Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

+4
The_Dark_Lady
yakusoku
Yuwadee Wana
sinnerdarker
8 posters

Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Thu 30 Jul 2015, 23:13


บันทึกของเสี่ยวหลิง

-------ที่มา-------

[OS] The Last Moment [ผิงเสีย] [R18] *สปอยเล่มสิบ*

[OS] ของยึดเหนี่ยวอันไม่จีรัง [ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ*

-------------เรื่องหลัก-----------

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (1) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (2) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] พี่ชายที่ไม่ยอมบอกชื่อ ~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  (3) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง [Imply ผิงเสีย] (3.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (4.5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (5) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[OS] #dmbjdaily (บุหรี่) เลิกได้ไหม? [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (6) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (7) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง  | บทคั่น : Black Space - I  *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (Cool *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (9) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

----------ตอนพิเศษ--------------



[OS] #dmbjdaily (ป่วย) ความลับเวลาไม่สบาย [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] เรื่องของปู่ทวด [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[OS] #dmbjdaily (ประถม) แปดชั่วโมงที่ห่างกัน [อู๋เสีย+เสี่ยวหลิง]~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special~

[OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]

[OS] #dmbjdaily (เก้า) การรวมตัวที่ไม่รู้จุดประสงค์ [~~~บันทึกของเสี่ยวหลิง Special ~~~] [All Character]

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) หน้าที่ของพี่ชาย [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา + เสี่ยวหลิง]

[Drabble] #dmbjdaily (น้องชาย) สิทธิ์ของคนเป็นน้อง [บันทึกของเสี่ยวหลิง : เสี่ยวฮวา+เสี่ยวหลิง]

[Drabble] ~ว่าด้วยภาคซาไห่กับทรงผมใหม่ของอู๋เสีย~ [บันทึกของเสี่ยวหลิง]

[Drabble] ในวันที่อากาศหนาว [บันทึกของเสี่ยวหลิง]


-----ตอนพิเศษหลังเจอเสี่ยวเกอ---------


[Drabble]~ครอบครัวสุขสันต์หลังเราพบกันที่ฉางไป๋ซาน~[บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย/เฮยฮัว]

[Drabble] #dmbjdaily (สำริด) ตลกหลายฉากของสองหนุ่มแห่งต้นสำริด [บันทึกของเสี่ยวหลิง+เหล่าหยาง]

[OS] #dmbjdaily (ทวินเทล) สาเหตุที่ยอมลงให้ [บันทึกของเสี่ยวหลิง/ผิงเสีย] *สปอยเล่มสิบ / 10 Years Laters* [อัพเดท : FA by Zerin]


+++++++++++++++++++++++



(10)



วันนี้ผมไม่ได้ไปโรงเรียน

ย่าใหญ่ช่วยโทรไปลากับทางโรงเรียนให้ บอกว่าวันนี้ให้ผมอยู่บ้าน พักให้สบายใจก่อนจะดีกว่า ความจริงผมตั้งใจจะไปเรียน อยากไปขอโทษหลี่กวง แต่ย่าใหญ่บอกว่าผมตาแดงก่ำบวมฉึ่งน่ากลัวมาก นอนพักอยู่บ้านซักวันดีกว่า

พอผมมองตัวเองในกระจก ตาก็แดงน่ากลัวมากจริงๆ

ตอนนี้ ผมมาอยู่ที่บ้านใหญ่เรียบร้อยแล้ว ใช้ห้องเก่าที่เตี่ยเคยอยู่ ห้องของเตี่ยกว้างมาก แต่ว่ายังเล็กเมื่อเทียบกับห้องของปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ ถึงอย่างนั้นสำหรับผมที่เป็นเด็กแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ค่อนข้างจะกว้างไปอยู่ดี

อันที่จริง ก็กว้างก็ห้องที่ผมกับเตี่ยนอนด้วยกันด้วย

เมื่อวานนี้ ปู่ใหญ่หอบเสื้อผ้าจากที่บ้านมาเกือบหมด ยัดไว้ในตู้เสื้อผ้าเก่า ข้างในเหม็นอับพอสมควร แต่พอเปิดทิ้งไว้ไล่อากาศเสียหน่อยก็เริ่มดีขึ้น ปู่ใหญ่โยนลูกเหม็นกับกล่องปรับกลิ่นเข้าไป จากนั้นก็แขวนเสื้อผ้าผมเอาไว้ บอกว่าห้องนี้เป็นของผมแล้ว อยู่ให้สบาย

ผมเงยหน้ามองปู่ใหญ่ พยักหน้านิดๆ ไม่ได้พูดอะไร

เพราะว่าวันนี้หยุดอยู่บ้าน ผมเลยมีโอกาสได้นอนกลิ้งอยู่บนเตียงในห้องตัวเอง เสี่ยไป๋เองก็ปีนขึ้นมานอนกับผมด้วย ไม่รู้ทำไม ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านใหญ่ เสี่ยไป๋ก็อยู่กับผมแทบตลอดเวลา

แต่ว่าผมไม่อยากอยู่คนเดียว เพราะจะรู้สึกโหวงเหวงและรู้สึกกลัว ดังนั้นการที่มีเจ้าสุนัขขนฟูอยู่ด้วย ก็ช่วยผมได้มากจริงๆ

ระหว่างนี้ ผมพยายามไม่คิดถึงเรื่องเตี่ย เพราะถึงแม้จะร้องไห้ออกไปจนรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่พอคิดว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน พอคิดว่าเตียไปไหนไม่รู้ ไกลมากๆ และไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมา ก็รู้สึกแย่จนน้ำตาจะไหลออกมา

ผมคิดถึงเตี่ย

น้ำตาผมรื้นขึ้นมาจนได้ ดังนั้นจึงรีบขยี้ตาเช็ดออก แต่ก็ทำให้ตาที่บวมอยู่แล้วยิ่งเจ็บกว่าเก่า ก็เลยสูดลมหายใจลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาแทน

แต่พอไม่ได้ไปโรงเรียน ก็รู้สึกว่างมากๆ แต่พอคิดว่าจะไปอ่านหนังสือ กลับไม่รู้สึกว่าอยากจะอ่านเลยแม้แต่น้อย

ผมไม่มีความรู้สึกอยากจะทำอะไรเลย

ดังนั้นวันนี้จนผ่านไปครึ่งค่อนวัน ผมก็ยังคงนอนกลิ้งไปมาบนเตียง ไม่ได้ทำอะไร และเพราะเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาจึงลุกขึ้นจากเตียง กอดเสี่ยไป๋แล้วบอกว่าไปหาอะไรกินกันดีกว่า

พอเดินออกมาจากห้อง ก็เจอคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงระเบียง กำลังคุยกับปู่ใหย่อยู่ สีหน้าของคนคนนั้น กึ่งโกรธกึ่งร้อนใจ

อาฮัวนั่นเอง

“อาฮัว” ผมเรียกเขาออกไป ทำให้อาฮัวชะงัก อาฮัวใส่เสื้อ้ชื่ตสีชมพูตัวเก่ง แต่ว่าไม่ได้ใส่สูทกับเนกไทต์ แถมยังพับแขนเสื้อขึ้น เขาหันมาหาผม ท่าทางร้อนรน เหมือนกับจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ไม่ได้พูด อาฮัวแค่ถอนหายใจ เสยผมตัวเองแล้วสูดลมหายใจลึก ก้มลงยิ้มให้ผม ย่อตัวลงมาหา ลูบหัวเบาๆ

“ตาบวมเชียว ร้องไห้หรือเสี่ยวหลิง”

ผมมองใบหน้าของเขา พยักหน้าเบาๆ

“อาเพิ่งได้ข่าวว่าเตี่ยของเสี่ยวหลิงออกเดินทางไปที่เนปาลคนเดียว จึงรีบมา เราเป็นอะไรหรือเปล่า?” อาฮัวถามผม ยกมือของผมไปบีบเบาๆ ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

ผมส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร แต่คิดว่าตาที่ยังบวมฉึ่งของผมคงบอกว่าเป็นอะไร ดังนั้นอาฮัวจึงรวบผมไปกอด จากนั้นก็อุ้มขึ้นมา ผมเองไม่ได้รู้สึกต่อต้านอะไร ก็เลยปล่อยให้อาฮัวอุ้ม เป็นปู่ใหญ่ที่ตกใจตอนเขาอุ้มผมขึ้นมา แต่อาฮัวบอกว่าไม่เป็นไร อยากจะปลอบผมซักหน่อยด้วย

และเพราะผมกอดคอเขาไว้ ไม่ได้ผลักหรือขัดขืน ปู่ใหญ่จึงคลายความกังวลลงบ

ปู่ใหญ่ถามอาฮัวว่ารู้เรื่องที่เตี่ยไปเนปาลได้อย่างไร ก็ได้ความว่าเขาไม่เห็นเตี่ยติดต่อมาจึงให้ลูกน้องไปหาที่ร้าน จึงรู้ว่าเตี่ยเดินทางไปเนปาลเองคนเดียว

“ความจริง ผมควรไปด้วยกับเขา เราตกลงกันไว้แบบนั้น ไม่นึกว่าอู๋เสียจะหุนหันเดินทางไปคนเดียว” อาฮัวหยุดพูดไป ลูบมือลงบนหัวผม “แถมยังทิ้งเสี่ยวหลิงไว้คนเดียว ไม่ยอมบอกอะไรเสียด้วย”

ตอนที่ได้ยินแบบนั้น ผมก็รู้สึกเกร็งไปเบาๆ ดังนั้นจึงกอดไหล่อาฮัวเอาไว้

..เตี่ยไปโดยที่ไม่ยอมบอกผม

ความจริงนี้ยังทิ้งหนามทิ่มแทงอยู่ข้างใน ผมเศร้าที่เตี่ยไม่ยอมบอก เสียใจที่เตี่ยไม่ยอมพาผมไปด้วย

มีคำพูดที่ผมนึกคิดในใจ แต่ว่าไม่อยากคิดถึงมันอีก

อาฮัวเห็นว่าผมเงียบไป อาจจะสังเกตเรื่องที่ผมเกร็งน้อยๆ จึงลูบหลังผมเบาๆ ปู่ใหญ่มองผมสลับกับอาฮัว ก่อนจะถอนหายใจ

“..เรื่องนี้คงต้องคุยกันยาว เชิญคุณชายฮัวเข้ามาก่อนเถอะ ลุงจะให้เขาเตรียมน้ำชาไว้ให้” ปู่ใหญ่บอกพลางผายมือเชื้อเชิญอาฮัวให้เดินเข้ามา จากนั้นก็ชะงัก มองไปทางคนที่เดินตามเข้ามา

ผมเงยหน้าขึ้น เจอผู้ชายใส่ชุดแจกเก็ตหนังสีนดำใส่แว่นกันแดดเดินตามเข้ามา เขามองไปรอบบ้าน ก่อนจะโบกมือทักทายเมื่อเห็นผม

ปู่ใหญ่ดูไม่ไว้ใจคนข้างหลัง แต่อาฮัวก็ถอนหายใจ บอกไปว่าเป็นผู้ติดตามของตน ไม่มีอะไรต้องกังวล

หลังจากนั่งกันเรียบร้อย อาฮัวก็ปล่อยผมลงบนเก้าอี้ ย่าใหญ่เดินเข้ามหาผม บอกให้ไปเล่นด้วยกัน แต่อาฮัวบอกว่าให้ผมนั่งด้วยก็ได้ ผมควรจะรู้ว่าเตี่ยไปไหน

“เป็นเรื่องที่เสี่ยวหลิงฟังได้หรือ?”

“ผมไม่คิดเล่าถึงรายละเอียดลงลึก คิดว่าอู๋เสียคงไม่อยากให้คุณลุงทราบ แต่มีเรื่องที่เราต้องเข้าใจกัน และผมคิดว่าเสี่ยวหลิงควรจะรู้เรื่องนั้นด้วย”

ปู่ใหญ่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ให้ย่าใหญ่ออกไปจากห้อง ส่วนผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีเสี่ยไป๋เดินมาปีนขึ้นนั่งเบียดด้วยกัน

อาฮัวเล่าว่า เตี่ยตามหาเรื่องราวบางอย่างอยู่ เขาเองก็ร่วมค้นหามันด้วย ไม่นานมานี้ได้เบาะแสมาจึงส่งคนดังกล่าวให้ไปคุยกับเตี่ย เขาตั้งใจว่าจัดการเรื่องราวเสร็จจึงจะออกเดินทางไปด้วยกัน ไม่นึกว่าเตี่ยขะรีบร้อนเดินทางไปก่อนเขา

“ผมได้ยินว่าเขาติดต่อมา ได้บอกเรื่องอะไรนอกจากเหตุผลที่ไปถึงที่นั่นหรือเปล่าครับ?”

“ไม่เลย” ปู่ใหญ่ส่ายหัวไปมา “เขาโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่เนปาล ตามสืบร่องรอยบางอย่างอยู่ ให้ช่วยดูแลเสี่ยวหลิง แค่เท่านั้น ไม่ได้พูดอะไรอีก

“แม้แต่เรื่องที่ว่าจะกลับเมื่อไหร่?”

ปู่ใหญ่เงียบไป เป็นสัญญาณว่าไม่มีคำตอบให้ในเรื่องนี้ และอาฮัวเอง คงไม่ทราบเช่นกันว่าเตี่ยจะกลับมาเมื่อไหร่

อาฮัวถามต่อไปว่าเตี่ยได้ติดต่อกลับมาอีกรึเปล่า และปู่ใหญ่ก็ส่ายหัว

อาฮัวถอนหายใจเฮือก บอกว่าเขาจะลองตามรอยของเตี่ยดู หากมีอะไรจะติดต่อมา จากนั้นก็ขอตัวกลับ

ผมเดินออกไปส่งอาฮัวกับอาเฮย เงยหน้ามองเขา มีเรื่องที่อยากจะถาม แต่ว่าไม่กล้าถามออกไป อาฮัวเองเหมือนรู้ จึงก้มลงมาหาผม ถามว่าผมเป็นอะไร

“..อาฮัว เตี่ยไปเนปาลทำไม?”

เตี่ยไปเนปาลทำไม เพื่อสืบหาเรื่องราวหนึ่งอย่างนั้นเหรอิ? แต่ว่าเรื่องราวนั้น สำคัญถึงขั้นต้องทิ้งผมเอาไว้ จากไปโดยไม่ลังเลอย่างนั้นหรือ

นั่นเป็นสิ่งที่ติดค้างในใจผม

อาฮัวเงียบไป ลูบศีรษะของผม และเริ่มเอ่ยขึ้น

“เตี่ยของเสี่ยวหลิง..เขาไปติดตามเรื่องราวของคนคนหนึ่ง” อาฮัวหยุดไปเล็กน้อย “เตี่ยของเสี่ยวหลิงเป็นคนใสซื่อ ช่างอยากรู้อยากเห็น กระหายในปริศนา เรื่องอะไรที่เขาต้องการรู้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร จะต้องได้เห็นความจริง และยิ่งกับเรื่องของคนคนนี้..เตี่ยของเสี่ยวหลิงยิ่งปล่อยวางไว้ไม่ได้

เขาติดตามเรื่องนี้ราวกับถูกหลอกหลอน ชั่วชีวิตอาจไม่มีวันอยู่อย่างสงบตราบที่ปริศนาซึ่งรายล้อมรอบตัวคนคนนี้ยังไม่กระจ่างชัด เขาพร้อมที่จะทิ้งชีวิตของตัวเอง เพียงเพื่อจะติดตามร่องรอยเพียงน้อยนิดเหล่านั้น

..แต่ถึงขนาดไปโดยไม่บอกอากับเสี่ยวหลิง ก็ออกจะใจร้ายไปบ้างเหมือนกัน”

อาฮัวหัวเราะขื่น ในน้ำเสียงของเขามีความเสียใจซ่อนอยู่ “แต่อันที่จริง..อาก็ควรชินได้แล้ว”

ผมไม่เข้าใจคำว่า ‘ควรจะชินได้แล้ว’ ของอาฮัว แต่เขาเองก็ไม่ได้ขยายความ เพียงแค่ยิ้มให้ผม ลูบหัวต่อไป “เสี่ยวหลิงเองอย่ากังวล เรื่องราวของคนผู้นี้ สำคัญกับเตี่ยของเสี่ยวหลิงมากจริงๆ ชั่วชีวิตนี้สิ่งที่เขาเห็นว่าสำคัญจนต้องทิ้งหลานไปโดยไม่บอกกล่าว อาจจะมีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว”

ผมอยากรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร เหตุใดจึงสำคัญกับเตี่ยถึงเพียงนั้น แต่ว่าไม่ได้ทำอาฮัวต่อ

เขาเองก็ไม่คิดจะบอก เพียงแค่โบกมือลาผม จากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป


++++++++++++++


หลังจากนั้น ผมก็เอาแต่นอนกับเสี่ยไป๋จนย่ำเย็น และเพราะเห็นผมนอนเฉาอยู่ในห้อง ย่าใหญ่จึงพาผมไปที่ร้านของเตี่ย ไปหาอาหวังเหมิง

อาหวังเหมิงตกใจมากที่เห็นผม ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมส่ายหัวไปเชิงว่าไม่เป็นไร และถามอาหวังเหมิงกลับไปว่าเขาล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า

อาหวังเหมิงยิ้มแห้งๆ บอกว่าชินเสียแล้ว สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มผม เตี่ยก็ชอบออกเดินทางไปโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้เหมือนกัน บางครั้งเป็นเดือน บางครั้งเป็นปี เวลาผ่านมาถึงขนาดนี้ รับใช้คนคนนี้มาขนาดนี้ ก็กลายเป็นเรื่องปกติเสียแล้ว แต่ที่เขาตกใจ ก็เพราะเตี่ยไปโดยไม่บอกผม ทิ้งผมเอาไว้ อาหวังเหมิงเองก็คาดไม่ถึงว่าเตี่ยที่หวงผมมากขนาดนั้นจะทิ้งผมเอาไว้ได้

ผมเองก็ไม่คิดเหมือนกัน

แต่เพราะพอพูดถึงเตี่ย ผมก็เริ่มซึมไป อาหวังเหมิงจึงเริ่มลนลาน บอกผมว่าหนังสือที่ผมอยากอ่าน อาหวังเหมิงไปยืมมาให้ได้แล้ว จะเอาไปเลยหรือเปล่า

ความจริงตอนนี้ ผมไม่มีอารมณ์อยากอ่านหนังืสอเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะอาหวังเหมิงอุตส่าห็หามาให้ ผมจึงพยักหน้าไป ขอบคุณอาหวังเหมิงตอนที่เขายื่นหนังสือมาให้

ผมบอกย่าใหญ่ว่าอยากอยู่ที่ร้านซักพัก ย่าใหญ่จึงฝากผมไว้กับอาหวังเหมิง บอกว่าจะไปเดินเล่นซื้อของแถวนี้เสียหน่อย ซักชม.จะกลับมารับผม

ผมเดินไปที่หลังร้าน มองเก้าอี้ผ้าที่อยู่ในตำแหน่งเดิม ผมเดินเข้าไป ทิ้งตัวลงนอน รู้สึกนึกถึงชีวิตประจำวันของตน

ปกติแล้ว เวลานี้ ผมควรจะนอนอยู่ที่นี่ รอเตี่ยทำงานแล้วกลับบ้านพร้อมกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น

เตี่ยไม่ได้ทำงานอยู่ข้างนอก แต่ไปยังที่ไกลแสนไกลที่ผมตามไปไม่ถึง ม่รุ้ว่าเป็นยังไง และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา

พอคิดแบบนั้น น้ำตาก็รื้นขึ้นมา ผมสะบัดหัว ยกแขนปาดน้ำตาของตนออก ถึงตาที่บวมอยู่จะเริ่มยุบแล้ว ก็ยังรู้สึกแสบอยู่นิดๆ

ผมหยิบหนังสือของอาหวังเหมิงขึ้นมาอ่าน กะว่าจะช่วยทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่ทั้งที่มันเป็นหนังสือเล่มที่ผมรอมานาน ผมกลับไม่รู้สึกสนุกกับมันเลยแม้แต่น้อย

เพราะแบบนั้น ก็เลยวางหนังสือไว้ข้างตัว ทิ้งตัวลงเอนนอนกับเก้าอี้ รอเวลาให้ย่าใหญ่มารับกลับบ้านไป

เวลาผ่านไป ย่าใหญ่ก็กลับมาที่ร้าน แล้วเราก็กลับบ้านใหญ่ด้วยกัน



++++++++++++



พอกลับมาถึง ย่าใหญ่ก็ขอให้ผมรออยู่ในห้องนั่งเล่น บอกว่าจะไปเตรียมอาหารค่ำ ผมพยักหน้ารับย่าใหญ่ไป จากนั้น ก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้

ผมยกเข่าขึ้นมากอด วางคางไว้บนนั้นแล้วนั่งเงียบๆ ไม่รู้ว่าทำไม วันนี้ก็เป็นหนึ่งวันที่ผ่านไปอย่างยากเย็น

ผมรู้สึกคิดถึงเสี่ยไป๋ขึ้นมา ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน ผมอยากกอดมันไว้แน่นๆ เพราะพอทำแบบนั้น ก็รู้สึกสบายใจมขึ้น

พอคิดแบบนั้น ก็เลยถัดตัวลงมาจากเก้าอี้ เดินออกไปที่ระเบียง กะว่าจะตามหาเสี่ยไป๋ให้เจอ

ระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ในบ้านก็ดังขึ้น

กริ๊งงงงงง

ผมสะดุ้งสุดตัว มองไปที่โทรศัพท์บ้านที่วางอยู่บนตู้ ปกติแล้วที่บ้านเราไม่มีโทรสัพท์แบบนี้ เพราะเตี่ยมีโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมยืนนิ่ง รอให้มีใครมารับโทรศัพท์ แตว่าไม่มีใครออกมา แล้วโทรสัพท์ก็ยังดังอยู่อย่างนั้น ก็เลยเดินไปยกหูโทรศัพท์ขึ้น แล้วกรอกเสียงลงไป

“ฮะ…ฮัลโหล?”

“…เสี่ยวหลิง?”

พอได้ยินเสียง ผมก็นิ่งไป

เสียงนั้นเป็นเสียงที่ผมได้ยินมาตลอดชีวิต เป็นเสียงที่ทำให้หัวใจของผมสงบที่สุด เป็นเสียงที่ได้ฟังแล้ว ทำให้ผมสบายใจที่สุเ

..เสียงของเตี่ย

“เตี่ย….” ผมเรียกขาออกไป น้ำตารื้นออกมา ผมกลั้นสะอื้น ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา “เตี่ย…”

“อืม เสี่ยวหลิง เตี่ยเอง เป็นยังไงบ้าง อยู่ที่บ้านใหญ่เหรอ”

“อืม..อยู่กับปู่ใหญ่” ผมพยักหน้าทั้งที่ฝั่งนั้นมองไม่เห็น น้ำตายังคงไหลลงมาเรื่อยๆ และผมก็ได้แต่ปาดมันออก “เตี่ย…”

“ทำไมร้องไห้ขนาดนั้นล่ะ คิดถึงเตี่ยเหรอ?”

“คิดถึง…” ผมพึมพำไป “เตี่ย..คิดถึงเตี่ย เตี่ยจะกลับมาเมื่อไหร่..”

เตี่ยเงียบไป ก่อนจะบอกผมเสียงเบา “..เตี่ยยังไม่กลับเร็วๆ นี้หรอก แต่คงไม่เกินสองสัปดาห์ จะติดต่อมาเรื่อยๆ โชคดีที่ทางนี้มีสัญญาณ ไม่อย่างนั้นคงโทรไปหาลำบาก เตี่ยจะโทรหาเสี่ยวหลิงบ่อยๆ นะ”

“อืม..” ผมพยักหน้าอีกครั้ง “เตี่ย…ทำไมเตี่ยไปไม่ยอมบอกผมล่ะ..”

‘อะไรกัน เตี่ยเขียนจดหมายบอกไว้ที่บ้านแล้วไม่ใช่เหรอ?’

พอเตี่ยพูดแบบนั้น ผมก็ชะงัก ส่ายหัวไปมา “ไม่มี..ไม่เห็นเลย”

“ที่จริง..เตี่ยบอกเสี่ยวหลิงแล้วว่าจะไป แต่บอกตอนเช้า แวเตี่ยกลัวเสี่ยวหลิงตกใจที่ไม่เห็นเตี่ยก็เลยเขียนกระดาษทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่น บอกว่าเตี่ยจะไปทำงาน ให้ไปอยู่กับปู่ใหญ่ก่อน”

“..ในห้องนั่งเล่น” ผมปาดน้ำตา นึกถึงห้องนั่งเล่นที่บ้านเรา มันมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่

“….คงจะปลิวหายไปแล้วสินะ”

น้ำเสียงของเตี่ยฟังดูระอา ทำให้ผมหัวเราะออกมานิดหน่อย จากนั้น เราก็คุยกันต่อ เตี่ยถามว่าผมมายอู่บ้านปู่ใหญ่หลับสบายดีหรือเปล่า นี่ร้องไห้ไปเท่าไหร่กันแน่ ถามด้วยว่านอนยู่ห้องไหน ใครพาไปส่งที่โรงเรียน

ผมบอกเตี่ยไปว่าหลับสบายดี แต่จะสบายดีจริงหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ เมื่อวานนี้ผมร้องไห้จนเพลียหลับไป ส่วนวันนี้ก็ต้องนอนคนเดียว ไม่แน่ใจว่าจะหลับลงหรือเปล่า

เตี่ยบอกว่าเตี่ยไปเนปาลแล้ว ตอนนี้จัดการเรื่องราวอะไรอยู่อีกนิดหน่อย ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็อาจจะไดเกลับเร็วกว่าที่คิด

นอกจากนี้ เตี่ยยังบอกว่า ที่จริงเตี่ยเคยเปรยกับผมไว้แล้วว่าจะไม่อยู่ แต่ผมจำไม่ได้ว่าตอนไหน

“เตี่ยถามเสี่ยวหลิงว่า เตี่ยจะไปที่ที่ไกลมากจนกลับมาไม่ได้ภายในวันเดียว ให้ไปอยู่กับปู่ใหญ่ก่อน เสี่ยวหลิงจะอยู่ได้ไหม แล้วเสี่ยวหลิงก็พยักหน้า”

“เตี่ยถามผมตอนไหน….”

“ตอนที่กำลังจะเข้านอน”

“…” ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเตี่ยดี ตอนนั้นผมคงงัวเงียมากๆ จนเออออไปทุกอย่าง แล้วพอตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

สรุปคือ เตี่ยไม่ได้ไปโดยไม่บอกผม เตี่ยเปรยกับผมไปแล้วว่าจะไปไกลมากๆ แต่ผมเองดันง่วงจนจำไม่ได้ แล้วเพราะต้องรีบไปจึงไม่ได้บอกผมชัดเจนว่าเมื่อไหร่ และอันที่จริง เตี่ยก็ทิ้งกระดาษบอกผมไว้บนโต๊ะ แต่เพราะลมพัดแรง ตอนที่ผมไปถึงบ้าน ก็คงปลิวหายไปแล้ว

เวลาแบบนี้ ผู้ใหญ่คงจะเรียกว่า ร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออกกระมัง เพะตอนนี้ผมรู้สกอยากจะร้องไห้ แต่ก็อยากหัวเราะเหมือนกัน

“..เตี่ย รีบกลับมาได้ไหม” ผมบอกเตี่ยไปแบบนั้น รู้ดีว่ารีบกลับมา ทั้งอย่างนั้น เตี่ยก็ยังหัวเราะเบาๆ บอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “…เตี่ยจะรีบจัดการทุกอย่างแล้วกลับไปนะ ตกลงไหม?”

“สัญญา?”

“สัญญา”

ผมปาดน้ำตา เผลอยื่นนิ้วก้อยออกไปทั้งที่ปลายสายอาจไม่เห็น เตี่ยสัญญาแล้วว่าจะรีบกลับมา ถ้าอย่างนั้น ผมก็ต้องอดทนรอ

ไม่รู้ทำไม แค่ได้ยินเสียงเตี่ย แค่ได้คุยกันไม่กี่นาที ความรู้สึกแย่ๆ ที่ลอยวนตลอดหลายวันที่ผ่านมา ก็หายไปในพริบตา

พวกเราคุยกันต่ออีกซักพัก เตี่ยก็บอกให้ไปตามปู่ใหญ่มาคุยด้วย พอปู่ใหญ่มาก็เอ็ดเตี่ยไป บอกว่าเป็นพ่อยังไงถึงทิ้งลูเอาไว้พอดุจนพอใจก็เริ่มถามว่าทางนั้นเป็นยังไงบ้าง คุยกันไม่นานก็วางสายไป

จากนั้น ผมก็ถูกย่าใหญ่เรียกไปอาบน้ำ ออกมาทานข้าวล้อมโต๊ะด้วยกัน แล้วก็เข้านอน

ผมนอนอยู่ในห้องคนเดียว รู้สึกเหงาและกระสับกระส่าย ก็เลยเดินไปหาปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ บอกว่าขอนอนด้วยได้ไหม

ปู่ใหญ่กับย่าใหญ่หัวเราะ บอกว่าลืมไปว่าผมยังโตไม่พอ จากนั้นก็ขยับผ้าห่ม ให้ผมขึ้นไปนอนด้วย

แล้วผมก็หลับไป


เช้าวันถัดมา ผมไปโรงเรียนตามปกติ พอไปถึงก็วิ่งไปหาหลี่กวงเป็นคนแรก เล่าทุกอย่างให้เขาฟัง

พอฟังทุกอย่างไปแล้ว เขาก็ถามว่าผมเป็นยังไงบ้าง ผมบอกไปว่าตอนแรกรู้สึกแย่มาก แต่เมื่อวานเตี่ยโทรมาหา ก็เลยรู้สึกดีขึ้นแล้ว

หลี่กวงมองผม จากนั้นก็ยื่นมือมาหยิกแก้ม

“เจ็บนะ!”

“วันหลังมีอะไรก็พูดออกมาเหมือนที่นายร้องว่าเจ็บสิ!” หลี่กวงพูดแล้วแลบลิ้นใส่ผม บอกว่าเขาเป็นห่วงผมมาก ที่ไม่มาคุยด้วยเพราะกลัวว่าจะเผลออารมณ์เสียใส่ผม

พอได้ยินแบบนั้นก็กะพริบตาปริบๆ เอื้อมมือไปกอดเขาแน่นๆ บอกว่าขอบคุณมาก ผมมีเพื่อนที่ดีมากจริงๆ

หลี่กวงเหมือนจะเขิน เขาดึงตัวผมออก สะบัดหน้าไปทางอื่น บอกว่าเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนทำกัน

แต่ว่าผมมีเพื่อนที่สนิทมากๆ แค่หลี่กวง เขาไม่เกลียดแถมเป็นห่วงผม ผมก็ดีใจมากแล้ว

จากนี้ไป ผมไม่แน่ใจว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้เจอเตี่ยอีก แต่ว่าผมจะอดทนรอ

รอวันที่เตี่ยจะกลับมา




+++++++++++++++





(10.5)



หลังจากได้ข่าวจากจินว่านถัง ผมรู้สึกหนักใจมาก

ข่าวคราวที่เขาให้ผมไว้ รวมทั้งที่นัดแนะกันว่าจะไปเนปาล ยอมรับว่าผมคิดไม่ตก ผมไม่ได้มีอิสระที่จะไปไหนต่อได้เหมือนเมื่อก่อน ผมมีเสี่ยวหลิงอยู่ด้วย

ผมรู้ดีว่าตนทิ้งเสี่ยวหลิงไปตามเรื่องราวนี้ไม่ได้ และผมรู้ว่าหากไปแล้วตัวเองจะต้องกังวลจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่เบาะแสซึ่งได้มาอย่างยากเย็นนี้ ก็ยากที่จะปล่อยมือไปจากมัน
ผมคิดถึงมันทั้งวันจนทำงานผิดพลาด ตกกลางคืนก็ยังนอนไม่หลับ สุดท้าย ก็ลุกขึ้นมานั่ง ถามลูกชายตัวเองเบาๆ

“เสี่ยวหลิง..ถ้าเตี่ยไม่อยู่ ต้องไปอยู่กับปู่ใหญ่ซักพัก สั่ยวหลิงจะอยู่ได้หรือเปล่า?”

เสี่ยวหลิงงัวเงียขยี้ตา พยักหน้าให้ผม “ได้สิเตี่ย..เตี่ยจะไปไหน”

“จะไปที่ที่ไกลมาก…กลับมาไม่ได้ในวันเดียว” ผมจูบหน้าผากลูก เกลี่ยเส้นผมของเขา “เสี่ยวหลิงอยู่กับปู่ใหญ่ย่าใหญ่ ได้ไหม?”

เสี่ยวหลิงผงกหัวให้ผม จากนั้นก็หลับไป
ส่วนผมตัดสินใจบางอย่างได้

และส่งผลให้ผมจัดกระเป๋า เดินทางไปไกลถึงประเทศเนปาล เพื่อตามรอยเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง

ผมทิ้งกระดาษไว้ในบ้าน โทรบอกให้หวังเหมิงพาเสี่ยวหลองไปอยู่กับเตี่ยกับม๊า ผมไม่ได้บอกเขาไปตรงๆ กลัวว่าหากตนเห็นใบหน้าร้องไห้ของลูกชาย ก็คงตัดใจไม่ยอมไป และผมรู้ดีว่าตนจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต และแม้ว่าจะตั้งใจตามหาข่าวคราวอีกซักหน่อย แต่เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของเสี่ยวหลิงผ่านปลายสาย ก็ทำเอาผมอยากจะรีบกลับบ้านไปกอดลูกแน่นๆ

กระทั่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เบาะแสบางอย่างวิ่งมาหาผมโดยไม่ทันตั้งตัว และผมก็ก้าวตามมันไปราวกับถูกหลอกล่อ
กว่าจะรู้ตัว ผมก็เผชิญหน้ากับเรื่องราวมากมาย

และกว่าจะกลับมาหาลูกชายได้ตามที่สัญญา ก็กินเวลานานมากกว่าที่เป็น




TBC..
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4054
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Yuwadee Wana Thu 30 Jul 2015, 23:37

กัดคอนายน้อย ทำไมทำอย่างนี้ คิดถึงผัวจนลืมลูก โอ้ยยยยย สงสารเสี่ยวหลิง ร้องไห้ตาบวมเลย ป้าก็ร้องตามไปด้วยเลยลูก เตี่ยบ้า ๆๆๆๆๆ
ฮึ่มมม ดีนะที่โทรมา ไม่งั้นจะโกรธต่อไปอีก แงงงงงงง

ว่าแต่เสี่ยไป๋หายไปไหนอ่ะ
Yuwadee Wana
Yuwadee Wana
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 352
Points : 3828
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by yakusoku Fri 31 Jul 2015, 00:25

นายน้อยยยยยยยยย ถึงลูกตัวเองทำไมค่าาาา //ตีนายน้อย 1 ที โทษฐานที่ทิ้งเสี่ยวหลิง
yakusoku
yakusoku
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 369
Points : 3830
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by The_Dark_Lady Fri 31 Jul 2015, 10:12

เรายังยืนยันว่าอู๋เสียเห็นผู้ชายดีกว่าลูก...//โดนตบ
ยังดีนะที่โทรมาหาลูกชายบ้าง
แต่ไอ้เรื่องทิ้งโน้ตนี่อะไร...คราวหลังหัดหาที่ทับกระดาษมาใช้บ้างนะพ่อคุณ
น้องเสี่ยวหลิงดีขึ้นบ้างแล้ว เห็นแบบนี้พี่ๆ(?)ก็ดีใจ ร่าเริงขึ้นแล้วนะ
ยังจะมีเรื่องวุ่นวายอีกเรอะ! สงสารเสี่ยวหลิงอ่ะ
PS.รู้สึกอยากเชียร์น้องหลี่กวงเบาว์ๆ...../โดนเด็กน้อยแซ่เซี่ยมองแรง
The_Dark_Lady
The_Dark_Lady
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 301
Points : 3634
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by falenda Fri 31 Jul 2015, 14:05

นายน้อย ไปถามเอาตอนลูกง่วงนอนเนี่ยนะ
เสี่ยวหลิงทำใจนะลูก มีเตี่ยแบบนี้
เดี๋ยวตอนไปรับสามี แค่กๆๆๆๆเสี่ยวเกอ ก็ทิ้งหนูไปอีกแน่ๆ

เป็นเสี่ยวหลิงต้องอดทนจริงๆ
falenda
falenda
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 30
Points : 3227
Join date : 27/07/2015
Age : 29

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by HaiSaka Fri 31 Jul 2015, 15:01

อ่านๆแล้วรู้สึกสงสารเสี่ยวหลิงแล้วก็อยากกระโดดงับหัวอู๋เสียมากค่ะ =_=++
HaiSaka
HaiSaka
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 20
Points : 3319
Join date : 17/04/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Rozenkreuz Fri 31 Jul 2015, 20:34

แอบเห็นด้วยเบาๆ เชียร์หลี่กวงน้อยยย //โดนเด็กคอสเดรสแซ่เซี่ยดรอปคิกใส่หน้า
นายน้อยทำดี ทิ้งลูกไปหาผู้ชาย =w=b //โดนตบซ้ำ
ก็กลัวว่าถ้าเห็นหน้าเสี่ยวหลิงแล้วจะทิ้งไปไม่ลงแค่นั้นเองเน้อออ
Rozenkreuz
Rozenkreuz
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่

จำนวนข้อความ : 625
Points : 3848
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์* Empty Re: [Fic] บันทึกของเสี่ยวหลิง (10) *สปอยเล่มสิบ* *ออริคาแรกเตอร์*

ตั้งหัวข้อ by Nlm1122 Sun 23 Aug 2015, 20:11

ให้อภัยเตี่ยเค้านะเสี่ยวหลิง เตี่ยเค้าไปตามพ่อ--แค่กๆ ไปตามเพื่อนกลับบ้านน่ะลูก
Nlm1122
Nlm1122
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 33
Points : 3219
Join date : 07/08/2015

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ