Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS]Devil[ผิงเฮย][NC17]

5 posters

Go down

[OS]Devil[ผิงเฮย][NC17] Empty [OS]Devil[ผิงเฮย][NC17]

ตั้งหัวข้อ by kuramajoy Sun 09 Nov 2014, 21:02

Devil
เรื่องของเรื่องมันมาจาก โดผิงเสียเรื่องหนึ่งคะ

ไหนๆตบะแตกแล้ว ขอนอกใจฮัวเฮย เปปหนึ่งนะ (โดนคุณชายเอาไม้พลองเสียบดับ อีเมินนอกจากจะเอานายน้อยไปแล้วยังจะเอาเฮยไปอีก)

โดสามารถไปส่องแว๊บๆได้ที่ https://www.facebook.com/joy.kurama/posts/617719828351469?notif_t=like
ช่วงนี้เป็นอิด้วงเพ้อพกมากคะ แค่โดนนิดเดียวตูมโนได้ล้านแปด..

ชีวิตของคนเรานั้นวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา....ผมตระหนักได้ถึงดินปืนและการเอาตัวรอดต่อเมื่อเลือดสีแดงชาดไหลลงทั่วพรม คืนวันที่พ่อกับแม่ถูกกินอย่างโหดร้ายคืนนั้นเป็นอย่างๆรผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว รู้แต่ว่าวินาทีนั้นก้มลงเก็บมีดเล่มหนึ่ง วินาทีนั้นตลอดมาผมกลับต้องคอยฆ่าพวกปีศาจ

ในยุคสมัยที่มนุษย์และปีศาจยังอยู่ร่วมกัน พวกเราได้แต่ดิ้นรนเพียงเพื่อมีชีวิตอยู่ พวกปีศาจคอยแต่หาโอกาสที่จะกินพวกเราเป็นอาหาร มนุษย์ได้แต่รวมพลังกันจัดตั้งหน่วยไว้ไล่ล่าปีศาจ โดยจะมอบเงินรางวัลให้กับคนที่สามารถล่ายังปีศาจได้

ผมคิดว่ามันไม่เลวถ้าจะมีชีวิตอยู่บนเส้นด้ายที่คาบเกี่ยวกับความเป็นความตาย สนุกสนานไปวันๆ ไมได้อยากได้คำขอบคุณ หรือเป็นวีรบุรุษเหมือนกับใครเขา ...ก็แค่....ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตที่คงอยู่นี้ทนั้น

มือข้างหนึ่งกอบกำมีดสั้น อีกข้างถือปืนฆ่ายังปีศาจมันสนุกจะตาย ยามที่ได้กรีดลงไปฟังเสียงกรีดร้องนั้นนะ...ผมมีชีวิตอยู่เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดจดจำไมได้แล้ว รู้เพียงแค่ที่ตัวผมยังดำรงอยู่ได้อาจจะเป้นเพราะโชคช่วยก็ได้กระทมั้ง

“สวัสดีเฮยเสียจื่อวันนี้ก็ยังหล่อเหมือนเดิมนะ” เสียงหวานจากสาวเสริฟในร้านอาหารทักทายยามที่เดินเข้าร้าน ผมส่งจูบให้กับเธอก่อนที่จะยืนพิงเคาเตอร์

“เฮยเสียจื่อนายเอาใบนี้ไปสิ ฉันเบื่อแวมไพร์แล้ว” เพื่อนในหมู่นักล่าปีศาจที่รู้จักกันทักผมพร้อมกับยื่นใบประกาศจับแวมไพร์ตัวหนึ่งให้ ผมเลิกคิ้วยิ้มพรายก่อนที่จะหยอกเย้าเขา

“อะไรกัน นึกว่านายเอาหมดซะอีก คราวก่อนไปล่าแม่มุมสาวก็ไม่แบ่งปัน งวดนี้นายปัดผู้ชายมาให้ฉัน เอาสาวๆมาแบ่งกันมั่งสิ”

ใช่ว่างานนี้จะมีเกียรติ มันก็แค่งานของพวกคนเถื่อนที่ไม่มีที่ไปเท่านั้นเอง พวกเรามักจะล่าเป็นคู่หรือล่าเดี่ยว สำหรับผม ผมชอบการทำงานเดี่ยวมากกว่า
“เอาน่า เดี๋ยวคราวหน้าฉันจะเอาสาวๆมาแบ่ง คราวก่อนกินไม่มันส์เลย” เห็นเขาหัวเราะผมก็หัวเราะตาม

กักขฬะเหลือเกิน ของที่ล่าได้ก็เล่นให้หนำใจก่อนเอาไปฆ่าเพื่อรับรางวัล ขนาดปีศาจยังไม่เล่นก่อนฆ่า พวกเรามันก็เป้นพวกเลวทรามช้ามานยิ่งกว่าปีศาจ

“นายก็พูดไป ถึงไม่ต้องถึ่งปีศาจฉันก็มีสาวๆให้กินหนำสำราญ” ผมช้อนตาไปยังสาวเสริฟอกอวบอึ๋ม เธอขยิบตาให้กับผมเป็นนัยน์ว่าคืนนี้เจอกันพาให้ผิวปาก

“โธ่ก็นายมันหน้าตาดี “ เห็นเขากัดฟันกรอกผมเลยแอบตกเหยื่อสาวแกล้งเขาต่อ “นายเอาไปหน่อยเถอะ เห็นว่าเป็นแวมไพร์ตัวผู้ที่งดงามมากเชียว”

“หือ เป็นตัวผู้แต่งดงามเนี่ยนะ” ผมพลิกใบประกาศจับตอนแรกรับมาได้ได้พินิตมันแม้แต่น้อย ใบนำจับนั้นใช้การวาดดังนั้นจึงเก็บรายละเอียดใบหน้ามาไมได้เหมือนจริง แต่รูปร่างกับนัยน์ตาแสนเย็นชาประกอบกับผมเหยีดยกยาว เรือนกายผอมเพรียวก็จัดได้ว่ารูปงามเสียจริง

“สวยใช่ไหมละนายเอาไปเถอะ แลกกับมนุษย์หมาป่าของนาย” เจ้านั่นยังคงกล่อมผมไม่เลิกพาให้ผมรู้สึกสงสัย ผมมองยังเงินนำจับมันสูงจนน่าใจหาย เงินกำไรของมันมากกว่ามนุษย์หมาป่าที่ผมถืออยู่ถึง 5 เท่า

“ไม่ใช่ว่าไอ้นี่มันเก่งจนน่าฝ่อเลยเอามาแลกหรอกนะ”ผมหยิบเอาใบประกาศจับหมาป่าในมือมายื่นให้กับเขา ก่อนที่จะหยิบใบประกาศจับแวมไพร์รูปงามเข้ากระเป๋า

“น่า ไม่ใช่งั้นหรอแต่นายไม่กลัวไม่ใช่หรือ” เห็นเหงื่อของเขาผมก็หัวเราะคิกคัก เหลือบตาอย่างเย้ายวน นิ้วเรียวแตะลงคางของเพื่อนก่อนที่จะดีดเข้าที่หน้าผาก

“ก็ได้ ดูน่าสนุกดี เงินรางวัลนำจับสูงขนาดนี้ท่าจะเก่ง” ผมโบกมือให้กับสาวเสริฟทิ้งเงินค่าอาหารไว้บนโต๊ะ กระชับมีดสั้นในมือรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา

รอก่อนนะ...พ่อหนุ่มรูปงามถ้าจับได้จะเล่นอะไรดีละ

“สูงชะมัด” ผมกระชับเสื้อคุลมร่างกายแน่นรู้สึกไม่คิดว่าไปตกปากรับคำเลย ถ้ารู้ว่าพ่อหนุ่มรูปงามอยู่ในภูเขาจะไม่มาเลย ผมเงยหน้าความสูงของภูเขาก่อนที่จะยิ้มแหง จริงสิพวกแวมไพร์มันบินได้จะอยู่สูงแค่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ว่าตัวเองจะต้องปีนขึ้นไปหรือไม่

ผมขอพักอาศัยกับหมู่บ้านด้านล่างที่นั่นมีคนจำนวนไม่มากพวกเขาดูดีใจมากที่ผมมา ท่าทางจะมีหลายกลุ่มที่พลาดหวังกับการไล่จับเจ้าแวมไพร์ตัวเอง ผมกระชับอาวุธก่อนที่จะเตรียมสัพาระรู้สึกว่าเอาของมาน้อยไป

จวบจนยามค่ำคืนมาเยือน เวลาในการล่าของเหล่าแวมไพร์ผมสั่งให้คนในหมู่บ้านหลบซ่อนตัว สะบัดเสื้อคลุมเดินทอดน่องท่ามกลางบรรยากาศมืดมิด หูฟังเสียงรอบกาย ก่อนที่จะเริ่มร้องเพลง ท่วงท่าประหนึ่งเหมือนคนไม่สนอะไร หมู่บ้านนี้ด้านหลังติดกับป่า ล้อมถูเขาสูงชันเป็นการยากจะปีนขึ้นไป

“เอาละ มากินอาหารไหมจ๊ะ” ผมหยิบมีดสั้นขึ้นมาแตะลงยังต้นคอเลือกจุดที่มีเส้นเลือดบางเบา กรีดเรียกเลือด นิ้วเรียวแตะยังบาดแผลบีบเค้นให้หยาดหยดสีชาดไหลริน มันร่วงหล่นลงตามผิวกายขาวแตะลงยังพื้น ผมยิ้มก่อนที่จะปาดเลือดพรมพื้น

“หึ หึ เอ๊ามากินฉันไหมเอ่ย” ผมร้องเพลงขยับตัวเดิน บาดแผลที่คอนั้นตื้นเขินไม่เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ก็แค่เจ็บๆคันๆ

“ว๊า เมื่อไรยุงตัวใหญ่จะมา อุตส่าเตรียมไบก้อนนะเนี่ย อ๊ะ ไบก้อนมันใช้ฉีดแมลงสาปนี่นา” ผมหมุนตัววนเดินเข้าไปในป่าก่อนที่จะหยุดเมื่อเดินมาถึงลำธารเตี้ย นั่งลงกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้า เหยีดยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ กลิ่นเหม็นสาบของสัตว์ป่าบอกให้ผมรู้ว่าผมตกของอย่างอื่นแถมมาด้วย

“บู่ มาตกยุงแต่ได้หมาข้างถนนซะงั้น” ผมแลบลิ้นเมื่อหันหายไปก้พานพบกับมนุษย์หมาป่าตัวใหญ่ ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้ากลายเป็นสุนัขไปจนหมดดูแล้วน่าจะอยู่ในช่วงบ้าคลั่ง

“มามะเจ้าหมาน้อย” ผมกวัดมือเรียกมันก่อนที่จะเอี้ยวตัวหลบกรงเล็บที่พุ่งเข้ามารวดเร็ว มือแตะพื้นก่อนที่จะดีดตัวเอาฝ่าเท้าถีบยังขนหนาแน่น ผมรู้ดีว่าแค่นี้ไม่ระคายผิวมันจึงควักเอาปืนพกขึ้นมายิงอัดไปที่กลางลำตัว มันกรีดร้องโหยหวนเสียจนแก้วหูแทบลั่น น่ารำคาญสุดๆ

“โอ๊ยอย่าร้องมากจะได้ไหม” ผมวิ่งโกยอ้าวไม่คิดชีวิตเมื่อเจ้าหมาคลั่งบาดเจ็บโหมตัวเข้าใส่ มือคว้าเอาต้นไม้ข้างหนึ่งใช้เท้ายันลำต้นถีบตัวขึ้นเกาะกิ่งไม้ ดึงตัวขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้

“โชคไม่ดีเลยน๊า ที่ขึ้นไม่ได้นะน้องหมา” หมคลี่ยิ้มแล้วการรัวปืนใส่หมาที่โชคร้ายก็เริ่มชึ้น เสียงกรีดร้องดังระงมผมคิดว่ามันคงจะปลุกทั้งหมู่บ้าน ขอโทษนะ เดี๋ยวค่อยไปเลี้ยงไอติมสักแท่งแล้วกัน

“เอาละทำอะไรดีน๊า ถลกขนทั้งเป็นเลยดีไหม หึหึ” ผมกระโดดลงจากต้นไม้มองเจ้ามนุษย์หมาป่าที่หอบหายใจรวยริน ใช้เท้าเหยียบซ้ำลงยังบาดแผลของมันก่อนที่จะคลี่ยิ้มเหี้ยมเหรียน มันยังไมได้ตายดังนั้นจึงได้แต่ดิ้นรนอยู่ภายใต้เท้าของมัน “เลาะหนังทั้งเป็นๆ คงน่าสนุกนะ ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ค่อยๆเลาะเลยดีกว่า หึ หึ หึ”

ยิ่งเห็นน้ำตาของมันเลือกในตัวของผมก็พลุ่งพล่านผมควัดเอามีดสั้นขึ้นมาเงื้อมือหมายจะจิ้มแล้วเลาะขึ้นมาทั้งหนัก ทว่าวินาทีนั้นมือของผมกลับขยับไม่ได้ ข้อมือของผมถูกนิ้วเย็นเฉียบของใครบางคนรั้งเอาไว้ ผมเอี้ยวคอหันไปตามสันชาติณาน

นาที่ที่ตาของเราประสานกันผมคิดว่ามันช่างงดงงามเหลือเกิน ท่ามกลางจันทราสีเงินที่ลอยเด่นมอบแสงสว่างน้อยนิดแก่งยามค่ำคือน ใบหน้าสะสวยเย็นชาอาบไล้ไปด้วยแสงจันทร์ เรือนผมตรงเหยีดยยดยาวสลวยดูนุ่มนิ่ม นัยน์ตาเรียวคมของแวมไพร์จับจ้องลงมาที่ตัวตนของผม ริมฝีปากได้รุปประดับด้วยคมเขียวเล็กๆ เขามีรูปร่างผอมบางหน้าตาละอ่อนราวกับเด็กหนุ่มแต่ผมรู้ดีว่าพวกแวมไพร์ไม่แก่เขาอาจจะอายุเป็นพันปีแล้วก็ได้

สมแล้วที่เขียนไว้ว่าแวมไพร์หนุ่มรูปงาม...งามจริงๆ

“อึ่ก” ผมดึงข้อมือตัวเองกลับมาไมได้ เรี่ยวแรงของเขาช่างมกาศาลเหลือเกินแวมไพร์ตนนั้นเพียงแค่ตรึงร่างของผมเอาไว้

ไม่ดี...แรงเยอะเกินไป

“โอ๋ๆ ใจเย็นๆสิ “ ผมหัวเราะพลางหาเรื่องคุยกับมัน พยายามดึงมือกลับมา ...ก่อนที่จะถอนหายใจเมื่อพบว่าทำไม่ได้ มืออีกข้างหนึ่งที่เป็นอิสระล้วงเอาระเบิดแท่งลูกเล็กขึ้น ปาดงับไฟแช็กก่อนที่จะใช้เท้าจุดไฟ ผมเด้งตัวขึ้นมาจากพื้นถอยหลังประชิดตัวเอี้ยวยัดเอาระเบิดใส่ปากของแวมไพร์ตัวดี เต็มปาก

“อ่ก..” หากเป้นปกติไม่มีตัวไหนทนทานระเบิดได้ แต่เขากลับนิ่งเฉยไม่เพียงไม่ปล่อยมือที่กำผมอยู่ยังอ้าปากกลืนระเบิดลงไปทั้งลูก ผมถลึงตาอย่างไม่เชื่อว่าจะเจอปีศาจบ้าอะไรได้ขนาดนี้

ยุงแบบนี้แม้แต่ระเบิดไม่กลัวมันต้อง...

มือข้างที่เป้นอิสระของผมล้วงเอากระป๋องสีเขียวออกมาก่อนที่จะฉีดใส่หน้าเขาจนสุดแรง สเปรซ์สารเคมีพ่นใส่ใบหน้างดงามนั้นเสียจนตาข้างที่แสนน่ากลัวหลุบลง

ได้ผลแม้แต่ยุงก็ต้องชะงักเมือ่เจอไบก้อน รู้งี้ซื้อมาหลายๆกระป๋องก็คงดี ถ้ารู้ว่าระเบิดจะทำอะไรแต่ไบก้อนทำได้ บ้าเอ้ย ผมน่าจะซื้อบ้านฮานอยของแมลงสาปมาด้วย ผมเขวี้ยงกระป๋องเปล่าใส่หน้าเขา มือที่จับอยู่คลายแล้ว

มาถึงตอนนี้จะรออะไรอีกละครับ...โกยเถอะโยม ผมวิ่งสุดฝีเท้าก่อนที่จะชะงักเมื่อถึงลำธาร ...ยุงมันกลัวน้ำไหมเนี่ย ถูกยุงดูดเลือดนิดหน่อยนะผมไม่กลัวหรอกจะกลัวก็แต่มันจะไม่ดูดให้หมดแต่สร้างผมเป็นกูลของมันนะสิ

“โอ๊ย” ผมกรีดร้องเมื่ออีกนิดเดียวจะถึงลำธารแต่กลับล้มลง ผมไม่ได้ได้สะดุดขาตัวเองล้มแต่กลับถูกอะไรบางอย่างพุ่งตัวเข้าเข้ามากดผมไว้กับพื้น ผมสัมผัสได้ถึงสัมผัสของหนักที่กดทับบนศีรษะ นิ้วมือทั้งห้าของแวมไพร์หนุ่มกดศีรษะของผมลงกับพื้น แว่นตากันแดของผมกระแทกกับพื้นหญ้า โชคดีที่ตี+9 มันเอาไว้เลยไม่แตกง่ายๆ..
ใบหน้าของผมถูกครูดพาให้ร้องประท้วงกับความหล่อตัวเอง พอ พอ พ่อคุณเสียโฉมหมดแล้ว …เกิดผมเสียโฉมด้วงไม่หลงรักชีวิตบัดซบเลยนะ

ฉิบละ โดนไบก้อนยังไม่ตาย ...ผมขยับตัวพยายามจรดนิ้วลงบนผืนหิน ก่อนตายต้องเขียนไดอิ้งเมจเซสไว้ว่า ...จะฆ่าแวมไพร์ตัวนี้ต้องบ้านแมลงสาปฮานอย!

“อึ่ก” ยังไม่ทันได้เขียนไดอิ้งเมจเซจท่าทางยุงมันจะกลัวบ้านแมลงสาปฮานอยมาก ศีรษะของผมถูกจิกขึ้นไป ก่อนที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าแมลงจะแนบลงมาที่ซอกคอ ผมสั่นสะท้าน...ชิบ...รู้งี้ซื้อไบก้อนกลิ่นลาเวนเดอร์ก็ดีเหม็นชะมัด

“โอ๊ยพอๆ นายจะดูดเลือดก็ฆ่าก็ทำไป อย่ามาทำลายใบหน้าฉัน” ครั้นผมประท้วงมือข้างนั้นก็ชะงัก ผมแลบลิ้นใส่เขาก่อนที่พลิกตัวจับบ่าทั้งสองข้างของแวมไพร์หนุ่มถีบดีดเขาลอยลงลำธารข้างๆ รู้สึกดีที่แค่ล้างน้ำกลิ่นไบก้อนก็หาย โอ้ไบก้อนยี่ห้อนี่ดีจริงๆ เอาไว้รอดชีวิตจะซื้อหลายๆกระป๋องไว้ฉีดไล่ยุงและแมลงสาปที่บ้านนะ

ผมรีบลุกขึ้นแต่ไม่วายมีแวมไพร์แปลงร่างเป็นผีพรายคว้าที่ขาของผมลากลงมาจมน้ำ ร่างของผมร่วงหล่นยังน้ำ เจ็บเมื่อถูกผิวน้ำตีหน้า สำลักน้ำไปหลายอึกรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจร่างก็ถูกยกขึ้นมาจากน้ำเย็น สูดอากาศได้ชั่ววูบเดียวลืมตาขึ้นมาพานพบกับนัยน์ตาคู่เรียวที่ประชิดจนเกินไป กว่าจะรู้ตัวว่าใบหน้าของเขาอยู่ชิดใกล้เกินไปผมก็ขยับตัวไม่ได้แล้ว แวมไพร์หนุ่มรั้งตัวของผมขึ้นแขนข้างหนึ่งของเขาโอบรัดเอื้อมจับข้อมือทั้งสองข้าง อีกข้างประคองเอวของผมเอาไว้ ใบหน้าแนบชิดกับซอกคอ

ตายแน่...ผมหลับตาเมื่อรู้ว่าหนีไม่ทันแล้ว รอคอยความเจ็บปวด

“อ๊าก..” ผมกรีดร้องลั่นในยามที่สัมผัสคมเขี้ยวเสียดแทงลงยังต้นคอ เป้นคัร้งแรกที่ถูกแวมไพร์กัด มันเจ็บยิ่งกว่าถูกมีดแทง ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความชา ขาของผมอ่อนแรง ร่างกายอ่อนยวบ แวมไพร์หนุ่มประคองร่างกายของผมไว้ ฝังเขี้ยวแกลมจนมิดด้าม ตัวของผมกระตุกเมื่อรู้สึกราวกับถูกสูบเลือดออกไปลิตร

“อึ่ก...เบาหน่อย” ผมครางในยามที่เขากดศีรษะดูดเติมเต็มไม่ผ่อนแรงแม้แต่นิดเดียว ความทรมารดำเนินไปชั่วครู่ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกสุขสมราวกับกำลังโดนฝิ่น เคยได้ยินว่าเขี้ยวของมันมีฤทธิ์กล่อมประสาททำให้คนถูกกัดขัดขืนไมได้เห็นท่าจะจริง

“อือ...” ผมครางในยามที่คมเขี้ยวนั้นละไปแม้จะเจ็บในตอนแรกแต่กลับสร้างความรู้สึกดีให้คราหลัง ให้ตายเถอะนี่ผมถูกกัดหรือมีเซ็กส์กับเขากันแน่ ความชาพาให้ผมขยับร่างกายตัวเองไม่ได้แวมร์หนุ่มพยุงผมขึ้นจากน้ำ เขานั่งลงพิงต้นไม้ก่อนที่จะลากผมมาวางไว้บนตัก ร่างกายของผมแนบกับแผงอกแกร่ง รู้สึกว่าไอ้หมอนี่ซ่อนรุปกว่าที่คิด

“ถ้ากินอาหารพอแล้วก็ปล่อยได้ไหม” ผมขอร้องมันในยามที่ลืมตาขึ้นมองใบหน้าสะสวยนั้น อยากจะหาไบก้อนฉีดใส่หน้าอีกครั้ง

“นายทำให้ฉันบาดเจ็บบาดใน เลือดแค่นี้ไม่พอ” มือสองข้างของยุงเกาะเอวของผมเอาไว้รั้งให้ผมเหชิญหน้ากับมัน ผมหัวเราะก่อนที่จะคลี่ยิ้มยั่วยวน

“ใครใช้ให้นายกินระเบิด ไม่มีอะไรจะกินหรือไงพ่อแวมไพร์ เอ๊า งั้นก็กินฉันเลยสิ รออะไรละ”

อย่าทำให้เป็นกูลก็พอ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงรับตัวเองไม่ได้แน่

“กินมากกว่านี้นายตายแน่” เขาพูดอย่างใจดี บ๊ะแวมไพร์มีใจดีรอให้เหยื่อฟื้นสภาพด้วย ...

“นายรู้ไหมว่ามนุษย์ผลิตเม็ดเลือดใช้เวลาสองถึงสามวันเลยนะ “ผมเอนตัวซบกับบ่าของเขารู้สึกมึนหัวไปหมด อาการขาดเลือเป็นแบบนี้ เดี๋ยวนะถ้าเขาดูดขนาดนี้อีกครั้งผมตายแน่

“ฉันรู้” ตัวของผมถูกรั้งขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นอาหารสำเร็จรูปให้หิ้วกลับบ้าน...

“นายชื่ออะไร “ผมถามเขาอย่างหมดแรงตอนที่ถุกหิ้วขึ้นพาดบ่า แวมไพร์หน้าตายเพียงแค่เหลือบมองนั้นพาให้ผมรีบแนะนำตัวเอง “ฉันชื่อเฮยเสียจื่อ”

“จางฉี่หลิง..” คำตอบเรียบง่ายผสานไปกับสายลมแล้วการอยู่ร่วมกับแวมไพร์หน้าตายของผมก็เริ่มต้นขึ้น

โกหกนะ มันไม่ได้เริ่มต้นขึ้นหรอก...ไม่ได้ยาวนานจะต่อเป็นซีรีย์ยาว โชคดีที่ไอ้ยุงนี่มันอึดกว่าที่คิด หรือพูดให้ถูกคือผมคิดว่าเขาเป็นแมลงสาปกลายพันธุ์เป้นยุง หรือ ยุงกลายพันธุ์เป็นยุง

ใช้เวลาหนึ่งวันในตอนที่ผมได้นอนพะงายอยู่บนเตียงของเขา แวมไพร์หนุ่มรูปงามก็เดินมาภายในเขาหายแล้ว ผมยังไม่ทันจะได้ผลิตเลือดหรือลุกขึ้นได้เลยเขาก็รักษาได้เองแล้ว โอ้เยี่ยมจริง ต่อไปเอาระเบิดใส่หัวเขา เขาก็จะงอกออกมาได้สินะ แม่งนี่มันเผ่าพันธุ์อะไร ถ้าแวมไพร์เป้นแบบนี้ทุกตัว ผมว่าโลกนี้คงล่มสลายไปแล้ว

“งั้นนายก็ช่วยหิ้วฉันไปปล่อยข้างล่างนะพ่อยุงบิน แต่ช่วยเป็นตอนกลางคืนนะไม่งั้นมีคนพบเจอได้หาว่าเป็รปีศาจแน่” ผมเหลือบตามองเขา แว่นกันแดดหายไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ได้แต่ลูบนัยน์ตาสีประหลาดของตัวเอง เพราะมีพวกปีศาจแบบนายแค่ฉันสีตาแปลกยังโดนเหมารวม

“ฉันยังไม่ได้เอาคืนนายเลยอย่างน้อยต้องกินเลือดอีกหน่อย”

ผมอ้าปากค้างรู้สึกอยากหาไบก้อนมาฉีดอีกกระป๋องจบงานนี้ผมจะไปเป้นสปอนเซอร์ให้บริษัทไบก้อน

“นายจะฆ่าฉันหรือ นายมันโฉดชั่วสมแล้วที่ถูกลงในใบประกาศจับ”

ตามปกติคนที่ถูกลงในใบประกาศจับล้วนแต่เป็นปีศาจที่ก่อความเดือดร้อนจนมีคนตั้งค่าหัว

“ฉันไม่เคยทำร้ายใคร นายเป็นคนแรกที่ดื่มเลือด” พ่อแวมไพร์หน้าตายตอบเสียงเรียบพาให้ผมเลิกคิ้ว ผมพอขยับตัวได้บ้างแล้วจึงล้วงเอาใบประกาศขึ้นมา ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ดูสาเหตุที่ให้จับแต่เมื่อพลิกป้ายผมก็พบรูปด้วงตัวหนึ่งเขียนไว้ว่า

‘ช่วยจับพ่อแวมไพร์สุดหล่อกระชากใจมาเป้นผัวเดี้ยนให้ที จากด้วงโครตรวยหนึ่งตัว’

สลัด! ผมเกือบสถบนี่ไม่ใช่ประกาศล่าค่าหัวปีศาจแต่เป็นการลักพาผู้ชายไปบำเรอสวาทชัดๆ ...โลกของเราเป้นอะไรไปแล้วผมเงยหน้าขึ้นสบกับนัยน์ตาเฉยชา รู้สึกไม่แปลกใจถ้าเขาจะหล่อลากขนาดนี้

“งั้นฉันจ่ายอย่างอื่นให้นายแล้วกัน ฉันไม่จับนายแล้ว หรือถ้านายอยากเป้นของบำเรอสวาทก็ได้นะ” ผมพยุงตัวลุกขึ้นรู้สึกเรี่ยวแรงกลับมาได้ส่วนหนึ่ง ผมเอื้อมมือไปรั้งคอของแวมไพร์ดึงกระชากลงมาเตียงนุ่ม เป็นฝ่ายคร่อมทาบทัล ก่อนที่จะยิ้มยียวน

“ให้ฉันสอนอะไรไหม” ผมลูบไล้ใบหน้าสวยเฉยชาของเขา ไล้ไปตามลำคอแกร่งเขามีรูปร่างผอมบางกว่าผม นิ้วของผมลูบไล้ไปยังกล้ามเนื้อแน่นตึงอื้อหือ..ซ่อนรูปเหลือเกิน

“ฉันจะสอนนายตั้งแต่เอถึงZเลย” ผมเลียริมฝีปากรู้สึกดีเมื่อจะได้ลิ้มลองยังความงดงามเบื้องหน้า มือซุกซนปลดเปื้องเสื้อผ้าคับแน่นเขารูปร่างเสียจนต้องผิวปาก เห็นยังงามเบื้องหน้าผมก็คิดเขาคงแทนผู้หญิงได้สบายๆ

“หึ หึ “ ผมหัวเราะโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากได้รูป แทรกสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากร้อนผ่าว แวมไพร์หน้านิ่งไม่ขยับตัวยินยอมให้ผมปรนเปรอ ลิ้นกวาดหายังความหอมหวาน จางฉี่หลิงยนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะตอบสนองลิ้นของผม ท่าทีของเขาไม่ชำนาญเหมือนกับผมพาให้ผมหัวเราะในลำคอ เราแลกจูบเร่าร้อนเพียงครู่เดียวก่อนที่มือของผมจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาจนหมด

“นายนี่รูปร่างดีชะมัด” ผมเลียยังใบหูได้รูปลากไล้ลงมาที่ลำคอ มือของจางฉี่หลิงแตะยังลำคอของผม รอยเจือจางของคมเขี้ยวยังอยู่มันเจ็บแปร๊บผมจึงแหวกเรียวขาของเขา อ้าปากอมแก่นกายใหญ่โต

หมอนี่ดูแต่หน้าไมได้เลยว่าจะมีของใหญ่ขนาดนี้

ความร้อนระอุอัดแน่นเข้ามาในโพรงปากผมลมโลมเลียมัน อมดุดดื่มก่อนที่จะช้อนตาขึ้นมองใบหน้าของแวมไพร์ตัวดี ไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่นิ่งเงียบจนถึงยัดนี้กลับหลุบตาลง ใบหน้างามบิดเบี้ยวไปชั่วครู่ ผมตะลึงค้างได้ชั่วครู่ก่อนที่มือของแวมไพร์จอมเฉยชาจะพลักศีรษะของผมให้ออก กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรหลังของผมก็สัมผัสเข้ากับฟูกนุ่ม ความหนักของร่างกายยุงทับเข้ามาจนอึดอัน

“อ๊ะ..เดี๋ยวก่อน” มือของผมหลักไลห่ของเขาออกในยามที่กางเกงถูกถอดออกไป มือกร้านสอดเข้ามาใต้ร่มผ้าลูบไล้เนินอกของผม เข่าของเขาดันเข้ามาที่หว่างขา ความเสียวซ่านเกิดขึ้นพาให้ผมดิ้นสุดกำลัง

เดี๋ยว...ฉันอยากกดนายไม่ใช่ให้นายมากด

จางฉี่หลิงจูบที่หน้าผากรวบข้อมือผมขึ้นเหนือหัว ใบหน้าสวยงามซุกลงที่ซอกคอลิ้นสากลากไล้ยังรอยแผลที่โดนดูดก่อนที่คมเขี้ยวแหลมคมของแวมไพร์จะประทับเข้ามาที่เดิม ยามที่ของแหลมคมแทงลงมาในผิวกายอ่อนนุ่มพาให้ผมสั่นสะท้าน

ไอ้บ้านี่ไหนบอกจะไม่ดูดเลือดวันนี้แล้วไงยังจะกัดมาอีก

“อึ่ก..อ๊ะ” ผมครางแผ่วเบาในยามที่การกัดครานี้ไม่ได้ดูดเลือดหากแต่น้ำลายของเขากลับทำให้ผมชาคละเคล้ากับอารมณ์อีกรอบ ให้ตายเถอะผมอยากเป้นแวมไพร์มั่งจะได้พาอีหนูถึงสวรรค์โดยง่าย

“นายต้องสานต่อให้จบเลย พาฉันให้ขึ้นสวรรค์ละ หึ” ผมคลี่ยิ้มเย้ายวนในยามที่เขี้ยวคมละไปจากซอกคอ อ้าปากเลียยังปลายนิ้วที่เกลี่ยใบหน้าของผมอยู่ ชำเลืองมองเย้ายวน “เร็วสิ”

จางฉี่หลิงยิ้มมุมปากรอยยิ้มนั้นพาให้ตัวของผมชาวาบก่อนที่ความแข็งแกร่งจะสอดแทรกเข้ามายังช่องทางอ่อนนุ่ม มือของเขาลากไล้กระตุ้นอารมณ์ นึกว่าคนหน้าตายจะน่าเบื่อจนต้องทำเองที่ไหนได้เขาร้อนแรงยิ่งว่าไฟ ผมครางระเส่าในยามที่ความระดุนั้นจาบจ้วงครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกสุขสมคละเคล้าไปกับควรุนแรง

“อ๊ะ...เบาหน่อย” แรงกระแทกหนักหน่วงสร้างความเสียวซ่านเสียจนผมต้องเป็นฝ่ายร้องคอ ก่อนที่รสจูบเผ็ดร้อนจะตามลงมา...ผมคล้องคอแกร่งกัดยังซอกคอขาว

“เอาคืน ..” จางฉี่หลิงถลึงตาใส่ผมเมื่อผมฝากรอยเขี้ยวมนุษย์ไว้บนคอแวมไพร์ ผมแลบลิ้นยียวนไม่สนใจจนกระทั่งแก่นกายระอุกระแทกเข้ามาถี่ยิบ ช่องทางคับแคบตอดรัดมันพร้อมกับมือแกร่งที่บีบเค้นยังแก่นกายร้อนระอุของผม นำพาอารมณ์ของเราทั้งสองคนให้ผสมผสานกัน

ร่างกายของผมกระตุกเกร็งในยามที่ความเร่าร้อนแผดเผา ร้อนเสียจนแทบจะละลาย เสียงครวนครางของผมดังลั่นในยามที่ใกล้ถึงจุดสูงสุดก่อนที่จะถูกฉีดน้ำอุ่นเข้ามาในร่างพร้อมกับความปรถนาของผมที่ถูกปลดปล่อย

“หึ หึ ใครจะนึกว่าจะได้สมสู่กับแวมไพร์ “ ผมหัวเราะ แลบลิ้นเลียยังปลายนิ้วของเขาที่ยื่นมาแตะยังริมฝีปากของผม รู้สึกเหนื่อยอ่อนทว่าร่างของผมกลับเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อคนหน้าตายสอดเสียดเข้ามาอีกรอบ

“ฉันลืมบอก” แวมไพร์หน้าตายมองผมพุดน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันอึดกว่าที่นายคิด นายทำให้ฉันบาดเจ็บภายใน..”

สิ้นคำนั้นผมก็ได้แต่หน้าซีดเมื่อคิดได้ว่าเขาอึดราวกับแมลงสาป...ความร้อนผ่าวที่ยังคงคาอยู่ในร่างกายใหญ่โคขึ้นตามอารมณ์

ชิบหาย...รู้งี้ควรซื้อบ้านแมลงสาปฮานอยจริงๆด้วย

ผมอยากจะทักท้วง หรือไปหาไบก้อนมาฉีดใส่เขากลับทำได้แต่ครางครวนสุขสมไปกับบทรักเร่าร้อน เอานะมันก็ไม่เลวสักเท่าไรในเมื่อเขาสร้างความสุขให้กับร่างกายผมขนาดนี้

รู้สึกว่าไม่น่าขอแลกใบล่าฆ่าหัวเอาเสียเลย บางทีน้องหมาอาจจะน่ารักกว่ายุงก็ได้ ไว้คราวหน้าผมจะลองไปเหมาไบก้อนแล้วกลับมาหาเขาอีกครั้ง

ส่วนนี้ขอเสพสุขกับร่างกายแน่นตึงนี้ก่อนแล้วกัน..

The end

kuramajoy
kuramajoy
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
ด้วงต้นไม้เทพเจ้า

จำนวนข้อความ : 206
Points : 3780
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS]Devil[ผิงเฮย][NC17] Empty Re: [OS]Devil[ผิงเฮย][NC17]

ตั้งหัวข้อ by kuchang Sun 09 Nov 2014, 22:19

คู่เน้เหมาะกันจริงๆแฮะกับแนวเรื่โทนหื่นนิดๆเนี่ยยย

kuchang
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 12
Points : 3488
Join date : 30/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS]Devil[ผิงเฮย][NC17] Empty Re: [OS]Devil[ผิงเฮย][NC17]

ตั้งหัวข้อ by por:PE Sun 09 Nov 2014, 22:58

อร๊ากกกกกกกกกกกก ท่านจิ้งโดนดาเมจจากรูปแบ้ววววววววว

//นอนตายคากองเลือดอย่างสงบ
por:PE
por:PE
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 13
Points : 3488
Join date : 06/11/2014
Age : 28

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS]Devil[ผิงเฮย][NC17] Empty Re: [OS]Devil[ผิงเฮย][NC17]

ตั้งหัวข้อ by qpanit Mon 10 Nov 2014, 00:24

บ้านแมลงสาป 555+
qpanit
qpanit
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 6
Points : 3485
Join date : 27/10/2014

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS]Devil[ผิงเฮย][NC17] Empty Re: [OS]Devil[ผิงเฮย][NC17]

ตั้งหัวข้อ by SilverCloud Mon 10 Nov 2014, 00:32

กรี๊ดดดดด เสี่ยวเกอแวมไพร์ช่างดีงาม แค่กัดก็ทำเอานายแว่นเคลิ้มเชียว ว่าแต่ด้วงท่านไหนกันที่ออกหมายจับนั่นจนพาให้อิแว่นเอาคอไปให้แวมไพร์เมินดูดถึงเตียง จิได้ไปขอบคุณซักหน่อย XD
SilverCloud
SilverCloud
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 433
Points : 3949
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ