Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] The missing piece [เสียผิง/ผิงเสีย] **สปอยล์เล่ม 10**
5 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] The missing piece [เสียผิง/ผิงเสีย] **สปอยล์เล่ม 10**
[One-shot] The missing piece
Paring : อู๋เสีย*เมินโหยวผิง / เมินโหยวผิง*อู๋เสีย (แล้วแต่จะคิดค่ะ)
****คำเตือน**** สปอยล์เล่ม 10 ค่ะ สปอยล์เต็ม ๆ ถ้ายังไม่ได้อ่านและยังไม่อยากทราบเนื้อเรื่อง อย่าเพิ่งกดอ่านนะคะ ;w;
เขาพูดเหมือนตัวเองจะถูกลืม
อะไรทำให้เขาเอ่ยเช่นนั้น? ผมจะลืมเขาได้อย่างไร กลับเป็นผมเองเสียอีกที่ครุ่นคิดจนหมกมุ่นอยู่ตลอด ว่าเขาต่างหาก ไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ายลืมผมไหม
สิบปีหลังประตูสำริดนั่น กับความทรงจำขาด ๆ หาย ๆ ของเขา แล้วผมจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ตกหล่นไปหรือเปล่า
ให้อดคิดได้อย่างไร เขาเคยลืมผมมาแล้วครั้งหนึ่ง ผมคนเดียวกับที่เขาบอกเองว่าเป็นความเชื่อมโยงอย่างเดียวระหว่างเขากับโลกใบนี้ หากเส้นสายสัมพันธ์เลือนรางนั้นสะบั้นเสีย ตัวตนของเขาจะยังเหลือสิ่งใดให้ผูกพันกับโลกนี้ได้อีก ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้วเลยสักนิด
ผมนึกถึงตรงนี้ก็หนาวสะท้านขึ้นมา รู้ดีว่าเมินโหยวผิงย่อมไม่เดือดร้อนเรื่องนั้น เขาคงทำเพียงปรายตา มองความเป็นไปทั้งหมดอย่างเงียบงัน และดำเนินสิ่งที่เชื่อมั่นว่าเป็นหน้าที่ของเขาต่อ ไร้ความรู้สึกใดมาทำให้บิดเบือน ความมุ่งมั่นของเขาซึ่งไม่มีใครหรือสิ่งใดสามารถสั่นคลอนได้เคยทำผมหวาดหวั่น ด้วยเกรงว่าอาจต้องเสียเขาไปตลอดกาล
แต่สิบปีผ่านไปแล้ว ผมกลับมายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าลึก อัดควันบุหรี่เข้าไปเต็มปอด เฝ้ามองประตูสำริดหนักอึ้งซึ่งกำลังเคลื่อนเปิดช้า ๆ
ไม่เป็นไร...ผมกระซิบกับตัวเอง
ผมไม่เป็นไรจริง ๆ ตอนนี้ไม่เหลือความลังเลใดอีก ไม่ว่าอะไรจะรอผมอยู่เบื้องหลังประตูบานนั้น ต่อให้เขาจะยังจำผมได้หรือไม่ก็ตาม แต่ข้างหลังนั่นคือเมินโหยวผิง นายเรือพ่วงที่สกิลการใช้ชีวิตล้มเหลวระดับเก้า เขาไม่มีผมไม่ได้หรอก..
ผมบอกตัวเองว่าเขาขาดผมไม่ได้...แม้รู้ดีที่สุด ว่าความจริงแล้ว ผมต่างหากที่ขาดเขาไม่ได้
ผมต้องการเขา
ผมพร่ำย้ำในใจ เสี่ยวเกอ ต่อให้นายเคยช่วยฉันไว้หลายครั้ง แต่จำไว้ว่าฉันก็เคยช่วยชีวิตนายไม่น้อยเช่นกัน นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน ไม่อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้น นายน้อยสกุลอู๋จะไม่มีวันให้อภัยนาย
แสงสว่างด้านหลังทำให้ทัศนวิสัยของผมพร่าเลือน แต่ยังพอมองเห็นเงาตะคุ่มเป็นเค้าโครงของคนที่ร่างกายซูบผอม ร่างนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติง คล้ายว่ากำลังจ้องมองมาทางผมเช่นกัน
วินาทีนั้น ผมเกร็งหลังเหยียดตรง หัวใจเต้นหนัก ๆ อยู่ในอกขณะก้าวขาไปข้างหน้า ไม่มีสั่นไหวแม้แต่น้อยเหมือนอย่างอู๋เสียเมื่อสิบปีก่อน ผมเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ สิ่งเดียวที่หวังให้คงอยู่เช่นเดิม คือจะยังเป็นเทียนเจินอู๋เสียของเขา สิ่งที่เขาเคยบอกจะปกป้องไว้เป็นสิบปี
สายสัมพันธ์นั้นจางหายไปหมดแล้วหรือยังนะ...
ครั้งนี้ผมจะรั้งเขาไว้ได้หรือไม่ จะยังอยู่ในฐานะความเชื่อมโยงสุดท้ายระหว่างเขากับโลกอีกหรือเปล่า เบื้องหลังท่าทีนิ่งสงบของตัวเอง ในใจผมกลับกรีดร้องออกมาอย่างดื้อดึง
นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน
“ฉันมารับแล้ว” ผมกระซิบ แหบแห้งราวกับลมทะเลทราย แต่กลับรู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่น ๆ จากขอบตาตัวเอง
ก้าวไปได้อีกไม่เท่าไร ขาผมก็หมดแรงเอาดื้อ ๆ เข่าทรุดลงตรงหน้าร่างนั้น
“..กลับบ้านกันเถอะ...เสี่ยวเกอ”
ผมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะเป็นคร่ำครวญ แต่ไร้คำตอบใด ได้ยินเพียงเสียงหวีดหวิวคล้ายเสียงของพายุหิมะแว่วมาเข้าหู
แค่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น..
“นายหมดสติไปสองวันเต็ม” นายอ้วนกล่าวพลางชูนิ้วประกอบ “สองวันที่เสี่ยอ้วนต้องฟังนายละเมอเรียกเสี่ยวเกออยู่นั่น”
ผมขมวดคิ้ว รู้สึกปวดหัวหนึบ ๆ ภาพนายอ้วนโผล่เข้ามาในลานสายตา เขาโบกไม้โบกมือไปมาตรงหน้าเมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบอะไรสักอย่าง
“เฮ้ย เทียนเจิน” เขาทำหน้าละเหี่ยใจ หลายปีมานี้นายอ้วนดูแก่ลงไปไม่น้อย แต่ท่าทีคล่องแคล่วของเขายังไม่เปลี่ยน “สมองไปหมดแล้วเรอะ!?”
ผมพยายามเรียบเรียงความคิดในหัว พร้อมกับผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ นึกประหลาดใจกับคำพูดของนายอ้วนเมื่อครู่ ผมอาจจะฟังผิดไป แต่เสี่ยวเกอหรืออะไรสักอย่างนั่นคือใครกันนะ
“อู๋เสีย”
“นายจะเรียกอะไรนักหนาวะ” ผมบ่นแค่นั้นก็แสบคอไปหมด ทั้งหัวยังหนักอึ้งจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับ
นายอ้วนหัวเราะ ทำท่าจะผลักไหล่หยอกเย้า ทว่ากลับชะงักลงกลางคันเมื่อผมถามประโยคถัดไป
“แล้วเสี่ยวเกอคือใคร”
นายอ้วนค้างอยู่ในท่าเดิมเหมือนหมูถูกสตัฟฟ์ อ้าปากคล้ายอยากพูดบางอย่าง แต่แล้วกลับเงียบไป มองผมอย่างชั่งใจอยู่ค่อนวัน จากนั้นถอยไปนั่งข้างเตียงอย่างเก่า เบือนหน้าออกไปยังฟ้ากว้างนอกหน้าต่าง ไม่ยอมตอบคำถามผม
“เสี่ยวเกอคือใคร..”
ผมถามซ้ำ รู้สึกขัดใจกับท่าทีนั้นอย่างยากอธิบาย ยิ่งปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เมื่อพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
“นั่นสินะ”
เขากระซิบตอบจนได้ หันกลับมามองพร้อมมุมปากซึ่งยกขึ้นน้อย ๆ แต่กลับดูเศร้าสร้อยเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นรอยยิ้ม..
“เทียนเจิน ฉันคิดว่านายควรพักอีกหน่อย”
“เสี่ยวเกอ...เป็นใคร..”
“พักเถอะ”
“..เสี่ยว..เกอ?”
นายอ้วนไม่พูดอะไรกับผมอีก
เขาเพียงแต่นั่งอยู่ข้างผมที่มีหยดน้ำร่วงลงจากตาเป็นสาย
ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงร้องไห้ออกมา สมองผมว่างเปล่าขาวโพลน ในอกกลวงโบ๋ รู้สึกราวกับได้สูญเสียบางสิ่งซึ่งสำคัญยิ่งไปตลอดกาล แต่กลับนึกไม่ออกเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไร
นายอ้วนเริ่มต้นร้องเพลงด้วยเสียงห่วย ๆ เนื้อเพลงเล่าถึงความอาวรณ์ต่อใครสักคนที่อยู่แสนไกล สายตาทอดมองฝูงนกบินกลับรัง...
“...กลับบ้าน...”
ถ้อยคำแสนคุ้นนั้น ผมเอ่ยมันออกมาอย่างไร้ความหมาย ไม่รู้เคยพูดกับใครอย่างนี้บ้างหรือเปล่า ตอนตามอาสามกลับบ้านหรือ? ไม่น่าใช่
ครั้นเหลียวมองนายอ้วน เขายังคงร้องเพลงของเขาต่อไป
ผมเพียงแต่นั่งฟังเขาอยู่อย่างนั้นจนพลบค่ำ...จนนกบินกลับรังหมดแล้ว
และร้องไห้ให้กับความว่างเปล่า...กระทั่งไม่เหลืออะไรจะไหลลงมาอีก..
--------------
แอบแปะดูเดิ้ลนายน้อยอีกสิบปีให้หลัง /////
เรื่องนี้เคยเอาลงบล็อกไปเมื่อไม่นานมานี้ ขอเอามาลงอีกรอบในบอร์ดค่ะ (ก็อปตรง talk มาด้วย ยัยด้วงขี้เกียจ ฮา)
ทุกสิ่งล้วนมาจากมโนค่ะ ไม่สามารถใช้อ้างอิงใด ๆ แค่คิดว่าเสี่ยวเกอพูดเหมือนนายน้อยจะลืมตัวเองลงได้เลย
สิบปีให้หลัง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้านายน้อยลืมจริง ๆ ไม่ว่าด้วยอำนาจอะไรที่ทำให้ลืมแค่เสี่ยวเกออย่างเฉพาะเจาะจงก็ช่างเถอะ บางทีเสี่ยวเกออาจจะมีส่วนทำให้เกิดขึั้นอย่างนั้นเองก็ได้ ไม่อย่างนั้นนายน้อยต้องเป็นคนรับช่วงต่อหลังจากนั้นหรือเปล่า ผลัดกันเฝ้าหลังประตู? เสี่ยวเกอออกมาได้ นายน้อยเข้าไปแทนอย่างนี้เหรอ ถ้าแบบนั้น ตัวเสี่ยวเกอเองอาจจะอยากให้นายน้อยเป็นอิสระก็ได้นะคะถึงได้ยอมเป็นฝ่ายถูกลืมดีกว่า.... //มโนเข้าสิ ฮืออ
ฝากฟิก (และรูปวาด) ด้วยค่า ^o^
Paring : อู๋เสีย*เมินโหยวผิง / เมินโหยวผิง*อู๋เสีย (แล้วแต่จะคิดค่ะ)
****คำเตือน**** สปอยล์เล่ม 10 ค่ะ สปอยล์เต็ม ๆ ถ้ายังไม่ได้อ่านและยังไม่อยากทราบเนื้อเรื่อง อย่าเพิ่งกดอ่านนะคะ ;w;
เขาพูดเหมือนตัวเองจะถูกลืม
อะไรทำให้เขาเอ่ยเช่นนั้น? ผมจะลืมเขาได้อย่างไร กลับเป็นผมเองเสียอีกที่ครุ่นคิดจนหมกมุ่นอยู่ตลอด ว่าเขาต่างหาก ไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ายลืมผมไหม
สิบปีหลังประตูสำริดนั่น กับความทรงจำขาด ๆ หาย ๆ ของเขา แล้วผมจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ตกหล่นไปหรือเปล่า
ให้อดคิดได้อย่างไร เขาเคยลืมผมมาแล้วครั้งหนึ่ง ผมคนเดียวกับที่เขาบอกเองว่าเป็นความเชื่อมโยงอย่างเดียวระหว่างเขากับโลกใบนี้ หากเส้นสายสัมพันธ์เลือนรางนั้นสะบั้นเสีย ตัวตนของเขาจะยังเหลือสิ่งใดให้ผูกพันกับโลกนี้ได้อีก ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้วเลยสักนิด
ผมนึกถึงตรงนี้ก็หนาวสะท้านขึ้นมา รู้ดีว่าเมินโหยวผิงย่อมไม่เดือดร้อนเรื่องนั้น เขาคงทำเพียงปรายตา มองความเป็นไปทั้งหมดอย่างเงียบงัน และดำเนินสิ่งที่เชื่อมั่นว่าเป็นหน้าที่ของเขาต่อ ไร้ความรู้สึกใดมาทำให้บิดเบือน ความมุ่งมั่นของเขาซึ่งไม่มีใครหรือสิ่งใดสามารถสั่นคลอนได้เคยทำผมหวาดหวั่น ด้วยเกรงว่าอาจต้องเสียเขาไปตลอดกาล
แต่สิบปีผ่านไปแล้ว ผมกลับมายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าลึก อัดควันบุหรี่เข้าไปเต็มปอด เฝ้ามองประตูสำริดหนักอึ้งซึ่งกำลังเคลื่อนเปิดช้า ๆ
ไม่เป็นไร...ผมกระซิบกับตัวเอง
ผมไม่เป็นไรจริง ๆ ตอนนี้ไม่เหลือความลังเลใดอีก ไม่ว่าอะไรจะรอผมอยู่เบื้องหลังประตูบานนั้น ต่อให้เขาจะยังจำผมได้หรือไม่ก็ตาม แต่ข้างหลังนั่นคือเมินโหยวผิง นายเรือพ่วงที่สกิลการใช้ชีวิตล้มเหลวระดับเก้า เขาไม่มีผมไม่ได้หรอก..
ผมบอกตัวเองว่าเขาขาดผมไม่ได้...แม้รู้ดีที่สุด ว่าความจริงแล้ว ผมต่างหากที่ขาดเขาไม่ได้
ผมต้องการเขา
ผมพร่ำย้ำในใจ เสี่ยวเกอ ต่อให้นายเคยช่วยฉันไว้หลายครั้ง แต่จำไว้ว่าฉันก็เคยช่วยชีวิตนายไม่น้อยเช่นกัน นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน ไม่อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้น นายน้อยสกุลอู๋จะไม่มีวันให้อภัยนาย
แสงสว่างด้านหลังทำให้ทัศนวิสัยของผมพร่าเลือน แต่ยังพอมองเห็นเงาตะคุ่มเป็นเค้าโครงของคนที่ร่างกายซูบผอม ร่างนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติง คล้ายว่ากำลังจ้องมองมาทางผมเช่นกัน
วินาทีนั้น ผมเกร็งหลังเหยียดตรง หัวใจเต้นหนัก ๆ อยู่ในอกขณะก้าวขาไปข้างหน้า ไม่มีสั่นไหวแม้แต่น้อยเหมือนอย่างอู๋เสียเมื่อสิบปีก่อน ผมเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ สิ่งเดียวที่หวังให้คงอยู่เช่นเดิม คือจะยังเป็นเทียนเจินอู๋เสียของเขา สิ่งที่เขาเคยบอกจะปกป้องไว้เป็นสิบปี
สายสัมพันธ์นั้นจางหายไปหมดแล้วหรือยังนะ...
ครั้งนี้ผมจะรั้งเขาไว้ได้หรือไม่ จะยังอยู่ในฐานะความเชื่อมโยงสุดท้ายระหว่างเขากับโลกอีกหรือเปล่า เบื้องหลังท่าทีนิ่งสงบของตัวเอง ในใจผมกลับกรีดร้องออกมาอย่างดื้อดึง
นายไม่ได้รับอนุญาตให้ลืมฉัน
“ฉันมารับแล้ว” ผมกระซิบ แหบแห้งราวกับลมทะเลทราย แต่กลับรู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่น ๆ จากขอบตาตัวเอง
ก้าวไปได้อีกไม่เท่าไร ขาผมก็หมดแรงเอาดื้อ ๆ เข่าทรุดลงตรงหน้าร่างนั้น
“..กลับบ้านกันเถอะ...เสี่ยวเกอ”
ผมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะเป็นคร่ำครวญ แต่ไร้คำตอบใด ได้ยินเพียงเสียงหวีดหวิวคล้ายเสียงของพายุหิมะแว่วมาเข้าหู
แค่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น..
“นายหมดสติไปสองวันเต็ม” นายอ้วนกล่าวพลางชูนิ้วประกอบ “สองวันที่เสี่ยอ้วนต้องฟังนายละเมอเรียกเสี่ยวเกออยู่นั่น”
ผมขมวดคิ้ว รู้สึกปวดหัวหนึบ ๆ ภาพนายอ้วนโผล่เข้ามาในลานสายตา เขาโบกไม้โบกมือไปมาตรงหน้าเมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบอะไรสักอย่าง
“เฮ้ย เทียนเจิน” เขาทำหน้าละเหี่ยใจ หลายปีมานี้นายอ้วนดูแก่ลงไปไม่น้อย แต่ท่าทีคล่องแคล่วของเขายังไม่เปลี่ยน “สมองไปหมดแล้วเรอะ!?”
ผมพยายามเรียบเรียงความคิดในหัว พร้อมกับผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ นึกประหลาดใจกับคำพูดของนายอ้วนเมื่อครู่ ผมอาจจะฟังผิดไป แต่เสี่ยวเกอหรืออะไรสักอย่างนั่นคือใครกันนะ
“อู๋เสีย”
“นายจะเรียกอะไรนักหนาวะ” ผมบ่นแค่นั้นก็แสบคอไปหมด ทั้งหัวยังหนักอึ้งจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับ
นายอ้วนหัวเราะ ทำท่าจะผลักไหล่หยอกเย้า ทว่ากลับชะงักลงกลางคันเมื่อผมถามประโยคถัดไป
“แล้วเสี่ยวเกอคือใคร”
นายอ้วนค้างอยู่ในท่าเดิมเหมือนหมูถูกสตัฟฟ์ อ้าปากคล้ายอยากพูดบางอย่าง แต่แล้วกลับเงียบไป มองผมอย่างชั่งใจอยู่ค่อนวัน จากนั้นถอยไปนั่งข้างเตียงอย่างเก่า เบือนหน้าออกไปยังฟ้ากว้างนอกหน้าต่าง ไม่ยอมตอบคำถามผม
“เสี่ยวเกอคือใคร..”
ผมถามซ้ำ รู้สึกขัดใจกับท่าทีนั้นอย่างยากอธิบาย ยิ่งปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เมื่อพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
“นั่นสินะ”
เขากระซิบตอบจนได้ หันกลับมามองพร้อมมุมปากซึ่งยกขึ้นน้อย ๆ แต่กลับดูเศร้าสร้อยเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นรอยยิ้ม..
“เทียนเจิน ฉันคิดว่านายควรพักอีกหน่อย”
“เสี่ยวเกอ...เป็นใคร..”
“พักเถอะ”
“..เสี่ยว..เกอ?”
นายอ้วนไม่พูดอะไรกับผมอีก
เขาเพียงแต่นั่งอยู่ข้างผมที่มีหยดน้ำร่วงลงจากตาเป็นสาย
ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงร้องไห้ออกมา สมองผมว่างเปล่าขาวโพลน ในอกกลวงโบ๋ รู้สึกราวกับได้สูญเสียบางสิ่งซึ่งสำคัญยิ่งไปตลอดกาล แต่กลับนึกไม่ออกเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไร
นายอ้วนเริ่มต้นร้องเพลงด้วยเสียงห่วย ๆ เนื้อเพลงเล่าถึงความอาวรณ์ต่อใครสักคนที่อยู่แสนไกล สายตาทอดมองฝูงนกบินกลับรัง...
“...กลับบ้าน...”
ถ้อยคำแสนคุ้นนั้น ผมเอ่ยมันออกมาอย่างไร้ความหมาย ไม่รู้เคยพูดกับใครอย่างนี้บ้างหรือเปล่า ตอนตามอาสามกลับบ้านหรือ? ไม่น่าใช่
ครั้นเหลียวมองนายอ้วน เขายังคงร้องเพลงของเขาต่อไป
ผมเพียงแต่นั่งฟังเขาอยู่อย่างนั้นจนพลบค่ำ...จนนกบินกลับรังหมดแล้ว
และร้องไห้ให้กับความว่างเปล่า...กระทั่งไม่เหลืออะไรจะไหลลงมาอีก..
--------------
แอบแปะดูเดิ้ลนายน้อยอีกสิบปีให้หลัง /////
เรื่องนี้เคยเอาลงบล็อกไปเมื่อไม่นานมานี้ ขอเอามาลงอีกรอบในบอร์ดค่ะ (ก็อปตรง talk มาด้วย ยัยด้วงขี้เกียจ ฮา)
ทุกสิ่งล้วนมาจากมโนค่ะ ไม่สามารถใช้อ้างอิงใด ๆ แค่คิดว่าเสี่ยวเกอพูดเหมือนนายน้อยจะลืมตัวเองลงได้เลย
สิบปีให้หลัง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้านายน้อยลืมจริง ๆ ไม่ว่าด้วยอำนาจอะไรที่ทำให้ลืมแค่เสี่ยวเกออย่างเฉพาะเจาะจงก็ช่างเถอะ บางทีเสี่ยวเกออาจจะมีส่วนทำให้เกิดขึั้นอย่างนั้นเองก็ได้ ไม่อย่างนั้นนายน้อยต้องเป็นคนรับช่วงต่อหลังจากนั้นหรือเปล่า ผลัดกันเฝ้าหลังประตู? เสี่ยวเกอออกมาได้ นายน้อยเข้าไปแทนอย่างนี้เหรอ ถ้าแบบนั้น ตัวเสี่ยวเกอเองอาจจะอยากให้นายน้อยเป็นอิสระก็ได้นะคะถึงได้ยอมเป็นฝ่ายถูกลืมดีกว่า.... //มโนเข้าสิ ฮืออ
ฝากฟิก (และรูปวาด) ด้วยค่า ^o^
maew3ta- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 44
Points : 3559
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] The missing piece [เสียผิง/ผิงเสีย] **สปอยล์เล่ม 10**
โฮกกกกกกกกกกกกก TTwTT อ่านแล้วน้ำตาจะไหลตามค่ะ
(รูปวาดนายน้อยน่ากินมากกกก แฮว่ก แฮว่ก(?))
ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าถ้านายน้อยลืมไปก็อาจจะดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดมากขนาดนั้น (หรือยิ่งลืมจะยิ่งเจ็บปวดกันนะ? ; w
ขอบคุณที่เอาฟิคงามๆมาให้อ่านค่าา //โค้ง
(รูปวาดนายน้อยน่ากินมากกกก แฮว่ก แฮว่ก(?))
ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าถ้านายน้อยลืมไปก็อาจจะดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดมากขนาดนั้น (หรือยิ่งลืมจะยิ่งเจ็บปวดกันนะ? ; w
ขอบคุณที่เอาฟิคงามๆมาให้อ่านค่าา //โค้ง
Naitear- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 232
Points : 3765
Join date : 27/10/2014
Age : 27
ที่อยู่ : หลังผ้าม่านในห้องของคุณชายฮัว
Re: [OS] The missing piece [เสียผิง/ผิงเสีย] **สปอยล์เล่ม 10**
ไม่
ไม่นะ
ไม่!!!
//กรีดร้องหน้าคีย์บอร์ดน้ำตานอง
....................เรากำลังพยายามตั้งสติอยู่นะคะ หายใจเข้า... หายใจออก... หายใจเข้า... หายใจออก...
อ่านจบแล้วเพิ่งมาสำนึกได้ค่ะ ว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การที่เสี่ยวเกอลืมนายน้อย (เพราะเสี่ยวเกอเองก็อยู่มานาน แถมยังมีโรคความจำเสื่อมมาทางพันธุกรรมอีก) แต่เป็นการที่นายน้อยลืมเสี่ยวเกอต่างหาก
แถมการลืมคราวนี้เหมือนมันยังค้างๆคาๆอยู่ในจิตใต้สำนึกของนายน้อยด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพราะนายน้อยจำฝังใจเรื่องเสี่ยวเกอจนความจำโดนลบไปไม่หมด หรือเสี่ยวเกอมีเสี้ยวความลังเลอยู่ในเสี้ยววินาทีของการลบความทรงจำนายน้อยจนทำให้ลบไปไม่หมดก็ดี ล้วนน่าเศร้าพอกันทั้งคู่
บอกเลยค่ะว่าวันสองวันนี้อ่านฟิคเศร้าเกี่ยวกับผิงเสียมาหลายเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เรา(เกือบ)น้ำตาไกลออกมาคาจอคอมได้อย่างจริงจัง อ่า....เริ่มรู้สึกกระบอกตาร้อนๆอีกแล้วค่ะ ยอมรับนะว่าฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเราได้มากที่สุดด้วย
ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่แต่งอะไรดีๆแบบนี้มาให้ชาวด้วงได้อ่านกัน แถมเรายังมาเพ้ออะไรแบบนี้ใส่อีก ขอขอบคุณจริงๆค่ะ //โค้ง ปาดน้ำตา
ไม่นะ
ไม่!!!
//กรีดร้องหน้าคีย์บอร์ดน้ำตานอง
....................เรากำลังพยายามตั้งสติอยู่นะคะ หายใจเข้า... หายใจออก... หายใจเข้า... หายใจออก...
อ่านจบแล้วเพิ่งมาสำนึกได้ค่ะ ว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การที่เสี่ยวเกอลืมนายน้อย (เพราะเสี่ยวเกอเองก็อยู่มานาน แถมยังมีโรคความจำเสื่อมมาทางพันธุกรรมอีก) แต่เป็นการที่นายน้อยลืมเสี่ยวเกอต่างหาก
แถมการลืมคราวนี้เหมือนมันยังค้างๆคาๆอยู่ในจิตใต้สำนึกของนายน้อยด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพราะนายน้อยจำฝังใจเรื่องเสี่ยวเกอจนความจำโดนลบไปไม่หมด หรือเสี่ยวเกอมีเสี้ยวความลังเลอยู่ในเสี้ยววินาทีของการลบความทรงจำนายน้อยจนทำให้ลบไปไม่หมดก็ดี ล้วนน่าเศร้าพอกันทั้งคู่
บอกเลยค่ะว่าวันสองวันนี้อ่านฟิคเศร้าเกี่ยวกับผิงเสียมาหลายเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เรา(เกือบ)น้ำตาไกลออกมาคาจอคอมได้อย่างจริงจัง อ่า....เริ่มรู้สึกกระบอกตาร้อนๆอีกแล้วค่ะ ยอมรับนะว่าฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเราได้มากที่สุดด้วย
ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่แต่งอะไรดีๆแบบนี้มาให้ชาวด้วงได้อ่านกัน แถมเรายังมาเพ้ออะไรแบบนี้ใส่อีก ขอขอบคุณจริงๆค่ะ //โค้ง ปาดน้ำตา
Re: [OS] The missing piece [เสียผิง/ผิงเสีย] **สปอยล์เล่ม 10**
T T.. ไม่รู้จะอธิบายยังไง..
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
ทำไมนายน้อยถึงลืมละ เฮ่..นายน้อยT T
แต่อาจจะดีกว่าก็ได้... ละมั้ง
ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
ทำไมนายน้อยถึงลืมละ เฮ่..นายน้อยT T
แต่อาจจะดีกว่าก็ได้... ละมั้ง
ขอบคุณสำหรับฟิคค่ะ
bloodnine- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 77
Points : 3576
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] The missing piece [เสียผิง/ผิงเสีย] **สปอยล์เล่ม 10**
ไม่นะ น้ำตาไหลลลล แงงงง T^T
ไม่ว่าจะเป็นใคร ลืมใคร ก็น่าเศร้าทั้งคู่ค่ะ
แต่ถึงแม้ว่าจะลืม แต่หัวใจและความรู้สึกยังจดจำได้นะคะ จดจำว่าครั้งหนึ่งเคยมีใครอยู่ข้างๆกัน
แต่ก็กลับมาเศร้าตรงที่ จดจำความรู้สึกได้ แต่จำตัวตนของคนๆนั้นไม่ได้ ที่ว่างข้างๆกลับเป็นแค่ความว่างเปล่า คงเจ็บมากๆเลยล่ะ
ไม่ว่าจะเป็นใคร ลืมใคร ก็น่าเศร้าทั้งคู่ค่ะ
แต่ถึงแม้ว่าจะลืม แต่หัวใจและความรู้สึกยังจดจำได้นะคะ จดจำว่าครั้งหนึ่งเคยมีใครอยู่ข้างๆกัน
แต่ก็กลับมาเศร้าตรงที่ จดจำความรู้สึกได้ แต่จำตัวตนของคนๆนั้นไม่ได้ ที่ว่างข้างๆกลับเป็นแค่ความว่างเปล่า คงเจ็บมากๆเลยล่ะ
ryu77- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3549
Join date : 01/11/2014
Similar topics
» [OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10
» [OS] Scars [ผิงเสีย] *สปอยล์เล่ม 10*
» [OS] #dmbjdaily (เค้ก) a piece of cake [ผิงเสีย AU] ...R 18 เบาๆ //-//
» [Drabble] #dmbjdaily (สัมผัส) สัมผัสสุดท้าย [ผิงเสีย] *สปอยล์เล่ม 10*
» [Drabble] #dmbjdaily (หนึ่ง) หนึ่งชีวิต [เมินโหยวผิง&อู๋เสีย/ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10
» [OS] Scars [ผิงเสีย] *สปอยล์เล่ม 10*
» [OS] #dmbjdaily (เค้ก) a piece of cake [ผิงเสีย AU] ...R 18 เบาๆ //-//
» [Drabble] #dmbjdaily (สัมผัส) สัมผัสสุดท้าย [ผิงเสีย] *สปอยล์เล่ม 10*
» [Drabble] #dmbjdaily (หนึ่ง) หนึ่งชีวิต [เมินโหยวผิง&อู๋เสีย/ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth