Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

+4
Nathael
Koume
oilypicca
sinnerdarker
8 posters

Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Wed 29 Oct 2014, 20:09

Title :  First Date That melt Your Heart!

Author : Sinnerdarker

Paring : นายอ้วน x อู๋เสีย

Rating : PG-13



Song Fic  จากเพลง melt ของ มิคุนั่นเอง….

ซินว่าซินสมควรเอาผ้ามาแปะหัวเป็นกัปตันเรือแพอ้วนเสียนะ /แต่ได้ยินว่าเขียนผิงเสียรัวๆ

คือจะแต่งฉากออกเดทของสองคนนี้ค่ะ ก็เลยหาเพลงมาบิวท์ความตื่นเต้นของนายน้อย แล้วก็..เผลอไปหยิบ Melt มาฟัง ฟังไปฟังมาก็…เฮ้ย มันน่าทำซองฟิคแฮะ

ผลลัพธ์ก็..ค่ะ เป็นอย่างที่เห็น Y//v//Y ทุกท่านมาเขินไปกับซินและนายน้อยซะดีๆ! <3 /อะไรนะทุกท่านไม่เขิน /ไม่เป็นไรซินเขินคนเดียว

คืออยากแต่งให้มันดูน่ารัก ใจเต้น แต่ถ้าแป๊กก็ขออภัยนะคะ แง

ไทมไลน์หลังจาก Will You be My Girl? ค่า! สนใจไปอ่านทางนี้ได้ หรือไม่อ่านก็ไม่เป็นไร ถือว่าในเนื้อเรื่องทั้งสองเริ่มคบกันแล้วนะคะ <3

ขอบคุณเนื้อเพลงจาก



เพื่ออรรถรสในการอ่าน เชิญฟังเพลงีน้ไปด้วยนะก๊ะ <3

youtube.com/watch?v=u0NIIZWrpmc <--ขอโพสต์แบบนี้นะคะ พอดีไม่ได้รับอนุญาตให้ลงลิงค์ ฟฟ



+++++++++++++++++++++++++++





เมื่อลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในใจก็คือเรื่องของเธอ...

.

.




ผมตื่นมาตอนเช้าด้วยสภาพที่ไม่ดีนัก นั้นคือง่วงหงาวหาวนอน หลับไม่พออย่างรุนแรง โชคดีที่วันนี้ร้านหยุด ผมจึงไม่ต้องฝืนสังขารลากตัวเองไปที่ร้านให้หวังเหมิงแซวเล่น

แต่ผมก็ต้องออกจากบ้านอยู่ดี

ผมนั่งเวิ้งอยู่บนเตียงครู่ใหญ่ สมองกำลังลำดับไล่เรียงความทรงจำ ก่อนจะซบใบหน้าลงบนมือตัวเอง แล้วกลอกตาไปมองปฏิทินที่ตัวเองวงสีแดงไว้

ผมไม่ได้เขียนไว้หรอกว่าแม่งเป็นวันอะไร แต่ก็รู้อยู่แก่ใจ มันคือ..ดะ…….เดทแรก...ของผมกับนายอ้วน

แค่คำว่า ‘เดท’ หลุดออกมาในใจผมก็รู้สึกว่าใบหน้าร้อนฉ่า เหมือนจะมีเสียงดังปุ้งกับควันออกจากหัวตัวเอง แม่งเอ๊ย ใช้ชีวิตมายี่สิบกว่าปีในฐานะอู๋เสียไม่เคยคิดว่าจะต้องมาคบกับผู้ชาย แถมยังตื่นเต้นกับเดทแรกจนหลับไม่ลงแบบนี้ รู้ถึงไหนสกุลอู๋อับอายถึงนั่น!

ผมซบหน้าลงกับมืออีกรอบ ปรับอารมณ์อารมณ์ตัวเองอีกครู่ใหญ่ จากนั้นสูดลมหายใจลึก ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปเข้าห้องน้ำ

+++++++++++++++++++

ผมกับนายอ้วนตกลงคบกันแล้ว คบกันแบบคนรัก

แต่ถึงจะบอกว่าคบกันแบบคนรัก ความสัมพันธ์ของเราก็ไม่ก้าวหน้าซักเท่าไหร่ สุดท้ายผมกับนายอ้วนก็ยังแค่นั่งกินข้าวกันที่บ้าน ออกไปเดินเล่น พูดคุยสัพเพเหระกันไป นายอ้วนไม่ได้เปลี่ยนไปจากเก่าซักเท่าไหร่ ซึ่งผมรู้สึกทั้งโล่งใจและไม่ค่อยสบใจ

โล่งใจเพราะผมเองก็ยังไม่พร้อมจะคิดกับนายอ้วนแบบลึกซึ้งเท่าไหร่ แต่ก็ไม่สบใจ เพราะมันทำให้ผมเริ่มสงสัยว่าเราเป็นคนรักกันจริงๆ หรือเปล่า

หลังจากที่จูบกันวันนั้นที่ตกลงคบกัน นายอ้วนก็ไม่แตะต้องผมอีก ..จะเรียกว่าไม่แตะต้องคงไม่ได้ เพียงแต่ไม่ได้เกินเลย อย่างมากหมอนั่นก็แค่ขโมยหอมแก้มผมบ้าง กอดผมหนักๆ บ้าง ซึ่งทุกครั้งก็ทำให้ผมสะดุ้งด้วยความเขิน แทบจะฟาดนายอ้วนซักป๊าบตลอดเวลา

แต่ก่อนจะฟาด นายอ้วนก็หัวเราะฮ่าๆ ยิ้มอย่างมีความสุข สุดท้ายผมเลยสำลักรอยยิ้มนั้นแล้วตบแม่งไม่ลง

ผู้ชายบ้าอะไรวะ หล่อก็ไม่หล่อ อ้วนก็อ้วน ผมโคตรประหลาดใจตัวเองที่ตกลงรับรักจากเขา

แต่ก็อย่างที่เขาบอก

‘ก็รักไปแล้ว’

ผมเผลอยิ้มออกมา ในอกเหมือนมีอะไรพองโตจนต้องกลั้นยิ้ม สุดท้ายเลยต้องพยายามสูดลมหายใจลึกๆ มองนาฬิกาซึ่งตอนนี้ตีเวลาแปดโมงกว่า ….อืม อย่างน้อยผมก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว นัดหมอนั่นไว้เก้าโมงนี่นะ

ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย มองดูในกระจก หวนคืดถึงจุดเริ่มต้นจองการเดทวันนี้

…นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนัดหมอนั่น ‘เดท’

เราไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่นับเป็นเดทไม่ได้ เพราะสุดท้ายก็แค่เดินเล่นซื้อของเข้าบ้าน ไม่ก็ออกไปกินข้าวตามร้านอาหารด้วยกัน นอกจากนี้หมอนั่นก็อยู่ที่หังโจวนานๆ ไม่ได้  เลยกลายเป็นว่าเราไม่เคยเที่ยวอย่างจริงๆ จังๆ เลยซักครั้ง ผมเห็นความสัมพันธ์เราไม่ก้าวหน้าซักทีเลยชักรู้สึกแปลกๆ ทำใจกล้าชวนหมอนั่นเที่ยว ตอนแรกก็ไม่ได้ใช่คำว่าเดท แค่บอกว่าอยากจะไปเที่ยวกันทั้งวัน สนุกอย่างเป็นกิจลักษณะบ้าง

แต่นายอ้วนดันไม่คิดแบบนั้น

‘เทียนเจินชวนเสี่ยอ้วนเดท?’

พอได้ยินคำนั้นเท่านั้นแหละ ผมสำลักน้ำชาทันที

‘เชี่ยแม่ง! เดทเดิดอะไรวะนายอ้วน!’ผมร้องใส่ พยายามทำน้ำเสียงเหมือนขนลุกจะอ้วก แต่โอเคผมรู้ว่าตอนนี้หน้าผมแดงฉ่าใกล้ไหม้แล้ว เล่นใช้คำแบบนั้นผมก็เขินสิวะ!

‘จุ๊ๆ นายอย่ามาทำเขิน เที่ยวเท่ออะไร แบบนี้น่ะเขาเรียกเดทแล้ว แถมเทียนเจินเป็นฝ่ายชวนด้วย เสี่ยอ้วนล่ะดีใจจริงจริ๊ง’ นายอ้วนว่าพลางทำท่าซาบซึ้งเสียเต็มประดา ทำเอาผมคันเท้าอยากจะกระโดดถีบขึ้นมาทันที

‘นายแม่ง...!’ ผมสบถ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี สุดท้ายเลยสูดลมหายใจลึก แล้วนั่งลงพร้อมว่าต่อ ‘ช่างเถอะ….แต่จะเที่ยวก็ต้องวางตารางดีๆ นายว่างแบบจัดเต็มช่วงไหนบ้าง นัดแนะไว้ง่ายกว่า”

ผมถามนายอ้วน ควานมือไปหยิบปฏิทินแล้วยื่นให้เขา นายอ้วนกวาดตามองตัวเลขบนปฏิทินเล็กน้อย ก่อนจะยื่นกลับมาให้ผมแล้วชี้วันที่ให้ ‘ช่วงนี้ฉันว่างติดกันสามวัน น่าจะเที่ยว เอ๊ย เดทให้ฉ่ำปอดได้’

เจอนายอ้วนย้ำคำชวนเขินอีกรอบ ผมเลยถีบหมอนั่นแรงๆ ไปที คืนนั้นนายอ้วนแยกย้ายกลับที่พัก ส่วนผมก็นั่งจ้องปฏิทินด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

ตื่นเต้น เฝ้ารอ อย่างกับสาวน้อย…

.

.

.

แล้ววันนั้นก็มาถึง




ผมขยับเสื้อเชิ้ต จ้องตัวเองในกระจก หนวดเครารุงรังเล็กน้อยผมจึงต้องจัดการมันออก ผมเผ้าก็ดูท่าจะยาวจนชักไม่เป็นทรง แต่จะว่าไปผมก็ตัดแบบให้มันสั้นสบายหัว ไม่ได้ใส่ใจทรงมาแต่แรกแล้ว

……พลันความคิดงี่เง่าก็แล่นวาบเข้ามา

ผมมองกรรไกรที่มุมอ่างซึ่งไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไรไม่ทราบ จากนั้นก็เงยขึ้นมามองหน้าตัวเองในกระจก ผมมองสลับไปมาครู่หนึ่ง ก่อนจะสบถดังลั่นแล้วตัดใจหยิบมันขึ้นมา

“แม่งเอ๊ย!!”

ฉับ!

++++++++++++++++++

.

.

ตัดใจตัดหน้าม้าให้สั้นลง ก็เพราะอยากให้เธอใส่ใจเป็นห่วงถามถึง

.

.


“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!!!!”

“นายอ้วน หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้ไม่งั้นถีบ!!”ผมร้องลั่น ยกเท้าเตรียมจะถีบคนที่หัวเราะเหมือนจะขาดใจตรงหน้าทันที แต่แน่นอนว่านายอ้วนไม่รอให้ผมถีบ หมอนั่นขยับห่างออกไปแล้วหัวเราะหนักจนพุงกระเพื่อม

“แม่ง! เทียนเจินหนอเทียนเจิน เงินทองก็มีทำไมไม่ไปร้าน ตัดผมหน้าม้าเองทำไม!? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!”นายอ้วนยังหัวเราะไม่หยุด ผมเกือบจะแช่งให้สำลักน้ำลายตายแล้วถ้าไม่ติดว่ากลัวตัวเองจะทำหมอนี่ตายจริงๆ สุดท้ายเลยได้แต่กอดอกเดาะเท้ารอหมอนั่นหยุดหัวเราะเอง

ใครจะไปรู้ว่าฝีมือตัดผมของผมมักจะห่วยแตกหมาส่ายหน้าขนาดนี้ ตอนแรกกะจะเล็มผมนิดหน่อย ตัดไปตัดมาดันเต่อซะจนดูไม่ได้ซะนี่

ผมแม่งก็บ้า คิดไปได้ว่าเห็นสภาพผมแล้วนายอ้วนจะไม่หัวเราะ ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษชมว่าทรงผมแปลกตาดี ผมก็เพ้อมากเกินไป เป็นแฟนกันไม่ได้หมายความว่านิสัยจะเปลี่ยน นายอ้วนก็ยังเป็นนายอ้วนอยู่ดี

ซึ่ง โอเค ผมว่ามันก็ดี

“หยุดหัวเราะได้หรือยังนายอ้วน! หรือจะหัวเราะให้แม่งสำลักอากาศตาย!” ผมด่าออกไปในที่สุด นายอ้วนสูดลมหายใจลึก ตบหน้าอกตัวเองแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกอดอกมองผม “วันนี้แต่งตัวออกจะดูดี เสียแต่ข้างบนว่ะเทียนเจิน”

“รู้แล้วน่า” ผมบอกพร้อมถอนหายใจเฮือก วันนี้เป็นเดทแรก เป็นตายร้ายดีก็ต้องแต่งตัวเหมาะสมหน่อยไม่ใช่หรือไง?

.

.

สวมกระโปรงสีชมพู ติดเครื่องประดับรูปดอกไม้ แล้วออกไปหาเธอ

ตัวฉันในวันนี้น่ารักอย่าบอกใคร!


.

.




ไอ้ผมก็อุตส่าห์คิดแล้วนะ ว่าวันนี้ตัวเองดูหล่อที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา ไฉนเลยความคิดชั่ววูบกับกรรไกรอันเดียวแม่งเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างได้

ระหว่างที่กำลังหงุดหงิดกับการเริ่มต้นเดทที่พังไม่เป็นท่า นายอ้วนก็เอาหมวกที่เขาใส่อยู่วางแปะบนหัวผม

“อะไรเนี่ยนายอ้วน?” ผมถามเขา ขยับมือจะเอาหมวกออก แต่นายอ้วนก็ยัดมันใส่หัวผมซะแน่น แล้วตบปับๆ

“ใส่เอาไว้ จะได้ไม่มีใครเห็นผมหน้าม้าเต่อๆ เทียนเจินไง เสี่ยอ้วนใจดีไหมล่ะ!”นายอ้วนว่าพร้อมฉีกยิ้มที่ผมนิยามไว้ว่า ‘คิดประหนึ่งตัวเองหล่อฉิบหาย’ แล้วตบหัวผมเบาๆ “แค่นี้นายก็กลับมาหล่อแล้ว เพราะฉะนั้นหายหงุดหงิดซะที”

ผมนิ่งไป ขยับหมวกเบาๆ มองตัวเองในเงากระจกใส..ซึ่งจะว่าไปก็ดูดีขึ้นมาบ้าง

นายอ้วนมองผมที่หันไปมองกระจก ก่อนจะกอดอกยิ้มแฉ่งใส่ “ไปๆ นายหล่อแล้ว ไปเดทกัน”

หมอนั่นพูดอย่างไม่ใส่ใจแล้วตบแผ่นหลังผม กอดคอให้เดินไปด้วยกัน ส่วนผมน่ะหรือ…..

หัวใจแม่งร่วงไปไหนแล้วไม่รู้!!





MELT! แทบจะละลายอยู่แล้ว

จะให้บอกออกไปได้ยังไง ว่าฉันรักเธอ...

.

.

.

แต่ถึงงั้นก็เถอะ



เนื่องจากผมไม่ได้เป็นคนวางแพลนเท….อืม..เดท นายอ้วนเป็นคนวาง และหมอนี่ทำท่ามั่นใจเป็นดิบดีว่าจะหาที่เดทที่สุดยอดให้ผมได้ (เนื่องจากเขาอ้างว่าผ่านน้ำร้อนมาก่อน) ผมจึงคาดไม่ถึงว่าแม่งจะพาผมมาสวนสนุก

สวนสนุก!

นี่หมอนี่นึกว่าผมเป็นเด็กสาววัยมัธยมปลายเหรอวะ!

ผมสบถด่าในใจ มองนายอ้วนเดินไปซื้อตั๋วแล้วเดินกลับมาหาผม สายตาของผมมองไปรอบด้านที่มีแต่เด็กวัยรุ่นหน้าใสกิ๊ง แก่อย่างมากก็วัยมหาวิทยาลัย ไม่ต้องนับครอบครัวที่พาลูกมาเที่ยวสวนสนุกกัน ตอนนี้เราเป็นชายฉกรรจ์ที่จับตั๋วมาเที่ยวสวนสนุกกันแค่สองคน

แปลกโคตรๆ!

ถึงผมจะคิดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากทำสีหน้าปะหลักปะเหลื่อ เพราะสุดท้ายเป็นผมเองที่ด้อยประสบการณ์อย่างน่าอับอาย เลยขอให้นายอ้วนวางแพลนการเที่ยววันนี้ ใครจะไปนึกว่าแพลนที่นายอ้วนวางไว้จะเป็นการพาผมมาเที่ยวสวนสนุกซะฉิบ เพราะฉะนั้นก็ช่างมันแล้วกัน

“ได้ตั๋วมาแล้ว ไปกันเลยไหม?” ผมได้สติขึ้นมาตอนนายอ้วนถามผม

ผมพยักหน้า ขยับหมวกของตัวเอง ก่อนจะเดินผ่านประตูสวนสนุกเข้าไปข้างในกับนายอ้วน



++++++++++++++++

“………”

“………”

“เทียนเจิน เมื่อไหร่มันจะจบรอบอ่ะ”

“ถามพนักงานสินายอ้วน”

ผมบอกเขา ระหว่างที่เรากำลังนั่งเกร็งห่อไหล่อยู่บนถ้วยหรรษา ผมหมายถึงถ้วยใหญ่ๆ ที่ให้คนไปนั่งแล้วหมุนน่ะครับ

มากันเยอะๆ นั่งเล่นยังสนุก มากับสาวสวย นั่งเล่นยังดูน่ารัก ผู้ชายตัวใหญ่ๆ สองคนมาด้วยกัน นั่งในถ้วยเดียวกัน ขนาดตัวผมเองยังรู้สึกขนลุก นายอ้วนเลือกเครื่องเล่นอะไรไม่เลือก ทำไมเสือกมาเลือกเครื่องเล่นปัญญาอ่อนแบบนี้วะ!

ความจริงผมเกือบจะวิ่งไปเครื่องเล่นไวกิ่งแล้วถ้านายอ้วนไม่ลากผมมาขึ้นไอ้นี่ซะก่อน บอกว่าถ้าเดทมันต้องไอ้นี่แหละ แล้วสุดท้ายเราก็มานั่งเงียบอึมครึม รอให้ถ้วยมันหมดรอบ

ประดาคนที่เล่นในรอบเดียวกันต่างหันมามองพวกผม คุยซุบซิบกันแผ่วเบา ผมไม่แน่ใจว่าเขานินทาเรา หรือแค่คุยกันทั่วไปแล้วผมคิดไปเอง รู้แต่ว่าตอนนี้ผมอายจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

พอถ้วยหรรษาหมดรอบผมก็รีบวิ่งออกมาจากถ้วย คิดว่าคงหมดเรื่องให้อายเสียที ปรากฏว่าที่ไหนได้ นายอ้วนดันชี้ไปทางม้าหมุน ผมงี้แทบกระอักเลือด

“นายจะไปเล่นทำไมวะ!” ผมตวาดใส่เขา

“พูดถึงเดทที่สวนสนุกมันก็ต้องม้าหมุนสิ!”นายอ้วนขึ้นเสียงใส่ผมบ้าง พยายามจะลากผมไปขึ้นม้าหมุนให้ได้ แต่ผมส่ายหน้าไม่เอาท่าเดียว สุดท้ายนายอ้วนเลยบอกว่าไม่เป็นไร เปลี่ยนแผนก็ได้ จะพาผมไปอีกที่ที่ความจริงควรไปต่อหลังนั่งม้าหมุน



สถานที่ต่อมาคือโรงหนัง

….ก็ยังดี

ผมแอบลอบถอนหายใจ ค่อยสมเป็นเดท และค่อยไม่น่าอายหน่อย

“เทียนเจิน ฉันได้ตั๋วแล้ว เข้าไปกัน” นายอ้วนเดินมาพร้อมโบกตั๋วหนังให้ผมดู ผมผงกหัวแล้วดึงตั๋วมาดูชื่อเรื่อง ก่อนจะแทบสำลักน้ำลายเมื่อเห็นชื่อหนัง

‘Lost Love’

“นายอ้วน นี่จะดูเรื่องนี้จริงๆ เรอะ!!?”ผมหันขวับไปหาเขา ปรากฏว่าหมอนั่นเดินเข้าไปให้พนักงานฉีกตั๋วแล้ว ผมเลยได้แต่กลอกตาขึ้นฟ้าแล้วเดินตามหมอนั่นเข้าไปในโรง

หนังที่เรานั่งดูเกี่ยวกับหญิงสาวที่พรากจากคนรักของเธอไปหาปี จากนั้นก็กลับมาพบกันอีกครั้งโดยฝ่ายชายจำเธอไม่ได้ เธอจึงพยายามทุกวิถีทางให้เขารักเธออีกครั้ง หนังน่าสนใจ แต่ไม่ใช่แนวผม อีกอย่างในโรงมีแต่ผู้ชายหญิงที่เดทกันมาดู ทำเอาผมรู้สึกแปลกที่แปลกทางขึ้นมาทันที

หนังน่าเบื่อมาก ผมกุมที่วางแขนพลางพยายามไม่ให้ตัวเองหลับ ปรากฏซักพักนายอ้วนเริ่มเอนมาพิงซบผม ทำเอาผมเกรงเฮือกขึ้นมา หรือนายอ้วนเกิดจะอยากทำอะไรโรแมนติกขึ้นมา!?

ผมใจเต้นรัว นัยน์ตากรอกมองคนที่เอนมาซบตัวเอง แต่พอเห็นหน้านายอ้วนเท่านั้นล่ะ ผมก็หมดแรงตื่นเต้นทันที

หมอนี่หลับ!!

ผมกลอกตามองเพดานโรงหนัง แทบอยากเอามือตบกบาลนายอ้วน หนังน่าเบื่อไม่สนุกแล้วนายจะซื้อตั๋วทำไมวะ!

ด้วยความหมั่นไส้เกินจะกล่าว ผมเลยยกมือหยิกแก้มนายอ้วนเบาๆหนึ่งที พยายามถ่างตาดูหนัง แต่ปรากฏว่าด้วยความที่ผมเองเมื่อคืนก็ไม่ได้หลับเต็มตานัก ไม่กี่นาทีต่อมาผมเลยสลบตามนายอ้วนไปบ้าง หลับคร่อกคาที ตื่นอีกทีตอนพนักงานโรงหนังเข้ามาปลุกเพราะเขากำลังจะฉายหนังเรื่องถัดไปแล้ว สรุปแล้วผมกับนายอ้วนเลยเสียเงินค่าตั๋วหนังเข้ามานอนหลับเสียอย่างนั้น

ช่างเป็นเดทแรกที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย...

พอออกมาจากโรง ผมก็ทักขึ้นว่าหิวแล้ว กะว่าจะหาร้านกินข้าวกัน ปรากฏว่านายอ้วนยกนิ้วโป้งให้พร้อมยิ้มแฉ่งใส่ผม บอกว่ามีร้านที่อยากพาไป

ผมไม่รู้ว่าร้านที่อยากพาไปเป็นร้านแบบไหน แต่ในเมื่อเป็นแพลนของเขาผมเลยไม่ขัดอะไร

.

.

…ไม่ขัดไม่ได้แล้ว!!

ผมจ้องร้านอาหารขนาดเล็กที่ตกแต่งได้น่ารักสวยงาม ภายในเต็มไปด้วยสีขาวและสีชมพูท่าทางหวานแหวว เหมาะกับการพาสาวน้อยมาเดท ซึ่งผมคิดว่าเธอคงพอใจ และร้านนี้ต้องติดอันดับสถานที่ที่ควรพาสมาเดท แต่เนื่องจากผมไม่ใช่สาวน้อย พอคิดว่าต้องเข้าไปในร้านกับนายอ้วน ขนทั่วทั้งกายพลันลุกชันอย่างหาสาเหตุไม่ได้

“นายอ้วน นายล้อเล่นฉัน ไม่ก็จำร้านผิดใช่ไหม” ผมถามเสียงสั่น

“ไม่ได้ล้อเล่น! เสี่ยอ้วนหมายถึงร้านนี้จริงๆ” ผมมองสีหน้าจริงจังของนายอ้วนที มองร้านอาหารที รู้สึกว่าเหงื่อเย็นๆ ไหลผ่านขมับตัวเองลงมา

ผมยื่นชั่งใจอยู่นาน จะเข้าก็ไม่กล้าเข้า นายอ้วนก็จ้องผมไม่เดินนำเข้าไป ยืนอยู่พักใหญ่จนคนเริ่มจจ้อง ผมเลยตัดสินใจพานายอ้วนหลบมุมออกมาคุย “นายอ้วน ฉันถามจริงๆเลย”

“ว่า?”

“นายนึกว่าเราสองคนเป็นคู่รักวัยหนุ่มสาวหรือเปล่า?”

“หมายความว่า?”

“ก็แต่ละที่ที่ไปวันนี้มันโคตรน่าขนลุกเลยนี่หว่า!” ผมเริ่มตบะแตก ตั้งแต่ถ้วยหรรษามหาสนุก ม้าหมุนหวานแหวว หนังรักโรแมนติกชวนหลับ จนกระทั่งมาถึงร้านอาหารจุ๋มจิ๋มน่ารัก นายอ้วนวางแพลนเดทได้ห่วยบัดซบมาก!

“เทียนเจิน พูดแบบนี้จะหาเรื่องใช่ไหม!” นายอ้วนฟังผมด่าใส่เริ่มขึ้นเสียงบ้าง

“ก็มันจริง!! นายแม่งวางแพลนเดทยังไง แต่ละอันน่าขนลุกสิ้นดี!”

“ก็เสี่ยอ้วนเคยมีแฟนแต่ไม่เคยไปเที่ยวอะไรแบบนี้นี่หว่า! คือเข้าใจไหม ตอนนั้นมันแทบจะแต่งเป็นเมียเข้าบ้านแล้ว ไม่เคยพาเที่ยวกิ๊วก๊าววี๊ดว้ายเหมือนวัยรุ่นน่ะ! นี่เสี่ยอ้วนหาข้อมูลแทบตายนะกว่าจะวางแพลนพานายเที่ยวได้เนี่ย!”

พอได้ยินแบบนั้นผมก็ชะงัก ส่วนนายอ้วนเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดอะไรมา รีบเอามือตะครุบปากตัวเอง แต่สายไปแล้ว ผมได้ยินชัดแม่งทั้งประโยคนั่นล่ะ

“….สรุปคือนายแม่งก็ไม่เคยเดทกับเขา” ผมถามเขา น้ำเสียงเริ่มสงบลงกว่าเดิม

“…เออ” นายอ้วนกอดอกเสหน้าไปทางอื่น ท่าทางจะยอมรับความจริงแล้ว

“แล้วนี่เสือกไปเอาข้อมูลเน่าอ้วกแตกนี่มาจากไหน”

“หนังสือการ์ตูนตาหวาน กับนิตยสารวัยรุ่น”

ได้ยินแล้วผมแทบเป็นลม

“นายไปอ้างอิงอะไรแบบนั้นทำไมวะ..นาย..ลืมไปใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่สาวน้อยน่ารักสดใส แต่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง!” ผมบ่นเสียงอ่อนระโหย ใช้มือชี้หน้าตัวเอง อันที่จริงคือชี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนนายอ้วนบู่ปาก บ่นกระปอดกระแปดแผ่วเบาจนผมไม่ได้ยิน

“ช่วยไม่ได้นี่หว่า” นายอ้วนว่าขึ้นในที่สุด นัยน์ตาเสไปทางอื่น พร้อมยกมือขึ้นเกาหลังคอ “เห็นอย่างนี้เสี่ยอ้วนก็ตื่นเต้นกับเดทแรกนะ  แต่ไม่อยากให้มันพัง เลยนั่งหาข้อมูลแทบตาย…ใครแม่งจะรู้ว่าใช้อ้างอิงไม่ได้ ก็มันบอกว่า ‘ถ้าพาไปเดทตามแพลนนี้ คนรักของคุณจะประทับใจจนตกหลงรักคุณอีกครั้ง’ นี่”

“แล้วนายก็ดันเชื่อ?”

“ก็นึกว่านายจะชอบ เสี่ยอ้วนอยากเห็นเทียนเจินยิ้ม”

หลุดคำนี้มา ผมก็เลยยืนเงียบไป ตัวสั่น โชคดีที่นายอ้วนยังก้มหน้าสลดอยู่ เกาคอตัวเองอยู่ เลยไม่เห็นใบหน้าของผมที่กำลังพยายามกลั้นยิ้มหน้าแดงอย่างสุดความสามารถ

ทำไงดีวะ

คือหัวใจผมร่วงอีกรอบแล้ว

นายอ้วนตอนนี้น่ารักมาก! ผมกระโดดฟัดหมอนี่ตอนนี้เลยได้ไหม!




MELT!  ไม่อาจแม้สบตาเธอได้






ผมพยายามกลั้นยิ้ม ยืนสั่นเกร็งไม่ให้ตัวเองเผลอหลุดหัวเราะ และยิ่งไม่ให้เผลอเข้าไปกอดเข้าแล้วหอมแก้มนายอ้วนซักฟอด ให้ตายเถอะ ผู้ชายบ้าอะไรวะน่ารักได้ขนาดนี้!

ผมว่าผมตอบคำถามได้แล้ว ทำไมผมถึงรักหมอนี่ อ้วนก็อ้วน หล่อก็ไม่หล่อ



ไม่ได้จะมีความรงความรักอะไรซักหน่อย ฉันน่ะ






ก็เสือกทำตัวน่ารักขนาดนี้นี่หว่า!

ผมพยายามสูดลมหายใจลึก สงบสติอารมณ์ตัวเอง ประจวบกับนายอ้วนเงยหน้าขึ้นมามองผม ตอนนั้นผมก็สงบพอดี

“เอาไงต่อ?” นายอ้วนถามผม ท่าทางจะล่มแผนในใจตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ผมเห็นแบบนั้นเลยตอบออกไป

“กินข้าว”

“หืม?”

“แต่ไม่เอาร้านนี้นะนายอ้วน ฉันหน้าไม่ด้านพอ”ผมส่ายมือไปมา แล้วดึงแขนเขาให้เดินไปด้วยกัน “ฉันว่าฉันเจอร้านที่น่ากินอยู่ ไปกินร้านนั้นแล้วกัน”

“นายไม่โกรธ? เสี่ยอ้วนนึกว่านายจะหมดอารมณ์หนีกลับแล้วซะอีก” นายอ้วนพูดขึ้นระหว่างที่เดินขึ้นมาตีคู่กับผม ผมหรี่นัยน์ตาลง รู้สึกว่าแก้มร้อนเห่อขึ้นมา ก่อนจะเกาแก้มแล้วว่าขึ้น

“ฉันจะโกรธคนที่ทำเพื่อฉันขนาดนั้นไปทำไมวะ?”

ผมพูดไปแค่นั้น แล้วก็รีบเดินนำนายอ้วนขึ้นไป หลบไม่ให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าร้อนฉ่าของตัวเอง

บ้าจริงโว้ย!



.

.

.

แต่ว่าก็ดัน .... ชอบเธอซะแล้ว



+++++++++++++++++++++++++++++++


แก้ไขล่าสุดโดย sinnerdarker เมื่อ Wed 29 Oct 2014, 20:14, ทั้งหมด 4 ครั้ง
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4054
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Wed 29 Oct 2014, 20:09

หลังจากนั้น ผมยืนยันจะไม่ทำตามแผนนายอ้วน แต่ไม่มีความคิดจะล้มเลิกการเดทแต่ประการใด

เราขึ้นเครื่องเล่นกับแหลกลาญ แทบไม่ได้พัก เล่นอันนี้เสร็จก็ไปขึ้นอันโน้น เล่นอันโน้นเสร็จก็มองแผนที่แล้ววิ่งไปขึ้นอันใกล้ๆ แต่ละอันมีแต่ของเล่นหวาดเสียว ซึ่งจะว่าไปก็ปลดปล่อยดี แต่ผมว่าในฐานะคนที่ลงกรวยมาหลายครั้ง ความหวาดเสียวแบบนี้ยังสู้ช่วงเวลาที่อยู่ในสุสานไม่ได้ แต่ผมกับนายอ้วนก็บ้า พากันเลือกขึ้นแต่เครื่องเล่นหวาดเสียวชนิดกรี๊ดสุดเสียงยังไม่หายกลัว เล่นไปได้จนย่ำเย็นถึงเริ่มเหนื่อย หาที่ล้มตัวนั่งพักกันแถวๆ ใกล้เครื่องเล่น

ผมถอนหายใจยาวเหยียด เริ่มรู้สึกสนุกที่มาที่นี่บ้าง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีอะไรเย็นๆ แตะที่แก้ม

“เอ้า กินน้ำหน่อยเทียนเจิน เดี๋ยวจะแห้งตายซะก่อน” นายอ้วนว่าพร้อมฉีกรอยยิ้ม เหมือนจะเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ผมมองขวดน้ำที่นายอ้วนแปะกับแก้มตัวเอง ก่อนจะหยิบมาเปิดฝาแล้วเทอั๊กๆ ลงปาก “ฮ่า!”

“วันนี้อากาศร้อนแท้ ฉันจำได้ว่าพยากรณ์บอกว่าจะมีเมฆมาก ไอ้ตอนแรกก็นึกว่าจะเย็นๆ หน่อย ที่ไหนได้ ร้อนตับแตก”นายอ้วนบ่นพึมพำพร้อมนั่งลงข้างๆ ผม ปาดเหงื่อตัวเองทิ้ง เราพิงหลังแผ่กันบนเก้าอี้ นั่งจิบน้ำไปพลางดูคนเดินผ่านไปมาไปพลาง

ตอนนี้ย่ำเย็นแล้ว พระอาทิตย์คล้อยหลัง แต่อากาศยังร้อนอบอ้าวเหนอะหนะ ไม่มีแม้แต่สายลมพัดโกรกมา

“เทียนเจิน ไปเล่นกันต่อไหม” นายอ้วนว่าขึ้น

ผมหันขวับไปหานายอ้วนทันที “นี่นายยังเล่นต่อไหวเรอะ ฉันจะอ้วกแตกแล้วนะ”

“ขึ้นเขาลงกรวยมาก็เยอะ ทำไมแค่นี้เหนื่อย” นายอ้วนหันมาถามผม ทำท่าเหยียดผมนิดๆ ผมเลยฉุนกึ๊กตวาดใส่เข้าให้

“เวลาลงกรวยมันไม่ได้ควงสว่านให้เครื่องในปั่นแบบนี้นี่หว่า!”

พอได้ยินแบบนั้น นายอ้วนก็นิ่งไปแล้วผงกหัวเห็นด้วย “งั้นก่อนกลับ ไปขึ้นไอ้นั่นกัน”

ผมมองตามสายตานายอ้วนไปยังชิงช้าสวรรค์ที่กำลังหมุนเอื่อยๆ

นายอ้วนมองผม ท่าทางนี่จะอยู่ในแพลนของเจ้าตัว ผมมองชิงช้าสวรรค์ที มองนายอ้วนที ครุ่นคิดว่าแค่ชิงช้าสวรรค์คงไม่ได้ร้ายแรงอะไรเท่าไหร่..

“งั่นก็ไป”

+++++++++++++++++++

แถวต่อคิวขึ้นชิงช้าสวรรค์ยาวเหยียดมาก

เท่าที่ถามคนที่ยืนด้านหน้า ดูเหมือนชิงช้าสวรรค์ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องวิวสวย คนเลยชอบมาขึ้นกัน  แถวจึงยาวเหยียดอย่างที่เห็น ผมได้ยินแวมองหน้านายอ้วน ท่าทางหมอนี่จะรู้อยู่แล้วแต่ไม่ยอมบอกอะไรผม กะจะเซอร์ไพรส์กันหรืออย่างไร

ผมคงโกหกถ้าบอกว่าไม่ดีใจเรื่องนั้น จึงยังคงต่อแถวอันยาวเหยียดรอขึ้นชิงช้าสวรรค์ต่อไป

แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้



.

.

พยากรณ์อากาศโกหกคำโต .... ฝนไล่ช้างตกลงมาห่าใหญ่ได้ยังไงกัน

.

.




ตอนที่กำลังรอเข้าแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์กันอยู่ ฝนก็เริ่มเทโครมลงมา คนที่ต่อแถวกันก่อนหน้าเราเริ่มแตกแถว บ้างก็หาที่หลบฝน บ้างก็หยิบร่มขึ้นมาแล้วยังอยู่คงในแถว

“ไหนนายบอกพยากรณ์มีแค่เมฆมาก”ผมเอ่ยถามนายอ้วน มองเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุย ทั้งที่วันนี้แดดออกจัดจ้าทั้งวัน ตกเย็นมาฝนดันร่วงลงมาซะฉิบ

“เทียนเจินจะเชื่ออะไรกับพยากรณ์ อีกอย่างมีเมฆมาก ฝนจะไม่ตกได้ไง”นายอ้วนกอดอกแถเสียงเรียบหน้าตาจริงจัง ท่าทางไม่ยอมรับความผิดตัวเองเท่าไหร่

ผมถอนหายใจพรืด หยิบร่มที่มักติดกระเป๋าตัวเองขึ้นมากาง ก่อนจะกลอกตามองนายอ้วนที่ยังยืนนิ่ง แถมยังขยับเข้ามาในร่มจนไหล่เราเกยกัน

“นายอ้วน ทำไมไม่เอาร่มขึ้นมา?”



หยิบร่มพับที่ทิ้งไว้ในกระเป๋าออกมา พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย .... และตอนนั้นเอง




“เสี่ยอ้วนไม่ได้เอาร่มมา”

นายอ้วนพูดหน้าตาย



" ช่วยไม่ได้นะ ขอติดร่มไปด้วยละกัน " เธอพูดพลางหัวเราะอยู่ข้างๆ




ได้ยินแบบนั้นผมก็หันขวับมองนายอ้วนทันที

“นายอ้วน อย่ามาแหล! ฉันเห็นร่มในกระเป๋านาย” ผมบอกพร้อมชี้กระเป๋าของเขา ตอนเราจะจ่ายเงินค่าข้าวผมเห็นร่มพับนอนนิ่งอยู่ในนั้น จะมาหาต๋อมไปได้ไง

“ฉันทำหายไปแล้ว”นายอ้วนลอยหน้าลอยตาพูด กระเถิบเข้ามาในร่มของผมเมื่อฝนเริ่มตกหนักขึ้น ความอบอุ่นจากร่างกายเขาเริ่มทำให้ผมไปไม่ถูก

“ไปเสือกทำหายตอนไหน วันนี้เราอยู่ด้วยกันทั้งวัน ฉันไม่เห็นนายจะเปิดกระเป๋า” ผมยังคงถามต่อไป

“เสี่ยอ้วนทำหายแล้วกันน่- เฮ้ยเทียนเจินทำอะไร!” นายอ้วนร้องโวยวายเมื่อผมค้นกระเป๋าของผม เจอร่มอีกคันนอนนิ่งอยู่ในนั้น

“แล้วนี่อะไร” ผมโบกร่มพับในมือตน จ้องหน้านายอ้วนที่ทำตัวเหมือนคนร้ายโดนจับไต๋ได้ ผมจ้องหมอนั่นครู่ใหญ่ ก่อนจะพรูลมหายใจ ยื่นร่มของตัวเองให้นายอ้วนแล้วปลดร่มของอีกฝ่ายเตรียมกาง

ถ้านายอ้วนไม่พึมพำพูดอะไรขึ้นมาซะก่อน

“เสี่ยอ้วนอยากอยู่ร่มเดียวกับเทียนเจิน มีปัญหาไหม”

“……….”



เสียงตกหลุมรักดังขึ้น






วันนี้แม่งทำตัวน่ารักเกินไปแล้ว!!!





MELT! ราวกับอากาศขาดหายไป

มือขวาที่แตะโดนเธอนั้น สั่นเทาไม่หยุด

หัวใจเต้นแรงระรัว ภายใต้ร่มครึ่งฟากนี้

เธอห่างไปเพียงแค่มือเอื้อมเอง ทำยังไงดี...!

อยากให้ความคำนึงในใจนี้สื่อไปถึงเธอ




วันนี้นายอ้วนทำตัวน่ารักมาก ผมว่าผมใกล้บ้าแล้วนะ  ปกติแม่งออกจะทำตัวบ้าบอเฮฮาไร้สาระ ทำไมวันนี้หลุดมาแต่ละคำแต่ละการกระทำ ทำผมใจสั่นแบบนี้วะ!

ผมตัดสินใจเก็บร่มนายอ้วนลงกระเป๋าตัวเอง เสียบมือเข้ากระเป๋ากางเกง ขยับเข้าไปหลบฝนใกล้ๆ นายอ้วน ผมไม่สนใจว่านายอ้วนจะพูดอะไร ทักอะไร เพราะตอนนี้ผมเขินควันออกหูจนไม่ได้ยินอะไรแล้ว

ภายใต้ม่านฝน ผมรู้สึกว่าเสียงหัวใจดังขึ้นเรื่อยๆ อากาศร้อนอบอวลขึ้นภายใต้ร่มที่มีผมกับนายอ้วนอยู่ด้วยกัน ไม่รู้ทำไมผมชักอยากขอบคุณที่ฝนตกขึ้นมา อย่างน้อยก็ทำให้เรามีข้ออ้างที่จะยืนใกล้ชิดกับแบบนี้โดยคนอื่นไม่คิดมาอะไร

ผมว่าผมใกล้บ้าแล้ว ถึงอยากให้เวลาแบบนี้เดินไปเรื่อยๆ




ขอร้องเถิด เวลาเอยโปรดหยุดลง ฉันแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว

แต่ว่าก็มีความสุขเหลือเกิน จนแทบจะตายอยู่แล้ว!





“เสี่ยอ้วนว่าวันนี้กลับเหอะ”

“หือ?” ผมอุทานขึ้น มองนายอ้วนที่พรูลมหายใจยาว ยกมือวางเหนือสายตาแล้วมองไปทางชิงช้าสวรรค์

“ฝนตกแบบนี้แค่กลับบ้านนายก็ลำบากแล้ว อีกอย่างขึ้นชิงช้าสวรรค์ไปก็เปียกซ่กอยู่ดี ที่นี่เป็นแบบเปิดโล่งเสียด้วย เสี่ยอ้วนยังไม่อยากให้เทียนเจินเป็นหวัดหรอกนะ”

ว่าจบ นายอ้วนก็ถือร่มเดินเลี่ยงออกมาจากแถวที่รอขึ้นชิงช้าสวรรค์ ผมเองอาศัยร่มที่หมอนั่นถืออยู่ เลยต้องเดินตามออกมาด้วย

ระหว่างทางเราไม่ได้คุยอะไรกัน มีเพียงเสียงของสายฝนที่พร่างพรมลงมา กับเสียงฝีเท้าของเราเท่านั้น

ผมลอบมองสีหน้าของนายอ้วน มันก็ดูปกติดี แต่ผมคงคิดไปเองว่ามันมีแววผิดหวัง

พวกเราเดินออกมาจากสวนสนุก รอที่ป้ายรถประจำทางไม่นานก็มา ความเงียบยังคงเป็นสิ่งที่คั่นกลางระหว่างเรา ก่อบรรยากาศมาคุที่ทำให้ผมอึดอัด หงุดหงิด และขัดเคือง

“โทษทีนะเทียนเจิน”

ท่ามกลางความเงียบ นายอ้วนก็ว่าขึ้น ผมขมวดคิ้ว เอ่ยถามกลับอย่างสงสัย “นายมาขอโทษฉันทำไม”

“เทียนเจินอุตส่าห์ชวนเดท แต่ฉันดันทำแพลนทุเรศๆ มาซะได้ แถมยังฝนตกอีก พังไม่เป็นท่าเลย” หมอนั่นถอนหายใจเฮือกหัวเราะขื่นๆ ยกนิ้วถูจมูกตัวเองแก้เก้อ

ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะช่วงแรกของเดทมันก็น่าขนลุกอย่างพินาศจริงๆ แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าหลังจากนั้น ผมสนุกกับมันมาก วันนี้ไม่ใช่การเที่ยวเล่นที่แย่อะไร

แต่เนื่องจากผมเองนิยามมันว่าเที่ยว ไม่ใช่เดท ผมจึงได้แค่เงียบ ไม่ได้ยอมรับคำขอโทษของเขา และไม่ได้ปฏิเสธออกไป




[color=#FF00FF]
MELT มาถึงสถานีรถซะแล้ว...

จะไม่เจอกันแล้ว แม้อยู่ใกล้แต่ก็เหมือนไกลเหลือเกิน




นั่งรถบัสได้ไม่นานนักก็มาถึงบ้านผม เมื่อถึงเวลานี้ ฝนยังคงตกพรำๆ แต่ไม่หนักมากเท่าก่อนหน้า

พวกเราเงียบกันมาตลอดทาง ผมว่านายอ้วนคงเสียใจไม่น้อยที่เดทวันนี้ไม่ราบรื่นอย่างที่เขาคาดหวังไว้ ตัวผมเองไม่คิดอะไร แต่คนที่วางแผนเดทมาอย่างเขาคงเสียใจน่าดู

พวกเราเดินลงจากรถ นายอ้วนหยิบหมวกคืนไปจากหัวผม มองซ้ายมองขวาแล้วคว้าผมไปกอดทีนึง ก่อนจะปล่อยแล้วตบแขนเบาๆ พึมพำว่าไว้เจอกันคราวหน้า

ผมพึมพำตอบเขา โบกมือลาแล้วมองไล่หลังนายอ้วนไป ความรู้สึกบางอย่างจู่โจมผมอย่างไม่คาดคิด

คำว่าเดทตกลงมันคืออะไรกันแน่ มีความหมายจริงๆ หรือ

ความจริงแล้วมันก็คือการไปเที่ยวกับดีๆ นี่เองใช่ไหม แค่ว่าสำหรับ ‘เพื่อน’ ใช่เที่ยว แฟนใช้ ‘เดท’

วันนี้ผมสนุกจริงๆ เป็นเดทที่ยอดเยี่ยม ถึงช่วงแรกจะขลุกขลักไปบ้าง แต่พอผมคิดว่าเขาพยายายามทำเพื่อผม ผมกลับรู้สึกว่ามันน่ารักขึ้นมา

อีกอย่าง เจอกันคราวหน้ามันเมื่อไหร่หรือ?

หังโจวกับปักกิ่ง แม้ไม่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้ ไม่ใช่ว่าเราสองคนจะไปมาหาสู่กันง่ายๆ ผมมีชีวิตของผม นายอ้วนก็มีชีวิตของนายอ้วน พวกเราต่างมีภาระหน้าที่ต้องทำ ต้องอีกนานแค่ไหนกว่าจะนัดเจอกัน อยู่ด้วยกันทั้งวันได้แบบนี้?

ช่วงเวลาของเราในวันนี้จะจบลงแบบนี้จริงๆน่ะหรือ?




เพราะอย่างนั้น



ผมสูดลมหายใจลึก เขวี้ยงร่มในมือทิ้ง วิ่งตามหลังนายอ้วนไป




MELT! จึงอยากจะจับมือเธอไว้แล้วเดินไปด้วยกัน!




ผมคว้าหลังเสื้อนายอ้วนไว้ หอบหายใจแผ่ว โชคดีที่เพราะฝนตกคนจึงไม่พลุกพล่าน

นายอ้วนชะงักกึก หันมามองผม

“มีอะไรเทียนเจิน”


ถึงเวลาจะต้องลากันจริงๆแล้วน่ะเหรอ?



“อย่าเพิ่งกลับ...” ผมเอ่ยเสียงเบา หอบเล็กน้อย มือยังคงรั้งหลังเสื้อนายอ้วนไว้ “อยู่ด้วยกันก่อน”

“..เทียนเจิน จะเที่ยวต่อรึ? แต่มันย่ำเย็นแล้วขนาดนี้เที่ยวไม่ได้แล้วมั้ง” นายอ้วนหันมามองผม พวกเราสองคนต่างไม่มีร่ม ฝนตกต้องกายจนเย็นเฉียบ

“กินข้าวเย็นด้วยกัน ไปก๊งเหล้าต่อก็ได้” ผมรีบบอกเขา หาข้ออ้างอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาอยู่กับผมต่อ

“…ไว้คราวหน้าเหอะ วันนี้ฉันไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปทำใจ” นายอ้วนว่าพร้อมฉีกยิ้มเหมือนไม่มีอะไร แล้วยกนิ้วโป้งใส่ผม “ไว้คราวหน้า เสี่ยอ้วนจะคิดแผนเดทชนิดที่เทียนเจินยังต้องตกตะลึงให้ดู!”

พอเห็นหมอนั่นพูดแบบนี้ผมก็ฉุนกึ๊กทันที ผมไม่ต้องการให้นายอ้วนคิดแผนเดทดีๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องการมีเพียงอย่างเดียว

ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเขา




ช่วยกอดรั้งฉันเอาไว้ทีสิ!





“ฉันอยากอยู่กับนายนานกว่านี้ มีปัญหาอะไรไหม!!”

ผมตะโกนบอกหมอนั่นอย่างเหลืออดเหลือทน แล้วก็หอบหายใจ

นายอ้วนมองผมอึ้งๆ ดวงตาเบิกค้างนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไร ส่วนผมพอสติกลับมาก็ชักเริ่มอาย ดีที่แถวนั้นไม่มีคน ไม่งั้นผมได้มุดดินแถวนี้หนีลงไปแน่ๆ

นายอ้วนจ้องผมนานมาก ผมเองก็จ้องกลับ กระดากอายจนพูดอะไรไม่ออก ร่างกายชาสั่นไปหมด แม่งจะจ้องผมอีกนานไหม ถึงยังไงผมก็เขินเป็นนะเว้ย!

นายอ้วนกะพริบตา ลูบหน้าตัวเอง ก่อนจะดึงแขนผมพาเดินเข้าไปในซอกแคบๆ ระหว่างบ้านสองหลัง

ผมเดินตามนานอ้วนไป สมองยังเบลอและมึนงง รู้ตัวอีกทีก็โดนนายอ้วนจับตัวพิงกำแพง มองด้วยสีหน้าจริงจังแบบที่เคยเห็นเมื่อครั้งที่เราตกลงคบกัน

แล้วริมฝีปากของเราก็ทาบทับกัน

ผมเบิกตาเล็กน้อย ตัวเกร็ง แต่ไม่ได้ขัดขืน นายอ้วนจูบผมรุนแรงมาก ริมฝีปากบดเบียดหนักหน่วง แขนของเขาสอดมากอดรัดเอวผมไว้ ในขระที่ริมฝีปากผละออกเปลี่ยนมุมแล้วจูบลงมาอีกครั้ง ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรเฉอะแฉะขยับรุกเข้ามาในปาก คิดว่าน่าจะเป็นลิ้นของเขา

ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนเห่อขึ้นมา หลับตาลง พยายามตอบจูบเขา ตอบสนองลิ้นที่นำทางผมอยู่ เราจูบกันอย่างนั้นนานมาก ฝนที่ตกลงมาแทบจะระเหยเพราะความร้อนของเราด้วยซ้ำ

ผ่านไปครู่ใหญ่ นานอ้วนก็ถอนจูบ และเราก็ต่างหอบหายใจ

ผมกำลังพยายามตั้งสติ นายอ้วนก็สบถขึ้น

“เทียนเจินแม่ง เสี่ยอ้วนอุตส่าห์อดทนแทบตาย มาทำให้คนอื่นเขาตบะแตกทำไม!”

นายอ้วนกอดอกโวยวาย ส่วนผมกะพริบตาปริบ ทวนคำพูดของเขา “อดทน?”

“ใช่สิ!”

พอได้ยินแบบนั้นกับท่าทางกึ่งขึงขังกึ่งโมโหของเขา ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “นี่ตกลงที่นายไม่ทำอะไรฉันมาสามสี่เดือนนี่คืออดทนอยู่เหรอวะ!?”

“ใช่สิ รู้ไหมฉันใจดีแค่ไหนแล้วไม่รุกนายหนักๆนะ” นายอ้วนว่าขึ้น กอดอกทำท่าเหมือนตัวเองเป็นคนดีวะเต็มแก่ “เทียนเจินจู่ๆ คบกับผู้ชายก็รู้สึกแปลกๆ ใช่ไหมล่ะ แล้วคิดว่าเสี่ยอ้วนจะเลวเร่งรัดให้มันลึกซึ้งขึ้นเหรอ?”

“แล้วไอ้ที่ทำไปตะกี้?”

“ก็ดันพูดอะไรน่ารัก เสี่ยอ้วนก็ตบะแตกสิ!”

นายอ้วนตะโกนใส่ผม ก่อนจะอุทานร้องเสียงหลง เพราะผมดันอ้าแขนไปกอดเขาแน่น

“เทียนเจิน! ปล่อยเฟ้ย!”

“ไม่!” ผมตอบนายอ้วนแล้วรัดนายอ้วนแน่นกว่าเก่า ซุกใบหน้ากับไหล่เขา ก่อนจะเงยหน้าหอมแก้มฟอดให้ตกใจเล่นๆ แล้วจากนั้นผมก็หัวเราะใส่สีหน้าเหวอๆ ของเขา

ทำไมหมอนี่น่ารักขนาดนี้ ผมควรบอกว่าตัวเองโชคดีใช่ไหมที่ได้รักกับนายอ้วน อาจจะโชคดีก็ได้ อย่างน้อยผมก็คิดว่าตอนนี้ตัวเองมีความสุขมากๆ

ผมเคยบอกนายอ้วนว่าอนาคตไม่แน่นอน บางทีผมอาจจะขอเลิกกับเขา แล้วตอนนั้นเจ้าตัวก็บอกว่าจะไม่มีวันปล่อยผมไป ซึ่งผมก็ดีใจอยู่หรอก

แต่ว่านะ ตอนนี้ผมกลับคิดว่าตัวเองไม่อยากปล่อยหมอนี่ไป บางทีถึงตอนนั้นนายอ้วนอาจเป็นฝ่ายทิ้งผมก็ได้ แต่ผมไม่มีวันทิ้งหมอนี่หรอก

จะตามง้อให้ถึงสุดขอบโลกไปเลย!!


ว่าไปนั่น






END

++++++++++++++++++++++++++++++++++





ปกติไม่เขียน Talk หลังฟิค แต่คราวนี้ คิดว่าอยากจะเขียน

คือซินก็คิดนะ ซินบ้าเหรอวะ นั่งเขียนฟิคเรือแพยาวเหยียด ไร้สาระ สาวน้อย หวานแหววมุ้งมิ้งอ้วกแตกแบบนี้

แต่คือด้วยความที่ว่า ตั้งแต่เขียน Will You Be My Girl? ก็อยากเขียนเดทแรกของสองคนนี้ต่อ ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้ฟีลของคำว่า “เราเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ” แต่เขียนไปเขียนมา..ไม่สิ ต้องบอกว่าเพราะเพลง Melt! เลย..เป็นอย่างที่เห็น กลายเป็นซองฟิคที่ไร้สาระหูดับตับไหม้

นายน้อยคาแรกเตอร์หลุดบ้างขออภัย ใส่อินเนอร์ติ่งนายอ้วนลงไปล้วนๆ



จริงๆแล้วมีเรื่องที่อยากพูดอีกเรื่อง

เป็นเรื่องของคุณหมอเกาลัด แกเล่าให้ฟังว่า แกเคยตั้งสเตตัสตอนอกหักจากแฟนใหม่ๆ เขาเขียนสเตตัสประมาณว่า จาก Complete ก็กลายเป็น Incomplete

จากนัน้ คุณป๊าของหมอเกาลัดก็มาเมนต์สเตตัสนั้น บอกว่า เอาแบบนี้ไหม เราน่ะ Complete อยู่แล้ว แต่เมื่อเขาเข้ามาก็เปน Perfect ยามเขาจากไป เราก็แค่กลับไปเป็น Complete

สำหรับซิน คู่ผิงเสียเป็นตัวแทนของIncomplete-Complete ส่วนคู่เสียอ้วน เป็นตัวแทนของ Complete-Perfect

เพราะสำหรับซิน ผิงเสียเป็นสิ่งเดียวกัน มีสายสัมพันธ์โยงใยที่ขาดกันไม่ได้ ถึงแยกห่างก็ยังโหยหากัน ไม่อาจครบถ้วนสมบูรณ์หากขาดใครอีกคนไป ให้พูดก็คง “ยามห่างกัน ใจทุรนทุรายโหยหา”

ส่วนอ้วนเสีย กลับไม่เป็นแบบนั้น ซินโคตรหาโมเมนต์ดราม่าให้ไม่ได้ ถึงหาให้ก็สงสารเกินไป เวลาดาร์กองค์ลงเลยเขียนแต่ผิงเสีย lol

คู่นี้จะให้ความรู้สึกประมาณว่า “ฉันอยู่คนเดียวฉันก็สบายดี ไม่มีนายฉันก็อยู่ได้ แต่ในเมื่อเราอยู่ด้วยกันแล้วสนุกกว่า เราจะต่างฝ่ายต่างอยู่ทำไม?”

เรื่องที่อยากจะพูดมีแค่นี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านฟิคเรือแพนี้นะคะ มีใครสนใจมาแจวด้วยกันไหมคะ /ร้องไห้ ถือพายเตรียมหาคนแจวด้วย
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4054
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by oilypicca Wed 29 Oct 2014, 21:00

เพิ่งเคยอ่านฟิคเรืออ้วนเสียค่ะ นายอ้วนเรื่องนี้นี่ฟีลพระเอกมาเต็มค่ะ เสี่ยอ้วนน่ารักอ่ะ
อู๋เสียตัดผมหน้าม้า 55555555555 นึกภาพออกเลยค่ะ การตัดผมหน้าม้าเองนี่มันน่าอายขนาดไหน แต่ก่อนเราตัดบ่อยแล้วโดนล้อทุกครั้งว่ามันเบี้ยว ฮาาาาาาา
เทียนเจินไม่เทียนเจินแล้ว ฉากนายอ้วนลากเข้าซอกนั่น...//ด้วงปิดตา

ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ *เกาะเรือผิงเสีย/ฮัวเสียแน่น* 555555
oilypicca
oilypicca
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 61
Points : 3533
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ใต้เตียงเรือนหอสกุลจาง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by Koume Wed 29 Oct 2014, 21:09

โอ้ยยย น่ารักกก ฮือ เสี่ยอ้วนคนดี เสี่ยวกง เสี่ยวเกออะไร ไม่เอาแล้วค่ะ! /เอ๊ะ.../
ตอนกอดนายอ้วนนี่คงเต็มไม้เต็มมือดี เราอยากกอดบ้าง /โดนนายน้อยชก

แต่ตอนไปเที่ยวนี่จู่ๆก็นึกภาพอาเสี่ยลงพุงพาหนุ่มน้อย(จะสามสิบ)ไปต้อย...
รักเสี่ยนะคะ(....)
Koume
Koume
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 77
Points : 3611
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานวิกผมสกุลจาง

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by Nathael Wed 29 Oct 2014, 21:20

อ๊ากกกกกกก มัน น่า รัก มากกกกก แต่เรากลับเห็นเสี่ยอ้วนเป็นสาวน้อยส่วนนายน้อยเป็นแฟนหนุ่มไปซะนี่555 เป็นคู่ที่อยู่ดัวยกันแล้วกำไรดีเนอะคะ (ส่วนผิงเสียนั่นเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ555)

Nathael
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 18
Points : 3488
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by Fenrir Thu 30 Oct 2014, 11:22

โอ๊ยยยยยยยยยยยยย อ่านแล้วอยากเข้าไปกอดแล้วซุกพุงนายอ้วนหนุบหนับ! นายอ้วนน่ารักมากกกกกกกกกกกก
Fenrir
Fenrir
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 117
Points : 3614
Join date : 27/10/2014
Age : 32
ที่อยู่ : ไหสักใบในบ้านสกุลอู๋

http://fenrirsglue.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by meanato Thu 30 Oct 2014, 14:07

กรีดร้องงงงงงงงงง ได้แต่กรีดร้อง ทำไมมันน่ารักงี้เนี่ย
meanato
meanato
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 487
Points : 3961
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by Narakas Fri 14 Nov 2014, 01:05

แง เคยเห็นแว้บๆ เพิ่งตามอ่าน เค้าพลาดดด
น่ารักมากค่าาาา

//ขออภัยที่ขุดโพสต์ แต่ถ้าไม่เม้นท์นี่จำไม่ได้ค่ะ ว่าอ่านหรือยัง lllOrz
Narakas
Narakas
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 263
Points : 3841
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทิเบต

ขึ้นไปข้างบน Go down

[SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย] Empty Re: [SF] First Date that MELT Your Heart! [นายอ้วน x อู๋เสีย]

ตั้งหัวข้อ by meirong2810 Fri 16 Jan 2015, 09:33

น่ารักมากกกกก น่ารักไม่ไหวแล่วววว
/แจวเรืออย่างไว/
meirong2810
meirong2810
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 28
Points : 3493
Join date : 01/11/2014
Age : 23
ที่อยู่ : ในใจนายน้อยเทียนเจินอู๋เสีย วิ้วววว ♥️♥️♥️♥️

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ