Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย

4 posters

Go down

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย Empty [OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย

ตั้งหัวข้อ by Snake_Blind Thu 18 Dec 2014, 21:04

[One-Shot] My little boy : Promise You
#dmbjdaily หัวข้อ พี่ชาย
Pairing : ผิงเสีย
*คำเตือน* ฟิคนี้เป็นกึ่ง AU นะคะ จะมีแค่บางส่วนที่อ้างอิงจากต้นฉบับ แต่เนื้อหาความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ถูกเขียนใหม่หมด
จึงมีจุดที่ OOC (Out of character) อยู่เยอะ หากไม่ถูกใจต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ลิงค์ตอนเก่า
My little boy

:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:

แกร๊ก….

เสียงของกระทบไม้เรียกความสนใจจากเด็กหนุ่มผมดำให้เงยหน้าขึ้นมอง ที่ขอบโต๊ะอ่านหนังสือของเขา มีตุ๊กตาไม้ตัวนึงนั่งอยู่
ดวงตาสีดำสบปิ๊งๆกับตาสีอะครีลิคของตุ๊กตาไม้ ก่อนเด็กหนุ่มจะเลื่อนดวงตาไปข้างๆ ตุ๊กตาไม้ซึ่งมีดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มลอยเด่นอยู่

อู๋เสีย หลานชายหัวแก้วหัวแหวนวัย 3 ขวบแห่งตระกูลอู๋ เขย่งเกาะขอบโต๊ะเขียนหนังสือ นิ้วป้อมๆจับขอบโต๊ะไว้เพื่อพยุงตัว
ด้วยความที่โต๊ะหนังสืออยู่ในระดับที่สูงพอสมควร จึงมีเพียงส่วนปลายจมูกขึ้นไปที่โผล่พ้นขอบโต๊ะ แต่ไม่ต้องมองเห็นเด็กหนุ่มก็รู้ว่า
ตอนนี้เสี่ยวเสียน้อยยิ้มกว้างขนาดไหน

มือป้อมๆ เอื้อมมาคว้ากลางตัวของตุ๊กตาไม้ แล้วขยับขึ้นลงทำท่าให้ตุ๊กตาเดินไปมา ปากเล็กๆ เอ่ยเสียงเจือยแจ้วทำเหมือนตุ๊กตาไม้กำลังพูดอยู่

“จางเซียนเสิ่ง(คุณจาง) ไปเล่นกันมั๊ยกั๊บ ผมเล่นกับเสี่ยวเสียแค่สองคน เหง๊าเหงา”

พูดจบมือเล็กก็หยุดขยับ ทั้งดวงตาสีน้ำตาลและดวงตาของตุ๊กตาไม้จ้องมองมาที่เด็กหนุ่ม สร้างความประหลาดใจให้ฉี่หลิงเป็นอย่างมาก

.
.
.
.
.

ตอนนี้ผ่านไป 3 ปีแล้วหลังจากที่ฉี่หลิงเจอกับน้องชายคนนี้ครั้งแรก อู๋เสียน้อย เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงท่ามกลางหมู่ญาติมิตรที่ใจดีและ
ครอบครัวที่อบอุ่น ทำให้กลายเป็นเด็กที่ร่าเริง ใสกระจ่าง และ อ่อนโยน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อู๋เหลาโก่วแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง
ทุกครั้งก็จะหนีบหลานชายคนโปรดมาด้วย แรกๆ ก็จะมีแม่ของเสี่ยวเสียหรือพ่อของเสี่ยวเสียติดตามมาดูลูกชายทุกครั้ง
ทำให้ฉี่หลิงไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกับเด็กน้อยสักเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 คนจึงเป็นแค่เพียง พี่ชายคนไม่พูด กับ น้องชายตัวป่วน

แต่ช่วงนี้กลับต่างออกไป คนบ้านตระกูลอู๋ที่เดินทางมา นอกจากเจ้าบ้านอู๋เหลาโก่วกับหลานชายตัวน้อยแล้ว ก็มีเพียงคนรับใช้ 2 คนเท่านั้น
มองไปทางไหนก็ไม่เจอบิดามารดาของนายน้อยสามเลย อู๋เหลาโก่วเพียงแค่บอกว่าเสี่ยวเสียโตแล้วจึงไม่ต้องให้ตามมาดูแล
จากนั้นก็ฝากฝังหลานชายตัวน้อยไว้ที่ห้องอ่านหนังสือของฉี่หลิง ก่อนจะผละออกไปคุยธุระกับปู่ของเขาทุกครั้ง

ฉี่หลิงที่ไม่รู้จะรับมือกับเด็กยังไง มองดูเด็กตัวน้อยนั่งเล่นของเล่นมากมายที่พื้นห้องด้วยสายตานิ่งๆ เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเสียมีความสุขดี
กับการเล่นอยุ่คนเดียว จึงเลือกเดินกลับไปนั่งทบทวนบทเรียนเงียบๆที่โต๊ะหนังสือ ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันในห้องอ่านหนังสือแบบนั้นทุกครั้ง
จนเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้กลับถูกขัดจังหวะด้วยตุ๊กตาไม้กับเด็กน้อยคนที่ตนปล่อยทิ้งไว้เหมือนทุกครั้ง

ความเงียบโรยตัวเข้าสู่ห้องอ่านหนังสือ เมื่อเด็กหนุ่มยังไม่ตอบคำชวน ฉี่หลิงเงียบกริบ ใช้สายตามองสลับไปมาระหว่างเสี่ยวเสียกับเจ้าตุ๊กตาไม้
ไม่รุ้ว่าตนต้องหันไปคุยกับใครหรือสิ่งไหน ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยตอบคำชวนอย่างไร

แกร๊ก แกร๊ก…

เสียงเนื้อไม้กระทบกันเล็กน้อยเมื่อมือเล็กๆขยับเจ้าตุ๊กตาไม้เข้ามาใกล้มากกว่าเดิม ดวงตากลมโตยังคงมองมาอย่างมีความหวัง

“จางเซียนเสิ่งไม่ชอบนัทแครกเกอร์เหรอฮะ”

ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆ กับสรรพนามเรียกของเด็กชายตัวน้อย แต่ฉี่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ร่างสูงส่ายหัวเล็กน้อยแทนคำตอบ

“ส่ายหัวหมายความว่าไม่ชอบ หรือว่า หมายความว่าไม่ได้ไม่ชอบฮะ??”

เด็กน้อยใสซื่อเอียงคอทำหน้าสงสัย ก่อนดึงตุ๊กตาไม้ไปไว้แนบอกแล้วเดินอ้อมมายืนข้างๆเก้าอี้ของร่างสูง ริมฝีปากเล็กๆเอ่ยถามเสียงเจือยแจ้ว
แล้วรอคอยคำตอบ ฉี่หลิงสบตาเด็กน้อย เห็นความดื้อดึงหลบซ่อนอยู่ในดวงตากลมโต คิดว่าถ้าไม่พูดอะไรอีก เด็กน้อยก็คงหาเรื่องพูดจนกว่า
เขาจะยอมพูดด้วยแน่นอน

“ไม่ได้ไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้ชอบ”

คำตอบกลับยิ่งทำให้เด็กน้อยงงไปกันใหญ่ เอียงคอทำหน้างุนงง กลอกตาไปมาพลางทวนคำตอบของร่างสูงในใจซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี จึงเอ่ยอย่างยอมแพ้

“เสี่ยวเสียไม่เข้าใจ”

ท่าทางของเด็กน้อยทำให้เด็กหนุ่มอมยิ้มน้อยๆ ด้วยความเอ็นดูไม่ได้ เลือกที่จะไม่อธิบายอะไร แต่ถามกลับแทน

“แล้วเสี่ยวเสียชอบหรือเปล่า”

“ชอบ!!!”

ตอบเสียงดังฟังชัดพลางยิ้มกว้าง

“อาม๊าซื้อให้ เสี่ยวเสียชอบมากๆเยย”

ไม่แน่ใจว่าชอบเพราะเป้นของที่ผู้เป้นแม่ซื้อให้หรือว่าเด็กน้อยชอบเจ้าหุ่นทหารจำลองนี้กันแน่
แต่ดูจากท่าทางที่ดึงตุ๊กตาไปกอดแนบอกอย่างทะนุถนอมแล้วช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน

มือใหญ่เลื่อนไปลูบหัวเด็กน้อยแผ่วเบา ฉี่หลิงนึกถึงมือใหญ่ๆของปู่ที่นานๆที่จะลูบหัวเขา ถึงแม้ปู่จะดูนิ่งๆคล้ายเย็นชา แต่มือใหญ่ๆของปู่ก็อบอุ่นเสมอ
เป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดในชีวิตของเด็กหนุ่ม
คิดอะไรเพลินๆ จึงทำให้ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเล่นผมนุ่มอย่างเพลิดเพลินโดยมีเสี่ยวเสียยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับกาย

จ๊อกกกกก……..

เสียงดังแทรกเรียกสติของเด็กหนุ่ม ดวงตาสีดำกระพริบ 2-3 ที เด็กน้อยก้มหน้าที่ตอนนี้แก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอายลงน้อยๆ มือเล็กๆกุมทับ
อยู่ที่หน้าท้องของตัวเอง ฉี่หลิงผินมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ฝาผนัง จึงพึ่งรู้ว่าเวลาผ่านมาแน่นนานจนคล้อยบ่ายแล้ว จึงลุกขึ้นเดินนำออกมาจาก
ห้องอ่านหนังสือโดยมีเด็กน้อยที่ทำหน้าเหวอไปชั่วครู่ก่อนรีบวิ่งตามมา

“อ้าวเสี่ยวหลิง เสี่ยวเสีย จะไปไหนกัน”

เสียงทุ้มเอ่ยเรียกทำให้ขายาวๆของเด็กหนุ่มชะงัก ฉี่หลิงหันไปเห็นปู่ของเขากับอู๋เหลาโก่วกำลังนั่งเคียงคู่บนเก้าอี้ไม้กลางสวนสวย
เด็กหนุ่มโค้งทำความเคารพน้อยๆ หางตาสังเกตเห็นเสี่ยวเสียที่พึ่งเดินตามทัน หยุดยืนข้างๆ แล้วโค้งตัวตามแบบเก้ๆ กังๆ จนฉี่หลิงรู้สึกประหลาดใจ
กับตัวเองที่แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ แต่เขากลับรู้สึกว่าเด็กตัวน้อยช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน

“อู๋เสียหิวน่ะครับ ผมว่าจะพาไปหาอะไรทานรองท้องก่อนถึงเวลาอาหารเย็น”

เด็กหนุ่มอธิบาย ส่วนเจ้าตัวเล็กที่ถูกกล่าวถึงตอนนี้วิ่งเท้าเปล่าเข้าไปในส่วน แขน 2 ข้างชูขึ้นสูง ร้องเรียกปู่จ๋าเสียงออดอ้อนน่ารัก
อู๋เหลาโก่วรีบลุกมาอุ้มหลานชาย พลางเอ่ยดุอย่างไม่จริงจังว่าไม่ให้วิ่งออกมาทั้งๆที่เท้าเปล่า

“อีกไม่นานอาหารก็เตรียมเสร็จแล้ว เจ้าพาเสี่ยวเสียไปเดินเล่นฆ่าเวลาสิ”

“อะไรกัน หลานข้าหิว จะปล่อยให้อดจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็นเลยหรือ”

“กินอาหารไม่เป็นเวลาจะทำให้ปวดท้องได้”

“แต่ถ้าปล่อยให้อดก็จะทำให้ปวดได้เหมือนกันนะ”

“เจ้ากำลังสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้หลานอยู่นะเหลาอู่…”

ฉี่หลิงมองผู้สูงอายุทั้ง 2 ไม่วางตา การเถียงกันตรงหน้าช่างดูน่าขันเมื่อให้ความรู้สึกเหมือนปู่ของเขากำลังดุเจ้าบ้านอู๋ราวกับว่าอู๋เหลาโก่ว
อายุเท่ากับเสี่ยวเสียน้อยในอ้อมแขน ไม่บ่อยนักที่ปู่จางจะใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ให้เขาได้ยิน พลานยิ่งทำให้ฉี่หลิงรู้สึกว่าปู่เขาช่างให้
ความสำคัญกับอู๋เหลาโก่วเสียจริง

.
.
.

สุดท้ายฉี่หลิงและเสี่ยวเสียก็ต้องมาเดินทอดน่องที่ทุ่งหญ้าหลังบ้านสกุลจาง ขายาวๆก้าวนำแต่ด้วยความไม่เคยชิน ทำให้บ่อยครั้งที่
ร่างสูงพึ่งรู้ตัวว่าเดินเร็วไป จำต้องหยุดยืนรอให้เด็กน้อยวิ่งตามมาจนทันแล้วจึงออกเดินต่อ เสียวเสียที่วิ่งตามก็ไม่ส่งเสียงประท้วงอะไร
เดินตามอย่างตั้งใจและมุ่งมั่น ช่างเป้นเด็กที่ดูแลตัวเองได้ดีจริงๆ ฉี่หลิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวกับ
เด็กเล็กๆแบบนี้ยังไง

เด็กหนุ่มเหม่อมองไปรอบๆ แสงแดดอ่อนๆยามเย็น บวกกับลมพัดโชยกลิ่นแมกไม้ ทำให้เด็กหนุ่มผ่อนคลายไม่น้อย นึกย้อนไปว่านานเท่าใดแล้ว
ที่ตนไม่ได้ออกมาเดินเล่นแบบนี้

ตัวจางฉี่ซานเอง ไม่ได้ตั้งใจจะกักขังหน่วงเหนี่ยวหลานชาย แต่เด็กหนุ่มคิดเอาเองว่าพระคุณปู่ช่างยิ่งใหญ่ ที่เลี้ยงหลานชายคนนี้ให้เติบโตมา
เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาเล่าเรียนหนังสือและฝึกศิลปะป้องกันตัว ด้วยหวังว่าสักวันตนจะใช้ความรู้ความสามารถที่มี ช่วยงานปู่เป็น
การตอบแทนพระคุณ จางฉี่หลิงใช้เวลา 15 ปีในบ้านสกุลจางตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนเก่งกาจกว่าเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน จนทำให้ไม่สามารถ
ร่วมเรียนกับเด็กในวัยเดียวกันได้ จางฉี่ซานจึงจ้างเหล่าซือมาสอนหนังสือที่บ้าน
รู้ตัวอีกที เด็กหนุ่มที่ไม่มีเพื่อนที่ไหนให้ไปเที่ยวเล่นด้วย ก็ลืมเลือนการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนไปเสียแล้ว

เหม่อสักพักจนรู้สึกตัว หันกลับมามองหาเสี่ยวเสียที่น่าจะเดินตามมา แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า หัวคี้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
ก่อนตัดสินใจเดินย้อนกลับตามทางเดิมเผื่อจะเจอร่างเล้กๆนั่งพักเหนื่อยตามทาง

เดินย้อนมาสักพักก็ยังไม่เจอ ฉี่หลิงรู้สึกว่าผิดสังเกต จึงเอามือป้องปากแล้วส่งเสียงเรียกไปรอบๆ

“อู๋เสีย~~!!! อู๋เสียยยยยย!!”

หลังจากที่ลองตะโกนหาสักพัก ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเด็กน้อยจะปรากฏตัวออกมา ฉี่หลิงเดินหาจนทั่ว ยิ่งไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาก็ยิ่งเครียดหนัก
ความตื่นตระหนกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนค่อยๆก่อตัวขึ้น เด็กหนุ่มพยายามสงบสติ แล้วลากตัวขึ้นจากลำธารเล็กๆที่เขาลงไปลุยน้ำอย่างบ้าคลั่งเมื่อกี้

ฉี่หลิงสูดหายใจเข้าออกช้าๆ ค่อยๆปรับอารมณ์ตัวเองให้นิ่งเหมือนเดิม แต่ถึงกระนั้นหัวใจกลับเต้นแรงจนเจ็บไปหมด เด็กหนุ่มสะบัดน้ำออก
เล็กน้อยในหัวพยายามคิดหาทางหาตัวเสี่ยวเสียโดยเร็ว ก่อนรีบพุ่งตัวกลับบ้านเมื่อคิดถึงสิ่งๆนึงที่น่าจะช่วยเขาได้

.
.
.
.

“ท่านปู่อู๋ ผมขอยืมตัวซันชุ่นติงหน่อยครับ”

เสียงที่ปกติมักจะราบเรียบแต่บัดนี้แทรกไปด้วยความรีบร้อนดังแทรกขึ้นกลางวงสนทนา ผู้สูงวัยทั้ง 2 มองสภาพเด็กหนุ่มที่ปกติมักจะ
เงียบขรึมเสมอ บัดนี้เนื้อตัวเปียกปอนและเต็มไปด้วยคราบดิน การวิ่งกลับมาบ้านสุดกำลังทำให้หน้าตาแดงก่ำจากการออกแรง
จากสภาพของคนตรงหน้าบวกกับที่ไม่มีเสี่ยวเสียน้อยข้างกาย ทำให้ทั้ง 2 รู้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ

“เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเสีย”

อู๋เหลาโก่วปล่อยซันชุ่นติงออกมาจากในแขนเสื้อ พร้อมยืนขึ้นเต็มความสูง จังหวะเดียวกันนั้นเด็กหนุ่มผมดำก็ก้มตัวลงอุ้มหมาตัวเล็ก
แนบอกแล้วออกวิ่งอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ทิ้งให้ผู้เป็นปู่ส่งเสียงเรียกตามอยู่เบื้องหลัง

ใช้เวลาไม่นาน ฉี่หลิงก็กลับมายืนตรงที่เขาเห็นเสี่ยวเสียครั้งสุดท้าย ปล่อยซันชุ่นติงลงพื้น แล้วนั่งยองๆพูดกับเจ้าตัวเล็ก

“ซันชุ่นติง อู๋เสียหายไป ช่วยฉันหาหน่อยได้ไหม”

“บ๊อก!!”

หมาของอู๋เหลาโก่วเป็นหมาฉลาด มันรีบเห่ารับคำทันที ก่อนจะลุกไปดมๆพื้นดินรอบๆตัว ใช้ไม่นานทิเบแทน สเปเนียลตัวน้อยก็นำทาง
เด็กหนุ่มมากถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งฉีหลิ่งวิ่งผ่านหลายครั้งตอนที่ตามหาเสี่ยวเสีย หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน ถ้าเสี่ยวเสียอยู่แถวนี้
ก็ต้องได้ยินเสียงเขาเรียกและออกมาหาซิ หรือจริงๆแล้วหมาแก่ของปู๋อู๋จะหูตาฝ้าฟางตามอายุขัยเสียแล้ว

ซันชุ่นติงตัวน้อยเดินอ้อมต้นไม้ไปก่อนจะส่งเสียงเห่าระรัว แล้วก็มีเสียงเล็กๆดังตอบกลับ

“ซันชุ่นติง?”

เสียงเล้กๆที่เจือเสียงสะอื้นดังออกมาจากทางต้นไม้ใหญ่ เรียกความสนใจจากฉี่หลิงจนเด็กหนุ่มต้องรีบวิ่งตามไปดู เบื้องหน้าคือ
ปากหลุมไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีขนาดกว้างพอจะให้เด็ก 1 คนลงไปได้ เนื่องด้วยโพรงนี้อยู่ใต้รากขนาดใหญ่ของต้นไม้พอดี
ทำให้เด็กหนุ่มไม่ได้สังเกตเห็นตั้งแต่แรก ฉี่หลิงยื่นหน้าเข้าไปดูในโพรง โพรงนี้แม้ปากหลุมไม่กว้าง แต่ภายในกลับลึกมากกว่าที่คิด
ขนาดฉี่หลิงที่สูงกว่าเด็กรุ่นเดียวกันก็ยังต้องยืดสุดตัวกว่าจะเอื้อมถึงปลายหลุม ที่ปลายหลุมมีร่างของเสี่ยวเสียที่เนื้อตัวมอมแมมกำลังทำหน้าเหวอ
เมื่อผู้ที่ปรากฏกายพร้อมเจ้าหมาไม่ใช่ปู๋จ๋าของเด็กน้อย แต่เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาเงียบขรึมที่เขาออกมาเดินเล่นด้วย

ฉี่หลิงถอนหายใจ 1 ทีอย่างโล่งอก แต่ด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ กลับทำให้เด็กน้อยเข้าใจว่าอาการโล่งอกเป็นอาการของความรำคาญ
เหมือนทำนบน้ำตาถูกทำลาย ตาแดงๆที่ตอนแรกมีเพียงน้ำตาคลอ บัดนี้ไหลอาบ2ข้างแก้ม ริมฝีปากแดงๆน่ารักบิดเบี้ยวก่อนส่งเสียงสะอื้นไห้เสียงดัง
เด็กหนุ่มที่ตกใจกับอาการร้องไห้โยเยอย่างไม่ทันตั้งตัว รีบยืดตัวลงไปคว้าร่างเล้กๆนั้นแล้วยกขึ้นจากโพรงใต้ต้นไม้

“...ร้องทำไม”

เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ

“ผะ ผมขอโทษฮะ ขอโทษที่ทำให้ ฮึก รำคาญ จะ จะไม่มาวุ่นวายอีกแล้ว ขอโทษ ฮึก นะฮะ”

เสียงเล็กๆเอ่ยสั่นเครือ 2มือกำเสื้อของตัวเองไว้แน่น ร่างเล็กๆ สั่นระริก ดูบอบบางราวกับจะแตกสลาย เด็กหนุ่มไม่เข้าใจ
ทำไมเสี่ยวเสียถึงคิดว่าเขารำคาญกัน คิดพลางนั่งยองๆลงให้หน้าอยุ่ระดับเดียวกับเด็กน้อย แล้วพยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนกว่าเดิม

“ทำไมถึงคิดว่าแบบนั้นล่ะ”

“กะ ก็จางเซียนเสิ่ง ดะ เดิน เดินหนีเสี่ยว ฮึก เสียตลอด ละ เลย แถม แถมเมื่อกี้ ก็ ถะ ถอนหายใจด้วย คง ฮึก คงไม่
ยะ อยากอยู่กับเด็กน่ารำคาญ บะ แบบเสี่ยวเสียใช่มั๊ยฮะ ฮือออออ”

พูดจบก็ร้องไห้ออกมาอีกยกใหญ่ ซันชุ่นติงที่อยู่ข้างๆแล่บลิ้นเลียหลังมือเหมือนพยายามปลอบ ฉี่หลิงเห็นสภาพเด็กตรงหน้าแล้ว
อยากจะให้ปู่ลงโทษเขาหนักๆ ที่ปล่อยให้เด็กน้อยคิดมากขนาดนี้ แขนยาวอ้ากว้างก่อนจะคว้าเด็กน้อยเข้าไปกอด มือเรียวลูบหัวเสี่ยวเสียเบาๆ

“จะ จางเซียนเสิ่ง”

“ไม่ได้รำคาญ…”

“เอ๊ะ”

เด็กน้อยขืนตัวออกมาจากอ้อมกอดเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉี่หลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดประโยคยาวเหยียดที่สุดในชีวิต

“พี่ไม่ได้รำคาญ เสี่ยวเสียไม่เคยทำให้พี่รำคาญเลย แต่เป็นพี่เองที่ไม่รู้จะทำตัวยังไงกับเสี่ยวเสีย พี่ชวนคุยไม่เก่ง เล่นกับเด็กก็ไม่เป็น
ชีวิตนี้พี่มีแต่อ่านหนังสือกับฝึกร่างกาย บางทีก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรดี ก็เลยเลือกที่จะเงียบ วันนี้ตอนที่อยู่ในห้องพี่ไม่ได้จะเดินหนี
แต่พี่เห็นว่าเสี่ยวเสียหิว ก็เลยจะพาไปหาอะไรกิน ตอนที่เดินเล่น พี่ไม่ชินที่จะเดินกับคนอื่น…..อันที่จริงพี่ไม่เคยเดินเล่นกับใครเลย….
พี่เลยไม่รู้ว่าควรจะเดินด้วยความเร็วแค่ไหน ควรจะชวนคุยอะไร จับมือเสี่ยวเสียได้มั๊ย หรือว่าควรจะอุ้มเสี่ยวเสีย พี่ไม่รู้จริงๆ….”

ความเงียบโรยตัวรอบทั้ง 2 แม้กระทั้งซันชุ่นติงก็นั่งเงียบ ฉี่หลิงก้มหน้าด้วยความละอาย เขาไม่รู้จะมองหน้าเสี่ยวเสียอย่างไร ช่างเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องเสียจริง

ก่อนที่จะโทษตัวเองไปมากกว่าเดิม วงแขนเล็กๆก็คล้องรอบคอฉี่หลิง เสี่ยวเสียโถมตัวเข้าหา แล้วซุกหน้าลงกับซอกคอของคนตัวโตกว่า
เด็กหนุ่มชะงักค้างชั่วครู่ด้วยความตกใจ ก่อนค่อยๆยกแขนขึ้นมากอดตอบ

“เสี่ยวเสียเรียกว่า ฉี่หลิงเกอเกอ ได้มั๊ยฮะ”

น้ำเสียงออดอ้อนดังขึ้น เสียงของเสี่ยวเสียแม้จะแหบลงไปบ้างจากการร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้เจือไปด้วยเสียงสะอื้นและความโศกเศร้าอีกแล้ว
เด็กหนุ่มยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่เคยคิดว่าตนจะทำได้

“ได้ซิ”

เด็กน้อยคลายอ้อมแขนแล้วดันตัวออกมามองหน้าคู่สนทนา น้ำตาแห้งไปหมดแล้ว เหลือเพียงคราบเล็กๆบนหน้า ฉี่หลิงยกแขนเสื้อตนขึ้น
แล้วค่อยๆเช็ดออกอย่างเบามือ ริมฝีปากแดงจิ้มลิ่มฉีกยิ้มกว้างก่อนส่งเสียงเจือยแจ้ว

“เสี่ยวเสียขอมาเล่นกับเกอเกอบ่อยๆได้มั๊ยฮะ”

“ได้ซิ”

“ตอนเดินเล่นกัน เสี่ยวเสียขอจับมือเกอเกอได้มั๊ยฮะ จะได้ไม่หลงกัน”

“ได้ซิ”

“ถ้าเสี่ยวเสียเหนื่อย เกอเกอจะยอมให้เสี่ยวเสียขี่หลังมั๊ยฮะ”

“ได้ซิ พี่จะแบกให้ถึงบ้านเลย”

“รักเกอเกอที่สุดเลย!!!!”

เด็กน้อยตะโกนเสียงดังแล้วโถมตัวกอดคอคนตัวสูงอีกรอบ ซึ่งเด็กหนุ่มก็อ้าแขนรับอย่างเต็มใจ ฉี่หลิงกอดร่างเล็กๆ พลางเอาหัวเอียงซบกับเสี่ยวเสีย
นิ่งเงียบสักพักก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา

“ขอโทษนะที่ดูแลไม่ดี จะไม่ปล่อยให้ห่างไปไหนอีกแล้ว….”

ร่างเล็กๆ ส่ายหัวตอบรับ

“เกอเกอไม่ต้องขอโทษหรอกฮะ เสี่ยวเสียผิดเองที่ไม่เดินตาม ขอบคุณเกอเกอที่มาตามหานะฮะ”

ทั้ง 2 กอดกันอยุ่สักพัก จนซันชุ่นติงเห่าเรียก เสี่ยวเสียจึงหัวเราะแล้วผละไปกอดหมาตัวน้อยพร้อมเอ่ยขอบคุณที่ออกมาตามหาตนด้วย
ฉี่หลิงปล่อยให้เล่นสักพักจึงบอกว่าควรกลับได้แล้ว

“ฉี่หลิงเกอเกอ”

เสียงเล็กเรียกให้คนตัวโตก้มลงมอง เสี่ยวเสียน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ ยื่นมือมาสุดแขน ทำท่าเตรียมพร้อมให้อุ้มเต็มที่ ฉี่หลิงหัวเราะน้อยๆ
ก่อนก้มลงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกัน แล้วออกเดินเคียงคุ่ไปกับหมาแก่ มุ่งหน้ากลับบ้านสกุลจาง

.
.
.
.

“ฉี่หลิงเกอเกอ”

เสี่ยงเล็กเอ่ยเรียกดึงความสนใจ เสี่ยวเสียน้อยที่ตอนนี้อาบน้ำอาบท่าแต่งตัวใหม่ เกาะขอบประตูมองมาที่เด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าสำนึกผิดต่อหน้าเจ้าบ้านสกุลอู๋

“หายตัวไปครั้งเดียว ไม่เรียกหาปู่แล้วหรือเสี่ยวเสีย”

เด็กน้อยส่ายหาพรืด รีบวิ่งมากอดเอวผู้เป็นปู่อย่างออดอ้อน ก่อนหันกลับไปมองฉี่หลิงที่ยังนั่งก้มหน้าเหมือนเดิม

“ปู่จ๋าจะตีเกอเกอเหรอฮะ”

“หืม แล้วเจ้าว่าน่าตีไหมล่ะ ทำหลานข้าหายไปทั้งคนเชียวนะ”

“แต่เกอเกอก็พาเสี่ยวเสียกลับมานะฮะ แถมเสี่ยวเสียเป็นคนหายไปเองด้วย เกอเกอไม่ได้ทำเสี่ยวเสียหายเสียหน่อย”

“ถ้างั้นก็คงต้องจับเจ้าตีแทนแล้วล่ะ”

“ตีผมแทนเถอะครับ ผมไม่ดีเอง”

ฉี่หลิงรีบพูดแทรกขึ้นเพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะโดนตีขึ้นมาจริงๆ อู๋เหลาโก่วมองเด็กหนุ่มที่ยังก้มหน้าสำนึกผิดโดยไม่รู้ว่าเขานั้นไม่ได้คิดจะ
ตีหลานชายของตัวเอง หรือหลานชายของใครที่ไหนทั้งนั้น เพียงแค่แกล้งหยอกเจ้าเด็กดื้อที่หายตัวไปเฉยๆ เท่านั้นเอง
อู๋เหลาโก่วหันไปสบตากับจางฉี่ซานสักพักก่อนถอนหายใจออกมาเสียงดัง

“เจ้าลุกขึ้นเถอะเสี่ยวหลิง ข้าจะไม่ตีใครทั้งนั้นแหละ แม้วันนี้หลานข้าจะหายตัวไปในความดูแลของเจ้า แต่ก็ใช้ว่าจะเป็นไปโดยตั้งใจ
แถมเสี่ยวเสียก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร หากเจ้ารู้สึกสำนึกผิดจริงๆ ก็จงดูแลเสี่ยวเสียให้ดี อย่าให้บาดเจ็บหรือหายตัวไปอีก เอาแบบนี้ดีไหมเสี่ยวเสีย”

ท้ายประโยคหันกลับไปพูดกับหลานชายตัวน้อยที่ฉีกยิ้มกว้าง พยักหน้าระรัว

“ดีฮะ!! ขอบคุณฮะปู่จ๋า”

อ้อมกอดของเด็กน้อยช่างรวดเร็วราวสายฟ้า ก่อนที่อู๋เหลาโก่วจะกอดตอบทัน ร่างเล้กๆก็ผละออกแล้ววิ่งไปกอดคอเด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นเสียแล้ว
ฉี่หลิงแม้มีท่าทีเก้ๆกังๆ แต่ก็กอดตอบพลางลูบหลังเสี่ยวเสียเบาๆ

เสียงหัวเราะทุ้มๆดังขึ้นจนอู๋เหลาโก่วต้องสะบัดหน้าไปมอง จางฉี่ซานที่นั่งจิบชาเงียบๆมาตลอด หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอู๋เหลาโก่วมองมา
ก็เอื้อนเอ่ยด้วยความขบขัน

“ดูท่า เจ้าจะแพ้หลานข้าเสียแล้วล่ะเหลาอู่”

:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:

กิ๊ซซซซซซซ ด้วงปงเองค่ะ //เบรคแด๊นส์ด้วยความดีใจ//
เห็นหัวข้อเดลี่วันนี้แล้วทนไม่ด๊ายยยยยยยยยย ต้องรีบถอยฟิคมาร่วมสนุกในทันใด โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย

ตอนนี้เป้นเหตุการณ์ในอดีตที่มีการกล่าวถึงไปในตอนแรกนะคะ มีการปรับเปลี่ยนอายุเสี่ยวเสียน้อยนิดหน่อย เนื่องจากว่าตอนแรกหาข้อมูลไม่ดีพอ
เด็กอายุ2ขวบไม่น่าจะพูดเป้นประโยคยาวๆได้ เห้นว่าเริ่มจะพูดเป้นประโยคได้ตอนช่วง3-4ปีขึ้นไปแล้วน่ะค่ะ (เดี๋ยวไว้ในฟิคตอนเก่าจะไปแก้อีกทีน้าาาา)

ถูกใจหรือไม่อย่างไรก็เม้นท์บอกกันได้นะคะะะะะะะะะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์มากๆ เราชอบอ่านคอมเม้นท์มากเลยค่ะ XD

แล้วไว้พบกันใหม่ตอนหน้าค่า~


แก้ไขล่าสุดโดย Snake_Blind เมื่อ Fri 19 Dec 2014, 00:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง

Snake_Blind
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 41
Points : 3505
Join date : 06/12/2014
Age : 33

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย Empty Re: [OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย

ตั้งหัวข้อ by Duke_of_Florence Thu 18 Dec 2014, 23:51

น่าย้าากกก พลังโชตะของเสี่ยวเสียทำดาเมจสุดๆไปเลย

เสี่ยวเสียอย่าน้อยใจเกอเกอเขาเลย พี่เขาไม่มีทางรำคาญเสี่ยวเสียหรอก แค่พูดไม่เก่งเอง ถ้าไม่มีเสี่ยวเสียเป็นเพื่อนเล่น ฉี่หลิงเกอเกอจะต้องเหงามากแน่ๆ

แอะ แต่ร้ายกาจนะเรา เจ้าตัวเล็ก อ้อนพี่เขาใหญ่ จะเอานู่นเอานี่ แต่ดูท่าทางจะได้สมใจ พี่ชายเขาตกหลุมนายไปทั้งตัวเรียบร้อย

เสี่ยวเสียติดฉี่หลิงเกอเกอมากเกินไป สงสารท่านปู่แป๊บ 555 แต่ท่านปู่ยังมีปู่จาง แอบได้กลิ่น 15 แหะแหะ

ยังเป็นฟิคที่น่ารักเหมือนเคย อ่านแล้วอยากจะมีน้องชายน่ารักแบ๊วๆแบบเสี่ยวเสียซักคนเลยค่ะ โชตะเป็นอะไรที่ดีงาม ยิ่งเป็นโชตะเสี่ยวเสียยิ่งเป็นสุดยอดแห่งความดีงาม Razz
Duke_of_Florence
Duke_of_Florence
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 113
Points : 3590
Join date : 31/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย Empty Re: [OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย

ตั้งหัวข้อ by Narakas Fri 19 Dec 2014, 00:42

น่าร้ากกกกกกกก
อยากเลี้ยงต้อยเสี่ยวเสียจังค่-- แค่กๆๆ

ฟิคน่ารักมุ้งมิ้งมากเลยค่ะ แอร๊ยยยย
ขอบคุณที่แต่งมาแบ่งปันให้อ่านค่าาา
Narakas
Narakas
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 263
Points : 3852
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย Empty Re: [OS] #dmbjdaily (พี่ชาย) My little boy (Semi-AU) : Promise You #ผิงเสีย

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Sat 20 Dec 2014, 16:04

รู้สึกหายใจไม่ทันค่ะแงงงงง น่ารักกกกกกกกก เสี่ยวเสียกับฉี่หลิงเกอเกอน่ารักกกกกก กรี๊ดดดดด //ดีใจค่ะ ซีรี่ยส์นี้มาอีกเยอะๆนะคะ อ่านแล้วจิตใจเปล่งปลั่งมาก

ขอโทษนะคะ เป็ฯคนเมนต์ยาวๆไม่เป็ฯ แต่ชอบฟิคนี้มาก กร๊่าวมาก แงงงง

ขอสารภาพว่าอ่านแล้วโคตรทำให้นึกถึงซานหลิงเกอเกอกับเสี่ยวฮวาตัวเองเลยค่ะ U//U ซานหลิงได้ป๊ามานี่หว่า 5555
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4065
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ