Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
+2
SilverCloud
mage
6 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
[OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15]
-ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
Talk : เป็นฟิคแรกในรอบหลายปี ตั้งชื่อเรื่องไม่เก่ง เลยเป็น untitle ค่ะ(.///.)
สารภาพว่าตอนเขียนไม่ได้ทำการบ้านซ้ำ ถ้าพลาดตรงไหนไปต้องขอโทษด้วยนะคะ
ได้แรงผลักดันจากแดรบเบิ้ลป่วยคู่นี้ของคุณ Rightway
อันที่จริงก็แอบเข้ากับหัวข้อเดลี่ [สอง]อยู่เหมือนกันเนอะ ไม่ทันละ 55
ไม่รู้ว่าสื่อออกไปได้ครบตามที่ต้องการมั๊ย หวังว่าจะชอบนะคะ
ถึงเซี่ยเหลียนหวนจะบอกว่าอาสามช่วยไว้มาก แต่สำหรับเรา คนที่เสียไปมากกว่าน่าจะเป็นเซี่ยเหลียนหวนค่ะ
ป.ล. ปกติเมน เอ้อร์ซัน(สองสาม) เอ้อร์เหลียน ซันเหลียนค่ะ : )
---
เขาเพิ่งกลับจากคว่ำกรวย
งานนี้ไม่ใช่งานยาก ไม่มีบ๊ะจ่าง ไม่มีตัวประหลาด แต่ถึงแบบนั้นก็เหนื่อยตัวแทบขาด
ไหนๆก็กลับถึงบ้านแล้วอยากไปล้างตัวกำจัดคราบฝุ่นคราบไคลที่เหนียวตัวอีกสักรอบ ล้มตัวลงบนเตียงนุ่ม เอาหัวโปะหมอนแล้วหลับยาวถึงเช้า
เสียอยู่อย่างเดียวคือเขาที่พลาดหลุดปากเรื่องที่แวะไปหาอู๋เสียออกมาตอนที่พิมพ์เมลรายงานความคืบหน้าจากการไปคว่ำกรวยครั้งนี้ให้ตัวเขาอีกคนนึง จนอีกฝ่ายส่งเมลเข้ามาถามเรื่องหลานชายไม่ยอมหยุดไม่ยอมเลิก
เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่คุ้นเคยกับเด็ก การสวมรองเป็น"อาสาม"จึงไม่ใช่เรื่องยากเมื่อเทียบกับความพยายามในการที่จะตบตาอู๋เอ้อร์ไป๋ (และแน่นอนว่าไม่สำเร็จ) ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่เห็นเขา อู๋เสียก็ส่งเสียงเรียกอาสามชวนคุยนู้นนี่ตามปกติ
แน่นอนว่าภารกิจที่พวกเขาต้องแบกรับมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก
แต่สำหรับคนตระกูลอู๋ ในใจลึกๆ การปกป้องให้"เสี่ยวเสีย" ปลอดภัยอาจเป็นความสำคัญอันดับแรก
ไม่ใช่เรื่องแปลก เขาเข้าใจดี
---
คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานยังส่งเสียงเรียกดังไม่หยุด
ระหว่างที่ทำอย่างอื่นไปด้วย เขาเปิดเสียงทิ้งไว้ให้ดังเตือนเวลาที่ข้อความเข้า
จริงๆจะปิดเสียงแล้วปล่อยทิ้งไม่สนใจตามปกติก็ได้ แต่แสงจากจอก็ยังรบกวนน่ารำคาญ
หมอนั่นรู้ใช่มั๊ยว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไว้ใช้คุยงาน ไม่ใช่เอามาทำเรื่องไร้สาระ
ง่วง
ตอบส่งๆไปสามสี่ที แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เลิกราจนชักหมดความอดทน
เขาเลยตัดสินใจกดปุ่มปิดคอมหนีเอาเสียดื้อๆ
ความสงบกลับมาได้ไม่ถึงสิบนาที
ประตูห้องก็เปิดโผล่งพร้อมเสียงสบถด่าของอู๋ซันเสิ่ง
เขาเลิกคิ้ว จริงๆก็ทำใจไว้แล้วระดับนึงแต่ไม่นึกว่าระดับความดื้อด้านของอีกฝ่ายจะมากขนาดนี้
เซี่ยเหลียนหวนบันทึกข้อมูลใหม่ลงสมอง คราวหน้าที่ออกไปต้องเพิ่มความดื้อไม่เลิกให้เพิ่มขึ้นสินะ
“ปิดคอมหนีแบบนี้หมายความว่าไงวะ ไอ้เหลียนหวน!"
เซี่ยเหลียนหวนกรอกตาเหนื่อยใจจะเถียงกับคนตรงหน้า ก็เห็นๆกันอยู่แปลว่าคนเขาไม่อยากคุยแล้ว
“เบาๆหน่อยซันเสิ่งดึกแล้ว และนายก็ไม่ควรออกมา ความจะแตกเพราะนาย”
“ดงผีแบบนี้ใครมันจะไปได้ยิน”
อีกฝ่ายตะโกนแย้งเสียงเขียว เท้าถีบประตูปิดตามหลังดังปัง กึ่งประชดกึ่งยืนยันคำพูดของตน
มือกระชากคอเสื้อเชิ้ร์ทที่เขายังไม่ได้เปลี่ยน แล้วร่ายยาวเรื่องมารยาทในการคุยกับคนอื่น
ตลกดี เพิ่งรู้นะว่าอู๋ซันเสิ่งแห่งฉางซาก็รู้เรื่องมารยาทกับเขาด้วย
ว่าแต่ถ้าไม่คิดว่ามีคนได้ยิน แล้วคนเขาจะทำห้องใต้ดินให้แอบทำซากอะไรวะ
ระยะห่างของทั้งสองตอนนี้แทบไม่เกินฝ่ามือ ต่อให้ตาปรือแค่ไหนก็เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
ด่ามันไปก็เหมือนด่าตัวเอง
โดนเขย่าจนชักปวดคอ ง่วงก็ง่วง ตาใกล้ปิดเต็มทน
“ฉันง่วงจะนอนแล้ว” ว่าแล้วก็ปัดมือคนตรงหน้าออก จัดเสื้อตัวเองให้เรียบร้อย เดินหนีแล้วมุดเข้าเตียง
แต่คิดหรือว่าคนอย่างอู๋ซันเสิ่งจะยอมเลิกราง่ายๆ เขาเดินตามหลังมาติดๆแบบไม่ปล่อยให้หนี
แล้วกระชากผ้าห่มออกจากเตียง
“ไม่ ลุกขึ้นมา”
“ซันเสิ่งงงงง”เซี่ยเหลียนหวนส่งเสียงประท้วงแล้วยื้อผ้าห่มกลับจากอีกฝ่าย
“ก็เล่าให้ฟังแล้วไงจะเอาอะไรอีก ยังไม่พอหรือไงไอ้อาติดหลาน”
เห็นหน้าแล้วก็หงุดหงิด ทำไมต้องมายื้อผ้าห่มแย่งกับตัวเองด้วยวะ
“ไม่ถามเรื่องอู๋เสียแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งนอนสิ นายก็รู้ว่าการรอในไอ้ท่อแคบๆนั่นมันเฮงซวยแค่ไหน”
ไม่ต้องบอกก็รู้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคย ผนังคับแคบกับรั้วเหล็กดูราวกับจะบีบเข้ามาตลอดเวลา
แรกๆเขาถึงกับจะประสาทเสีย เขาไม่กลัวที่แคบ รูกับกรวยคือของคู่กัน แต่มันไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาลงกรวย
ไม่มีกลิ่นดิน ไร้ซึ่งเสียงลม เสียงแมลง มีแค่เสียงหึ่งๆของเครื่องจักร เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพื้นไม้ผุ และกลิ่นราอับชื้นจางๆ วังเวงจนชวนให้อึดอัด
ทุกสิ่งที่ซันเสิ่งรับรู้ เขารับรู้
เขาถอนหายใจ
“จะทำอะไรก็ทำ”
รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนตรงข้าม ผ้าห่มถูกโยนกลับมาบนตัวเขา
ตามมาด้วยร่างของคนที่ไม่สำเหนียกตัวเองว่าตัวไม่ใช่เล็ก มือหยาบคว้ารวบข้อมือสองข้างของเขาไว้แล้วกดลงกับเตียง
“ซันเสิ่ง”เขาส่งเสียงปรามแต่มืออีกข้างของอู๋ซันเสิ่งเริ่มลุกเข้ามาใต้เสื้อเชิ้ร์ทสีขาวที่มอมแมมด้วยคราบฝุ่น บ้าจริง
“นายบอกว่าจะทำอะไรก็ทำ” ไรหนวดแข็งๆเสียดสีกับต้นคอจนรู้สึกจั๊กกะจี้
“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำ” ถ้าเทียบกันด้วยแรงปกติ เขาอาจจะฝืนตัวหนีออกไป แต่ไม่ใช่หลังจากกลับมาคว่ำกรวย ตอนนี้เขาหมดแรงจะขัดขืนแล้ว
“ช่างปะไร ไหนนายว่าจะนอนแล้ว งั้นมันก็ไม่ต่างกันหรอก” อู๋ซันเสิ่งเมินคำแก้ตัวของคนตรงหน้า ลิ้นสากไล่ลงมาตามไหปลาร้า ก่อนจะขบเม้มจนเกิดรอยแดงขึ้นจางๆ
ทีเรื่องแบบนี้หัวไวนะไอ้แสนรู้ เซี่ยเหลียนหวนกัดฟัดกรอดกลั้นไม่ให้เสียงครางหลุดลอดออกไป
“ถ้าเอ้อร์ไป๋จับได้นายจะเดือดร้อน” ไม่กลัวพี่รองให้มันรู้ไป
“ก็ทั้งคู่แหละ” เขาสะอึก เค้นหัวสมองหาข้อมูลที่จะทำให้อีกฝ่ายหยุด
“เพิ่งรู้ว่านายชอบมีอะไรกับตัวเอง”
แต่อีกฝ่ายกลับต่อปากต่อคำอย่างสบายๆ ราวกับไม่รู้สึกระแคะระคาย
ซ้ำยังเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ราวกับเขาพูดอะไรผิด ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน
“ฉันไม่ได้มีอะไรกับตัวเอง นายเห็นฉันช่วยตัวเองอยู่หรือไงเหลียนหวน”
“ไม่ใช่ ที่นี่มีแต่อู๋ซันเสิ่ง!”
น้ำเสียงตวัดขึ้นสวนกลับทันควันโดยที่คนพูดเองยังตกใจ
แต่มันก็ทำให้อีกฝ่ายชะงัก อู๋ซันเสิ่งเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นอกขาวที่กำลังถูกรุกรานด้วยรอยจ้ำจากฝีมือตัวเอง
เขาดูตกใจเล็กน้อยที่โดนอีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่
เซี่ยเหลียนหวนพึมพำขอโทษ ปรับน้ำเสียงอ่อนลง อาศัยจังหวะขยับมือตัวเองหนีออกจากการจับกุมของอีกฝ่าย
“พอเถอะซันเสิ่ง ลุกได้แล้ว ถึงนายจะอยากแค่ไหน แต่ฉันไม่มีแรงจะขยับแล้วด้วยซ้ำ ถ้านายอยากมากก็ไปจัดการตัวเองเถอะไป”
ชายหนุ่มสบตากับนัยน์ตาของอีกฝ่ายที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับส่องกระจก ริมฝีปากขยับยิ้มแลคล้ายจะเย้ยหยันฝ่ายตรงข้าม
แต่สำหรับอู๋ซันเสิ่งแล้วสายตาที่มองมาบอกว่ามันไม่ใช่
ไม่ใช่แค่อีกฝ่ายที่จะรู้จักตัวเขาจนเล่นละครได้อย่างแนบเนียน
แต่เขาเองก็อยู่กับคนตรงหน้ามานานพอที่จะดูออกบ้าง
ดูเหมือนว่าเขาจะทำเกินไป ตอนแรกเขาแค่คิดจะแหย่เล่นแก้เบื่อจากการอุดอู้อยู่ในรู
แถมยังได้แก้แค้นเหลียนหวนที่ปิดคอมหนี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แล้วมีหรือที่อู๋ซันเสิ่งคนนี้จะปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ
เขายกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ แต่ยังไม่ลุกขึ้นจากเตียงกลับขยับตัวคร่อมฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
“ซันเสิ่ง!” อีกฝ่ายตั้งท่าจะร้องประท้วงขึ้นมาอีกครั้ง แต่แน่นอนเขาไม่รอฟังเสียงบ่นเทศนาของอีกฝ่ายหรอก
“ฉันไม่ได้มีอะไรกับตัวเอง” ชายหนุ่มย้ำคำ มือเชยคางของอีกฝ่ายให้มองหน้า
นัยน์ตาสีดำจ้องมองตรงมาราวกับจะสะกดไม่ให้อีกฝ่ายหลบสายตาไปไหน
“ไม่ใช่กับตัวเอง เซี่ยเหลียนหวน ที่นี่มีฉันกับนาย” น้ำเสียงเน้นหนักที่ชื่อของคนตรงหน้า
ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับจูบลงมาราวกับต้องการเน้นย้ำถึงการมีตัวตนของอีกฝ่าย
ไม่ใช่แค่อู๋ซันเสิ่ง แต่มีเซี่ยเหลียนหวน
ไม่ใช่หนึ่งเดียว แต่เป็นสองคน
—fin—
-ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
Talk : เป็นฟิคแรกในรอบหลายปี ตั้งชื่อเรื่องไม่เก่ง เลยเป็น untitle ค่ะ(.///.)
สารภาพว่าตอนเขียนไม่ได้ทำการบ้านซ้ำ ถ้าพลาดตรงไหนไปต้องขอโทษด้วยนะคะ
ได้แรงผลักดันจากแดรบเบิ้ลป่วยคู่นี้ของคุณ Rightway
อันที่จริงก็แอบเข้ากับหัวข้อเดลี่ [สอง]อยู่เหมือนกันเนอะ ไม่ทันละ 55
ไม่รู้ว่าสื่อออกไปได้ครบตามที่ต้องการมั๊ย หวังว่าจะชอบนะคะ
ถึงเซี่ยเหลียนหวนจะบอกว่าอาสามช่วยไว้มาก แต่สำหรับเรา คนที่เสียไปมากกว่าน่าจะเป็นเซี่ยเหลียนหวนค่ะ
ป.ล. ปกติเมน เอ้อร์ซัน(สองสาม) เอ้อร์เหลียน ซันเหลียนค่ะ : )
---
เขาเพิ่งกลับจากคว่ำกรวย
งานนี้ไม่ใช่งานยาก ไม่มีบ๊ะจ่าง ไม่มีตัวประหลาด แต่ถึงแบบนั้นก็เหนื่อยตัวแทบขาด
ไหนๆก็กลับถึงบ้านแล้วอยากไปล้างตัวกำจัดคราบฝุ่นคราบไคลที่เหนียวตัวอีกสักรอบ ล้มตัวลงบนเตียงนุ่ม เอาหัวโปะหมอนแล้วหลับยาวถึงเช้า
เสียอยู่อย่างเดียวคือเขาที่พลาดหลุดปากเรื่องที่แวะไปหาอู๋เสียออกมาตอนที่พิมพ์เมลรายงานความคืบหน้าจากการไปคว่ำกรวยครั้งนี้ให้ตัวเขาอีกคนนึง จนอีกฝ่ายส่งเมลเข้ามาถามเรื่องหลานชายไม่ยอมหยุดไม่ยอมเลิก
เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่คุ้นเคยกับเด็ก การสวมรองเป็น"อาสาม"จึงไม่ใช่เรื่องยากเมื่อเทียบกับความพยายามในการที่จะตบตาอู๋เอ้อร์ไป๋ (และแน่นอนว่าไม่สำเร็จ) ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่เห็นเขา อู๋เสียก็ส่งเสียงเรียกอาสามชวนคุยนู้นนี่ตามปกติ
แน่นอนว่าภารกิจที่พวกเขาต้องแบกรับมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก
แต่สำหรับคนตระกูลอู๋ ในใจลึกๆ การปกป้องให้"เสี่ยวเสีย" ปลอดภัยอาจเป็นความสำคัญอันดับแรก
ไม่ใช่เรื่องแปลก เขาเข้าใจดี
---
คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานยังส่งเสียงเรียกดังไม่หยุด
ระหว่างที่ทำอย่างอื่นไปด้วย เขาเปิดเสียงทิ้งไว้ให้ดังเตือนเวลาที่ข้อความเข้า
จริงๆจะปิดเสียงแล้วปล่อยทิ้งไม่สนใจตามปกติก็ได้ แต่แสงจากจอก็ยังรบกวนน่ารำคาญ
หมอนั่นรู้ใช่มั๊ยว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไว้ใช้คุยงาน ไม่ใช่เอามาทำเรื่องไร้สาระ
ง่วง
ตอบส่งๆไปสามสี่ที แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เลิกราจนชักหมดความอดทน
เขาเลยตัดสินใจกดปุ่มปิดคอมหนีเอาเสียดื้อๆ
ความสงบกลับมาได้ไม่ถึงสิบนาที
ประตูห้องก็เปิดโผล่งพร้อมเสียงสบถด่าของอู๋ซันเสิ่ง
เขาเลิกคิ้ว จริงๆก็ทำใจไว้แล้วระดับนึงแต่ไม่นึกว่าระดับความดื้อด้านของอีกฝ่ายจะมากขนาดนี้
เซี่ยเหลียนหวนบันทึกข้อมูลใหม่ลงสมอง คราวหน้าที่ออกไปต้องเพิ่มความดื้อไม่เลิกให้เพิ่มขึ้นสินะ
“ปิดคอมหนีแบบนี้หมายความว่าไงวะ ไอ้เหลียนหวน!"
เซี่ยเหลียนหวนกรอกตาเหนื่อยใจจะเถียงกับคนตรงหน้า ก็เห็นๆกันอยู่แปลว่าคนเขาไม่อยากคุยแล้ว
“เบาๆหน่อยซันเสิ่งดึกแล้ว และนายก็ไม่ควรออกมา ความจะแตกเพราะนาย”
“ดงผีแบบนี้ใครมันจะไปได้ยิน”
อีกฝ่ายตะโกนแย้งเสียงเขียว เท้าถีบประตูปิดตามหลังดังปัง กึ่งประชดกึ่งยืนยันคำพูดของตน
มือกระชากคอเสื้อเชิ้ร์ทที่เขายังไม่ได้เปลี่ยน แล้วร่ายยาวเรื่องมารยาทในการคุยกับคนอื่น
ตลกดี เพิ่งรู้นะว่าอู๋ซันเสิ่งแห่งฉางซาก็รู้เรื่องมารยาทกับเขาด้วย
ว่าแต่ถ้าไม่คิดว่ามีคนได้ยิน แล้วคนเขาจะทำห้องใต้ดินให้แอบทำซากอะไรวะ
ระยะห่างของทั้งสองตอนนี้แทบไม่เกินฝ่ามือ ต่อให้ตาปรือแค่ไหนก็เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
ด่ามันไปก็เหมือนด่าตัวเอง
โดนเขย่าจนชักปวดคอ ง่วงก็ง่วง ตาใกล้ปิดเต็มทน
“ฉันง่วงจะนอนแล้ว” ว่าแล้วก็ปัดมือคนตรงหน้าออก จัดเสื้อตัวเองให้เรียบร้อย เดินหนีแล้วมุดเข้าเตียง
แต่คิดหรือว่าคนอย่างอู๋ซันเสิ่งจะยอมเลิกราง่ายๆ เขาเดินตามหลังมาติดๆแบบไม่ปล่อยให้หนี
แล้วกระชากผ้าห่มออกจากเตียง
“ไม่ ลุกขึ้นมา”
“ซันเสิ่งงงงง”เซี่ยเหลียนหวนส่งเสียงประท้วงแล้วยื้อผ้าห่มกลับจากอีกฝ่าย
“ก็เล่าให้ฟังแล้วไงจะเอาอะไรอีก ยังไม่พอหรือไงไอ้อาติดหลาน”
เห็นหน้าแล้วก็หงุดหงิด ทำไมต้องมายื้อผ้าห่มแย่งกับตัวเองด้วยวะ
“ไม่ถามเรื่องอู๋เสียแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งนอนสิ นายก็รู้ว่าการรอในไอ้ท่อแคบๆนั่นมันเฮงซวยแค่ไหน”
ไม่ต้องบอกก็รู้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคย ผนังคับแคบกับรั้วเหล็กดูราวกับจะบีบเข้ามาตลอดเวลา
แรกๆเขาถึงกับจะประสาทเสีย เขาไม่กลัวที่แคบ รูกับกรวยคือของคู่กัน แต่มันไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาลงกรวย
ไม่มีกลิ่นดิน ไร้ซึ่งเสียงลม เสียงแมลง มีแค่เสียงหึ่งๆของเครื่องจักร เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพื้นไม้ผุ และกลิ่นราอับชื้นจางๆ วังเวงจนชวนให้อึดอัด
ทุกสิ่งที่ซันเสิ่งรับรู้ เขารับรู้
เขาถอนหายใจ
“จะทำอะไรก็ทำ”
รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนตรงข้าม ผ้าห่มถูกโยนกลับมาบนตัวเขา
ตามมาด้วยร่างของคนที่ไม่สำเหนียกตัวเองว่าตัวไม่ใช่เล็ก มือหยาบคว้ารวบข้อมือสองข้างของเขาไว้แล้วกดลงกับเตียง
“ซันเสิ่ง”เขาส่งเสียงปรามแต่มืออีกข้างของอู๋ซันเสิ่งเริ่มลุกเข้ามาใต้เสื้อเชิ้ร์ทสีขาวที่มอมแมมด้วยคราบฝุ่น บ้าจริง
“นายบอกว่าจะทำอะไรก็ทำ” ไรหนวดแข็งๆเสียดสีกับต้นคอจนรู้สึกจั๊กกะจี้
“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำ” ถ้าเทียบกันด้วยแรงปกติ เขาอาจจะฝืนตัวหนีออกไป แต่ไม่ใช่หลังจากกลับมาคว่ำกรวย ตอนนี้เขาหมดแรงจะขัดขืนแล้ว
“ช่างปะไร ไหนนายว่าจะนอนแล้ว งั้นมันก็ไม่ต่างกันหรอก” อู๋ซันเสิ่งเมินคำแก้ตัวของคนตรงหน้า ลิ้นสากไล่ลงมาตามไหปลาร้า ก่อนจะขบเม้มจนเกิดรอยแดงขึ้นจางๆ
ทีเรื่องแบบนี้หัวไวนะไอ้แสนรู้ เซี่ยเหลียนหวนกัดฟัดกรอดกลั้นไม่ให้เสียงครางหลุดลอดออกไป
“ถ้าเอ้อร์ไป๋จับได้นายจะเดือดร้อน” ไม่กลัวพี่รองให้มันรู้ไป
“ก็ทั้งคู่แหละ” เขาสะอึก เค้นหัวสมองหาข้อมูลที่จะทำให้อีกฝ่ายหยุด
“เพิ่งรู้ว่านายชอบมีอะไรกับตัวเอง”
แต่อีกฝ่ายกลับต่อปากต่อคำอย่างสบายๆ ราวกับไม่รู้สึกระแคะระคาย
ซ้ำยังเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ราวกับเขาพูดอะไรผิด ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน
“ฉันไม่ได้มีอะไรกับตัวเอง นายเห็นฉันช่วยตัวเองอยู่หรือไงเหลียนหวน”
“ไม่ใช่ ที่นี่มีแต่อู๋ซันเสิ่ง!”
น้ำเสียงตวัดขึ้นสวนกลับทันควันโดยที่คนพูดเองยังตกใจ
แต่มันก็ทำให้อีกฝ่ายชะงัก อู๋ซันเสิ่งเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นอกขาวที่กำลังถูกรุกรานด้วยรอยจ้ำจากฝีมือตัวเอง
เขาดูตกใจเล็กน้อยที่โดนอีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่
เซี่ยเหลียนหวนพึมพำขอโทษ ปรับน้ำเสียงอ่อนลง อาศัยจังหวะขยับมือตัวเองหนีออกจากการจับกุมของอีกฝ่าย
“พอเถอะซันเสิ่ง ลุกได้แล้ว ถึงนายจะอยากแค่ไหน แต่ฉันไม่มีแรงจะขยับแล้วด้วยซ้ำ ถ้านายอยากมากก็ไปจัดการตัวเองเถอะไป”
ชายหนุ่มสบตากับนัยน์ตาของอีกฝ่ายที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับส่องกระจก ริมฝีปากขยับยิ้มแลคล้ายจะเย้ยหยันฝ่ายตรงข้าม
แต่สำหรับอู๋ซันเสิ่งแล้วสายตาที่มองมาบอกว่ามันไม่ใช่
ไม่ใช่แค่อีกฝ่ายที่จะรู้จักตัวเขาจนเล่นละครได้อย่างแนบเนียน
แต่เขาเองก็อยู่กับคนตรงหน้ามานานพอที่จะดูออกบ้าง
ดูเหมือนว่าเขาจะทำเกินไป ตอนแรกเขาแค่คิดจะแหย่เล่นแก้เบื่อจากการอุดอู้อยู่ในรู
แถมยังได้แก้แค้นเหลียนหวนที่ปิดคอมหนี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แล้วมีหรือที่อู๋ซันเสิ่งคนนี้จะปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ
เขายกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ แต่ยังไม่ลุกขึ้นจากเตียงกลับขยับตัวคร่อมฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
“ซันเสิ่ง!” อีกฝ่ายตั้งท่าจะร้องประท้วงขึ้นมาอีกครั้ง แต่แน่นอนเขาไม่รอฟังเสียงบ่นเทศนาของอีกฝ่ายหรอก
“ฉันไม่ได้มีอะไรกับตัวเอง” ชายหนุ่มย้ำคำ มือเชยคางของอีกฝ่ายให้มองหน้า
นัยน์ตาสีดำจ้องมองตรงมาราวกับจะสะกดไม่ให้อีกฝ่ายหลบสายตาไปไหน
“ไม่ใช่กับตัวเอง เซี่ยเหลียนหวน ที่นี่มีฉันกับนาย” น้ำเสียงเน้นหนักที่ชื่อของคนตรงหน้า
ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับจูบลงมาราวกับต้องการเน้นย้ำถึงการมีตัวตนของอีกฝ่าย
ไม่ใช่แค่อู๋ซันเสิ่ง แต่มีเซี่ยเหลียนหวน
ไม่ใช่หนึ่งเดียว แต่เป็นสองคน
—fin—
แก้ไขล่าสุดโดย mage เมื่อ Fri 21 Nov 2014, 22:32, ทั้งหมด 1 ครั้ง
mage- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 60
Points : 3536
Join date : 15/11/2014
Age : 30
ที่อยู่ : บ่อปลาบ้านเซี่ย
Re: [OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
กรีดร้อง อาสามหาเรื่องจะทำจนได้นะคะ ว่าแต่หลังจากนี้ถ้าโดนอารองจับได้จะเป็นยังไงหนอ...#มโนถึง3p
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3949
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
บ้าจริง! มีคนโดนลงมาขอนไม้กับเราแล้ว /// H ///
ดีใจที่เป็นแรงพลักดันให้ค่า และยินดีที่มีคนซิปคู่เดียวกับเราบ้าง 5555
เหลียนหวนที่พยามยามอย่างหนักกับอาสามที่พยายามปลอบใจ น่ารักจังค่ะะะ ///
ดีใจที่เป็นแรงพลักดันให้ค่า และยินดีที่มีคนซิปคู่เดียวกับเราบ้าง 5555
เหลียนหวนที่พยามยามอย่างหนักกับอาสามที่พยายามปลอบใจ น่ารักจังค่ะะะ ///
Rightway- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 20
Points : 3519
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : BKK
Re: [OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
//เรืองแสงเหมือนมาริโอ้เจอดาว
เหลียนหวนคูลมากค่าาาาา /////H///// นี่จริงๆเหมาตึกเป็นดงผี จะได้อยู่กันสองคนใช่มั้ยคะอา
เหลียนหวนคูลมากค่าาาาา /////H///// นี่จริงๆเหมาตึกเป็นดงผี จะได้อยู่กันสองคนใช่มั้ยคะอา
Mamon- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 14
Points : 3493
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ในโทรศัพท์เสี่ยวฮัว
Re: [OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
อยากรอฉากต่อไปจัง//3Pจะมีมั้ยน้า?
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3970
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [OS] untitle [ซันเหลียน] [PG-15] -ติดสปอยเล่มสิบนิดหน่อยค่ะ-
อิอั๊งงงงงงง อารองขาาาาา ภรรยาอาจิกินกันเองแล้ว มาห้ามเร้ววววว 5555555
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth