Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
+9
kame_kazuha
meanato
SilverCloud
zerin
pungjungza
Tang_An-An
tear
Fenrir
Shiaeri
13 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
Title : ราตรีไร้รัก
Pairing : คิงว่านหนู x วังฉางไห่
Rate : แอบมี R-17
ดราม่านะก้ะ :v
บอกเลยว่ามโนเพียวๆไม่มีความเรียลมาผสม
----------------------------------------------------------------
หัวใจบางทีอาจคล้ายหินผา
แม้สายลมไม่อาจพัดพา แต่สายธาราจะชะให้มันกร่อนไป
แม้หัวใจจะเป็นเหมือนภูผาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่ก็ต้องเจอกับสักวัน...
....ที่หิมะนั้นละลาย
บนบัลลังก์สง่ายังมีองค์ราชาที่อยู่เหนือกว่าผู้ใด กษัตริย์แห่งว่านหนูผู้มีใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาเฉกเช่นยอดเขาสูง ใจที่ถูกแช่แข็งมานานหลายร้อยปีทำให้ไม่สามารถรู้สึกถึงสิ่งใดได้อีก...
....แน่หรือ ?
วันหนึ่ง พวกทหารพาร่างของคนๆหนึ่งเข้ามา ข่าวว่าหลงเข้ามาแล้วโดนจับ แม้อีกฝ่ายจะไม่ขัดขืนมากมาย แต่ท่าทีของเขาก็ไม่แสดงออกว่ายินยอม
แต่ไม่ว่าใจเขาจะคิดเช่นไร จากนี้ไป เขาก็คือ ‘ทาสเชลย’ อย่างไม่มีใครสามารถช่วยเหลือ
“จงเอ่ยนามของเจ้า ผู้บุกรุก”
ดวงตานิ่งสงบดุจผืนน้ำที่ลึกล้ำจ้องมองอีกฝ่ายที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาเช่นกัน วินาทีนั้นแทบทำให้ภูผาสั่นคลอน
แววตาของอีกฝ่ายช่างแปลกไปจากทุกสิ่งที่เขาพบเห็นอยู่ทุกวันที่มักจะเต็มไปด้วงความเคารพ ยำเกรง และหวาดกลัว
ผู้บุกรุกคนนี้ไม่หวาดเกรงตัวของเขาเลยสักนิด แม้จะเห็นมือที่มากกว่า ‘มนุษย์’ ไปมากเขาก็ไม่หวั่นไหวแม้สักนิด ในอัญมณีสีรัติกาลนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ ทะเยอทะยาน เย่อหยิ่ง
และท้าทาย
“ข้าชื่อ วังฉางไห่ ”
แม้จะแหบพร่า แต่มั่นคงและเย้ายวนอย่างน่าประหลาดใจ
ใบหน้าที่เรียบนิ่งมาเสมอปรากฏรอยยิ้ม
วังฉางไห่... เขาทวนชื่อนี้ซ้ำไปซ้ำมาในห้วงความคิด
ราวกับจะให้มันตราตรึงในใจไปจวบจนสิ้นกาลเวลา
---
กาลเวลาได้เริ่มต้น และดำเนินต่อไปเรื่อย....
ทาสก็เป็นได้แค่เพียงทาส แม้นไม่มีใจปฏิพัทธ์แต่ก็ไม่อาจขัดขืนผู้ที่เพียงคำเดียวก็สามารถสั่งให้เขามีชีวิตอยู่หรือหายไปจากโลกนี้ได้
กลางวันเป็นได้เพียงแค่สถาปนิกที่ตรากตรำทำงานหนักแม้ไม่ได้สิ่งตอบแทน
กลางคืนก็ต้องคอยบำเรอเปรอปรนรับใช้ผู้เป็นจ้าวเหนือหัวให้ตระกองกอดไว้ระบายกามารมณ์
ในราตรีที่มีเพียงสองกายแนบชิดติดกัน เสียงครางเครือล่องลอยตามลมทุกคนที่ร่างกายทั้งสองแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว บทเพลงรักดำเนินไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกวัน ทุกคืน ทาสที่ไม่มีปากเสียงได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ
เกลียด เขาเกลียดคนตรงหน้านี้เหลือเกิน
เจ็บจนแทบจะล้มลงขอให้ปลิดชีวิตตนทิ้ง
ผู้อยู่เหนือประชาชนใดทอดมองดวงตาอีกฝ่ายที่คลอด้วยหยาดน้ำตาด้วงความหลงใหล ริมฝีปากประทับจูบซับคราบน้ำตาก่อนไล้มาที่ปากราวกับต้องการหลอกใจตัวเอง
หลอกว่าไม่เห็นความเกลียดชังที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนในดวงตานั้น
ดวงใจหินผาที่เคยถูกปกคลุมด้วยหิมะเริ่มละลายแล้ว ไม่ใช่เพราะมีความอบอุ่นจากใคร แต่ความรักที่อยู่ข้างในเริ่มละลายความกระด้างของมันออก
คล้ายกับไขว่คว้าหาความรัก
...ที่มันไม่มีวันได้รับ…
---
วันหนึ่งพายุหิมะพัดผ่านฉางไป๋ซานอย่างหนัก กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทอดมองออกไปนอกหน้าต่างไกลแสนไกล เห็นดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้าโดยมีเมฆสีเทาบังเอาไว้ทำให้แสงเล็ดรอดออกมาเพียงเล็กน้อย
ไฉนเลยดวงจันทร์เจ้าต้องปกปิดแสงนวลเอาไว้เหมือนปิดดวงใจไม่ให้ผู้ใดเห็น
เนิ่นนานกว่าพายุหิมะจะสงบลง เสียงเปี่ยมอำนาจตะโกนเรียกหานายช่างสถาปนิกดังเช่นเคย
หากเวลาล่วงเลยไปกลับไร้วี่แววทำให้เขาเริ่มแปลกใจจนได้มีนายทหารหนุ่มเดินเข้ามาบอกว่า วังฉานไห่ได้หนีไปแล้ว
ไปแล้ว...เขาจากไปแล้ว
แกร๊ง!!
แก้วน้ำที่อยู่ในมือร่วงหล่นลงพื้นพร้อมร่างของนายเหนือหัวพุ่งทะยานออกไปจากห้อง กระโจนขึ้นม้าแล้วควบออกไปอย่างรวดเร็ว คล้ายทำไปโดนสัญชาตญาณ
หนี...ข้าไม่ยอมให้เจ้าหนีแน่ๆ !!! ไม่มีวัน!!
ท่ามกลางหิมะกองสุมเป็นเนินสูงทำให้ม้าเคลื่อนไหวลำบาก เขากระโดดลงจากม้าและบอกให้มันกลับตำหนักไปก่อน แต่สองขายังคงก้าวต่อไปเพื่อตามหาดวงใจเพียงดวงเดียวที่มี
จะมีอาภรณ์ใดสวมไว้ให้อุ่นกายไหมหนอ
จะมีอาหารให้อิ่มท้องหรือเปล่า
จะต้องการอ้อมกอดของเขาที่น่าชิงชังหรือไม่
.....จะจากเขาไปจริงๆหรือ
ร่างกายของเขาทรุดลงกลางหิมะเหม่อมองดวงจันทร์แล้วภาวนา .... แม้ไม่เคยเชื่อในสิ่งใดมากกว่าที่ชะตาอันกำหนดด้วยสองมือตน แต่เขาไม่อาจสูญเสียผู้เป็นดั่งใจไป
“ได้โปรด หากสงสารข้าผู้นี้.....อย่าพรากเขาไปจากข้า”
ดวงตาสีดำขลับปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นเงาใครสักคนสลบอยู่บนผืนหิมะ
วังฉางไห่!!
เพียงไม่กี่อึดใจเขาก็วิ่งมาถึงร่างที่นอนล้มอยู่ ใบหน้าซีดเซียวไร้สี แต่พวงแก้มกลับเป็นสีแดงจัดคล้ายมีไข้ แต่ในเวลานั้นไม่มีสิ่งใดที่เขาสนใจอีก ด้วยมือทั้งหมดที่มีเขาโอบกอด’ดวงใจ’เอาไว้ด้วยความรักใคร่
น้ำอุ่นใสจากคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายน้ำแข็งไหลอาบแก้มและหยดลงสู่แผ่นอกที่ยังคงมีบางสิ่งเต้นอยู่ในนั้น
กษัตริย์แห่งว่านหนูจุมพิตอีกฝ่ายอย่างรักใคร่
แม้จะเป็นแค่ความรักของตนฝ่ายเดียวก็ตาม
---
เจ้าของมือนับสิบอุ้มร่างของคนไม่ได้สติเดินขึ้นจนถึงข้างทะเลสาบเทียนฉือ ทะเลสาบแห่งสรวงสวรรค์ เขากราบขอบพระคุณพระจันทร์ที่ไม่พรากพวกเขาออกห่าง
ผ้าคลุมตัวหนาถูกปลดออกมาคลุมให้ มือที่ไร้ไออุ่นลูบผมสีดำยาวอย่างอ่อนโยนเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้ จนกระทั่งอีกฝ่ายรู้สึกตัว และรับรู้ถึงตัวตนเขา อีกฝ่ายก็ถอยห่างออกไปไกล
“กลัวหรือ ?”
อีกฝ่ายส่ายหน้า พูดออกมาคล้ายพร่ำเพ้อ “ทั้งที่หนีออกมา แต่กลับตามหาจนเจอกันอีกครั้ง”
“เหตุใดจึงชิงชังข้านัก”
วังฉางไห่หัวเราะในลำคอก่อนเหยียดยิ้มหากแววตากลับเลื่อนลอย “ในตัวท่านมีสิ่งใดที่ทำให้ข้าชื่นชอบได้บ้างล่ะ”
โทสะพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วบังคับให้มือนั้นคว้าร่างอีกฝ่ายเข้ามาแล้วบังคับจูบ ไม่ขัดขืนเหมือนดังปกติ หากแววตานั้นกลับต่อต้านและแข็งกร้าว
“การทำเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าท่านจะสามารถทำให้ใครสักคนหลงรักท่านได้”
“แล้วต้องทำอย่างไรเล่า เจ้าถึงจะสนใจคนอย่างข้าบ้าง”
เจ็บปวด ขมขื่น ดวงใจแห่งภูผาที่แข็งแกร่งบัดนี้ถูกสะเทือนด้วยความร้าวรานจนแทบจะพังถล่ม
นางช่างยื่นมือทาบกับแผ่นอกที่ไร้เสียงเต้นของหัวใจ
“กษัตริย์ไม่ต้องการหัวใจ ท่านมีหน้าที่รับใช้อาณาจักรและประชาชน ข้าไม่ใช่หนึ่งในนั้น ขาดข้าไปท่านก็แค่อยู่เหมือนเดิม”
“หากกษัตริย์ไม่ต้องการใช้ชีวิตยืนยาวอย่างไร้ความหมาย”
เว้าวอน อ้อนขอ ราวกับศักดิ์ศรีที่เคยมีได้มลายหายไปเมื่อเห็นเขานอนไร้สติอยู่ท่ามกลางหิมะ
หากคนที่ไม่มีใจ ....ทำอย่างไร เขาก็ไม่มีวันหันมา
เฉกเช่นไม้ขีดไฟที่จุดตัวเองจนตาย สุดท้ายทานตะวันก็หันมามองสิ่งที่เหลือเพียงกองเถ้าถ่าน
วังฉางไห่ไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา หากเฉียบแหลมและฉลาดล้ำ ใยจะไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการบอก
“หากต้องทนอยู่กับท่านต่อไป ข้าขอตายดีกว่า”
....เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาทรมานกับความรักที่อีกฝ่ายมอบให้เหลือเกิน....
ของมีค่า มอบให้คนที่ไม่ต้องการ ก็ไม่ต่างอะไรกับกรวดดิน
ผู้มีศักดิ์เป็นราชาดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “จงอยู่ในความฝันของเจ้าไปเถอะ เพราะข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าตาย”
“ข้าฆ่าเสียยังจะดีกว่า”
วังฉางไห่ระบายรอยยิ้ม......รอยยิ้มที่เย็นกว่าหิมะบนเทือกเขาสูง เสียงของเขากระซิบข้างหูแผ่วเบา
“ไม่หรอก.... ให้ท่านตาย มันง่ายเกินไป”
ฉึก!!!!
เพียงเสี้ยววินาทีที่เผลอมีดล่นหนึ่งก็ปักกลางอกแล้วความรู้สึกชาก็แล่นไปทั่วร่างกาย ...เขาถูกวางยา!!!
ร่างกายที่เคยกอดแนบอิงมานานหลายปีบัดนี้ค่อยๆหยัดยืนขึ้น ปล่อยให้ร่างเขาร่วงลงสู่พื้นและแหงนมองอีกฝ่ายจากเบื้องล่าง
รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าราวกับพิษร้ายของงูเห่า วังฉางไห่งดงามเหมือนดอกกุหลาบที่หากมันไม่เต็มใจยอมรับแต่ยังดื้อดึงจะครอบครองก็จะต้องหนามเจ็บไป
“ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา และลาก่อนฝ่าพระบาท”
คนอย่างท่าน..... ต้องลิ้มรสความทรมานเจียนตายทั้งที่ยังหายใจ
ต้องทรมานจนคิดว่าหากตายไปคงจะเจ็บปวดน้อยกว่า
มีดที่ทิ่มแทงกลางอกเขาเมื่อครู่บัดนี้อยู่ใกล้ลำคอระหงที่เคยฝากรอยจูบเอาไว้ ราชาส่ายหน้าปากขยับคล้ายจะตะโกนห้ามแต่กลับไม่มีสุรเสียงใดออกจากลำคอที่แห้งเป็นผง
“ลาก่อน...ตลอดกาล”
เพียงเสี้ยววินาทีที่ใบมีดกดผ่านลำคอ กลีบกุหลาบก็โปรยไปทั่วผืนหิมะขาวพิสุทธิ์
แต่งแต้มราตรีที่คนไร้รักมอบให้ภูผาที่พังทลายลง
หากเพียงใบมีดกรีดคอก็จะตายในเสี้ยววินาทีและหลับไปตลอดกาล
หากความเจ็บปวดกรีดลงกลางใจนานเท่าไรก็ไม่ลบเลือน ความทรมานนี่อยู่นาน...
ตราบสิ้นลมหายใจ
The End
----------------------------------------------------------------------------------------
Happy Ending ค่าาา เย้!! /โดนชก
เรารักคู่นี้นะ แต่ไม่ถนัดสาย SM จริงๆค่ะ(ฮาาา)
นายทาสมันก็ต้องมีโมเม้นท์ทาสไม่ได้รัก ไม่มีวันหลงรัก แล้วก็อยากหนีไปบ้างสิ โนะ <3 /อย่าปาของมาใส่หนู กี๊ซซซซซซ
ฝากว่านวังของเลาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ รักกก
267 days left!!
Pairing : คิงว่านหนู x วังฉางไห่
Rate : แอบมี R-17
ดราม่านะก้ะ :v
บอกเลยว่ามโนเพียวๆไม่มีความเรียลมาผสม
----------------------------------------------------------------
หัวใจบางทีอาจคล้ายหินผา
แม้สายลมไม่อาจพัดพา แต่สายธาราจะชะให้มันกร่อนไป
แม้หัวใจจะเป็นเหมือนภูผาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่ก็ต้องเจอกับสักวัน...
....ที่หิมะนั้นละลาย
บนบัลลังก์สง่ายังมีองค์ราชาที่อยู่เหนือกว่าผู้ใด กษัตริย์แห่งว่านหนูผู้มีใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาเฉกเช่นยอดเขาสูง ใจที่ถูกแช่แข็งมานานหลายร้อยปีทำให้ไม่สามารถรู้สึกถึงสิ่งใดได้อีก...
....แน่หรือ ?
วันหนึ่ง พวกทหารพาร่างของคนๆหนึ่งเข้ามา ข่าวว่าหลงเข้ามาแล้วโดนจับ แม้อีกฝ่ายจะไม่ขัดขืนมากมาย แต่ท่าทีของเขาก็ไม่แสดงออกว่ายินยอม
แต่ไม่ว่าใจเขาจะคิดเช่นไร จากนี้ไป เขาก็คือ ‘ทาสเชลย’ อย่างไม่มีใครสามารถช่วยเหลือ
“จงเอ่ยนามของเจ้า ผู้บุกรุก”
ดวงตานิ่งสงบดุจผืนน้ำที่ลึกล้ำจ้องมองอีกฝ่ายที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาเช่นกัน วินาทีนั้นแทบทำให้ภูผาสั่นคลอน
แววตาของอีกฝ่ายช่างแปลกไปจากทุกสิ่งที่เขาพบเห็นอยู่ทุกวันที่มักจะเต็มไปด้วงความเคารพ ยำเกรง และหวาดกลัว
ผู้บุกรุกคนนี้ไม่หวาดเกรงตัวของเขาเลยสักนิด แม้จะเห็นมือที่มากกว่า ‘มนุษย์’ ไปมากเขาก็ไม่หวั่นไหวแม้สักนิด ในอัญมณีสีรัติกาลนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ ทะเยอทะยาน เย่อหยิ่ง
และท้าทาย
“ข้าชื่อ วังฉางไห่ ”
แม้จะแหบพร่า แต่มั่นคงและเย้ายวนอย่างน่าประหลาดใจ
ใบหน้าที่เรียบนิ่งมาเสมอปรากฏรอยยิ้ม
วังฉางไห่... เขาทวนชื่อนี้ซ้ำไปซ้ำมาในห้วงความคิด
ราวกับจะให้มันตราตรึงในใจไปจวบจนสิ้นกาลเวลา
---
กาลเวลาได้เริ่มต้น และดำเนินต่อไปเรื่อย....
ทาสก็เป็นได้แค่เพียงทาส แม้นไม่มีใจปฏิพัทธ์แต่ก็ไม่อาจขัดขืนผู้ที่เพียงคำเดียวก็สามารถสั่งให้เขามีชีวิตอยู่หรือหายไปจากโลกนี้ได้
กลางวันเป็นได้เพียงแค่สถาปนิกที่ตรากตรำทำงานหนักแม้ไม่ได้สิ่งตอบแทน
กลางคืนก็ต้องคอยบำเรอเปรอปรนรับใช้ผู้เป็นจ้าวเหนือหัวให้ตระกองกอดไว้ระบายกามารมณ์
ในราตรีที่มีเพียงสองกายแนบชิดติดกัน เสียงครางเครือล่องลอยตามลมทุกคนที่ร่างกายทั้งสองแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว บทเพลงรักดำเนินไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกวัน ทุกคืน ทาสที่ไม่มีปากเสียงได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ
เกลียด เขาเกลียดคนตรงหน้านี้เหลือเกิน
เจ็บจนแทบจะล้มลงขอให้ปลิดชีวิตตนทิ้ง
ผู้อยู่เหนือประชาชนใดทอดมองดวงตาอีกฝ่ายที่คลอด้วยหยาดน้ำตาด้วงความหลงใหล ริมฝีปากประทับจูบซับคราบน้ำตาก่อนไล้มาที่ปากราวกับต้องการหลอกใจตัวเอง
หลอกว่าไม่เห็นความเกลียดชังที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนในดวงตานั้น
ดวงใจหินผาที่เคยถูกปกคลุมด้วยหิมะเริ่มละลายแล้ว ไม่ใช่เพราะมีความอบอุ่นจากใคร แต่ความรักที่อยู่ข้างในเริ่มละลายความกระด้างของมันออก
คล้ายกับไขว่คว้าหาความรัก
...ที่มันไม่มีวันได้รับ…
---
วันหนึ่งพายุหิมะพัดผ่านฉางไป๋ซานอย่างหนัก กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทอดมองออกไปนอกหน้าต่างไกลแสนไกล เห็นดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้าโดยมีเมฆสีเทาบังเอาไว้ทำให้แสงเล็ดรอดออกมาเพียงเล็กน้อย
ไฉนเลยดวงจันทร์เจ้าต้องปกปิดแสงนวลเอาไว้เหมือนปิดดวงใจไม่ให้ผู้ใดเห็น
เนิ่นนานกว่าพายุหิมะจะสงบลง เสียงเปี่ยมอำนาจตะโกนเรียกหานายช่างสถาปนิกดังเช่นเคย
หากเวลาล่วงเลยไปกลับไร้วี่แววทำให้เขาเริ่มแปลกใจจนได้มีนายทหารหนุ่มเดินเข้ามาบอกว่า วังฉานไห่ได้หนีไปแล้ว
ไปแล้ว...เขาจากไปแล้ว
แกร๊ง!!
แก้วน้ำที่อยู่ในมือร่วงหล่นลงพื้นพร้อมร่างของนายเหนือหัวพุ่งทะยานออกไปจากห้อง กระโจนขึ้นม้าแล้วควบออกไปอย่างรวดเร็ว คล้ายทำไปโดนสัญชาตญาณ
หนี...ข้าไม่ยอมให้เจ้าหนีแน่ๆ !!! ไม่มีวัน!!
ท่ามกลางหิมะกองสุมเป็นเนินสูงทำให้ม้าเคลื่อนไหวลำบาก เขากระโดดลงจากม้าและบอกให้มันกลับตำหนักไปก่อน แต่สองขายังคงก้าวต่อไปเพื่อตามหาดวงใจเพียงดวงเดียวที่มี
จะมีอาภรณ์ใดสวมไว้ให้อุ่นกายไหมหนอ
จะมีอาหารให้อิ่มท้องหรือเปล่า
จะต้องการอ้อมกอดของเขาที่น่าชิงชังหรือไม่
.....จะจากเขาไปจริงๆหรือ
ร่างกายของเขาทรุดลงกลางหิมะเหม่อมองดวงจันทร์แล้วภาวนา .... แม้ไม่เคยเชื่อในสิ่งใดมากกว่าที่ชะตาอันกำหนดด้วยสองมือตน แต่เขาไม่อาจสูญเสียผู้เป็นดั่งใจไป
“ได้โปรด หากสงสารข้าผู้นี้.....อย่าพรากเขาไปจากข้า”
ดวงตาสีดำขลับปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นเงาใครสักคนสลบอยู่บนผืนหิมะ
วังฉางไห่!!
เพียงไม่กี่อึดใจเขาก็วิ่งมาถึงร่างที่นอนล้มอยู่ ใบหน้าซีดเซียวไร้สี แต่พวงแก้มกลับเป็นสีแดงจัดคล้ายมีไข้ แต่ในเวลานั้นไม่มีสิ่งใดที่เขาสนใจอีก ด้วยมือทั้งหมดที่มีเขาโอบกอด’ดวงใจ’เอาไว้ด้วยความรักใคร่
น้ำอุ่นใสจากคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายน้ำแข็งไหลอาบแก้มและหยดลงสู่แผ่นอกที่ยังคงมีบางสิ่งเต้นอยู่ในนั้น
กษัตริย์แห่งว่านหนูจุมพิตอีกฝ่ายอย่างรักใคร่
แม้จะเป็นแค่ความรักของตนฝ่ายเดียวก็ตาม
---
เจ้าของมือนับสิบอุ้มร่างของคนไม่ได้สติเดินขึ้นจนถึงข้างทะเลสาบเทียนฉือ ทะเลสาบแห่งสรวงสวรรค์ เขากราบขอบพระคุณพระจันทร์ที่ไม่พรากพวกเขาออกห่าง
ผ้าคลุมตัวหนาถูกปลดออกมาคลุมให้ มือที่ไร้ไออุ่นลูบผมสีดำยาวอย่างอ่อนโยนเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้ จนกระทั่งอีกฝ่ายรู้สึกตัว และรับรู้ถึงตัวตนเขา อีกฝ่ายก็ถอยห่างออกไปไกล
“กลัวหรือ ?”
อีกฝ่ายส่ายหน้า พูดออกมาคล้ายพร่ำเพ้อ “ทั้งที่หนีออกมา แต่กลับตามหาจนเจอกันอีกครั้ง”
“เหตุใดจึงชิงชังข้านัก”
วังฉางไห่หัวเราะในลำคอก่อนเหยียดยิ้มหากแววตากลับเลื่อนลอย “ในตัวท่านมีสิ่งใดที่ทำให้ข้าชื่นชอบได้บ้างล่ะ”
โทสะพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วบังคับให้มือนั้นคว้าร่างอีกฝ่ายเข้ามาแล้วบังคับจูบ ไม่ขัดขืนเหมือนดังปกติ หากแววตานั้นกลับต่อต้านและแข็งกร้าว
“การทำเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าท่านจะสามารถทำให้ใครสักคนหลงรักท่านได้”
“แล้วต้องทำอย่างไรเล่า เจ้าถึงจะสนใจคนอย่างข้าบ้าง”
เจ็บปวด ขมขื่น ดวงใจแห่งภูผาที่แข็งแกร่งบัดนี้ถูกสะเทือนด้วยความร้าวรานจนแทบจะพังถล่ม
นางช่างยื่นมือทาบกับแผ่นอกที่ไร้เสียงเต้นของหัวใจ
“กษัตริย์ไม่ต้องการหัวใจ ท่านมีหน้าที่รับใช้อาณาจักรและประชาชน ข้าไม่ใช่หนึ่งในนั้น ขาดข้าไปท่านก็แค่อยู่เหมือนเดิม”
“หากกษัตริย์ไม่ต้องการใช้ชีวิตยืนยาวอย่างไร้ความหมาย”
เว้าวอน อ้อนขอ ราวกับศักดิ์ศรีที่เคยมีได้มลายหายไปเมื่อเห็นเขานอนไร้สติอยู่ท่ามกลางหิมะ
หากคนที่ไม่มีใจ ....ทำอย่างไร เขาก็ไม่มีวันหันมา
เฉกเช่นไม้ขีดไฟที่จุดตัวเองจนตาย สุดท้ายทานตะวันก็หันมามองสิ่งที่เหลือเพียงกองเถ้าถ่าน
วังฉางไห่ไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา หากเฉียบแหลมและฉลาดล้ำ ใยจะไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการบอก
“หากต้องทนอยู่กับท่านต่อไป ข้าขอตายดีกว่า”
....เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาทรมานกับความรักที่อีกฝ่ายมอบให้เหลือเกิน....
ของมีค่า มอบให้คนที่ไม่ต้องการ ก็ไม่ต่างอะไรกับกรวดดิน
ผู้มีศักดิ์เป็นราชาดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “จงอยู่ในความฝันของเจ้าไปเถอะ เพราะข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าตาย”
“ข้าฆ่าเสียยังจะดีกว่า”
วังฉางไห่ระบายรอยยิ้ม......รอยยิ้มที่เย็นกว่าหิมะบนเทือกเขาสูง เสียงของเขากระซิบข้างหูแผ่วเบา
“ไม่หรอก.... ให้ท่านตาย มันง่ายเกินไป”
ฉึก!!!!
เพียงเสี้ยววินาทีที่เผลอมีดล่นหนึ่งก็ปักกลางอกแล้วความรู้สึกชาก็แล่นไปทั่วร่างกาย ...เขาถูกวางยา!!!
ร่างกายที่เคยกอดแนบอิงมานานหลายปีบัดนี้ค่อยๆหยัดยืนขึ้น ปล่อยให้ร่างเขาร่วงลงสู่พื้นและแหงนมองอีกฝ่ายจากเบื้องล่าง
รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าราวกับพิษร้ายของงูเห่า วังฉางไห่งดงามเหมือนดอกกุหลาบที่หากมันไม่เต็มใจยอมรับแต่ยังดื้อดึงจะครอบครองก็จะต้องหนามเจ็บไป
“ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา และลาก่อนฝ่าพระบาท”
คนอย่างท่าน..... ต้องลิ้มรสความทรมานเจียนตายทั้งที่ยังหายใจ
ต้องทรมานจนคิดว่าหากตายไปคงจะเจ็บปวดน้อยกว่า
มีดที่ทิ่มแทงกลางอกเขาเมื่อครู่บัดนี้อยู่ใกล้ลำคอระหงที่เคยฝากรอยจูบเอาไว้ ราชาส่ายหน้าปากขยับคล้ายจะตะโกนห้ามแต่กลับไม่มีสุรเสียงใดออกจากลำคอที่แห้งเป็นผง
“ลาก่อน...ตลอดกาล”
เพียงเสี้ยววินาทีที่ใบมีดกดผ่านลำคอ กลีบกุหลาบก็โปรยไปทั่วผืนหิมะขาวพิสุทธิ์
แต่งแต้มราตรีที่คนไร้รักมอบให้ภูผาที่พังทลายลง
หากเพียงใบมีดกรีดคอก็จะตายในเสี้ยววินาทีและหลับไปตลอดกาล
หากความเจ็บปวดกรีดลงกลางใจนานเท่าไรก็ไม่ลบเลือน ความทรมานนี่อยู่นาน...
ตราบสิ้นลมหายใจ
The End
----------------------------------------------------------------------------------------
Happy Ending ค่าาา เย้!! /โดนชก
เรารักคู่นี้นะ แต่ไม่ถนัดสาย SM จริงๆค่ะ(ฮาาา)
นายทาสมันก็ต้องมีโมเม้นท์ทาสไม่ได้รัก ไม่มีวันหลงรัก แล้วก็อยากหนีไปบ้างสิ โนะ <3 /อย่าปาของมาใส่หนู กี๊ซซซซซซ
ฝากว่านวังของเลาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ รักกก
267 days left!!
Shiaeri- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 135
Points : 3669
Join date : 10/11/2014
ที่อยู่ : หน้าประตูสำริด
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
วางยาคิงไม่พอ มีการเชือดคอตัวเองให้คิงดูอีก!!! นี่กะจะให้คิงว่านหนูตายทั้งเป็นไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่เลยเหรอคะท่านวัง!!! ;w;
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
โอ๊ยยยยยย แง้ ฮือออออออ ทำไมท่านวังทำแบบเน้ แง้
tear- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 168
Points : 3673
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : ใต้เตียงคุณชายฮัว
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ปวดใจ...ฮือออออ
Tang_An-An- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 225
Points : 3707
Join date : 29/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : ร่อนเร่พเนจรไปตามท้องทุ่ง
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
โอ่ย.....บรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
ทั้งเจ็บ ทั้งจุก แต่โรแมนซ์มากกกกกกกก
ชอบจังเลย ชอบมากเลยค่ะ พล๊อตโดนใจ
เราเป็นด้วงสายS 5555555
จะติดตามต่อไปค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องหนุกๆน้า >O<
ทั้งเจ็บ ทั้งจุก แต่โรแมนซ์มากกกกกกกก
ชอบจังเลย ชอบมากเลยค่ะ พล๊อตโดนใจ
เราเป็นด้วงสายS 5555555
จะติดตามต่อไปค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องหนุกๆน้า >O<
pungjungza- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 38
Points : 3546
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ดราม่าาาา ฮือออ ท่านวังโหดร้ายยยย ;w;! สงสารคิงว่าน
zerin- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 188
Points : 3681
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : เกาะอยู่หลังประตูสำริด
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ไม่นะ ท่านวังใจร้ายยยยย แง คิงว่านออกจะน่ารักมุ้งมิ้งทำไมถึงทำกันได้ลงคอ ฮรืออออ
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3954
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ว่านวังไม่smก็ดราม่านี่นะ ฮรืออออออออ
แต่สนุกมากค่ะ///ปาดน้ำตา///
แต่สนุกมากค่ะ///ปาดน้ำตา///
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3975
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ทามมาย ทำแบบนี้ /ปาดคอคนแต่งได้ไหม?
ท่านว่าน ท่านวัง ฮือออ
ท่านว่าน ท่านวัง ฮือออ
kame_kazuha- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 274
Points : 3759
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานสักที่
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ท่านวังอำมหิตนัก ไม่ SM ไม่ใช่คิงว่านวัง
คนเเต่งโหดร้าย
คนเเต่งโหดร้าย
delivery- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 15
Points : 3482
Join date : 13/11/2014
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
กรี๊ดดดดดดดดดดด ท่านวังโหดร้ายมากค่ะ!!
แงงงง สงสารท่านคิงง่าาาาาา /ด้วงรันทด
ไม่เอาตอนจบแบบเน้~~ / โดนนักเขียนปาดคอ
แงงงง สงสารท่านคิงง่าาาาาา /ด้วงรันทด
ไม่เอาตอนจบแบบเน้~~ / โดนนักเขียนปาดคอ
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
จุกค่ะจุก ฮือออออออ แงงงงงง แง๊งงงงงง
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3956
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [OS] #dmbjdaily (คิง) “ราตรีไร้รัก” [ว่านวัง]
ทำไมท่านวังสวยโหดเลือดเย็นขนาดนี้!!!! ทำร้ายคิงว่านได้เจ็บแสบมากมาย T^T
(ถ้าเราอยู่ตรงนั้นจะจับมาตีก้นเสียให้ลาย เอ๊ะ???)
(ถ้าเราอยู่ตรงนั้นจะจับมาตีก้นเสียให้ลาย เอ๊ะ???)
JaBajang- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 11
Points : 3503
Join date : 27/10/2014
Similar topics
» [OS] #dmbjdaily (ป่วย) แรกพบและบัดนี้ [ว่านวัง]
» [Drabble] #dmbjdaily 27 days left : Shampoo (ว่านวัง)
» [Drabble]#dmbjdaily 29 days left (Lock) Hope to Keep You Save (ว่านวัง, 15, เอ้อร์เหลียน)
» [Drabble] #dmbjdaily 52 days left : Kabe-don (壁ドン) [ว่านวัง,15,เอ้อร์เหลียน,พานสาม] *เพิ่ม* [เฮยฮัว/ฮัวเฮย, ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home) "I'm home" (ผิงเสีย ว่านวัง เฮยฮัว)
» [Drabble] #dmbjdaily 27 days left : Shampoo (ว่านวัง)
» [Drabble]#dmbjdaily 29 days left (Lock) Hope to Keep You Save (ว่านวัง, 15, เอ้อร์เหลียน)
» [Drabble] #dmbjdaily 52 days left : Kabe-don (壁ドン) [ว่านวัง,15,เอ้อร์เหลียน,พานสาม] *เพิ่ม* [เฮยฮัว/ฮัวเฮย, ผิงเสีย]
» [OS] #dmbjdaily the waiting is over : 带我回家 (Take me home) "I'm home" (ผิงเสีย ว่านวัง เฮยฮัว)
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth