Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
+2
galu
velvetronica
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
[OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
สปอยแปลเก้าสกุล
และควรอ่านฟิค'สายฝน'ก่อนะคะ >>>https://dmbjth.thai-forum.net/t378-topic
เฉินผีอาซื่อเพิ่งกลับขึ้นมาบนดินตอนที่มีคนเข้ามาแจ้งว่ามีจดหมายส่งมาจากฉางซา เนื้อความในจดหมายกล่าวถึงอาการเจ็บป่วยของคุณหญิงสกุลเอ้อร์เพียงสังเขปพร้อมกับคำกำชับว่าหากเป็นไปได้ให้รีบกลับมา แต่ในตัวอักษรเหล่านั้นเขาเห็นความกังวลใจของเอ้อร์เย่ว์หงสอดแทรกอยู่มากมาย
ชายหนุ่มเร่งเดินทางอย่างไม่สนใจใคร แต่เมื่อกลับถึงฉางซา...บ้านสกุลเอ้อร์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เค้าลางความวุ่นวายและเศร้าหมองในตัวบ้านทำให้ลางสังหรณ์ของเขากรีดร้อง เฉินผีอาซื่อคว้าตัวเด็กรับใช้คนหนึ่งเอาไว้แล้วถามเสียงเหี้ยม
"อาจารย์พ่ออยู่ไหน"
เฉินผีอาซื่อถือว่าตนเป็นศิษย์รัก ต่อให้ประมุขของบ้านเก็บตัวอยู่ในห้องสั่งไว้ไม่ให้ใครรบกวน แต่พอเป็นเขาก้าวเข้ามาทุกคนก็พากับหลบฉากไปหมด
"ท่านเฉิน" เสียงหนึ่งเรียกเขา เป็นชายหนุ่มหน้าละอ่อนซึ่งกำลังเริ่มมีบทบาทในวงการคว่ำกรวย
"หมาอู๋" เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่วางใจ
"ท่านมาก็ดีแล้ว...จิ่วเย๋วานให้ข้ามาดูท่านเอ้อร์" อู๋เหลาโก่วว่าด้วยสีหน้ากังวล "แต่ท่านเอ้อร์ไม่ยอมให้ใครเข้าพบ ข้าวปลาที่ส่งไปก็ไม่แตะต้องสักนิด"
สิ้นสุดคำนั้นเขาก็เดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไปโดยไม่คิดจะสนทนาต่อ ในสายตาของเขาต่อให้เป็นจางฉี่ซานหรือป้านเจี๋ยหลี่ก็ล้วนไม่สำคัญ
"อาจารย์พ่อ"
ชายผู้หนึ่งนั่งนิ่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง ดวงหน้างดงามฉายแววเศร้าโศกเกินคำบรรยายใดๆ เอ้อร์เย่ว์หงหันหน้ามามองผู้มาเยือน ริมฝีปากได้รูปเผยอขึ้นราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีเสียงใดลอดออกมา
เอ้อร์เย่ว์หงเป็นหนุ่มรูปงามอย่างยิ่ง แม้ในตอนที่เสื้อผ้าเลอะโคลนไปทั้งตัวและผมเผ้ายุ่งเหยิงดูไม่ได้สักนิด
เฉินผีอาซื่อเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะทรุดลงนั่งที่พื้นข้างเก้าอี้กลม มือที่หยาบกร้านค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสมือที่ใช้จับพัดรำงิ้ว แล้วจึงก้มหน้าแนบหน้าผากลงแตะ
"...อาซื่อ" เสียงที่เคยไพเราะอย่างยิ่งสั่นเครือไม่เป็นคำ
คนที่ถูกเรียกรู้ว่ามีหยดน้ำมากมายร่วงหล่นลงมาจากดวงตาคู่งาม เขารับรู้และสัมผัสถึงคลื่นความเจ็บปวดที่กำลังซัดโถมอยู่ภายในจิตใจของอีกฝ่าย
เอ้อร์เย่ว์หงร้องไห้อย่างเงียบเชียบ เขาเพียงปล่อยให้ความรู้สึกที่ล้นทะลักมันไหลออกมาพร้อมกับน้ำตา
อาจารย์แม่ตายแล้ว
และเฉินผีอาซื่อรู้ดี...หากไม่มี 'ยัยหนู' โลกทั้งใบของเอ้อร์เย่ว์หงก็คงไร้ซึ่งสีสันใดๆ
งานศพของฮูหยินถูกจัดอย่างเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่สำหรับภาวะสงครามที่ผู้คนอดอยากจนแทบจะฆ่ากันเพื่อให้หายหิว ฮูหยินของบ้านสองเป็นคนน่ารัก ไม่ว่าใครก็ล้วนเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของนาง ดังนั้นพิธีการต่างๆ ก็มีแต่คนพร้อมจะมาเข้าร่วมและให้การช่วยเหลือ
เอ้อร์เย่ว์หงใช้รอยยิ้มที่ถูกฝึกมาอย่างดีต้อนรับทุกคน ประมุขของสกุลจะทำตัวอ่อนแอมิได้ เขาจึงต้องยืนหยัดอยู่ในงานที่ไม่อยากเข้าร่วมมากที่สุดอย่างสง่างาม
จางฉี่ซานและคนสกุลจางไม่ได้มาร่วมพิธีด้วยเหตุผลทางการเมือง และเอ้อร์เย่ว์หงก็ปฏิเสธความช่วยเหลือทุกทางที่อีกฝ่ายพยายามมอบให้
เฉินผีอาซื่อเห็นอู๋เหลาโก่วลอยไปลอยมาอยู่รอบงาน สิ่งที่หมาอู๋ทำคือเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะพอผู้ใหญ่พากันวุ่นวายก็ต่างลืมเด็กสามคนที่ถูกลากมาร่วมพิธีในฐานะลูกชาย สิ่งมีชีวิตที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่เท่าไร จะเข้าใจแค่ไหนว่าความตายคืออะไร เด็กน้อยถูกจับแต่งตัวด้วยชุดผ้าดิบเนื้อหยาบตามพิธีการจึงพากันร้องโยเยไม่พอใจและอยากจะหาแม่จนเป็นที่น่าสลดใจ แต่จังหวะนี้เองที่มีเจ้าลูกหมาตัวน้อยวิ่งแถ่ดๆ เข้าไปหา อู๋เหลาโก่วหลอกล่อเด็กให้หายงอแงได้เก่งไม่เบา...
เขาเข้าร่วมงานอย่างเงียบสงบ เขาเฝ้าดูอาจารย์พ่อและมองดูทุกขั้นตอนสำหรับที่พักชั่วนิรันดร์ของอาจารย์แม่โดยละเอียด
เซี่ยจิ่วเย๋แห่งบ้านเก้าทำงานได้ละเอียดรอบคอบไร้ความติดขัด เขาได้ยินจากเด็กในโรงงิ้วว่าคนแรกที่เข้าไปแกะมือเอ้อร์เย่ว์หงออกจากศพฮูหยินคือสกุลเซี่ยคนนี้ จากนั้นเขาก็สั่งการจัดงานศพอย่างสมเกียรติให้กับสตรีผู้แลกชีวิตของตนเพื่อคนนับพัน
เรื่องที่อู๋เหลาโก่วถูกเรียกมาก็คงไม่พ้นการวางแผนอย่างแยบยล...
เฉินผีอาซื่อปล่อยให้ภาพต่างๆ ไหลผ่านครรลองสายตาและผสมปนเปกับความคิดลึกล้ำที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก
วันนั้นท้องฟ้าดูมืดมัว เมฆฝนตั้งเค้าอย่างน่ากลัวไม่ชวนให้ก้าวออกนอกชายคา แต่ชายหนุ่มกลับเก็บข้าวของอย่างเงียบเชียบแล้วเดินออกมาจากห้องพัก
"เจ้าจะทำอะไร...อาซื่อ"
"ข้าจะทำอะไรไม่เคยพ้นสายตาอาจารย์พ่อ"
เฉินผีอาซื่อตอบรับคำถามนั้นอย่างสงบนิ่ง เอ้อร์เย่ว์หงมองสีหน้าเรียบเฉยและดวงตาของคนที่รักราวกับลูกด้วยความรู้สึกหลากหลาย
"ความตั้งใจของอาจารย์แม่...เจ้าจะทำลายมันหรือ"
"ความตั้งใจของอาจารย์แม่หรือกลลวงแห่งเก้าสกุล" เขาถามกลับ "ท่านเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ"
"พอ!!!"
บาดแผลสดใหม่ไม่พร้อมรับแรงกระทบใดๆ ผู้นำแห่งบ้านสองส่ายศีรษะ สำหรับเขาการคิดถึงสิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ประโยชน์...เพราะมันไม่เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงที่ว่ายัยหนูได้จากเขาไปแล้ว
"อาซื่อ...อาจารย์แม่ของเจ้าไม่อยากให้มีคนตายไปมากกว่านี้"
"แล้วมีใครเคยสนใจไหมว่าอาจารย์แม่ต้องตาย" คำถามทีาเจ็บปวดกว่าสิ่งใด แต่คนทรมานที่สุดกลับหลับตาแล้วตอบอย่างใจเย็น
"บางสิ่งบางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุม"
"ข้าจะทำให้มันอยู่ในการควบคุมของข้า"
"...อาซื่อ หากเจ้าฆ่าคนนอกกรวย...ก็จงออกไปจากสำนักนี้"
คำตัดสัมพันธ์ที่เอ้อร์เย่ว์หงกล่าวออกมาง่ายดายทำให้ชายหนุ่มนิ่งงัน เฉินผีอาซื่อมองคนที่ตนรักเคารพราวกับบิดาแท้ๆ ด้วยสายตาที่สงบอย่างยิ่ง ก่อนจะเอ่ยเป็นคำสุดท้าย
"ถ้าเช่นนั้น...ข้าขอลา"
เฉินผีอาซื่อหันหลังแล้วเดินออกไปจากบ้านสกุลเอ้อร์ตลอดกาล
เม็ดฝนมากมายทิ้งตัวลงมาจากฟากฟ้า ชายหนุ่มเดินไปทีละก้าวบนพื้นที่เฉอะแฉะไปด้วยโคลน เขาคิดไว้ว่าอันดับแรกที่เขาต้องจัดการคือสกุลจาง และพวกทหารญี่ปุ่น...รวมถึงบรรดาเก้าสกุล
พลันสองเท้าที่กำลังก้าวเดินก็หยุดชะงักตรงหน้าบ้านสกุลจาง
สายฝนตกกระทบและไหลลงมาตามใบหน้ารวมถึงร่างกายจนเปียกโชก ดวงตาทั้งสองมองเห็นภาพทุกอย่างพร่าเลือนจากม่านน้ำที่เทลงมา
เฉินผีอาซื่อไม่ได้ร้องไห้แม้แต่นิดเดียว...
'นี่เจ้าหนู ยืนทำอะไรอยู่ เข้ามาหลบฝนก่อน'
'หืม มาไกลจากเจ้อเจียงเชียว แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่'
'ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก...เด็กน้อยอย่างเจ้าน่ะรึจะฆ่าใครได้'
'นี่เจ้าหนู ถ้าเจ้าไม่มีที่ไป ข้าพอจะหาที่อยู่ให้เจ้าได้นะ ถ้าเป็นพี่ชายเขาต้องช่วยเจ้าแน่'
'อะไร?...อ้อ บะหมี่ชามนี้ข้าเลี้ยงเอง เห็นแบบนี้นี่ข้าเป็นลูกสาวร้านบะหมี่น้ำหยางชุนนะ'
ไม่แม้แต่มีความรู้สึก...เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
เฉินผีอาซื่อปล่อยให้หยาดฝนหลั่งรินลงมา ความหนาวเย็นจากอุณหภูมิที่ลดต่ำทำอะไรเขาไม่ได้
ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นหนึ่งราตรี
จากนั้นเขาก็หมุนตัวและเดินกลับบ้านของตน
เฉินผีอาซื่อ...ไม่เหลือความรู้สึกใดๆ อีกแล้ว
++++++
"ท่านอาจารย์...ปีนี้ก็มาอีกแล้วนะครับ"
เซี่ยอวี้ฮัวที่ยกชามาให้ถึงห้องพักกล่าวขึ้นลอยๆ คนที่ฟังอยู่บอกขอบใจเรื่องชาแล้วจึงนิ่งเงียบไป คุณชายบ้านเก้าเห็นดังนั้นจึงยืนรอไม่ไปไหน
"ข้าอยู่มานานเกินไปแล้วอวี้ฮัว" ชายชราเอ่ยช้าๆ "บางทีข้าก็อยากพักเสียที"
ชายหนุ่มมองผู้อาวุโสนิ่งไม่โต้ตอบ
"ชีวิตนี้ข้าทำสิ่งที่ถูก...สิ่งที่ผิดเยอะแยะไปหมด" เอ้อร์เย่ว์หงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง "สิ่งที่ผิด ข้าก็แก้มัน แก้แล้วก็ยังผิดข้าก็แก้มัน...แต่พอรู้ตัวขึ้นมาจริงๆ ว่ามันทำอะไรไม่ได้...ก็ได้แต่ลบทิ้งไป"
เซี่ยอวี้ฮัวทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงที่พื้นข้างเก้าอี้ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะมือของอีกฝ่ายแผ่วเบา
"อาซื่อ...ก็แค่ไม่รู้ว่ามันคือความเสียใจ"
น้ำตาที่มองไม่เห็นไหลอย่างเงียบงันในความรู้สึก ชายหนุ่มก้มหน้าลงแตะหน้าผากกับหลังมือของอาจารย์ เอ้อร์เย่ว์หงมองท่าทางนั้นแล้วก็ได้แต่เบือนหน้า
'ปู?'
'อาซื่อทำมาให้ข้าเชียว ปูนึ่งชวงเจียแบบนี้หากินในฉางซาไม่มีหรอก'
'หืม อาซื่อทำเองเลยหรือ'
'พอข้าบอกว่าชอบมาก เขาก็เลยทำมาให้...ท่านพี่ดูสิ อาซื่อน่ารักขนาดไหน'
เอ้อร์เย่ว์หงก็แค่หวัง...ให้ลูกชายคนนี้มีความสุขบ้างเท่านั้นเอง
::talk::
ผลัดมานาน ได้ลงซักที...
ตอนแรกจะลงเรื่องนี้ในหัวข้อเปียกค่ะ แต่วันนั้นยุ่ง เลยดองเค็มมาจนบัดนี้ ฮาาาาาาาาาา
เราชอบซื่ออากงมากค่ะ แต่ว่าซื่ออากงของเราคงจะต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง เรามองว่าซื่ออากงมีอะไรบางอย่างที่บิดเบี้ยว และปู่เอ้อร์เองก็จำใจตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างเพื่อหยุดซื่ออากง ปู่เอ้อร์เป็นคนที่น่าสงสารมากค่ะ โฮรว U v U //เขียนเองเศร้าเองคืออะไร ตอบ...
หวังว่าจะรักซื่ออากงในแบบของเรานะคะ ขอบคุณค่า
สปอยแปลเก้าสกุล
และควรอ่านฟิค'สายฝน'ก่อนะคะ >>>https://dmbjth.thai-forum.net/t378-topic
เฉินผีอาซื่อเพิ่งกลับขึ้นมาบนดินตอนที่มีคนเข้ามาแจ้งว่ามีจดหมายส่งมาจากฉางซา เนื้อความในจดหมายกล่าวถึงอาการเจ็บป่วยของคุณหญิงสกุลเอ้อร์เพียงสังเขปพร้อมกับคำกำชับว่าหากเป็นไปได้ให้รีบกลับมา แต่ในตัวอักษรเหล่านั้นเขาเห็นความกังวลใจของเอ้อร์เย่ว์หงสอดแทรกอยู่มากมาย
ชายหนุ่มเร่งเดินทางอย่างไม่สนใจใคร แต่เมื่อกลับถึงฉางซา...บ้านสกุลเอ้อร์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เค้าลางความวุ่นวายและเศร้าหมองในตัวบ้านทำให้ลางสังหรณ์ของเขากรีดร้อง เฉินผีอาซื่อคว้าตัวเด็กรับใช้คนหนึ่งเอาไว้แล้วถามเสียงเหี้ยม
"อาจารย์พ่ออยู่ไหน"
เฉินผีอาซื่อถือว่าตนเป็นศิษย์รัก ต่อให้ประมุขของบ้านเก็บตัวอยู่ในห้องสั่งไว้ไม่ให้ใครรบกวน แต่พอเป็นเขาก้าวเข้ามาทุกคนก็พากับหลบฉากไปหมด
"ท่านเฉิน" เสียงหนึ่งเรียกเขา เป็นชายหนุ่มหน้าละอ่อนซึ่งกำลังเริ่มมีบทบาทในวงการคว่ำกรวย
"หมาอู๋" เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่วางใจ
"ท่านมาก็ดีแล้ว...จิ่วเย๋วานให้ข้ามาดูท่านเอ้อร์" อู๋เหลาโก่วว่าด้วยสีหน้ากังวล "แต่ท่านเอ้อร์ไม่ยอมให้ใครเข้าพบ ข้าวปลาที่ส่งไปก็ไม่แตะต้องสักนิด"
สิ้นสุดคำนั้นเขาก็เดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไปโดยไม่คิดจะสนทนาต่อ ในสายตาของเขาต่อให้เป็นจางฉี่ซานหรือป้านเจี๋ยหลี่ก็ล้วนไม่สำคัญ
"อาจารย์พ่อ"
ชายผู้หนึ่งนั่งนิ่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง ดวงหน้างดงามฉายแววเศร้าโศกเกินคำบรรยายใดๆ เอ้อร์เย่ว์หงหันหน้ามามองผู้มาเยือน ริมฝีปากได้รูปเผยอขึ้นราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีเสียงใดลอดออกมา
เอ้อร์เย่ว์หงเป็นหนุ่มรูปงามอย่างยิ่ง แม้ในตอนที่เสื้อผ้าเลอะโคลนไปทั้งตัวและผมเผ้ายุ่งเหยิงดูไม่ได้สักนิด
เฉินผีอาซื่อเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะทรุดลงนั่งที่พื้นข้างเก้าอี้กลม มือที่หยาบกร้านค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสมือที่ใช้จับพัดรำงิ้ว แล้วจึงก้มหน้าแนบหน้าผากลงแตะ
"...อาซื่อ" เสียงที่เคยไพเราะอย่างยิ่งสั่นเครือไม่เป็นคำ
คนที่ถูกเรียกรู้ว่ามีหยดน้ำมากมายร่วงหล่นลงมาจากดวงตาคู่งาม เขารับรู้และสัมผัสถึงคลื่นความเจ็บปวดที่กำลังซัดโถมอยู่ภายในจิตใจของอีกฝ่าย
เอ้อร์เย่ว์หงร้องไห้อย่างเงียบเชียบ เขาเพียงปล่อยให้ความรู้สึกที่ล้นทะลักมันไหลออกมาพร้อมกับน้ำตา
อาจารย์แม่ตายแล้ว
และเฉินผีอาซื่อรู้ดี...หากไม่มี 'ยัยหนู' โลกทั้งใบของเอ้อร์เย่ว์หงก็คงไร้ซึ่งสีสันใดๆ
งานศพของฮูหยินถูกจัดอย่างเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่สำหรับภาวะสงครามที่ผู้คนอดอยากจนแทบจะฆ่ากันเพื่อให้หายหิว ฮูหยินของบ้านสองเป็นคนน่ารัก ไม่ว่าใครก็ล้วนเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของนาง ดังนั้นพิธีการต่างๆ ก็มีแต่คนพร้อมจะมาเข้าร่วมและให้การช่วยเหลือ
เอ้อร์เย่ว์หงใช้รอยยิ้มที่ถูกฝึกมาอย่างดีต้อนรับทุกคน ประมุขของสกุลจะทำตัวอ่อนแอมิได้ เขาจึงต้องยืนหยัดอยู่ในงานที่ไม่อยากเข้าร่วมมากที่สุดอย่างสง่างาม
จางฉี่ซานและคนสกุลจางไม่ได้มาร่วมพิธีด้วยเหตุผลทางการเมือง และเอ้อร์เย่ว์หงก็ปฏิเสธความช่วยเหลือทุกทางที่อีกฝ่ายพยายามมอบให้
เฉินผีอาซื่อเห็นอู๋เหลาโก่วลอยไปลอยมาอยู่รอบงาน สิ่งที่หมาอู๋ทำคือเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะพอผู้ใหญ่พากันวุ่นวายก็ต่างลืมเด็กสามคนที่ถูกลากมาร่วมพิธีในฐานะลูกชาย สิ่งมีชีวิตที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่เท่าไร จะเข้าใจแค่ไหนว่าความตายคืออะไร เด็กน้อยถูกจับแต่งตัวด้วยชุดผ้าดิบเนื้อหยาบตามพิธีการจึงพากันร้องโยเยไม่พอใจและอยากจะหาแม่จนเป็นที่น่าสลดใจ แต่จังหวะนี้เองที่มีเจ้าลูกหมาตัวน้อยวิ่งแถ่ดๆ เข้าไปหา อู๋เหลาโก่วหลอกล่อเด็กให้หายงอแงได้เก่งไม่เบา...
เขาเข้าร่วมงานอย่างเงียบสงบ เขาเฝ้าดูอาจารย์พ่อและมองดูทุกขั้นตอนสำหรับที่พักชั่วนิรันดร์ของอาจารย์แม่โดยละเอียด
เซี่ยจิ่วเย๋แห่งบ้านเก้าทำงานได้ละเอียดรอบคอบไร้ความติดขัด เขาได้ยินจากเด็กในโรงงิ้วว่าคนแรกที่เข้าไปแกะมือเอ้อร์เย่ว์หงออกจากศพฮูหยินคือสกุลเซี่ยคนนี้ จากนั้นเขาก็สั่งการจัดงานศพอย่างสมเกียรติให้กับสตรีผู้แลกชีวิตของตนเพื่อคนนับพัน
เรื่องที่อู๋เหลาโก่วถูกเรียกมาก็คงไม่พ้นการวางแผนอย่างแยบยล...
เฉินผีอาซื่อปล่อยให้ภาพต่างๆ ไหลผ่านครรลองสายตาและผสมปนเปกับความคิดลึกล้ำที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก
วันนั้นท้องฟ้าดูมืดมัว เมฆฝนตั้งเค้าอย่างน่ากลัวไม่ชวนให้ก้าวออกนอกชายคา แต่ชายหนุ่มกลับเก็บข้าวของอย่างเงียบเชียบแล้วเดินออกมาจากห้องพัก
"เจ้าจะทำอะไร...อาซื่อ"
"ข้าจะทำอะไรไม่เคยพ้นสายตาอาจารย์พ่อ"
เฉินผีอาซื่อตอบรับคำถามนั้นอย่างสงบนิ่ง เอ้อร์เย่ว์หงมองสีหน้าเรียบเฉยและดวงตาของคนที่รักราวกับลูกด้วยความรู้สึกหลากหลาย
"ความตั้งใจของอาจารย์แม่...เจ้าจะทำลายมันหรือ"
"ความตั้งใจของอาจารย์แม่หรือกลลวงแห่งเก้าสกุล" เขาถามกลับ "ท่านเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ"
"พอ!!!"
บาดแผลสดใหม่ไม่พร้อมรับแรงกระทบใดๆ ผู้นำแห่งบ้านสองส่ายศีรษะ สำหรับเขาการคิดถึงสิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ประโยชน์...เพราะมันไม่เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงที่ว่ายัยหนูได้จากเขาไปแล้ว
"อาซื่อ...อาจารย์แม่ของเจ้าไม่อยากให้มีคนตายไปมากกว่านี้"
"แล้วมีใครเคยสนใจไหมว่าอาจารย์แม่ต้องตาย" คำถามทีาเจ็บปวดกว่าสิ่งใด แต่คนทรมานที่สุดกลับหลับตาแล้วตอบอย่างใจเย็น
"บางสิ่งบางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุม"
"ข้าจะทำให้มันอยู่ในการควบคุมของข้า"
"...อาซื่อ หากเจ้าฆ่าคนนอกกรวย...ก็จงออกไปจากสำนักนี้"
คำตัดสัมพันธ์ที่เอ้อร์เย่ว์หงกล่าวออกมาง่ายดายทำให้ชายหนุ่มนิ่งงัน เฉินผีอาซื่อมองคนที่ตนรักเคารพราวกับบิดาแท้ๆ ด้วยสายตาที่สงบอย่างยิ่ง ก่อนจะเอ่ยเป็นคำสุดท้าย
"ถ้าเช่นนั้น...ข้าขอลา"
เฉินผีอาซื่อหันหลังแล้วเดินออกไปจากบ้านสกุลเอ้อร์ตลอดกาล
เม็ดฝนมากมายทิ้งตัวลงมาจากฟากฟ้า ชายหนุ่มเดินไปทีละก้าวบนพื้นที่เฉอะแฉะไปด้วยโคลน เขาคิดไว้ว่าอันดับแรกที่เขาต้องจัดการคือสกุลจาง และพวกทหารญี่ปุ่น...รวมถึงบรรดาเก้าสกุล
พลันสองเท้าที่กำลังก้าวเดินก็หยุดชะงักตรงหน้าบ้านสกุลจาง
สายฝนตกกระทบและไหลลงมาตามใบหน้ารวมถึงร่างกายจนเปียกโชก ดวงตาทั้งสองมองเห็นภาพทุกอย่างพร่าเลือนจากม่านน้ำที่เทลงมา
เฉินผีอาซื่อไม่ได้ร้องไห้แม้แต่นิดเดียว...
'นี่เจ้าหนู ยืนทำอะไรอยู่ เข้ามาหลบฝนก่อน'
'หืม มาไกลจากเจ้อเจียงเชียว แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่'
'ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก...เด็กน้อยอย่างเจ้าน่ะรึจะฆ่าใครได้'
'นี่เจ้าหนู ถ้าเจ้าไม่มีที่ไป ข้าพอจะหาที่อยู่ให้เจ้าได้นะ ถ้าเป็นพี่ชายเขาต้องช่วยเจ้าแน่'
'อะไร?...อ้อ บะหมี่ชามนี้ข้าเลี้ยงเอง เห็นแบบนี้นี่ข้าเป็นลูกสาวร้านบะหมี่น้ำหยางชุนนะ'
ไม่แม้แต่มีความรู้สึก...เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
เฉินผีอาซื่อปล่อยให้หยาดฝนหลั่งรินลงมา ความหนาวเย็นจากอุณหภูมิที่ลดต่ำทำอะไรเขาไม่ได้
ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นหนึ่งราตรี
จากนั้นเขาก็หมุนตัวและเดินกลับบ้านของตน
เฉินผีอาซื่อ...ไม่เหลือความรู้สึกใดๆ อีกแล้ว
++++++
"ท่านอาจารย์...ปีนี้ก็มาอีกแล้วนะครับ"
เซี่ยอวี้ฮัวที่ยกชามาให้ถึงห้องพักกล่าวขึ้นลอยๆ คนที่ฟังอยู่บอกขอบใจเรื่องชาแล้วจึงนิ่งเงียบไป คุณชายบ้านเก้าเห็นดังนั้นจึงยืนรอไม่ไปไหน
"ข้าอยู่มานานเกินไปแล้วอวี้ฮัว" ชายชราเอ่ยช้าๆ "บางทีข้าก็อยากพักเสียที"
ชายหนุ่มมองผู้อาวุโสนิ่งไม่โต้ตอบ
"ชีวิตนี้ข้าทำสิ่งที่ถูก...สิ่งที่ผิดเยอะแยะไปหมด" เอ้อร์เย่ว์หงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง "สิ่งที่ผิด ข้าก็แก้มัน แก้แล้วก็ยังผิดข้าก็แก้มัน...แต่พอรู้ตัวขึ้นมาจริงๆ ว่ามันทำอะไรไม่ได้...ก็ได้แต่ลบทิ้งไป"
เซี่ยอวี้ฮัวทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงที่พื้นข้างเก้าอี้ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะมือของอีกฝ่ายแผ่วเบา
"อาซื่อ...ก็แค่ไม่รู้ว่ามันคือความเสียใจ"
น้ำตาที่มองไม่เห็นไหลอย่างเงียบงันในความรู้สึก ชายหนุ่มก้มหน้าลงแตะหน้าผากกับหลังมือของอาจารย์ เอ้อร์เย่ว์หงมองท่าทางนั้นแล้วก็ได้แต่เบือนหน้า
'ปู?'
'อาซื่อทำมาให้ข้าเชียว ปูนึ่งชวงเจียแบบนี้หากินในฉางซาไม่มีหรอก'
'หืม อาซื่อทำเองเลยหรือ'
'พอข้าบอกว่าชอบมาก เขาก็เลยทำมาให้...ท่านพี่ดูสิ อาซื่อน่ารักขนาดไหน'
เอ้อร์เย่ว์หงก็แค่หวัง...ให้ลูกชายคนนี้มีความสุขบ้างเท่านั้นเอง
::talk::
ผลัดมานาน ได้ลงซักที...
ตอนแรกจะลงเรื่องนี้ในหัวข้อเปียกค่ะ แต่วันนั้นยุ่ง เลยดองเค็มมาจนบัดนี้ ฮาาาาาาาาาา
เราชอบซื่ออากงมากค่ะ แต่ว่าซื่ออากงของเราคงจะต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง เรามองว่าซื่ออากงมีอะไรบางอย่างที่บิดเบี้ยว และปู่เอ้อร์เองก็จำใจตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างเพื่อหยุดซื่ออากง ปู่เอ้อร์เป็นคนที่น่าสงสารมากค่ะ โฮรว U v U //เขียนเองเศร้าเองคืออะไร ตอบ...
หวังว่าจะรักซื่ออากงในแบบของเรานะคะ ขอบคุณค่า
แก้ไขล่าสุดโดย velvetronica เมื่อ Wed 10 Dec 2014, 00:07, ทั้งหมด 1 ครั้ง (Reason for editing : เพิ่มtalk และโค้ดค่ะ)
velvetronica- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 100
Points : 3648
Join date : 08/11/2014
Re: [OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
ซื่ออากงในสายตาของอาจารย์แม่ก็ยังคงเป็นเด็กน้อยตลอดไป
ชอบห้วงที่คำนึงถึงคำพูดอาจารย์แม่ อ่านแล้วโฮววเฉินผีน้อยนะ //ลูบ(?)
รู้สึกอุดมการณ์ต่างกัน คนเลือกจะปล่อยอีกคนเลือกจะเก็บเป็นพลัง
(แต่เอาไปใช้ในทางที่ถูกไหมนี่ว่าอีกที)
*ขอบคุณคุณเวลสำหรับฟิคนะคะ มองซื่ออากงน่ารักขึ้นอีกหลายจุด ตั้งแต่
เรื่องปูล่ะนะ (///v///)ฮื่อออ
ชอบห้วงที่คำนึงถึงคำพูดอาจารย์แม่ อ่านแล้วโฮววเฉินผีน้อยนะ //ลูบ(?)
รู้สึกอุดมการณ์ต่างกัน คนเลือกจะปล่อยอีกคนเลือกจะเก็บเป็นพลัง
(แต่เอาไปใช้ในทางที่ถูกไหมนี่ว่าอีกที)
*ขอบคุณคุณเวลสำหรับฟิคนะคะ มองซื่ออากงน่ารักขึ้นอีกหลายจุด ตั้งแต่
เรื่องปูล่ะนะ (///v///)ฮื่อออ
galu- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 46
Points : 3518
Join date : 31/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
เจข้าใจฟีลที่คุณเวลบอกว่าอ่านฟิคเก้าสกุลของคนอื่นไม่ได้เพราะภาพในใจจะแกว่งแล้วล่ะค่ะ /ร้องไห้ รู้สึกความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ที่ตัวเองเคยเขียน เทียบกับฟิคนี้แล้วข้าน้อยอ่อนด้อยยิ่งนัก ; 7 ; เราก็ชอบและรู้สึกได้ถึงความบิดเบี้ยวของซื่ออากงค่ะ
ตอนแนบหน้าผากแตะมือนี่จะตายแล้วค่ะ จะตายแล้ว เศร้าอ่ะ เศร้ามาก เศร้าไป สื่อความเจ็บปวดได้ดีมากค่ะ ปริ่มมาก โดนแฟลชแบ็กบะหมีปูทำร้ายไปอีกกกก เสี่ยวฮัวออกมานิดเดียวแต่ทำไมรู้สึกมุ้งมิ้งน่ากินอีกคนแล้วล่ะคะ
ปู่เซี่ยวางแผนมาดีมาก ฮือ ปู่อู๋น่ารักสุดๆ พาหมามาเลี้ยงมาปลอบเด็กด้วย ; 7 ;
ขอบคุณสำหรับฟิคก้าวสกุลก๊าวๆโฮกๆอีกเรื่องนะคะ ฮือ
ตอนแนบหน้าผากแตะมือนี่จะตายแล้วค่ะ จะตายแล้ว เศร้าอ่ะ เศร้ามาก เศร้าไป สื่อความเจ็บปวดได้ดีมากค่ะ ปริ่มมาก โดนแฟลชแบ็กบะหมีปูทำร้ายไปอีกกกก เสี่ยวฮัวออกมานิดเดียวแต่ทำไมรู้สึกมุ้งมิ้งน่ากินอีกคนแล้วล่ะคะ
ปู่เซี่ยวางแผนมาดีมาก ฮือ ปู่อู๋น่ารักสุดๆ พาหมามาเลี้ยงมาปลอบเด็กด้วย ; 7 ;
ขอบคุณสำหรับฟิคก้าวสกุลก๊าวๆโฮกๆอีกเรื่องนะคะ ฮือ
Ak_Zokyo- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 154
Points : 3646
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
ไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนอายุมากแค่ไหนก็ยังคงเป็นเด็กในสายตาพ่อแม่
อาซื่อออออออออ
ฉากมุ้งมิ้งกับอาจารย์แม่นี่น่านักมากกก
ปู๋อู๋โผล่มานี่มาแย่งซีนนะืพาหมามาด้วย มุ้งมิ้งที่สุด
อาซื่อออออออออ
ฉากมุ้งมิ้งกับอาจารย์แม่นี่น่านักมากกก
ปู๋อู๋โผล่มานี่มาแย่งซีนนะืพาหมามาด้วย มุ้งมิ้งที่สุด
kame_kazuha- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 274
Points : 3745
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : สุสานสักที่
Re: [OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
ปู๋เฉินน่ารักอ่ะมุ้งมิ้งจับปู55555
ทุกคนย่อมมีเหตุผลว่าจะทำอะไร
อาจารย์แม่เป็นคนที่น่ารักมากจริฃๆ
ทุกคนย่อมมีเหตุผลว่าจะทำอะไร
อาจารย์แม่เป็นคนที่น่ารักมากจริฃๆ
gustoon- ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
- จำนวนข้อความ : 104
Points : 3558
Join date : 22/11/2014
ที่อยู่ : ใต้เตียงนายน้อยอู๋
Re: [OS] #dmbjdaily 'น้ำตา' (เฉินผีอาซื่อ)
อ่านแล้วหน่วงๆและเจ็บปวดมากค่ะ ทั้งเจ็บกับการสูญเสียของปู่เอ้อร์ และความว่างเปล่าของเฉินผีอาซื่อเลย ใครว่ากันล่ะคะว่าอาเฉินไม่มีความรู้สึก ถ้าไม่มี ก็คงไม่แสดงอารมณ์เคว้งขนาดนั้นออกมาแล้ว ถึงแม้จะดูออกยากก็ตามเถอะ แต่การที่ไปยืนนิ่งหน้าบ้านของปู่จางนานขนาดนั้น แสดงว่าต้องมีความขัดแย้งในตัวอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ขัดแย้งระหว่างความต้องการของตัวเอง และความตั้งใจของอาจารย์แม่ คิดว่าในตอนที่ยืนอยู่หน้าบ้านปู่จาง เฉินผีอาซื่อคงจะสับสนอยู่นานแน่เลยค่ะ คำถามคืออาเฉินจะเลือกไปทางไหน
แต่สุดท้าย... การที่เฉินผีอาซื่อเดินออกมาจากบ้านปู่จางโดยไม่ทำอะไร คงจะตอบคำถามได้ดีที่สุดค่ะ
สุดท้ายความสัมพันธ์ฉันศิษย์อาจารย์ก็ตัดกันไม่ขาดจริงๆค่ะ คราวที่อาเฉินแนบหน้าผากกับมือปู่เอ้อร์เราแทบน้ำตาคลอเลย มันสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องพูดแต่สื่อออกมาทางการกระทำ เป็นการปลอบโยนที่สมกับเป็นคู่นี้ ชอบจริงๆค่ะคุณเวล ชอบมาก โดยเฉพาะตอนย้อนถึงความทรงจำเก่าๆของปู่เอ้อร์กับอาเฉิน เป็นความทรงจำที่มีความสุขนะคะ แต่บางทีความทรงจำก็สร้างความเจ็บปวดให้เราได้มากพอๆกับความเป็นจริงนั่นล่ะ ยิ่งสุขเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บปวด
โมเอะปู่อู๋ค่ะ แอ่ก O<--< ตอนเอาหมาปลอบเด็กนี่ไนร์ไม่ไหวแล้ว แงงงงง //////// ดูฮีใสๆมากค่ะ ถึงจะโผล่มาน้อยแต่ตกหลุมรักเลย ก๊ากกกกก
เพิ่งจะกลับมาบอร์ดฟิคเต็มตัวก็วันนี้ล่ะค่ะ ฮรู่ววววว ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะคุณเวล ~
แต่สุดท้าย... การที่เฉินผีอาซื่อเดินออกมาจากบ้านปู่จางโดยไม่ทำอะไร คงจะตอบคำถามได้ดีที่สุดค่ะ
สุดท้ายความสัมพันธ์ฉันศิษย์อาจารย์ก็ตัดกันไม่ขาดจริงๆค่ะ คราวที่อาเฉินแนบหน้าผากกับมือปู่เอ้อร์เราแทบน้ำตาคลอเลย มันสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องพูดแต่สื่อออกมาทางการกระทำ เป็นการปลอบโยนที่สมกับเป็นคู่นี้ ชอบจริงๆค่ะคุณเวล ชอบมาก โดยเฉพาะตอนย้อนถึงความทรงจำเก่าๆของปู่เอ้อร์กับอาเฉิน เป็นความทรงจำที่มีความสุขนะคะ แต่บางทีความทรงจำก็สร้างความเจ็บปวดให้เราได้มากพอๆกับความเป็นจริงนั่นล่ะ ยิ่งสุขเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บปวด
โมเอะปู่อู๋ค่ะ แอ่ก O<--< ตอนเอาหมาปลอบเด็กนี่ไนร์ไม่ไหวแล้ว แงงงงง //////// ดูฮีใสๆมากค่ะ ถึงจะโผล่มาน้อยแต่ตกหลุมรักเลย ก๊ากกกกก
เพิ่งจะกลับมาบอร์ดฟิคเต็มตัวก็วันนี้ล่ะค่ะ ฮรู่ววววว ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะคุณเวล ~
Naitear- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 232
Points : 3756
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily (น้ำตา) “น้ำตา(จริงๆนะ)” [No pairing]
» [OS] #dmbjdaily (ผ้าพันแผล) ประโยชน์ของผ้าพันแผล [เอ้อร์เย่วหง, เฉินผีอาซื่อ]
» [OS] #dmbjdaily 'fool' (24 :: เอ้อร์เย่ว์หง,เฉินผีอาซื่อ)
» [OS] #dmbjdaily (น้ำตา) หยดน้ำที่มองไม่เห็น [เฮยฮัว, ฮัวเฮย]
» [OS] #dmbjdaily "น้ำตา" 星空
» [OS] #dmbjdaily (ผ้าพันแผล) ประโยชน์ของผ้าพันแผล [เอ้อร์เย่วหง, เฉินผีอาซื่อ]
» [OS] #dmbjdaily 'fool' (24 :: เอ้อร์เย่ว์หง,เฉินผีอาซื่อ)
» [OS] #dmbjdaily (น้ำตา) หยดน้ำที่มองไม่เห็น [เฮยฮัว, ฮัวเฮย]
» [OS] #dmbjdaily "น้ำตา" 星空
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth