Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Write it on your skin [เสียผิง]

4 posters

Go down

[OS] Write it on your skin [เสียผิง] Empty [OS] Write it on your skin [เสียผิง]

ตั้งหัวข้อ by maew3ta Tue 28 Oct 2014, 17:39




"Write it on your skin"

Pairing : อู๋เสีย * เมินโหยวผิง

****คำเตือน**** สปอยล์เล็กน้อย ถึงประมาณเล่ม 7 ของไทยค่ะ


[OS] Write it on your skin [เสียผิง] Doodle05a_resize

“รอกลับที่พักก่อนก็ได้ นายเอานิ้วถูไปถูมาอย่างนี้มันจะร้อนขึ้นได้สักเท่าไรเชียว”

นายอ้วนส่ายหน้าหน่าย ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เขาเองไม่ใช่หรือเป็นฝ่ายชักชวนผมจับเสี่ยวเกอถอดเสื้อแบบงง ๆ แล้วยังแนะนำอีกว่าลองเอานิ้วถูให้มันร้อนดูหน่อย เผื่อรอยสักจะโผล่ขึ้นมาทักทาย ดูนายอ้วนเองก็ตื่นตาตื่นใจกับเงื่อนไขในการปรากฏของรอยสักนั่นอยู่ไม่น้อย บ่นพึมพำทุกครั้งที่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าหากเป็นเขาจะสักโพยข้อสอบ เรื่องคะแนนเมื่อครั้งอดีตจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เชื่อเขาเลย

“หรือถ้ารีบนักก็เอาไฟแช็คลนแม่มเลย” นายอ้วนว่าพลางหัวเราะปากกว้าง ที่บ้าคือเมินโหยวผิงแม้จะไม่ตอบ แต่ก็หยิบไฟแช็คขึ้นมาจริง ๆ

“นายเพี้ยนไปแล้วเรอะ!”

เขามองผมนิ่ง ๆ สายตาว่างเปล่าเหมือนเป็นหลุมดำ ไม่ปริปากอะไรสักพยางค์ แต่ก็วางมันไว้ที่เดิม ท่วงท่าเนิบนาบเหมือนตอนหยิบมันขึ้นมาเมื่อครู่ จะพูดว่าไงดีล่ะ ไม่รู้ควรเรียกว่าเขาว่าง่ายหรือไม่ใส่ใจโลกอยู่แล้ว เมินโหยวผิงเหมือนมีจังหวะและห้วงเวลาเป็นของตัวเอง

บางทีผมนึกสงสัย..ว่าจะมีใครสามารถข้ามฝ่าสีหน้าเรียบเฉยเป็นตุ๊กตานั่น แล้วทำให้เขาแสดงอารมณ์เหมือนมนุษย์ขึ้นมาได้บ้างหรือเปล่า ยิ้ม หัวเราะ โมโห เขินอาย การแสดงออกปกติอย่างมนุษย์พึงมี แต่ต้องไม่ใช่ในสถานการณ์ที่เขายิ้มให้แล้วคอพับคออ่อนไปจนผมใจไม่ดีอย่างคราวนั้นนะ นั่นแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว

ผมลอบมองแผ่นอกเขา วางมือลงไปบนตำแหน่งที่เป็นรอยสัก ผิวเนื้อเขาอุ่น แต่มันคงไม่ร้อนถึงขั้นทำให้กิเลนปรากฏตัว นายอ้วนส่ายหน้าอีกครั้งแล้วเดินอาด ๆ ออกไปนอกห้อง บอกว่าขอออกไปตามหาสาวงามในเมืองหรืออะไรทำนองนั้น ก่อนเสียงบานพับประตูเก่าคร่ำครึจะลั่นเอี๊ยดแล้วปิดตามหลัง

..เหลือผม เมินโหยวผิง ความเงียบ และความร้อนซึ่งไม่มากพอจะทำให้รอยสักปรากฏ

ผมหมดปัญญาจะทำให้มันโผล่ขึ้นมา จะไล่เขาไปวิ่งให้เหงื่อออกตัวร้อนก็ใช่ที่ คนอย่างเมินโหยวผิง ต้องวิ่งสักกี่กิโลกันร่างกายจึงร้อนได้อย่างนั้น ตั้งใจว่าไว้เจอกระเป๋าน้ำร้อนค่อยเอามานาบบนผิวเขาก็ได้ แผนที่บนกิเลนอย่างไรเสียก็ไม่หายไปไหน รออีกนิดจะเป็นไรไป

ระหว่างคิดเช่นนั้น ปลายนิ้วผมลากแผ่วเบาไปทั่วอย่างลืมตัว ตรงนี้...น่าจะเป็นตาของกิเลน ส่วนตรงนั้นเป็นขา หาง แล้วก็...ตรงไหนอีกนะ..

“อ๊ะ!?”

ผมอุทาน แต่นั่นเป็นเพราะเมินโหยวผิงที่สะดุ้งน้อย ๆ จึงได้รู้ตัวว่าดูเหมือนจะลูบเนื้อตัวเขาเยอะไปหน่อยแล้ว เมื่อกี้นายอ้วนยังอยู่ ช่วยกันส่องมันเสียทุกตารางนิ้วบนแผ่นอกเขาไม่ยักรู้สึกแปลกอะไร แต่พอเหลือกันอยู่สองคน พลันรู้สึกประหลาดจนใจเต้นโครมคราม ใบหน้าเกิดร้อนผ่าวแล้วลามไปทั้งตัว จนคิดว่าถ้าผมมีรอยสักอย่างเมินโหยวผิง ป่านนี้มันคงขึ้นลายให้พร้อยไปหมดแล้ว

“นาย..เอ้อ...เป็นอะไรไหม” ผมถามตะกุกตะกัก ทั้งที่ความจริงแล้วน่าจะถามตัวเองมากกว่าว่าเป็นอะไรไหม

เขาไม่ตอบ...อย่างเคยนั่นละ ใบหน้ายังเฉยชาเช่นทุกที ก้มงุด ๆ แล้วหยิบเสื้อบนโต๊ะขึ้นมาเตรียมสวม คล้ายจะประกาศกลาย ๆ ว่าหยุดลูบไปทั่วได้แล้ว

ผมพยักหน้าเข้าอกเข้าใจกับตัวเอง ตีความภาษากายน้อยนิดของเสี่ยวเกอในแบบของผม แม้จะเป็นเช่นนั้น ยังอดเหลือบมองร่างกายท่อนบนของเขาไม่ได้ ต่อให้เคอะเขินนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าสัมผัสที่ปลายนิ้วเมื่อครู่นั้นชวนให้รู้สึกดีจนอยากจดจำไว้นาน ๆ เผลอคิดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ว่าหากจะมีอะไรซึ่งเชื่อมโยงเสี่ยวเกอไว้กับโลกนี้ ให้สิ่งนั้นเป็นผมเองคงดีไม่น้อย ที่แย่คือปากดันหลุดพูดออกมาจริง ๆ ด้วยนี่สิ

“..ถ้านายจำไม่ได้ว่าตัวเองมีความเชื่อมโยงกับโลกนี้ยังไง...ก็จำฉันแทนเถอะ..”

ไอ้บ้าอู๋เสีย..ผมพูดอะไรออกไปนี่

เสี่ยวเกอเงยขึ้นมองผมนิ่งงัน หลุมดำในดวงตาเขาคล้ายว่าไหวระริกอยู่แวบหนึ่ง..หากผมไม่ได้คิดไปเอง แต่เพียงพริบตามันก็กลับไปนิ่งเหมือนเดิม เอาเข้าจริง ผมเริ่มไม่แน่ใจสายตาตัวเองแล้ว หรือควรตัดแว่นใหม่เสียที

ผมกำลังจะหันไปทางอื่น แต่ในตอนนั้นเอง..ต่ำลงไปกว่าลำคอและสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ของเมินโหยวผิง...


..รอยสักกิเลนพาดผ่านขึ้นจาง ๆ บนแผ่นอกเขา


ผมขมวดคิ้ว หรี่ตา ตั้งใจเพ่งมองให้ชัดอีกครั้ง แต่เขาสวมเสื้อเรียบร้อยแล้วในเสี้ยววินาที

“เอ๋?”

ไร้คำตอบรับเช่นเคย เสี่ยวเกอเสมองไปทางอื่น ทว่าใต้แสงสลัวนั้น พอจ้องให้ดี ก็พบว่าบนใบหน้าเรียบเฉยของเขา ใช่ว่าจะนิ่งสนิทเสียทีเดียว


สีชมพูเรื่อที่แต้มอยู่บางเบาบนแก้มเขา ผมจะไม่มีวันลืมเลยชั่วชีวิต






-------------




ความจริงข้างบนนั้นเป็น one-shot แต่ดันมีต่ออีกนิดนึง ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายโยงถึงกันได้ เลยขอต่อเลยแล้วกันนะคะ




"Intimacy"




เมินโหยวผิงไม่ใช่คนหรอก


หลายครั้งที่ผมคิดไปว่าเขาอาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนดาวนี้ กระทั่งตัวอักษรและสัญลักษณ์ประหลาดของเสี่ยวเกอ จนบัดนี้ผมก็ยังไม่รู้ความหมาย

เขามักทำตัวกลืนหายไปกับอากาศธาตุ เหม่อมองออกไปในความว่างเปล่า ประหนึ่งกำลังติดต่อกับบางสิ่งในมิติอื่น และจะว่าไปแล้ว เสี่ยวเกอถนัดแต่เรื่องที่มนุษย์ทั่วไปไม่เห็นน่าถนัดตรงไหน

เขาสามารถเดินไปจับผีดิบหักคอเอาง่าย ๆ เหมือนหักแท่งป๊อกกี้ แต่ไม่สามารถเดินไปจับมือแนะนำตัวกับมนุษย์ด้วยกันได้ เขาเป็นจอมหายตัวมืออาชีพ แต่ก็จะโผล่มาอย่างลึกลับเช่นกันในเวลาที่ชีวิตผมห้อยต่องแต่งอยู่บนเส้นด้าย เขาใส่แค่กางเกงในลายลูกเจี๊ยบใช้ชีวิตในถ้ำกับนายอ้วนได้อย่างไม่เคอะเขิน แต่พอผมลูบเบา ๆ ลงไปบนแผ่นอกเปล่าเปลือยเพื่อมองหารอยสัก ทั้งที่ผ้าผ่อนชิ้นอื่นก็ยังอยู่เต็มยศ ร่างกายเขากลับร้อนจนร่องรอยกิเลนผุดขึ้นจาง ๆ

ผมเงยหน้าขึ้นจากตั้งเอกสารเก่าที่รวบรวมมาคัดกรองข้อมูล ลอบมองผ่านช่องว่างระหว่างกองกระดาษสีเหลืองอ๋อยรอบตัว เลยออกไปผ่านขอบรุ่งริ่งและเหม็นอับของบันทึกซกมกเหล่านั้น คือตำแหน่งประจำที่ผมชินแล้วกับการเห็นเขานั่งอยู่

ฝนโปรยอยู่ข้างนอก ฟ้าครึ้มจนนอกจากใต้แสงโคมไฟเหนือโต๊ะผมแล้ว บริเวณอื่นก็มืดสลัวไปหมด เงาตะคุ่มของเมินโหยวผิงคล้ายกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง วางคางไว้บนฝ่ามือ ไกล ๆ จากตรงนี้ เขานิ่งจนดูไม่รู้ว่าตื่นหรือหลับ บางทีนั่นอาจเป็นแค่รูปปั้นหิน เสี่ยวเกอตัวจริงหายวับไปแล้วอย่างที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ

ผมหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง คิดอะไรเพ้อเจ้อไปได้ แต่เมื่อใคร่ครวญอีกที ขนาดใส่หน้ากากมนุษย์ปลอมตัวเป็นคนอื่นเขายังเคยทำมาแล้ว ประสาอะไรกับสับเปลี่ยนตัวเองด้วยรูปปั้นหินกันเล่า

พอเออออกับตัวเองเช่นนั้น จึงได้ลุกจากเก้าอี้ ย่างเท้าแผ่วเบาเข้าไปใกล้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องย่อง แต่ไม่อยากให้เสียงฝีเท้าผมรบกวนช่วงเวลาเหม่อลอยอันเป็นกิจวัตรประจำวันของเสี่ยวเกอ

เขาไม่กระดิกตัวสักแอะ สมมติฐานเรื่องรูปปั้นหินของผมเริ่มมีความเป็นไปได้ ใจก็วุ่นวายไปว่าฉิบหายละ หรือเขาจะหนีผมไปไหนอีกแล้ว

แต่เมื่อขยับเข้าไปใกล้ กระทั่งมองเห็นขนตาบนเปลือกตาที่ปิดสนิทของเขา..ใกล้จนได้ยินเสียงหายใจ...ผมรู้สึกได้ถึงลมร้อนซึ่งรินรดบนปลายจมูก...


...ใกล้เกินไป...


ผมรู้เรื่องนั้นดี แต่สมองว่างเปล่าขาวโพลน เกินกว่าจะเรียบเรียงความคิดให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่แน่ใจว่าตัวเองหลับตาลงตอนไหน จดจ่ออยู่เพียงอย่างเดียวคือคนที่นั่งตรงหน้า

แวบหนึ่งผมคิดว่าควรพูดอะไรกับเขาบ้าง แต่ปากก็ไม่ว่างเสียแล้ว


ดีจริงที่ไม่ใช่รูปปั้น..


เพราะรูปปั้นไม่อุ่นอย่างนี้...และริมฝีปากของรูปปั้นก็ไม่มีทางนุ่มอย่างที่ผมกำลังรู้สึก


มือผมที่ทาบอยู่บนแผ่นหลังเขา รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิของผิวกาย บางทีใต้เสื้อยืดสีน้ำเงินของเมินโหยวผิง รอยสักกิเลนอาจเผยร่างขึ้นเต็มตัวแล้วก็ได้


“เสี่ยวเกอ...นายตัวร้อน”


ผมกระซิบ ไม่หวังได้รับคำตอบใด แล้วเขาก็ไม่ตอบจริง ๆ นั่นละ เพียงแต่วางมือลงบนต้นแขนผม เงยหน้ารับด้วยตาปรือปรอยเหมือนลูกแมว


เมินโหยวผิงไม่ใช่คนแน่ ๆ


ก็คนน่ะ...ไม่มีทางน่ารักได้ขนาดนี้หรอก






---------------------



ขอเบา ๆ หงุงหงิง (แต่มโนแรง) บ้างค่ะ ตัดอารมณ์จากเล่มสิบที่ยังทำให้อึนไม่หาย เรื่องนี้เขียนไว้ตั้งแต่ช่วงอ่านเล่ม 7
อา...ชอบสองคนนี้จังเลยค่ะ ความรักมันล้นอก ฟฟฟฟฟ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า ^o^
maew3ta
maew3ta
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 44
Points : 3560
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Write it on your skin [เสียผิง] Empty Re: [OS] Write it on your skin [เสียผิง]

ตั้งหัวข้อ by tear Sun 02 Nov 2014, 23:36

ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ปางตายกับตอนแรก มาระเบิดตัวตายกับ >>> ก็คนน่ะ...ไม่มีทางน่ารักได้ขนาดนี้หรอก
ฟหกด่าสว เสียผิงช่างดีงามมมมมมม

โอ๊ยยยยยย นายน้อยค่ะขอจูบเสี่ยวเกอทีนึงได้ไหมมมมมมม//โดนปาสมุดบัญชีใส่
tear
tear
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา
ด้วงสุสานใต้สมุทรทะเลซีซา

จำนวนข้อความ : 168
Points : 3669
Join date : 02/11/2014
ที่อยู่ : ใต้เตียงคุณชายฮัว

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Write it on your skin [เสียผิง] Empty Re: [OS] Write it on your skin [เสียผิง]

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Tue 04 Nov 2014, 00:28

เอื้ออออออออ //ระเบิดตัวตายเขียนไดอิ้งแมสเสจว่าพี่แมว

อันแรกว่าแดเมจแล้ว เจอตอนที่2(?) เข้าไปอีก ด้วงตายยยย
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3952
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Write it on your skin [เสียผิง] Empty Re: [OS] Write it on your skin [เสียผิง]

ตั้งหัวข้อ by Lin_ChaCHa Sun 09 Nov 2014, 20:07

อ่านแล้วก็ขุดขึ้นมาอ่านอีกค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

นายน้อยช่าง... แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

รอยสักกิเลนนี่มันก๊าวจริงๆ เนอะคะ >///<

Lin_ChaCHa
ด้วง
ด้วง

จำนวนข้อความ : 44
Points : 3560
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ทีมสกุลอู๋

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ