Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2

3 posters

Go down

日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2 Empty 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2

ตั้งหัวข้อ by winterautumnsummerrain Fri 07 Nov 2014, 11:30


ข้าตั้งใจจะเดินขึ้นสำนักเพื่อขออนุญาตท่านอาจารย์พ่านจื่อออกท่องเที่ยวยุทธภพ สำนักหัวซานเรามีการส่งบรรดาศิษย์ทั้งหลายออกท่องยุทธภพไปกับกองงานของสำนักที่เดินทางส่งจดหมาย หีบห่อสำคัญๆหรือเสบียงไปที่สำนักสาขาตามหัวเมืองต่างๆทั่วแผ่นดินอยู่แล้ว และปีนี้ข้าอายุ 17 ปีแล้ว หากจะขอออกท่องยุทธภพในตอนนี้คงไม่มีปัญหาใดๆ หากแต่ใจข้าเองเล่า เมื่อนึกถึงการที่ต้องห่างจากศิษย์พี่ไปเป็นเวลานาน ข้าจะทนได้หรือ
แต่บางที การคิดถึง อาจยังดีกว่าทนเจ็บปวดเมื่อเห็นศิษย์พี่กับหนิงเอ๋อสนิทสนมกันทุกวันก็ได้กระมัง

ยังไม่ทันที่ข้าจะเดินเข้าไปในสำนักก็มีก้อนหินโยนใส่ข้าเบาๆ “เฮ่ เทียนเจิน” เสียงคนกระซิบกระซาบเรียกข้าดังมาจากกองไม้ข้างประตูสำนัก
ข้าหันกลับไปมองเห็นเจ้าอ้วนร้องเรียกข้า มือข้างหนึ่งป้องปาก อีกข้างกวักมือเรียกข้าให้เข้าไปหา

“มีอะไรรึ” ข้าประหลาดใจยิ่งนัก ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าอ้วนต้องทำท่าลับๆล่อๆเช่นนี้

“นี่เจ้าหายไปไหนมา ข้าตามหาให้ทั่ว” เจ้าอ้วนมีสีหน้ากระวนกระวายจนข้าเริ่มใจไม่ดี

“ข้าก็ไปเก็บฟืนตามหน้าที่ มีอะไรรึ”

“เจ้านี่น่าสงสัยจริง ชอบหายตัวไปคนเดียวบ่อยๆ จนคนอื่นสงสัยกันหมด ยังดีที่ศิษย์พี่จางออกตัวแทนเจ้าว่าเจ้าอ่อนแอ ทำงานช้า หากศิษย์พี่ไม่ออกหน้าพูดกับท่านอาจารย์พานจื่อหรือศิษย์คนอื่นๆให้ มีหวังเจ้าก้นลายแน่”

“ศิษย์พี่พูดแก้ตัวให้ข้ารึ” ข้าถาม หัวใจปรีดาราวกับจะกระโดดออกมา

เจ้าอ้วนเหล่ตามองข้า ก่อนจะพูดว่า “ใช่สิ ถ้าศิษย์พี่ไม่แก้ตัวให้เจ้าๆคิดรึว่าศิษย์ปลายแถวอย่างเราจะออกข้างนอกได้เป็นเวลานานๆ ถามจริง เจ้าออกไปทำงานหรือว่าแอบไปหาใครกันแน่”

ข้าสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะตอบว่า “ข้าจะแอบไปหาใครได้ แถวนี้จะกล้ามีใครมาป้วนเปี้ยนอีกรึ”

“ก็แล้วไป ข้ากลัวเจ้าจะแอบไปหาแม่หญิงที่ไหนโดยไม่บอกข้า ไม่งั้นข้าคงน้อยใจตาย อย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้ารู้จักแม่หญิงที่ไหนแล้วไม่บอกข้าละกัน” เจ้าอ้วนยื่นหน้าเข้ามาข่มขู่ข้า แต่ข้ารู้ว่ามันเพียงหมายหยอกข้าเล่นเท่านั้น

เจ้าอ้วนเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของข้าในสำนัก เพียงเพราะข้าเป็นคนหัวช้า ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น ข้าถูกรังแกมาตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ไม่กล้าใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ใด นั่นเป็นเพราะตระกูลอู๋ของข้าเป็นพ่อค้า ซึ่งเป็นวรรณะที่หลายคนเดียดฉันท์ แม้ว่าเราจะมั่งคั่งร่ำรวยไม่จำเป็นต้องส่งลูกหลานมาฝึกฝีมือให้ลำบาก หากแต่ท่านพ่อและท่านอาทั้งสองของข้าถูกท่านปู่สั่งเสียให้ส่งข้ามาเรียนที่สำนักหัวซานตั้งแต่เยาว์วัย เนื่องจากท่านปู่นับถือเล่งหูชง ซึ่งเป็นเจ้าสำนักรุ่นก่อนอย่างมาก ดังนั้นข้าถูกส่งมาที่หัวซานตั้งแต่อายุได้ 10 ปี ส่วนศิษย์คนอื่นๆส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จึงตั้งข้อรังเกียจข้า หาทางกลั่นแกล้งข้าสารพัด นับตั้งแต่ปาโคลนใส่ โยนงูใส่ โชคยังดีที่เจ้าอ้วนเป็นเพียงคนเดียวที่ยังพูดคุยกับข้า และคอยปกป้องข้ายามโดนคนอื่นรังแก ด้วยความที่เจ้าอ้วนตัวสูงใหญ่ พละกำลังมากจึงไม่ค่อยมีใครกล้าตอแยข้าต่อหน้ามัน ยังมีศิษย์พี่อีกคนที่ให้ความเอ็นดูข้าเป็นพิเศษ ศิษย์พี่เป็นคนเก่งมาตั้งแต่เยาว์วัย ดังนั้นท่านจะตอบโต้เด็กที่รังแกข้าให้ อีกทั้งยังแอบเอาขนมมาให้ข้าตอนกลางคืนเสมอๆ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมศิษย์พี่จึงเอ็นดูข้าเป็นพิเศษ หากแต่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกิน

แต่ความโชคดีของข้าก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อศิษย์พี่เติบใหญ่ขึ้น ท่านก็เป็นศิษย์เอกของสำนัก พร้อมๆกับที่หนิงเอ๋อเติบโตขึ้นเป็นสาวงาม ทั้งอาจารย์และศิษย์ทั้งหลายเริ่มกล่าวขวัญว่า ทั้งคู่เหมาะสมกันยิ่ง ทำให้คาดหมายว่าทั้งคู่คงจะมีพิธีมงคลอย่างแน่นอน

ในระหว่างที่เจ้าอ้วนสอบสวนข้าอยู่นั้นเอง มีเสียงกลุ่มคนดังเอะอะออกมาจากภายในสำนัก ข้าเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“อ๋อ นี่เจ้าคงยังไม่รู้ ในสำนักเกิดเรื่องใหญ่แล้ว” เจ้าอ้วนรีบบอก

“มีเรื่องอะไรรึ”

“วันนี้พรรคตะวันจันทราของเฉินผีอาซื่อส่งลูกศิษย์มาส่งเทียบท้าประลองห้าสำนักใหญ่วันที่ 12 เดือน12 มันว่าหากพวกมันชนะการประลองครั้งนี้จะต้องให้มันเป็นเจ้ายุทธจักร ทั้งท่านอาจารย์และศิษย์ทั้งหลายต่างโมโหโกรธาเป็นอย่างยิ่ง ไปเถอะ รีบไป ศิษย์ทุกคนล้วนมาชุมนุมอยู่ หากเจ้าหายไปคงยิ่งทำให้ท่านอาจารย์พานจื่อโมโหยิ่งขึ้นกว่าเดิม”

“งั้นไปกัน” ข้ากับเจ้าอ้วนรีบเดินไปที่ลานหินของสำนัก

ที่ลานหินนั้นเอง ข้าเห็นกลุ่มคนของพรรคตะวันจันทรายืนอยู่ ท่ามกลางหมู่คนเหล่านั้นมีคนๆหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงกลาง สวมใส่ชุดดำปิดหน้าพรางตา ข้าเห็นท่านอาจารย์พานจื่อและศิษย์พี่จางเทียนชิง หนิงเอ๋อ ยืนประจันหน้ากับพรรคตะวันจันทรา และศิษย์ทั้งหลายต่างล้อมพวกมันไว้ ข้ากับเจ้าอ้วนแอบเดินเข้าไปข้างนอกวงล้อมของศิษย์หัวซานเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต ทันได้ยินท่านอาจารย์พานจื่อกล่าวพอดี
“ข้าไม่นึกว่า หลังจากที่เราห้าสำนักและปรมาจารย์เล่งหูชงปราบตงฟางปุ๊ป้ายที่ผาไม้ดำวันนั้น จะยังมีเชื้อสายมารอย่างพวกเจ้าหลงเหลืออยู่อีก พวกเจ้าไม่รักตัวกลัวตายว่าจะตายล้างสำนักอย่างตงฟางปุ๊ป้ายรึ”

ชายในชุดดำกล่าวตอบว่า “พวกเจ้าฝ่ายธรรมะก็ใช่ว่าจะดีเหมือนชื่อ หลังจากเจ้าสำนักตงฟางเสียชีวิต สำนักธรรมก็แก่งแย่งชิงดีฆ่าฟันกันตายไปไม่ใช่น้อย ถึงแม้พวกเราพรรคมารจะถูกล้างสำนัก หากแต่เราก็ใช่ไร้คนมีฝีมือ ข้ามาในวันนี้ มาในฐานะตัวแทนของท่านพ่อ ประมุขพรรคตะวันจันทรา มาส่งเทียบเชิญ เราขอมาทวงแค้นฆ่าล้างสำนักในครั้งนั้น”

“เจ้าอย่าคิดว่าสำนักหัวซาน พรรคมารใคร่จะมาก็มา ใคร่จะไปก็ไป เจ้าเห็นพวกเราเป็นอะไร” ศิษย์พี่จางเดินออกมา ข้าเห็นกระบี่ในมือท่านกระชับมั่น ในใจข้ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ข้าเชื่อถือฝีมือศิษย์พี่ หากแต่ไม่มีใครรู้ว่าพรรคมารจะเล่นไม่ซื่อหรือไม่

“จางเทียนชิง เจ้าถือว่าเป็นผู้กล้ายุคใหม่ 1 ใน 3 กระบี่แห่งยุทธภพ ข้าเลื่อมใสมานาน วันนี้ข้าขอติดตามท่านประมุขน้อยมาเปิดหูเปิดตาเพื่อจะได้ชมฝีมือของเจ้า หวังว่าวันนี้เจ้าคงไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” ชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาท่าทางกรุ้มกริ่มถือพัดสีขาวขนาดใหญ่เดินออกมาพูดโต้ตอบกับศิษย์พี่ ก่อนจะหันไปพูดกับคนชุดดำที่ปิดหน้าตานั้น “ท่านประมุขน้อย ข้าขออนุญาต”
เมื่อชายชุดดำพยักหน้า ชายที่ถือพัดก็ตะโกนออกมาทันที “จางเทียนชิง รับมือ!”

ทันทีที่ชายถือพัดตะโกนออกมา รอบข้างก็กำเนิดลมพัดปลิวจนฝุ่นปลิวไปทั่ว ที่ปลายพัดนั้นมีคมมีดผุดขึ้นก่อให้เกิดเสียงแกร๊ง! ศิษย์พี่จางเทียนชิงหาได้รักตัวกลัวตายไม่ ท่านตั้งท่ารับ วาดท่าทางของวิชากระบี่ปราบมารออกมาทันที แม้ศิษย์พี่จะยังไม่สำเร็จเคล็ดวิชาสูงสุด แต่หาได้อ่อนด้อยกว่าใครในยุทธจักรขณะนี้ไม่

ชายถือพัดจู่โจมศิษย์พี่อย่างเหี้ยมโหด ผ่านไปสิบกระบวนท่าก็ไม่มีใครได้เปรียบใคร ศิษย์หัวซานต่างกระวนกระวาย แม้แต่ท่านอาจารย์พ่านจื่อก็ยังตกใจ ไม่คาดคิดว่าคนของสำนักมารจะมีฝีมือสูงส่งขนาดนี้ ในกระบวนท่าที่สิบสองนั้นเอง หนิงเอ๋อด้วยความที่เป็นห่วงศิษย์พี่ จึงปราดเข้าไปใช้กระบี่ต่อกรกับชายถือพัด แต่ในขณะที่หนิงเอ๋อกำลังจะเข้าไปนั้นเอง ท่านอาจารย์พ่านจื่อก็ผลักหนิงเอ๋อออก แล้วกระโดดเข้าไปต่อสู้กับชายถือพัดแทน

“นี่รึฝ่ายธรรมะ ใช้คนมากต่อสู้กับคนน้อย พวกเจ้าต่างอันใดกับพรรคมาร” ชายถือพัดหัวเราะเสียงดัง
ทันทีที่ชายถือพัดกล่าวจบ ชายชุดดำก็ซัดเข็มออกไปที่ท่านอาจารย์พ่านจื่อ กระบวนท่าซัดเข็มนั้นดุร้ายและเหี้ยมโหดนัก และเป็นกระบวนท่าที่ข้ารู้จักดี เนื่องจากท่านอาจารย์ตงฟางเป็นคนสอนข้าเอง

“ท่านอาจารย์ ระวัง!” ศิษย์พี่จางเทียนชิงร้องตะโกนดังขึ้น เมื่อเห็นเข็มซัดมุ่งตรงเข้าหาอาจารย์พ่านจื่อ ศิษย์พี่จึงพุ่งเข้าไปรับเข็มซัดนั้นแทนอาจารย์เสียเอง

ทันใดนั้น เมื่อข้าเห็นศิษย์พี่กำลังโดนเข็มซัด ข้าลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างที่ท่านอาจารย์ตงฟางได้กำชับไว้ว่าห้ามเปิดเผยวิทยายุทธ์ให้ใครรู้โดยเด็ดขาด ยกเว้นยามมีภัยถึงชีวิต โดยเฉพาะกับสำนักหัวซาน อย่าให้ใครรู้ว่าข้าฝึกเพลงยุทธ์ของพรรคมารมิเช่นนั้นภัยจะตกถึงตัวข้าเอง
หากแต่ตอนนี้ ข้าไม่อาจนิ่งเฉยได้ โดยไม่ทันรู้ตัวข้าซัดเข็มที่ท่านอาจารย์ตงฟางให้ข้าออกไป เสียงเข็มสองเล่มดังกระทบกันดัง ติ๊ง!

ชายชุดดำหันมาทางข้าด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะตวาดถามว่า “เจ้าเป็นใคร!”
สิ้นคำถามชายชุดดำปราดเข้ามาหาข้า ใช้ฝ่ามือออกมาหมายจะทำร้ายข้า ข้าได้แต่ปัดป่ายไป ไม่หาญกล้าใช้กระบวนท่าใดๆอีกต่อไป เนื่องจากกลัวว่าทุกคนจะรู้ว่าข้าฝึกฝีมือสำนักมาร

“อู๋เสีย!” ศิษย์พี่ร้องเรียกข้า คงเพราะท่านกลัวว่าข้าจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ แต่ศิษย์พี่คงไม่รู้ว่า ข้ารู้จักกระบวนท่าที่ชายชุดดำนี้ใช้ดี เพราะเป็นกระบวนท่าที่ท่านอาจารย์ตงฟางสอนข้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้ว่าข้าจะไม่ได้ตอบโต้อะไรไป หากแต่ชายชุดดำก็ไม่อาจทำร้ายข้าได้

“ข้านึกว่าศิษย์หัวซานจะมีแต่สายกระบี่หลงเหลืออยู่ ไม่คาดว่ายังมีสายพลังปราณอยู่ด้วย.........บอกมานะทำไมเจ้าใช้ลมปราณของพรรคมาร” ชายชุดดำถามข้าตอนที่ข้ากำลังปัดฝ่ามือมหาเวทย์ดูดดาว

“เจ้าพูดอะไร ข้าไม่รู้เรื่อง”

“ดี! เจ้าต้องมีคำตอบให้ข้าไม่ช้าก็เร็ว!” ชายชุดดำหยุดมือ ก่อนจะกระโดดขึ้นบนเกี้ยวของพรรคตะวันจันทรา “เฮยเสียจื่อ หยุดมือ กลับสำนัก”
ทันใดนั้น ชายถือพัดที่ต่อสู้กับศิษย์พี่อยู่ก็หยุดมือ คมมีดที่โผล่ขึ้นมาจากพัดก็หลุบลงไปในพัดอย่างรวดเร็ว ชายถือพัดกระโดดไปยืนอยู่ข้างเกี้ยวของประมุขน้อยพรรคตะวันจันทรา

“วันนี้ข้าขอลาไปก่อน ยังดีที่ท่านพ่อข้าให้ข้าลงมือแต่เพียงเบาๆ เพื่อเป็นการทักทาย ไม่เช่นนั้นอาศัยฝีมืออย่างพวกเจ้าคงไม่รอดแม้สักคน”
ข้ารู้สึกได้ว่าสายตาของชายชุดดำจ้องมองมาที่ข้า ข้าหลบสายตานั้น ด้วยความกลัวว่ามันจะเอ่ยถึงวรยุทธ์ของข้า หากแต่มันได้แต่มอง ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

“ไป!” สิ้นเสียงชายชุดดำนั้น เกี้ยวและขบวนของพรรคตะวันจันทราก็ลอยขึ้นไปด้วยวรยุทธ์อันสูงส่ง

เมื่อขบวนของพรรคตะวันจันทราลับตาไป ศิษย์พี่วิ่งมาหาข้าด้วยสีหน้าเป็นห่วงยิ่ง “อู๋เสีย เจ้าบาดเจ็บหรือไม่”

ข้าได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะถามศิษย์พี่เช่นเดียวกัน “ศิษย์พี่ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

“ข้าสบายดี แต่ข้าเป็นห่วงเจ้ามากกว่า ขอบใจมากที่อุตส่าห์ออกมาช่วยข้า แต่คราวหลังไม่ต้อง เพราะวรยุทธ์เจ้ายังด้อย จะเป็นอันตรายเสียเปล่าๆ เจ้าทำข้าตกใจเสียแทบตาย”
ประโยคสุดท้ายของศิษย์พี่ทำหัวใจข้าพองโตนัก ข้าเงยหน้ามองหน้าศิษย์พี่เพื่อจะดูว่าท่านมีสีหน้าอย่างไรยามที่พูดประโยคนี้ หากแต่ยังไม่ทันที่จะมองให้เต็มตา หนิงเอ๋อก็วิ่งมาหาศิษย์พี่ ร้องถามไถ่ด้วยความห่วงใย

“ศิษย์พี่จาง ท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่”

ศิษย์พี่หันไปหาหนิงเอ๋อ ก่อนจะตอบนางว่า “ข้าไม่เป็นไร ต้องขอบใจอู๋เสียที่ช่วยข้า”

“อู๋เสีย แล้วเจ้าล่ะ บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ มาสิ มาให้ข้าทำแผลให้” หนิงเอ๋อกล่าวกับข้า สายตานางก็เป็นห่วงข้าเช่นกัน

“ข้าสบายดีหนิงเอ๋อ แล้วท่านอาจารย์พ่านจื่อเล่าบาดเจ็บหรือไม่”

“ท่านพ่อสบายดี ไม่บาดเจ็บอะไร.......ไปเถอะศิษย์พี่ ไปหาท่านพ่อกัน ท่านถามหาศิษย์พี่อยู่” หนิงเอ๋อพูดกับศิษย์พี่

“ได้ อู๋เสีย..........ไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง คืนนี้ข้าว่างจะไปคุยกับเจ้า” ศิษย์พี่ยิ้มให้ข้า ก่อนจะเดินไปกับหนิงเอ๋อ
ไม่รู้ว่า ข้ามองภาพนี้มากี่ครั้ง ภาพที่ศิษย์พี่เดินเคียงคู่ไปกับหนิงเอ๋อ ในอกข้ารู้สึกถึงรสชาติบางอย่างอันเป็นรสชาติที่ไม่อาจบรรยายได้

“เทียนเจิน เจ้าทำบ้าอะไร ข้าตกใจแทบตาย อยู่ดีไม่ว่าดีดันออกไปประมือกับพรรคมารได้” เจ้าอ้วนเข้ามาตบไหล่ข้า น้ำเสียงเจ้าอ้วนไม่ร่าเริงเหมือนปกติ สายตาเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวข้า

ข้าหลบสายตาเจ้าอ้วน “ในฐานะศิษย์หัวซาน ข้าทนให้มันทำร้ายท่านอาจารย์หรือศิษย์พี่ไม่ได้”

“จะทำอะไรก็อย่าให้ตัวเองลำบากนัก เจ้าน่ะพอเป็นเรื่องของศิษย์พี่ไม่เคยจะมีสติสตังอะไรกับใครเขา” เป็นครั้งแรกที่เจ้าอ้วนพูดเรื่องนี้กับข้า ในอกข้ารู้สึกมีก้อนขมๆ มันจุกในใจ

“ก็ศิษย์พี่ดีกับข้า จะให้ข้าอยู่เฉยได้อย่างไร”

“เจ้านี่มันไร้เดียงสาสมชื่อจริงๆ เทียนเจินอู๋เสียเอ๊ยเทียนเจินอู๋เสีย ศิษย์พี่น่ะ.....”

“ศิษย์พี่ทำไม”

“เปล๊า..........” เจ้าอ้วนไม่พูดต่อให้จบ ก็เสเดินออกห่างไป “นี่ คืนนี้พวกข้าจะย่างไก่แอบกินเหล้าที่เจ้าหวังเหมิงเก็บเอาไว้ เจ้าจะมากินกับพวกข้าไหม”

“คงไม่ได้ ศิษย์พี่บอกว่าอาจจะมาคุยกับข้าคืนนี้” ข้าพูดเสียงเบาโดยไม่รู้ตัว ราวกับรู้สึกผิดต่อเจ้าอ้วน

เจ้าอ้วนถอนใจ “เอาเถอะ สำหรับเจ้าศิษย์พี่มาก่อนสิ่งใดเสมอ แต่ข้าอยากบอกเจ้า ในฐานะเพื่อนคนเดียวของเจ้านะอู๋เสีย”

“ว่ากระไร”

“ใจคนน่ะยากแท้หยั่งถึง” เจ้าอ้วนบอกข้า ก่อนจะหันหลังเดินไป

ข้าไม่รู้ว่าเจ้าอ้วนรู้อะไรมา ข้ารู้ดีว่าที่ผ่านมา ข้าไม่เคยระแวงสงสัยใคร เมื่อคบใครข้าให้ใจไปทั้งหมด ไม่เคยเหลือไว้สำหรับความเสียใจและผิดหวัง แม้จะรู้ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ สักวันข้าคงเดินซ้ำรอยท่านอาจารย์ตงฟาง

แต่มนุษย์ ใช้ชีวิตดั่งมีฝุ่นเข้าตา ในบางครั้ง แม้เห็นหุบเหวอยู่ข้างหน้า ก็ใช่ว่าจะเดินเลี่ยงไป
โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องความรัก แม้จิตสำนึกจะบอกว่าไม่ แต่ร่างกายก็ทำไปตามความรู้สึกอยู่ดี

“จำไว้นะอู๋เสีย จงอยู่กับสิ่งที่เจ้ามี อย่าคิดถึงสิ่งที่เจ้าขาด” แม้ท่านอาจารย์ตงฟางจะบอกสอนเตือนข้าไม่ให้ทำผิดอย่างท่าน แต่ข้าก็ยังไม่รู้จะบอกใจตัวเองอย่างไรดี แต่เมื่อหวนคิดถึงภาพที่ศิษย์พี่เดินคู่กับหนิงเอ๋อ บางทีคืนนี้ หากศิษย์พี่มาคุยกับข้าจริง อาจเป็นโอกาสอันดีที่จะบอกล่าท่าน
จบตอน

winterautumnsummerrain
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 6
Points : 3488
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2 Empty Re: 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2

ตั้งหัวข้อ by pim-lovedmbj Fri 07 Nov 2014, 15:28

เลิศค่ะ อ่านไปนึกถึงก้อนึกถึงนายน้อยใส่ชุดเซเลอร์มูนสีม่วงไปด้วย

pim-lovedmbj
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 7
Points : 3471
Join date : 06/11/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2 Empty Re: 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 2

ตั้งหัวข้อ by leralalita Fri 07 Nov 2014, 21:24

ย้าาตอนสองง ;////;

ฮือเจ้าอ้วน 555555555555 นึกว่ามีอะไร ที่แท้กลัวว่าจะแอบไปหาหญิง นายนี่มัน55555555 แงง แล้วก็ดีใจแทนอู๋เสียน้อยเลยค่ะ T///T ศิษย์พี่พูดแก้ต่างให้ จะเพราะอะไรไม่รู้เนาะ แต่แค่นี้ก็ดีใจแล้วจริงๆฟฟ พอดีใจไม่นานก็แป้วกลับ อา... orz ช่างเหมาะสมกัน...ฮึก..

แถมอู๋เสียน้อยห่วงศิษย์พี่จนเข้าไปช่วยไม่นึกถึงอะไรอีก ยิ่งอ่านยิ่งช้ำ อย่าทำให้เทียนเจินต้องเจ็บมากกว่านี้เลยนะคะศิษย์พี่ ฮืออ ; ; ) เดินทางเดินทาง ไปบอกลาเร็ว แง กลัวจะเจ็บมากไปกว่านี้จังค่ะฟกวสกฟ T T )o

ขอบคุณสำหรับฟิคเช่นเคยค่า รอตอนต่อไปนะคะ////
leralalita
leralalita
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 34
Points : 3508
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ