเคลื่อนไหวมาจากซองบุหรี่นั่นเอง ดูเหมือนว่ามันจะขยับเพราะแรงลม

            ลมงั้นหรือ เขาเบนสายตาไปไกลขึ้นอีก พบว่าหน้าต่างห้องบานที่อยู่ใกล้สุดเปิดอยู่ ท้องฟ้าภายนอกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีหม่น



            แว่วเสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เขาเงี่ยหูฟัง เสียงนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  ก่อนจะหยุดนิ่ง แล้วบานประตูก็เปิดออก


            "เสี่ยวฮัว ตื่นแล้วเหรอ"

            อู๋เสียเข้ามาในห้องพร้อมกับชามใบโตที่มีไอร้อนลอยขึ้นมาจางๆ ใบหน้าของชายหนุ่มมีเค้าของความอิดโรยอยู่

            "ฉันซื้อเกี๊ยวน้ำมาให้ กินสักหน่อยเถอะนะ"


            เขาไม่ได้ตอบอะไร อู๋เสียเหมือนรู้ว่าสภาพร่างกายเขาตอนนี้เป็นอย่างไรจึงเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ป้อนเกี๊ยวน้ำในชามให้ ความร้อนจากน้ำซุปไหลลงคอแล้วแผ่ซ่านไปทั่วทำให้ร่างกายอบอุ่น รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก


            “เกิดอะไรขึ้น ฉันนอนอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?”

            แม้จะเพียงเสี้ยววินาที แต่เขาทันเห็นว่ามือที่ถือช้อนอยู่นั้นสั่นไหวเล็กน้อย

            “คืนนึงน่ะ นายโหมงานหนักมากจนไข้ขึ้น ก็เลยหมดสติไป”
            “งั้นเหรอ…”


            เขานึกเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นไม่ออก เมื่อพยายามเค้นความทรงจำก็พบเพียงแต่ภาพอันเลือนรางของชิ้นส่วนบางอย่างที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ ดูเหมือนพิษไข้จะทำให้สมองของเขาเบลอไปหมด


            “นายดึงดันว่ายังไงก็จะไม่ยอมไปโรงพยาบาล ฉันเลยต้องแบกนายมานอนที่นี่”
            “ที่นี่?”
            “ห้องพักในเมืองน่ะ ไม่ไกลจากร้านฉันเท่าไร”


            ร้าน…. จริงสินะ ที่นี่คือเมืองหังโจว เมื่อสองวันก่อนเขาบินมาทำธุระเรื่องธุรกิจของตระกูล หลังจากนั้นจึงแวะมาเยี่ยมอู๋เสียด้วยเลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว  อันที่จริง พูดให้ถูกคืออย่างหลังนั่นเขาให้ความสำคัญกับมันมากกว่าธุระจริงๆ เสียอีก

            แต่สุดท้ายกลับมาล้มป่วยจนเจ้าบ้านต้องดูแลแบบนี้ นับว่าเกินความคาดหมายของคุณชายเก้าไปมาก


            “โทษที ทำให้นายต้องลำบากจนได้”  เขาถอนหายใจเบาๆ
            “ไม่หรอกน่า แค่นี้เอง ฉันก็ไม่ได้อยู่เฝ้าตลอดเสียหน่อยนี่”


            ปลายนิ้วของอู๋เสียเป็นรอยแดงจางๆ  ไม่รู้ว่าจากความร้อนของชามเกี๊ยวหรืออะไร เสื้อเชิ้ตสีขาวมีรอยยับยู่ กระจายไปกับรอยวงด่างดวงเป็นหย่อมๆ  สภาพไม่สู้ดีเท่าไรนัก เขามุ่นคิ้วมองอย่างสงสัย


            “ระหว่างทางฝนตกเหรอ?” อู๋เสียมองตามสายตาของเขา แล้วจึงจัดเสื้อของตัวเองแบบไม่ใส่ใจเท่าไร
            “อืม ลงเม็ดนิดหน่อยน่ะ แต่หยุดไปสักพักแล้วล่ะ”  


            กลุ่มเมฆสีเทาหม่นนอกหน้าต่างก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงันมาระยะหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่าเมฆฝนที่อู๋เสียเจอระหว่างทางเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่ ไอน้ำในอากาศลอยตัวสูงขึ้นจนรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ จมูกได้กลิ่นชื้นของบรรยากาศภายนอก เขาเหลือบมองกระถางต้นไม้ที่ตั้งอยู่มุมห้อง ใบของมันลู่ลงและเริ่มเป็นสีเหลืองจางๆ

            “ฝนกำลังจะตกอีกแล้ว ฉันแนะนำให้นายนอนพักอยู่ที่นี่ไปก่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้นค่อยกลับบ้านดีกว่านะ”

            เขาคิดถึงเรื่องที่ต้องกลับไปจัดการและกำหนดตารางงานต่างๆ แต่รู้ตัวอีกทีก็พยักหน้าไปเสียแล้ว


            หลังจากนอนพักอีกหนึ่งวันเต็มๆ ไข้ของเขาก็ลง

            การที่สามารถขยับตัวเดินเหินทำอะไรได้ด้วยตนเองนั้นให้ความรู้สึกที่ดีมาก ตอนเด็กๆ ยามที่ป่วยจนต้องนอนซมอยู่บนเตียงนั้น เขาเคยเผลอคิดว่าหากสุดท้ายร่างกายกลายเป็นอัมพาตไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไปจะทำอย่างไร

            ความคิดมืดมนเหล่านั้นดึงให้เขาจมดิ่งสู่ความเศร้าหมอง
            เมื่อสภาพจิตใจย่ำแย่ ร่างกายก็ทรุดโทรมไม่ฟื้นเสียที สุดท้ายได้ท่านอาจารย์เตือนสติจึงคิดได้

            โทรศัพท์มือถือกะพริบดังเป็นจังหวะ ดึงให้กลับสู่โลกปัจจุบัน
            เขามุ่นคิ้วเล็กน้อย เปิดข้อความดูจึงพบว่าเป็นเรื่องงาน
            เขาส่งข้อความสั่งงานลูกน้องจนเสร็จเรียบร้อย ความกังวลในใจจึงได้คลายลงบ้าง


            อู๋เสียชวนเขาทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา

            เล่นหมากรุกบ้าง ชวนคุยเรื่องเก่าๆ หรือเรื่องของที่บ้านบ้าง พาไปดูสินค้าที่ร้านเขาเก็บไว้บ้าง

            เขาถามอู๋เสียว่าไม่ต้องไปทำงานหรือ ก็ได้รับคำตอบมาว่าฝากร้านไว้กับหวังเหมิงเรียบร้อยแล้ว


            “ให้ฉันได้ทำอะไรเพื่อนายบ้างเถอะน่า”  อู๋เสียบอก
            “หืม มาแปลกนะวันนี้”  เขาถามยิ้มๆ 

 
            อู๋เสียหัวเราะหึหึก่อนจะบอกว่าไม่อยากเสียชื่อนายน้อยสาม เดี๋ยวจะหาว่าเถ้าแก่อู๋ดูแลแขกไม่ดี

            แปลก... มีอะไรสักอย่างผิดปกติแน่ๆ  เขาคิดขณะที่ลองทาบหลังมือลงบนหน้าผากอีกฝ่าย หมอนี่คงไม่ได้ติดไข้จากเขาจนเพี้ยนไปใช่ไหม แต่สิ่งที่สัมผัสได้ก็มีเพียงอุณหภูมิปกติของร่างกายมนุษย์ กับรอยยิ้มจางๆ ที่ได้รับกลับมา




            จานกระเบื้องเคลือบสีขาวดูสะอาดปราศจากร่องรอยที่บ่งบอกว่ามื้ออาหารได้จบลง บริกรสาวรินชาหลงจิ่งลงในแก้วที่พร่องอย่างไม่รอช้า ผ้าเช็ดปากสีขาวถูกพับอย่างประณีตหลังหมดหน้าที่ของมัน แม้จะไม่ได้เป็นลูกค้าเพียงโต๊ะเดียว แต่ภัตตาคารแห่งนี้ก็เงียบสงบกว่าที่เคยเป็นมา เป็นมื้อสุดท้ายก่อนจากลาที่ให้ความรู้สึกเงียบเหงาวังเวง

            สิ่งที่แทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงพูดคุยอย่างแผ่วเบาคือเสียงคร่ำครวญของท้องฟ้า มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นก้อนเมฆถูกแหวกเป็นรอยแยกด้วยลำแสงสีขาวแตกระแหง ดูราวกับก้อนหินสีดำที่ค่อยๆ ปริแตกออก เพราะเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกระมัง ฝนถึงได้ตกบ่อยขนาดนี้

            “นายอยู่ต่ออีกสักวันดีไหม พายุเข้าแบบนี้อันตราย อย่าเพิ่งกลับเลย”

            ใบหน้าของชายหนุ่มที่มีแสงวาบพาดผ่านชั่วขณะนั้นดูสงบนิ่ง ตัดกับเสียงดังสนั่นที่ตามมา
            เขาได้ยินเสียงผู้คนทุ่มเถียงทะเลาะกัน เสียงของก้นกรองบุหรี่ที่ถูกขยี้บนพื้น เสียงเก้าอี้ล้มคว่ำ เสียงช้อนส้อมข้าวของหล่นเกลื่อนกลาด เสียงสะอื้นร่ำไห้ เสียงเม็ดฝนโปรยปรายไม่หยุดหย่อน

            เขาเห็นตัวเองผุดลุกขึ้นยืน ทิ้งทุกสิ่งแล้วพุ่งเข้าไปหาคนตรงหน้า
            กระจกหน้าต่างแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษแก้วสะท้อนแสงแวววาวกระจัดกระจายร่วงหล่นลงบนแผ่นหลัง บ้างเชือดเฉือน บ้างทิ่มแทง เสียงหวีดร้องดังแผดแหลม กรีดผ่านมวลอากาศที่อวลคลุ้งไปด้วยไอฝุ่นจากการระเบิด แก้วหูลั่นสะเทือนจากเสียงที่ดังเกินระดับ แสงสีขาวแผดจ้าจนดวงตาพร่าพราย


            ภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสีดำ
            จากนั้นทุกอย่างก็สงัดเงียบ



            ใบหน้าของชายหนุ่มที่มีแสงวาบพาดผ่านชั่วขณะนั้นดูสงบนิ่ง ตัดกับเสียงดังสนั่นที่ตามมา
            เขาได้ยินเสียงผู้คนทุ่มเถียงทะเลาะกัน เสียงของก้นกรองบุหรี่ที่ถูกขยี้บนพื้น เสียงเก้าอี้ล้มคว่ำ เสียงช้อนส้อมข้าวของหล่นเกลื่อนกลาด เสียงสะอื้นร่ำไห้ เสียงเม็ดฝนโปรยปรายไม่หยุดหย่อน

            เขาเห็นตัวเองค่อยๆ ผุดลุกขึ้นยืน
            รอบกายเต็มไปด้วยเศษกระจกแก้วหลากสีลอยหมุนวนอยู่กลางอากาศอย่างเชื่องช้า
            อะไรบางอย่างแตกกระจายลงบนพื้น เมื่อก้มมองก็พบซากชามเกี๊ยวน้ำที่แหลกละเอียด
            สัมผัสเหนียวหนืดชวนขนลุกคืบคลานจากหน้าผากลงมายังกลางแก้ม เขายกมือขึ้นแตะดู จึงพบว่าเป็นของเหลวสีแดงข้น 
            ร่างที่อยู่ตรงหน้าเต็มไปด้วยรอยด่างดวงเป็นวงค่อยๆ แผ่กระจายออกไป หยดน้ำกลมกลิ้งร่วงหล่นจากดวงตา


            ภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสีดำ
            จากนั้นทุกอย่างก็สงัดเงียบ



            ใบหน้าของชายหนุ่มที่มีแสงวาบพาดผ่านชั่วขณะนั้นดูสงบนิ่ง ตัดกับเสียงดังสนั่นที่ตามมา 
            เขาได้ยินเสียงผู้คนทุ่มเถียงทะเลาะกัน เสียงของก้นกรองบุหรี่ที่ถูกขยี้บนพื้น เสียงเก้าอี้ล้มคว่ำ เสียงช้อนส้อมข้าวของหล่นเกลื่อนกลาด เสียงสะอื้นร่ำไห้ เสียงเม็ดฝนโปรยปรายไม่หยุดหย่อน

            เขาสั่งให้ตัวเองลุกขึ้นยืน แต่ร่างกายถูกตรึงนิ่งสนิทอยู่กับที่
            ยิ่งดื้อดึงพยายามฝืนเท่าไรก็เหมือนถูกถ่วงด้วยน้ำหนักของเหล็กกล้า แม้แต่นิ้วก็ไม่สามารถกระดิกได้ กลายเป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์ คนที่อยู่ตรงหน้าส่งยิ้มเย็นเยียบให้เขา
            ลำแสงสีขาวพาดผ่านหน้าต่างแตกเป็นรอยร้าว ฉีกกระชากภาพที่อยู่ตรงหน้าออกเป็นริ้วหมองหม่น
            เขาร่วงหล่นลงไป ร่วงหล่นลงไป ร่วงหล่นลงไป อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
            ถูกความมืดมิดกลืนกินจนหมดสิ้น


            ภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสีดำ
            จากนั้นทุกอย่างก็สงัดเงียบ




            นิ้วมือทั้งสิบรับรู้สัมผัสของผ้าปูโต๊ะเนื้อเนียนละเอียด
            เขายังคงนั่งอยู่กับที่ ถ้วยชากระเบื้องเคลือบวางอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายที่แตะมัน
            เช่นเดียวกับจาน ชาม ช้อน ตะเกียบ และกระจกหน้าต่าง
            บริกรสาวเดินเฉียดแขนซ้าย ค้อมตัวเติมชาให้เป็นรอบที่สาม เมื่อระดับน้ำปริ่มขอบถ้วยก็จากไป
            เขาสัมผัสได้ถึงของเหลวที่ไหลลงจากหน้าผาก แต่เมื่อยกมือขึ้นแตะกลับเป็นเพียงหยาดเหงื่อเท่านั้น

            อู๋เสียมองตรงมาที่เขาด้วยสายตาคาดหวังถึงคำตอบที่ยังไม่ได้รับ สองมือประสานกันอย่างมั่นคง

            ความเงียบของเขา คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด


            “หรือว่า...นายจำได้แล้วสินะ*


            ภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสีขาว
            จากนั้นทุกอย่างก็สงัดเงียบ







tbc.
Mill
Mill
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 190
Points : 3701
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by Naitear Fri 28 Nov 2014, 09:11

บรรยากาศเนื้อเรื่องดูลึกลับน่าติดตามมากเลยค่ะ เสี่ยวฮัวต้องเจออะไรซักอย่างมาสินะถึงได้ความจำเสื่อม (เหมือนเรื่องนี้จะมีคนความจำเสื่อมเยอะจัง ฟฟฟฟ #โดนมิลซังตี) เป็นเหตุการณ์ในร้านอาหารสินะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงได้เป็นแบบนั้นกันนะ เหมือนความทรงจำเสี่ยวฮัวสับสนไปหมดเลย

หรือว่าการที่อู๋เสียอยากจะทำอะไรให้เสี่ยวฮัวในตอนแรกมันเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ในร้านอาหารกันคะ ฟฟฟ #เดากันต่อไป จะว่าไปไม่เห็นนายเมินเลยค่ะ เอ๊ะ หรือโผล่ออกมาแล้ว โอยค้างค่ะะ ถถถถถถถ

ชอบคำบรรยายมากค่ะ อ่านแล้วเข้าใจอารมณ์ของเสี่ยวฮัวได้หมดเลย งุนงง สงสัย สับสน หวาดกลัว สื่อออกมาทางตัวอักษรได้หมดจดจริงๆค่ะ

ตัดจบได้ค้างมากมิลซังงง มาต่อนะคะ ฮือ T v T) #กอดขา
Naitear
Naitear
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 232
Points : 3779
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Fri 28 Nov 2014, 13:31


อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงดราม่าอึมครึมตั้งแต่ต้นเรื่อง คิดอยู่ว่าต้องเกิดอะไรขึ้นนายน้อยถึงดูสงบใจดีผิดปกติ แสดงว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแล้วเสี่ยวฮัวลืมไป แต่นายน้อยก็พยายามจะทำให้เสี่ยวฮัวจดจำได้หรือคะ เพราะอะรกัน

คืออ่านช่วงที่วนลูปแล้วขวัญผวา+ชอบ ชอบกลค่ะฮืออ เข้าใจแล้วว่าที่คุณมิลบอกว่าแต่งๆ แก้ๆ มีหมายถึงอัลไล o]=[ จะสื่อของแบบนี้ให้ออกมาชัดเจนนี่ลไบากจริงๆค่ะ

บรรยากาศการบรรยายอึมครึมากค่ะ ชอบ รู้สึกถึงความเย็นเยียบของสายฝนคลุมอยู่ตลอดเรื่องเลย
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4077
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by tear Fri 28 Nov 2014, 20:24

แหวกแนวและน่าสนใจมากเลยค่ะะะะ

ว่าแต่คุณชายเป็นอะไรรรรรรร ทำไมเหมือนจะเกิดเรื่องร้ายกับคุณชายยยยย แง้

ได้กลิ่นดราม่าตุๆ รึเปล่าหนา ;w;
tear
tear
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 168
Points : 3682
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : ใต้เตียงคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by uglygirl Fri 28 Nov 2014, 22:30

เกิดอะไรขึ้น?
เสี่ยวฮัวเป็นอะไร?
แล้วที่อู๋เสียพูดคืออะไรอ่ะ
จำอะไรได้ โฮฮฮฮ รู้สึกอึดอัด

uglygirl
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 43
Points : 3537
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by karnalone Sat 29 Nov 2014, 03:00

ลงชื่อติดตามต่อค่ะ

อะไร? เสี่ยวฮัวทวนความจำแต่จำไม่ได้หรือ? เกิดอะไรขึ้น?
ตอนท้ายของเหตุการณ์นั่นเป็นยังไง?

อ่า..มีแต่ปริศนา รีบมาต่อนะคะ

karnalone
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 115
Points : 3620
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by leralalita Sun 30 Nov 2014, 20:41

ฟหกาวฟหก บรรยากาศของเรื่องนี้ดูหม่นๆมากเลยค่ะ มันหนักๆ อย่างพวกกลุ่มก้อนเมฆสีเทา กลิ่นที่คุ้นเคย(ซึ่งเป็นกลิ่นบุหรี่..ของนายน้อยที่นายคุ้นเคย...น่ารัก) ความรู้สึกชื้นจากน้ำฝน ดูเหมือนเรื่อยๆแต่ค่อยๆอ่านแล้วมันกลับหนึบๆ

ไม่รู้สิคะ รอยยิ้มจางๆของนายน้อยนั่นทำให้เจ็บแปลกๆ ;; แล้วที่เสี่ยวฮัวยื่นมือไปวัดไข้ให้อู๋เสียนี่มันยิ่งเจ็บค่ะ TT คือมันดูผิดปกติสินะกับการที่ได้รับความใส่ใจจากนายน้อยแบบนี้ แงงงง แต่ว่านายยังเห็นคนๆนี้สำคัญมากๆเลยล่ะ การมาเยี่ยมอู๋เสียถูกจัดให้สำคัญยิ่งกว่าธุระ การสังเกตอู๋เสียก็เหมือนกัน มองสีหน้า ท่าทาง รอยแดงที่มือ โฮฮ ทำไมอ่อนโยนได้ขนาดนี้กันนะ TT

งือ..อ่านแล้วค่อนข้างสงสัยค่ะ มันเกิดอะไรขึ้นแงงง เหมือนเข้าไปอยู่ในลูปอะไรสักอย่าง ที่วนเวียนซ้ำๆอยู่อย่างนั้น พอจะทำให้เข้าใจเลยว่ามันอึดอัด สับสน แล้วก็ไมเข้าใจ ;;; /โบกป้ายไฟให้กำลังใจอยู่ห่างอย่างห่วงๆ

เป็นกำลังใจให้นะค้าแงงฟฟฟฟ รออ่านต่อน้า ขอบคุณสำหรับฟิคมากๆเลยค่ะ T////T
leralalita
leralalita
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 34
Points : 3527
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ฮัวเสีย - [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?] Empty Re: [SF] - Pieces - 01 [ฮัวเสีย?]

ตั้งหัวข้อ by galu Wed 03 Dec 2014, 09:53

เหมาะกับ ชื่อ' pieces' ดีอ้าา ตอนนี้ยังจับจุดได้ที่ละเล็กละน้อย
เหมือนกำลังต่อพัซเซิลในหัวของเสี่ยวฮัว
สกรีมมให้แด่ฟิคยาวของเธออ ความหนักหน่วงของดราม่าานี้
ฮ่าาชอบๆ สู้ๆนะจะตามอ่านนนน
ปล1.ดองฟิคอยากอ่านไว้เยอะแยะเลย TvT*กรีดร้อง
ปล2.เป็นพวกเม้นแต่อะไรไร้สาระและสกรีมใส่อย่างเสียสติ(ต้องตอกสายรั้งตัวเองไว้ก่อน)
galu
galu
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 46
Points : 3541
Join date : 31/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ