Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
#ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
+21
prince501
nightsza
oilypicca
sagacity191
chickys3
Silver Fish
hnee
ballo0ns
Oatokungz
Eli-kun
Yuwadee Wana
yakusoku
DuongHuen
nimosyne
DarkAki
schneewittchen
kangaroow
felinbeauty
Malangporyim
scuroluce
anurakbeer
25 posters
หน้า 1 จาก 1
#ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
#ซาไห่ Part 1 Chapter 05
หนึ่งแสน
ระหว่างกินข้าว หลีชู่ฟังเหลียงวานกับหวังเหมิงคุยกันตลอด หวังเหมิงมีความอดทนสูง ไม่ถามคำถามใดๆ เหลียงวานเลย เพียงพูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเหลียงวานเท่านั้น ยิ่งฟังคำสนทนาของพวกเขา หลีชู่ก็ยิ่งสงสัย
เริ่มแรก หลีชู่เข้าใจว่าหวังเหมิงเป็นเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลประสาท ไม่อย่างนั้นจะมีเพื่อนร่วมงานป่วยจิตอย่างนี้ได้ยังไง หรือไม่ก็เป็นคนในแก๊งมาเฟีย หวงเหยียนอาจเข้าไปพัวพันกับธุรกิจมืด ส่วนหวงเหมิงเป็นพรรคพวกของเขา ตอนนี้วิ่งมาเอาเงินปิดปากตน แต่ฟังไปฟังมา หลีชู่ก็พบว่าไม่ถูก จากคำพูดกระจัดกระจายของหมอนี่ ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าเขาทำอาชีพค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เพราะคำพูดของหวังเหมิงจะกล่าวถึงสินค้า หน้าร้าน เจ้านาย อะไรทำนองนี้บ่อยๆ รู้สึกเหมือนเป็นคนขายเค้กหรือพ่อค้าแผงลอยข้างถนน แต่หลีชู่เชื่อมั่นว่าตนเองดูคนเก่ง แม้จะเรียกว่าค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แต่สินค้าของคนคนนี้จะต้องไม่เหมือนคนอื่นๆ เพราะทุกท่วงท่ากิริยาของคนคนนี้ มีสนามพลังที่แตกต่างจากคนธรรมดา
มันเป็นความรู้สึกห่างเหินอย่างหนึ่ง ทำให้คนรู้สึกว่า เรื่องใดๆ ที่เขาพูดออกมา ล้วนแล้วแต่ไม่ได้สลักสำคัญ ความลับที่แท้จริงทับอยู่ในส่วนลึกมากในหัวใจของเขา เขาไม่มีวันพูดมันออกมาตลอดกาล
จากคำสนทนาของพวกเขา หลีชู่ยังรับรู้สารอีกอย่างหนึ่ง คล้ายกับว่าเจ้านายของนายหวังเหมิงคนนี้ จะเป็นบุคคลสำคัญที่ร้ายกาจมากๆ
"เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อหนึ่งปีก่อนเยอะมาก" หวังเหมิงมักใช้คำพูดประโยคนี้บรรยายเจ้านายของเขา นอกจากนี้ ก็ไม่แย้มพรายใดๆ เพิ่มเติมอีก
เหลียงวานคล้ายกับสนใจในตัวเจ้านายของหวังเหมิงมาก มักวกกลับมาเข้าเรื่องนี้แบบจงใจแต่เหมือนไม่จงใจ แต่หวังเหมิงก็สามารถเฉไฉเป็นอื่นได้อย่างง่ายดายเสมอ เหลียงวานเป็นสาวหลงตัวเองชั้นยอดจริงๆ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่า ผู้ชายคนนี้กำลังบ่ายเบี่ยงเธอ
แน่นอน หลายปีต่อมาเมื่อหลีชู่หวนคิดถึงเหตุการณ์นี้ จึงเข้าใจว่าเหลียงวานไม่ได้เป็นหลงตัวเอง เพียงแค่ทักษะการมองคนของตนในตอนนั้นยังไม่เข้าขั้นเท่านั้นเอง
กินข้าวเสร็จพวกเขาก็ไปยังโรงแรมฝั่งตรงข้าม การจับกลุ่มเช่นนี้มันแปลกประหลาดจริงๆ หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวพกเด็กม.ปลายมาอีกคน เด็กม.ปลายคนนี้ยังสวมชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล โชคดีที่สังคมนี้เพียงแค่มีเงินก็ลดปัญหาไปได้เยอะ ดังนั้น กลุ่มประหลาดเช่นนี้ก็ไม่ได้พบเจอเรื่องยุ่งยากใดๆ
หวังเหมิงจองห้องชุดที่หรูหราไว้ หลีชู่เดินเข้าไปถึง ประหนึ่งบ้านนอกเข้ากรุง เมื่อเขาเห็นห้องรับแขกในห้องพัก มีโซฟาหลังใหญ่ตั้งอยู่ ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก
ส่วนเหลียงวานก็หยิบซองจดหมายที่เคยให้หลีชู่ดูซองนั้นออกมา โยนลงบนโซฟา พูดกับหวังเหมิงว่า "พวกคุณไวๆ กันหน่อยนะ"
เพิ่งจะพูดจบ หวังเหมิงก็ล้วงสิ่งของที่คล้ายเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าตัวหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แทงลงไปที่หลังคอของเหลียงวาน สิ่งสิ่งนั้นส่งเสียงไฟฟ้าช็อต เหลียงวานร้องออกมาทีหนึ่ง แล้วทรุดลงไปกองบนโซฟา
"เครื่องช็อตไฟฟ้า" หวังเหมิงอธิบายกับหลีชู่ ย่อตัวลงคลำที่คอของเหลียงวาน เหลียงวานยังชักไม่หยุด พูดจบเขาก็เดินตรงมาหาหลีชู่ "ไม่ต้องกลัว เพื่อนร่วมงานฉันทิ้งสิ่งของบางอย่างไว้บนหลังของเธอ ฉันต้องการมันกลับ แล้วเงินพวกนี้ก็จะเป็นของเธอ ส่วนผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่อยากให้รู้มากเกินไป"
หลีชู่ปากอ้าตาค้าง คลำหลังของตนเอง รอยแผลบนนั้นถูกหมอเย็บติดกันแล้ว จะไปมีสิ่งของบางอยู่ได้ยังไง นึกในใจว่า ไอ้ชิบหาย เอ็งมาสานต่อภารกิจป่วยจิตที่เพื่อนร่วมงานยังทำไม่เสร็จจริงๆ ด้วย ไอ้ร้านค้าอะไรที่หมอนี่พูดถึง หรือจะเป็นร้านขายซาลาเปาเนื้อคน
แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ คาดเดาไปมากมายก็ไร้ความหมาย หลีชู่ถอยหลังทันที
"ไม่ต้องกลัว" หวังเหมินกล่าวต่อ ถือเครื่องช็อตไฟฟ้าเดินตรงเข้าหาเขาเรื่อยๆ หลีชู่รู้ว่าต้องแย่แน่ เขาเคยเห็นอานุภาพของไอ้สิ่งนี้จากอินเทอร์เน็ต ถูกมันช็อตเข้าสักที คาดว่าแม้แต่ฉี่ก็ยังเล็ด แต่หลีชู่ไม่ตื่นตระหนก ประสบการณ์หนีการไล่ทุบจากพ่อภายในบ้าน เพียงพอให้เขาถ่วงเวลาได้สักครู่ ตาของเขามองปราดไปรอบตัวโดยอัตโนมัติ คิดหาทิศทางสำหรับหนี
ห้องทั้งห้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ฟากหนึ่งเป็นส่วนพักผ่อนที่มีเตียงตั้งอยู่ อีกฟากหนึ่งเป็นส่วนทำงานที่มีโซฟาและตั่ง คำว่าห้องชุดหรู หมายถึงมีพื้นที่ทำงานเยอะกว่า ส่วนห้องทำงานยังมีโซฟาตัวใหญ่ขนาดสามที่นั่งที่นุ่มสบาย ตั้งอยู่ตรงตำแหน่งสะดุดตาข้ามกับโทรทัศน์
ขณะนี้ ตรงกลางระหว่างหวังเหมิงกับหลีชู่ มีเพียงโซฟาตัวนี้ นี่คือข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวของหลีชู่ หลีชู่รู้ว่า เมื่อฝ่ายหนึ่งบุก สิ่งแรกที่อีกฝ่ายต้องทำก็คือชะลอความเร็วในการจู่โจมของอีกฝ่าย และวิธีการที่ง่ายที่สุด ก็คือตั้งสิ่งกีดขวางไว้บนเส้นทางการบุกของอีกฝ่าย
ขณะนี้ หากหวังเหมิงจะบุกเข้าจู่โจมหลีชู่ มีทางเลือกเพียงสองอย่าง หนึ่งคือเลือกทิศทางใดทิศทางหนึ่ง อ้อมโซฟามา แต่หากทำเช่นนั้นหลีชู่ก็สามารถหนีไปยังทิศตรงกันข้ามได้โดยง่าย อีกหนึ่งก็คือก้าวข้ามโซฟามา แต่ถ้าไม่ใช่คนที่มีฝีมือดีเป็นพิเศษ คิดจะก้าวข้ามโซฟา กลับใช้เวลามากกว่าวิ่งอ้อมโซฟาเสียอีก
เพียงแค่หวังเหมิงเลือกทางใดทางหนึ่ง หลีชู่ก็จะสบโอกาส เขาจะสามารถพุ่งตรงไปที่ประตู เปิดออกไป แล้ววิ่งไปตะโกนไปบนทางเดินว่า "ช่วยด้วย มีคนบ้า" พุ่งลงบันได
เขาคำนวณไว้ว่า ต้องวิ่งไปให้ถึงล็อบบี้จึงจะปลอดภัย เพราะหวังเหมิงจะต้องวิ่งไล่มาติดๆ คนอื่นๆ เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ปฏิกิริยาแรกก็คือหลีกทาง ต่อให้มีคนหาญกล้าเข้ามาช่วย ก็คงจะถูกหวังเหมิงช็อตคว่ำ แต่หากไปถึงล็อบบี้ เพราะมีคนมากพอ ต่อให้หวังเหมิงช็อตตนสำเร็จ ก็ไม่สามารถพาตนออกไป หากเป็นเช่นนั้น อย่างมากก็แค่ขี้เยี่ยวแตกต่อหน้าธารกำนัลสักครั้งเท่านั้น
ความคิดหลีชู่วิ่งเร็วดั่งสายฟ้า ในเวลาครึ่งวินาที เขาก็วางแผนเสร็จสรรพ ตัวแปรเพียงหนึ่งเดียวคือ ตอนที่หวังเหมิงเข้าห้องมา ล็อกห้องหรือเปล่า
ตอนนั้นเขาไม่ทันสังเกต หากหวังเหมิงล็อกห้อง เหตุการณ์ก็จะยุ่งยากหน่อย แต่ตาของเขาก็เหลือบเห็นห้องน้ำตรงข้างประตูแล้วเช่นกัน
ประตูของห้องน้ำนั้นเปิดอยู่ หากประตูห้องเปิดไม่ออก เขาสามารถพุ่งเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูไว้ ในห้องน้ำมีโทรศัพท์ที่ต่อสายถึงหน้าฟรอนท์ได้
เห็นได้ว่าหวังเหมิงก็กำลังขบคิดวิธีการบุกที่ดีที่สุดอยู่เช่นกัน พอหลีชู่ขยับ เขาก็ขยับตาม คาดเดาการเคลื่อนไหวของหลีชู่อยู่ตลอด เขาไม่บุ่มบ่ามเข้าประชิด เหตุก็เพราะมีโซฟากั้นกลางไว้ อีกทั้งเขาเคลื่อนไหวว่องไว ไม่ว่าหลีชู่จะขยับตัวหลอกอย่างไร ก็สลัดเขาไม่หลุด
หลีชู่เหงื่อซึมออกมา เจอคู่ปรับที่สูสีกันเสียแล้วสิ ไอ้หมอนี่เป็นคนละเรื่องกับคุณพ่อที่ดื่มเยอะแล้วเมาเป๋ไปมา ดูท่าจะชำนาญศึกไล่ล่าในห้องแคบแบบนี้เป็นอย่างดี บางทีหมอนี่อาจมีวัยเด็กเหมือนกับเขากระมัง
คนทั้งสองเหมือนยื้อกันไปมาภายในห้องเหมือนเต้นระบำฮาวาย หลีชู่เริ่มอดทนไม่อยู่ หลายครั้งที่เขาอยากเสี่ยงพุ่งออกไปสุดกำลัง แต่ต้องกลั้นไว้ในวินาทีสุดท้าย เขาพบว่า หวังเหมิงสามารถทำท่าตั้งรับเต็มที่ ในยามที่เขาตัดสินใจเสี่ยงพุ่งตัวทุกครั้งไป
ทำยังไงดี
หลีชู่ไม่เคยนึกว่าตนเองจะตกสู่สภาพจนตรอกเช่นนี้ บาดแผลที่หลังก็เริ่มแสบคันขึ้นมา แต่ในขณะที่ฝีก้าวของเขาเริ่มรวนนั่นเอง พลันมีเสียงดังเคร้งใหญ่ หวังเหมิงซึ่งขยับพริ้วไปมาอยู่หน้าเขา อยู่ๆ ก็หยุดนิ่ง แววตาที่มุ่งมั่นเมื่อครู่เหลือกขึ้น แล้วทรุดฮวบลงกับพื้น เครื่องช็อตไฟฟ้าในมือของเขาก็หลุดมือ กลิ้งหลุนๆ ตามพื้นไปหยุดอยู่ตรงขอบผนัง
ขณะนี้หลีชู่จึงเห็นเหลียงวานที่ผมกระเซิง ยืนอยู่ข้างหลังหวังเหมิง ในมือถือหูแจกันดอกไม้หนึ่งใบ เธอยังอยากทุบซ้ำอีก แต่พบว่าหูแจกันที่เหลืออยู่นั่นไม่มีอานุภาพในการโจมตีใดๆ แล้ว จึงโยนทิ้งไป แล้วกระทืบเข้าใต้หว่างขาของหวังเหมิงอย่างหนักหน่วงสองที
หวังเหมิงเจ็บปวดจนตัวงอ ขณะนี้ เหลียงวานมองเห็นเครื่องช็อตไฟฟ้าตรงมุมผนัง หมุนตัวไปเก็บ แล้วจิ้มลงไปที่หลังของหวังเหมิง
ชั่วพริบตา กลิ่นไหม้ลอยฟุ้งออกมา หวังเหมิงชักไปทั้งตัว ของเหลวอุ่นๆ ซึมแผ่ออกมาจากใต้หว่างขา
"ไอ้ลูกหมา บังอาจลอบกัดแม่มึง เสียแรงที่แม่อุตส่าห์จริงใจให้ แม่งเอ๊ย เจ็บเป็นบ้า" เหลียงวานคลำบริเวณที่ถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อต นั่งลงบนโซฟา ปล่อยให้หลีชู่ยืนมองเหตุการณ์นี้อย่างอกสั่นขวัญแขวนตามลำพัง
เงียบไปครู่หนึ่ง เหลียงวานก็พูดกับหลีชู่ว่า "ยืนเซ่ออยู่ทำไม รีบมาพยุงฉันสิ กลับโรง'บาลกัน"
"แล้วเขาล่ะ"
"วางใจเถอะ ไม่ตายหรอก จะให้ฉันปฐมพยาบาลเขาอีกหรือไง" เหลียงวานกล่าว
"ไม่ต้องแจ้งความเหรอ" หลีชู่ถาม
"แจ้งความไม่ได้ เธอไม่รู้สถานะของเขา ส่วนฉันพอได้ยินมาบ้าง แจ้งความแล้วเรื่องจะบานปลาย ฉันว่าฉันเองก็คงต้องลาหยุดหลบหน้าสักสองสามวันเหมือนกัน ไม่อย่างนันพวกเขาต้องมาคิดบัญชีกับฉันแน่" เหลียงวานกล่าว "จริงสิ เงินของเธอล่ะ"
หลีชู่หยิบเช็กออกมา แล้วเหลียงวานก็พูดว่า "ต้องแบ่งฉันครึ่งนึงนะ วันนี้ฉันซวยฟรีๆ"
"เรื่องอะไร หลังของคุณไม่ได้โดนใครวาดอะไรสักหน่อย" หลีชู่แย้ง
เหลียงวานเถียงกลับอย่างไม่ยอมลดราวาศอก "หลังของฉันโดนเครื่องช็อตไฟฟ้าจิ้มเป็นสองรูเบ้อเร่อนะยะ ฉันละนึกว่าไอ้หมอนี่เป็นรักแท้จริงๆ ไม่นึกว่ามันจะมีเจตนาเคลือบแฝง ซ้ำยังลงมือจริงๆ ด้วย ไม่รู้ละ ถ้าเธอไม่แบ่งเงิน ฉันจะไปมอบตัว บอกตำรวจเงินนี่ด้วย อย่างเธอเรียกว่ารับสินจ้างของอาชญากร ถึงตอนนั้นนะ รับรองว่าสักแดงเธอก็ไม่ได้"
เหลียงวานพูดกัดฟันกรอดๆ หลีชู่เห็นสภาพเช่นนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ็บหลังอยู่ หรือเพราะโกรธจัดจริงๆ จึงจำต้องตอบตกลง เหลียบวานจับมือเขาขึ้นมา ให้เขาพยุงตน แล้วพูดว่า "ทำท่าสนิทหน่อย ออกจากโรงแรมแล้วค่อยว่ากัน ใครจะไปรู้ ว่ามันแค่ตัวคนเดียวหรือเปล่า"
เหลียงวานเป็นหญิงสาวร่างเล็ก หลีชู่โอบไหล่ของเธอ รู้สึกสบายเหลือเกิน อดใจโอบแน่นขึ้นไม่ได้ เหลียงวานไม่รู้สึกตัว พวกเขาลงลิฟต์ไปด้วยกัน ชุดผู้ป่วยของหลีชู่เตะตามาก แต่ไม่มีใครขัดขวางพวกเขา พวกเขาเดินเรื่อยมาจนถึงหน้าประตูใหญ่โรงแรม ขึ้นรถแท็กซี่ เหลียงวานจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ตอนนี้เราจะไปไหนกันล่ะ" หลีชู่ถาม
เหลียงวานมองหน้าหลีชู่ คิดครู่หนึ่ง แล้วพูดกับหลีชู่ว่า "ไปบ้านฉัน!"
Talk:
วันนี้ไปส่งก้อยที่ม.รังสิตครับ ระหว่างรอรับกลับก็ขนงานไปทำ ปรากฏว่างานชิ้นที่เตรียมไปเสร็จไวกว่าที่คิดจึงนั่งแกร่ว ก็เลยหยิบซาไห่มาทำแก้เซ็ง
ความจริงอยากปล่อยให้หวังเหมิงหล่อให้นานกว่านี้หน่อย แต่ก็นะ จังหวะมันเป็นแบบนี้ คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต อย่าฝืนละกัน
ทีมสำริดคงคลายอิจไปได้เล็กน้อย ส่วนทีมหวังเหมิง ก็คงรู้จักนพซซ. หรือท่านประมุขมากขึ้นจาก Chapter นี้นะครับ
เจอกันใหม่เมื่อฟ้าประทาน
หนึ่งแสน
ระหว่างกินข้าว หลีชู่ฟังเหลียงวานกับหวังเหมิงคุยกันตลอด หวังเหมิงมีความอดทนสูง ไม่ถามคำถามใดๆ เหลียงวานเลย เพียงพูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเหลียงวานเท่านั้น ยิ่งฟังคำสนทนาของพวกเขา หลีชู่ก็ยิ่งสงสัย
เริ่มแรก หลีชู่เข้าใจว่าหวังเหมิงเป็นเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลประสาท ไม่อย่างนั้นจะมีเพื่อนร่วมงานป่วยจิตอย่างนี้ได้ยังไง หรือไม่ก็เป็นคนในแก๊งมาเฟีย หวงเหยียนอาจเข้าไปพัวพันกับธุรกิจมืด ส่วนหวงเหมิงเป็นพรรคพวกของเขา ตอนนี้วิ่งมาเอาเงินปิดปากตน แต่ฟังไปฟังมา หลีชู่ก็พบว่าไม่ถูก จากคำพูดกระจัดกระจายของหมอนี่ ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าเขาทำอาชีพค้าขายเล็กๆ น้อยๆ เพราะคำพูดของหวังเหมิงจะกล่าวถึงสินค้า หน้าร้าน เจ้านาย อะไรทำนองนี้บ่อยๆ รู้สึกเหมือนเป็นคนขายเค้กหรือพ่อค้าแผงลอยข้างถนน แต่หลีชู่เชื่อมั่นว่าตนเองดูคนเก่ง แม้จะเรียกว่าค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แต่สินค้าของคนคนนี้จะต้องไม่เหมือนคนอื่นๆ เพราะทุกท่วงท่ากิริยาของคนคนนี้ มีสนามพลังที่แตกต่างจากคนธรรมดา
มันเป็นความรู้สึกห่างเหินอย่างหนึ่ง ทำให้คนรู้สึกว่า เรื่องใดๆ ที่เขาพูดออกมา ล้วนแล้วแต่ไม่ได้สลักสำคัญ ความลับที่แท้จริงทับอยู่ในส่วนลึกมากในหัวใจของเขา เขาไม่มีวันพูดมันออกมาตลอดกาล
จากคำสนทนาของพวกเขา หลีชู่ยังรับรู้สารอีกอย่างหนึ่ง คล้ายกับว่าเจ้านายของนายหวังเหมิงคนนี้ จะเป็นบุคคลสำคัญที่ร้ายกาจมากๆ
"เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อหนึ่งปีก่อนเยอะมาก" หวังเหมิงมักใช้คำพูดประโยคนี้บรรยายเจ้านายของเขา นอกจากนี้ ก็ไม่แย้มพรายใดๆ เพิ่มเติมอีก
เหลียงวานคล้ายกับสนใจในตัวเจ้านายของหวังเหมิงมาก มักวกกลับมาเข้าเรื่องนี้แบบจงใจแต่เหมือนไม่จงใจ แต่หวังเหมิงก็สามารถเฉไฉเป็นอื่นได้อย่างง่ายดายเสมอ เหลียงวานเป็นสาวหลงตัวเองชั้นยอดจริงๆ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่า ผู้ชายคนนี้กำลังบ่ายเบี่ยงเธอ
แน่นอน หลายปีต่อมาเมื่อหลีชู่หวนคิดถึงเหตุการณ์นี้ จึงเข้าใจว่าเหลียงวานไม่ได้เป็นหลงตัวเอง เพียงแค่ทักษะการมองคนของตนในตอนนั้นยังไม่เข้าขั้นเท่านั้นเอง
กินข้าวเสร็จพวกเขาก็ไปยังโรงแรมฝั่งตรงข้าม การจับกลุ่มเช่นนี้มันแปลกประหลาดจริงๆ หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวพกเด็กม.ปลายมาอีกคน เด็กม.ปลายคนนี้ยังสวมชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล โชคดีที่สังคมนี้เพียงแค่มีเงินก็ลดปัญหาไปได้เยอะ ดังนั้น กลุ่มประหลาดเช่นนี้ก็ไม่ได้พบเจอเรื่องยุ่งยากใดๆ
หวังเหมิงจองห้องชุดที่หรูหราไว้ หลีชู่เดินเข้าไปถึง ประหนึ่งบ้านนอกเข้ากรุง เมื่อเขาเห็นห้องรับแขกในห้องพัก มีโซฟาหลังใหญ่ตั้งอยู่ ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก
ส่วนเหลียงวานก็หยิบซองจดหมายที่เคยให้หลีชู่ดูซองนั้นออกมา โยนลงบนโซฟา พูดกับหวังเหมิงว่า "พวกคุณไวๆ กันหน่อยนะ"
เพิ่งจะพูดจบ หวังเหมิงก็ล้วงสิ่งของที่คล้ายเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าตัวหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แทงลงไปที่หลังคอของเหลียงวาน สิ่งสิ่งนั้นส่งเสียงไฟฟ้าช็อต เหลียงวานร้องออกมาทีหนึ่ง แล้วทรุดลงไปกองบนโซฟา
"เครื่องช็อตไฟฟ้า" หวังเหมิงอธิบายกับหลีชู่ ย่อตัวลงคลำที่คอของเหลียงวาน เหลียงวานยังชักไม่หยุด พูดจบเขาก็เดินตรงมาหาหลีชู่ "ไม่ต้องกลัว เพื่อนร่วมงานฉันทิ้งสิ่งของบางอย่างไว้บนหลังของเธอ ฉันต้องการมันกลับ แล้วเงินพวกนี้ก็จะเป็นของเธอ ส่วนผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่อยากให้รู้มากเกินไป"
หลีชู่ปากอ้าตาค้าง คลำหลังของตนเอง รอยแผลบนนั้นถูกหมอเย็บติดกันแล้ว จะไปมีสิ่งของบางอยู่ได้ยังไง นึกในใจว่า ไอ้ชิบหาย เอ็งมาสานต่อภารกิจป่วยจิตที่เพื่อนร่วมงานยังทำไม่เสร็จจริงๆ ด้วย ไอ้ร้านค้าอะไรที่หมอนี่พูดถึง หรือจะเป็นร้านขายซาลาเปาเนื้อคน
แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ คาดเดาไปมากมายก็ไร้ความหมาย หลีชู่ถอยหลังทันที
"ไม่ต้องกลัว" หวังเหมินกล่าวต่อ ถือเครื่องช็อตไฟฟ้าเดินตรงเข้าหาเขาเรื่อยๆ หลีชู่รู้ว่าต้องแย่แน่ เขาเคยเห็นอานุภาพของไอ้สิ่งนี้จากอินเทอร์เน็ต ถูกมันช็อตเข้าสักที คาดว่าแม้แต่ฉี่ก็ยังเล็ด แต่หลีชู่ไม่ตื่นตระหนก ประสบการณ์หนีการไล่ทุบจากพ่อภายในบ้าน เพียงพอให้เขาถ่วงเวลาได้สักครู่ ตาของเขามองปราดไปรอบตัวโดยอัตโนมัติ คิดหาทิศทางสำหรับหนี
ห้องทั้งห้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ฟากหนึ่งเป็นส่วนพักผ่อนที่มีเตียงตั้งอยู่ อีกฟากหนึ่งเป็นส่วนทำงานที่มีโซฟาและตั่ง คำว่าห้องชุดหรู หมายถึงมีพื้นที่ทำงานเยอะกว่า ส่วนห้องทำงานยังมีโซฟาตัวใหญ่ขนาดสามที่นั่งที่นุ่มสบาย ตั้งอยู่ตรงตำแหน่งสะดุดตาข้ามกับโทรทัศน์
ขณะนี้ ตรงกลางระหว่างหวังเหมิงกับหลีชู่ มีเพียงโซฟาตัวนี้ นี่คือข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวของหลีชู่ หลีชู่รู้ว่า เมื่อฝ่ายหนึ่งบุก สิ่งแรกที่อีกฝ่ายต้องทำก็คือชะลอความเร็วในการจู่โจมของอีกฝ่าย และวิธีการที่ง่ายที่สุด ก็คือตั้งสิ่งกีดขวางไว้บนเส้นทางการบุกของอีกฝ่าย
ขณะนี้ หากหวังเหมิงจะบุกเข้าจู่โจมหลีชู่ มีทางเลือกเพียงสองอย่าง หนึ่งคือเลือกทิศทางใดทิศทางหนึ่ง อ้อมโซฟามา แต่หากทำเช่นนั้นหลีชู่ก็สามารถหนีไปยังทิศตรงกันข้ามได้โดยง่าย อีกหนึ่งก็คือก้าวข้ามโซฟามา แต่ถ้าไม่ใช่คนที่มีฝีมือดีเป็นพิเศษ คิดจะก้าวข้ามโซฟา กลับใช้เวลามากกว่าวิ่งอ้อมโซฟาเสียอีก
เพียงแค่หวังเหมิงเลือกทางใดทางหนึ่ง หลีชู่ก็จะสบโอกาส เขาจะสามารถพุ่งตรงไปที่ประตู เปิดออกไป แล้ววิ่งไปตะโกนไปบนทางเดินว่า "ช่วยด้วย มีคนบ้า" พุ่งลงบันได
เขาคำนวณไว้ว่า ต้องวิ่งไปให้ถึงล็อบบี้จึงจะปลอดภัย เพราะหวังเหมิงจะต้องวิ่งไล่มาติดๆ คนอื่นๆ เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ปฏิกิริยาแรกก็คือหลีกทาง ต่อให้มีคนหาญกล้าเข้ามาช่วย ก็คงจะถูกหวังเหมิงช็อตคว่ำ แต่หากไปถึงล็อบบี้ เพราะมีคนมากพอ ต่อให้หวังเหมิงช็อตตนสำเร็จ ก็ไม่สามารถพาตนออกไป หากเป็นเช่นนั้น อย่างมากก็แค่ขี้เยี่ยวแตกต่อหน้าธารกำนัลสักครั้งเท่านั้น
ความคิดหลีชู่วิ่งเร็วดั่งสายฟ้า ในเวลาครึ่งวินาที เขาก็วางแผนเสร็จสรรพ ตัวแปรเพียงหนึ่งเดียวคือ ตอนที่หวังเหมิงเข้าห้องมา ล็อกห้องหรือเปล่า
ตอนนั้นเขาไม่ทันสังเกต หากหวังเหมิงล็อกห้อง เหตุการณ์ก็จะยุ่งยากหน่อย แต่ตาของเขาก็เหลือบเห็นห้องน้ำตรงข้างประตูแล้วเช่นกัน
ประตูของห้องน้ำนั้นเปิดอยู่ หากประตูห้องเปิดไม่ออก เขาสามารถพุ่งเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูไว้ ในห้องน้ำมีโทรศัพท์ที่ต่อสายถึงหน้าฟรอนท์ได้
เห็นได้ว่าหวังเหมิงก็กำลังขบคิดวิธีการบุกที่ดีที่สุดอยู่เช่นกัน พอหลีชู่ขยับ เขาก็ขยับตาม คาดเดาการเคลื่อนไหวของหลีชู่อยู่ตลอด เขาไม่บุ่มบ่ามเข้าประชิด เหตุก็เพราะมีโซฟากั้นกลางไว้ อีกทั้งเขาเคลื่อนไหวว่องไว ไม่ว่าหลีชู่จะขยับตัวหลอกอย่างไร ก็สลัดเขาไม่หลุด
หลีชู่เหงื่อซึมออกมา เจอคู่ปรับที่สูสีกันเสียแล้วสิ ไอ้หมอนี่เป็นคนละเรื่องกับคุณพ่อที่ดื่มเยอะแล้วเมาเป๋ไปมา ดูท่าจะชำนาญศึกไล่ล่าในห้องแคบแบบนี้เป็นอย่างดี บางทีหมอนี่อาจมีวัยเด็กเหมือนกับเขากระมัง
คนทั้งสองเหมือนยื้อกันไปมาภายในห้องเหมือนเต้นระบำฮาวาย หลีชู่เริ่มอดทนไม่อยู่ หลายครั้งที่เขาอยากเสี่ยงพุ่งออกไปสุดกำลัง แต่ต้องกลั้นไว้ในวินาทีสุดท้าย เขาพบว่า หวังเหมิงสามารถทำท่าตั้งรับเต็มที่ ในยามที่เขาตัดสินใจเสี่ยงพุ่งตัวทุกครั้งไป
ทำยังไงดี
หลีชู่ไม่เคยนึกว่าตนเองจะตกสู่สภาพจนตรอกเช่นนี้ บาดแผลที่หลังก็เริ่มแสบคันขึ้นมา แต่ในขณะที่ฝีก้าวของเขาเริ่มรวนนั่นเอง พลันมีเสียงดังเคร้งใหญ่ หวังเหมิงซึ่งขยับพริ้วไปมาอยู่หน้าเขา อยู่ๆ ก็หยุดนิ่ง แววตาที่มุ่งมั่นเมื่อครู่เหลือกขึ้น แล้วทรุดฮวบลงกับพื้น เครื่องช็อตไฟฟ้าในมือของเขาก็หลุดมือ กลิ้งหลุนๆ ตามพื้นไปหยุดอยู่ตรงขอบผนัง
ขณะนี้หลีชู่จึงเห็นเหลียงวานที่ผมกระเซิง ยืนอยู่ข้างหลังหวังเหมิง ในมือถือหูแจกันดอกไม้หนึ่งใบ เธอยังอยากทุบซ้ำอีก แต่พบว่าหูแจกันที่เหลืออยู่นั่นไม่มีอานุภาพในการโจมตีใดๆ แล้ว จึงโยนทิ้งไป แล้วกระทืบเข้าใต้หว่างขาของหวังเหมิงอย่างหนักหน่วงสองที
หวังเหมิงเจ็บปวดจนตัวงอ ขณะนี้ เหลียงวานมองเห็นเครื่องช็อตไฟฟ้าตรงมุมผนัง หมุนตัวไปเก็บ แล้วจิ้มลงไปที่หลังของหวังเหมิง
ชั่วพริบตา กลิ่นไหม้ลอยฟุ้งออกมา หวังเหมิงชักไปทั้งตัว ของเหลวอุ่นๆ ซึมแผ่ออกมาจากใต้หว่างขา
"ไอ้ลูกหมา บังอาจลอบกัดแม่มึง เสียแรงที่แม่อุตส่าห์จริงใจให้ แม่งเอ๊ย เจ็บเป็นบ้า" เหลียงวานคลำบริเวณที่ถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อต นั่งลงบนโซฟา ปล่อยให้หลีชู่ยืนมองเหตุการณ์นี้อย่างอกสั่นขวัญแขวนตามลำพัง
เงียบไปครู่หนึ่ง เหลียงวานก็พูดกับหลีชู่ว่า "ยืนเซ่ออยู่ทำไม รีบมาพยุงฉันสิ กลับโรง'บาลกัน"
"แล้วเขาล่ะ"
"วางใจเถอะ ไม่ตายหรอก จะให้ฉันปฐมพยาบาลเขาอีกหรือไง" เหลียงวานกล่าว
"ไม่ต้องแจ้งความเหรอ" หลีชู่ถาม
"แจ้งความไม่ได้ เธอไม่รู้สถานะของเขา ส่วนฉันพอได้ยินมาบ้าง แจ้งความแล้วเรื่องจะบานปลาย ฉันว่าฉันเองก็คงต้องลาหยุดหลบหน้าสักสองสามวันเหมือนกัน ไม่อย่างนันพวกเขาต้องมาคิดบัญชีกับฉันแน่" เหลียงวานกล่าว "จริงสิ เงินของเธอล่ะ"
หลีชู่หยิบเช็กออกมา แล้วเหลียงวานก็พูดว่า "ต้องแบ่งฉันครึ่งนึงนะ วันนี้ฉันซวยฟรีๆ"
"เรื่องอะไร หลังของคุณไม่ได้โดนใครวาดอะไรสักหน่อย" หลีชู่แย้ง
เหลียงวานเถียงกลับอย่างไม่ยอมลดราวาศอก "หลังของฉันโดนเครื่องช็อตไฟฟ้าจิ้มเป็นสองรูเบ้อเร่อนะยะ ฉันละนึกว่าไอ้หมอนี่เป็นรักแท้จริงๆ ไม่นึกว่ามันจะมีเจตนาเคลือบแฝง ซ้ำยังลงมือจริงๆ ด้วย ไม่รู้ละ ถ้าเธอไม่แบ่งเงิน ฉันจะไปมอบตัว บอกตำรวจเงินนี่ด้วย อย่างเธอเรียกว่ารับสินจ้างของอาชญากร ถึงตอนนั้นนะ รับรองว่าสักแดงเธอก็ไม่ได้"
เหลียงวานพูดกัดฟันกรอดๆ หลีชู่เห็นสภาพเช่นนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ็บหลังอยู่ หรือเพราะโกรธจัดจริงๆ จึงจำต้องตอบตกลง เหลียบวานจับมือเขาขึ้นมา ให้เขาพยุงตน แล้วพูดว่า "ทำท่าสนิทหน่อย ออกจากโรงแรมแล้วค่อยว่ากัน ใครจะไปรู้ ว่ามันแค่ตัวคนเดียวหรือเปล่า"
เหลียงวานเป็นหญิงสาวร่างเล็ก หลีชู่โอบไหล่ของเธอ รู้สึกสบายเหลือเกิน อดใจโอบแน่นขึ้นไม่ได้ เหลียงวานไม่รู้สึกตัว พวกเขาลงลิฟต์ไปด้วยกัน ชุดผู้ป่วยของหลีชู่เตะตามาก แต่ไม่มีใครขัดขวางพวกเขา พวกเขาเดินเรื่อยมาจนถึงหน้าประตูใหญ่โรงแรม ขึ้นรถแท็กซี่ เหลียงวานจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ตอนนี้เราจะไปไหนกันล่ะ" หลีชู่ถาม
เหลียงวานมองหน้าหลีชู่ คิดครู่หนึ่ง แล้วพูดกับหลีชู่ว่า "ไปบ้านฉัน!"
Talk:
วันนี้ไปส่งก้อยที่ม.รังสิตครับ ระหว่างรอรับกลับก็ขนงานไปทำ ปรากฏว่างานชิ้นที่เตรียมไปเสร็จไวกว่าที่คิดจึงนั่งแกร่ว ก็เลยหยิบซาไห่มาทำแก้เซ็ง
ความจริงอยากปล่อยให้หวังเหมิงหล่อให้นานกว่านี้หน่อย แต่ก็นะ จังหวะมันเป็นแบบนี้ คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต อย่าฝืนละกัน
ทีมสำริดคงคลายอิจไปได้เล็กน้อย ส่วนทีมหวังเหมิง ก็คงรู้จักนพซซ. หรือท่านประมุขมากขึ้นจาก Chapter นี้นะครับ
เจอกันใหม่เมื่อฟ้าประทาน
แก้ไขล่าสุดโดย anurakbeer เมื่อ Mon 25 May 2015, 12:24, ทั้งหมด 1 ครั้ง
anurakbeer- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 184
Points : 3944
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซ หวังเหมิงของด้วง มีบทเท่ห์แล้วแท้ๆ เชียว สุดท้ายเต้นระบำฮาวายกับน้องหลีนานไปหน่อยเลยโดนสาวจัดการซะหมอบเลย... (เอ๊ะ นี่ตามรอยนายน้อยใช่ไหม)
น้องหลี พี่ว่าจริงๆ หวังเหมิงไม่ได้จะทำอะไรน้องหรอกนะ แต่น้องก็นักมโนตามฉบับพระเอกของ นพซซ. จริงๆ ฮือออออ
น้องหลี พี่ว่าจริงๆ หวังเหมิงไม่ได้จะทำอะไรน้องหรอกนะ แต่น้องก็นักมโนตามฉบับพระเอกของ นพซซ. จริงๆ ฮือออออ
scuroluce- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 38
Points : 3518
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
555555555555555555555555555555555555555555555555 หวังเหมิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
Malangporyim- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 290
Points : 3790
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทุ่งด้วงโฮโม
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
เหลียงวานอย่างเท่555555555
ส่วนหวังเหมิงนี่ก็นะ....น่าสงสารเกิ๊นนนน
ส่วนหวังเหมิงนี่ก็นะ....น่าสงสารเกิ๊นนนน
felinbeauty- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 7
Points : 3477
Join date : 06/11/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
ขอบคุณที่อย่างน้อยฟ้าก็ลิขิตให้หวังเหมิงหล่อ "ตั้งตอนนึง" แน่ะค่ะ ฮือๆๆๆ นึกว่าจะหล่อนานกว่านี้หน่อยซะอีก
หล่อตอนเดียวก็จบในตอนเดียวแบบไม่เหลืออะไรเลยนี่เอง ด้วงคำนวณไม่สู้ประมุขลิขิต T 7 T
น้องหลีนี่สมเป็นนักบรรยายที่ประมุขเลือกสรรแล้วจริง ๆ มโนเก่งเหลือเกิน 5555
ส่วนเหลียงวานก็เป็นสาวเท่ใจเด็ดมาก ก๊าก กระทืบแรง ๆ เลยค่ะ ←
ตอนหน้านายน้อยจะออกมั้ยยยยย
รอตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณคุณเบียร์มากนะคะสำหรับคำแปล
หล่อตอนเดียวก็จบในตอนเดียวแบบไม่เหลืออะไรเลยนี่เอง ด้วงคำนวณไม่สู้ประมุขลิขิต T 7 T
น้องหลีนี่สมเป็นนักบรรยายที่ประมุขเลือกสรรแล้วจริง ๆ มโนเก่งเหลือเกิน 5555
ส่วนเหลียงวานก็เป็นสาวเท่ใจเด็ดมาก ก๊าก กระทืบแรง ๆ เลยค่ะ ←
ตอนหน้านายน้อยจะออกมั้ยยยยย
รอตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณคุณเบียร์มากนะคะสำหรับคำแปล
kangaroow- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 24
Points : 3516
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
โฮ่ย......มาเร็วไปเร็วนะนายลูกจ้างหกร้อยหยวน ตอนที่แล้วอุตส่าห์สครีม....
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หวังเหมิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ไอ้เราก็นึกว่าฝีมือแกจะเข้าขั้น แงงงงงงงงงงงงงง
ทำไมตอนท้ายนายถึงหมดสภาพอย่างงั้นล่ะ 5555555
ว่าแต่ของนายยังใช้การได้ใช้มั๊ย // ร้องหนักมาก
ไอ้เราก็นึกว่าฝีมือแกจะเข้าขั้น แงงงงงงงงงงงงงง
ทำไมตอนท้ายนายถึงหมดสภาพอย่างงั้นล่ะ 5555555
ว่าแต่ของนายยังใช้การได้ใช้มั๊ย // ร้องหนักมาก
DarkAki- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 93
Points : 3481
Join date : 27/01/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หมดกันความเท่เมื่อตอนก่อนหน้า... รู้สึกสะเทือนใจ
อห ต้นบทยังออกจะดูดี ทำไมกลายเป็นแบบนี้ 55555555
ก็นึกว่าจะอัพสกิลจากลูกจ้างไปเป็นลูกน้องคนสนิทงี้
เหมือนมโนพัง ลุงหนานไพ่ใจร้ายกับหวังเหมิงยิ่งกว่านายน้อยอีก
ใจร้ายกับเรามากด้วย น้ามตาาาาาาาาาาาา
ขอบคุณสำหรับการแปลนะคะ
อห ต้นบทยังออกจะดูดี ทำไมกลายเป็นแบบนี้ 55555555
ก็นึกว่าจะอัพสกิลจากลูกจ้างไปเป็นลูกน้องคนสนิทงี้
เหมือนมโนพัง ลุงหนานไพ่ใจร้ายกับหวังเหมิงยิ่งกว่านายน้อยอีก
ใจร้ายกับเรามากด้วย น้ามตาาาาาาาาาาาา
ขอบคุณสำหรับการแปลนะคะ
nimosyne- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 28
Points : 3501
Join date : 03/11/2014
Age : 25
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
จากการกระทำของเหลียงวานนี้ คือจุดเริ่มต้นของหวังเหมิง
ที่ตัวเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิง
แล้วแอบหลงรักนายน้อย ตามที่เห็นจากแฟนอาร์ตต่างๆ สินะ
ที่ตัวเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิง
แล้วแอบหลงรักนายน้อย ตามที่เห็นจากแฟนอาร์ตต่างๆ สินะ
DuongHuen- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 43
Points : 3403
Join date : 28/02/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หวังเหมิงนายเกือบหล่อแล้ว แต่หล่อไม่สุดนะ555
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3840
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
55555555555555555555555555555555555555555
ขออภัย อดใจไม่หัวเราะไม่ไหวจริง ๆ
พ่อยอดชายนายหวังเหมิง หล่อได้ไม่ถึงครึ่งตอน ถถถถถถถถถถถ
ขออภัย อดใจไม่หัวเราะไม่ไหวจริง ๆ
พ่อยอดชายนายหวังเหมิง หล่อได้ไม่ถึงครึ่งตอน ถถถถถถถถถถถ
Yuwadee Wana- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 352
Points : 3838
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
ไว้อาลัยให้หวังเหมิง น่าสงสารเกินไปแล้ว
อาเจ้เหลียงวานตอนนี้เท้เท่ ด่าได้สะใจดีจริง
นั่งอ่านอยู่ ขำกร๊ากเลย
นิยายคุณหนานไพ่ล้ำตัลหลอด ตอนที่แล้วนึกว่าจะเปลี่ยนลุคหวังเหมิงให้กลายเป็นหนุ่มเท่ห์สะท้านทรวง ตอนต่อมาดันฮาขี้เยี่ยวแตกซะงั้น หวังว่าจะไม่เป็นหมันนะ 5555555
ขอบคุณคุณเบียร์สำหรับคำแปลค่ะ
อาเจ้เหลียงวานตอนนี้เท้เท่ ด่าได้สะใจดีจริง
นั่งอ่านอยู่ ขำกร๊ากเลย
นิยายคุณหนานไพ่ล้ำตัลหลอด ตอนที่แล้วนึกว่าจะเปลี่ยนลุคหวังเหมิงให้กลายเป็นหนุ่มเท่ห์สะท้านทรวง ตอนต่อมาดันฮาขี้เยี่ยวแตกซะงั้น หวังว่าจะไม่เป็นหมันนะ 5555555
ขอบคุณคุณเบียร์สำหรับคำแปลค่ะ
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3446
Join date : 04/03/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
ขอบคุณครับ
Oatokungz- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 5
Points : 3287
Join date : 13/05/2015
Age : 43
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หวังเหมิง....................................
หมดกัน มาดที่สร้างไว้ โถ่ orz
หมดกัน มาดที่สร้างไว้ โถ่ orz
ballo0ns- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 40
Points : 3463
Join date : 01/01/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
"เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อหนึ่งปีก่อนเยอะมาก" <<--- คำพูดนี้ของหวังเหมิน ให้ความหมายอะไรหลายๆอย่างในใจข้าน้อย เสี่ยวเสียต้องพบเจอเรื่องราวอะไรถึงได้เปลี่ยนไปเยอะมาก
น่าดายหวังเหมินอย่างต้องไว้อาลัยเล็กๆ อุตส่าห์แอบเท่ห์ แอบเก่ง ขึ้นแล้วแท้ๆ ไหง๋ถึงได้ตกม้าตายได้อนาถนักนะ เฮ่อๆๆ ขอรับรองเลยว่างานนี้โดนอาเสียสั่งสอนชัวร์ ค่าทำงาน(แค่นี้)ได้ไม่เอาไหน สุดท้ายอาเสียคงต้องออกโรงเอง
น่าดายหวังเหมินอย่างต้องไว้อาลัยเล็กๆ อุตส่าห์แอบเท่ห์ แอบเก่ง ขึ้นแล้วแท้ๆ ไหง๋ถึงได้ตกม้าตายได้อนาถนักนะ เฮ่อๆๆ ขอรับรองเลยว่างานนี้โดนอาเสียสั่งสอนชัวร์ ค่าทำงาน(แค่นี้)ได้ไม่เอาไหน สุดท้ายอาเสียคงต้องออกโรงเอง
hnee- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 203
Points : 3684
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
เทค่ตอนเดียว ต่อมา... ลาก่อนหวังเหมิง พวกเราจะไม่ลืมนาย
Silver Fish- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 17
Points : 3501
Join date : 27/10/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
'รู้สึกเหมือนเป็นคนขายเค้กหรือพ่อค้าแผงลอยข้างถนน' เอ่ออออ มุ้งมิ้งไปอี๊กกก
ณ เวลานี้ขอไว้อาลัยให้แก่หวังเหมิง ถึงกับฉี่ราด โถ่ว......
ณ เวลานี้ขอไว้อาลัยให้แก่หวังเหมิง ถึงกับฉี่ราด โถ่ว......
chickys3- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 12
Points : 3429
Join date : 30/12/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หวังเหมิงเจอหญิงเหล็กเข้าไปเป็นไงเนี่ย
สรุปใครดีใครร้ายกัน
ชักสับสนแล้ว
ขอบคุณค่ะ
สรุปใครดีใครร้ายกัน
ชักสับสนแล้ว
ขอบคุณค่ะ
sagacity191- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 53
Points : 3523
Join date : 06/11/2014
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
บางทีท่านหนานไพ่ก็ใจร้ายมาก TAT โถหวังเหมิง
oilypicca- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 61
Points : 3543
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ใต้เตียงเรือนหอสกุลจาง
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
กำลังจะเท่ห์เลย โถ่ หวังเหมิน เอ้ยยยย
nightsza- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 51
Points : 3290
Join date : 28/06/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หวังเหมิงหล่อแค่ตอนเดียวก็ไม่เป็นไรเนอะ 555+
เอาเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตสุภาพสตรีได้ไง เป็นไงโดนนางเอาคืน 555+
และหวังเหมิงบอกว่านายน้อยเปลี่ยนไปมาก ทำไมละ หรือเพราะโตขึ้นและผ่านอะไรมาเยอะเลยเปลี่ยนไป???
เอาเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตสุภาพสตรีได้ไง เป็นไงโดนนางเอาคืน 555+
และหวังเหมิงบอกว่านายน้อยเปลี่ยนไปมาก ทำไมละ หรือเพราะโตขึ้นและผ่านอะไรมาเยอะเลยเปลี่ยนไป???
prince501- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3275
Join date : 23/07/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
จบลงได้... อนาถจริงๆหวังเหมิง ฮือ เกือบหล่อแล้วอ่ะ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3858
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
หวังเหมิง...นายควรเฝ้าหน้าร้านเเล้วขอให้นายน้อยขึ้นเงินเดือนเหมือนเดิมนะ
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3971
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
... หวังเหมิงเอ๊ย ตอนที่แล้วมาอย่างเท่มาตอนนี้ดับอนาถซะแล้ว เท่ได้ไม่ถึงตอนจริงๆ..
Nlm1122- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 33
Points : 3229
Join date : 07/08/2015
Re: #ซาไห่ Part 1 Chapter 05 หนึ่งแสน
เท่ได้ไม่ทันไร โดนหญิงจัดการเข้าให้จนได้
นารีจะเป็นภัยเมื่อถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรงสินะ
แต่ดูท่าแม่หนูเหลียงวานคนนี้จะไม่ธรรมดาจริงๆ
นอกจากเป็นหมอแล้ว
ความใจกล้าของเธอยิ่งน่านับถือ
ส่วนหลีชู่ ดูจะเชี่ยวชาญเรื่องการหลบหนีไม่หยอก
รู้จักการเอาตัวรอดได้อย่างยิ่งยวดโดยแท้
นับว่าสัญชาตญาณดี เพียงแต่งานนี้ไปบ้านแม่เสือจะโดนอะไรเข้าไหมล่ะนี่
งานนี้ต้องรอลุ้นกันต่่อ
นารีจะเป็นภัยเมื่อถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรงสินะ
แต่ดูท่าแม่หนูเหลียงวานคนนี้จะไม่ธรรมดาจริงๆ
นอกจากเป็นหมอแล้ว
ความใจกล้าของเธอยิ่งน่านับถือ
ส่วนหลีชู่ ดูจะเชี่ยวชาญเรื่องการหลบหนีไม่หยอก
รู้จักการเอาตัวรอดได้อย่างยิ่งยวดโดยแท้
นับว่าสัญชาตญาณดี เพียงแต่งานนี้ไปบ้านแม่เสือจะโดนอะไรเข้าไหมล่ะนี่
งานนี้ต้องรอลุ้นกันต่่อ
arshura09- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 118
Points : 3154
Join date : 14/01/2016
Similar topics
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 12 เรื่องราวของอู๋เสีย (4)
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 24 ทะเลสาบเคลื่อนที่
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 01 หนุ่มน้อยผู้บาดเจ็บ
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 16 แผนการของอู๋เสีย
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 20 สิ่งที่แตะต้องไม่ได้
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 24 ทะเลสาบเคลื่อนที่
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 01 หนุ่มน้อยผู้บาดเจ็บ
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 16 แผนการของอู๋เสีย
» #ซาไห่ Part 1 Chapter 20 สิ่งที่แตะต้องไม่ได้
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth