Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
+8
janejana
Narakas
Feran.FS
meanato
ngohungmint
ennewiis
13Fchibiice
heikitsune
12 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
[DMBJ Short Fiction] “เลิกบุหรี่” (ผิง*เสีย*แว่น)
By : จิ้งจอกแดงสกุลเฮย…
_______
บ่ายวันนี้อากาศดี ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าจัดชวนแสบตา ขนาดมองผ่านกระจกหน้าต่างที่ถูกฉาบด้วยฝุ่นหนาเป็นนิ้ว สีฟ้าสดใสก็ไม่หม่นหมองลงไปเลยซักนิด เมฆขาวลอยกระจายตัวเป็นหย่อมๆ ช่างเป็นวันที่สงบสุขเสียนี่กระไร…….
ออกจะสงบสุขเกินไปสักนิดเสียด้วยซ้ำ….
นายน้อยสามแห่งสกุลอู๋หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เทียนเจินอู๋เสีย” กำลังเครียดและหงุดหงิดจนถึงขีดสุด สาเหตุก็ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะตัวเลขสีแดงที่ปรากฏเด่นชัดอยู่บนหน้าสมุดบัญชีค่าใช้จ่ายร้านและสมุดบัญชีธนาคารของเขา
เชี่ยมแม่เอ้ย!!! เดือนนี้วิกฤติมาก! วิกฤติสุดๆ! วิกฤติแบบฉิบหาย!!!!
อู๋เสียกรีดร้องในใจพลางพลิกสมุดบัญชีด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างก็กดเครื่องคิดเลขอย่างรวดเร็วรุนแรงจนน่าหวาดเสียวว่ามันอาจจะได้สละชีพในหน้าที่ ณ วันนี้ก็เป็นได้
ไม่ผิด ตอนนี้นายน้อยสามของเรากำลังอยู่ในช่วงถังแตก อาจะเป็นเพราะพักนี้เขาหนีไปเที่ยวคว่ำกรวยกับพวกนายอ้วนบ่อยจนลืมนึกไปว่าตนเองต้องกลับมาค้าขายรวมถึงลืมนึกถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้แต่ละครั้งในการออกเดินทาง ทำให้บัญชีทุกบัญชีในมือของเขาตอนนี้มีแต่ตัวเลขสีแดงโชว์อยู่เต็มไปหมด
“เวรเอ้ย!! ค่าข้าวเดือนนี้จะเหลือมั้ยวะเนี่ย” ก่อนเส้นประสาทจะขาดผึงก็ต้องหาวิธีระบายอารมณ์เสียก่อน อู๋เสียตะโกนเสียงดังลั่นร้านพร้อมกับออกแรงปาสมุดบัญชีเล่มที่อยู่ใกล้มือที่สุดออกไปเต็มแรง
….โดยลืมไปว่าขณะนี้ร้านของเขายังเปิดทำการ รวมถึงประตูร้านนั้นไม่ได้ลงกลอนปิดล็อคเอาไว้
จังหวะที่หนังสือถูกปาออกไปแล้วนั้น ประตูร้านก็เปิดผางออก เล่นเอาคนปาอ้าปากค้างด้วยความช็อก ร่างสูงโปร่งตามเกณฑ์มาตรฐานผุดลุกขึ้นยืน แต่ก็ช้าไปแล้ว ตอนนี้ถึงอยากจะคว้าสมุดกลับมาก็ไม่มีทางทัน นี่นอกจากจะไม่มีเงินแล้ว ครั้งนี้เขายังทำลูกค้าหลุดมือไปเองอีก อู๋เสีย!! ไอ้โง่!! ไอ้คนทำอะไรไม่รู้จักคิด!!!
ยังนับว่าโชคชะตาเข้าข้างที่คนที่เปิดประตูออกนั้นไม่ใช่คนที่จะมาเป็นลูกค้าร้านเขา และก็ไม่ใช่พวกง่อยเปลี้ยขนาดจะปล่อยให้สมุดเล่มหนึ่งปลิวมากระแทกหน้ามาทำร้าบแว่นกันแดดสีดำทึมทึบที่สวมอยู่ได้
“เล่นอย่างนี้มันอันตรายนานายน้อย ไม่ต้อนรับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” นายแว่นดำ เฮยเสียจื่อ รับเอาสมุดบัญชีไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่สันของมันจะทำร้ายแว่นกันแดดของเขาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงจนน่าหมั่นไส้ ฝ่ายอู๋เสียเมื่อเห็นว่าคนเปิดประตูเป็นใครก็ถึงกับถอนหายใจพรืดเป็นช่วงยาวแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้อย่างหมดแรง
“มาทำไม กลับไปซะ” เขาปิดตาเงยหน้าขึ้นพูดกับเพดานแต่ก็ไล่คนที่ยืนอยู่ตรงประตูใช้สมุดต่างพัดพัดให้ตัวเองอยู่นั่นแหละ
“แหมๆ ยังไม่ทันได้ย่างเท้าเข้าร้านก็โดนไล่ซะแล้ว วันนายน้อยอารมณ์ไม่ดีเหรอ”
“เออ” ตอบแบบอย่างไม่ปิดบัง เขาเปิดตาขึ้นข้างหนึ่งเหลือบมองคนที่ยังยืนอยู่ตรงประตูแบบส่งๆ ถอนหายใจซ้ำอีกรอบแล้วล้วงมือเข้าไปในลิ้นชักล้วงเอาซองบุหรี่ที่สูบประจำออกมาคาบไว้
“เป็นอะไร” เป็นครั้งที่สองของวันที่อู๋เสียเกือบทำอุบัติเหตุใหญ่หลวงให้ชีวิต ในจังหวะที่เขากำลังจะจ่อไฟแช็กเพื่อจุดบุหรี่ เสียงทุ้มเรียบนิ่งไม่ต่างจากผิวน้ำแข็งหน้าหนาวก็ดังขึ้นเหนือศีรษะทำเอาตกใจจนเกือบปล่อยไฟแช็คที่ถืออยู่หล่นลงพื้น
เกือบแล้ว…เกือบทำไฟไหม้ร้านตัวเองแล้ว
อู๋เสียส่งสายตาค้อนวงใหญ่ให้คนที่อยู่ดีๆก็โผล่มายืนนิ่งๆอยู่ข้างๆแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวแล้วจึงจุดบุหรี่ ดูดเอาควันฉุนเตะจมูกเข้าปอดไปเฮือกใหญ่แล้วพ่นออกมา ควันสีเทาบางลอยเป็นสายในอากาศ เมื่อคลายปมอารมณ์ได้แล้วเขาจึงเอามือตบกองสมุดบัญชีตรงหน้าแทนคำตอบของคำถามเมื่อครู่
เมินโหยวผิง หรือชื่อจริงๆคือ จางฉี่หลิงหยิบเอาเล่มหนึ่งขึ้นมาพลิกแบบเร็วๆผ่านๆจนเหมือนว่าไม่ได้สนใจอ่านอะไรเลย แต่คำถามถัดมาที่ออกจากปากของเขาก็ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่
“เดือนนี้ไม่มีเงิน” แม่ง ช่วยบอกทีเถอะว่านายอ่านไอ้ที่พลิกๆๆหน้ากระดาษด้วยความเร็วแสงเมื่อกี้ทันได้ไง
“เห~ ที่แท้ก็เครียดเพราะถังแตกนี่เอง” เหมือนกับนายเมินโหยวผิง นายแว่นโผล่มานั่งอยู่บนโต๊ะของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หนำซ้ำซองบุหรี่ที่เขาวางทิ้งเอาไว้ก็ไปอยู่ในมืออีกฝ่ายแล้ว
“หุบปากไปนายแว่น” เขาว่าให้อีกก่อนพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกระลอก ต้องยอมรับว่าสองคนนี้โผล่มาได้เวลาอยู่ เกรงว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองต้องรบกับรายรับ-รายจ่ายมากกว่านี้มีหวังเขาสติแตกตายแน่ๆ
“ถ้าไม่มีเงินกินข้าวให้ฉันช่วยไหมนายน้อย” ไม่พูดเปล่ามือก็ลูบไล้ไปตามรูปหน้าของอู๋เสีย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชวนให้หนาวสะท้านฉายประดับขึ้นบนใบหน้าคม แม้จะมองไม่เห็นดวงตาที่อยู่ใต้แว่นกันแดดแต่เขาก็พอเดาได้ว่าดวงตาของอีกฝ่ายคงเป็นประกายวาววับอยู่แน่ๆ
ประกายวาววับด้วยความหื่นกามอย่างแน่แท้ด้วย!
คนโดนเกี้ยวปัดมือที่เริ่มไล้ลามลงมาที่คอของตนออกด้วยความสยอง ก่อนจะแยกเขี้ยวขู่พลางถามสวนกลับไปด้วย “ทำไม นายจะให้ฉันกู้หรือไง”
เฮยเสียจื่อหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอเบาๆ ใช้มือที่โดนปิดทิ้งไปรั้งคอของเขาให้เข้ามาใกล้พลางยื่นหน้าเข้าใกล้จนเกือบแนบชิดกัน
“คงไม่มีพอให้กู้ แต่ถ้าจ่ายเล็กๆน้อยตอบแทนความสุขที่นายน้อยให้ผมในคืนนี้ล่ะยังพอ อั่ก!!!” ยังพูดไม่ทันจบดีเฮยเสียจื่อก็โดนคว้าคอเสื้อแล้วโยนทิ้งไปแบบไม่ไยดี ร่างที่สูงกว่าคนออกแรงโยนร่วมๆห้าถึงเจ็ดเซนติเมตรลอยละลิ่วไปกระแทกฝาผนังร้าน อู๋เสียกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงอะไร แต่กลัวผนังร้านอันแสนซอมซ่อของเขาจะเกิดเลยร้าวขึ้นมา
ฝ่ายคนโยนอย่างเมินโหยวผิงกลับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสวัสดิภาพของคนที่ลอยไปนั่นหรือฝาผนัง ชายหนุ่มวางสมุดบัญชีสามเล่มที่หยิบไปอ่านลงข้างตัวอู๋เสีย ใบหน้าคมหล่อจนทำให้ลมหายใจสะดุดขาดห้วงยามมองยื่นเข้ามาใกล้จนหน้าผากแนบชิดกัน นัยน์ตาคมประหนึ่งตาเหยี่ยวสีเข้มเหมือนท้องน้ำไร้ก้นจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมของนายน้อยสาม
“อะ อะไรเหรอเสี่ยวเกอ” ใบหน้าของคนโดนจ้องกลายเป็นสีมะเขือเทศสุก อู๋เสียพยายามเบี่ยงสายตาหลบไปอีกทางระงับความเขินที่ตีพุ่งขึ้นมา
แย่ฉิบ! เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ แต่ทุกครั้งที่นายเรือพ่วงหน้าตายนี่เข้ามาใกล้ก็อดเขินไม่ได้ทุกที แม่ง!! แม่ง!! แม่ง!!
เขาตะโกนโวยวายอยู่ในใจก่อนจะเผลอหดคอหลับตาปี๋เมื่อต้นตอของความเขินเลื่อนใบหน้าไปด้านข้าง ริมฝีปากบางเย็นเฉียบแนบสนิทไปกับใบหู ก่อนจะกระซิบเสียงทุ้มต่ำชวนละลาย
“บุหรี่”
“หะ หา!?”
เมินโหยวผิงละใบหน้าออกมา มองบุหรี่ซึ่งกำลังเผาไหม้ตัวเองในปากของอู๋เสียอย่างเงียบๆ ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปดึงมันออกมาจากปากของอีกฝ่ายเงียบๆเช่นกัน เมื่อหันซ้ายแลขวาไม่เห็นที่เขี่ยบุหรี่เขาก็จัดการโยนมันลงกับพื้นแล้วใช้เท้าขยี้ดับ
“เฮ้ย!!!” คนสูบจัดที่โดนแบ่งบุหรี่ไปดับต่อหน้าต่อตาถึงขั้นลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ “พื้นร้านฉัน! เป็นรอยไหม้หมด!! ไม่…นั่นไม่ใช่ประเด็น!!! อยู่ดีๆมาบอกว่าบุหรี่แล้วแย่งของชาวบ้านไปดับอย่างนี้มันหมายความว่ายังไงจางฉี่หลิง!!!!”
คนหน้าตายที่ก็ยังคงตีหน้าตายต่อไปไม่สนใจเสียงโวยวายแว้ดๆแง้วๆของอู๋เสีย มือเอื้อมไปหยิบสมุดบัญชีเล่มที่อยู่ใกล้มือที่สุดมาแล้วจัดการพลิกทีละหน้า ทีละหน้าอย่างช้าๆให้อีกฝ่ายดูพร้อมแจกแจงเหตุผล
“ถ้าตัดค่าซื้อบุหรี่ออก จะมีเงินเหลือ”
“สรุปว่า~ จะให้นายน้อยเลิกบุหรี่เพื่อประหยัดเงินสินะ” เสียงยียวนกวนบาทากลับมาอีกครั้ง เฮยเสียจื่อที่ฟื้นกลับมาแล้วกลับมานั่งบนโต๊ะท่าเดิมเป๊ะกับตอนก่อนจะถูกประทุษร้าย บุหรี่ของเจ้าของร้านที่ตอนแรกถูกแย่งไปคาบไว้เฉยๆในปากตอนนี้กลับถูกจุดจนมีควันขโมงขึ้นมา หมอนี่มันไปหาไฟแช็กมาจากไหนกันวะ
“ไม่ได้ๆ ตัดค่าบุหรี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีบุหรี่ฉันต้องตายแน่ๆ” อู๋เสียรีบบอกปฏิเสธเป็นพัลวันพร้อมกับใช้มือหนึ่งยันโต๊ะไว้พยายามตะกายไปแย่งซองบุหรี่ของตนคืนจากหัวขโมยตัวแสบ แต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วจะได้แตะซองบุหรี่ตรงกระเป๋าเสื้อของทางนั้นเอวของเขาก็ถูกนายหัวขโมยนั่นโอบล็อคไว้แน่น ส่วนมือข้างที่เอื้อมไปก็ถูกเมินโหยวผิงจับเอาไว้
“ทำไม” คำถามสั้นง่ายเกือบได้ใจนั่นทำเอาคนถูกสั่งเลิกบุหรี่กระทันหันปวดหัวตึ้บ ส่วนเฮยเสียจื่อส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ
“หนึ่ง มีใครที่ไหนเขาให้เลิกบุหรี่ด้วยการงดสูบถาวรในทันทีบ้าง อย่างนี้ลงแดงตายกันไปข้างพอดี สอง ถ้าไม่มีบุหรี่ให้สูบตอนเครียดก็เตรียมหายาระงับประสาทไว้ให้ฉันได้เลย สาม ฉันเหงาปาก เพราะฉะนั้นคืนมาเดี๋ยวนี้นายแว่น!!” ดูเหมือนความพยายามจะทำตัวเป็นเป็นนายน้อยที่ดีออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดกับคนอื่นของนายน้อยสามจะไม่ได้ผลเพราะทั้งนายเมินโหยวผิง ทั้งนายเฮยเสียจื่อไม่มีใครสนใจเขาเลย
เฮยเสียจื่อยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนในอ้อมแขนอีกครั้ง จัดการย้ายบุหรี่ที่คาบอยู่มาถือไว้ในมือข้างที่ว่างจากนั้นทาบริมฝีปากลงบดขยี้กับริมฝีปากนุ่มอย่างรวดเร็วเล่นเอาคนโดนจูบตั้งตัวไม่ทันตกใจตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก
ริมฝีปากร้อนระอุบดขยี้อย่างไม่คิดปรานีบังคับให้คนโดนรุกรานเปิดปากออก ลื้นซุกซนร้อนเร่าสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่มปลุกเร้าอารมณ์แล้วจึงกวาดไปรอบๆชิมความหวานที่ของหวานชนิดใดบนโลกก็ไม่อาจเทียบได้อย่างกระหาย
ฝ่ายที่ยึดมือเขาไว้ก็ใช่จะยอมน้อยหน้า เมินโหยวผิงนาบริมฝีปากลงบนข้อมือบางก่อนไล่จูบขึ้นไปยังฝามือ แลบลิ้นเลียนิ้วเรียวเหมือนกับเลียไอศกรีมแท่งหวานก่อนดูดที่ปลายนิ้วเบาๆสร้างสัมผัสรัญจวนจนคนโดนลุกไล่ตัวสั่นสะท้าน
ไม่ต้องคิดแล้วว่าฉากต่อไปจะเป็นอย่างไร
“อื้อๆ!!” เหยื่อตัวน้อยของสองนักล่าร้องประท้วงในลำคอ พยายามบอกให้เฮยเสียจื่อที่รุกจูบไม่หยุดถอยออกไป ขืนจูบนานกว่านี้เขาขาดอากาศหายใจตายก่อนแน่!
ริมฝีปากถอนออกอย่างแช่มช้าเหมือนกับสุดจะเสียดายปล่อยให้ร่างเล็กหอบหายใจ โกยออกซิเจนเข้าปอดเป็นการใหญ่
“พวกนาย ทำ อะไร” อู๋เสียพยายามเรียบเรียงคำพูดเอ่ยถามออกมา แต่แทนที่จะได้คำตอบ ฝ่ายที่ตอนแรกสาละวนอยู่กับการไล้โลมมือเขาก็ออกแรงกระซากคอเสื้อเขาเต็มแรงให้เข้าไปใกล้ เปลี่ยนเป้าหมายโลมเลียจากมือเป็นลำคอขาวแทน
“ก็นายน้อยบอกว่าถ้าไม่สูบบุหรี่จะเหงาปาก ฉันก็เลยช่วยไง แค่เปลี่ยนจากการสูบบุหรี่เป็นจูบเท่านั้นเอง” ว่าไปพลางเจ้าคนฉวยโอกาสจูบเขาเสียจนหวิดตายเมื่อครู่ก็สอดมือหนาเข้าไปใต้เสื้อลูบไล้ผิวกายแผ่วเบาจุดไฟอารมณ์ให้ลุกโชนขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าฟุ้งซ่านจนเครียด ทำอย่างนี้ก็ไม่ฟุ้งซ่านแล้ว” นี่มันตรรกะโลกไหนของนายวะจางฉี่หลิง!!!!!!! นายแว่น!!!!!!!! อู๋เสียอยากจะกรีดร้องออกมาแบบนี้ แต่ติดที่ว่าตอนนี้นอกจากส่งเสียงครางอื้ออึงเพราะความเสียวซ่านจากริมฝีปากของเมินโหยวผิงที่ขบเม้มสร้างรอยรักสีเข้มบนลำคอลามมาที่ไหล่ลาดและไหปลาร้า หนำซ้ำยังถูกมือของเฮยเสียจื่อลากไล้ไปมาหยอกล้อที่ยอดอกทั้งสองจนแข็งชัน
นี่ใครมันเป็นคนแกะกระดุมเสื้อเขาออกจนหมดวะ!! ไอ้เจ้าสองคนนี้! ฉวยโอกาสกันชัดๆ!!!
“นายก็ต้องเลิก” เมินโหยวผิงหยุดภารกิจสร้างรอยแต้มสีกุหลาบชั่วคราว หันมาพูดกับคู่หูที่ลงงานคว่ำกรวยด้วยกัน สายตาคมกริบจับจ้องยังบุหรี่ซึ่งยังถูกถืออยู่ในมือข้างหนึ่งของเฮยเสียจื่อ
ด้านเฮยเสียจื่อเหลือบมองมะเร็งอัดแท่งที่ตนเองถืออยู่เพียงวูบเดียวก่อนโยนลงพื้นพร้อมขยี้ดับอย่างไม่เสียดายจากนั้นใช้สองมือช้อนตัวคนถูกฉวยโอกาสขึ้นมานั่งแยกขาบนโต๊ะแล้วจัดการปลดตะขอกางเกงยีนส์ทิ้งอย่างง่ายดายก่อนใช้ฟันงับซิปกางเกงดึงลงมาช้าๆจนเผยให้เห็นเนื้อผ้าสีเข้มของบ็อกเซอร์ที่อู๋เสียสวมอยู่
“อ๊ะ! อา…” เสียงครางหวานหลุดลอดออกจากลำคอสะท้อนไปทั่วร้านเมื่อถูกกดจูบที่บริเวณเป้ากางเกงแรงๆ ร่างเล็กเริ่มดิ้นพล่านพยายามขัดขืนไม่ให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้
ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไร้ผล….
ข้อมือทั้งสองถูกรวบจับ ร่างถูกเอนลงนอนบนโต๊ะด้วยฝีมือคนที่ยังบรรจงสร้างรอยรักบนผิวขาวไปทั่วร่างของเขา
“งานนี้หนักหน่อยนะ เพราะฉันก็ต้องเข้าคอร์สเลิกบุหรี่พร้อมกับนายน้อยเหมือนกัน” เฮยเสียจื่อกระซิบเสียงแหบพร่าบอกในขณะที่คนริเริ่มให้ทั้งคู่เลิกบุหรี่หันมากดจูบหนักที่ริมฝีปากของเขาอีก
….รู้งี้หาวิธีเลิกบุหรี่เองดีกว่า…. นั่นคือความคิดสุดท้ายที่อู๋เสียคิดได้ก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้คิดอะไรอีกเลยไปตลอดบ่ายวันนั้นลากยาวไปจนถึงเช้าวันต่อมา
[FIN] (26.10.2557)
By : จิ้งจอกแดงสกุลเฮย…
_______
บ่ายวันนี้อากาศดี ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าจัดชวนแสบตา ขนาดมองผ่านกระจกหน้าต่างที่ถูกฉาบด้วยฝุ่นหนาเป็นนิ้ว สีฟ้าสดใสก็ไม่หม่นหมองลงไปเลยซักนิด เมฆขาวลอยกระจายตัวเป็นหย่อมๆ ช่างเป็นวันที่สงบสุขเสียนี่กระไร…….
ออกจะสงบสุขเกินไปสักนิดเสียด้วยซ้ำ….
นายน้อยสามแห่งสกุลอู๋หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เทียนเจินอู๋เสีย” กำลังเครียดและหงุดหงิดจนถึงขีดสุด สาเหตุก็ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะตัวเลขสีแดงที่ปรากฏเด่นชัดอยู่บนหน้าสมุดบัญชีค่าใช้จ่ายร้านและสมุดบัญชีธนาคารของเขา
เชี่ยมแม่เอ้ย!!! เดือนนี้วิกฤติมาก! วิกฤติสุดๆ! วิกฤติแบบฉิบหาย!!!!
อู๋เสียกรีดร้องในใจพลางพลิกสมุดบัญชีด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างก็กดเครื่องคิดเลขอย่างรวดเร็วรุนแรงจนน่าหวาดเสียวว่ามันอาจจะได้สละชีพในหน้าที่ ณ วันนี้ก็เป็นได้
ไม่ผิด ตอนนี้นายน้อยสามของเรากำลังอยู่ในช่วงถังแตก อาจะเป็นเพราะพักนี้เขาหนีไปเที่ยวคว่ำกรวยกับพวกนายอ้วนบ่อยจนลืมนึกไปว่าตนเองต้องกลับมาค้าขายรวมถึงลืมนึกถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้แต่ละครั้งในการออกเดินทาง ทำให้บัญชีทุกบัญชีในมือของเขาตอนนี้มีแต่ตัวเลขสีแดงโชว์อยู่เต็มไปหมด
“เวรเอ้ย!! ค่าข้าวเดือนนี้จะเหลือมั้ยวะเนี่ย” ก่อนเส้นประสาทจะขาดผึงก็ต้องหาวิธีระบายอารมณ์เสียก่อน อู๋เสียตะโกนเสียงดังลั่นร้านพร้อมกับออกแรงปาสมุดบัญชีเล่มที่อยู่ใกล้มือที่สุดออกไปเต็มแรง
….โดยลืมไปว่าขณะนี้ร้านของเขายังเปิดทำการ รวมถึงประตูร้านนั้นไม่ได้ลงกลอนปิดล็อคเอาไว้
จังหวะที่หนังสือถูกปาออกไปแล้วนั้น ประตูร้านก็เปิดผางออก เล่นเอาคนปาอ้าปากค้างด้วยความช็อก ร่างสูงโปร่งตามเกณฑ์มาตรฐานผุดลุกขึ้นยืน แต่ก็ช้าไปแล้ว ตอนนี้ถึงอยากจะคว้าสมุดกลับมาก็ไม่มีทางทัน นี่นอกจากจะไม่มีเงินแล้ว ครั้งนี้เขายังทำลูกค้าหลุดมือไปเองอีก อู๋เสีย!! ไอ้โง่!! ไอ้คนทำอะไรไม่รู้จักคิด!!!
ยังนับว่าโชคชะตาเข้าข้างที่คนที่เปิดประตูออกนั้นไม่ใช่คนที่จะมาเป็นลูกค้าร้านเขา และก็ไม่ใช่พวกง่อยเปลี้ยขนาดจะปล่อยให้สมุดเล่มหนึ่งปลิวมากระแทกหน้ามาทำร้าบแว่นกันแดดสีดำทึมทึบที่สวมอยู่ได้
“เล่นอย่างนี้มันอันตรายนานายน้อย ไม่ต้อนรับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” นายแว่นดำ เฮยเสียจื่อ รับเอาสมุดบัญชีไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่สันของมันจะทำร้ายแว่นกันแดดของเขาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงจนน่าหมั่นไส้ ฝ่ายอู๋เสียเมื่อเห็นว่าคนเปิดประตูเป็นใครก็ถึงกับถอนหายใจพรืดเป็นช่วงยาวแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้อย่างหมดแรง
“มาทำไม กลับไปซะ” เขาปิดตาเงยหน้าขึ้นพูดกับเพดานแต่ก็ไล่คนที่ยืนอยู่ตรงประตูใช้สมุดต่างพัดพัดให้ตัวเองอยู่นั่นแหละ
“แหมๆ ยังไม่ทันได้ย่างเท้าเข้าร้านก็โดนไล่ซะแล้ว วันนายน้อยอารมณ์ไม่ดีเหรอ”
“เออ” ตอบแบบอย่างไม่ปิดบัง เขาเปิดตาขึ้นข้างหนึ่งเหลือบมองคนที่ยังยืนอยู่ตรงประตูแบบส่งๆ ถอนหายใจซ้ำอีกรอบแล้วล้วงมือเข้าไปในลิ้นชักล้วงเอาซองบุหรี่ที่สูบประจำออกมาคาบไว้
“เป็นอะไร” เป็นครั้งที่สองของวันที่อู๋เสียเกือบทำอุบัติเหตุใหญ่หลวงให้ชีวิต ในจังหวะที่เขากำลังจะจ่อไฟแช็กเพื่อจุดบุหรี่ เสียงทุ้มเรียบนิ่งไม่ต่างจากผิวน้ำแข็งหน้าหนาวก็ดังขึ้นเหนือศีรษะทำเอาตกใจจนเกือบปล่อยไฟแช็คที่ถืออยู่หล่นลงพื้น
เกือบแล้ว…เกือบทำไฟไหม้ร้านตัวเองแล้ว
อู๋เสียส่งสายตาค้อนวงใหญ่ให้คนที่อยู่ดีๆก็โผล่มายืนนิ่งๆอยู่ข้างๆแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวแล้วจึงจุดบุหรี่ ดูดเอาควันฉุนเตะจมูกเข้าปอดไปเฮือกใหญ่แล้วพ่นออกมา ควันสีเทาบางลอยเป็นสายในอากาศ เมื่อคลายปมอารมณ์ได้แล้วเขาจึงเอามือตบกองสมุดบัญชีตรงหน้าแทนคำตอบของคำถามเมื่อครู่
เมินโหยวผิง หรือชื่อจริงๆคือ จางฉี่หลิงหยิบเอาเล่มหนึ่งขึ้นมาพลิกแบบเร็วๆผ่านๆจนเหมือนว่าไม่ได้สนใจอ่านอะไรเลย แต่คำถามถัดมาที่ออกจากปากของเขาก็ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่
“เดือนนี้ไม่มีเงิน” แม่ง ช่วยบอกทีเถอะว่านายอ่านไอ้ที่พลิกๆๆหน้ากระดาษด้วยความเร็วแสงเมื่อกี้ทันได้ไง
“เห~ ที่แท้ก็เครียดเพราะถังแตกนี่เอง” เหมือนกับนายเมินโหยวผิง นายแว่นโผล่มานั่งอยู่บนโต๊ะของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หนำซ้ำซองบุหรี่ที่เขาวางทิ้งเอาไว้ก็ไปอยู่ในมืออีกฝ่ายแล้ว
“หุบปากไปนายแว่น” เขาว่าให้อีกก่อนพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกระลอก ต้องยอมรับว่าสองคนนี้โผล่มาได้เวลาอยู่ เกรงว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองต้องรบกับรายรับ-รายจ่ายมากกว่านี้มีหวังเขาสติแตกตายแน่ๆ
“ถ้าไม่มีเงินกินข้าวให้ฉันช่วยไหมนายน้อย” ไม่พูดเปล่ามือก็ลูบไล้ไปตามรูปหน้าของอู๋เสีย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชวนให้หนาวสะท้านฉายประดับขึ้นบนใบหน้าคม แม้จะมองไม่เห็นดวงตาที่อยู่ใต้แว่นกันแดดแต่เขาก็พอเดาได้ว่าดวงตาของอีกฝ่ายคงเป็นประกายวาววับอยู่แน่ๆ
ประกายวาววับด้วยความหื่นกามอย่างแน่แท้ด้วย!
คนโดนเกี้ยวปัดมือที่เริ่มไล้ลามลงมาที่คอของตนออกด้วยความสยอง ก่อนจะแยกเขี้ยวขู่พลางถามสวนกลับไปด้วย “ทำไม นายจะให้ฉันกู้หรือไง”
เฮยเสียจื่อหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอเบาๆ ใช้มือที่โดนปิดทิ้งไปรั้งคอของเขาให้เข้ามาใกล้พลางยื่นหน้าเข้าใกล้จนเกือบแนบชิดกัน
“คงไม่มีพอให้กู้ แต่ถ้าจ่ายเล็กๆน้อยตอบแทนความสุขที่นายน้อยให้ผมในคืนนี้ล่ะยังพอ อั่ก!!!” ยังพูดไม่ทันจบดีเฮยเสียจื่อก็โดนคว้าคอเสื้อแล้วโยนทิ้งไปแบบไม่ไยดี ร่างที่สูงกว่าคนออกแรงโยนร่วมๆห้าถึงเจ็ดเซนติเมตรลอยละลิ่วไปกระแทกฝาผนังร้าน อู๋เสียกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงอะไร แต่กลัวผนังร้านอันแสนซอมซ่อของเขาจะเกิดเลยร้าวขึ้นมา
ฝ่ายคนโยนอย่างเมินโหยวผิงกลับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสวัสดิภาพของคนที่ลอยไปนั่นหรือฝาผนัง ชายหนุ่มวางสมุดบัญชีสามเล่มที่หยิบไปอ่านลงข้างตัวอู๋เสีย ใบหน้าคมหล่อจนทำให้ลมหายใจสะดุดขาดห้วงยามมองยื่นเข้ามาใกล้จนหน้าผากแนบชิดกัน นัยน์ตาคมประหนึ่งตาเหยี่ยวสีเข้มเหมือนท้องน้ำไร้ก้นจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมของนายน้อยสาม
“อะ อะไรเหรอเสี่ยวเกอ” ใบหน้าของคนโดนจ้องกลายเป็นสีมะเขือเทศสุก อู๋เสียพยายามเบี่ยงสายตาหลบไปอีกทางระงับความเขินที่ตีพุ่งขึ้นมา
แย่ฉิบ! เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ แต่ทุกครั้งที่นายเรือพ่วงหน้าตายนี่เข้ามาใกล้ก็อดเขินไม่ได้ทุกที แม่ง!! แม่ง!! แม่ง!!
เขาตะโกนโวยวายอยู่ในใจก่อนจะเผลอหดคอหลับตาปี๋เมื่อต้นตอของความเขินเลื่อนใบหน้าไปด้านข้าง ริมฝีปากบางเย็นเฉียบแนบสนิทไปกับใบหู ก่อนจะกระซิบเสียงทุ้มต่ำชวนละลาย
“บุหรี่”
“หะ หา!?”
เมินโหยวผิงละใบหน้าออกมา มองบุหรี่ซึ่งกำลังเผาไหม้ตัวเองในปากของอู๋เสียอย่างเงียบๆ ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปดึงมันออกมาจากปากของอีกฝ่ายเงียบๆเช่นกัน เมื่อหันซ้ายแลขวาไม่เห็นที่เขี่ยบุหรี่เขาก็จัดการโยนมันลงกับพื้นแล้วใช้เท้าขยี้ดับ
“เฮ้ย!!!” คนสูบจัดที่โดนแบ่งบุหรี่ไปดับต่อหน้าต่อตาถึงขั้นลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ “พื้นร้านฉัน! เป็นรอยไหม้หมด!! ไม่…นั่นไม่ใช่ประเด็น!!! อยู่ดีๆมาบอกว่าบุหรี่แล้วแย่งของชาวบ้านไปดับอย่างนี้มันหมายความว่ายังไงจางฉี่หลิง!!!!”
คนหน้าตายที่ก็ยังคงตีหน้าตายต่อไปไม่สนใจเสียงโวยวายแว้ดๆแง้วๆของอู๋เสีย มือเอื้อมไปหยิบสมุดบัญชีเล่มที่อยู่ใกล้มือที่สุดมาแล้วจัดการพลิกทีละหน้า ทีละหน้าอย่างช้าๆให้อีกฝ่ายดูพร้อมแจกแจงเหตุผล
“ถ้าตัดค่าซื้อบุหรี่ออก จะมีเงินเหลือ”
“สรุปว่า~ จะให้นายน้อยเลิกบุหรี่เพื่อประหยัดเงินสินะ” เสียงยียวนกวนบาทากลับมาอีกครั้ง เฮยเสียจื่อที่ฟื้นกลับมาแล้วกลับมานั่งบนโต๊ะท่าเดิมเป๊ะกับตอนก่อนจะถูกประทุษร้าย บุหรี่ของเจ้าของร้านที่ตอนแรกถูกแย่งไปคาบไว้เฉยๆในปากตอนนี้กลับถูกจุดจนมีควันขโมงขึ้นมา หมอนี่มันไปหาไฟแช็กมาจากไหนกันวะ
“ไม่ได้ๆ ตัดค่าบุหรี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีบุหรี่ฉันต้องตายแน่ๆ” อู๋เสียรีบบอกปฏิเสธเป็นพัลวันพร้อมกับใช้มือหนึ่งยันโต๊ะไว้พยายามตะกายไปแย่งซองบุหรี่ของตนคืนจากหัวขโมยตัวแสบ แต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วจะได้แตะซองบุหรี่ตรงกระเป๋าเสื้อของทางนั้นเอวของเขาก็ถูกนายหัวขโมยนั่นโอบล็อคไว้แน่น ส่วนมือข้างที่เอื้อมไปก็ถูกเมินโหยวผิงจับเอาไว้
“ทำไม” คำถามสั้นง่ายเกือบได้ใจนั่นทำเอาคนถูกสั่งเลิกบุหรี่กระทันหันปวดหัวตึ้บ ส่วนเฮยเสียจื่อส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ
“หนึ่ง มีใครที่ไหนเขาให้เลิกบุหรี่ด้วยการงดสูบถาวรในทันทีบ้าง อย่างนี้ลงแดงตายกันไปข้างพอดี สอง ถ้าไม่มีบุหรี่ให้สูบตอนเครียดก็เตรียมหายาระงับประสาทไว้ให้ฉันได้เลย สาม ฉันเหงาปาก เพราะฉะนั้นคืนมาเดี๋ยวนี้นายแว่น!!” ดูเหมือนความพยายามจะทำตัวเป็นเป็นนายน้อยที่ดีออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดกับคนอื่นของนายน้อยสามจะไม่ได้ผลเพราะทั้งนายเมินโหยวผิง ทั้งนายเฮยเสียจื่อไม่มีใครสนใจเขาเลย
เฮยเสียจื่อยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนในอ้อมแขนอีกครั้ง จัดการย้ายบุหรี่ที่คาบอยู่มาถือไว้ในมือข้างที่ว่างจากนั้นทาบริมฝีปากลงบดขยี้กับริมฝีปากนุ่มอย่างรวดเร็วเล่นเอาคนโดนจูบตั้งตัวไม่ทันตกใจตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก
ริมฝีปากร้อนระอุบดขยี้อย่างไม่คิดปรานีบังคับให้คนโดนรุกรานเปิดปากออก ลื้นซุกซนร้อนเร่าสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่มปลุกเร้าอารมณ์แล้วจึงกวาดไปรอบๆชิมความหวานที่ของหวานชนิดใดบนโลกก็ไม่อาจเทียบได้อย่างกระหาย
ฝ่ายที่ยึดมือเขาไว้ก็ใช่จะยอมน้อยหน้า เมินโหยวผิงนาบริมฝีปากลงบนข้อมือบางก่อนไล่จูบขึ้นไปยังฝามือ แลบลิ้นเลียนิ้วเรียวเหมือนกับเลียไอศกรีมแท่งหวานก่อนดูดที่ปลายนิ้วเบาๆสร้างสัมผัสรัญจวนจนคนโดนลุกไล่ตัวสั่นสะท้าน
ไม่ต้องคิดแล้วว่าฉากต่อไปจะเป็นอย่างไร
“อื้อๆ!!” เหยื่อตัวน้อยของสองนักล่าร้องประท้วงในลำคอ พยายามบอกให้เฮยเสียจื่อที่รุกจูบไม่หยุดถอยออกไป ขืนจูบนานกว่านี้เขาขาดอากาศหายใจตายก่อนแน่!
ริมฝีปากถอนออกอย่างแช่มช้าเหมือนกับสุดจะเสียดายปล่อยให้ร่างเล็กหอบหายใจ โกยออกซิเจนเข้าปอดเป็นการใหญ่
“พวกนาย ทำ อะไร” อู๋เสียพยายามเรียบเรียงคำพูดเอ่ยถามออกมา แต่แทนที่จะได้คำตอบ ฝ่ายที่ตอนแรกสาละวนอยู่กับการไล้โลมมือเขาก็ออกแรงกระซากคอเสื้อเขาเต็มแรงให้เข้าไปใกล้ เปลี่ยนเป้าหมายโลมเลียจากมือเป็นลำคอขาวแทน
“ก็นายน้อยบอกว่าถ้าไม่สูบบุหรี่จะเหงาปาก ฉันก็เลยช่วยไง แค่เปลี่ยนจากการสูบบุหรี่เป็นจูบเท่านั้นเอง” ว่าไปพลางเจ้าคนฉวยโอกาสจูบเขาเสียจนหวิดตายเมื่อครู่ก็สอดมือหนาเข้าไปใต้เสื้อลูบไล้ผิวกายแผ่วเบาจุดไฟอารมณ์ให้ลุกโชนขึ้นยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าฟุ้งซ่านจนเครียด ทำอย่างนี้ก็ไม่ฟุ้งซ่านแล้ว” นี่มันตรรกะโลกไหนของนายวะจางฉี่หลิง!!!!!!! นายแว่น!!!!!!!! อู๋เสียอยากจะกรีดร้องออกมาแบบนี้ แต่ติดที่ว่าตอนนี้นอกจากส่งเสียงครางอื้ออึงเพราะความเสียวซ่านจากริมฝีปากของเมินโหยวผิงที่ขบเม้มสร้างรอยรักสีเข้มบนลำคอลามมาที่ไหล่ลาดและไหปลาร้า หนำซ้ำยังถูกมือของเฮยเสียจื่อลากไล้ไปมาหยอกล้อที่ยอดอกทั้งสองจนแข็งชัน
นี่ใครมันเป็นคนแกะกระดุมเสื้อเขาออกจนหมดวะ!! ไอ้เจ้าสองคนนี้! ฉวยโอกาสกันชัดๆ!!!
“นายก็ต้องเลิก” เมินโหยวผิงหยุดภารกิจสร้างรอยแต้มสีกุหลาบชั่วคราว หันมาพูดกับคู่หูที่ลงงานคว่ำกรวยด้วยกัน สายตาคมกริบจับจ้องยังบุหรี่ซึ่งยังถูกถืออยู่ในมือข้างหนึ่งของเฮยเสียจื่อ
ด้านเฮยเสียจื่อเหลือบมองมะเร็งอัดแท่งที่ตนเองถืออยู่เพียงวูบเดียวก่อนโยนลงพื้นพร้อมขยี้ดับอย่างไม่เสียดายจากนั้นใช้สองมือช้อนตัวคนถูกฉวยโอกาสขึ้นมานั่งแยกขาบนโต๊ะแล้วจัดการปลดตะขอกางเกงยีนส์ทิ้งอย่างง่ายดายก่อนใช้ฟันงับซิปกางเกงดึงลงมาช้าๆจนเผยให้เห็นเนื้อผ้าสีเข้มของบ็อกเซอร์ที่อู๋เสียสวมอยู่
“อ๊ะ! อา…” เสียงครางหวานหลุดลอดออกจากลำคอสะท้อนไปทั่วร้านเมื่อถูกกดจูบที่บริเวณเป้ากางเกงแรงๆ ร่างเล็กเริ่มดิ้นพล่านพยายามขัดขืนไม่ให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้
ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไร้ผล….
ข้อมือทั้งสองถูกรวบจับ ร่างถูกเอนลงนอนบนโต๊ะด้วยฝีมือคนที่ยังบรรจงสร้างรอยรักบนผิวขาวไปทั่วร่างของเขา
“งานนี้หนักหน่อยนะ เพราะฉันก็ต้องเข้าคอร์สเลิกบุหรี่พร้อมกับนายน้อยเหมือนกัน” เฮยเสียจื่อกระซิบเสียงแหบพร่าบอกในขณะที่คนริเริ่มให้ทั้งคู่เลิกบุหรี่หันมากดจูบหนักที่ริมฝีปากของเขาอีก
….รู้งี้หาวิธีเลิกบุหรี่เองดีกว่า…. นั่นคือความคิดสุดท้ายที่อู๋เสียคิดได้ก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้คิดอะไรอีกเลยไปตลอดบ่ายวันนั้นลากยาวไปจนถึงเช้าวันต่อมา
[FIN] (26.10.2557)
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
อะเฮื่ออออออออ อะไรจะหนักหน่วงปานนั้น
จะเลิกบุหรี่ทีนี่... นายน้อยโดนจัดหนักเลย
นี่ใช้ตรรกะอะไรคะ สงสัยเหมือนนายน้อยอะ
คือวิธีเลิกบุหรี่แบบนี้มัน ฟหกด่าสวฟหกด่าสว
โง่ยยยยยย ช่างเป็นบ่ายอันยาวนาน ข้ามคืนกันไปเลย -////-
จะเลิกบุหรี่ทีนี่... นายน้อยโดนจัดหนักเลย
นี่ใช้ตรรกะอะไรคะ สงสัยเหมือนนายน้อยอะ
คือวิธีเลิกบุหรี่แบบนี้มัน ฟหกด่าสวฟหกด่าสว
โง่ยยยยยย ช่างเป็นบ่ายอันยาวนาน ข้ามคืนกันไปเลย -////-
13Fchibiice- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 4
Points : 3484
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
ตายแล้วๆ นายน้อยคะ งานนี้มีหวังเลิกบุหรี่ไปติดอกติดใจอย่างอื่นแน่ๆ
แต่ตาเมินนี่ก็ความคิดดีนะคะ นายแว่นก็รีบสานต่อเชียว
พวกนายมันเป็นคู่หูคู่หื่นที่ไม่เห็นใจนายน้อยเลย 5555555555555
อ่านแล้วใจเต้นไปกับความเกือบเรทเหลือเกินค่ะ อ่า... รู้สึกฟิน
ขอบคุณฟิคฟินกำเดาไหลด้วยค่า
แต่ตาเมินนี่ก็ความคิดดีนะคะ นายแว่นก็รีบสานต่อเชียว
พวกนายมันเป็นคู่หูคู่หื่นที่ไม่เห็นใจนายน้อยเลย 5555555555555
อ่านแล้วใจเต้นไปกับความเกือบเรทเหลือเกินค่ะ อ่า... รู้สึกฟิน
ขอบคุณฟิคฟินกำเดาไหลด้วยค่า
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
เลิกบุหรี่แบบฮาร์ดคอร์มาก 55555
นายแว่นกับนายเมินทำได้ดีมาก
เอาเรื่องเลิกบุหรี่มาอ้างล่ะสิ
นายแว่นกับนายเมินทำได้ดีมาก
เอาเรื่องเลิกบุหรี่มาอ้างล่ะสิ
ngohungmint- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 4
Points : 3483
Join date : 28/10/2014
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
เลิกบุหรี่แบบนี้ก็ได้กำไรสินะ555+
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3971
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
อื้อหืออออออออออออออ เลิกบุหรี่กันอย่างนี้ ตายสิคะ ตายยยยยยยยยย//ด้วงดิ้นแหง่กๆๆ
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3952
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
แอร๊ยยยยยยยยยย
3Pคือพลัง //มรั่ย! เอ๊ะหรือใช่ ถถถถถ
3Pคือพลัง //มรั่ย! เอ๊ะหรือใช่ ถถถถถ
Narakas- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 263
Points : 3851
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
เลือดแทบพุ่งงงค่ะ
งานนี้นายน้อยขาดทุนอยู่คนเดียวไหนจะต้องเลิกบุหรี่ไหนตะต้องถูกสองคนนั้นรุม!?
นายแว่นก็ได้กำไรอยู่นะเลิกบุหรี่แต่ได้กินของหวานแทนนับว่าคุ้ม ฮ่าๆ
ส่วนเสี่ยวเกอแฮปปี้สุดบุหรี่ก็ไม่ต้องเลิกเพราะไม่ได้สูบแถมได้กินนายน้อยอีก อะไรจะฟินขนาดนี้
งานนี้นายน้อยขาดทุนอยู่คนเดียวไหนจะต้องเลิกบุหรี่ไหนตะต้องถูกสองคนนั้นรุม!?
นายแว่นก็ได้กำไรอยู่นะเลิกบุหรี่แต่ได้กินของหวานแทนนับว่าคุ้ม ฮ่าๆ
ส่วนเสี่ยวเกอแฮปปี้สุดบุหรี่ก็ไม่ต้องเลิกเพราะไม่ได้สูบแถมได้กินนายน้อยอีก อะไรจะฟินขนาดนี้
janejana- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 25
Points : 3505
Join date : 27/10/2014
Age : 34
ที่อยู่ : เกาะอยู่บนหลังนายน้อย
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
่เลิกบุหรี่แบบนี้ /เช็ดเลือด แปป
kame_kazuha- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 274
Points : 3755
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานสักที่
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
พี่เมิน พี่แว่น วิธีเลิกบุหรี่ที่ครีเอทแบบนี้ ไม่สามารถไปใช้แบบแพร่หลายนะคะ
สามารถได้แค่กลุ่มพี่ๆเท่านั้น
555+
สามารถได้แค่กลุ่มพี่ๆเท่านั้น
555+
sagacity191- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 53
Points : 3523
Join date : 06/11/2014
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
เป็นการเลิกบุหรี่ที่ฟินสุดดดดดค่ะ!!! ด้วงเกือบเป็นลม เฮืออกก
*ตั้งกล้องเงียบๆที่มุมห้อง* =..,=
*ตั้งกล้องเงียบๆที่มุมห้อง* =..,=
gaaraclub- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 81
Points : 3561
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋
Re: [OS] "เลิกบุหรี่" (ผิง*เสีย*แว่น) (เกือบNC....)
วิธีการเลิกบุหรี่แบบนี้ ดีงามมากคะ
เอาอีกเลยคะ
เอาให้ติดอย่างอื่นไปเลย
เอาอีกเลยคะ
เอาให้ติดอย่างอื่นไปเลย
kuramajoy- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 206
Points : 3781
Join date : 27/10/2014
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth