Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817*

3 posters

Go down

[OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817* Empty [OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817*

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Mon 29 Aug 2016, 08:19

小灵笔记
[บันทึกของเสี่ยวหลิง]
- Dream of the Unknown Future  -
Free paper for #Dmbjonly2
28.08.2016
Sinnerdarker





“ขาดเหลืออะไรอีกไหม? เสี่ยวหลิง”

ย่าใหญ่เอ่ยถามผม สีหน้าของท่านดูเป็นกังวล ดังนั้นผมจึงส่ายหัว  ยิ้มนิดๆ และเอ่ยตอบออกไป “ไม่มีแล้วฮะ ย่าใหญ่”

ผมกระชับกระเป๋า พยายามทำท่าที่คิดว่าทำให้ดูน่าเชื่อถือที่สุด แต่ดูเหมือนว่าคงไม่ได้ทำให้ท่านสบายใจ ดังนั้นย่าใหญ่จึงเดินอ้อมมาข้างหลังผม เปิดซิปตรวจดูข้าวของในกระเป๋าอีกครั้ง

“นี่..เสี่ยวหลิงจะสายแล้วนะ” ปู่ใหญ่ปรามย่าใหญ่ที่ตรวจดูข้าวของของผมเป็นครั้งที่สิบ ส่วนผมส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เพราะทราบดีว่าเหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้    ปู่ใหญ่จึงเพียงถอนหายใจ และยืนมองย่าใหญ่อยู่เงียบๆ

ย่าใหญ่ตรวจดูจนพอใจก็ปิดกระเป๋า เดินอ้อมกลับมายืนข้างๆ ปู่ใหญ่

“จะไปคนเดียวจริงๆหรือ? ให้ปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ไปส่งไหม?”

ปู่ใหญ่ถามผม ดูเหมือนว่าจะกังวลไม่แพ้ย่าใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมทราบดีว่าทำไมพวกท่านจึงเป็นกังวล ดังนั้นจึงเพียงส่ายหัวไปมา ยืนยันอีกครั้งว่าไม่เป็นไรจริงๆ
นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมจะเดินทางไปที่ไกลๆ คนเดียว

อันที่จริง การเดินทางคนเดียวครั้งแรกของผมไม่น่าจดจำนัก ค่อนข้างจะขลุกขลักและเต็มไปด้วยปัญหา เป็นเรื่องที่อยากฝังลืมไป แต่อย่างไรเสียเพราะเคยผ่านครั้งแรกมาแล้ว ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าครั้งนี้เองก็จะต้องไม่เป็นไรเช่นกัน

แต่ทั้งปู่ใหญ่ย่าใหญ่ก็ยังเป็นห่วงผมอยู่ดี

“ซานหลิง” น้ำเสียงเด็ดขาดเอ่ยกับผม “อย่าขึ้นรถไฟผิดสาย ตอนที่จะติดรถใครไปก็ดูดีๆ อยู่ในป่าในเขาใช่ว่าจะเชื่อถือได้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุให้ระวังตัวไว้ อย่าทำให้คนที่เชื่อใจแกต้องผิดหวัง เข้าใจไหม?”

“ครับ..ปู่รอง” ผมเอ่ยพึมพำ หดไหล่นิดๆ กลอกดวงตาขึ้นมองปู่รองที่กอดอก จ้องมองผมผ่านแว่นตาทรงกลม

หลายปีผ่านไป ผมเองก็โตขึ้นมาก แต่ยังไงก็ทำใจให้หายกลัวปู่รองไม่ได้อยู่ดี

ระหว่างนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรนุ่มๆ มาโดนขา พอมองลงไป ก็เห็นเสวี่ยไป๋ยืนไซร้ตัวอยู่กับขาผม

“แล้วจะรีบกลับมานะ เสวี่ยไป๋” ผมก้มลงไปลูบหัวมัน เสวี่ยไป๋ตัวใหญ่ขึ้นมาก แต่ยังขี้อ้อนไม่เปลี่ยน มันส่งเสียงร้องนิดหนึ่งคล้ายตอบรับผม ก่อนจะผละออกไปยืนแลบลิ้นอยู่ข้างๆ

“ระวังตัวล่ะ เสี่ยวหลิง” ปู่ใหญ่เอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะ ลูบศีรษะของผมเบาๆ จากนั้นย่าใหญ่ก็เดินมาลูบหน้าลูบตาผม พรอมกับปู่รองที่เพียบกดมือลงบนหัวผมเบาๆ

ผมโตขึ้นขนาดนี้ ทุกคนก็ยังคงเห็นผมเป็นเด็กอยู่ดี

ผมมองนาฬิกา ตกใจนิดหน่อยเมื่อเริ่มรู้ตัวว่ากำลังจะสาย ดังนั้นจึงย่อตัวลงลูบหัวเสวี่ยไป๋อีกรอบหนึ่ง และรีบวิ่งไปขึ้นรถที่จอดรออยู่

โดยไม่ลืมหันไปมองเหล่าครอบครัวที่ยืนส่งผมจนลับสายตา



+++++++++++++++++



ชื่อของผมคืออู๋ซานหลิง ทุกคนเรียกผมว่าเสี่ยวหลิง ผมเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลอู๋ เช่นเดียวกับเตี่ยของผม อู๋เสีย

อันที่จริง พอโตขึ้นไม่ค่อยมีใครเรียกผมว่าเสี่ยวหลิงแล้ว ทุกคนมักจะเรียกผมว่าอู๋ซานหลิง หรือไม่ก็แค่ซานหลิง แต่ถึงอย่างนั้น พวกปู่ใหญ่ย่าใหญ่และเตี่ยก็ยังเรียกผมเช่นนั้น

“อ๊ะ ถึงแล้วล่ะ” ผมรีบเอ่ยบอกคนที่ช่วยขับรถมาส่งผมที่สถานีรถไฟ รีบคว้ากระเป๋าเป๋ออกจากรถ ก่อนจะอ้อมไปคุยกับคนที่ขับรถมาส่งผม “ขอบคุณที่มาส่งนะฮะ อาฮัว”

“ไม่เป็นไร ฝากความคิดถึงถึงเตี่ยเสี่ยวหลิงด้วยแล้วกัน” อาฮัวว่ายิ้มๆ โบกมือให้ผม ส่วนเสี่ยวฮวาที่นั่งด้านหลังพองแก้มใส่ ดูเหมือนจะงอนเอามากๆ เลยทีเดียว..

ผมกะพริบตาปริบๆ รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ ดังนั้นจึงเอ่ยเรียกเขาเบาๆ

“เสี่ยวฮวา…”

“พี่ซานหลิงใจร้าย!” เสี่ยวฮวาร้องใส่ผม “ไปเที่ยวไม่บอกเสี่ยวฮวาเลย เสี่ยวฮวาก็อยากไปด้วย!”

“ไม่ได้หรอก..เสี่ยวฮวาต้องไปช่วยงานอาฮัวนี่” ผมบอกไปเสียงเบา เกาแก้มนิดๆ “อีกอย่างพี่ไม่ได้ไปเที่ยวนี่นา”

ผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวจริงๆ…แต่ไปเพื่อไปพบกับเตี่ยอู๋

ผ่านมาเกือบปีแล้ว นับจากวันที่เตี่ยย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ทางตอนใต้ของมณฑล  ฝูเจี้ยน

ตอนนั้นปู่ใหญ่คัดค้านเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรเตี่ยก็ยืนกรานืที่จะไป ตลอดมาเตี่ยเดินทางไปทั่วโลกโดยไม่มีใครติเตียน เพราะสุดท้ายอย่างไรก็ต้องกลับมาที่บ้าน แต่ในเวลานั้น เตี่ยต้องการย้ายไปที่ที่ไกลแสนไกล สำหรับปู่ใหญ่แล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรตัดสินใจอย่างรวดเร็วเช่นนี้

เท่าที่ผมจำได้ ปู่ใหญ่บอกว่าเตี่ยโตแล้ว ปู่ใหญ่ไม่เคยว่าเรื่องที่จะย้ายไปอาศัยที่ไหน แต่เตี่ยมีผม หากว่าเตี่ยย้ายไปอยู่ในป่าในเขา แล้วผมจะทำเช่นไร

เตี่ยบอกว่าจะพาผมไปด้วย ปู่ใหญ่จึงถามเพิ่มไปว่าเมื่ออยู่ในป่าเขา แล้วผมจะไปเรียนหนังสืออย่างไร ไหนจะเรื่องเพื่อนของผม เรื่องความสะดวกสบายในสถานที่แห่งนั้น
ผมจำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้ แต่ท่ามกลางการถกเถียงอันยาวนาน สุดท้ายก็ตกลงกันว่าเตี่ยจะย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านในหุบเขาแห่งนั้น ส่วนผมจะไปด้วยไม่ได้..เพราะยังต้องเรียนหนังสือ

เหตุผลนั้นเพียงข้อเดียวที่ทำให้เตี่ยและผมยินยอมที่จะแยกจากกัน

ผมย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่อย่างเป็นทางการ มีห้องส่วนตัวถาวรของตัวเอง ส่วนช่วงไหนที่มีวันหยุดยาวก็จะเดินทางไปอยู่กับเตี่ย พักด้วยสองสามวันแล้วกลับมาที่หังโจว

หากบอกว่าไม่เหงา..ผมคงจะโกหกตัวเองมากเกินไป แต่เพราะเตี่ยมักจะส่งจดหมายมา โทรหาเมื่อโอกาสอำนวย ดังนั้นความเหงาจึงไม่มากมายเหมือนเมื่อครั้งที่เตี่ยไปทิเบตโดยไม่บอกกล่าว

อีกอย่างหนึ่ง ถึงอย่างไรเมื่อมีวันหยุดผมก็สามารถไปหาเตี่ยได้ ดังนั้นผมจึง  ไม่เป็นไร

“พี่ซานหลิง”

ผมตื่นขึ้นจากภวังค์ มองเสี่ยวฮวาที่ยังขมวดคิ้วมองผม ดังนั้นผมจึงก้มหน้าลง ยกมุมริมฝีปากนิดๆแล้วว่าขึ้น

“เสี่ยวฮวา ถ้าคราวหน้าเราว่างตรงกัน พี่จะพาเราไปด้วยนะ ให้อาฮัวกับอาเฮยไปด้วย แบบนั้นได้ไหม”

เสี่ยวฮวาเหมือนคิดไปนิดนึง ก่อนจะพยักหน้า ฉีกยิ้มกว้างให้ผม “ได้ คราวหน้าหยุดตรงกัน เสี่ยฮวาจะไปกับพี่ซานหลิง พี่ซานหลิงต้องพาเสี่ยวฮวาไปด้วย สัญญาแล้วนะ!”

เสี่ยวฮวาว่าพลางยื่นนิ้วก้อยให้ผม พอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกอายนิดหน่อย แต่ก็ยกนิ้วขึ้น เกี่ยวก้อยกับเสี่ยวฮวา

แต่แล้วเสี่ยวฮวาก็คว้ามือผมไว้ทั้งมือ ดึงจนเสียหลักไปข้างหน้า

และจุ๊บแก้มผมเบาๆ

“!!” ผมผละออกมากุมแก้มหน้าแดง ส่วนเสี่ยวฮวายิ้มกว้างพออกพอใจมองหน้าผม บอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง “สัญญาแล้วน้า พี่ซานหลิง~~~~!”

“..ถ้าลากันเรียบร้อยแล้ว เตี่ยออกรถล่ะนะ” อาฮัวทำเป็นไม่เห็นการกระทำเมื่อครู่นี่ ออกรถไปโดยไม่ลืมกลั้นรอยยิ้ม ส่วนผมลูบแก้มตัวเอง หน้าร้อนฉ่าอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่ถึงจะรู้ตัว รีบวิ่งไปขึ้นรถไฟที่กำลังจะเทียบชานชะลา



+++++++++++++++++




การเดินทางยาวนานจนผมหลับไปหลายครั้งกว่าจะถึงที่หมาย พอตื่นมาตอนที่มีเสียงเตือนสถานีที่ผมจะลง ก็เป็นช่วงเวลาโพล้เพล้เสียแล้ว

ผมคว้าเป้ของตัวเอง วิ่งลงไปจากขบวนรถไฟ ก่อนจะสะพายกระเป๋าขึ้นหลัง กวาดสายตามองหาคนที่ควรจะมารับผมที่นี่

หมับ!

“ว่าไง เสี่ยวหลิง โตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย!”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลังพร้อมแขนหนักๆที่พาดลงบนไหล่ผม ผมรีบหันไปมอง เรียกคนที่ทักทายผมหนักๆ ด้วยน้ำเสียงยินดี “ลุงอ้วน”

“ลุงอ้วนเอง” เขายิ้มยิงฟันใส่ผม ตบป๊าบๆ ลงบนไหล่แล้วหัวเราะฮ่าๆ  “นี่ตกลงมาคนเดียวจริงๆ เหรอเนี่ย? ไอ้หยา  เสี่ยวหลิงของลุงอ้วนก็โตเป็นหนุ่มซะแล้ว มีสาวที่ไหนมาจีบบ้าง ลุงอ้วนจะได้เตรียมรับว่าที่เจ้าสาวให้”

“ลุงอ้วน…” ผมครวญเบาๆ ใส่คำทักทายของเขา แต่ดูเหมือนลุงอ้วนจะไม่ใส่ใจอะไร ตบหลังผมแล้วดันให้ออกเดิน  “ปะ รีบไปขึ้นรถ ใกล้ค่ำแบบนี้ลุงอ้วนก็ไม่แน่ใจว่าจะขับถึงหมู่บ้านทันไหม ”

ผมพยักหน้า รีบเดินไปตามที่ลุงอ้วนบอก ใกล้ค่ำเช่นนี้เดินทางขึ้นเขาไปลำบาก แต่ถ้าจะรอข้ามวัน แถวนี้ก็ไม่มีที่พักเช่นกัน

รถของลุงอ้วนเรียกได้ว่าบุโรทั่ง แต่ก็ยังพอขับได้ ถึงอย่างนั้นรถก็ยังไปได้ช้ามาก..ผมได้แต่กลัวว่ากว่าเราจะถึงที่นั่นก็คงค่ำเสียก่อน

อีกอย่างหนึ่ง ทางเข้าหมู่บ้านเป็นหลายช่วงรถขับผ่านได้แค่คันเดียว ข้างๆ เป็นผาหินลึกที่หากร่วงลงไปคงไม่มีโอกาสรอด ถึงจะมากี่ครั้งแล้วผมก็ยังไม่ชิน ดังนั้นจึงกำสร้อยคอสำริดของตนและกอดกระเป๋าไว้แน่น ภาวนาให้ถึงที่หมายเร็วๆ

ลุงอ้วนพยายามเร่งเครื่อง แต่กลับไม่เร็วขึ้นมากนัก เขาโวยวายใส่ว่ารถเวรเอ๊ยบ้าง เศษขยะบ้าง ถ้ามีโอกาสจะซื้อใหม่บ้าง แต่ก็ยังต้องขับต่อไปอยู่ดี…
ตอนที่มาถึงหมู่บ้าน พระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว

ผมพรูลมหายใจ นึกขอบคุณที่สามารถมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง      ลุงอ้วนตรวจดูสภาพรถนิดหน่อยแล้วไล่ให้ผมไปหาเตี่ยก่อน ส่วนเขาจะออกไปแลกสิ่งของกับชาวบ้านนิดหน่อย เพราะวันนี้จะทำอาหารเลี้ยงผม

พอได้ยินแบบนั้น ผมก็พยักหน้าหงึกๆ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จากนั้นก็วิ่งไปที่บ้านของเตี่ย และไม่ลืมทักทายพวกชาวบ้านที่รู้จักผมอย่างคุ้นเคย

บ้านของเตี่ยสร้างขึ้นจากดิน หลังไม่กว้างมากนัก แต่ก็พออยู่กันได้ซักครอบครัวหนึ่ง ดังนั้นแม้จะรวมผมกับลุงอ้วนไปด้วย จึงยังไม่นับว่าคับแคบไป

ผมรีบเดินเข้าไปทิ้งเป้ลงบนเก้าอี้ มองไปรอบบ้านครู่หนึ่งก็รู้ว่าเตี่ยำม่น่าจะอยู่บ้าน ดังนั้นจึงหยิบเพียงของจำเป็นออกจากกระเป๋า รีบวิ่งออกมาจากบ้าน ไปยังสถานที่ที่เตี่ยน่าจะอยู่

ระหว่างทาง ผมทักทายคนไปอีกมาก มีบางคนที่รั้งผมไว้เพราะตองการคุยด้วย พูดถึงของฝากจากในเมือง ผมจึงบอกว่าขอเอาเป็นพรุ่งนี้ เพราะจะรีบไปหาเตี่ย

ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ ปล่อยให้ผมวิ่งผ่านไป ไม่นานนัก ก็ไปถึงที่หมาย

ภายใต้แสงของกองเพลิงที่วูบไหว มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนก้อนหิน มองออกไปยังฟากฟ้าพร่างดาว

ผมหอบหายใจ แม้ในความมืดยามค่ำคืนเช่นนี้ ก็ยังคงจดจำได้

ผมสูดลมหายใจลึก รีบเร่งฝีเท้า ตะโกนออกไปเสียงดัง




“เตี่ย!”




เตี่ยสะดุ้ง หันมาหาผม ดวงตาเบิกน้อยๆ ก่อนจะยืนขึ้นอ้าแขนรอผมที่วิ่งเข้าไปหา


โดยไม่รู้ตัว แทนที่จะหยุด ผมก็โผใส่เตี่ย จนเราล้มโครมลงกับพื้นหญ้าไปด้วยกัน


“อุ่ก!”

“..ขอโทษฮะเตี่ย” ผมพึมพำบอกไป แต่ยังไม่ยอมปล่อยแขนที่กอดเตี่ยไว้

โตจนป่านนี้แล้ว ผมก็ยังกระโดดใส่เตี่ยแบบนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน …โตขนาดนี้แล้ว ผมก็ยังติดเตี่ยไม่หายจริงๆ

เตี่ยหัวเราะเบาๆ กอดผมกลับ บอกว่าเสี่ยวหลิงเก่งจริงๆ คราวนี้มาเองเสียด้วย ลูบหน้าลูบตาผมอยู่ครู่ใหญ่จนพอใจ แล้วจึงลูบหัวผมเบาๆ

ผมหลับตาลง ฟังเสียงหัวเราะที่แสนคิดถึงของเตี่ย สูดกลิ่นบุหรี่จางๆ ที่ติดเสื้อเตี่ยอยู่เสมอ…กอดร่างที่อบอุ่นซึ่งกำลังกอดผมกลับอยู่ตอนนี้

ผมคิดถึงเตี่ยมากจริงๆ

“..ซานหลิง?”

อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นแผ่วเบา ทำให้ผมชะงัก

ผมรีบผุดลุกขึ้น กะพริบตาปริบๆ มองตรงไปที่เขา

เขามองกลับมาที่ผม เงยหน้าขึ้นจากกองไฟ ใบหน้าของคนคนนั้นราบเรียบดังเช่นทุกครั้งที่เราเจอหน้ากัน

เราต่างจ้องมองหน้ากัน เงียบสงัด

เตี่ยมองผมที มองเขาที ก่อนจะหัวเราะออกมา พยักเพยิดให้ผมทักทายเขา

ผมรู้สึกอายนิดหน่อย จนป่านนี้แล้ว..ก็ยังไม่ชิน

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังยิ้มออกมาเขินๆ และเอ่ยเรียกเขาออกไป..


“กลับมาแล้วฮะ เต....”

















“ซานหลิง!”

เฮือก!

ผมรีบผุดลุกขึ้น รู้สึกมึนงงนิดหน่อย “หลี่กวง..”

“เป็นอะไร? นอนไม่พอรึไงเมื่อคืน แปลกนะเนี่ยที่จะเห็นนายสลบเหมือดคาห้องเรียนแบบนี้” หลี่กวงท้าวคางจ้องหน้าผม ส่วนผมขยี้ตา ยังคงรู้สึกงัวเงียอยู่

“ไม่รู้เหมือนกัน…อาจจะเพลีย” ผมพึมพำตอบเขาไป “..ฝันแปลกๆ ด้วย”

ในฝัน..ผมโตขึ้นจากตอนนี้เกือบหกเจ็ดปี ตัวสูงกว่าเดิมอักโข

ในฝัน..ผมไม่ได้อยู่กับเตี่ยแล้ว แต่เราก็ยังคงสนิทกันมากๆ และที่นั่น..

มีใครอีกคนเพิ่มเข้ามา

ผมไม่รู้จักเขา จำได้ว่าไม่รู้จัก และไม่รู้ว่าเหตุใดจึงมาปรากฏในความฝันของผม

แต่ความรู้สึกในฝันตอนนั้น…

ผมคิดว่าผมชอบคนคนนั้นมากๆ แม้ว่าจะยังไม่ชินที่ต้องพบเขา แต่กลับชอบมากๆ

..เป็นใครกันนะ

ผมคิดเรื่องนั้นตลอดช่วงบ่าย แต่ไม่นานนักก็ลืมเลือนความฝันอันนั้นไป





ไม่มีใครบอกได้ว่านั่นจะเป็นความฝัน…
หรือภาพลางที่บอกถึงอนาคต




END


Talk:


สวัสดีค่ะ Sinnerdarker เองค่ะ คราวนี้ไม่มีบู๊ทเป็นของตัวเอง แต่ก็ยังอุตส่าห์บ้าปั่นฟิคฟรีเปเปอร์ออกมาเป็นเรื่องเป็นราวจนได้ค่ะ TvT

คราวนี้ก็ไม่ได้ออกเสี่ยวหลิงภาคหลักอีกแล้ว มีหลายๆ เหตุผลที่ยังเขียนไม่ได้ ทั้งเรื่องที่ซิงโครกับเสี่ยวหลิงลำบาก ทั้งเรื่องที่อยากรอภาคระหว่างสิบปีให้ออกมาชัดๆ ก่อน (ทั้งทิเบตและซาไห่..) การเขียนเรื่องราวคู่ขนานไปกับเรื่องต้นค่อนข้างลำบาก แต่เพราะอยากสร้างโลกที่ใกล้เคียงกับเรื่องหลักจริงๆ จึงได้แต่ตั้งใจรอต่อไปค่ะ

ส่วนเรื่องราวนี้อิงตามภาค 817 เป็นความฝันของเสี่ยวหลิงที่อาจจะเป็นจริงหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าทำให้ทุกท่านรู้สึกหายคิดถึงเสี่ยวหลิงบ้าง เราก็ดีใจนะคะ

ขอบคุณที่ยังคงรักและคิดถึงเด็กน้อยคนนี้ค่ะ 


Sinnerdarker
27.08.2016

++++++++++++++++++++++++++++++

สารบัญ "บันทึกของเสี่ยวหลิง"

บันทึกของเสี่ยวหลิง

-------ที่มา-------

[OS] The Last Moment [ผิงเสีย] [R18] *สปอยเล่มสิบ*

[OS] ของยึดเหนี่ยวอันไม่จีรัง [ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*

-------------เรื่องหลัก-----------

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (1) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (2) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] พี่ชายที่ไม่ยอมบอกชื่อ ~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (3) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง [Imply ผิงเสีย] (3.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] #dmbjdaily (บุหรี่) เลิกได้ไหม? [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (7) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  | บทคั่น : Black Space - I  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (Cool *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (11) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (12) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (13) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  | บทคั่น : Black Space - I  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (14) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (15) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (16) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (17) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*


----------ตอนพิเศษ--------------



[OS] #dmbjdaily (ป่วย) ความลับเวลาไม่สบาย [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] เรื่องของปู่ทวด [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[OS] #dmbjdaily (ประถม) แปดชั่วโมงที่ห่างกัน [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]

[OS] #dmbjdaily (เก้า) การรวมตัวที่ไม่รู้จุดประสงค์ [~~~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special ~~~] [All Character]

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) หน้าที่ของพี่ชาย [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา + เสี่ยวหลิง]

[Drabble] #dmbjdaily (น้องชาย) สิทธิ์ของคนเป็นน้อง [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา+เสี่ยวหลิง]

[Drabble] ~ว่าด้วยภาคซาไห่กับทรงผมใหม่ของอู๋เสีย~ [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[Drabble] ในวันที่อากาศหนาว [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817*

-----ตอนพิเศษหลังเจอเสี่ยวเกอ---------


[Drabble]~ครอบครัวสุขสันต์หลังเราพบกันที่ฉางไป๋ซาน~[บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย/เฮยฮัว]

[Drabble] #dmbjdaily (สำริด) ตลกหลายฉากของสองหนุ่มแห่งต้นสำริด [บันทึกของเสี่ยวหลิง+เหล่าหยาง]

[OS] #dmbjdaily (ทวินเทล) สาเหตุที่ยอมลงให้ [บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ / 10 Years Laters* [อัพเดท : FA by Zerin]


แก้ไขล่าสุดโดย sinnerdarker เมื่อ Sun 04 Sep 2016, 20:16, ทั้งหมด 1 ครั้ง
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4054
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817* Empty Re: [OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817*

ตั้งหัวข้อ by tamahome Mon 29 Aug 2016, 12:50

แงงงงงง ทำไมต้องเป็นแค่ฝันนน //กระซิกๆ
เสี่ยวหลิงเคยเจอกับเตี่ยอีกคนในฝันบ่อยๆอยู่แล้วนี่ลูก ยังไม่ชินอีกเหรอจ๊ะ~~~
เสี่ยวฮวายังคงรุกเสี่ยวหลิงเสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีสาวๆมาจีบหลานหรอกค่ะเสี่ย มีแต่เด็กน้อยผู้หนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลนี่แหละ /รึเพราะเจอฤทธิ์เสี่ยวฮวาเข้าไปเลยไม่มีหน้าไหนกล้าเข้ามาจีบกันนะ? 5555555

การเขียนเรื่องราวอิงกับภาคหลักช่างยากลำบากจริงๆด้วย ยิ่งเนื้อหาไม่นิ่ง ทั้งยังติดจะรีไรท์อีกรอบด้วยซ้ำ //ชอกช้ำ//
ขอโทษที่ทวงบ่อยๆนะคะ TTwwTT รอให้เนื้อหาช่วงนั้นนิ่งก่อนค่อยทวงใหม่ละกันเนอะ(...)
มารอไปด้วยกันน้า~~~
tamahome
tamahome
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 32
Points : 3504
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817* Empty Re: [OS] Dream of the unknown future [freepaper] [บันทึกของเสี่ยวหลิง] *สปอย 817*

ตั้งหัวข้อ by han-yanzi Fri 02 Sep 2016, 18:53

ถึงขนาดต้องสมัครเข้ามาเพื่อตอบกระทู้เลย
เป็นด้วงตัวใหม่ๆ เพิ่งฟัก แวะเข้ามาอ่านเจอฟิคในบอร์ด
แล้วอยู่ๆ ก็หลงไปอ่านบันทึกเสี่ยวหลิง แล้วก็ตกหลุมรักเจ้าหนูน้อยไปแล้ว
เข้ามาเป็นกำลังใจให้เสี่ยวหลิงนะคะ จะรอเสมอค่ะ รอภาคทิเบต ซาไห่ และรอเสี่ยวหลิงด้วย

han-yanzi
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 2
Points : 2796
Join date : 02/09/2016

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ