Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[To my Secret] usahanyan
2 posters
หน้า 1 จาก 1
[To my Secret] usahanyan
สวัสดีค่ะคุณซีเคร็ต ขอแปะรีเควสนะคะXD
1. หวังเหมิงวางมาดเฝ้าร้านเวลาอู๋เสียไม่อยู่
2. ท่านย่าฮั่วราชินีๆกับอู๋เหลาโก่ว (อยากเห็นย่าฮั่วส้นเข็ม---- 55555)
3. สามเหลี่ยมเหล็กแลกชุดกันใส่
4. คิงว่านหนูแกล้งวังฉางไห่ เช่น พังโมเดลของวังฉางไห่ไรงี้ก็ได้ค่ะ 55
5. เพอร์ซี่ แจ๊คสัน เอ้ย นายน้อยสาม กับ เซี่ยจื่อหยางที่หายไป /ตลก ดราม่า แซะ ล้อ ได้หมดค่ะ
ภาพ ฟิค คลิป MAD หรืออื่นๆแบบไหนก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะค้า<3
1. หวังเหมิงวางมาดเฝ้าร้านเวลาอู๋เสียไม่อยู่
2. ท่านย่าฮั่วราชินีๆกับอู๋เหลาโก่ว (อยากเห็นย่าฮั่วส้นเข็ม---- 55555)
3. สามเหลี่ยมเหล็กแลกชุดกันใส่
4. คิงว่านหนูแกล้งวังฉางไห่ เช่น พังโมเดลของวังฉางไห่ไรงี้ก็ได้ค่ะ 55
5. เพอร์ซี่ แจ๊คสัน เอ้ย นายน้อยสาม กับ เซี่ยจื่อหยางที่หายไป /ตลก ดราม่า แซะ ล้อ ได้หมดค่ะ
ภาพ ฟิค คลิป MAD หรืออื่นๆแบบไหนก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะค้า<3
usahanyan- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 4
Points : 3476
Join date : 27/10/2014
Re: [To my Secret] usahanyan
[OS] 'I'm not your princess' (57 :: อู๋เหลาโก่ว x ฮั่วเซียนกู)
"เจ้า...เจ้านั่นแหละ!"
เด็กสาวสะดุ้งเฮือก ใช้ปลายผ้าซับน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะก้มลงลงมองเจ้าของเสียงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
"อย่าร้องไห้นะ!! ข้าจะขึ้นไปช่วยเอง!" เด็กหนุ่มหน้าตามอมแมมตะโกนโวยวายมาจากด้านล่าง
"...ไม่ต้อง!!! อย่ามายุ่งกับข้า!!" คนบนต้นไม้สะบัดหน้าหนี
"เจ้าไม่ต้องกลัวหรอกนะ" ฝ่ายที่อยู่ข้างล่างกับไม่สนใจซ้ำยังหันไปคุยกับเจ้าหมาน้อยข้างๆ "รออยู่นี่นะ เดี๋ยวข้ามา"
เด็กหนุ่มคนนั้นเริ่มปีนต้นไม้ใหญ่ขึ้นมาช้าๆ ทำเอาคนที่อยู่บนกิ่งสูงรู้สึกอึดอัดไม่พอใจ...เขาคงคิดว่านางติดอยู่บนต้นไม้...แต่สตรีสกุลฮั่วมีหรือจะติดอยู่ที่ใด วิชาตัวอ่อนที่สืบทอดกันมายาวนานไม่มีที่แห่งใดที่พวกนางเข้าไม่ได้และหนีออกไม่ได้
เมื่อฝ่ายที่ตั้งใจจะมาช่วยเอื้อมมือถึงกิ่งที่อยู่ถัดลงไปเด็กสาวจึงทิ้งตัวหงายลงจากตรงที่นั่งอยู่จนเด็กหนุ่มที่มองอยู่ร้องลั่น ร่างกายบอบบางบิดตัวเกี่ยวแขนขาอย่างคล่องแคล่วหลบหลีกกิ่งไม้แล้วพาตัวเองลงมาถึงพื้นได้อย่างงดงามไร้รอยขีดข่วน
"เจ้าลงเองได้นี่" เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง
"ข้าไม่ได้พูดสักคำว่าติดอยู่บนนั้น" ตวัดเสียงตอบ
ฟังดังนั้นคนที่ติดอยู่บนต้นไม้แทนจึงหัวเราะลั่น เด็กสาวสกุลฮั่วเลิกคิ้ว...คิดว่าตนจะต้องถูกโกรธเคืองเป็นแน่ แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มขำแล้วค่อยๆ ไต่ลงมาอย่างทุลักทุเลเป็นที่สุด
เมื่อถึงตรงกิ่งที่สูงราวสองเมตรกว่าๆ เด็กหนุ่มจึงเหวี่ยงตัวกับกิ่งใหญ่เพื่อจะกระโดดลงมา แต่แล้วกิ่งเจ้ากรรมก็ดันหักเป๊าะจนร่างนั้นร่วงลงมากองแทบเท้าคนที่มองอยู่
เจ้าลูกสุนัขตัวจ้อยรีบพุ่งเข้ามาเลียหน้าเลียตาเจ้านายเป็นการใหญ่ แต่คนเจ็บกลับไม่สลดสักนิด บ่นโอดโอยเล็กน้อยแล้วก็หัวเราะให้ตัวเอง
"...ปีนต้นไม้แค่นี้ยังตก เจ้าไม่ควรขึ้นไปช่วยใครหากยังเอาตัวเองไม่รอด" เด็กสาวตำหนิคนที่พยายามขึ้นไปช่วยตนเอง
"ข้าก็ว่างั้น" แต่คนฟังก็ไม่ไปถือสาแถมยังอดเห็นด้วยไปไม่ได้ "ขออภัยอย่างยิ่ง...ข้าเผลอตัวดูถูกวิชาของท่านไป"
"แล้วเจ้าลุกไหวหรือเปล่า ข้าไม่ช่วยหรอกนะ"
"ท่านไม่ต้องช่วยข้าหรอก แค่องค์หญิงยิ้มงามๆ ให้สักทีข้าก็มีแรงแล้ว"
"ใครกัน...องค์หญิง"
"ก็ท่านไง..." เด็กหนุ่มปัดฝุ่นตามเนื้อตัวลุกขึ้นนั่ง "แต่งตัวเหมือนพวกคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ท่านงามกว่าพวกคุณหนูเหล่านั้นสักสิบส่วนเห็นจะได้...ดังนั้นท่านต้องเป็นองค์หญิงแน่ๆ"
คำพูดแซวกระเซ้าทำเอาอยากจะบอกให้รู้ว่าตนเป็นใคร แต่แม้เด็กสาวจะคิดว่าตนมีฝีมือดีกว่าอีกฝ่ายมากนักก็ไม่ควรประมาทเปิดเผยตัวตนในยามที่แผ่นดินไร้ซึ่งความร่มเย็น
"ขอเถอะองค์หญิง ยิ้มให้สักนิดแล้วข้าจะลุกยืนไหว"
"ทำไมข้าต้องยิ้มให้เจ้า"
"เพราะเมื่อกี้ท่านร้องไห้ การเห็นสาวงามร้องไห้มันทำให้ข้าเจ็บปวดมาก ดังนั้นท่านต้องรับผิดชอบโดยการยิ้มงามๆ ให้ข้าเพื่อเยียวยาจิตใจ"
"ประสาท"
"นั่นไง...ท่านยิ้มจริงๆ ด้วย"
คนหน้าตามอมแมมที่ยิ่งดูไม่ได้ไปกันใหญ่ลุกขึ้นมาโค้งตัวให้เด็กสาว ก่อนจะหันซ้ายหันขวาแล้วเอื้อมไปเด็ดดอกไม้ข้างตัวมายื่นให้
เด็กสาวเผลอตัวรับเจ้าดอกไม้ช่อเล็กมาถือไว้ ดอกไม้สีขาวมีกลีบโค้งมนดูน่ารัก ซ้ำกลิ่นยังหอมหวานคล้ายขนมอบใหม่
"แทนคำขอบคุณ" คนที่เพิ่งบอกว่าต้องยิ้มเป็นการรับผิดชอบพลิกคำทันใด "องค์หญิงผิวขาวสวยราวกับกลีบดอกกุ้ยฮวา คุณค่าของตัวท่านก็เหมือนดั่งกลิ่นหอมกำจายไปหมื่นลี้เช่นกัน...อย่าร้องไห้อีกเลยนะ"
คุณหนูใหญ่ของสกุลฮั่วมองหน้าคนถือดีอย่างที่สุด เด็กหนุ่มตรงหน้ายิ้มอ่อนโยนแบบที่นางไม่เคยได้รับ คนที่ดูไม่ได้เรื่องทั้งหน้าตาและฝีมือโบกมือลาก่อนจะเดินไปพร้อมเจ้าลูกหมาตัวจ้อย
ฮั่วเซียนกูยืนมองแผ่นหลังนั้นจนลับตา ปลายนิ้วลูบไล้กลีบดอกอย่างเหม่อลอย...เด็กสาวลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้ตนร้องไห้ด้วยเหตุอันใด
++++++
"โก่วหวังโก๋วอู่เย๋?"
"ค่ะท่าน" หญิงรับใช้คนสนิท "ลูกชายคนที่สามของผู้นำสกุลอู๋คนก่อน ท่านคงไม่เคยเห็น เป็นคนหนุ่มอายุประมาณท่าน...อัธยาศัยดี จริงใจ"
"ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็น" คุณหนูใหญ่สกุลฮั่วถามกลับ
"เพราะเถ้าแก่หมาห้าคนนี้รักหมายิ่งกว่าคน สนทนากับหมามากกว่าคน งานต่างๆ ที่หมาเข้าไม่ได้เขาย่อมไม่ไป"
ฮั่วเซียนกูรับคำในลำคอก่อนจะก้าวลงจากรถเข้าไปในโรงน้ำชา วันนี้มีการนัดพบกันระหว่างสกุลล่างทั้งสามที่นางมาแทนมารดา แต่เซี่ยจิ่วเย๋ผู้เป็นตัวแทนของบิดาซึ่งชรามากแล้วได้ส่งคนมาแจ้งก่อนว่าจะพาสหายสกุลอู๋มาร่วม...ในฐานะคุณหนูใหญ่แต่ฮั่วเซียนกูไม่ได้รู้จักเจ้าบ้านสกุลบนและระนาบเท่าไรจึงไม่ค่อยพอใจนักที่จะมีคนนอกเข้ามา แต่เมื่อเจ้าบ้านสกุลเซี่ยคิดอ่านประการใดก็ย่อมพิจารณามาอย่างดีแล้ว
หญิงสาวเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ที่นั่นฉีเถียจุ่ยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้านิ่งสงบเผยยิ้มให้เล็กน้อยแล้วผายมือเชื้อเชิญให้นั่ง แต่ก่อนที่ริมฝีปากงามจะเอ่ยถาม มือนั้นก็ถูกยกขึ้นเป็นท่าประจำตัว
"มาแล้ว"
เซี่ยจิ่วเย๋เดินนำมาก่อนด้วยท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์ ฮั่วเซียนกูนึกแปลกใจไม่น้อยที่ว่าที่เจ้าบ้านสกุลเก้าผู้มีชีวิตตรงตามระเบียบแบบแผนไม่ได้มาก่อนเวลาเหมือนทุกครั้ง
"ขออภัย...พอดีมีข้อติดขัดบางประก..."
"เสี่ยวจิ่วจิ่ว มันก็ไม่ได้สายเสียหน่อย จะอารมณ์เสียทำไมหนักหนา"
น้ำเสียงรื่นเริงดังขัดขึ้นมาอย่างอาจหาญ พร้อมกับการปรากฎตัวของชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาที่มีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้า
คนธรรมดาที่ทำให้ฮั่วเซียนกูหัวใจกระตุก
"เหล่าปา เซียนกู...นี่อู๋เหลาโก่วหรือเถ้าแก่หมาห้าที่เขาเรียกกัน" เซี่ยจิ่วเย๋เมินผ่านเพื่อนตัวเองอย่างใจร้าย
"เสี่ยวจิ่วจิ่วอย่าใจร้ายกันนักเลย" ทำเสียงสลดแต่ไม่รู้สึกผิด คนอารมณ์ดีหันมายิ้มกว้างให้ "เสี่ยวจิ่วจิ่วบอกว่ามีเรื่องจะให้ช่วยข้า แต่เมื่อเช้าหมาข้าป่วยไม่ยอมกินข้าวจึงออกมาช้าไปหน่อย ไม่ทันก่อนเวลาตามแบบฉบับสกุลเซี่ย"
ฉีเถียจุ่ยเพียงอมยิ้มอย่างไม่ถือสาอะไร เซี่ยจิ่วเย๋เลยได้แต่ส่ายศีรษะอย่างระอาใจแล้วดึงให้เพื่อนนั่งลง
"เหล่าปาเราเคยเจอกันแล้ว แต่ท่านหญิงผู้นี้คงไม่...ท่านคงไม่ถือสากับกิริยามารยาทของคนใช้แรงงานเยี่ยงข้าหรอกนะ"
"อู่เย๋ฝึกหมาในการลงดิน งานนี้เราต้องให้หมาของหมอนี่มาช่วยในขั้นแรก"
เจ้าบ้านสกุลเซี่ยตัดบทของคนอัธยาศัยดีเพื่อเข้าเรื่องงานการไม่ให้เสียเวลา
แต่นั่นทำให้ฮั่วเซียนกูรู้สึกว่าตนคงเป็นเจ้าบ้านที่ดีไม่ได้...เพราะขณะนี้นางมีสมาธิเพียงครึ่งเดียว ซึ่งคนที่เหลือก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติชัดเจน จนเมื่อฉีเถียจุ่ยเห็นว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะคุยต่อแล้วจึงบอกว่าว่าตนมีธุระขอให้หยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน
ความว้าวุ่นใจผสมปนเปกับความรู้สึกผิดอย่างยิ่ง หญิงสาวที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกจึงร้องถามไปในตอนที่ทุกคนจะแยกย้าย
"...ท่านยังจำกลิ่นของกุ้ยฮวาสีขาวได้หรือไม่"
ใบหน้าของคนอารมณ์ดียิ้มให้ แต่ก่อนที่จะได้ตอบอะไรเซี่ยจิ่วเย๋ก็แทรกขึ้นมา
"อู่เย๋สูญเสียการได้กลิ่นมานานมากแล้ว...ข้าคิดว่านั่นเป็นคำถามที่ไม่สุภาพเท่าไรนักสำหรับหมอนี่นะเซียนกู"
ฮั่วเซียนกูไม่ได้แม้แต่จะกล่าวขอโทษออกไป
ความรู้สึกเสียใจตีผสมปนเปกับความยินดีจนแยกกันได้ยาก คนธรรมดาที่ดูไม่ได้เรื่องนั้นคือคนที่ใกล้ตัวถึงเพียงนี้
หลังจากครั้งนั้น...องค์หญิงก็แอบหนีออกมารอเด็กหนุ่มที่เดิมอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบอีก...ความมุ่งมั่นทั้งสิ้นจึงถูกทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ฝึกฝน
เพื่อกลิ่นหอมของกุ้ยฮวาซึ่งจะกำจายไปไกลดังคำกล่าวนั้น...
หญิงสาวกลั้นน้ำตาแล้วปล่อยให้มันไหลลงกลับไปในหัวใจ
เพื่อกลิ่นหอมซึ่งคนคนนั้นไม่ได้รับรู้อีกต่อไป...
++++++
"เจ้ามันผู้หญิงนิสัยเสีย!"
ชายหนุ่มผู้สุภาพกับสตรีทั่วแผ่นดินโวยวายใส่สาวงามแห่งฉางซาอย่างเหลืออด
"ทำไม? แล้วเจ้าจะทำอะไรข้าได้?" ฮั่วเซียนกูเป่าควันบุหรี่ใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างจงใจ
"เซียนกู!!! ใครได้เป็นภรรยาคงปวดหัวตายชัก" อู๋เหลาโก่วบ่น
"ใครได้เจ้าเป็นสามีก็คงสนุกแย่...เจ้ามันน่าแกล้งชะมัด"
"นี่เป็นสาวเป็นนางใครเขาพูดจาแบบนี้กัน...เซี่ยจิ่ว!! เจ้าหัวเราะทำไม!!?"
เซี่ยจิ่วเย๋ที่นั่งฟังอยู่หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักเพยิดเป็นเชิงว่าเห็นด้วยกับเจ้าบ้านสกุลฮั่วอย่างยิ่ง พวกเขาเป็นผู้นำสกุลที่อายุยังน้อย จึงสนิทกันง่ายกว่าพวกบรรดาสกุลบนและสกุลระนาบคนอื่นๆ หลังจากร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่น้อยจึงไม่แปลกที่จะเล่นหัวกันได้ขนาดนี้
ฮั่วเซียนกูผู้วางตัวเสมือนเทพธิดาผู้สูงศักดิ์ในสายตาคนนอก เมื่ออยู่กันแค่คนสนิทหญิงสาวคนงามก็กลายร่างเป็นคนขี้แกล้งพุ่งเข้าไปเย้าแหย่คนนั้นคนนี้เล่นโดยเฉพาะเถ้าแก่หมาห้า
"เจ้าเองก็ชอบ...อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลย"
หญิงสาวในชุดกี่เพ้าพอดีทรวดทรงกระโดดเกาะหลังเจ้าบ้านสกุลห้าพร้อมกับเป่าลมเบาๆ ที่ข้างแก้มให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก
ชายหนุ่มโวยลั่นทำให้คนแกล้งยิ่งแนบสัดส่วมนุ่มนิ่มไปกับแผ่นหลัง แล้วยังเอาปลายนิ้วเข้าไปไล้ใบหน้าลำคออย่างนึกสนุก
"อย่าทำตัวเหมือนพวกแม่เล้าจะได้ไหม!!"
ฮั่วเซียนกูและคนอื่นๆ หัวเราะลั่นให้กับใบหน้าสีขึ้นสีจนแดงเถือกไปถึงใบหู อู๋เหลาโก่วทำท่ากระฟัดกระเฟียดแล้วดึงเจ้าหมาน้อยซันชุ่นติงในแขนเสื้อออกมาขู่ทุกคนด้วยใบหน้าน่ารักสุดใจ
หญิงสาวผละออกมาเมื่อแกล้งจนพอใจ ก่อนจะเดินทิ้งสะโพกกลับมานั่งเชิดหน้าเป็นเทพธิดาฮั่วคนงามที่มีรอยยิ้มเล็กๆ ประดับบนใบหน้าขาวสวย
แม้ในยามสงคราม...รอยยิ้มก็ยังเป็นเรื่องจำเป็น
แม้ในยามที่ไม่มีใครช่วยใคร...สหายก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ
เส้นทางของผู้นำสกุลทั้งเก้าคือปมเชือกที่ทอประสานกันอยู่บนทั้งมิตรภาพและผลประโยชน์ ความรักและการแย่งชิง
ยิ่งใกล้ชิดเท่าไร...ยิ่งห่างไกลสุดไขว้คว้า
ฮั่วเซียนกูรู้เสมอว่าตนคือเจ้าบ้านสกุลฮั่ว ต่อให้แต่งเข้าบ้านไหนก็ย่อมต้องเป็นสกุลฮั่ว และอู๋เหลาโก่วคือทายาทสายตรงคนสุดท้ายของสกุลอู๋...ไม่ว่าจะแต่งเข้าบ้านไหนก็ย่อมต้องใช้สกุลอู๋
ฮั่วเซียนกูคือราชินีที่ไม่มีทางเป็นองค์หญิงของใคร...ปลายทางที่ไร้ทางบรรจบคือสิ่งที่ทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจ
แต่รอยยิ้มและความสุขในวันนี้คือสิ่งที่หญิงสาวยอมแลกมาด้วยความเจ็บปวดในอนาคต
...ไม่ต่างจากกลิ่นดอกกุ้ยฮวาสีขาวซึ่งยังคงหอมหวนในความทรงจำ
::talk::
//กราบคุณusahanyan
ไม่รู้ว่ามันได้ตรงรีเควสมั๊ย...ส้นเข็มนั่นคือเอาแบบตรงตามตัวหรือเปรียบเปรยอะคะ แงงงงงง จริงๆอยากเขียนให้แบบเป็นพาโรดี้หลายๆเควสรวมกัน แต่เราเขียนฟิคตลกไม่ถนัด กลัวมันไม่ฮา orz
หวังว่าจะชอบนะคะ หงิงงง...
อันที่จริงเราเคยเขียนฟิคของย่าฮั่วในหัวข้อ 'ราชินี' ไปแล้วตอนเล่นเดลี่ แต่พอเห็นรีเควสนี้ก็รู้สึกว่าอยากเขียนอีก ย่าฮั่วเป็นตัวละครที่เราชอบมากเขียนถึงทีไรอยากตบปู่อู๋ทุกที(...) คือเราชอบคู่ย่าฮั่วปู่อู๋มาก แต่ยังไงมันก็ไม่แฮปปี้ในตอนจบน่ะค่ะ //โฮรวววววววววววว
ดอกกุ้ยฮวา คือ ดอกหอมหมื่นลี้ ค่ะ อยากเล่นประเด็นกลิ่นหอมมากเลย สาวงามมันต้องคู่กับดอกไม้จริงๆนะคะ <3 //ว่าแล้วก็หันไปตบคนไม่ได้กลิ่นอีกรอบ...
รู้สึกไม่ได้เขียนฟิครุ่นอากงมานาน เขียนกี่ทีก็ชอบ รุ่นปู่ๆย่าๆนี่มันดีจังเลยค่ะ แออออ //ทาสอากงสุดๆ
หวังว่าจะถูกใจนะคะ ขอบคุณค่าาา
"เจ้า...เจ้านั่นแหละ!"
เด็กสาวสะดุ้งเฮือก ใช้ปลายผ้าซับน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะก้มลงลงมองเจ้าของเสียงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
"อย่าร้องไห้นะ!! ข้าจะขึ้นไปช่วยเอง!" เด็กหนุ่มหน้าตามอมแมมตะโกนโวยวายมาจากด้านล่าง
"...ไม่ต้อง!!! อย่ามายุ่งกับข้า!!" คนบนต้นไม้สะบัดหน้าหนี
"เจ้าไม่ต้องกลัวหรอกนะ" ฝ่ายที่อยู่ข้างล่างกับไม่สนใจซ้ำยังหันไปคุยกับเจ้าหมาน้อยข้างๆ "รออยู่นี่นะ เดี๋ยวข้ามา"
เด็กหนุ่มคนนั้นเริ่มปีนต้นไม้ใหญ่ขึ้นมาช้าๆ ทำเอาคนที่อยู่บนกิ่งสูงรู้สึกอึดอัดไม่พอใจ...เขาคงคิดว่านางติดอยู่บนต้นไม้...แต่สตรีสกุลฮั่วมีหรือจะติดอยู่ที่ใด วิชาตัวอ่อนที่สืบทอดกันมายาวนานไม่มีที่แห่งใดที่พวกนางเข้าไม่ได้และหนีออกไม่ได้
เมื่อฝ่ายที่ตั้งใจจะมาช่วยเอื้อมมือถึงกิ่งที่อยู่ถัดลงไปเด็กสาวจึงทิ้งตัวหงายลงจากตรงที่นั่งอยู่จนเด็กหนุ่มที่มองอยู่ร้องลั่น ร่างกายบอบบางบิดตัวเกี่ยวแขนขาอย่างคล่องแคล่วหลบหลีกกิ่งไม้แล้วพาตัวเองลงมาถึงพื้นได้อย่างงดงามไร้รอยขีดข่วน
"เจ้าลงเองได้นี่" เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง
"ข้าไม่ได้พูดสักคำว่าติดอยู่บนนั้น" ตวัดเสียงตอบ
ฟังดังนั้นคนที่ติดอยู่บนต้นไม้แทนจึงหัวเราะลั่น เด็กสาวสกุลฮั่วเลิกคิ้ว...คิดว่าตนจะต้องถูกโกรธเคืองเป็นแน่ แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มขำแล้วค่อยๆ ไต่ลงมาอย่างทุลักทุเลเป็นที่สุด
เมื่อถึงตรงกิ่งที่สูงราวสองเมตรกว่าๆ เด็กหนุ่มจึงเหวี่ยงตัวกับกิ่งใหญ่เพื่อจะกระโดดลงมา แต่แล้วกิ่งเจ้ากรรมก็ดันหักเป๊าะจนร่างนั้นร่วงลงมากองแทบเท้าคนที่มองอยู่
เจ้าลูกสุนัขตัวจ้อยรีบพุ่งเข้ามาเลียหน้าเลียตาเจ้านายเป็นการใหญ่ แต่คนเจ็บกลับไม่สลดสักนิด บ่นโอดโอยเล็กน้อยแล้วก็หัวเราะให้ตัวเอง
"...ปีนต้นไม้แค่นี้ยังตก เจ้าไม่ควรขึ้นไปช่วยใครหากยังเอาตัวเองไม่รอด" เด็กสาวตำหนิคนที่พยายามขึ้นไปช่วยตนเอง
"ข้าก็ว่างั้น" แต่คนฟังก็ไม่ไปถือสาแถมยังอดเห็นด้วยไปไม่ได้ "ขออภัยอย่างยิ่ง...ข้าเผลอตัวดูถูกวิชาของท่านไป"
"แล้วเจ้าลุกไหวหรือเปล่า ข้าไม่ช่วยหรอกนะ"
"ท่านไม่ต้องช่วยข้าหรอก แค่องค์หญิงยิ้มงามๆ ให้สักทีข้าก็มีแรงแล้ว"
"ใครกัน...องค์หญิง"
"ก็ท่านไง..." เด็กหนุ่มปัดฝุ่นตามเนื้อตัวลุกขึ้นนั่ง "แต่งตัวเหมือนพวกคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ท่านงามกว่าพวกคุณหนูเหล่านั้นสักสิบส่วนเห็นจะได้...ดังนั้นท่านต้องเป็นองค์หญิงแน่ๆ"
คำพูดแซวกระเซ้าทำเอาอยากจะบอกให้รู้ว่าตนเป็นใคร แต่แม้เด็กสาวจะคิดว่าตนมีฝีมือดีกว่าอีกฝ่ายมากนักก็ไม่ควรประมาทเปิดเผยตัวตนในยามที่แผ่นดินไร้ซึ่งความร่มเย็น
"ขอเถอะองค์หญิง ยิ้มให้สักนิดแล้วข้าจะลุกยืนไหว"
"ทำไมข้าต้องยิ้มให้เจ้า"
"เพราะเมื่อกี้ท่านร้องไห้ การเห็นสาวงามร้องไห้มันทำให้ข้าเจ็บปวดมาก ดังนั้นท่านต้องรับผิดชอบโดยการยิ้มงามๆ ให้ข้าเพื่อเยียวยาจิตใจ"
"ประสาท"
"นั่นไง...ท่านยิ้มจริงๆ ด้วย"
คนหน้าตามอมแมมที่ยิ่งดูไม่ได้ไปกันใหญ่ลุกขึ้นมาโค้งตัวให้เด็กสาว ก่อนจะหันซ้ายหันขวาแล้วเอื้อมไปเด็ดดอกไม้ข้างตัวมายื่นให้
เด็กสาวเผลอตัวรับเจ้าดอกไม้ช่อเล็กมาถือไว้ ดอกไม้สีขาวมีกลีบโค้งมนดูน่ารัก ซ้ำกลิ่นยังหอมหวานคล้ายขนมอบใหม่
"แทนคำขอบคุณ" คนที่เพิ่งบอกว่าต้องยิ้มเป็นการรับผิดชอบพลิกคำทันใด "องค์หญิงผิวขาวสวยราวกับกลีบดอกกุ้ยฮวา คุณค่าของตัวท่านก็เหมือนดั่งกลิ่นหอมกำจายไปหมื่นลี้เช่นกัน...อย่าร้องไห้อีกเลยนะ"
คุณหนูใหญ่ของสกุลฮั่วมองหน้าคนถือดีอย่างที่สุด เด็กหนุ่มตรงหน้ายิ้มอ่อนโยนแบบที่นางไม่เคยได้รับ คนที่ดูไม่ได้เรื่องทั้งหน้าตาและฝีมือโบกมือลาก่อนจะเดินไปพร้อมเจ้าลูกหมาตัวจ้อย
ฮั่วเซียนกูยืนมองแผ่นหลังนั้นจนลับตา ปลายนิ้วลูบไล้กลีบดอกอย่างเหม่อลอย...เด็กสาวลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้ตนร้องไห้ด้วยเหตุอันใด
++++++
"โก่วหวังโก๋วอู่เย๋?"
"ค่ะท่าน" หญิงรับใช้คนสนิท "ลูกชายคนที่สามของผู้นำสกุลอู๋คนก่อน ท่านคงไม่เคยเห็น เป็นคนหนุ่มอายุประมาณท่าน...อัธยาศัยดี จริงใจ"
"ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็น" คุณหนูใหญ่สกุลฮั่วถามกลับ
"เพราะเถ้าแก่หมาห้าคนนี้รักหมายิ่งกว่าคน สนทนากับหมามากกว่าคน งานต่างๆ ที่หมาเข้าไม่ได้เขาย่อมไม่ไป"
ฮั่วเซียนกูรับคำในลำคอก่อนจะก้าวลงจากรถเข้าไปในโรงน้ำชา วันนี้มีการนัดพบกันระหว่างสกุลล่างทั้งสามที่นางมาแทนมารดา แต่เซี่ยจิ่วเย๋ผู้เป็นตัวแทนของบิดาซึ่งชรามากแล้วได้ส่งคนมาแจ้งก่อนว่าจะพาสหายสกุลอู๋มาร่วม...ในฐานะคุณหนูใหญ่แต่ฮั่วเซียนกูไม่ได้รู้จักเจ้าบ้านสกุลบนและระนาบเท่าไรจึงไม่ค่อยพอใจนักที่จะมีคนนอกเข้ามา แต่เมื่อเจ้าบ้านสกุลเซี่ยคิดอ่านประการใดก็ย่อมพิจารณามาอย่างดีแล้ว
หญิงสาวเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ที่นั่นฉีเถียจุ่ยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้านิ่งสงบเผยยิ้มให้เล็กน้อยแล้วผายมือเชื้อเชิญให้นั่ง แต่ก่อนที่ริมฝีปากงามจะเอ่ยถาม มือนั้นก็ถูกยกขึ้นเป็นท่าประจำตัว
"มาแล้ว"
เซี่ยจิ่วเย๋เดินนำมาก่อนด้วยท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์ ฮั่วเซียนกูนึกแปลกใจไม่น้อยที่ว่าที่เจ้าบ้านสกุลเก้าผู้มีชีวิตตรงตามระเบียบแบบแผนไม่ได้มาก่อนเวลาเหมือนทุกครั้ง
"ขออภัย...พอดีมีข้อติดขัดบางประก..."
"เสี่ยวจิ่วจิ่ว มันก็ไม่ได้สายเสียหน่อย จะอารมณ์เสียทำไมหนักหนา"
น้ำเสียงรื่นเริงดังขัดขึ้นมาอย่างอาจหาญ พร้อมกับการปรากฎตัวของชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาที่มีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้า
คนธรรมดาที่ทำให้ฮั่วเซียนกูหัวใจกระตุก
"เหล่าปา เซียนกู...นี่อู๋เหลาโก่วหรือเถ้าแก่หมาห้าที่เขาเรียกกัน" เซี่ยจิ่วเย๋เมินผ่านเพื่อนตัวเองอย่างใจร้าย
"เสี่ยวจิ่วจิ่วอย่าใจร้ายกันนักเลย" ทำเสียงสลดแต่ไม่รู้สึกผิด คนอารมณ์ดีหันมายิ้มกว้างให้ "เสี่ยวจิ่วจิ่วบอกว่ามีเรื่องจะให้ช่วยข้า แต่เมื่อเช้าหมาข้าป่วยไม่ยอมกินข้าวจึงออกมาช้าไปหน่อย ไม่ทันก่อนเวลาตามแบบฉบับสกุลเซี่ย"
ฉีเถียจุ่ยเพียงอมยิ้มอย่างไม่ถือสาอะไร เซี่ยจิ่วเย๋เลยได้แต่ส่ายศีรษะอย่างระอาใจแล้วดึงให้เพื่อนนั่งลง
"เหล่าปาเราเคยเจอกันแล้ว แต่ท่านหญิงผู้นี้คงไม่...ท่านคงไม่ถือสากับกิริยามารยาทของคนใช้แรงงานเยี่ยงข้าหรอกนะ"
"อู่เย๋ฝึกหมาในการลงดิน งานนี้เราต้องให้หมาของหมอนี่มาช่วยในขั้นแรก"
เจ้าบ้านสกุลเซี่ยตัดบทของคนอัธยาศัยดีเพื่อเข้าเรื่องงานการไม่ให้เสียเวลา
แต่นั่นทำให้ฮั่วเซียนกูรู้สึกว่าตนคงเป็นเจ้าบ้านที่ดีไม่ได้...เพราะขณะนี้นางมีสมาธิเพียงครึ่งเดียว ซึ่งคนที่เหลือก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติชัดเจน จนเมื่อฉีเถียจุ่ยเห็นว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะคุยต่อแล้วจึงบอกว่าว่าตนมีธุระขอให้หยุดเรื่องนี้ไว้ก่อน
ความว้าวุ่นใจผสมปนเปกับความรู้สึกผิดอย่างยิ่ง หญิงสาวที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกจึงร้องถามไปในตอนที่ทุกคนจะแยกย้าย
"...ท่านยังจำกลิ่นของกุ้ยฮวาสีขาวได้หรือไม่"
ใบหน้าของคนอารมณ์ดียิ้มให้ แต่ก่อนที่จะได้ตอบอะไรเซี่ยจิ่วเย๋ก็แทรกขึ้นมา
"อู่เย๋สูญเสียการได้กลิ่นมานานมากแล้ว...ข้าคิดว่านั่นเป็นคำถามที่ไม่สุภาพเท่าไรนักสำหรับหมอนี่นะเซียนกู"
ฮั่วเซียนกูไม่ได้แม้แต่จะกล่าวขอโทษออกไป
ความรู้สึกเสียใจตีผสมปนเปกับความยินดีจนแยกกันได้ยาก คนธรรมดาที่ดูไม่ได้เรื่องนั้นคือคนที่ใกล้ตัวถึงเพียงนี้
หลังจากครั้งนั้น...องค์หญิงก็แอบหนีออกมารอเด็กหนุ่มที่เดิมอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบอีก...ความมุ่งมั่นทั้งสิ้นจึงถูกทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ฝึกฝน
เพื่อกลิ่นหอมของกุ้ยฮวาซึ่งจะกำจายไปไกลดังคำกล่าวนั้น...
หญิงสาวกลั้นน้ำตาแล้วปล่อยให้มันไหลลงกลับไปในหัวใจ
เพื่อกลิ่นหอมซึ่งคนคนนั้นไม่ได้รับรู้อีกต่อไป...
++++++
"เจ้ามันผู้หญิงนิสัยเสีย!"
ชายหนุ่มผู้สุภาพกับสตรีทั่วแผ่นดินโวยวายใส่สาวงามแห่งฉางซาอย่างเหลืออด
"ทำไม? แล้วเจ้าจะทำอะไรข้าได้?" ฮั่วเซียนกูเป่าควันบุหรี่ใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างจงใจ
"เซียนกู!!! ใครได้เป็นภรรยาคงปวดหัวตายชัก" อู๋เหลาโก่วบ่น
"ใครได้เจ้าเป็นสามีก็คงสนุกแย่...เจ้ามันน่าแกล้งชะมัด"
"นี่เป็นสาวเป็นนางใครเขาพูดจาแบบนี้กัน...เซี่ยจิ่ว!! เจ้าหัวเราะทำไม!!?"
เซี่ยจิ่วเย๋ที่นั่งฟังอยู่หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักเพยิดเป็นเชิงว่าเห็นด้วยกับเจ้าบ้านสกุลฮั่วอย่างยิ่ง พวกเขาเป็นผู้นำสกุลที่อายุยังน้อย จึงสนิทกันง่ายกว่าพวกบรรดาสกุลบนและสกุลระนาบคนอื่นๆ หลังจากร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่น้อยจึงไม่แปลกที่จะเล่นหัวกันได้ขนาดนี้
ฮั่วเซียนกูผู้วางตัวเสมือนเทพธิดาผู้สูงศักดิ์ในสายตาคนนอก เมื่ออยู่กันแค่คนสนิทหญิงสาวคนงามก็กลายร่างเป็นคนขี้แกล้งพุ่งเข้าไปเย้าแหย่คนนั้นคนนี้เล่นโดยเฉพาะเถ้าแก่หมาห้า
"เจ้าเองก็ชอบ...อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลย"
หญิงสาวในชุดกี่เพ้าพอดีทรวดทรงกระโดดเกาะหลังเจ้าบ้านสกุลห้าพร้อมกับเป่าลมเบาๆ ที่ข้างแก้มให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก
ชายหนุ่มโวยลั่นทำให้คนแกล้งยิ่งแนบสัดส่วมนุ่มนิ่มไปกับแผ่นหลัง แล้วยังเอาปลายนิ้วเข้าไปไล้ใบหน้าลำคออย่างนึกสนุก
"อย่าทำตัวเหมือนพวกแม่เล้าจะได้ไหม!!"
ฮั่วเซียนกูและคนอื่นๆ หัวเราะลั่นให้กับใบหน้าสีขึ้นสีจนแดงเถือกไปถึงใบหู อู๋เหลาโก่วทำท่ากระฟัดกระเฟียดแล้วดึงเจ้าหมาน้อยซันชุ่นติงในแขนเสื้อออกมาขู่ทุกคนด้วยใบหน้าน่ารักสุดใจ
หญิงสาวผละออกมาเมื่อแกล้งจนพอใจ ก่อนจะเดินทิ้งสะโพกกลับมานั่งเชิดหน้าเป็นเทพธิดาฮั่วคนงามที่มีรอยยิ้มเล็กๆ ประดับบนใบหน้าขาวสวย
แม้ในยามสงคราม...รอยยิ้มก็ยังเป็นเรื่องจำเป็น
แม้ในยามที่ไม่มีใครช่วยใคร...สหายก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ
เส้นทางของผู้นำสกุลทั้งเก้าคือปมเชือกที่ทอประสานกันอยู่บนทั้งมิตรภาพและผลประโยชน์ ความรักและการแย่งชิง
ยิ่งใกล้ชิดเท่าไร...ยิ่งห่างไกลสุดไขว้คว้า
ฮั่วเซียนกูรู้เสมอว่าตนคือเจ้าบ้านสกุลฮั่ว ต่อให้แต่งเข้าบ้านไหนก็ย่อมต้องเป็นสกุลฮั่ว และอู๋เหลาโก่วคือทายาทสายตรงคนสุดท้ายของสกุลอู๋...ไม่ว่าจะแต่งเข้าบ้านไหนก็ย่อมต้องใช้สกุลอู๋
ฮั่วเซียนกูคือราชินีที่ไม่มีทางเป็นองค์หญิงของใคร...ปลายทางที่ไร้ทางบรรจบคือสิ่งที่ทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจ
แต่รอยยิ้มและความสุขในวันนี้คือสิ่งที่หญิงสาวยอมแลกมาด้วยความเจ็บปวดในอนาคต
...ไม่ต่างจากกลิ่นดอกกุ้ยฮวาสีขาวซึ่งยังคงหอมหวนในความทรงจำ
::talk::
//กราบคุณusahanyan
ไม่รู้ว่ามันได้ตรงรีเควสมั๊ย...ส้นเข็มนั่นคือเอาแบบตรงตามตัวหรือเปรียบเปรยอะคะ แงงงงงง จริงๆอยากเขียนให้แบบเป็นพาโรดี้หลายๆเควสรวมกัน แต่เราเขียนฟิคตลกไม่ถนัด กลัวมันไม่ฮา orz
หวังว่าจะชอบนะคะ หงิงงง...
อันที่จริงเราเคยเขียนฟิคของย่าฮั่วในหัวข้อ 'ราชินี' ไปแล้วตอนเล่นเดลี่ แต่พอเห็นรีเควสนี้ก็รู้สึกว่าอยากเขียนอีก ย่าฮั่วเป็นตัวละครที่เราชอบมากเขียนถึงทีไรอยากตบปู่อู๋ทุกที(...) คือเราชอบคู่ย่าฮั่วปู่อู๋มาก แต่ยังไงมันก็ไม่แฮปปี้ในตอนจบน่ะค่ะ //โฮรวววววววววววว
ดอกกุ้ยฮวา คือ ดอกหอมหมื่นลี้ ค่ะ อยากเล่นประเด็นกลิ่นหอมมากเลย สาวงามมันต้องคู่กับดอกไม้จริงๆนะคะ <3 //ว่าแล้วก็หันไปตบคนไม่ได้กลิ่นอีกรอบ...
รู้สึกไม่ได้เขียนฟิครุ่นอากงมานาน เขียนกี่ทีก็ชอบ รุ่นปู่ๆย่าๆนี่มันดีจังเลยค่ะ แออออ //ทาสอากงสุดๆ
หวังว่าจะถูกใจนะคะ ขอบคุณค่าาา
velvetronica- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 100
Points : 3648
Join date : 08/11/2014
Re: [To my Secret] usahanyan
โอย ย่าฮั่วขราาาา ทำไมย่าน่ารักแบบนี้คะะะะ /ปู่อู๋ไม่เอาก็หลบไปเราขอเอง เชิญปู่ไปสวีทกับซันชุนติ่งเลยค่ะ /เดี๋ยว
มุ้งมิ้งน่ารักแม้ว่าจะจบไม่คู่กัน ชอบมากเลยค่าาา ขอบคุณมากๆนะคะXD///
ปล. รุ่นปู่ย่าคือดีงามจริงๆค่ะ รักนะคะทั้งเก้าสกุล<3
ปลล. รักคนส่งซีเคร็ตด้วย<3<3
มุ้งมิ้งน่ารักแม้ว่าจะจบไม่คู่กัน ชอบมากเลยค่าาา ขอบคุณมากๆนะคะXD///
ปล. รุ่นปู่ย่าคือดีงามจริงๆค่ะ รักนะคะทั้งเก้าสกุล<3
ปลล. รักคนส่งซีเคร็ตด้วย<3<3
usahanyan- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 4
Points : 3476
Join date : 27/10/2014
Similar topics
» [To My Secret] kazahana
» [to my secret]iarladiel
» [To my Secret] SB_Gray
» [To my Secret] Rightway
» [To my Secret] R.TARN
» [to my secret]iarladiel
» [To my Secret] SB_Gray
» [To my Secret] Rightway
» [To my Secret] R.TARN
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth