Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
+2
fay_13
karnzaya
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
#dmbjdaily "Queen"
The tale of Queen and Basilisk
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนที่มีพ่อมดทรงอำนาจ สัตว์วิเศษ และเรื่องราวสุดพิศวง ยังมีราชินีผู้ปกครองแคว้นแห่งบุปผา นางมีพระสิริโฉมงดงามเกินบรรยาย ทั้งเสียงยามร้องเพลงยังไพเราะราวกับดนตรีจากสรวงสวรรค์ หากแต่นางแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ไหน เล่าลือกันว่านางสามารถปราบศัตรูได้ถึงสิบคนเพียงสะบัดไม้พลองอันเป็นอาวุธประจำกาย ซ้ำยังฉลาดมีไหวพริบมากล้น ด้วยเหตุนี้เองที่แคว้นแห่งบุปผาเจริญรุ่งเรืองมานานหลายต่อหลายปี
แม้จะเป็นแคว้นที่มีความรุ่งเรืองมาก แต่ก็หลีกไม่พ้นภัยพิบัติที่ต้องเกิดขึ้น วันหนึ่ง เกิดเหตุอาเพศขึ้น เมื่อประชาชนในแคว้นทางทิศเหนือต่างล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านต่างหวาดกลัว เริ่มมีข่าวลือว่าเป็นเพราะปีศาจชิงชังความสงบสุขของแคว้นแห่งนี้ จึงได้ให้ลูกน้องมาทำลายหมู่บ้านและฆ่าล้างมนุษย์
เมื่อบ้านเมืองระส่ำระส่ายเช่นนี้ ราชินีย่อมไม่อาจนิ่งเฉย นางออกเดินทางไปยังทิศเหนือ เพื่อค้นหาต้นตอของความวิบัติในครั้งนี้
“มันเป็นงู! งูตัวใหญ่ ข้าสาบานได้ ข้าเห็นมัน น้องสาวข้าก็เห็นมัน ก่อนที่นางจะ... ฮึก... ฮือ...” ราชินีได้ฟังคำบรรยายของเจ้าสัตว์หายนะก็ถึงกับขมวดคิ้วชักสีหน้า นางไม่เคยได้ยินสัตว์ชนิดนี้มาก่อน หรือจะเป็นฝีมือของปีศาจจริง ๆ
นางเลิกคิดไร้สาระ หลังสอบถามชาวบ้านจนได้รับข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน นางพักเพียงแค่หนึ่งวัน แล้วมุ่งหน้าไปยังป่าลึก ที่ที่ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของมัน
รัตติกาลมาเยือน ท้องฟ้าปกคลุมด้วยสีน้ำเงินเข้ม ดวงดาวพร่างพรายแต้มบนฟากฟ้า ส่องประกายระยับล้อกับดวงจันทร์ ราชินีไม่หยุดพัก นางควบม้าผ่านป่าสนและพุ่มไม้ ตรงไปยังใจกลางป่า ด้วยอารามรีบร้อน ไม่ทันระวังตัวก็ถูกสัตว์ร้ายจับได้เสียแล้ว
เสียงขู่ฟ่อเป็นสัญญาณเตือนเดียวที่นางรับรู้ ชั่วเสี้ยววินาทีก่อนมันพุ่งเข้ามา นางสลัดตัวลงจากหลังม้า หลบงูยักษ์ได้อย่างเฉียดฉิว นางสบถแล้วคว้าไม้พลองประจำกายขึ้นมาทันที
ผิดคาดที่เจ้างูไม่พุ่งมาหานางอีก มันเพียงชูคอขึ้นแผ่แม่เบี้ย ส่ายหัวไปมาแล้วจ้องนางอย่างสงบนิ่ง
“เจ้าเป็นใครถึงอาจหาญบุกรุกถิ่นของเรา” เสียงของมันทุ้มต่ำ น้ำเสียงปะปนระหว่างความสงสัยใคร่รู้และความมุ่งร้าย ราชินีแค่นหัวเราะเหยียดหยามในลำคอ เอ่ยตอบมันไปว่า
“เซี่ยอวี่ฮัว... นั่นคือนามของข้า ทีนี้ข้าคงต้องถามกลับไปว่า เหตุใดเจ้าถึงได้ทำลายหมู่บ้านและเข่นฆ่าประชาชนของเรา” เจ้างูเอียงคอราวกับไม่เข้าใจคำถาม ท่าทางผิดกับอสรพิษใด ๆ ที่เขาเคยเจอ มันดูน่าขันยิ่งนัก แต่สถานการณ์เช่นนี้คงขำไม่ออก
จนถึงตอนนี้เองที่เซี่ยอวี่ฮัวเพิ่งค้นพบว่าเจ้างูไม่ได้ลืมตามองเขา จริง ๆ แล้วมันหลับตาอยู่ตลอด แต่ประสาทมันไวมากจึงหันมาทางทิศที่เขาอยู่ได้อย่างถูกต้อง มันไม่ยอมตอบคำถามของเขา แต่กลับพูดสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงออกมาแทน “นั่น...ไม่ใช่ชื่อจริงของเจ้าหรอก ใช่ไหม”
มันรู้ได้อย่างไร! ราชินีพยายามสงบจิตใจที่ตื่นตระหนก กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า
“จงตอบคำถามข้า ก่อนที่เจ้าจะไม่มีลิ้นให้พูด”
เจ้างูส่งเสียงหัวเราะดังฟ่อ ๆ ในลำคอ ทันใดนั้นร่างงูอันใหญ่โตของมันกลับเปลี่ยนรูปลักษณ์ เพียงกะพริบตางูตรงหน้าพลันหายไป ราชินีจับไม้พลองมั่นเตรียมตั้งรับการโจมตี แต่แล้วเสียงทุ้มที่ดังอยู่ข้างหูทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ
“คำถามเจ้าแปลกประหลาด ส่วนคำตอบนั้นง่ายดาย ข้าเป็นงู และข้าก็ต้องกิน” แรงขบที่ใบหูราวกับหยอกล้อเป็นเสมือนการหยามหน้าชนิดหนึ่ง ราชินีผู้ไม่เคยถูกหยามถึงกับเลือดขึ้นหน้า เขาสะบัดไม้พลองฟาดใส่เจ้างูไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หากแต่หวดได้เพียงอากาศ
“ราชินีแห่งแดนบุปผา เซี่ยอวี่ฮัว... หรือควรเรียกว่า... เซี่ยอวี่เฉินดี?” เจ้างูบัดนี้กลายร่างเป็นมนุษย์พลิ้วกายหลบไม้พลองอย่างสบาย ๆ รอยยิ้มยั่วประสาทบนใบหน้ายิ่งเพิ่มแรงหวดให้แก่อาวุธของคนงาม เพราะไม่เห็นดวงตาซึ่งอยู่หลังแว่นสีดำสนิททำให้ไม่อาจรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เซี่ยอวี่ฮัวมั่นใจว่ามันคงกวนประสาทพอ ๆ กับรอยยิ้มนั่นแน่นอน
“โธ่ คนงาม โมโหข้าหรือ ข้าฆ่าชาวบ้านพวกนั้นไปเพราะข้าก็ต้องกินต้องอยู่นะ ไม่กินข้าหิวตายพอดี อย่าโกรธนักเลย รู้ไหมข้าไม่ถอดแว่นออกก็บุญโขแล้ว ไม่งั้นเจ้าตายแน่” คำพูดนั้นสะกิดต่อมความสงสัยของราชินีแดนบุปผา เขาเตะตัดขาเจ้างู ทำให้มันที่ไม่คิดว่าจะโดนประทุษร้ายทางนี้ถึงกับทรุด แต่ทรุดได้แป๊บเดียวมันก็เลื้อยตัวหนีพลองอย่างรวดเร็ว พลางขยับกายเข้าใกล้เขามากขึ้น มากขึ้น
เซี่ยอวี่ฮัวรู้ทันความคิดของมัน แต่ยังคงปล่อยให้มันเข้าประชิดตัวได้ง่าย ๆ หลอกล่อให้มันคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน แล้วพอเจ้างูได้ที มันก็ปราดเข้าประชิดราชินีคนงาม ทว่าเซี่ยอวี่ฮัวพลันยิ้มเหี้ยม ตวัดขาถีบกลางเป้าเจ้างูโรคจิตเต็มแรง
“อุก!!!” เจ้างูร่างคนถึงกับเอามือกุมเป้า ทรุดตัวนั่งหน้าเขียวหน้าแดง คนงามฟาดพลองซ้ำเข้าที่หลัง เล่นเอาอสรพิษร้ายลงไปนอนหมอบ ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างทรมาน
“อูย... เล่นแรงนะ ถ้าข้าสืบพันธุ์ไม่ได้เจ้าจะเสียใจ” เสียใจบ้านเจ้าสิ... ราชินีสบถในใจ เท้าเหยียบหลังเจ้างู กดน้ำหนักลงไปสุดแรงไม่ให้หนีหรือดิ้นได้ แล้วจึงเอ่ยด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียมจนเจ้างูขนลุกวาบ รู้สึกยินดีไปนอนเล่นในนรกแทนที่จะเผชิญหน้ากับดอกไม้งามทันที
“จับได้แล้ว คราวนี้จะเอาไงดีนะ ถลกหนังหรือเชือดคอหอยดี” ไม่ว่าเปล่าคนงามยังเอาพลองกระทุ้งหลังคอเจ้างู มันส่งเสียงร้อง แอ๊ก! อย่างชวนสังเวช แล้วเงยหน้ามองราชินีด้วยสายตาละห้อย ชวนให้สงสัยว่าท่าทีอันตรายเมื่อครู่มันหายไปไหนหมด
“คนงามอย่านะ โลกยังต้องการงูหล่อ ๆ อย่างข้าอยู่--- จ๊าก!!!”
“รู้แล้ว เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรเกี่ยวกับตาของเจ้านะ” ราชินีหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด แล้วเอื้อมมือดึงแว่นดำออกจากใบหน้ามันทันที ไม่สนใจเจ้างูที่ร้องเสียงหลงยิ่งกว่าถูกเชือด
“อย่าดึงมันออก!!!” มันหลับตาปี๋ กรีดร้องดังลั่นจนเซี่ยอวี่ฮัวอดประหลาดใจไม่ได้ ทีเขาเอาพลองฟาดยังไม่ร้องขนาดนี้ ตาของเจ้างูบ้านี่เป็นอะไรนะ
“ข้าจะเปลี่ยนจากถลกหนังมาเป็นการตายที่สบายกว่านี้ถ้าเจ้าตอบข้า ทำไมต้องใส่แว่นดำ และทำไมเจ้าต้องหลับตา”
...มันก็ตายเหมือนกันแหละครับ งูอดครวญในใจไม่ได้ แต่มันยอมตอบโดยดีจนเซี่ยอวี่ฮัวประหลาดใจซ้ำสอง มันว่าง่ายเกินคาด
“ข้าไม่ใช่งูธรรมดา ข้าเป็นบาซิลิสก์ ตาของข้าร้ายแรงพอ ๆ กับเมดูซ่า ถ้าข้ามองเจ้าตอนนี้เจ้าตายแน่” พูดจบมันยิ้มยั่วอารมณ์ดังเดิม เอ่ยเสริมว่า “ข้าไม่อยากให้คนสวย ๆ อย่างเจ้าตายนะ โลกนี้มีคนหล่ออย่างข้าก็ต้องมีคนสวยอย่างเจ้---” ไม่ทันจบประโยคแรงกดที่แผ่นหลังพลันเพิ่มขึ้นจนมันต้องหยุดพูดกลางคัน เบ้ปากน้อย ๆ อย่างเจ็บปวด
“เลิกพูดมากแล้วปล่อยให้ข้าฆ่าเจ้าได้แล้ว” ท่าทางเอาจริงทำให้เจ้างูหน้าซีด มันเริ่มเจรจาต่อรองกับดอกไม้งามหวังต่อชีวิตตัวเอง
“จ...ใจเย็น ๆ นะ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันก็ได้ งั้นเอางี้ ข้าจะยอม... เฮ้ย! ข้ายังพูดไม่จบ!!!” งูแหกปากลั่นเมื่อที่อยู่ในมือเซี่ยอวี่ฮัวไม่ใช่พลองอีกต่อไป แต่เป็นดาบคมกริบชนิดที่ตัดคอเขาขาดได้ภายในดาบเดียว “ข้าขอทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับเจ้า!”
“ท่าน” เซี่ยอวี่ฮัวแก้ให้เสียงเย็นชา มันรีบทวนคำพูดใหม่ทันทีโดยไม่ลืมยิ้มประจบสอพลอไปด้วย
“นั่นแหละ ข้าขอทำข้อตกลงกับท่าน”
คนงามยอมลดอาวุธอันตรายลง แต่แววตายังคงไม่ไว้วางใจ เจ้างูรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสเดียว หากมีอะไรตุกติกเมื่อไหร่เขาคงโดนเชือดเอาไปทำย่ามหนังงูทันที มันจึงรีบเปิดปากเจรจา
“ขอแนะนำตัวก่อน ข้าเฮยเสียจื่อ ต้องขออภัยที่การพบกันของเราออกจะ...รุนแรงเกินไปหน่อย” เซี่ยอวี่ฮัวพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่าย มันกล่าวต่ออย่างรวดเร็วว่า “เอ่อ...นั่นแหละ จะพบกันยังไงก็ช่าง เอาเป็นว่าเพื่อสุขภาพท้องที่ดีของข้าในอนาคต และเพื่อชีวิตน้อย ๆ ของประชาชนในแคว้นของท่าน ข้าจะยอมลด ละ เลิก การไล่ฆ่าชาวบ้านในหมู่บ้าน แลกกับการที่ท่านต้องให้ข้ากิ--- ข้าหมายถึงหาเนื้อสด ๆ ให้ข้ากิน” เฮยเสียจื่อเปลี่ยนคำพูดกลางอากาศเมื่อเห็นสายตาอันตรายจากคนงาม มันส่งยิ้มประจบประแจง หารู้ไม่นั่นยิ่งทำให้เซี่ยอวี่ฮัวเพิ่มความหมั่นไส้ในตัวมันมากขึ้น
ราชินีคนงามนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วเผยรอยยิ้มชวนเสียวสันหลัง เขาเอ่ยว่า “ข้ามีข้าเสนอที่ดีกว่านั้น ในวังมันเงียบเหงา ข้าเบื่อ ถ้าเจ้ายอมมาเป็นสัตว์เลี้ยง...หรือของเล่นให้ข้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าแล้วพาเจ้ากลับวัง ให้อาหารครบสามมื้อแถมกรงขั--- ที่นอนอย่างดีให้เจ้า” เฮยเสียจื่อไม่ได้ยินคำพูดที่เกือบหลุดจากปากคนงาม เพราะเจ้าตัวสมองหยุดทำงานตั้งแต่คำว่า ‘สัตว์เลี้ยง’ แล้ว
การเป็นสัตว์เลี้ยง ต่อให้เป็นสัตว์เลี้ยงของราชินีผู้สูงส่งและงดงาม มันถือเป็นการดูหมิ่นสัตว์วิเศษเช่นบาซิลิสก์เป็นอย่างมาก เจ้างูจึงทำหน้าบูดเบี้ยว ต่อสู้กับตัวเองอยู่สักพักใหญ่ ๆ แล้วตอบว่า
“ก็แล้วแต่ท่านเถอะ คนงาม ข้ารับข้อเสนอ” เซี่ยอวี่ฮัวถึงกับอ้าปากค้าง มองบาซิลิสก์ความคิดพิลึกพิลั่นตรงหน้า ปกติสัตว์วิเศษนั้น ไม่ว่าเป็นตัวอะไรก็ตาม ต่างถือตนหยิ่งยโส ไม่ก้มหัวให้ใคร แล้วดูเจ้างูสมองกลับของเขาสิ
“เอ้า! ข้ายอมรับข้อเสนอแล้วท่านยังทำหน้าไม่อยากจะเชื่ออีก หรือต้องให้ข้าโค้งคำนับท่านด้วยเลยไหม” หลังรู้ตัวว่าไม่ถูกฆ่าแน่แล้ว ปากเสีย ๆ ของเจ้างูก็เริ่มทำงานอีกรอบ เซี่ยอวี่ฮัวตบหัวมันไปหนึ่งทีแล้วส่งแว่นคืนให้ เฮยเสียจื่อรับมาใส่ เด้งตัวลุกจากพื้นเมื่อแรงกดที่แผ่นพลังหายไป มันหันไปยิ้มกว้างใส่ผู้เป็นเจ้านาย ไม่พอยังเลื้อยไปใกล้ ๆ ราชินีแดนบุปผา
“มีท่านอยู่ใกล้ ๆ ชีวิตข้าคงสนุกขึ้นหลายเท่า จากนี้ฝากตัวด้วยนะ คนงามของข้า”
เซี่ยอวี่ฮัวหรี่ตาไม่พอใจ เขาส่ายหัว เอ่ยอย่างเข้มงวด “เมื่อกี้เจ้าพูดผิดแล้ว ไหนลองพูดใหม่ให้ฟังเพราะ ๆ กว่านี้ซิ”
เฮยเสียจื่อเลิกคิ้ว แล้วจึงคลี่ยิ้มยั่วอารมณ์ มันคุกเข่าลงต่อหน้า แล้วจุมพิตหลังมือของราชินีคนงาม พลางเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ
“เจ้างูนามเฮยเสียจื่อ ยินดีที่ได้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ ...ฝ่าบาท”
---END---
266 days left.
หลังเข้าวังเจ้างูจะได้กินราชินี หรือราชินีได้ถลกหนังงูคงต้องรอติดตา--- เอ่อ คงต้องขอให้ทุกท่านเชิญจินตนาการกันเอาเองนะคะ ฟฟฟฟฟ
The tale of Queen and Basilisk
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนที่มีพ่อมดทรงอำนาจ สัตว์วิเศษ และเรื่องราวสุดพิศวง ยังมีราชินีผู้ปกครองแคว้นแห่งบุปผา นางมีพระสิริโฉมงดงามเกินบรรยาย ทั้งเสียงยามร้องเพลงยังไพเราะราวกับดนตรีจากสรวงสวรรค์ หากแต่นางแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ไหน เล่าลือกันว่านางสามารถปราบศัตรูได้ถึงสิบคนเพียงสะบัดไม้พลองอันเป็นอาวุธประจำกาย ซ้ำยังฉลาดมีไหวพริบมากล้น ด้วยเหตุนี้เองที่แคว้นแห่งบุปผาเจริญรุ่งเรืองมานานหลายต่อหลายปี
แม้จะเป็นแคว้นที่มีความรุ่งเรืองมาก แต่ก็หลีกไม่พ้นภัยพิบัติที่ต้องเกิดขึ้น วันหนึ่ง เกิดเหตุอาเพศขึ้น เมื่อประชาชนในแคว้นทางทิศเหนือต่างล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านต่างหวาดกลัว เริ่มมีข่าวลือว่าเป็นเพราะปีศาจชิงชังความสงบสุขของแคว้นแห่งนี้ จึงได้ให้ลูกน้องมาทำลายหมู่บ้านและฆ่าล้างมนุษย์
เมื่อบ้านเมืองระส่ำระส่ายเช่นนี้ ราชินีย่อมไม่อาจนิ่งเฉย นางออกเดินทางไปยังทิศเหนือ เพื่อค้นหาต้นตอของความวิบัติในครั้งนี้
“มันเป็นงู! งูตัวใหญ่ ข้าสาบานได้ ข้าเห็นมัน น้องสาวข้าก็เห็นมัน ก่อนที่นางจะ... ฮึก... ฮือ...” ราชินีได้ฟังคำบรรยายของเจ้าสัตว์หายนะก็ถึงกับขมวดคิ้วชักสีหน้า นางไม่เคยได้ยินสัตว์ชนิดนี้มาก่อน หรือจะเป็นฝีมือของปีศาจจริง ๆ
นางเลิกคิดไร้สาระ หลังสอบถามชาวบ้านจนได้รับข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน นางพักเพียงแค่หนึ่งวัน แล้วมุ่งหน้าไปยังป่าลึก ที่ที่ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของมัน
รัตติกาลมาเยือน ท้องฟ้าปกคลุมด้วยสีน้ำเงินเข้ม ดวงดาวพร่างพรายแต้มบนฟากฟ้า ส่องประกายระยับล้อกับดวงจันทร์ ราชินีไม่หยุดพัก นางควบม้าผ่านป่าสนและพุ่มไม้ ตรงไปยังใจกลางป่า ด้วยอารามรีบร้อน ไม่ทันระวังตัวก็ถูกสัตว์ร้ายจับได้เสียแล้ว
เสียงขู่ฟ่อเป็นสัญญาณเตือนเดียวที่นางรับรู้ ชั่วเสี้ยววินาทีก่อนมันพุ่งเข้ามา นางสลัดตัวลงจากหลังม้า หลบงูยักษ์ได้อย่างเฉียดฉิว นางสบถแล้วคว้าไม้พลองประจำกายขึ้นมาทันที
ผิดคาดที่เจ้างูไม่พุ่งมาหานางอีก มันเพียงชูคอขึ้นแผ่แม่เบี้ย ส่ายหัวไปมาแล้วจ้องนางอย่างสงบนิ่ง
“เจ้าเป็นใครถึงอาจหาญบุกรุกถิ่นของเรา” เสียงของมันทุ้มต่ำ น้ำเสียงปะปนระหว่างความสงสัยใคร่รู้และความมุ่งร้าย ราชินีแค่นหัวเราะเหยียดหยามในลำคอ เอ่ยตอบมันไปว่า
“เซี่ยอวี่ฮัว... นั่นคือนามของข้า ทีนี้ข้าคงต้องถามกลับไปว่า เหตุใดเจ้าถึงได้ทำลายหมู่บ้านและเข่นฆ่าประชาชนของเรา” เจ้างูเอียงคอราวกับไม่เข้าใจคำถาม ท่าทางผิดกับอสรพิษใด ๆ ที่เขาเคยเจอ มันดูน่าขันยิ่งนัก แต่สถานการณ์เช่นนี้คงขำไม่ออก
จนถึงตอนนี้เองที่เซี่ยอวี่ฮัวเพิ่งค้นพบว่าเจ้างูไม่ได้ลืมตามองเขา จริง ๆ แล้วมันหลับตาอยู่ตลอด แต่ประสาทมันไวมากจึงหันมาทางทิศที่เขาอยู่ได้อย่างถูกต้อง มันไม่ยอมตอบคำถามของเขา แต่กลับพูดสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงออกมาแทน “นั่น...ไม่ใช่ชื่อจริงของเจ้าหรอก ใช่ไหม”
มันรู้ได้อย่างไร! ราชินีพยายามสงบจิตใจที่ตื่นตระหนก กล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า
“จงตอบคำถามข้า ก่อนที่เจ้าจะไม่มีลิ้นให้พูด”
เจ้างูส่งเสียงหัวเราะดังฟ่อ ๆ ในลำคอ ทันใดนั้นร่างงูอันใหญ่โตของมันกลับเปลี่ยนรูปลักษณ์ เพียงกะพริบตางูตรงหน้าพลันหายไป ราชินีจับไม้พลองมั่นเตรียมตั้งรับการโจมตี แต่แล้วเสียงทุ้มที่ดังอยู่ข้างหูทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ
“คำถามเจ้าแปลกประหลาด ส่วนคำตอบนั้นง่ายดาย ข้าเป็นงู และข้าก็ต้องกิน” แรงขบที่ใบหูราวกับหยอกล้อเป็นเสมือนการหยามหน้าชนิดหนึ่ง ราชินีผู้ไม่เคยถูกหยามถึงกับเลือดขึ้นหน้า เขาสะบัดไม้พลองฟาดใส่เจ้างูไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หากแต่หวดได้เพียงอากาศ
“ราชินีแห่งแดนบุปผา เซี่ยอวี่ฮัว... หรือควรเรียกว่า... เซี่ยอวี่เฉินดี?” เจ้างูบัดนี้กลายร่างเป็นมนุษย์พลิ้วกายหลบไม้พลองอย่างสบาย ๆ รอยยิ้มยั่วประสาทบนใบหน้ายิ่งเพิ่มแรงหวดให้แก่อาวุธของคนงาม เพราะไม่เห็นดวงตาซึ่งอยู่หลังแว่นสีดำสนิททำให้ไม่อาจรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เซี่ยอวี่ฮัวมั่นใจว่ามันคงกวนประสาทพอ ๆ กับรอยยิ้มนั่นแน่นอน
“โธ่ คนงาม โมโหข้าหรือ ข้าฆ่าชาวบ้านพวกนั้นไปเพราะข้าก็ต้องกินต้องอยู่นะ ไม่กินข้าหิวตายพอดี อย่าโกรธนักเลย รู้ไหมข้าไม่ถอดแว่นออกก็บุญโขแล้ว ไม่งั้นเจ้าตายแน่” คำพูดนั้นสะกิดต่อมความสงสัยของราชินีแดนบุปผา เขาเตะตัดขาเจ้างู ทำให้มันที่ไม่คิดว่าจะโดนประทุษร้ายทางนี้ถึงกับทรุด แต่ทรุดได้แป๊บเดียวมันก็เลื้อยตัวหนีพลองอย่างรวดเร็ว พลางขยับกายเข้าใกล้เขามากขึ้น มากขึ้น
เซี่ยอวี่ฮัวรู้ทันความคิดของมัน แต่ยังคงปล่อยให้มันเข้าประชิดตัวได้ง่าย ๆ หลอกล่อให้มันคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน แล้วพอเจ้างูได้ที มันก็ปราดเข้าประชิดราชินีคนงาม ทว่าเซี่ยอวี่ฮัวพลันยิ้มเหี้ยม ตวัดขาถีบกลางเป้าเจ้างูโรคจิตเต็มแรง
“อุก!!!” เจ้างูร่างคนถึงกับเอามือกุมเป้า ทรุดตัวนั่งหน้าเขียวหน้าแดง คนงามฟาดพลองซ้ำเข้าที่หลัง เล่นเอาอสรพิษร้ายลงไปนอนหมอบ ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างทรมาน
“อูย... เล่นแรงนะ ถ้าข้าสืบพันธุ์ไม่ได้เจ้าจะเสียใจ” เสียใจบ้านเจ้าสิ... ราชินีสบถในใจ เท้าเหยียบหลังเจ้างู กดน้ำหนักลงไปสุดแรงไม่ให้หนีหรือดิ้นได้ แล้วจึงเอ่ยด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียมจนเจ้างูขนลุกวาบ รู้สึกยินดีไปนอนเล่นในนรกแทนที่จะเผชิญหน้ากับดอกไม้งามทันที
“จับได้แล้ว คราวนี้จะเอาไงดีนะ ถลกหนังหรือเชือดคอหอยดี” ไม่ว่าเปล่าคนงามยังเอาพลองกระทุ้งหลังคอเจ้างู มันส่งเสียงร้อง แอ๊ก! อย่างชวนสังเวช แล้วเงยหน้ามองราชินีด้วยสายตาละห้อย ชวนให้สงสัยว่าท่าทีอันตรายเมื่อครู่มันหายไปไหนหมด
“คนงามอย่านะ โลกยังต้องการงูหล่อ ๆ อย่างข้าอยู่--- จ๊าก!!!”
“รู้แล้ว เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรเกี่ยวกับตาของเจ้านะ” ราชินีหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด แล้วเอื้อมมือดึงแว่นดำออกจากใบหน้ามันทันที ไม่สนใจเจ้างูที่ร้องเสียงหลงยิ่งกว่าถูกเชือด
“อย่าดึงมันออก!!!” มันหลับตาปี๋ กรีดร้องดังลั่นจนเซี่ยอวี่ฮัวอดประหลาดใจไม่ได้ ทีเขาเอาพลองฟาดยังไม่ร้องขนาดนี้ ตาของเจ้างูบ้านี่เป็นอะไรนะ
“ข้าจะเปลี่ยนจากถลกหนังมาเป็นการตายที่สบายกว่านี้ถ้าเจ้าตอบข้า ทำไมต้องใส่แว่นดำ และทำไมเจ้าต้องหลับตา”
...มันก็ตายเหมือนกันแหละครับ งูอดครวญในใจไม่ได้ แต่มันยอมตอบโดยดีจนเซี่ยอวี่ฮัวประหลาดใจซ้ำสอง มันว่าง่ายเกินคาด
“ข้าไม่ใช่งูธรรมดา ข้าเป็นบาซิลิสก์ ตาของข้าร้ายแรงพอ ๆ กับเมดูซ่า ถ้าข้ามองเจ้าตอนนี้เจ้าตายแน่” พูดจบมันยิ้มยั่วอารมณ์ดังเดิม เอ่ยเสริมว่า “ข้าไม่อยากให้คนสวย ๆ อย่างเจ้าตายนะ โลกนี้มีคนหล่ออย่างข้าก็ต้องมีคนสวยอย่างเจ้---” ไม่ทันจบประโยคแรงกดที่แผ่นหลังพลันเพิ่มขึ้นจนมันต้องหยุดพูดกลางคัน เบ้ปากน้อย ๆ อย่างเจ็บปวด
“เลิกพูดมากแล้วปล่อยให้ข้าฆ่าเจ้าได้แล้ว” ท่าทางเอาจริงทำให้เจ้างูหน้าซีด มันเริ่มเจรจาต่อรองกับดอกไม้งามหวังต่อชีวิตตัวเอง
“จ...ใจเย็น ๆ นะ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันก็ได้ งั้นเอางี้ ข้าจะยอม... เฮ้ย! ข้ายังพูดไม่จบ!!!” งูแหกปากลั่นเมื่อที่อยู่ในมือเซี่ยอวี่ฮัวไม่ใช่พลองอีกต่อไป แต่เป็นดาบคมกริบชนิดที่ตัดคอเขาขาดได้ภายในดาบเดียว “ข้าขอทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับเจ้า!”
“ท่าน” เซี่ยอวี่ฮัวแก้ให้เสียงเย็นชา มันรีบทวนคำพูดใหม่ทันทีโดยไม่ลืมยิ้มประจบสอพลอไปด้วย
“นั่นแหละ ข้าขอทำข้อตกลงกับท่าน”
คนงามยอมลดอาวุธอันตรายลง แต่แววตายังคงไม่ไว้วางใจ เจ้างูรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสเดียว หากมีอะไรตุกติกเมื่อไหร่เขาคงโดนเชือดเอาไปทำย่ามหนังงูทันที มันจึงรีบเปิดปากเจรจา
“ขอแนะนำตัวก่อน ข้าเฮยเสียจื่อ ต้องขออภัยที่การพบกันของเราออกจะ...รุนแรงเกินไปหน่อย” เซี่ยอวี่ฮัวพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่าย มันกล่าวต่ออย่างรวดเร็วว่า “เอ่อ...นั่นแหละ จะพบกันยังไงก็ช่าง เอาเป็นว่าเพื่อสุขภาพท้องที่ดีของข้าในอนาคต และเพื่อชีวิตน้อย ๆ ของประชาชนในแคว้นของท่าน ข้าจะยอมลด ละ เลิก การไล่ฆ่าชาวบ้านในหมู่บ้าน แลกกับการที่ท่านต้องให้ข้ากิ--- ข้าหมายถึงหาเนื้อสด ๆ ให้ข้ากิน” เฮยเสียจื่อเปลี่ยนคำพูดกลางอากาศเมื่อเห็นสายตาอันตรายจากคนงาม มันส่งยิ้มประจบประแจง หารู้ไม่นั่นยิ่งทำให้เซี่ยอวี่ฮัวเพิ่มความหมั่นไส้ในตัวมันมากขึ้น
ราชินีคนงามนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วเผยรอยยิ้มชวนเสียวสันหลัง เขาเอ่ยว่า “ข้ามีข้าเสนอที่ดีกว่านั้น ในวังมันเงียบเหงา ข้าเบื่อ ถ้าเจ้ายอมมาเป็นสัตว์เลี้ยง...หรือของเล่นให้ข้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าแล้วพาเจ้ากลับวัง ให้อาหารครบสามมื้อแถมกรงขั--- ที่นอนอย่างดีให้เจ้า” เฮยเสียจื่อไม่ได้ยินคำพูดที่เกือบหลุดจากปากคนงาม เพราะเจ้าตัวสมองหยุดทำงานตั้งแต่คำว่า ‘สัตว์เลี้ยง’ แล้ว
การเป็นสัตว์เลี้ยง ต่อให้เป็นสัตว์เลี้ยงของราชินีผู้สูงส่งและงดงาม มันถือเป็นการดูหมิ่นสัตว์วิเศษเช่นบาซิลิสก์เป็นอย่างมาก เจ้างูจึงทำหน้าบูดเบี้ยว ต่อสู้กับตัวเองอยู่สักพักใหญ่ ๆ แล้วตอบว่า
“ก็แล้วแต่ท่านเถอะ คนงาม ข้ารับข้อเสนอ” เซี่ยอวี่ฮัวถึงกับอ้าปากค้าง มองบาซิลิสก์ความคิดพิลึกพิลั่นตรงหน้า ปกติสัตว์วิเศษนั้น ไม่ว่าเป็นตัวอะไรก็ตาม ต่างถือตนหยิ่งยโส ไม่ก้มหัวให้ใคร แล้วดูเจ้างูสมองกลับของเขาสิ
“เอ้า! ข้ายอมรับข้อเสนอแล้วท่านยังทำหน้าไม่อยากจะเชื่ออีก หรือต้องให้ข้าโค้งคำนับท่านด้วยเลยไหม” หลังรู้ตัวว่าไม่ถูกฆ่าแน่แล้ว ปากเสีย ๆ ของเจ้างูก็เริ่มทำงานอีกรอบ เซี่ยอวี่ฮัวตบหัวมันไปหนึ่งทีแล้วส่งแว่นคืนให้ เฮยเสียจื่อรับมาใส่ เด้งตัวลุกจากพื้นเมื่อแรงกดที่แผ่นพลังหายไป มันหันไปยิ้มกว้างใส่ผู้เป็นเจ้านาย ไม่พอยังเลื้อยไปใกล้ ๆ ราชินีแดนบุปผา
“มีท่านอยู่ใกล้ ๆ ชีวิตข้าคงสนุกขึ้นหลายเท่า จากนี้ฝากตัวด้วยนะ คนงามของข้า”
เซี่ยอวี่ฮัวหรี่ตาไม่พอใจ เขาส่ายหัว เอ่ยอย่างเข้มงวด “เมื่อกี้เจ้าพูดผิดแล้ว ไหนลองพูดใหม่ให้ฟังเพราะ ๆ กว่านี้ซิ”
เฮยเสียจื่อเลิกคิ้ว แล้วจึงคลี่ยิ้มยั่วอารมณ์ มันคุกเข่าลงต่อหน้า แล้วจุมพิตหลังมือของราชินีคนงาม พลางเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ
“เจ้างูนามเฮยเสียจื่อ ยินดีที่ได้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ ...ฝ่าบาท”
---END---
266 days left.
หลังเข้าวังเจ้างูจะได้กินราชินี หรือราชินีได้ถลกหนังงูคงต้องรอติดตา--- เอ่อ คงต้องขอให้ทุกท่านเชิญจินตนาการกันเอาเองนะคะ ฟฟฟฟฟ
karnzaya- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 84
Points : 3753
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : สิงอยู่ในมือถือคุณชายฮัว
Re: [Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
กี๊ซซซซซซซซซซซ
ข.... ขอตอนต่อด้วยข่าาาาาาา มันค้างปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ข.... ขอตอนต่อด้วยข่าาาาาาา มันค้างปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
Re: [Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
เชียร์ราชินีกินงูค่ะ
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 4108
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
เชียร์งูกินราชินีค่ะ แอร๊ยยยยยย
Re: [Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
ควีนขาาาาาา งูมาเสิร์ฟแล้ว กินสิคะ กินเลยยยยย
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 4089
Join date : 27/10/2014
Age : 29
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [Short AU] #dmbjdaily (Queen) "The tale of Queen and Basilisk" [เฮยฮัว/ฮัวเฮย]
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!
เด็ดที่สุดในเต้ามู่ต้องคู่นี้เท่านั้น!!!!!!!!! ขอตอนต่อด่วนๆเลยค่ะ>3<
เด็ดที่สุดในเต้ามู่ต้องคู่นี้เท่านั้น!!!!!!!!! ขอตอนต่อด่วนๆเลยค่ะ>3<
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily (Queen) ราชินีดอกไม้ [เฮยฮัว]
» [OS] #dmbjdaily (น้ำตา) หยดน้ำที่มองไม่เห็น [เฮยฮัว, ฮัวเฮย]
» [OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]
» [OS] #dmbjdaily (เบียร์) เบียร์กระป๋อง [ฮัวเฮย/เฮยฮัว]
» [Drabble] #dmbjdaily 52 days left : Kabe-don (壁ドン) [ว่านวัง,15,เอ้อร์เหลียน,พานสาม] *เพิ่ม* [เฮยฮัว/ฮัวเฮย, ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily (น้ำตา) หยดน้ำที่มองไม่เห็น [เฮยฮัว, ฮัวเฮย]
» [OS] #dmbjdaily (พ่อ) บันทึกของเสี่ยวหลิง : รักอันไร้เงื่อนไข [เซี่ยอวี่ฮัว + ?? /Implied ฮัวเฮย or เฮยฮัว]
» [OS] #dmbjdaily (เบียร์) เบียร์กระป๋อง [ฮัวเฮย/เฮยฮัว]
» [Drabble] #dmbjdaily 52 days left : Kabe-don (壁ドン) [ว่านวัง,15,เอ้อร์เหลียน,พานสาม] *เพิ่ม* [เฮยฮัว/ฮัวเฮย, ผิงเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth