Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

+7
casey
ทาสแมวผู้บ้าวาย
SilverCloud
Naitear
meanato
Fenrir
susuwatari
11 posters

Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by susuwatari Fri 31 Oct 2014, 13:44

วันหยุดยาวของผม
Paring:  ผิงเสียยยยยย
Rate: PG
คำเตือน เนื่องจากวันนี้เป็นวันฮาโลวีนเวลาอ่านโปรดระวังน้องมีมี่(ลั่วถัว)เดินมาแอบข้างหลัง
ความเดิมตอนที่แล้ววววว : https://dmbjth.thai-forum.net/t38-topic

ตอนเช้าของวันที่อากาศแจ่มใสในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ผมกำลังจิบชานั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ผมเอื้อมมือไปหามันอย่างเกียจคร้าน แต่พอเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอว่าคุณพ่อก็รีบกดรับสายทันที

พ่อเริ่มถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบ กิจการค้าขายท่าเปิ่นของผมแล้วก็ชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ตามปกติ ช่วงหลังนี้พ่อโทรมาหาผมบ่อยเป็นพิเศษ ทีแรกนึกแปลกใจอยู่บ้างแต่คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน เพราะช่วงหน้าหนาวอากาศหม่นมัวชวนให้รู้สึกเหงามากกว่าเดิมหลายเท่า แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่าพ่อพูดวกไปวนมาเหมือนจะอยากพูดอะไรกับผมสักอย่าง

“มีอะไรหรือเปล่าครับพ่อ” ผมตัดสินใจเอ่ยปากถามในที่สุด

“ช่วงหยุดยาวที่จะถึงนี้แกต้องกลับมานอนที่บ้านนะ” พ่อบอกด้วยน้ำเสียงที่แปลกออกไป

ตั้งแต่ผมเริ่มต้นใช้ชีวิตอยู่กับการนับถอยหลัง ก็แทบไม่เคยกลับไปเยี่ยมเยียนพ่อเลย ช่วงวันหยุดยาวนอกจากนอนกลิ้งไปกลิ้งมาแล้วผมก็ไม่เคยออกไปเบียดผู้คนตามท้องถนนเหมือนเมื่อหนุ่มๆ ข้างนายอ้วนหวังก็กลับไปเยี่ยมเยียนอากุ้ยที่ปาหน่าย “ดวงวิญญาณของหยุนไฉ่คงดีใจ ที่ไอ้อ้วนนี่มันรักของมันจริงๆ” ผมนึกในใจแล้วหันไปมองวันที่บนปฏิทินตั้งโต๊ะ

        อีกปีหนึ่งกำลังจะล่วงไป ทุกครั้งที่เปลี่ยนศักราชผมรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างผมกับเขาค่อยๆหดสั้นลงเรื่อยๆ การอยู่โดยไม่มีจางฉี่หลิงข้างกายนั้นช่วงปีแรกผมแทบทนกับความเหงาอย่างร้ายกาจนี้ไม่ได้ ถึงจะพยายามหลอกตัวเองว่าเขาแค่ไปผจญภัยที่ไหนสักแห่งอีกไม่นานคงกลับมา แต่ก็ทำไม่ได้ หลับตาลงครั้งไหนก็จะฝันถึงแต่วันเวลาเก่าๆที่พวกเราร่วมผจญภัยไปด้วยกัน พอปีถัดมาวันเวลาและบรรดาเพื่อนฝูงก็ช่วยเยียวยาหัวใจของผมให้ฟื้นคืนมาได้

        ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้ว สามารถพูดเรื่องขำขันปล่อยมุกตลกโต้ตอบกับเสี่ยอ้วนได้เหมือนเมื่อก่อน ทั้งยังสามารถมองดูฉางไป๋ซานได้โดยไม่รู้สึกทุรนทุรายเหมือนเมื่อก่อน ผมถอนหายใจยาว

หวังเหมิงที่เพิ่งปัดกวาดบริเวณหน้าร้านเสร็จเดินฮัมเพลงเข้ามาอย่างอารมณ์ดีเพราะอีกอาทิตย์เดียวก็จะถึงช่วงหยุดยาวติดต่อกัน 4 วันแล้ว เขาส่งจดหมายปึกใหญ่ให้ผมแล้วเอาอุปกรณ์เข้าไปเก็บหลังร้าน ผมพลิกๆดูก็เห็นว่าเป็นซองการ์ดเชิญแต่งงานของเพื่อนในรุ่นที่ตอนนี้ทยอยแต่งกันไปเกือบหมดแล้ว ผมเองก็หนาวๆร้อนๆว่ากลับไปปีใหม่คราวนี้จะโดนครอบครัวถามเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน คิดพลางไล่พลิกดูชื่อทีละซองพลาง “ซองเยอะขนาดนี้บัญชีติดตัวแดงตั้งแต่ต้นปีแน่ๆ” ผมนึกในใจ

หวังเหมิงเดินกลับมาพอดีผมจึงเรียกเขาเอาไว้ ช่วงนี้ของเข้าร้านมีน้อยเพราะอากาศหนาวผิดปกตินักลงกรวยขุดดินทั้งหลายต่างก็กลับบ้านไปนอนตีพุงกันทั้งหมด ผมบอกกับเขาว่าจะกลับไปนอนบ้านคงปิดร้านซักอาทิตย์เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ แต่เงินเดือนยังจ่ายเต็มเท่าเดิม พอพูดจบหมอนั่นก็กระโดดโลดเต้นดีใจยกใหญ่ ออกปากเยินยอว่าผมเป็นเถ้าแก่ใจดีสุดประเสริฐ จนผมนึกอยากลุกขึ้นมาตบกะโหลกมันซักสองสามที

เย็นนั้นผมเลยปิดร้านเร็วขึ้นแล้วออกไปเดินเล่นริมทะเลสาบซีหู วันนี้อากาศดีแดดยังไม่หุบจึงมีผู้คนมากมายออกมาเดินเล่นในตอนเย็น ผมเดินสวนกับคู่รักหลายคู่ที่กุมมือกันบ้างโอบไหล่กันบ้างชวนให้รู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อย เมื่อผมทนดูคู่รักมาจู๋จี๋กันต่อหน้าต่อตาไม่ไหวก็หลบไปนั่งเขวี้ยงก้อนหินลงน้ำริมทะเลสาบให้หายแค้นใจเจ้าบ่าวที่อยู่ด้วยกันแค่คืนเดียวของผม

“นายเรือพ่วงบ้า บ้า บ้า”

ผมบ่นไปพลางขว้างก้อนหินลงน้ำไปพลางจนก้อนหินแถวนั้นหายเรียบ แต่ยังไม่สาแก่ใจผมเลยนั่งบ่นกับลมฟ้าอากาศต่อไปอีกพักใหญ่จนเริ่มมืดค่ำ “คราวนี้ผลัดของฉัน เราก็จะต้องอยู่ด้วยกันหลังประตูนั่น ถ้านายไม่ยอมฉันจะเอาโซ่มาล่ามขา เอากุญแจมือมาล๊อคไม่ให้หนีกันไปไหนเลย” ผมฮึดฮัดอีกพักใหญ่ก่อนจะเดินตรงกลับร้านไปเก็บข้าวของเตรียมตัวย้ายกลับไปนอนบ้าน

-------------------------

ระหว่างเก็บของผมคิดอดสะระตะไปมาถึงเหตุผลที่พ่อเรียกผมกลับไปนอนบ้าน หรือว่าจะคุยเรื่องแต่งงานกันนะ วัยขนาดผมก็มีแต่เรื่องนี้แหละที่เป็นประเด็นหลัก แต่ขืนบอกว่าผมเข้าหอกับผู้ชายไปเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าบ้านผมคงมีสภาพเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ลง แม่ผมต้องเป็นลมคนแรก ตามด้วยป๊า อารองคงควันออกหู ส่วนอาสามคงยืนหัวเราะเป็นฉากหลังแน่ๆ

เก็บของเสร็จก็ซิ่งรถกระป๊อเก่าๆกลับบ้าน ผมถอยรถเข้าที่จอดเรียบร้อยแล้วก็ยกกระเป๋าสัมภาระที่บรรจุเสื้อผ้าสำหรับสองอาทิตย์ลงมา รีบเดินฉับๆฝ่าอากาศหนาวทารุณเข้าไปในตัวบ้าน

ผมได้ยินเสียงเอะอะอยู่ในห้องนั่งเล่นตั้งแต่หน้าประตู คิดว่าพวกอาๆคงจะมาพร้อมหน้ากันแล้วจึงรีบเดินดุ่มเข้าไปทันที พอผมก้าวพ้นประตูห้องเข้าไปพ่อที่กำลังนั่งคุยกับอารองหยุดชะงักหันมามองผมด้วยสายตาประหลาด พอผมเห็นสายตาของพ่อก็รีบก้มลงมองสำรวจเป้ากางเกงตัวเองอัตโนมัติ ซิปก็รูดเรียบร้อยดี เป้าก็ไม่ขาด เปลี่ยนมามองเสื้อก็ไม่ได้ใส่กลับด้าน กระดุมก็ไม่ได้ติดเขย่ง ผมเลยส่งสายตางุนงงไปหาพ่อกับอารอง ยังไม่ทันจะถามว่าทำไมพ่อถึงทำหน้าแบบนั้นเสียงตะโกนลั่นจากหน้าประตูบ้านก็ดังขัดขึ้น

“พี่ใหญ่ เจ้ารอง โอ๊ะ เสี่ยวเสีย นี่อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ” เป็นอาสามนั่นเอง เขาเดินเข้ามายืนข้างผมมือข้างหนึ่งหิ้วกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ท่าทางเพิ่งกลับจากลงกรวย ส่วนอีกข้างตบบ่าผมแรงจนแทบทรุด แม่ผมคงได้ยินเสียงของเขาเลยโผล่หน้าออกมาดู พอเห็นผมยืนงงๆอยู่หน้าประตูก็ตรงเข้ามากอดทันที

“เสี่ยวเสีย ลูกผอมลงนะ” แม่ว่าพลางจับเนื้อจับตัวผม “ผมกลับมาอยู่บ้านอาทิตย์นึงแม่ก็ช่วยขุนแล้วกันนะครับ” ผมว่าแล้วกอดแม่แน่นๆอีกหนึ่งที “เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก่อนสิ” แม่บอกกับผมแล้วหันไปพยักหน้าให้พ่อทีหนึ่ง ส่วนอาสามที่ทำท่าจะลุกไปถูกอารองเรียกให้มานั่งคุยกันก่อน ผมรู้สึกว่าทุกคนดูมีลับลมคมในแปลกๆ เหมือนมีอะไรปิดบังผมอยู่ พอตั้งท่าจะถามแม่ก็รีบรุนหลังผมออกไป

มันต้องมีอะไรแน่ๆ ลางสังหรณ์บอกผมแบบนั้น แต่ไม่ว่าจะตีเนียนชวนคุยยังไงแม่ก็ไม่ยอมหลุดอะไรออกมากเลย ปากแข็งชะมัด พอถึงห้องแม่ก็จัดการให้ผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อแล้วค่อยออกไปกินข้าวเย็น ผมแอบแง้มประตูห้องแต่งตัวออกมาดูเห็นแม่กำลังด้อมๆมองๆกระเป๋าของตัวเองก็รู้สึกหนาวใจพิกล ได้ยินคนพูดมาว่าลางสังหรณ์ของผู้หญิงดีเป็นพิเศษ หรือว่าแม่จะเอะใจเรื่องนั้นกันนะ

ผมข่มใจรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จแล้วโผล่ไปห้องกินข้าวพร้อมกับแม่ที่ตามประกบผมตลอดตั้งแต่กลับบ้านจะหนีไปสูบบุหรี่แก้เครียดก็ไม่ได้ พอก้าวเข้าไปในห้องกินข้าวก็เห็นพ่อ อารองแล้วก็อาสามสองคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้า เดี๋ยวนะ ผมชะงักกึกมองไปตรงมุมโต๊ะอีกรอบ ทำไมอาสามถึงมีสองคนได้ล่ะ

พอมองให้ดีก็พบว่าทั้งสองคนมองเผินๆคล้ายกันมากแต่ไม่ได้เหมือนกันจนแยกไม่ออก หรือว่าจะเป็นอาเซี่ยเหลียนหวน พอเห็นผมทำหน้าซีดเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาตบไหล่ผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับอาสามเป๊ะ “ไงเสี่ยวเสียหลานรัก ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” ผมยิ้มแห้งๆแล้วปล่อยให้เขาลากผมไปที่โต๊ะกินข้าวด้วยกัน

ผมกินข้าวไปจ้องหน้าอาเซี่ยเหลียนหวนไปด้วยความสงสัย อาสามเหมือนรู้ใจผมเลยเป็นฝ่ายตอบว่า “ใครๆก็รู้กันไปทั่วว่าเเซี่ยเหลียนหวนม่องเท่งไปตั้งนานแล้ว ขืนโผล่กลับไปบ้านตอนนี้เดี๋ยวทุกคนจะพาลคิดว่าเป็นบ๊ะจ่างลุกขึ้นมาจากหลุมได้วุ่นวายกันไปหมด หลังเซี่ยเหลียนหวนหมดภาระกิจต้องเฝ้าศพปริศนาที่อยู่ใต้บ้านอาก็เลยย้ายมานั่งๆนอนอยู่ที่นี่ มีออกไปลงกรวยแก้เซ็งด้วยกันเป็นพักๆ”

พอหมดเรื่องสงสัยทุกคนก็กลับไปนั่งกินข้าวกันเงียบๆกันเหมือนเดิม

       ---------------------------------

พวกเราย้ายกลับมานั่งกันที่ห้องนั่งเล่น ทุกคนมองผมเงียบๆอยู่พักใหญ่แล้วอารองก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูด “เสี่ยวเสียปีนี้แกอายุเท่าไหร่แล้ว” ผมทำตัวลีบ นึกแล้วเชียวต้องเป็นเรื่องนี้แน่ๆฝันล่วงหน้าทีไรไม่เคยผิด “ปีนี้ก็ 35 แล้วครับ”

       “อายุขนาดนี้แล้ว แกเคยคิดเรื่องแต่งงานไว้บ้างรึเปล่า” อารองถามอีก ผมได้แต่นั่งนิ่งจะให้บอกยังไงว่าไม่ต้องคิดเพราะแต่งไปแล้ว แต่งกับผู้ชายชื่อจางฉี่หลิง แถมยังแต่งในกรวยด้วยสมศักดิ์ศรีตระกูลเป็นที่สุด คิดไปคิดมาเลยเลือกคำตอบกลางๆไปว่า “ก็คิดไว้บ้างครับ” ผมไม่กล้าสบตาอารองที่จ้องเขม็งมา รู้สึกหนาวๆร้อนๆยังไงบอกไม่ถูก อารองเป็นคนที่รับมือยากที่สุดเพราะเป็นน้ำนิ่งไหลลึกแถมยังฉลาดเป็นกรดอีกด้วย เวลามีเรื่องผมไม่เคยปิดอารองมิดเลยซักครั้งเดียว อามีวิธีการมากมายที่จะทำให้ผมคายความลับออกมาจนหมด แต่ครั้งนี้คงต้องพึ่งดวงพึ่งเทวดาฟ้าดิน ที่สำคัญต้องพึ่งบรรพบุรุษตระกูลจางด้วย

“ขอให้ครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีเถอะครับ แล้วผมจะเอาหัวหมูไปเซ่นไหว้ตรงปากถ้ำก็แล้วกันนะครับ”

“งั้นเรอะ” อารองพูดขึ้นในที่สุด

“แล้วเสี่ยวเสียคบกับลูกสาวบ้านไหนอยู่ล่ะ มีรูปไหม เอามาให้ป๊าดูหน่อยสิ” พ่อผมพูดขึ้นมาบ้าง ท่าทางอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย ผมนั่งเหงื่อแตกซิกทั้งที่เป็นหน้าหนาว ตายชัก ผมจะไปหารูปถ่ายสาวจากที่ไหนมาให้พ่อดู หัวสมองผมแล่นเร็วจี๋นึกถึงเพื่อนๆสมัยเรียนว่ามีใครยังโสดอยู่บ้างจะขอยืมรูปมาแสดงเป็นแฟนชั่วคราวกันไปก่อน แต่พอนึกไปนึกมาเพื่อนผู้หญิงในรุ่นก็แต่งงานมีลูกสองกันไปหมดแล้ว

นึกไปนึกว่าจำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งทำธุรกิจเป็นนายหน้าหาแฟนชั่วคราวทางอินเตอร์เน็ตอยู่ ช่วงหลายปีมานี้ธุรกิจสไตล์นี้บูมขึ้นมาก เพราะคนรุ่นใหม่หลายคนงานยุ่งจนไม่คิดจะมีคู่รักแต่กลับบ้านทีไรโดนครอบครัวเค้นคออยู่ทุกทีไป เสียสตางค์นิดหน่อยได้แฟนชั่วคราวมาควงหนึ่งคนไม่ต้องฟังเสียงบ่นจากพ่อแม่พี่ป้าน้าอาให้เมื่อยหู

คิดได้แบบนั้นผมเลยปั้นเรื่องขึ้นมาว่าเพิ่งเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เลยไม่ได้เก็บรูปแฟนสาวเอาไว้ เดี๋ยวขอโทรไปหาให้เธอส่งรูปมาให้ก็แล้วกัน พอเห็นบรรดาอาๆรวมถึงพ่อแม่ทำท่าเข้าใจ ผมก็แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก

ทุกคนถามถึงแฟนสาวของผมอีกหลายคำ ทั้งหน้าตา น้ำหนัก ส่วนสูง รสนิยมซึ่งผมก็มั่วไปมั่วมา บางคำถามเผลอนึกถึงจางฉี่หลิงแล้วตอบไปเกือบพลาดอยู่เหมือนกัน จนอารองเปิดปากถามถึงนิสัยขึ้นมา ผมนิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วตอบออกไป “ก็เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา แต่ก็คอยเป็นห่วงผมตลอด อยู่ด้วยกันแล้วอุ่นใจ แถมยังโรแมนติคมากด้วย” พูดไปก็หน้าแดงไป นึกถึงตอนที่จางฉี่หลิงกอดผมที่โพรงถ้ำในคืนเข้าหอ อารองมองผมด้วยสายตาพิจารณาแล้วพยักหน้ารับรู้ก่อนเอ่ยปากขึ้น “นี่ก็ดึกแล้วแกเดินทางมาเหนื่อยๆรีบไปนอนก่อนเถอะ เรื่องรูปแฟนแกไว้ค่อยดูพรุ่งนี้ก็ไม่สาย”

พอได้ยินแบบนั้นผมก็รู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด รีบเดินออกมาจากห้องรับแขกตั้งใจจะขึ้นไปแอบโทรศัพท์ในห้องนอน แต่คิดไปคิดมาไม่รู้ว่าอารองแอบไปติดไมค์ดักฟังผมในห้องหรือเปล่าเลยย่องออกไปที่สวนหลังบ้านหามุมใต้ต้นไม้ที่ไกลออกมาพอประมาณแล้วนั่งยองๆคาบบุหรี่ไว้ในปากพลางกดโทรศัพท์

“ปิงเว่ยตอนนี้มีสาวๆในสังกัดนายว่างบ้างรึเปล่าวะ” ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงทักทายจบก็บอกจุดประสงค์ทันที ปลายสายหัวเราะลั่นเมื่อรู้ว่าผมยังโสดซิงๆต้องมาใช้บริการแฟนชั่วคราวเอาไปหลอกครอบครัว หมอนั่นบอกให้ผมถือสายรอ จากนั้นก็ได้ยินเสียงจิ้มคีย์บอร์ดกุกกักลอดออกมา “เสียใจด้วย ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้คิวเต็มหมดว่ะ แกก็รู้หน้านี้ถ้าไม่จองคิวล่วงหน้าก็อย่าหวังเลย”

“ชิบหายแล้วไง” ผมหน้าเสียแต่ก็ยังถามกลับไปอย่างมีหวัง “แล้วไม่มีเจ้าอื่นที่แกรู้จักแนะนำฉันหน่อยเหรอวะ กำลังเข้าตาจนเลยว่ะ เอาแค่รูปก็ได้ยังไงพอผ่านไปซักเดือนสองเดือนฉันค่อยสร้างเรื่องว่าเลิกกันแล้วอะไรก็ได้” ปลายสายตอบตกลงด้วยเสียกลั้วหัวเราะ “เอาสวยๆหน่อยนะเว้ย ส่งมาซักสามสี่รูปเผื่อเลือกก็ดีว่ะ” ปิงเว่ยรับคำบอกกับผมว่าอีกสิบนาทีรอรับรูปสาวๆสวยๆได้เลย

ผมปิดฝาพับแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อย่างน้อยก็ขายผ้าเอาหน้ารอดไปครั้งหนึ่งละวะ ผมอัดบุหรี่เข้าปอดจนหมดมวนตั้งท่าจะลุกเดินกลับแต่ดันมีมือปริศนาโผล่มาจับไหล่เข้าซะก่อน ผมสะดุ้งสุดตัวจากประสบการณ์ลงกรวยทุกครั้งถ้ามีมือโผล่มาจับจากด้านหลังไม่เคยจบสวยซักที แต่สวนหลังบ้านตัวเองคงไม่มีบ๊ะจ่างโผล่ออกมาหรอกนะ พอกลั้นใจหันไปก็เจอกับหน้าของอารองเข้าเต็มๆ

“ไอหยา ซวยแล้วไง ไม่รู้อารองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าได้ยินตั้งแต่ต้นรับรองว่าผมซวยแน่ๆ” ผมแข็งใจส่งยิ้มแหยๆให้อารอง ฝ่ายนั้นทำหน้าเหี้ยมหิ้วคอเสื้อผมลากตรงไปยังห้องรับแขกที่ยังเปิดไฟสว่าง ทั้งพ่อ แม่ อาสามอาเซี่ยเหลียนหวนต่างก็ยังนั่งดูทีวีอยู่กันพร้อมหน้า อารองถีบผมเข้าไปกลางห้องโครมใหญ่

“คายออกมาว่าตกลงเรื่องแฟนของแกมันยังไงกันแน่” เขาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “เอ้า เกิดอะไรขึ้นล่ะเจ้ารอง” อาสามละสายตาจากจอทีวีหันมาถามด้วยท่าทางงงๆ “ก็บอกแล้วไงว่าแกอย่ามาเรียกฉันว่าเจ้ารอง” อารองหันไปแยกเขี้ยวใส่อาสามหนึ่งที “เมื่อกี้ฉันสงสัยเลยแอบตามออกไปดู  เห็นมันโทรหาบริษัทให้เช่าแฟนชั่วคราวนะสิวะ” ผมหน้าซีดแล้วซีดอีก “ชิบหายแล้วไง อารองได้ยินตั้งแต่ต้นจนจบเลยคราวนี้ตายหยังเขียดแน่”

อารองหันมาหายิ้มเย็น “ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ คายออกมาให้หมดอู๋เสีย” ผมส่งยิ้มแห้งๆให้ทุกคนในห้องแล้วทำหน้าเศร้าๆยอมรับผิด “จริงๆแล้วคือผมยังไม่มีแฟนเลยนะครับ แต่ผมไม่อยากแต่งงานตอนนี้ก็เลย.......” อารองจ้องเขม็งมาที่ผม “อู๋เสีย แกอย่ามาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ไอ้ท่าทางเพ้อหน้าแดงของแกเมื่อกี๊มันคืออะไร แฟนแกมันเป็นตัวประหลาดหรือยังไงวะถึงได้บอกคนในครอบครัวไม่ได้หา”    

“คือ......” สุดท้ายผมก็เข้าตาจน สงสัยว่ามันคงจะต้องลงเอยแบบที่คิดเอาไว้ตอนต้นแน่ๆเลย ผมล้วงกระเป๋าเตรียมกำยาดมเอาไว้ในมือ “คือผมมีแฟนเป็นผู้ชายน่ะครับ” ผมกลั้นใจเตรียมตัวรับสถานการณ์แต่กลับพบว่าทุกคนในห้องดูสงบกว่าที่คาดไว้

“ไอ้หนุ่มนั่นใช่ไหม” อารองถาม

“ไอ้หนุ่มนั่นนี่ไอ้หนุ่มไหน อารองพูดจาแปลกๆเหมือนรู้อะไรมาเลย” ผมนึกเสียวอยู่ในใจ อาคงเห็นสีหน้าผมเลยขยายความให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วยประโยคถัดมา “ไอ้หนุ่มหิ้วดาบดำที่คีบลามะมาค่าตัวสูงลิ่วนั่นยังไง” รายละเอียดชัดเจนเหมือนตาเห็นเลย ผมถึงกับตัวสั่น อาสามกับอาเซี่ยเหลียนหวนตบเข่าฉาดใหญ่แล้วพูดกึ่งตะโกนขึ้นพร้อมกัน “นั่นไงฉันว่าแล้ว”

       “พวกอารู้ได้ยังไงครับ” ผมที่ตอนนี้โดนซักหมดไส้หมดพุงถามขึ้นอย่างหมดแรง “ฉันก็ดูสายตาของน้องเสี่ยวเกอเวลามองแกนะสิ แล้วพอแกเข้าตาจนทีไรน้องเสี่ยวเกอนี่ก็เป็นต้องโผล่มาช่วยแกทุกที ช่วยแต่แกเท่านั้นนะ แม่งปล่อยให้พวกฉันหาทางรอดกันเอาเอง” ผมหน้าแห้ง นี่เราสองคนมองออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ ป่านนี้คนอื่นไม่รู้กันหมดแล้วหรือไง  

“แล้วแกกับน้องเสี่ยวเกอไปกันถึงขั้นไหนแล้ววะ” เป็นอาสามที่ถามขึ้นด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น ผมกลืนน้ำเลยเอื๊อกใหญ่ คิดว่าตอนนี้โกหกไปก็คงไม่รอดเลยตัดใจตอบตามความจริง “ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันไปแล้วครับ” พอจบประโยคก็ได้ยินเสียงถ้วยชาในมือป๊าตกกระแทกพื้นดังปึก

“แกหมายความว่ายังไง” อารองถาม ผมรู้สึกว่าตอนนี้เหมือนจะเห็นควันพุ่งออกมาจากหูทั้งสองข้างของเขา “อารู้เรื่องคำสัญญาของเก้าสกุลใหญ่ใช่ไหมครับ” อารองพยักหน้า” เอ่อ มันก็เริ่มจากตอนที่ฉี่หลิงมาลาผมที่ร้าน แล้วผมก็ตามเขาขึ้นภูเขาฉางไป๋ซานไปจนถึงหน้าโพรงถ้ำโบราณที่เราใช้เป็นทางออกตอนที่ไปสำรวจตำหนักทิพย์พิมานเมฆกันน่ะครับ” ผมหันไปพูดกับอาสามที่ตอนนั้นพวกเราเป็นคนแบกเขาออกมา “แล้วก็.... แล้ว............” ผมเริ่มตะกุกตะกัก รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนขึ้นๆ

“รีบพูดมาสิวะ เป็นลูกผู้ชายตระกูลอู๋กล้าทำต้องกล้ารับ” อารองส่งเสียงเร่งผมเลยตัดใจพูดรวดเดียวจบ “แล้วเราก็กราบไหว้ฟ้าดินเข้าหอกันที่นั่น” พูดจบทุกคนเงียบกริบจนแทบไม่ได้ยินเสียงลมหายใจ “เข้าหอ?อย่าบอกนะว่าพวกแก.......” อาเซี่ยเหลียนหวนละส่วนนั้นไว้เป็นที่เข้าใจกัน ผมตอนนี้ก้มหน้าแดงฉ่ามองพื้นไม่กล้าเงยขึ้นไปสบตาใคร แล้วยิ่งไม่กล้าบอกไปว่าก็เข้าหอแบบนั้นแหละครับคุณอา

พ่อกับแม่ผมไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ท่าทางจะช๊อคไปแล้วที่ลูกชายตัวเองแทนที่จะแต่งสะใภ้ดันแต่งลูกเขยซะได้ “ฉันคิดอยู่แล้วตั้งแต่ตอนเจอพวกแกที่ปาหน่าย มันเอาแต่มองตามจนแทบจะกินแกไปทั้งตัวแล้วมั้ง” ผมได้ฟังแล้วถึงกับอึ้ง อารองนี่ก็เว่อร์ไปนะ หน้าตานิ่งๆเหมือนก้อนหินของจางฉี่หลิงจะมองผมด้วยสายตาแบบนั้นได้ยังไงกัน  

“เอาเถอะ” ในที่สุดป๊าผมก็พูดขึ้นมา “จริงๆเรื่องนี้ป๊ากับม๊ารู้จากอารองมานานแล้ว ยังสงสัยอยู่ว่าเสี่ยวเสียจะมาบอกเมื่อไหร่” ป๊าบอกแล้วเดินมาลูบหัวผมทีหนึ่ง “ตอนนั้นที่เสี่ยวเสียโทรมาเนียนล้วงข้อมูลจากป๊า แล้วป๊าทักว่าเสี่ยวเสียทำน้ำเสียงเหมือนคนอกหักเพราะนายคนนี้หายตัวไปละสิ” ผมหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก ทำไมทุกคนถึงรู้ทันผมหมดเลยนะ “จะรักใครเพศไหนป๊าก็ไม่ว่าหรอก แค่เห็นเสี่ยวเสียมีความสุขป๊าก็ดีใจแล้ว” ผมกอดเอวป๊าแน่น รักป๊าจังเลยครับ ป๊าเข้าใจผมเป็นที่สุด

       “ไม่ได้” อารองขัดบรรยากาศซึ้งๆของพ่อลูกด้วยเสียงดังปานฟ้าผ่า

“จัดพิธีแต่งงานกันเองแบบนี้ฉันไม่รับ” เขาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ถ้ามันอยากได้แกก็ให้มันมาขอกับพ่อแกกับฉัน แล้วในฐานะที่แกเป็นหลานชายคนเดียวฉันไม่อนุญาตให้แกแต่งออก ตระกูลมันจะขาดสายขาดช่วงยังไงฉันไม่สน ถ้าจะแต่งกันมันต้องเปลี่ยนมาใช้แซ่อู๋”

“คะ...ครับ”

ผมรับคำด้วยท่าทางหงอๆ “เจ้ารองก็รีบพูดไป ตอนนี้น้องเสี่ยวเกออยู่หลังประตูสำริดนา อีกตั้งกี่ปีนะ... หกเจ็ดปีโน่นแน่ะถึงจะได้ออกมา” อาสามหันไปพูดกับอารอง “ฉันรู้แล้วน่าเจ้าสาม พูดกันวันนี้ให้เรียบร้อยวันหน้าจะได้ไม่ต้องมาพูดกันอีก” เขาตอบแล้วหันมาสั่งความกับผมต่อ “พอแกไปลากตัวมันออกมาจากไอ้ประตูนั่นได้ต้องรีบกลับมาทำพิธีที่นี่ให้มันเรียบร้อย เข้าใจไหม”

“ครับ”

ผมได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย หลังจากประกาศิตเรียบร้อยอารองก็กลับไปนั่งดูละครชุดทางโทรทัศน์พร้อมกับคนอื่นๆ ผมบอกราตรีสวัสดิ์แล้วเดินคอตกออกไปจากห้องนั่งเล่น ใจนึกอยากจะโทรไประบายกับเสี่ยอ้วนแต่ทางปาหน่ายสัญญาณไม่ค่อยมีโทรติดยากเหลือเกิน จะโทรหาเสี่ยวฮัวก็กลัวจะไปขัดจังหวะนายแว่นดำเฮยเข้า สุดท้ายก็ไปยืนอัดบุหรี่อยู่มุมสวน

“คนบ้าจางฉี่หลิง”

“ให้ตายเถอะรีบครบสิบปีซักทีสิวะ ฉันคิดถึงนายจะแย่อยู่แล้ว”

ผมพูดลอยๆกับท้องฟ้ายามดึกของหน้าหนาวที่เต็มไปด้วยดวงดาวพราวพราย

                                  ---------------------- Fin----------------------------

แถมท้าย

หลังคืนนั้นอู๋เออร์ไป๋ก็ยังตื่นเช้าลงมารำไทเก๊กตามปกติ พอลงมาถึงในสวนก็พบร่างพี่ใหญ่อู๋อีฉยงนั่งเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงเดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งข้างๆแล้วเอ่ยปากถาม “พี่ใหญ่มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า"

คนถูกถามถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เมื่อวานบ้านของเจินอากงข้างๆมีลูกหลานตัวเล็กๆมาหาเต็มไปหมด” อู๋เออร์ไป๋พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจความหมายที่ต้องการจะสื่อ “พี่ใหญ่อยากมีหลานสินะ” เสียงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่งดังตามมา “เมื่อคืนฉันนอนคิดอยู่ทั้งคืน แกเปิดโรงน้ำชามานานพอมีคนรู้จักในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์บ้างไหมวะ”

อู๋เออร์ไป๋มองพี่ชายด้วยท่าทางงุนงง “พี่ไม่สบายตรงไหน เดี๋ยวผมไปปลุกเสี่ยวเสียให้เอารถออกไปโรงพยาบาล” อู๋อีฉยงส่ายหน้า “ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้ารอง พี่แค่อยากรู้ว่ามันจะมีวิธีให้ผู้ชายท้องได้ไหมวะ เสียเงินเท่าไหร่เท่ากัน ก่อนตายพี่อยากอุ้มลูกของเสี่ยวเสีย”

คนฟังแทบหงายหลังตกเก้าอี้ “มันจะไปมีได้ยังไงละครับพี่ ให้เจ้าสามลงงมไปหาในกรวยดูจะง่ายกว่ากันเยอะ”

---------------------

Talk
อ่านจบแล้วมาเม้ากันค่ะ เย้
คือฟิคนี้เป็นภาคต่อของฟิคโน้นนนนน เกิดจากอ่านเรื่องตระกูลอู๋ตรงท้ายเล่มสิบแล้วฮาบรรดาอาๆมาก ค่ะ บวกกับมีคนชอบความเวิ่นเว้อในฟิคโน้นเลยจับมาเขียนได้แบบนี้ค่ะ จริงๆเรื่องหลานชายคนเดียวไปรักผู้ชายนี่ก็นับเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับชาวจีนอยู่ไม่น้อยละค่ะ แต่พอมานึกภาพคุณป๊าและอาๆแล้วให้ความรู้สึกขำมากกว่าค่ะ ฮา จากนี้ก็ลุ้นให้นายเรือพ่วงรีบกลับมาขอนายน้อยตระกูลอู๋ด้วยกันนะคะ/ระดับจางฉี่หลิงแล้วสินสอดทองหมั้นนี่สงสัยต้องไปงมเอาในกรวยละค่ะ ฮา


แก้ไขล่าสุดโดย susuwatari เมื่อ Fri 31 Oct 2014, 15:23, ทั้งหมด 1 ครั้ง
susuwatari
susuwatari
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 81
Points : 3598
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by Fenrir Fri 31 Oct 2014, 14:38

ลุ้นแทนนายน้อยตั้งนาน โอ๊ยยยยยยยยยยยย นี่ก็อารอง นั่นก็อาสาม(2คน) โน่นก็เตี่ยกับม๊า มีแต่คนรับมือยากทั้งนั้น!

เตี่ยคงแทบเป็นลมพอทำถ้วยชาตก XDDDDDDD อยากอุ้มหลาน ดันได้เขยแถมไม่มีหลานมาให้อุ้มอีก

เอาไว้เสี่ยวเกอกลับออกมาจากประตูสำริดแล้วโดนลากคอมาสู่ขอนายน้อยกับเตี่ยและอารองให้เป็นพิธีที่สมบูรณ์แล้วค่อยไปหากิ่งสำริดมาบันดาลหลานตัวน้อยให้เตี่ยแล้วกันนะคะ (ฮา)

ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆนะคะ >w<
Fenrir
Fenrir
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 117
Points : 3623
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ไหสักใบในบ้านสกุลอู๋

http://fenrirsglue.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by meanato Fri 31 Oct 2014, 14:53

อุต๊ะ! แหมอยากมีหลานแต่ให้อาสามลงไปหาในกรวยสงสัยคงจะได้ผีแม่ย่า หรือบ๊ะจ่างพันปีในเกราะหยกแน่
meanato
meanato
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 487
Points : 3970
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by Naitear Fri 31 Oct 2014, 15:02

กรี๊ดอารองค่ะ กรี๊ดดดดดดด เฮียแกรู้ทันหลานได้ใจจริงๆ //ฮา

ชอบตระกูลอู๋เพราะอย่างนี้ล่ะค่ะ สมรู้ร่วมคิดกันทั้งบ้าน ยิ้มให้กันลับๆแต่ฉันไม่บอกอู๋เสียหรอกนะว่ารู้เรื่องหมดแล้ว 55555555555 เขินแทนอู๋เสียค่ะ โดนจี้จุดถามเข้าให้ซะหน้าแดงเลยแง /โมเอ้

แอบเห็นด้วยกับอาป๊านะคะ ' w '] เราแอบอยากเห็นลูกของตระกูลจางกับตระกูลอู๋จังเลยว่าจะน่ารักขนาดไหน ฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณสำหรับฟิคน่ารักๆค่ะ > w <
Naitear
Naitear
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 232
Points : 3765
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Fri 31 Oct 2014, 16:50

อารองขาาาา อาคือประมุขของบ้านตัวจริงสินะคะ เตี่ยบอกผ่าน แต่อารองบอกไม่ผ่านยังไงก็ต้องแต่งให้ถูกต้อง เสี่ยวเกองานงอก ไปชวนลูกสาว?เค้าชิงสุกก่อนห่าม ทีนี้พอออกจากประตูมาก็ต้องแต่งเข้าตระกูลอู๋ละ 555
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3949
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by ทาสแมวผู้บ้าวาย Fri 31 Oct 2014, 17:31

ฮ่าๆ โอ้ยฮา เสี่ยวเกอพอกลับออกมาต้องเข้าพิธีแต่งงานให้ถูกต้องนะ แล้วพ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะเอาใครมาล่ะคงไม่ได้ขุด(?)ออกมาจากสุสานสกุลจางหรอกนะ
ทาสแมวผู้บ้าวาย
ทาสแมวผู้บ้าวาย
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 17
Points : 3496
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by casey Fri 31 Oct 2014, 20:32

อารองไปลงกรวยหากิ่งสำริดมาสักกิ่งสิคะ
casey
casey
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 86
Points : 3595
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Fri 31 Oct 2014, 20:32

//ฟินความมุ้งมิ้งตัวแตก
ฮืออออ น่าร๊ากกกกกกกกก ชอบอ่ะ ชอบตอนนายน้อยพยายามโมเม น่าย๊ากกก
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by uglygirl Fri 31 Oct 2014, 22:52

โอ้ยยย เรารึก็กลัวไปกับนายน้อย
อารองตีหน้าดุซะขนาดนั้นเป็นใครจะกล้าบอกว่าแฟนตัวเองเป็นเพศเดียวกัน
แต่ไปๆมาๆดันรู้เรื่องซะหมด
แบบนี้อู๋เสียก็ต้องรอให้เสี่ยวเกอมาสู่ขออย่างเป็นทางการสินะ
แต่จะให้แต่งเข้าสกุลอู๋ นี่ก็แปลกๆอยู่นา อารอง....

uglygirl
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 43
Points : 3523
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by justpn04 Sun 02 Nov 2014, 00:34

โธ่ อารอง ที่แท้ก็อยากอุ้มหลานนี่เอง 55555555
justpn04
justpn04
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 34
Points : 3516
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : เสาบ้านสกุลอู๋

http://justpn04.tumblr.com

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10--------- Empty Re: [OS] วันหยุดยาวของผม [ผิงเสีย] ---สปอยเล่ม 10---------

ตั้งหัวข้อ by gaaraclub Mon 24 Nov 2014, 10:26

สะดุดกับประโยคสุดท้าย เดี๋ยวนะคะ ไปหาหลานในกรวยง่ายกว่า
จะได้ลูกมี่ลั่วถัวหรือเปล่าคะอารอง---
gaaraclub
gaaraclub
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 81
Points : 3560
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ