Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
+2
casey
CaiQing
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
ตอนที่ 1 ==> https://dmbjth.thai-forum.net/t1101-topic
ตอนที่ 2 ==> https://dmbjth.thai-forum.net/t1139-topic
ตอนที่ 3 ==> https://dmbjth.thai-forum.net/t1317-topic
ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
สมัยที่จางฉี่หลิงยังไม่ใช่จางฉี่หลิงเขาเคยมีความสุขมาก่อน แต่ตอนนั้นเขาเคยเป็นใครเขาก็จำไม่ได้เสียแล้ว
แต่สิ่งที่ยังจำได้เด่นชัดคือแม่...
จางฉี่หลิงจำได้ว่าตอนนั้นเขามีความสุขมาก แม้จะนึกไม่ค่อยออกว่าชีวิตตอนนั้นเป็นอย่างไรแต่ก็จำความรู้สึกเป็นสุขได้ เขาจำกลิ่นหอมกรุ่นจากตัวของแม่ได้ จำสัมผัสอ่อนนุ่มเมื่อกอดแม่ได้
...แต่กลับจำใบหน้าของแม่ไม่ได้
ไม่ว่าจะพยายามขบคิดแค่ไหนก็นึกไม่ออก จางฉี่หลิงเคยพยายามส่องกระจกแล้วพินิจใบหน้าตัวเอง บางทีเขาอาจจะละม้ายคล้ายกับแม่บ้าง แต่ใบหน้าที่สะท้อนในกระจกกลับไม่ช่วยกระตุ้นเตือนความทรงจำที่เลือนหายไปเลย
และไม่ว่าเขาจะถามพ่อกี่ครั้งพ่อก็ไม่เคยบอก
บางครั้งเขาคิดว่าผู้ชายคนที่พาเขาไปจากแม่อาจจะไม่ใช่พ่อจริงๆ ของเขาก็ได้ แต่ตอนที่ชายคนนี้มารับเขาไปแม่ของเขากลับไม่รั้งเขาไว้ เธอได้แต่ร้องไห้แล้วพร่ำบอกจางฉี่หลิงว่าขอโทษ
จางฉี่หลิงเคยเกลียดคำว่า “ขอโทษ” แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้ว
ทำผิดต่อผู้อื่นก็คือทำผิด การพูดคำว่าขอโทษนั้นไร้ประโยชน์ จางฉี่หลิงรู้ดีเพราะไม่ว่าแม่ของเขาจะพูดคำว่าขอโทษกี่ครั้งเขาก็ไม่เคยนึกอยากจะยกโทษให้เธอ และต่อให้ได้ยินอีกกี่ครั้งเขาก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น นับแต่นั้นจางฉี่หลิงจึงไม่ใส่ใจต่อผู้คนอีก
ดังนั้นตอนที่เซี่ยเหลียนหวนบอกเขาเรื่องโรงเรียนจางฉี่หลิงไม่ยินดียินร้ายอะไร เพราะถึงเซี่ยเหลียนหวนจะพาเขาเข้าโรงเรียนตอนนี้แต่เมื่อไรที่พ่อกลับมารับเขาทุกอย่างก็เหมือนเดิม
เซี่ยเหลียนหวนที่ดูจะรู้ว่าเขาคิดอย่างไรก็พูดบ่นเขาพึมพำว่า “ไอ้หนู ฉันรู้ว่าแกมันอัจฉริยะบุคคลที่พันปีจะมีสักคน และแกฉลาดเกิดเด็กวัยเดียวกันไปโขแล้ว ไม่สิถ้าจะว่ากันจริงๆ แกน่าจะฉลาดกว่าผู้ใหญ่หลายคนด้วยซ้ำไป” เซี่ยเหลียนหวนมองเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ “แต่เชื่อฉันสิ จะฉลาดยังไงแกก็เป็นเด็ก แกควรจะมีเพื่อนวัยเดียวกัน แกอาจจะชินกับพ่อใจไม้ไส้ระกำแต่ฉันไม่เหมือนกับพ่อของแกนะไอ้หนู ระหว่างที่แกอยู่ในความดูแลของฉันก็ให้ทำตามที่ฉันบอก อย่างน้อยให้ได้เรียนรู้การมีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ก็ยังดีวะ”
คำไหนคำนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นเซี่ยเหลียนหวนก็จัดแจงให้เขาไปโรงเรียนเสร็จสรรพแถมยังรอบคอบเตรียมเพื่อนเอาไว้ให้ด้วย
“เด็กคนนี้ชื่อจางฉี่หลิง” เซี่ยเหลียนหวนหันไปพูดกับชายที่เขาเรียกว่าอู๋ซันเสิ่ง “มีความจำเป็นบางอย่างทำให้ผู้ปกครองของเด็กคนนี้ต้องฝากเค้าไว้กับฉัน” แต่จางฉี่หลิงไม่ได้ใส่ใจกับชายทั้งสอง สายตาของจางฉี่หลิงแอบสำรวจเด็กน้อยรุ่นราวคราวเดียวกับเขาที่มากับอู๋ซันเสิ่ง
“หวัดดี” เด็กคนนั้นยิ้มกว้างใส่เขา “เราชื่ออู๋เสียนะ เรียกว่าเสี่ยวเสียก็ได้ เราเรียกนายว่าเสี่ยวจางได้มั้ย?” แก้ยุ้ยน่ารักทั้งสองข้างเป็นสีชมพูเปล่งปลั่ง จางฉี่หลิงรู้สึกว่ามือตัวเองกระตุกนิดๆ อย่างช่วยไม่ได้
จางฉี่หลิงขมวดคิ้ว เขาชอบเสี่ยวเสียแต่เขาเกลียดชื่อจางฉี่หลิง เขาอยากให้เด็กคนนี้เรียกชื่อจริงของเขา แต่เขานึกชื่อจริงของตัวเองไม่ออกนี่สิ
“เรียกเด็กคนนี้ว่าเสี่ยวเกอ (พี่ชายน้อย) ดีกว่า ชื่อนั่นน่ะเค้าไม่ค่อยชินเท่าไร” เซี่ยเหลียนหวนพูดแทรกขึ้นมา จางฉี่หลิงรู้สึกว่าชายตรงหน้าเริ่มเข้าท่าขึ้นทุกที บางทีการไปโรงเรียนอาจไม่ย่ำแย่นัก
“เสี่ยวเกอ เสี่ยวเกอ” เสี่ยวเสียลองเรียกชื่อที่เซี่ยเหลียนหวนเสนอ จางฉี่หลิงแอบรู้สึกปลื้มนิดหน่อย ชื่อนี่เวลาออกจากปากเด็กคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ “ตกลง งั้นเราจะเรียกนายว่าเสี่ยวเกอนะ”
จางฉี่หลิงที่ตอนนี้กลายเป็นเสี่ยวเกอพยักหน้ารับ
ถ้าเสี่ยวเสียจะเรียกเขาด้วยน้ำเสียงน่ารักแบบนั้นทุกครั้งเขาก็ชอบที่จะเป็น “เสี่ยวเกอ” มากกว่า “จางฉี่หลิง” แล้วล่ะ
โรงเรียนช่างน่าเบื่อ สิ่งที่ครูสอนก็น่าเบื่อ การท่องอักษรเขาก็ท่องได้นานแล้ว การนับเลขก็ด้วย แล้วไอ้การวาดรูปเล่นแบบไร้หัวข้อนี่มันมีจุดมุ่งหมายยังไงเสี่ยวเกอสงสัยนัก
ยังดีที่มีเสี่ยวเสียนั่งข้างๆ เพราะเวลาที่เบื่อเขาก็หันไปมองเสี่ยวเสียแทน เสี่ยวเกอมองเส้นผมที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนขนกระต่ายบนหัวทุยๆ นั่นแล้วก็นึกอยากจะจับมันเหลือเกิน แต่ที่อยากสัมผัสที่สุดก็ต้องเป็น...
แก้มยุ้ยทั้งสองข้างของเสี่ยวเสีย
แก้มนุ่มนิ่มน่าจับสีชมพูระเรื่อนั่นล่อหลอกให้เสี่ยวเกอแอบเหลือบมองอยู่นานแล้ว เสี่ยวเกอขบคิดอย่างหนักว่าจะหาทางแตะแก้มของเสี่ยวเสียด้วยวิธีไหนถึงจะดีที่สุด การจะลักลอบแตะแก้มเสี่ยวเสียโดยไม่ขออนุญาตก่อนอาจจะทำให้เสี่ยวเสียโกรธก็เป็นได้ เสี่ยวเกอเองก็ไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว
ยกเว้นเสี่ยวเสีย เสี่ยวเสียแตะเขาได้คนเดียว
เมื่อเช้าตอนที่เสี่ยวเสียจับมือเขาเสี่ยวเกอก็แอบตกใจที่ตัวเองไม่สะบัดมือออก เขากลับชอบที่มือเล็กๆ นั่นจับมือเขาไว้แน่น
เสี่ยวเสียสังเกตเห็นนิ้วที่ยาวผิดปกติของเขาด้วยแต่กลับไม่รู้สึกรังเกียจ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นต้องล้อเขาไปแล้ว แต่เสี่ยวเสียกลับดูสนอกสนใจมากกว่าจะรังเกียจ
ทำไมไม่ว่าเสี่ยวเสียจะทำอะไรก็ดูจะทำให้เสี่ยวเกอชอบมากขึ้นทุกทีกันนะ
เสี่ยวเกอชอบทุกอย่างของเสี่ยวเสียยกเว้นเพื่อนของเสี่ยวเสียบางคน เสี่ยวเกอรู้ว่าเสี่ยวเสียน่ารักขนาดนี้ต้องมีเพื่อนเยอะแยะอยู่แล้ว ในห้องมีเด็กอยู่ไม่มาก เท่าที่ดูจะมีอยู่แค่สองคนที่เสี่ยวเสียให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คนแรกคือหวังพ่างจื่อที่ชอบให้เรียกว่าเสี่ยอ้วน คนนี้นับว่าเป็นมิตรได้
แต่เซี่ยอวี่ฮัวนี่สิ เห็นแวบแรกเสี่ยวเกอก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้คล้ายกับเขา เซี่ยอวี่ฮัวซ่อนตัวเองใต้หน้ากาก “เสี่ยวฮัว” ทำตัวน่ารักไร้พิษภัยต่อหน้าเสี่ยวเสียแต่จริงๆ ซ่อนคมไว้มากมาย และยังเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์เหมือนเขา
ไม่เข้าใจว่าทำไมเสี่ยวเสียถึงคิดว่าเสี่ยวฮัวคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงกันนะ แล้วเจ้าเสี่ยวฮัวนั่นก็ยังไม่ปฎิเสธเสียด้วย คิดว่าน่าจะมีแผนอะไรอยู่
แต่ต่อให้เสี่ยวฮัวจะร้ายกาจกว่าเด็กคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็เทียบชั้นกับเขาไม่ได้อยู่ดี เสี่ยวฮัวใจร้อนวู่วามเกินไป เรียกว่ายังสลัดความเป็นเด็กของตนเองได้ไม่ดีเท่าเสี่ยวเกอ แม้ตอนแรกเจ้าตัวจะพยายามทำนิ่งแค่ไหนแต่เสี่ยวเกอก็สังเกตได้ว่าความอดทนของเสี่ยวฮัวมีจำกัด
และเสี่ยวฮัวก็ก้าวพลาดก้าวแรกตอนมื้อเที่ยงนี่เอง...
“กล้าดียังไงมาเกาะติดเสี่ยวเสียของฉัน!” ในที่สุดเสี่ยวฮัวก็โพล่งขึ้นมากลางวงอาหาร เสี่ยวเกอแค่จ้องตอบเงียบๆ เขารู้ดีว่าเสี่ยวฮัวไม่พอใจที่เสี่ยวเสียคอยคีบข้าวคีบกับมาป้อนเขา เสี่ยวเกอนึกยิ้มเยาะในใจ
“เสี่ยวเสีย...” เสี่ยวเกอตัดสินใจจะทำให้เสี่ยวฮัวสติหลุดมากกว่าเดิม
“อะไรเหรอเสี่ยวเกอ” เสี่ยวเสียยิ้มกว้างสุดแสนจะน่ารักจนเสี่ยวเกอแทบจะอดเอานิ้วไปจิ้มแก้มยุ้ยๆ นั่นไม่ได้
ดีที่ว่าเสี่ยวเกอมีความอดทนสูงส่งเขาจึงยั้งมือไว้ทัน เสี่ยวเกอเหลือบมองเสี่ยวฮัวเพื่อยั่วโมโหแวบหนึ่ง
“อยากกินอีก...”
แทบจะทันทีที่ได้ยินเสี่ยวเสียก็รีบกุลีกุจอป้อนข้าวเขาแทบไม่ทัน เสี่ยวเกอเคี้ยวข้าวไปพลางลอบมองเยาะเย้ยเสี่ยวฮัวไปพลางอย่างมีความสุข
นี่เขาไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
“นายเสี่ยวเกอ! อย่าคิดว่าหลอกคนอื่นได้แล้วจะหลอกเซี่ยอวี่ฮวาคนนี้ได้นะ” เสี่ยวฮัวตวาดใส่เขา “ฟังให้ดีนะ เสี่ยวเสียเป็นของฉัน คนมาทีหลังอย่างนายน่ะเจียมตัวไว้ซะบ้าง!”
แต่เสี่ยวเกอหรือจะใส่ใจ เขายังคงกินข้าวต่อไปอย่างไม่แยแส ปล่อยให้เสี่ยวฮัวดีดดิ้นต่อไปให้พอใจ
โอกาสของเสี่ยวเกอมาถึงหลังมื้อกลางวัน เสี่ยวเสียที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาสอนเขาถึงการล้างมืออย่างถูกวิธีไม่ได้สังเกตเลยว่ามีข้าวติดที่แก้มอยู่เมล็ดหนึ่ง
เสี่ยวเกอรู้ทันทีว่านี่คือโอกาสทองเขาจึงยกสองนิ้วยาวๆ ขึ้นมาคีบเอาเมล็ดข้าวจากแก้มของเสี่ยวเสีย
แน่นอนว่าไม่ลืมที่จะแอบจิ้มแก้มนุ่มนิ่มนั่นนิดนึง
นุ่มนิ่ม! นุ่มนิ่มกว่าที่คิดเยอะเลย!
“เสี่ยวเกอทำอะไรน่ะ?” ของเสี่ยวเสียขมวดคิ้วมุ่น ยิ่งดูน่ารักกว่าเดิม
เสี่ยวเกอเลือกจะไม่ตอบแต่ยื่นมือไปให้ดูแทน สองนิ้วของเขาคีบข้าวที่เก็บจากแก้มของเสี่ยวเสียเอาไว้
“อ๋อ” เสี่ยวเสียยิ้ม “มีข้าวติดแก้มเสี่ยวเสียเหรอ ขอบใจนะเสี่ยวเกอ” แล้วเด็กตรงหน้าก็ยิ้มให้เขาอีกแล้ว
เสี่ยวเสียยิ้มบ่อยเหลือเกิน เสี่ยวเกอทั้งพอใจและไม่พอใจ เขาชอบให้เสี่ยวเสียยิ้ม แต่ต้องยิ้มให้เขาเท่านั้นนะ ยิ้มให้คนอื่นโดยเฉพาะยิ้มให้เสี่ยวฮัวอะไรนั่นเขาไม่ชอบเลย แต่เสี่ยวเกอรู้ดีเกินกว่าจะไปห้ามไม่ให้เสี่ยวเสียเที่ยวโปรยยิ้มไปทั่ว
ก็เขาไม่โง่เหมือนเสี่ยวฮัวนี่นา ปล่อยให้เสี่ยวฮัวโวยวายให้พอ โวยวายมากเข้าเสี่ยวเสียก็ต้องเบื่อไปเอง สุดท้ายเสี่ยวเสียก็จะมองเขาคนเดียว
คิดได้แบบนั้นเสี่ยวเกอก็เริ่มอารมณ์ดีมากขึ้น เขาอ้าปากงับข้าวเมล็ดนั้นเข้าปาก ข้าวสวยเมล็ดนี้ทั้งนุ่มทั้งหวาน อร่อยยิ่งกว่าข้าวที่กินมาก่อนหน้านี้อีก
คราวหน้าขอให้เสี่ยวเสียกินข้าวไม่ระวังแล้วมีเมล็ดข้าวติดแก้มอีกเยอะๆ ด้วยเถอะ
ได้จิ้มแก้มเสี่ยวเสียไปแค่หนเดียวเสี่ยวเกอรู้สึกว่ามันยังน้อยไป อย่ากระนั้นเลย ขอจิ้มอีกสักรอบเถอะ ยังไงซะเสี่ยวเสียก็คงไม่ว่าอะไรแน่นอน และถึงจะว่าเสี่ยวเกอก็มีแผนในใจแล้ว ครั้งนี้เขาลองจิ้มค้างไว้นานกว่าครั้งที่แล้ว แล้วก็ชักนิ้วกลับ ทำอย่างนี้อยู่หลายรอบจนเสี่ยวเสียเริ่มทนไม่ไหว
“ทำอะไรน่ะเสี่ยวเกอ? จิ้มแก้มเสี่ยวเสียทำไม?”
เสี่ยวเกอนิ่งคิดทบทวนแผนการในใจก่อนจะตอบว่า
“นุ่ม...”
“หา?”
“ไม่เคยจิ้มอะไรที่นุ่มๆ แบบนี้มาก่อนเลย” เสี่ยวเกอสังเกตเห็นเสี่ยวเสียทำหน้างุนงง ท่าทางสงสัยใคร่รู้กว่าเดิม จังหวะนี้เหมาะเจาะพอดีกับแผนการของเขา
จากนั้นเสี่ยวเกอก็จิ้มแก้มเสี่ยวเสียของเขาไปพลางแล้วเล่าให้ไปพลางว่าพ่อบังคับให้เขาฝึกวิชาทุกวันและลำบากแค่ไหน ทั้งต้องใช้สองนิ้วจิ้มลงในทรายบ้าง จิ้มลงในกรวดบ้าง ต้องถูกดึงนิ้วบ้าง แถมบางทีก็โดนพอกสมุนไพรเหม็นๆ แสบๆเอาไว้เป็นวันๆ ก็มี
และก็เป็นดังที่เสี่ยวเกอคาดไว้ เสี่ยวเสียผู้แสนน่ารักของเขาเอ่ยปากอนุญาตทันทีที่ฟังจบ
“เสี่ยวเกออยากจะจิ้มแก้มเสี่ยวเสียก็จิ้มได้เลยนะ” เสี่ยวเสียพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ...แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี
ช่วงบ่ายเป็นช่วงที่เสี่ยวเกอมีความสุขที่สุดของวัน เขาจะจิ้มแก้มของเสี่ยวเสียเล่นกี่ครั้งเจ้าตัวก็ไม่ว่าสักนิด
และที่น่าสนุกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการได้เห็นเสี่ยวฮัวโกรธจนหักดินสอตัวเองจนหมดกล่องยังไม่พอ ยังจะพาลไปคว้าดินสอของเสี่ยอ้วนมาหักระบายอารมณ์ด้วย
พอเลิกเรียนเสี่ยวเสียก็จูงมือเขาออกไปรอเซี่ยเหลียนหวนและอู๋ซันเสิ่งที่หน้าโรงเรียน และก็เป็นดังที่เขาคาดไว้ เสี่ยวฮัวยังคงไม่รามือง่ายๆ เสี่ยวเกอจะลองดูซิว่าเสี่ยวฮัวจะดิ้นยังไงได้อีก
“นายเสี่ยวเกอไปให้ห่างจากเสี่ยวเสียเลยนะ! แก้มของเสี่ยวเสียก็เหมือนกัน อย่ามาจิ้มอีกเด็ดขาด” เสี่ยวฮัวคว้าเอาเสี่ยวเสียของเขาไปกอดไว้ ตอนแรกเสี่ยวเกอคิดจะเข้าไปแย่งตัวเสี่ยวเสียกลับมาอยู่แล้วเชียว โชคดีที่พอได้ยินเสี่ยวฮัวพูดคำต่อมาก็ชะงักเท้าไว้ทัน “นี่คงจะเห็นเสี่ยวเสียขี้ใจอ่อนเลยเอาเปรียบ นายมันใช้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนฝากให้เสี่ยวเสียดูแลนาย นายคิดว่าเสี่ยวเสียจะมาคอยดูแลนายแบบนี้เหรอ?”
ในเมื่อศัตรูกำลังขุดหลุมฝังตัวเองเสี่ยวเกอจะเข้าไปขวางทำไมกันล่ะ สู้ก้มหน้านิ่งๆ แสดงเป็นฝ่ายถูกรังแกจะได้เรียกร้องความสงสารจากเสี่ยวเสียไม่ดีกว่าเหรอ
เสี่ยวเกอแอบเหลือบมองเสี่ยวเสียที่น่ารักของเขาว่าจะทำยังไง และก็ไม่เสียแรงที่เป็นคนของเขา เสี่ยวเสียผลักเสี่ยวฮัวออกแล้วปั้นหน้าดุ
“เสี่ยวฮัวขอโทษเสี่ยวเกอซะ” ก็รู้นะว่าเสี่ยวเสียพยายามทำเสียงเข้ม แต่เสี่ยวเสียของเขาก็ยังน่ารักอยู่ดีแหละ
“แต่ว่า” เสี่ยวฮัวตั้งท่าจะเถียงแต่ก็ไม่ทันเสี่ยวเสียของเขา เวลาที่เสี่ยวเสียลุกขึ้นปกป้องคนที่รักนั้นดูน่ามองขนาดนี้เชียว เสี่ยวเกอรู้สึกอุ่นวาบในอก นอกจากแม่ของเขาแล้วไม่เคยมีใครปกป้องเขามาก่อน และตอนนี้แม่ก็ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว
แต่เสี่ยวเสียอยู่ตรงนี้ กำลังปกป้องเขาอยู่...
“เสี่ยวฮัวต้องขอโทษเสี่ยวเกอ เสี่ยวเกอไม่ได้ทำอะไรผิดสักอย่างแต่เสี่ยวฮัวก็โกรธใส่เสี่ยวเกอทั้งวัน เมื่อกี้ยังว่าเสี่ยวเกอเสียยกใหญ่ เสี่ยวฮัวทำให้เสี่ยวเกอเสียใจนะ”
“แต่นายนั่นมาเกาะติดเสี่ยวเสียตลอด แถมยังจะมาจิ้มแก้มเสี่ยวเสียอีก เสี่ยวฮัวไม่ยอมหรอกนะ” เห็นศัตรูหัวใจทำแก้มป่องแบบนั้นเสี่ยวเกอก็นึกอยากจะเหน็บแนมเสียเหลือเกินว่าทำแบบนั้นไม่ได้น่ารักเลย ถ้าเป็นเสี่ยวเสียของเขาก็ว่าไปอย่าง
“นั่นเพราะเสี่ยวเกอเป็นเพื่อนเสี่ยวเสีย เสี่ยวเกอเพิ่งมาใหม่เสี่ยวเสียก็ต้องดูแล เรื่องจิ้มแก้มเสี่ยวเสียก็อนุญาตเสี่ยวเกอแล้วด้วย!” เสี่ยวเสียพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดแล้วเดินมายืนข้างๆ เขา
เสี่ยวเกอเองก็นึกสงสัยว่าเสี่ยวเสียจะทำอะไรต่อ แต่พอเสี่ยวเสียของเขายื่นแก้มให้แล้วพูดว่า “เสี่ยวเกอจิ้มได้เลยเสี่ยวเสียให้จิ้มนะ” แถมยังทำแก้มป่องให้จิ้มด้วยก็ทำเอาเสี่ยวเกอหัวใจเต้นรัวแทบจะระเบิด “เสี่ยวเกออยากจะจิ้มเสี่ยวเสียเมื่อไรกี่ครั้งก็ได้ทั้งนั้นเสี่ยวเสียไม่ว่าหรอก”
เสี่ยอ้วนร้องอุทานว่า “ไอ๊หยา เทียนเจินอู๋เสียนี่ใจกล้าบ้าบิ่นไม่เลวแฮะ”
“จิ้มเสี่ยวเสียได้จริงๆ นะ?” เขากระซิบถามเสี่ยวเสีย เพราะถึงเสี่ยวเกอจะมั่นใจในแผนการตัวเองแค่ไหนแต่พอเสี่ยวเสียออกโรงปกป้องเขาแล้วยังให้คำสัญญาน่ารักๆ แบบนี้เขาก็อดจะหวาดหวั่นใจไม่ได้
เพราะจางฉี่หลิงไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข
…แต่ตัวเขาในตอนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสี่ยวเสียไม่ใช่จางฉี่หลิง สำหรับเสี่ยวเสียเขาคือเสี่ยวเกอ ถ้าอย่างนั้นเขาคงจะมีความสุขได้ใช่มั้ย
เสี่ยวเกอมองสบตากลมที่ใสซื่อจริงใจตรงหน้า เสี่ยวเสียของเขาช่างบริสุทธิ์สดใส รอยยิ้มน่ารักนั่นตอนนี้มอบให้เขาเพียงคนเดียว
“อื้ม ได้สิ เสี่ยวเกอจะจิ้มเสี่ยวเสียกี่ครั้งจะจิ้มเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้นเลย เสี่ยวเสียสัญญาแล้วไม่คืนคำแน่นอน!”
เสี่ยวเกอรู้สึกได้ว่าแก้มของตัวเองปวดๆ แน่นๆ ประหลาด แต่แล้วก็มารู้ว่าตัวเองกับลังฉีกยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนนับตั้งแต่จากแม่ของเขามา เสี่ยวเสียเห็นเขายิ้มอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างตอบเช่นกัน
เขายินยอมยืนยิ้มแข่งกับเสี่ยวเสียทั้งคืนยังได้ แต่เสียดายที่ “ผู้ปกครอง” ทั้งสองของพวกเขามารออยู่นานแล้ว แถมยังเลือกที่จะปรากฎตัวเอาตอนนี้ทั้งที่จริงๆ แล้วแอบดูเด็ก “ทะเลาะ” กันอยู่ตั้งนาน
ช่างเลือกเข้ามาได้ถูกจังหวะเสียจริงนะ เสี่ยวเกออดจะหันไปเขม็งตาใส่เซี่ยเหลียนหวนที่ยืนกลั้นหัวเราะไม่ได้
“อาเซี่ยฮะ อาสามเป็นอะไร?” ในหมู่ทุกคนคงจะมีแต่เสี่ยวเสียที่ไม่รู้ว่าเซี่ยเหลียนหวนและอู๋ซันเสิ่งเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา “พวกอาเป็นอะไรฮะ? ไม่สบายหรือเปล่า?”
“เสี่ยว...เสี่ยวเสีย...” เสี่ยวเกอนึกแอบแช่งให้เซี่ยเหลียนหวนสำลักแล้วลงไปชักดิ้นชักงอเสียเลย “พวกอา...ไม่เป็นไร...เรา...กะ...กลับ...อุ๊...หึ...กลับบ้านกันเถอะ”
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ขึ้นรถเสี่ยอ้วนก็วิ่งมากระซิบบอกเสี่ยวเสียว่าจะช่วยคุยกับเสี่ยวฮัวให้ว่า “เสี่ยวเกอชนะศึกแต่ไม่ได้หมายความว่าชนะสงคราม เสี่ยวฮัวยังมีโอกาส”
พอได้ยินเสี่ยวเกอก็หัวเราะหึในลำคอ เสี่ยอ้วนหันมามองเขา พวกเขาทั้งสองต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว่าที่เสี่ยอ้วนพูดมานั่นก็แค่เอาไว้ปลอบเสี่ยวฮัวเท่านั้นแหละ
คนอย่างเสี่ยวเกอเมื่อเลือกเป้าหมายแล้วก็จะจับไม่ปล่อย เสี่ยอ้วนเองก็ไม่ได้โง่เรื่องแค่นี้เขาเองก็มองออก
คนที่มองไม่ออกหรือพูดอีกอย่างได้ว่าหลอกตัวเองอยู่ก็คงจะมีแต่เสี่ยวฮัวเท่านั้นแหละนะ
ระหว่างทางกลับบ้านเสี่ยวเสียเอาหัวทุยๆ มาซบไหล่เขาให้จิ้มแก้มเล่นได้ง่ายๆ เสี่ยวเกอไม่คิดเกรงใจอยู่แล้ว วันนั้นแก้มนุ่มๆ ของเสี่ยวเสียก็โดนเสี่ยวเกอประทุษร้ายไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่เสี่ยวเกอนอนหลับไปโดยไม่ฝันร้ายเลยสักนิด...
***********************************************************************************
Author's Talk
เป็นยังไงบ้างคะได้ลองอ่านในมุมของเสี่ยวเกอดู น่าจะเข้าใจเสี่ยวเกอน้อยมากขึ้นแล้วเนอะ
วันนี้เราเอาตอนพิเศษมาฝากก่อนจะหายไปสักอาทิตย์ค่ะ อาทิตย์หน้าจะลับมาใหม่ ขอไปเตรียมตัวสอบของก่อนค่า (ฮือๆ จะสอบได้มั้ยเนี่ย) ใครอ่านจบแล้วทิ้งคอมเม้นท์ไว้หน่อยจะขอบคุณมากเลยค่า ชอบไม่ชอบอย่างไร คิดเห็นยังไงเราอยากรู้จะได้เอาไปปรับปรุงต่อไป ใครมีไอเดียอะไรที่อยากให้ใส่ในตอนหน้าก็บอกได้นะค๊า
ทางไปเพจนิยายของเราค่ะ ==> www.facebook.com/CaiQingNovel
ตอนที่ 2 ==> https://dmbjth.thai-forum.net/t1139-topic
ตอนที่ 3 ==> https://dmbjth.thai-forum.net/t1317-topic
ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
สมัยที่จางฉี่หลิงยังไม่ใช่จางฉี่หลิงเขาเคยมีความสุขมาก่อน แต่ตอนนั้นเขาเคยเป็นใครเขาก็จำไม่ได้เสียแล้ว
แต่สิ่งที่ยังจำได้เด่นชัดคือแม่...
จางฉี่หลิงจำได้ว่าตอนนั้นเขามีความสุขมาก แม้จะนึกไม่ค่อยออกว่าชีวิตตอนนั้นเป็นอย่างไรแต่ก็จำความรู้สึกเป็นสุขได้ เขาจำกลิ่นหอมกรุ่นจากตัวของแม่ได้ จำสัมผัสอ่อนนุ่มเมื่อกอดแม่ได้
...แต่กลับจำใบหน้าของแม่ไม่ได้
ไม่ว่าจะพยายามขบคิดแค่ไหนก็นึกไม่ออก จางฉี่หลิงเคยพยายามส่องกระจกแล้วพินิจใบหน้าตัวเอง บางทีเขาอาจจะละม้ายคล้ายกับแม่บ้าง แต่ใบหน้าที่สะท้อนในกระจกกลับไม่ช่วยกระตุ้นเตือนความทรงจำที่เลือนหายไปเลย
และไม่ว่าเขาจะถามพ่อกี่ครั้งพ่อก็ไม่เคยบอก
บางครั้งเขาคิดว่าผู้ชายคนที่พาเขาไปจากแม่อาจจะไม่ใช่พ่อจริงๆ ของเขาก็ได้ แต่ตอนที่ชายคนนี้มารับเขาไปแม่ของเขากลับไม่รั้งเขาไว้ เธอได้แต่ร้องไห้แล้วพร่ำบอกจางฉี่หลิงว่าขอโทษ
จางฉี่หลิงเคยเกลียดคำว่า “ขอโทษ” แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้ว
ทำผิดต่อผู้อื่นก็คือทำผิด การพูดคำว่าขอโทษนั้นไร้ประโยชน์ จางฉี่หลิงรู้ดีเพราะไม่ว่าแม่ของเขาจะพูดคำว่าขอโทษกี่ครั้งเขาก็ไม่เคยนึกอยากจะยกโทษให้เธอ และต่อให้ได้ยินอีกกี่ครั้งเขาก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น นับแต่นั้นจางฉี่หลิงจึงไม่ใส่ใจต่อผู้คนอีก
ดังนั้นตอนที่เซี่ยเหลียนหวนบอกเขาเรื่องโรงเรียนจางฉี่หลิงไม่ยินดียินร้ายอะไร เพราะถึงเซี่ยเหลียนหวนจะพาเขาเข้าโรงเรียนตอนนี้แต่เมื่อไรที่พ่อกลับมารับเขาทุกอย่างก็เหมือนเดิม
เซี่ยเหลียนหวนที่ดูจะรู้ว่าเขาคิดอย่างไรก็พูดบ่นเขาพึมพำว่า “ไอ้หนู ฉันรู้ว่าแกมันอัจฉริยะบุคคลที่พันปีจะมีสักคน และแกฉลาดเกิดเด็กวัยเดียวกันไปโขแล้ว ไม่สิถ้าจะว่ากันจริงๆ แกน่าจะฉลาดกว่าผู้ใหญ่หลายคนด้วยซ้ำไป” เซี่ยเหลียนหวนมองเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ “แต่เชื่อฉันสิ จะฉลาดยังไงแกก็เป็นเด็ก แกควรจะมีเพื่อนวัยเดียวกัน แกอาจจะชินกับพ่อใจไม้ไส้ระกำแต่ฉันไม่เหมือนกับพ่อของแกนะไอ้หนู ระหว่างที่แกอยู่ในความดูแลของฉันก็ให้ทำตามที่ฉันบอก อย่างน้อยให้ได้เรียนรู้การมีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ก็ยังดีวะ”
คำไหนคำนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นเซี่ยเหลียนหวนก็จัดแจงให้เขาไปโรงเรียนเสร็จสรรพแถมยังรอบคอบเตรียมเพื่อนเอาไว้ให้ด้วย
“เด็กคนนี้ชื่อจางฉี่หลิง” เซี่ยเหลียนหวนหันไปพูดกับชายที่เขาเรียกว่าอู๋ซันเสิ่ง “มีความจำเป็นบางอย่างทำให้ผู้ปกครองของเด็กคนนี้ต้องฝากเค้าไว้กับฉัน” แต่จางฉี่หลิงไม่ได้ใส่ใจกับชายทั้งสอง สายตาของจางฉี่หลิงแอบสำรวจเด็กน้อยรุ่นราวคราวเดียวกับเขาที่มากับอู๋ซันเสิ่ง
“หวัดดี” เด็กคนนั้นยิ้มกว้างใส่เขา “เราชื่ออู๋เสียนะ เรียกว่าเสี่ยวเสียก็ได้ เราเรียกนายว่าเสี่ยวจางได้มั้ย?” แก้ยุ้ยน่ารักทั้งสองข้างเป็นสีชมพูเปล่งปลั่ง จางฉี่หลิงรู้สึกว่ามือตัวเองกระตุกนิดๆ อย่างช่วยไม่ได้
จางฉี่หลิงขมวดคิ้ว เขาชอบเสี่ยวเสียแต่เขาเกลียดชื่อจางฉี่หลิง เขาอยากให้เด็กคนนี้เรียกชื่อจริงของเขา แต่เขานึกชื่อจริงของตัวเองไม่ออกนี่สิ
“เรียกเด็กคนนี้ว่าเสี่ยวเกอ (พี่ชายน้อย) ดีกว่า ชื่อนั่นน่ะเค้าไม่ค่อยชินเท่าไร” เซี่ยเหลียนหวนพูดแทรกขึ้นมา จางฉี่หลิงรู้สึกว่าชายตรงหน้าเริ่มเข้าท่าขึ้นทุกที บางทีการไปโรงเรียนอาจไม่ย่ำแย่นัก
“เสี่ยวเกอ เสี่ยวเกอ” เสี่ยวเสียลองเรียกชื่อที่เซี่ยเหลียนหวนเสนอ จางฉี่หลิงแอบรู้สึกปลื้มนิดหน่อย ชื่อนี่เวลาออกจากปากเด็กคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ “ตกลง งั้นเราจะเรียกนายว่าเสี่ยวเกอนะ”
จางฉี่หลิงที่ตอนนี้กลายเป็นเสี่ยวเกอพยักหน้ารับ
ถ้าเสี่ยวเสียจะเรียกเขาด้วยน้ำเสียงน่ารักแบบนั้นทุกครั้งเขาก็ชอบที่จะเป็น “เสี่ยวเกอ” มากกว่า “จางฉี่หลิง” แล้วล่ะ
โรงเรียนช่างน่าเบื่อ สิ่งที่ครูสอนก็น่าเบื่อ การท่องอักษรเขาก็ท่องได้นานแล้ว การนับเลขก็ด้วย แล้วไอ้การวาดรูปเล่นแบบไร้หัวข้อนี่มันมีจุดมุ่งหมายยังไงเสี่ยวเกอสงสัยนัก
ยังดีที่มีเสี่ยวเสียนั่งข้างๆ เพราะเวลาที่เบื่อเขาก็หันไปมองเสี่ยวเสียแทน เสี่ยวเกอมองเส้นผมที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนขนกระต่ายบนหัวทุยๆ นั่นแล้วก็นึกอยากจะจับมันเหลือเกิน แต่ที่อยากสัมผัสที่สุดก็ต้องเป็น...
แก้มยุ้ยทั้งสองข้างของเสี่ยวเสีย
แก้มนุ่มนิ่มน่าจับสีชมพูระเรื่อนั่นล่อหลอกให้เสี่ยวเกอแอบเหลือบมองอยู่นานแล้ว เสี่ยวเกอขบคิดอย่างหนักว่าจะหาทางแตะแก้มของเสี่ยวเสียด้วยวิธีไหนถึงจะดีที่สุด การจะลักลอบแตะแก้มเสี่ยวเสียโดยไม่ขออนุญาตก่อนอาจจะทำให้เสี่ยวเสียโกรธก็เป็นได้ เสี่ยวเกอเองก็ไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว
ยกเว้นเสี่ยวเสีย เสี่ยวเสียแตะเขาได้คนเดียว
เมื่อเช้าตอนที่เสี่ยวเสียจับมือเขาเสี่ยวเกอก็แอบตกใจที่ตัวเองไม่สะบัดมือออก เขากลับชอบที่มือเล็กๆ นั่นจับมือเขาไว้แน่น
เสี่ยวเสียสังเกตเห็นนิ้วที่ยาวผิดปกติของเขาด้วยแต่กลับไม่รู้สึกรังเกียจ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นต้องล้อเขาไปแล้ว แต่เสี่ยวเสียกลับดูสนอกสนใจมากกว่าจะรังเกียจ
ทำไมไม่ว่าเสี่ยวเสียจะทำอะไรก็ดูจะทำให้เสี่ยวเกอชอบมากขึ้นทุกทีกันนะ
เสี่ยวเกอชอบทุกอย่างของเสี่ยวเสียยกเว้นเพื่อนของเสี่ยวเสียบางคน เสี่ยวเกอรู้ว่าเสี่ยวเสียน่ารักขนาดนี้ต้องมีเพื่อนเยอะแยะอยู่แล้ว ในห้องมีเด็กอยู่ไม่มาก เท่าที่ดูจะมีอยู่แค่สองคนที่เสี่ยวเสียให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คนแรกคือหวังพ่างจื่อที่ชอบให้เรียกว่าเสี่ยอ้วน คนนี้นับว่าเป็นมิตรได้
แต่เซี่ยอวี่ฮัวนี่สิ เห็นแวบแรกเสี่ยวเกอก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้คล้ายกับเขา เซี่ยอวี่ฮัวซ่อนตัวเองใต้หน้ากาก “เสี่ยวฮัว” ทำตัวน่ารักไร้พิษภัยต่อหน้าเสี่ยวเสียแต่จริงๆ ซ่อนคมไว้มากมาย และยังเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์เหมือนเขา
ไม่เข้าใจว่าทำไมเสี่ยวเสียถึงคิดว่าเสี่ยวฮัวคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงกันนะ แล้วเจ้าเสี่ยวฮัวนั่นก็ยังไม่ปฎิเสธเสียด้วย คิดว่าน่าจะมีแผนอะไรอยู่
แต่ต่อให้เสี่ยวฮัวจะร้ายกาจกว่าเด็กคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็เทียบชั้นกับเขาไม่ได้อยู่ดี เสี่ยวฮัวใจร้อนวู่วามเกินไป เรียกว่ายังสลัดความเป็นเด็กของตนเองได้ไม่ดีเท่าเสี่ยวเกอ แม้ตอนแรกเจ้าตัวจะพยายามทำนิ่งแค่ไหนแต่เสี่ยวเกอก็สังเกตได้ว่าความอดทนของเสี่ยวฮัวมีจำกัด
และเสี่ยวฮัวก็ก้าวพลาดก้าวแรกตอนมื้อเที่ยงนี่เอง...
“กล้าดียังไงมาเกาะติดเสี่ยวเสียของฉัน!” ในที่สุดเสี่ยวฮัวก็โพล่งขึ้นมากลางวงอาหาร เสี่ยวเกอแค่จ้องตอบเงียบๆ เขารู้ดีว่าเสี่ยวฮัวไม่พอใจที่เสี่ยวเสียคอยคีบข้าวคีบกับมาป้อนเขา เสี่ยวเกอนึกยิ้มเยาะในใจ
“เสี่ยวเสีย...” เสี่ยวเกอตัดสินใจจะทำให้เสี่ยวฮัวสติหลุดมากกว่าเดิม
“อะไรเหรอเสี่ยวเกอ” เสี่ยวเสียยิ้มกว้างสุดแสนจะน่ารักจนเสี่ยวเกอแทบจะอดเอานิ้วไปจิ้มแก้มยุ้ยๆ นั่นไม่ได้
ดีที่ว่าเสี่ยวเกอมีความอดทนสูงส่งเขาจึงยั้งมือไว้ทัน เสี่ยวเกอเหลือบมองเสี่ยวฮัวเพื่อยั่วโมโหแวบหนึ่ง
“อยากกินอีก...”
แทบจะทันทีที่ได้ยินเสี่ยวเสียก็รีบกุลีกุจอป้อนข้าวเขาแทบไม่ทัน เสี่ยวเกอเคี้ยวข้าวไปพลางลอบมองเยาะเย้ยเสี่ยวฮัวไปพลางอย่างมีความสุข
นี่เขาไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
“นายเสี่ยวเกอ! อย่าคิดว่าหลอกคนอื่นได้แล้วจะหลอกเซี่ยอวี่ฮวาคนนี้ได้นะ” เสี่ยวฮัวตวาดใส่เขา “ฟังให้ดีนะ เสี่ยวเสียเป็นของฉัน คนมาทีหลังอย่างนายน่ะเจียมตัวไว้ซะบ้าง!”
แต่เสี่ยวเกอหรือจะใส่ใจ เขายังคงกินข้าวต่อไปอย่างไม่แยแส ปล่อยให้เสี่ยวฮัวดีดดิ้นต่อไปให้พอใจ
โอกาสของเสี่ยวเกอมาถึงหลังมื้อกลางวัน เสี่ยวเสียที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาสอนเขาถึงการล้างมืออย่างถูกวิธีไม่ได้สังเกตเลยว่ามีข้าวติดที่แก้มอยู่เมล็ดหนึ่ง
เสี่ยวเกอรู้ทันทีว่านี่คือโอกาสทองเขาจึงยกสองนิ้วยาวๆ ขึ้นมาคีบเอาเมล็ดข้าวจากแก้มของเสี่ยวเสีย
แน่นอนว่าไม่ลืมที่จะแอบจิ้มแก้มนุ่มนิ่มนั่นนิดนึง
นุ่มนิ่ม! นุ่มนิ่มกว่าที่คิดเยอะเลย!
“เสี่ยวเกอทำอะไรน่ะ?” ของเสี่ยวเสียขมวดคิ้วมุ่น ยิ่งดูน่ารักกว่าเดิม
เสี่ยวเกอเลือกจะไม่ตอบแต่ยื่นมือไปให้ดูแทน สองนิ้วของเขาคีบข้าวที่เก็บจากแก้มของเสี่ยวเสียเอาไว้
“อ๋อ” เสี่ยวเสียยิ้ม “มีข้าวติดแก้มเสี่ยวเสียเหรอ ขอบใจนะเสี่ยวเกอ” แล้วเด็กตรงหน้าก็ยิ้มให้เขาอีกแล้ว
เสี่ยวเสียยิ้มบ่อยเหลือเกิน เสี่ยวเกอทั้งพอใจและไม่พอใจ เขาชอบให้เสี่ยวเสียยิ้ม แต่ต้องยิ้มให้เขาเท่านั้นนะ ยิ้มให้คนอื่นโดยเฉพาะยิ้มให้เสี่ยวฮัวอะไรนั่นเขาไม่ชอบเลย แต่เสี่ยวเกอรู้ดีเกินกว่าจะไปห้ามไม่ให้เสี่ยวเสียเที่ยวโปรยยิ้มไปทั่ว
ก็เขาไม่โง่เหมือนเสี่ยวฮัวนี่นา ปล่อยให้เสี่ยวฮัวโวยวายให้พอ โวยวายมากเข้าเสี่ยวเสียก็ต้องเบื่อไปเอง สุดท้ายเสี่ยวเสียก็จะมองเขาคนเดียว
คิดได้แบบนั้นเสี่ยวเกอก็เริ่มอารมณ์ดีมากขึ้น เขาอ้าปากงับข้าวเมล็ดนั้นเข้าปาก ข้าวสวยเมล็ดนี้ทั้งนุ่มทั้งหวาน อร่อยยิ่งกว่าข้าวที่กินมาก่อนหน้านี้อีก
คราวหน้าขอให้เสี่ยวเสียกินข้าวไม่ระวังแล้วมีเมล็ดข้าวติดแก้มอีกเยอะๆ ด้วยเถอะ
ได้จิ้มแก้มเสี่ยวเสียไปแค่หนเดียวเสี่ยวเกอรู้สึกว่ามันยังน้อยไป อย่ากระนั้นเลย ขอจิ้มอีกสักรอบเถอะ ยังไงซะเสี่ยวเสียก็คงไม่ว่าอะไรแน่นอน และถึงจะว่าเสี่ยวเกอก็มีแผนในใจแล้ว ครั้งนี้เขาลองจิ้มค้างไว้นานกว่าครั้งที่แล้ว แล้วก็ชักนิ้วกลับ ทำอย่างนี้อยู่หลายรอบจนเสี่ยวเสียเริ่มทนไม่ไหว
“ทำอะไรน่ะเสี่ยวเกอ? จิ้มแก้มเสี่ยวเสียทำไม?”
เสี่ยวเกอนิ่งคิดทบทวนแผนการในใจก่อนจะตอบว่า
“นุ่ม...”
“หา?”
“ไม่เคยจิ้มอะไรที่นุ่มๆ แบบนี้มาก่อนเลย” เสี่ยวเกอสังเกตเห็นเสี่ยวเสียทำหน้างุนงง ท่าทางสงสัยใคร่รู้กว่าเดิม จังหวะนี้เหมาะเจาะพอดีกับแผนการของเขา
จากนั้นเสี่ยวเกอก็จิ้มแก้มเสี่ยวเสียของเขาไปพลางแล้วเล่าให้ไปพลางว่าพ่อบังคับให้เขาฝึกวิชาทุกวันและลำบากแค่ไหน ทั้งต้องใช้สองนิ้วจิ้มลงในทรายบ้าง จิ้มลงในกรวดบ้าง ต้องถูกดึงนิ้วบ้าง แถมบางทีก็โดนพอกสมุนไพรเหม็นๆ แสบๆเอาไว้เป็นวันๆ ก็มี
และก็เป็นดังที่เสี่ยวเกอคาดไว้ เสี่ยวเสียผู้แสนน่ารักของเขาเอ่ยปากอนุญาตทันทีที่ฟังจบ
“เสี่ยวเกออยากจะจิ้มแก้มเสี่ยวเสียก็จิ้มได้เลยนะ” เสี่ยวเสียพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ...แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี
ช่วงบ่ายเป็นช่วงที่เสี่ยวเกอมีความสุขที่สุดของวัน เขาจะจิ้มแก้มของเสี่ยวเสียเล่นกี่ครั้งเจ้าตัวก็ไม่ว่าสักนิด
และที่น่าสนุกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการได้เห็นเสี่ยวฮัวโกรธจนหักดินสอตัวเองจนหมดกล่องยังไม่พอ ยังจะพาลไปคว้าดินสอของเสี่ยอ้วนมาหักระบายอารมณ์ด้วย
พอเลิกเรียนเสี่ยวเสียก็จูงมือเขาออกไปรอเซี่ยเหลียนหวนและอู๋ซันเสิ่งที่หน้าโรงเรียน และก็เป็นดังที่เขาคาดไว้ เสี่ยวฮัวยังคงไม่รามือง่ายๆ เสี่ยวเกอจะลองดูซิว่าเสี่ยวฮัวจะดิ้นยังไงได้อีก
“นายเสี่ยวเกอไปให้ห่างจากเสี่ยวเสียเลยนะ! แก้มของเสี่ยวเสียก็เหมือนกัน อย่ามาจิ้มอีกเด็ดขาด” เสี่ยวฮัวคว้าเอาเสี่ยวเสียของเขาไปกอดไว้ ตอนแรกเสี่ยวเกอคิดจะเข้าไปแย่งตัวเสี่ยวเสียกลับมาอยู่แล้วเชียว โชคดีที่พอได้ยินเสี่ยวฮัวพูดคำต่อมาก็ชะงักเท้าไว้ทัน “นี่คงจะเห็นเสี่ยวเสียขี้ใจอ่อนเลยเอาเปรียบ นายมันใช้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนฝากให้เสี่ยวเสียดูแลนาย นายคิดว่าเสี่ยวเสียจะมาคอยดูแลนายแบบนี้เหรอ?”
ในเมื่อศัตรูกำลังขุดหลุมฝังตัวเองเสี่ยวเกอจะเข้าไปขวางทำไมกันล่ะ สู้ก้มหน้านิ่งๆ แสดงเป็นฝ่ายถูกรังแกจะได้เรียกร้องความสงสารจากเสี่ยวเสียไม่ดีกว่าเหรอ
เสี่ยวเกอแอบเหลือบมองเสี่ยวเสียที่น่ารักของเขาว่าจะทำยังไง และก็ไม่เสียแรงที่เป็นคนของเขา เสี่ยวเสียผลักเสี่ยวฮัวออกแล้วปั้นหน้าดุ
“เสี่ยวฮัวขอโทษเสี่ยวเกอซะ” ก็รู้นะว่าเสี่ยวเสียพยายามทำเสียงเข้ม แต่เสี่ยวเสียของเขาก็ยังน่ารักอยู่ดีแหละ
“แต่ว่า” เสี่ยวฮัวตั้งท่าจะเถียงแต่ก็ไม่ทันเสี่ยวเสียของเขา เวลาที่เสี่ยวเสียลุกขึ้นปกป้องคนที่รักนั้นดูน่ามองขนาดนี้เชียว เสี่ยวเกอรู้สึกอุ่นวาบในอก นอกจากแม่ของเขาแล้วไม่เคยมีใครปกป้องเขามาก่อน และตอนนี้แม่ก็ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว
แต่เสี่ยวเสียอยู่ตรงนี้ กำลังปกป้องเขาอยู่...
“เสี่ยวฮัวต้องขอโทษเสี่ยวเกอ เสี่ยวเกอไม่ได้ทำอะไรผิดสักอย่างแต่เสี่ยวฮัวก็โกรธใส่เสี่ยวเกอทั้งวัน เมื่อกี้ยังว่าเสี่ยวเกอเสียยกใหญ่ เสี่ยวฮัวทำให้เสี่ยวเกอเสียใจนะ”
“แต่นายนั่นมาเกาะติดเสี่ยวเสียตลอด แถมยังจะมาจิ้มแก้มเสี่ยวเสียอีก เสี่ยวฮัวไม่ยอมหรอกนะ” เห็นศัตรูหัวใจทำแก้มป่องแบบนั้นเสี่ยวเกอก็นึกอยากจะเหน็บแนมเสียเหลือเกินว่าทำแบบนั้นไม่ได้น่ารักเลย ถ้าเป็นเสี่ยวเสียของเขาก็ว่าไปอย่าง
“นั่นเพราะเสี่ยวเกอเป็นเพื่อนเสี่ยวเสีย เสี่ยวเกอเพิ่งมาใหม่เสี่ยวเสียก็ต้องดูแล เรื่องจิ้มแก้มเสี่ยวเสียก็อนุญาตเสี่ยวเกอแล้วด้วย!” เสี่ยวเสียพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดแล้วเดินมายืนข้างๆ เขา
เสี่ยวเกอเองก็นึกสงสัยว่าเสี่ยวเสียจะทำอะไรต่อ แต่พอเสี่ยวเสียของเขายื่นแก้มให้แล้วพูดว่า “เสี่ยวเกอจิ้มได้เลยเสี่ยวเสียให้จิ้มนะ” แถมยังทำแก้มป่องให้จิ้มด้วยก็ทำเอาเสี่ยวเกอหัวใจเต้นรัวแทบจะระเบิด “เสี่ยวเกออยากจะจิ้มเสี่ยวเสียเมื่อไรกี่ครั้งก็ได้ทั้งนั้นเสี่ยวเสียไม่ว่าหรอก”
เสี่ยอ้วนร้องอุทานว่า “ไอ๊หยา เทียนเจินอู๋เสียนี่ใจกล้าบ้าบิ่นไม่เลวแฮะ”
“จิ้มเสี่ยวเสียได้จริงๆ นะ?” เขากระซิบถามเสี่ยวเสีย เพราะถึงเสี่ยวเกอจะมั่นใจในแผนการตัวเองแค่ไหนแต่พอเสี่ยวเสียออกโรงปกป้องเขาแล้วยังให้คำสัญญาน่ารักๆ แบบนี้เขาก็อดจะหวาดหวั่นใจไม่ได้
เพราะจางฉี่หลิงไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข
…แต่ตัวเขาในตอนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเสี่ยวเสียไม่ใช่จางฉี่หลิง สำหรับเสี่ยวเสียเขาคือเสี่ยวเกอ ถ้าอย่างนั้นเขาคงจะมีความสุขได้ใช่มั้ย
เสี่ยวเกอมองสบตากลมที่ใสซื่อจริงใจตรงหน้า เสี่ยวเสียของเขาช่างบริสุทธิ์สดใส รอยยิ้มน่ารักนั่นตอนนี้มอบให้เขาเพียงคนเดียว
“อื้ม ได้สิ เสี่ยวเกอจะจิ้มเสี่ยวเสียกี่ครั้งจะจิ้มเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้นเลย เสี่ยวเสียสัญญาแล้วไม่คืนคำแน่นอน!”
เสี่ยวเกอรู้สึกได้ว่าแก้มของตัวเองปวดๆ แน่นๆ ประหลาด แต่แล้วก็มารู้ว่าตัวเองกับลังฉีกยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนนับตั้งแต่จากแม่ของเขามา เสี่ยวเสียเห็นเขายิ้มอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างตอบเช่นกัน
เขายินยอมยืนยิ้มแข่งกับเสี่ยวเสียทั้งคืนยังได้ แต่เสียดายที่ “ผู้ปกครอง” ทั้งสองของพวกเขามารออยู่นานแล้ว แถมยังเลือกที่จะปรากฎตัวเอาตอนนี้ทั้งที่จริงๆ แล้วแอบดูเด็ก “ทะเลาะ” กันอยู่ตั้งนาน
ช่างเลือกเข้ามาได้ถูกจังหวะเสียจริงนะ เสี่ยวเกออดจะหันไปเขม็งตาใส่เซี่ยเหลียนหวนที่ยืนกลั้นหัวเราะไม่ได้
“อาเซี่ยฮะ อาสามเป็นอะไร?” ในหมู่ทุกคนคงจะมีแต่เสี่ยวเสียที่ไม่รู้ว่าเซี่ยเหลียนหวนและอู๋ซันเสิ่งเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา “พวกอาเป็นอะไรฮะ? ไม่สบายหรือเปล่า?”
“เสี่ยว...เสี่ยวเสีย...” เสี่ยวเกอนึกแอบแช่งให้เซี่ยเหลียนหวนสำลักแล้วลงไปชักดิ้นชักงอเสียเลย “พวกอา...ไม่เป็นไร...เรา...กะ...กลับ...อุ๊...หึ...กลับบ้านกันเถอะ”
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ขึ้นรถเสี่ยอ้วนก็วิ่งมากระซิบบอกเสี่ยวเสียว่าจะช่วยคุยกับเสี่ยวฮัวให้ว่า “เสี่ยวเกอชนะศึกแต่ไม่ได้หมายความว่าชนะสงคราม เสี่ยวฮัวยังมีโอกาส”
พอได้ยินเสี่ยวเกอก็หัวเราะหึในลำคอ เสี่ยอ้วนหันมามองเขา พวกเขาทั้งสองต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว่าที่เสี่ยอ้วนพูดมานั่นก็แค่เอาไว้ปลอบเสี่ยวฮัวเท่านั้นแหละ
คนอย่างเสี่ยวเกอเมื่อเลือกเป้าหมายแล้วก็จะจับไม่ปล่อย เสี่ยอ้วนเองก็ไม่ได้โง่เรื่องแค่นี้เขาเองก็มองออก
คนที่มองไม่ออกหรือพูดอีกอย่างได้ว่าหลอกตัวเองอยู่ก็คงจะมีแต่เสี่ยวฮัวเท่านั้นแหละนะ
ระหว่างทางกลับบ้านเสี่ยวเสียเอาหัวทุยๆ มาซบไหล่เขาให้จิ้มแก้มเล่นได้ง่ายๆ เสี่ยวเกอไม่คิดเกรงใจอยู่แล้ว วันนั้นแก้มนุ่มๆ ของเสี่ยวเสียก็โดนเสี่ยวเกอประทุษร้ายไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่เสี่ยวเกอนอนหลับไปโดยไม่ฝันร้ายเลยสักนิด...
***********************************************************************************
Author's Talk
เป็นยังไงบ้างคะได้ลองอ่านในมุมของเสี่ยวเกอดู น่าจะเข้าใจเสี่ยวเกอน้อยมากขึ้นแล้วเนอะ
วันนี้เราเอาตอนพิเศษมาฝากก่อนจะหายไปสักอาทิตย์ค่ะ อาทิตย์หน้าจะลับมาใหม่ ขอไปเตรียมตัวสอบของก่อนค่า (ฮือๆ จะสอบได้มั้ยเนี่ย) ใครอ่านจบแล้วทิ้งคอมเม้นท์ไว้หน่อยจะขอบคุณมากเลยค่า ชอบไม่ชอบอย่างไร คิดเห็นยังไงเราอยากรู้จะได้เอาไปปรับปรุงต่อไป ใครมีไอเดียอะไรที่อยากให้ใส่ในตอนหน้าก็บอกได้นะค๊า
ทางไปเพจนิยายของเราค่ะ ==> www.facebook.com/CaiQingNovel
แก้ไขล่าสุดโดย CaiQing เมื่อ Tue 26 May 2015, 17:35, ทั้งหมด 2 ครั้ง
CaiQing- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 13
Points : 3421
Join date : 20/01/2015
Re: [Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
ดะเด็กนี่มันร้ายยยยยยยย ร้ายกาจมาก
casey- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 86
Points : 3597
Join date : 27/10/2014
Re: [Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
เสี่ยวเก๊ออออ ทำไมนายเป็นคนร้ายกาจได้ขนาดนี้
ร้องห้ายยย ระหว่างเสี่ยวเกอกับเสี่ยวฮัวใครจะเทิร์นยันเดเระก่อนกัน
นี่มันควรจะเป็นฟิคใสๆไม่ใช่เหรอ แง่ะ วิ่งหนีไป
ร้องห้ายยย ระหว่างเสี่ยวเกอกับเสี่ยวฮัวใครจะเทิร์นยันเดเระก่อนกัน
นี่มันควรจะเป็นฟิคใสๆไม่ใช่เหรอ แง่ะ วิ่งหนีไป
Eli-kun- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 80
Points : 3447
Join date : 04/03/2015
Re: [Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
ทำไมมินิเสี่ยวเกอร้ายกาจเช่นนี้
ร้ายกาจมากกกกก
แต่ว่าก็ยัง...แอบใจสั่นกับยิ้มกว้างๆของจิบิเสี่ยวเกออยู่นะฮ๊าฟฟฟ
ร้ายกาจมากกกกก
แต่ว่าก็ยัง...แอบใจสั่นกับยิ้มกว้างๆของจิบิเสี่ยวเกออยู่นะฮ๊าฟฟฟ
KANAE- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 37
Points : 3402
Join date : 21/02/2015
Re: [Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
เสี่ยวเกอลูกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หนูร้ายกาจตั้งแต่เด็กเลยนะ
ทำดีๆๆๆ ทำต่อไป
รังแก แค่กๆๆๆ เอ็นดูเสี่ยวเสียต่อไป >o<
หนูร้ายกาจตั้งแต่เด็กเลยนะ
ทำดีๆๆๆ ทำต่อไป
รังแก แค่กๆๆๆ เอ็นดูเสี่ยวเสียต่อไป >o<
DarkAki- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 93
Points : 3482
Join date : 27/01/2015
Re: [Fic] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 2.5: คำให้การของ “เสี่ยวเกอ” (ตอนพิเศษ)
อัจฉริยบุคคลที่พันปีจะมีสักที //หมอบกราบ ร้ายยยยยยย ร้ายมากกกกก
แต่เอามาใช้ด้านนี้เหรอเสี่ยวเกอ ถถถถถถถถถถ
เสี่ยวเกอจะจิ้มเสี่ยวเสียกี่ครั้ง จะจิ้นเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้นเลย.....
คำพูดนี้มีผลบังคับใช้ในอนาคตไหมเสี่ยวเสีย ระวังจะพรุนจะลูก ถถถถถถถถถถ //โดดหลบตีนส์ พรุนพ่องงงงง!! : นายน้อยผู้ร้อนตัว
แต่เอามาใช้ด้านนี้เหรอเสี่ยวเกอ ถถถถถถถถถถ
เสี่ยวเกอจะจิ้มเสี่ยวเสียกี่ครั้ง จะจิ้นเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้นเลย.....
คำพูดนี้มีผลบังคับใช้ในอนาคตไหมเสี่ยวเสีย ระวังจะพรุนจะลูก ถถถถถถถถถถ //โดดหลบตีนส์ พรุนพ่องงงงง!! : นายน้อยผู้ร้อนตัว
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3859
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» [OS] AU: เสี่ยวกง (อู๋เสีย,เสี่ยวเกอ)
» (FIC) 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 3
» [Doujin] #dmbjdaily (ฮาโลวีน) "ความเพลียใจของเสี่ยวฮัว" [เสี่ยวเกอ-อู๋เสีย-เสี่ยวฮัว]
» [FIC] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 3: ละครโรงเรียน
» 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 1
» (FIC) 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 3
» [Doujin] #dmbjdaily (ฮาโลวีน) "ความเพลียใจของเสี่ยวฮัว" [เสี่ยวเกอ-อู๋เสีย-เสี่ยวฮัว]
» [FIC] บันทึกเสี่ยวเสียแห่งอนุบาลลูกเจี๊ยบ ตอนที่ 3: ละครโรงเรียน
» 日月 (Sun Moon) ตอนที่ 1
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth