Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
+2
yakusoku
Xiamouren
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
[SF] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
กรี๊ดดดดด ตะเตือนไตอย่างยิ่งที่เล่นเดลี่เมื่อวานไม่ทันนนนน //ตบตีตารางงาน อย่าแน่นนักเซ่ สลบก่อนปั่นเดลี่เลยเห็นมั๊ยยย T^T
ไม่เป็นไร พล็อตมาแล้ว เราเขียนนอกรอบก็ด๊ายยยยย //ร้องไห้หนักมาก
เรื่องนี้มีหลายตอนนะคะ แล้วแต่ว่าจะงอกออกมาได้กี่คู่ (ขอความกรุณาอย่าไซโคผู้เขียนค่ะ ไม่งั้นอาจจะทะลึ่งงานงอกจริงๆ (ฮา)) กี่สถานการณ์ ดังนั้นหัวเรื่องอาจจะเปลี่ยนจาก SF เป็น FIC ได้ตลอดเวลานะคะ TvT
หมายเหตุ: แพร์ริ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในตอนต่อๆ ไปนะคะ เช่นตอนนี้เป็นผิงเสีย ตอนต่อไปอาจจะชะแว๊บกลายเป็น 15 หรือเฮยฮัว หรือคู่อื่นๆ... //วิ่งหนีรองเท้าจากตัวละคร// ทุกอย่างสุดแล้วแต่พล็อตค่ะ !!!
หมายเหตุ2: อาจมีการ OOC เกิดขึ้นไม่มากก็น้อยค่ะ
หมายเหตุ3: เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ที่พิมพ์ไว้หายหมดเลยค่ะ จะหมดตอนแล้วด้วย //กรี๊ดดังๆ เราต้องมาพิมพ์ใหม่เหรอออออออ
////////////////////////////////////////
ในเมืองฉางซาแห่งนี้ มีโรงเรียนช่างกลสองแห่งตั้งประจันกันมานานแล้ว
หนึ่งอยู่ทางตะวันออก หนึ่งอยู่ทางเหนือ ซึ่งโรงเรียนทางตะวันออกมีกฏประหลาดบางอย่างที่ผู้ก่อตั้งได้บัญญัติเอาไว้เป็นกฏเหล็กถึงผู้สืบทอดของท่าน
"หากเจอพวกทางเหนือ โดยเฉพาะเจ้าพวกแซ่จาง จงรีบหนีให้ไวที่สุด"
ว่ากันว่าก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการคนล่าสุดของโรงเรียนเทคนิคมี่ลั่วถัวซึ่งก็คือท่านอาจารย์ห้าอู๋เหลาโก่วได้ขัดคำสั่งนี้โดยไม่รู้ตัว ไปนั่งคุยตีซี้กับอดีตผู้อำนวยการจางของโรงเรียนเทคนิคย่างซื่อเหลยทางเหนืออยู่นานสองนาน ผลสุดท้ายเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ในปัจุบันนี้ในเทคนิคมี่ลั่วถัวกลับมีประกาศกฎนี้แปะหราเต็มไปหมด ท่าทางว่าคงเกิดอะไรขึ้นจนท่านผอ. หรือก็คือปู่ของผมต้องเน้นย้ำถึงกฎข้อนี้ของบรรพชนก็เป็นได้
"ผมท่องจนขึ้นใจแล้วน่า..." ลูบลงไปบนใบประกาศแผ่วเบา พึมพำเมื่อนึกถึงเสียงบ่นของคุณปู่ที่ให้ผมท่องมันซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาตั้งแต่ยังเด็ก
ว่ากันว่าจางฉี่หลิง (หรือที่ใครๆ เรียกย่อๆ กันว่ากิเลนโดยเอาชื่อของเขามาเล่นคำเป็นฉายา) ทายาทของเทคนิคย่างซื่อเหลยคนปัจจุบันเป็นคนดุร้าย มีเรื่องต่อยตีที่ไหนไม่เคยเลยที่เขาจะแพ้ เป็นสุดยอดนักเลงแห่งยุคที่มีแต่คนกลัวเกรง แต่ละข่าวลือที่เกี่ยวกับตัวเขาล้วนแล้วแต่พิสดารพันลึกจนผมเองก็ชักจะกลัว... ปู่ครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ กฎประจำตระกูลน่ะผมจะรักษาอย่างดีเลย ไม่เข้าไปยุ่งกับเจ้าหมอนั่นแน่ๆ
ผมคิดเช่นนั้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากฎข้อนี้โดนผมแหกเละไปนานแล้ว...
ใช่ครับ ผมคืออู๋เสีย ทายาทรุ่นต่อไปของโรงเรียนแห่งนี้ แต่ในขณะนี้ผมก็ยังเป็นนักเรียนคนหนึ่งอยู่นั่นแหละนะ
มีใครสักคนเอาวิทยุมาเปิดดังลั่นนอกรั้วโรงเรียนอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นเสียงเปียโนหวานๆ แฮะ... ผมไม่นึกแปลกใจหรอก เพราะเจ้าหมอนี่ก็คนเดิมๆ นั่นแหละ ... สิบโมงเช้าและห้าโมงเย็นของแต่ละวัน ไอ้หมอนี่ต้องมาเปิดวิทยุต่อไมโครโฟนร้องเพลงเหมือนขอทานตาบอดเพื่อจีบเพื่อนผมทุกที
"ประธานเซี่ยครับ หมอนั่นมาอีกแล้ว !!!"
นั่น เสียงดังมาแว่วๆ จากทางอาคารเรียน มีใครสักคนเรียกเสี่ยวฮัวแล้วสินะ
รุ่นพี่นี่ก็อีกคน สองสามปีแล้วยังไม่เข็ดเสียทีสิน่า
เฮยเสียจื่อ นักเรียนปีสุดท้ายคนหนึ่งของเทคนิคย่างซื่อเหลย... ที่ไม่รู้ประสาทกลับไปแล้วหรือเปล่าไม่รู้ โดนเสี่ยวฮัวเพื่อนคนสวยของผมไล่เตะก้านคอเปิดเปิงกลับสถาบันไปไม่รู้กี่รอบก็ยังจะกลับมาแบบนี้ได้ตลอด บางวันถึงกับมาทั้งๆ ที่บนตัวยังมีเฝือก... ถ้าผมไม่ติดว่ากฎเหล็กของตระกูลคือห้ามไปยุ่งกับเจ้าพวกสถาบันนี้ ผมคงลงไปขอดื่มคารวะในความพยายามของหมอนี่สักจอก (น้ำผลไม้) แล้วล่ะนะ
ไกลๆ ได้ยินเสียงใครสักคนวิ่งมา ผมไม่เสียเวลาเดาก็รู้ว่านั่นคือเพื่อนของผมเอง ไม่มีเสียงห้ามปรามใดๆ จากรอบข้างเว้นเพียงเสียงหัวเราะคิกคักของซิ่วซิ่ว คุณหนูฮั่วเพื่อนสนิทของผมอีกคน อันที่จริงผมก็แอบหวังว่าเสี่ยวฮัวจะวิ่งมาทันเวลา----
ชิบหาย เสียงร้องเพลงอุบาทว์นั่นดังขึ้นแล้ว !!
ใครก็ได้เอาไอ้คุณรุ่นพี่เฮยนี่ไปเรียนร้องเพลงมาใหม่ที !! ถือว่าเทคนิคมี่ลั่วถัวขอร้อง !!!
...เสียแรงมาจีบนักร้องคนงามของเราจริงๆ...
เรื่องราวเช้านี้ยังคงจบที่เสี่ยวฮัวกระโดดถีบขาคู่ใส่คอนายนักศึกษาแว่นดำคนนั้นเหมือนเดิม ก่อนที่จะโทรเรียกคนรู้จักที่อยู่เทคนิคย่างซื่อเหลยมาหิ้วกลับไปด้วยประโยคเดิมๆ ว่า "ช่วยมาตะครุบเพื่อนนักเรียนโรคจิตโดดเรียนของพวกคุณกลับไปเก็บที" เสี่ยวฮัวก็ยังคงเป็นเสี่ยวฮัว มีหูตากว้างขวาง เส้นสายล้ำลึก ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ล้วนหาความสะดวกสบายได้ไม่ยาก ผู้คนถึงได้แอบเรียกเขาลับหลังว่าเป็นองค์หญิงของที่นี่
จบเรื่องของเสี่ยวฮัว กลับมาเรื่องของผมกันบ้าง
แม้ว่าจะกลับมาเรียนกันตามปกติหลังจากผ่านพ้นเรื่องกระทืบรุ่นพี่ต่างสถาบันประจำวันไปได้ แต่สายตาของผมก็ยังมองออกไปที่นอกหน้าต่าง จ้องมองไปที่รั้วของโรงเรียน ที่ที่ผมพบหมอนั่น...
สามวันแล้วที่หมอนั่นไม่ปรากฏตัว
ก่อนหน้านี้ปีหนึ่งมีข่าวนักศึกษามหาวิทยาลัยสองแห่งนัดกันมาตีกันครั้งใหญ่มากแถวๆ โรงเรียนผม แต่ไม่พ้นโดนตำรวจจับได้ทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนผมไม่ย่ำแย่ลงไปกว่านี้ ผมเดินช่วยอารองตรวจตราความเรียบร้อยของโรงเรียน ก็ได้เจอกับเจ้าหมอนั่นโดยบังเอิญ
เชื่อผมเถอะ ถ้าไอ้หมอนี่เป็นนักเรียนของเทคนิคมี่ลั่วถัวนะ... หนุ่มๆ ทุกคนต้องร้องไห้ด้วยความหมดหวังจีบหญิงเป็นแน่ (ที่จริงก็ผมด้วย)
เส้นผมสีดำที่ท่าจะไม่ได้ตัดนานไปหน่อยเลยออกจะปรกหน้าปรกตาไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้หมอนี่ดูขี้เหร่ขึ้นสักนิด ดวงตาสีดำคมกริบคู่นั้น... บุคลิกท่าทางที่ขนาดผมเป็นผู้ชายยังรู้สึกได้ว่า ‘แม่งเท่ชิบหาย’...
หมอนี่ไม่รู้เป็นดารานายแบบมาจากไหน ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่ามานอนอืดอยู่อีกฟากของรั้วโรงเรียนปู่ผม เสื้อผ้าเป็นชุดไปรเวทขาดวิ่น เลือดกับแผลเต็มตัว แต่ยังหายใจและที่สำคัญคือน่าจะยังมีสติครบถ้วน ดูจากการที่พี่แกนอนหายใจทิ้งมองผมเดินลาดตระเวนหน้าตาเฉย ไม่ส่งเสียงรบกวนกันสักคำจนผมหันกลับมาเจอพี่แกเองนั่นแหละ
"เฮ้ย!? เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" ผมอุทานด้วยความตกใจ รีบวิ่งออกนอกประตูมาดูอาการ หมอนี่อาจจะเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มาโดนลูกหลงจากการต่อยตีกัน ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ผมในฐานะมนุษย์และเจ้าถิ่นแถวนี้ก็ไม่ควรเพิกเฉย
แต่ใครจะนึกว่าไอ้หมอนั่นดันเมินใส่ผมซะงั้น ผมถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่มองผมอยู่นั่นแหละ!
เชี่ยแม่ม ! ขนาดเขียนตัวหนังสือคุยกันยังไม่ยอมเขียน หมอนี่นอกจากใบ้ยังบื้ออีกเหรอ?!
...ผมตั้งชื่อหมอนี่ว่าเมินโหยวผิงในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เลือดเต็มไปหมดเลย ไปโรงพยาบาลไหวไหม?"
"....."
"นี่นายนอนอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย?"
"....."
"แล้ว... อย่างน้อยก็ชื่อแซ่ บอกกันก่อนได้ไหม ให้แนะนำตัวก่อนก็ได้ ฉันอู๋เสีย รีบบอกมาเถอะฉันจะได้แจ้งชื่อผู้ป่วยกับทางโรงพยาบาลถูก! ไม่เอาไปตอกตุ๊กตาวูดูสาปแช่งแบบในการ์ตูนหรอกน่า!!"
"....."
"ว้อยยยยยยย พูดอะไรบ้างสิโว๊ย เขียนก็ได้ถ้าเป็นใบ้น่ะ!!"
"ไม่ใช่เรื่องของนาย..."
...ทุกท่านครับ ผมควรฟิวส์ขาดใช่ไหม?
แต่สรุปวันนั้นผมก็หิ้วเจ้าใบ้กวนประสาทนั่นไปโรงพยาบาลอยู่ดี... ตอนนั้นทุกคนที่โรงพยาบาลตกใจมาก มองผมสลับกับเมินโหยวผิงไม่หยุด คุณหมอเฉินเหวินจิ่นที่อาสามตามจีบอยู่นานสองนานเหมือนพยายามจะพูดบางอย่างแต่แล้วก็ไม่ได้พูด ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับหมอนี่หรือเปล่า
หลังการรักษาผ่านไป จากนั้นหมอนั่นก็ชอบมาเกาะรั้วที่เดิมมองเข้ามาในโรงเรียนครับ มาทุกวัน ไม่รู้ในเทคนิคมี่ลั่วถัวมีอะไรให้มองนอกจากต้นไม้ในสวนกับเจ้าซันชุ่นติงของคุณปู่ที่ชอบออกมาวิ่งเล่น เห่าบ๊อกแบ๊กไล่จับแมลงปอไปวันๆ... ที่น่าสังเกตคือหมอนี่จะปลาสนาการหายไปทันทีถ้าซันชุ่นติงจะออกมาวิ่งเล่น ไม่รู้กลัวสุนัข บังเอิญ หรือมีญาณวิเศษอะไรหรือเปล่า
บางทีมาแค่ห้านาที บางทีมาเป็นชั่วโมงๆ ... ผมลงไปนั่งคุยด้วยบ้างนะตามแต่เวลาจะอำนวย คนนึงอยู่ในรั้ว อีกคนอยู่นอกรั้ว หมอนั่นก็จะเอาแต่เงียบฟังอยู่อย่างนั้นเหมือนคนใบ้ จนผมชินกับนิสัยหมอนั่นได้แล้วนี่แหละ
เมินโหยวผิงหายไปสามวัน หวังว่าหมอนั่นจะไม่ได้ไปหาเรื่องนอนจมกองเลือดที่ไหนอีกนะ...
ไม่รู้เพราะมานั่งคุย(ฝ่ายเดียว)กันนานหรือเปล่า ทำให้ผมอดเป็นห่วงหมอนี่ไม่ได้
"เทียนเจิน? เหม่ออีกแล้วเหรอ?" มือใหญ่ข้างหนึ่งโบกผ่านสายตาผม บังทัศนียภาพและความคิดของผมจนมิด ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่านั่นก็เพื่อนสนิทอีกคนของผม นายอ้วนหวังที่เป็นจุดศูนย์รวมความฮาของชั้นเรียน มีหมอนี่อยู่ทุกคนผ่อนคลายสบายใจ... ผมเองก็ด้วย "เหม่อมองอะไรนักหนาเนี่ย คาบอังกฤษจะเริ่มแล้วนะ ยิ่งเรียนไม่รู้เรื่องอยู่ไม่ใช่เรอะ? เกรดตกขึ้นมาว่าเสี่ยอ้วนไม่ได้ ไปปรับความเข้าใจกับอารองนายเองนา..."
ครับ... อารองผมสอนภาษาอังกฤษ วิชาที่ผมห่วยแตกที่สุดวิชาหนึ่งครับ...
"อย่างกับนายเรียนรู้เรื่องตายอ่ะ !" ผมแลบลิ้นใส่นายอ้วน เราหัวเราะกันลั่นห้องแล้วผมก็โดนเขายีหัวจนยุ่งเหมือนเคย
โดยที่ในตอนนั้น... ผมไม่ได้รู้เลยว่าเรื่องราวที่ผมได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ กับเรื่องราวต่อๆ มาจะเชื่อมโยงเข้าหากัน กลายเป็นโซ่ล่ามคอกิเลนบางตนในภายหน้า...
//////////////////////////////////////////
แงงงงง เจ็บแรงงงงงง จากนี้จะไม่พิมพ์ฟิคในบอร์ดโดยตรงแล้วค่าาาาา !! //หนีบอร์ดมาพึ่ง MSWord
บทนำย้าวยาว //เบลอมองที่ตาลายพิมพ์ไปนะ... ยังบอกไม่ได้ค่ะว่าตอนต่อไปมาเมื่อไหร่ เจอกันเมื่อเราออกมาจากถังกาวแล้วกันนะคะ...
จากที่เห็น ตอนหน้าน่าจะยังเป็นผิงเสียอยู่ค่ะ !!
//กราบทุกท่านหากฟิคนี้ทำให้ท่านมึนงง ขออภัยค่าเราเมาเอง ถถถถถ
กรี๊ดดดดด ตะเตือนไตอย่างยิ่งที่เล่นเดลี่เมื่อวานไม่ทันนนนน //ตบตีตารางงาน อย่าแน่นนักเซ่ สลบก่อนปั่นเดลี่เลยเห็นมั๊ยยย T^T
ไม่เป็นไร พล็อตมาแล้ว เราเขียนนอกรอบก็ด๊ายยยยย //ร้องไห้หนักมาก
เรื่องนี้มีหลายตอนนะคะ แล้วแต่ว่าจะงอกออกมาได้กี่คู่ (ขอความกรุณาอย่าไซโคผู้เขียนค่ะ ไม่งั้นอาจจะทะลึ่งงานงอกจริงๆ (ฮา)) กี่สถานการณ์ ดังนั้นหัวเรื่องอาจจะเปลี่ยนจาก SF เป็น FIC ได้ตลอดเวลานะคะ TvT
หมายเหตุ: แพร์ริ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในตอนต่อๆ ไปนะคะ เช่นตอนนี้เป็นผิงเสีย ตอนต่อไปอาจจะชะแว๊บกลายเป็น 15 หรือเฮยฮัว หรือคู่อื่นๆ... //วิ่งหนีรองเท้าจากตัวละคร// ทุกอย่างสุดแล้วแต่พล็อตค่ะ !!!
หมายเหตุ2: อาจมีการ OOC เกิดขึ้นไม่มากก็น้อยค่ะ
หมายเหตุ3: เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ที่พิมพ์ไว้หายหมดเลยค่ะ จะหมดตอนแล้วด้วย //กรี๊ดดังๆ เราต้องมาพิมพ์ใหม่เหรอออออออ
////////////////////////////////////////
ในเมืองฉางซาแห่งนี้ มีโรงเรียนช่างกลสองแห่งตั้งประจันกันมานานแล้ว
หนึ่งอยู่ทางตะวันออก หนึ่งอยู่ทางเหนือ ซึ่งโรงเรียนทางตะวันออกมีกฏประหลาดบางอย่างที่ผู้ก่อตั้งได้บัญญัติเอาไว้เป็นกฏเหล็กถึงผู้สืบทอดของท่าน
"หากเจอพวกทางเหนือ โดยเฉพาะเจ้าพวกแซ่จาง จงรีบหนีให้ไวที่สุด"
ว่ากันว่าก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการคนล่าสุดของโรงเรียนเทคนิคมี่ลั่วถัวซึ่งก็คือท่านอาจารย์ห้าอู๋เหลาโก่วได้ขัดคำสั่งนี้โดยไม่รู้ตัว ไปนั่งคุยตีซี้กับอดีตผู้อำนวยการจางของโรงเรียนเทคนิคย่างซื่อเหลยทางเหนืออยู่นานสองนาน ผลสุดท้ายเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ในปัจุบันนี้ในเทคนิคมี่ลั่วถัวกลับมีประกาศกฎนี้แปะหราเต็มไปหมด ท่าทางว่าคงเกิดอะไรขึ้นจนท่านผอ. หรือก็คือปู่ของผมต้องเน้นย้ำถึงกฎข้อนี้ของบรรพชนก็เป็นได้
"ผมท่องจนขึ้นใจแล้วน่า..." ลูบลงไปบนใบประกาศแผ่วเบา พึมพำเมื่อนึกถึงเสียงบ่นของคุณปู่ที่ให้ผมท่องมันซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาตั้งแต่ยังเด็ก
ว่ากันว่าจางฉี่หลิง (หรือที่ใครๆ เรียกย่อๆ กันว่ากิเลนโดยเอาชื่อของเขามาเล่นคำเป็นฉายา) ทายาทของเทคนิคย่างซื่อเหลยคนปัจจุบันเป็นคนดุร้าย มีเรื่องต่อยตีที่ไหนไม่เคยเลยที่เขาจะแพ้ เป็นสุดยอดนักเลงแห่งยุคที่มีแต่คนกลัวเกรง แต่ละข่าวลือที่เกี่ยวกับตัวเขาล้วนแล้วแต่พิสดารพันลึกจนผมเองก็ชักจะกลัว... ปู่ครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ กฎประจำตระกูลน่ะผมจะรักษาอย่างดีเลย ไม่เข้าไปยุ่งกับเจ้าหมอนั่นแน่ๆ
ผมคิดเช่นนั้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากฎข้อนี้โดนผมแหกเละไปนานแล้ว...
ใช่ครับ ผมคืออู๋เสีย ทายาทรุ่นต่อไปของโรงเรียนแห่งนี้ แต่ในขณะนี้ผมก็ยังเป็นนักเรียนคนหนึ่งอยู่นั่นแหละนะ
มีใครสักคนเอาวิทยุมาเปิดดังลั่นนอกรั้วโรงเรียนอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นเสียงเปียโนหวานๆ แฮะ... ผมไม่นึกแปลกใจหรอก เพราะเจ้าหมอนี่ก็คนเดิมๆ นั่นแหละ ... สิบโมงเช้าและห้าโมงเย็นของแต่ละวัน ไอ้หมอนี่ต้องมาเปิดวิทยุต่อไมโครโฟนร้องเพลงเหมือนขอทานตาบอดเพื่อจีบเพื่อนผมทุกที
"ประธานเซี่ยครับ หมอนั่นมาอีกแล้ว !!!"
นั่น เสียงดังมาแว่วๆ จากทางอาคารเรียน มีใครสักคนเรียกเสี่ยวฮัวแล้วสินะ
รุ่นพี่นี่ก็อีกคน สองสามปีแล้วยังไม่เข็ดเสียทีสิน่า
เฮยเสียจื่อ นักเรียนปีสุดท้ายคนหนึ่งของเทคนิคย่างซื่อเหลย... ที่ไม่รู้ประสาทกลับไปแล้วหรือเปล่าไม่รู้ โดนเสี่ยวฮัวเพื่อนคนสวยของผมไล่เตะก้านคอเปิดเปิงกลับสถาบันไปไม่รู้กี่รอบก็ยังจะกลับมาแบบนี้ได้ตลอด บางวันถึงกับมาทั้งๆ ที่บนตัวยังมีเฝือก... ถ้าผมไม่ติดว่ากฎเหล็กของตระกูลคือห้ามไปยุ่งกับเจ้าพวกสถาบันนี้ ผมคงลงไปขอดื่มคารวะในความพยายามของหมอนี่สักจอก (น้ำผลไม้) แล้วล่ะนะ
ไกลๆ ได้ยินเสียงใครสักคนวิ่งมา ผมไม่เสียเวลาเดาก็รู้ว่านั่นคือเพื่อนของผมเอง ไม่มีเสียงห้ามปรามใดๆ จากรอบข้างเว้นเพียงเสียงหัวเราะคิกคักของซิ่วซิ่ว คุณหนูฮั่วเพื่อนสนิทของผมอีกคน อันที่จริงผมก็แอบหวังว่าเสี่ยวฮัวจะวิ่งมาทันเวลา----
ชิบหาย เสียงร้องเพลงอุบาทว์นั่นดังขึ้นแล้ว !!
ใครก็ได้เอาไอ้คุณรุ่นพี่เฮยนี่ไปเรียนร้องเพลงมาใหม่ที !! ถือว่าเทคนิคมี่ลั่วถัวขอร้อง !!!
...เสียแรงมาจีบนักร้องคนงามของเราจริงๆ...
เรื่องราวเช้านี้ยังคงจบที่เสี่ยวฮัวกระโดดถีบขาคู่ใส่คอนายนักศึกษาแว่นดำคนนั้นเหมือนเดิม ก่อนที่จะโทรเรียกคนรู้จักที่อยู่เทคนิคย่างซื่อเหลยมาหิ้วกลับไปด้วยประโยคเดิมๆ ว่า "ช่วยมาตะครุบเพื่อนนักเรียนโรคจิตโดดเรียนของพวกคุณกลับไปเก็บที" เสี่ยวฮัวก็ยังคงเป็นเสี่ยวฮัว มีหูตากว้างขวาง เส้นสายล้ำลึก ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ล้วนหาความสะดวกสบายได้ไม่ยาก ผู้คนถึงได้แอบเรียกเขาลับหลังว่าเป็นองค์หญิงของที่นี่
จบเรื่องของเสี่ยวฮัว กลับมาเรื่องของผมกันบ้าง
แม้ว่าจะกลับมาเรียนกันตามปกติหลังจากผ่านพ้นเรื่องกระทืบรุ่นพี่ต่างสถาบันประจำวันไปได้ แต่สายตาของผมก็ยังมองออกไปที่นอกหน้าต่าง จ้องมองไปที่รั้วของโรงเรียน ที่ที่ผมพบหมอนั่น...
สามวันแล้วที่หมอนั่นไม่ปรากฏตัว
ก่อนหน้านี้ปีหนึ่งมีข่าวนักศึกษามหาวิทยาลัยสองแห่งนัดกันมาตีกันครั้งใหญ่มากแถวๆ โรงเรียนผม แต่ไม่พ้นโดนตำรวจจับได้ทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนผมไม่ย่ำแย่ลงไปกว่านี้ ผมเดินช่วยอารองตรวจตราความเรียบร้อยของโรงเรียน ก็ได้เจอกับเจ้าหมอนั่นโดยบังเอิญ
เชื่อผมเถอะ ถ้าไอ้หมอนี่เป็นนักเรียนของเทคนิคมี่ลั่วถัวนะ... หนุ่มๆ ทุกคนต้องร้องไห้ด้วยความหมดหวังจีบหญิงเป็นแน่ (ที่จริงก็ผมด้วย)
เส้นผมสีดำที่ท่าจะไม่ได้ตัดนานไปหน่อยเลยออกจะปรกหน้าปรกตาไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้หมอนี่ดูขี้เหร่ขึ้นสักนิด ดวงตาสีดำคมกริบคู่นั้น... บุคลิกท่าทางที่ขนาดผมเป็นผู้ชายยังรู้สึกได้ว่า ‘แม่งเท่ชิบหาย’...
หมอนี่ไม่รู้เป็นดารานายแบบมาจากไหน ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่ามานอนอืดอยู่อีกฟากของรั้วโรงเรียนปู่ผม เสื้อผ้าเป็นชุดไปรเวทขาดวิ่น เลือดกับแผลเต็มตัว แต่ยังหายใจและที่สำคัญคือน่าจะยังมีสติครบถ้วน ดูจากการที่พี่แกนอนหายใจทิ้งมองผมเดินลาดตระเวนหน้าตาเฉย ไม่ส่งเสียงรบกวนกันสักคำจนผมหันกลับมาเจอพี่แกเองนั่นแหละ
"เฮ้ย!? เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" ผมอุทานด้วยความตกใจ รีบวิ่งออกนอกประตูมาดูอาการ หมอนี่อาจจะเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มาโดนลูกหลงจากการต่อยตีกัน ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ผมในฐานะมนุษย์และเจ้าถิ่นแถวนี้ก็ไม่ควรเพิกเฉย
แต่ใครจะนึกว่าไอ้หมอนั่นดันเมินใส่ผมซะงั้น ผมถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่มองผมอยู่นั่นแหละ!
เชี่ยแม่ม ! ขนาดเขียนตัวหนังสือคุยกันยังไม่ยอมเขียน หมอนี่นอกจากใบ้ยังบื้ออีกเหรอ?!
...ผมตั้งชื่อหมอนี่ว่าเมินโหยวผิงในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เลือดเต็มไปหมดเลย ไปโรงพยาบาลไหวไหม?"
"....."
"นี่นายนอนอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย?"
"....."
"แล้ว... อย่างน้อยก็ชื่อแซ่ บอกกันก่อนได้ไหม ให้แนะนำตัวก่อนก็ได้ ฉันอู๋เสีย รีบบอกมาเถอะฉันจะได้แจ้งชื่อผู้ป่วยกับทางโรงพยาบาลถูก! ไม่เอาไปตอกตุ๊กตาวูดูสาปแช่งแบบในการ์ตูนหรอกน่า!!"
"....."
"ว้อยยยยยยย พูดอะไรบ้างสิโว๊ย เขียนก็ได้ถ้าเป็นใบ้น่ะ!!"
"ไม่ใช่เรื่องของนาย..."
...ทุกท่านครับ ผมควรฟิวส์ขาดใช่ไหม?
แต่สรุปวันนั้นผมก็หิ้วเจ้าใบ้กวนประสาทนั่นไปโรงพยาบาลอยู่ดี... ตอนนั้นทุกคนที่โรงพยาบาลตกใจมาก มองผมสลับกับเมินโหยวผิงไม่หยุด คุณหมอเฉินเหวินจิ่นที่อาสามตามจีบอยู่นานสองนานเหมือนพยายามจะพูดบางอย่างแต่แล้วก็ไม่ได้พูด ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับหมอนี่หรือเปล่า
หลังการรักษาผ่านไป จากนั้นหมอนั่นก็ชอบมาเกาะรั้วที่เดิมมองเข้ามาในโรงเรียนครับ มาทุกวัน ไม่รู้ในเทคนิคมี่ลั่วถัวมีอะไรให้มองนอกจากต้นไม้ในสวนกับเจ้าซันชุ่นติงของคุณปู่ที่ชอบออกมาวิ่งเล่น เห่าบ๊อกแบ๊กไล่จับแมลงปอไปวันๆ... ที่น่าสังเกตคือหมอนี่จะปลาสนาการหายไปทันทีถ้าซันชุ่นติงจะออกมาวิ่งเล่น ไม่รู้กลัวสุนัข บังเอิญ หรือมีญาณวิเศษอะไรหรือเปล่า
บางทีมาแค่ห้านาที บางทีมาเป็นชั่วโมงๆ ... ผมลงไปนั่งคุยด้วยบ้างนะตามแต่เวลาจะอำนวย คนนึงอยู่ในรั้ว อีกคนอยู่นอกรั้ว หมอนั่นก็จะเอาแต่เงียบฟังอยู่อย่างนั้นเหมือนคนใบ้ จนผมชินกับนิสัยหมอนั่นได้แล้วนี่แหละ
เมินโหยวผิงหายไปสามวัน หวังว่าหมอนั่นจะไม่ได้ไปหาเรื่องนอนจมกองเลือดที่ไหนอีกนะ...
ไม่รู้เพราะมานั่งคุย(ฝ่ายเดียว)กันนานหรือเปล่า ทำให้ผมอดเป็นห่วงหมอนี่ไม่ได้
"เทียนเจิน? เหม่ออีกแล้วเหรอ?" มือใหญ่ข้างหนึ่งโบกผ่านสายตาผม บังทัศนียภาพและความคิดของผมจนมิด ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่านั่นก็เพื่อนสนิทอีกคนของผม นายอ้วนหวังที่เป็นจุดศูนย์รวมความฮาของชั้นเรียน มีหมอนี่อยู่ทุกคนผ่อนคลายสบายใจ... ผมเองก็ด้วย "เหม่อมองอะไรนักหนาเนี่ย คาบอังกฤษจะเริ่มแล้วนะ ยิ่งเรียนไม่รู้เรื่องอยู่ไม่ใช่เรอะ? เกรดตกขึ้นมาว่าเสี่ยอ้วนไม่ได้ ไปปรับความเข้าใจกับอารองนายเองนา..."
ครับ... อารองผมสอนภาษาอังกฤษ วิชาที่ผมห่วยแตกที่สุดวิชาหนึ่งครับ...
"อย่างกับนายเรียนรู้เรื่องตายอ่ะ !" ผมแลบลิ้นใส่นายอ้วน เราหัวเราะกันลั่นห้องแล้วผมก็โดนเขายีหัวจนยุ่งเหมือนเคย
โดยที่ในตอนนั้น... ผมไม่ได้รู้เลยว่าเรื่องราวที่ผมได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ กับเรื่องราวต่อๆ มาจะเชื่อมโยงเข้าหากัน กลายเป็นโซ่ล่ามคอกิเลนบางตนในภายหน้า...
//////////////////////////////////////////
แงงงงง เจ็บแรงงงงงง จากนี้จะไม่พิมพ์ฟิคในบอร์ดโดยตรงแล้วค่าาาาา !! //หนีบอร์ดมาพึ่ง MSWord
บทนำย้าวยาว //เบลอมองที่ตาลายพิมพ์ไปนะ... ยังบอกไม่ได้ค่ะว่าตอนต่อไปมาเมื่อไหร่ เจอกันเมื่อเราออกมาจากถังกาวแล้วกันนะคะ...
จากที่เห็น ตอนหน้าน่าจะยังเป็นผิงเสียอยู่ค่ะ !!
//กราบทุกท่านหากฟิคนี้ทำให้ท่านมึนงง ขออภัยค่าเราเมาเอง ถถถถถ
แก้ไขล่าสุดโดย Xiamouren เมื่อ Sat 04 Jul 2015, 17:17, ทั้งหมด 4 ครั้ง (Reason for editing : แก้จั่วหัวเป็น AU FIC จากแต่เดิมเป็น Short Fic)
Xiamouren- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 30
Points : 3443
Join date : 28/01/2015
Age : 30
ที่อยู่ : แถวๆ ประตูสำริด ตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
Re: [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
กรี๊ดดด กิเลนจางโดนนายน้อยมัดหัวใจไว้แล้วค่าา นายน้อยก็เทียนเจินเหมือนเดิม ติดตามต่อนะคะ
yakusoku- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 369
Points : 3846
Join date : 05/11/2014
ที่อยู่ : โลงในสุสานโบราณ
Re: [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! ถ้าไม่ต่อจะโยนด้วงศพสายพันธุ์สติชใส่แล้วนะคะ!!!!!!!!!!!
Re: [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
schneewittchen พิมพ์ว่า:อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! ถ้าไม่ต่อจะโยนด้วงศพสายพันธุ์สติชใส่แล้วนะคะ!!!!!!!!!!!
กรี๊ดดด เม้นนี้น่ากลัวมากจนต้องตอบ ต่ออ่ะต่อแน่ค่า แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะตอนไหน พลังกาวแรงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละค่า แงงงง
yakusoku พิมพ์ว่า:กรี๊ดดด กิเลนจางโดนนายน้อยมัดหัวใจไว้แล้วค่าา นายน้อยก็เทียนเจินเหมือนเดิม ติดตามต่อนะคะ
ขอบคุณค่าาาา เจอกันอีกครั้งเมื่อตารางงานบางลงค่า ฮืออออ //มองงานแรงมาก
Xiamouren- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 30
Points : 3443
Join date : 28/01/2015
Age : 30
ที่อยู่ : แถวๆ ประตูสำริด ตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
Re: [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
เทียนเจินเด็กเทคนิค...ขอแทะหน่อย...//โดนตบ
เด็กเทคนิคมุ้งมิ้งมาก อยากคารวะด้วยจอกน้ำผลไม้ งืออออ น่ารัก
อะไรคือกฏหนีคนสกุลจางคะ ...เรื่องนี้ปู่อู๋ต้องมาให้คำตอบ โดนปู่จางทำอะไรไว้เหรอคะ //แค่ก
ลองพิมพ์ไว้ในเอกสาร Google Docs ก่อนเอามาลงบอร์ดสิคะ ตัว Google Docs มันจะเซฟอัตโนมัติให้เราตลอด สะดวกมากเลยค่ะ
เด็กเทคนิคมุ้งมิ้งมาก อยากคารวะด้วยจอกน้ำผลไม้ งืออออ น่ารัก
อะไรคือกฏหนีคนสกุลจางคะ ...เรื่องนี้ปู่อู๋ต้องมาให้คำตอบ โดนปู่จางทำอะไรไว้เหรอคะ //แค่ก
ลองพิมพ์ไว้ในเอกสาร Google Docs ก่อนเอามาลงบอร์ดสิคะ ตัว Google Docs มันจะเซฟอัตโนมัติให้เราตลอด สะดวกมากเลยค่ะ
The_Dark_Lady- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 301
Points : 3650
Join date : 21/06/2015
Age : 29
ที่อยู่ : On the Land, Below the sky
Re: [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
อยากบอกท่านประธานเซี่ยว่า "ฆ่ามันเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระต่อลูกหลาน"
โอย...แว่นเพี้ยน เฮียแดรกอะไรเข้าไปถึงได้ร้องเสียงหลงขนาดน้าน 5555555555
โถๆ เทคนิดมี่ลั่วถัว = =" อีกโรงน่าจะชื่อ วิทยาลัยบ๊ะจ่างนะ
ผมนี่จะลั่นให้ = ="
โอย...แว่นเพี้ยน เฮียแดรกอะไรเข้าไปถึงได้ร้องเสียงหลงขนาดน้าน 5555555555
โถๆ เทคนิดมี่ลั่วถัว = =" อีกโรงน่าจะชื่อ วิทยาลัยบ๊ะจ่างนะ
ผมนี่จะลั่นให้ = ="
natsume- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 97
Points : 3536
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน
Re: [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Prologue
ถถถถถถ
มาต่อไวๆครับ ขอให้วันเมากาวรอบหน้ามาถึงในไม่ช้า ฮ่าๆ
ปู่อู๋โดนปู่จางทำอะไรเหรอครับ ต่อมเผือกนี่คันยุบยิบเลย //ค่อกๆๆ
มาต่อไวๆครับ ขอให้วันเมากาวรอบหน้ามาถึงในไม่ช้า ฮ่าๆ
ปู่อู๋โดนปู่จางทำอะไรเหรอครับ ต่อมเผือกนี่คันยุบยิบเลย //ค่อกๆๆ
Rozenkreuz- ด้วงอาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่
- จำนวนข้อความ : 625
Points : 3864
Join date : 01/07/2015
Age : 31
ที่อยู่ : กองทัพผีเก็บเห็ดแห่งประตูสำริด
Similar topics
» [ AU Fic ] one first step : begin+prologue (ผิงเสีย)
» [Fic] Lost Child [ผิงเสีย] Prologue
» [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Chapter1 (#dmbjdaily 54 Days Left)
» [Drabble] #dmbjdaily 55 days left (Tame) How to treat...[ด้วงเสีย] [ผิงเสีย]
» [OS] Sky [ผิงเสีย]
» [Fic] Lost Child [ผิงเสีย] Prologue
» [AU FIC] Tame Me : สยบให้ได้ถ้านายแน่จริง (ผิงเสีย) Chapter1 (#dmbjdaily 54 Days Left)
» [Drabble] #dmbjdaily 55 days left (Tame) How to treat...[ด้วงเสีย] [ผิงเสีย]
» [OS] Sky [ผิงเสีย]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth