Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS]Snake[ฮัวเฮย]
5 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS]Snake[ฮัวเฮย]
Snake
เนื่องจากเห็นเฟนอาร์ตซีรีย์ราชา (ทั้ง 4 หนุ่มเป็นราชา ) แว่นเป็นราชาบึงงู รายละเอียดเฟนอาร์ตโปรดดูได้ตามลิงค์นี้เลยคะ https://www.facebook.com/joy.kurama/media_set?set=a.616613745128744.1073741864.100003403720283&type=1&pnref=story
ขอแต่งเล่นสักตอนสั้นๆจบนะคะ
คู่ เสี่ยวฮัว กับเฮยเสียจื่อ ไปคิดเอาเองว่าใครเมะ ใครเคะ ได้ทั้งคู่คะ
สดใสไร้เรท ปิ้งปั้งเหมือนคนแต่ง
ท่ามกลางรัชสมัยที่แว่นแคว้นยังแยกออกจากกัน ดำรงด้วยการปกครองแบบราชาธิราช ผู้ที่สวรรค์เลือกสรรคือผู้ที่จะได้ยืนเหนือผู้อื่นปกครองไพร่ผล
ท่ามกลางดินแดนแบ่งแว่นแคว้นหากจะถามถึงดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดในยามนี้คือแคว้นจางผู้ปกครองด้วยพระร
เซี่ยอวี้ฮัว ราชาแห่งอาณาจักรดอกไม้เซี่ย รับรู้ถึงข้อนี้ดีจึงได้ใช้สายสัมพันธุ์ของแคว้นอู๋ขอเข้าพบสักครา แดนอู๋ของราชาอู๋เสียแม้จะเป็นดินแดนที่แอนแอเก่งกาจด้านการค้าขายแต่กลับได้รับการปกปักษ์จากแคว้นจางจึงทำให้ไม่มีผุ้ใดกล้ามาเปิดศึกกับแคว้นอู๋
ตอนนี้แคว้นของข้ากำลังวุ่นวาย ด้วยกลศึกภายในรัชยาทผู้ต้องรับศึกทั้งภายนอกและภายใน ตนหาใช่พี่น้องคนเดียวดังเช่นราชาอู๋ แต่กลับมีพี่น้องญาติหลายคนครั้นราชาองค์ก่อนสละสิทธิจึงได้เกิดรอยร้าว ยิ่งกับตนที่ถูกราชาแห่งแดนงิ้วเอาไปเลี้ยงจึงมีปัญหา
แม้จะดูขี้ขลาดไปบ้างที่มาขอให้สามีของสหาย แค่ก...เพื่อนของเพื่อนช่วยแต่เพียงแค่อู๋เสียส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้คราหนึ่ง ราชาผู้ทีได้ขนานามว่าไร้ใจ กลับอ่อนยวบ ยินยอมทำตามทุกอย่าง
บางครั้งข้าก็คิดว่า ผู้ที่อ่อนแอที่สุดกลับเข้มแข็งที่สุด
ข้าขอเข้าพบกับราชาจางถูกพามายังห้องทรงงานของฮ่องเต้ ราชาจางเป็นผู้เงียบขรึม น่าเสียดายที่อู๋เสียติดธุระไม่ได้มาด้วย ทำให้ข้าต้องเผชิญหน้ากับเขาตามลำพัง ข้าคิดวาจะรีบคุยธุณะแล้วกลับไปแต่กลับมีเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก
“ท่านจะไม่ดูหรือ” ข้าถามองค์ราชาผุ้นั่งอยู่บนบังลังค์ดว้ยใบหน้าเรียบเฉย เขากลับไม่สนใจไยดีจนกระทั่งมีใครพูดขึ้นมางูยักษ์ ร่างเพรียวของราชาจางกลับลุกพรวดขึ้นคว้ากระบี่วิ่งออกจากห้องทรงงาน ทำเอาข้าผู้เป็นขแกต้องยืนตกตะลึง
“ขอโษด้วยขอรับราชาเซี่ย งานคัร้งนี้เกินกำลังของทหารวัง” มหาเล็กเอ่ยรายงานกับข้าได้ยินเอะอะโวยวายไปทั่ว ทำให้ข้าอยากรู้จึงเดินไปดู สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำเอาข้าเข้าใจว่าทำไมราชาจางผู้เก่งกาจถึงได้เปลี่ยนสีหน้า
งู....อรพิษขนาดมหึมา ลำตัวของมันเทียบเท่ากับบ้านคนสองชั้น นัยน์ตาเรียวคม อ้าปากขู่ดูดุร้าย เพียงค่หางของมันโบกสะบัดทีเดียวก็กวาดทหารยามได้นับร้อย ข้าเห็นองค์ราชาจางฉี่หลิงยืนอย่างสง่างามเบื้องหน้าเจ้าสัตว์ร้าย นัยน์ตาเรียวคมของเขาเงยหน้าขึ้นมองบนศีรษะของเจ้างูยักษ์ ก่อนที่จะคำรามก้อง
“เฮยเสียจื่อกลับไปซะ!” สิ้นเสียงคำรามกึกก้องเจ้างูยักษ์ก็โน้มตัวลง ศีรษะขนาดใหญ่ยักษ์ของมันแนบลงกับพื้น ก่อนที่เรือนร่างสมสว่นของบุรุษผู้หนึ่งจะก้าวลงมาจากหัวของเขา คงเพราะงูมันตัวใหญ่เกินไปและเขานั่งบนหัวของมันจึงได้ไม่มีผุ้ใดพบเห็น
“ก็ข้าเหงานี่นา ....เสี่ยวเกอมาเล่นกันเถอะ” น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น ใบหน้าได้รูปริมฝีปากบางเรียว ผิวกายขาวราวกับคนที่ไม่โดนแดด เครื่องหน้าสมบูรณ์ติดเพียงเขาสวมใส่แว่นตากันแดดหนาทึบ ทุกคนต่างพากันเงียบกริบหาใช่เพราะเขาดูสง่างามเกรงขามแต่เพราะ...
เขาไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้ดยกเว้นเสื้อคลุมสีแดงสดราวกับเลือดที่เปิดอ้าให้เห็นทุกอย่าง...ทั้งกล้ามเนื้อสวยงาม ผิวกายขาวนวล และจุดเร้นลับ..
“เอาน้ำมันมาราดจุดไฟเผามันซะ” คำสั่งเหี้ยมโหดหลุดจากปากของราชาจางแทบจะในทันทีที่เห็นบุรุษผู้นั้น โถ ข้าเข้าใจเขานะเป็นข้าก็คงทำเช่นเดียวกัน
“เดี๋ยวก่อนอะไรกัน “ ชายผู้ถูกเรียกว่าเฮยเสียจื่อทำปากยื่นราวกับเด็กน้อย “ข้ามาเล่นเจ้าก็จะไล่ข้ากลับไม่พอ ยังเอาไฟมาเปาข้าอีก เจ้าเห็นข้าเป็นอะไร ข้าละเสียใจ ข้าจะฟ้องอุ๋เสีย ข้าจะฟ้องราชาแสนน่ารักคนนั้น ราชาจางรังแกข้า”
ท่วงท่าสะดีดสะดิ้งนั้นพาให้ราชาจางตบหน้าผาก ก่อนที่จะโบกมือ
“ข้าเคยบอกแล้วไงว่าให้ใส่เสื้อผ้า” ราชาจางปรายตามองอีกฝ่ายก่อนที่จะหันกายเดินเข้าอาคาร ทิ้งให้เฮยเสียจื่อทำท่างอแงราวกับเด็กน้อย ใบหน้าได้รูป ยิ้มกว้างเมื่อมีทหารยามเดินเข้ามาใกล้ มหาเล็กของราชาจางยื่นเสื้อผ้าให้เขาอย่างเกรงกลัว แต่ครั้นจะแตะต้องยังเรือนกายนั้น เส้นด้าย ไม่สิ งูตัวขนาดแขนตัวหนึ่งก็เลื้อยพัวพันลงมาจากบ่าของเฮยเสียจื่อแลบลิ้นขู่
เพียงทั่น้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องตัวเขาอีกเลย
“มาเล่นกับข้าเถอะนะ” น้ำเสียงร่าเริงดังึข้นอีกครั้ง อรพิษสีแดงก้าวย่างไปตามทางเดินด้วยเท้าเปล่าเปลือย ข้าเหลือบมองเท้าบอบบางนั้นเขรอะไปด้วยฝุ่นดินกลับรู้สึกเสียดาย
ท่าทางเขาคงจะไม่ค่อยได้เดินเอง หรือหากเดินคงไม่ใช่ในสภาพพื้นดินเช่นนี้ เพราะผิวเท้าอ่อนของเขาเริ่มมีรอยถลอก แต่ความจริงบนลานหินใครเขาใช้เท้าเปล่าเดิน
“จางฉี่หลิงคนใจร้าย งั้นข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว ข้าไปหาหนูแฮมเตอร์ดีกว่า” อรพิษงดงามแลบลิ้น ข้าคีล่ยิ้มเมื่อคิดว่าใบหน้านั้นช่างดูน่ารักน่าชังเหลือเกิน...
น่ารักน่าชัง ? ข้าคงบ้าไปแล้วที่คิดว่าผู้ชายตัวโตๆอย่างเช่นเฮยเสียจื่อน่ารัก
“หยุด! เจ้าเป็นถึงราชาหัดทำตัวให้สมฐานะหน่อย” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยห้ามสุดท้ายแล้วจางฉี่หลิงก็ยอมแพ้ เพื่อไม่ให้สุดรักของตนเองโดนงูป่วนเขาเดินเข้ามาใกล้เฮยเสียจื่อดึงผ้าคลุมสีแดงสดนั้นคลุมกายขาวผ่องปิดอันของสงวน ราชาจางเหลือบมองยังเท่าเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายก่อนที่จะเรียกมหาเล็กที่สั่นกลัวมาอีกครั้ง แต่เฮยเสียจื่อกลับทำแก้มป่อง
“ไม่เอาอ๊ะ ข้าไม่เอาคนนี้” สิ้นเสียงว่าไม่เอาของเฮยเสียจื่อเจ้างูยักษ์ที่นอนนิ่งกลับขยับกายอีกครั้ง มันลืมตาราวกับจะตอบคำของผ฿เป็นนายพาให้ผู้คนแตกตื่น
“อย่าเอาแต่ใจ” ราชาจางหรี่นัยน์ตาท่าทางเหนื่อยอ่อน “ข้าไม่ว่างต้องไปปกป้องชายแดน เจ้าจะมาเที่ยวเล่นได้แต่ใส่เสื้อผ้าและทำตัวดีเสียหน่อย”
“เจ้าเป็นคนที่เอาชนะข้า เดินข้ามพรมแดนดินแดดของข้าได้ เจ้าคือเพื่อนของข้า ราชาน่ารักน้อยคนนั้นก็บอกว่าจะเป็นเพื่อนกับข้า ข้ามาเล่นด้วยไม่ได้ งั้นข้าจะกลับแล้ว” เฮยเสียจื่อแลบลิ้นใส่ท่าทางเอาแต่ใจ คลี่ยิ้มยั่วยวน ราชาจางได้แต่ถอนหายใจก่อนที่ทำหน้าเหมือนจะยอมแพ้ข้าจึงได้สอดขึ้นมา
บางครั้งการช่วยเขาจะทำให้เขาช่วยข้าได้ง่ายขึ้น
“งั้นยกหน้าที่นี้ให้เถิด” ข้าเดินออกจากทหารยามที่รายล้อมไปยังเบื้องหน้าบุรุษผู้เอาแต่ใจ เฮยเสียจื่อเอียงคอเมื่อเห็นข้าเขาก็ฉีกยิ้มกว้าง
“สวยจัง สุดยอดเลยสวยเหมือนไอ้ที่วาดอยู่บนผนังเลย อันนั้นมันเรียกว่ากระไรนะ นางฟ้า เทพธิดา” ใบหน้าได้รูปหันไปเสวนากับงูแดงที่พาดคอ ผู้คนต่างหัวเราะเมื่อคิดว่าราชาโง่เง่าคุยกับงู แต่พลันต้องเงียบเสียงเมื่องูสีแดงนั้นเปล่งเสียงเล็กๆ
“บนผนังคือเทพธิดาร่ายรำ”เจ้างูตัวเล็กสีแดงสดดุจเดียวกับเสื้อคลุมของราชาเลื้อยไปมาระหว่างคอ เฮยเสียจื่อคลี่ยยิ้มตบมือราวกับถูกใจก่อนที่จะชี้มายังข้า
“ใช่แล้วสวยเหมือนเทพธิดาเลย นี่ร่ายรำให้ดูหน่อยสิแล้ววันนี้ข้าจะเป็นเด็กดี” ข้าเหลือบตามองเขา ดูเหมือนเขาจะเชื่อฟังราชาจางเพราะราชาได้เอาชนะเขาได้ แต่ข้าคงไม่มีวันเอาชนะเขาได้
ราชาผู้มีงูยักษ์เป้นพาหนะ มีงูพิษร้ายแรงเป็นมหาเล็ดติดตามตัว นิสัยแปลกประหลาดไม่มีผู้ใดได้เห็นยังใบหน้าที่แท้จริง...ราชาแห่งดินแดนอสรพิษ ดินแดนที่อุดม
สมบูรณ์ไปด้วยป่าดงดิบชื้น มีลำธารความอุดมสมบูรณ์ที่สุดใน 4 แผ่นดินใหญ่ เต็มไปด้วยแร่ธรรมชาติ ทว่ากลับมิมีผุ้ใดรุกรานได้ ดินแดนที่ถูกปกปักษ์ด้วยงูนานาพันธุ์
ด้วยอาณาประเทศที่เอื้อแก่การดำรงชีพของเหล่างูพิษ แถมทหารกล้าพวกนี้ยังเต็มไปด้วยพิษร้ายแรงที่กัดทีเดียวสามารถตายได้ในทันที ไม่มีใครจะคาดได้ว่าจะถูกงูลอบโจมตีที่ไหน
แถมด้วยงูยักษ์ที่เป้นตำนานเล่าขานว่าสามารถโอบรอบทั้งเมืองได้หลับใหลอยู่ใต้ธาราของปราสาท เพียงแค่เจ้างูเหลือมที่ราชาแปลกประหลาดขี่ก็สามารถฟาดทหารหายได้ครึ่งทัพ
ดินแดนที่ไม่มีผู้ใดเอาชนะได้ หรือผ่านทางได้ ปกติคนเดินทางจะหลีกเลี่ยงยอมเดินอ้อม ทว่าจางฉี่หลิงกลับนำทัพเดินผ่านดินแดดนี้มาได้
ข้ามองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคลี่รอยยิ้มล้วงเอาพัดขึ้นมาจากสาปเสื้อ ก้าวเท้าไปข้างหน้า เปิดพัดร่ายรำอยู่ชั่ครู่ต่อหน้าเขา ร่างแกร่งกล้าชะงักราวกับต้องมนต์สะกดยืนมองข้าแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ลืมปั้นแต่ง
ราวกับตกอยู่ในภวังค์
ข้าสะบัดพัดเรียกสติของเขาก่อนที่จะคลี่ยิ้มเตือนเขาให้รู้ว่าร่ายรำจบลงแล้ว เฮยเสียจื่อเดินเข้ามาใกล้ข้าริมฝีปากเหยีดยยิ้มเหมืนเด็กเจอของเล่นถูกใจ
“สุดยอดเลย เจ้าทั้งสวย ร่ายรำหรือก็งดงาม ข้าเพิ่งได้เห็น สุดยอดเหลือเกิน” ราชาแดนงูเดินเข้ามาใกล้ข้า ข้าก้มลงมองปลายนิ้วที่พัวพันงูสีแดงสดเล่นของเขา
“ราชา อย่าเข้าใกล้เกินจำเป็น” มหาเล็ดสีแดงเอ่ยเตือนราชาของมันแต่เฮยเสียจื่อกลับส่ายหน้า
“ไม่เป้นไรคนผุ้นี้อ่อนแอกว่าข้า” พูดจบเขาก็ชี้นิ้วไปยังเจ้างูตัวใหญ่ “ไปรอข้านอกเมืองก่อนนะ”
งูยักษ์เหลือบตามองนายของมันห่อนที่เลื้อยคลายนไปทางถนนออกนอกเมือง ทอดทิ้งแต่ราชากับงูพิษสีแดงตัวหนึ่ง
“เอาละ เจ้าจะพาข้าไปไหน” เขาคีล่ยิ้มให้กับข้า ทำไมฉับพลันในใจข้ากลับคิดว่าตนเองไม่ชอบรอยยิ้มนั้นเอาเสียเลย ราวกับใส่หน้าตาเอาไว้หนึ่งใบ ...แต่ข่าก็ว่าเขาไมได้เพราะข้าเองก็สวมใส่หน้าตาเอาไว้หนึ่งใบเช่นกัน
“เราไปใส่เสื้อกันเถอะ” ข้านำทางเขไปทางห้องเปลบี่ยนตัว มหาเล็กของจางฉี่หลิงนำทางข้าด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ถูกเฮยเสียจื่อหยอกเย้าไปหลายที สุดท้ายราชาเอาแต่ใจคนนั้นก็ไล่ทุกคนไปให้พ้นทางเหลือเพียงข้ากับเขา
ข้าถอนหายใจไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีเหตุผล แต่เขาเอาแต่ใจไป
“ถึงชั่วดีเยี่ยงไรเจ้าก็เป้นราชา ไม่ชอบเขาที่กลัวเจ้าก็จงพูดเลี่ยงให้เขาทำงานอื่นเสียสิ” ข้าพาเขามายังห้องเปลบี่ยนเสื้อผ้าภายในมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ ข้าเปิดตู้ดูเหมือนมันจะไม่ได้มีแต่ของผู้ชาย มือรื้อค้นเสื้อผ้าไปปากก็ต่อว่าเขาไป ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไล่คนใช้ไปเสียหมดข้าก็คงไม่ต้องทำงานงี่เง่าเช่นนี้
“ข้าชอบนะ เจ้าสวย ไม่กลัวข้าด้วย เสี่ยวเกอก็เหมือนกัน แข็งแกร่ง ราชาหนูแฮมเตอร์ก้น่ารักแถมยังใจดี อ่อนโยนกับข้าอีก”
เห็นคำชมของเขาข้าก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร ล้วงอารองเท้าได้คู่หนึ่งก็ให้เขาใส่ไปก่อน อย่างน้อยก็จะได้ไม่เจ็บเท้าอีก
“เจ้าควรรู้วิธีวางตนบ้าง เดี๋ยวคนจะไม่อยู่ในอาณัติ” ข้ารื้อค้นกองผ้าอีกจำนวนหนึ่งก่อนที่จะเหลือบมองเขา เฮยเสียจื่อหัวเราะร่วน เดินวนรอบตัวข้าราวกับเด็กน้อยอยู่ไม่สุก
“ข้าจะเรียนรู้ไปไย ในเมื่อเมืองของข้าไม่มีคน”
สิ้นคำของเขาข้าก็เงยหน้ามองความวิปริตเบื้องหน้า...ก่อนที่จะเข้าใจ ที่เขาว่ากันวาไม่เคยเห็นผู้อาศัยในดินแดนงูนอกจากงูนานาพันธุ์และสัตวืป่าคือเรื่องจริง...
หากดินแดนนั้นไม่มีผุ้คนอาศัย มีแต่งูเป็นประชากร และมีมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวเป็นราชาของพวกมัน...การจัดลำดับชั้นแบบนั้นออกจะแปลกเกินความเข้าใจไปบ้าง
หากเป้นพวกงูด้วยกัน จะเชื่อฟังนางพญางู หรืองูตัวใหญ่ข้าไม่สงสัย แต่งูทั้งหมดพาเชื่อฟังมนุษย์นี่นะ..
“เจ้าเป็นมนุษย์หรือไม่” ข้าอดไม่ได้ที่จะถามเขา เฮยเสียจื่อเอียงคอทำท่าน่ารักก่อนที่จะแลบลิ้นยียวน
“ไม่รู้สิ แต่ข้าเหมือนกับพวกเจ้า ถ้าเจ้าเป็นมนุษย์ ข้าเป็นมนุษย์กระมั้ง”
ข้ามองเขาอีกครั้งหนึ่งพิจารณาตั้งแต่เรือนผมนุ่มนิ่มสีดำสนิท ใบหน้าได้รูป จมูกโดด่งเป็นสัน เรือนร่างขาวผ่องสมส่วนไม่ว่าส่วนใดก็เหมือนมนุษย์ทุกประการ จะยกเว้นก็แต่ ....แว่นตาสีดำสนิทบนใบหน้า โดยไม่รู้ตัวข้าเอื้อมมือไปใกล้เขาหมายจะถอดสิ่งเกะกะนั้นออก ฉับลพันเสียงขู่พร้อมกับเส้นสีแดงก็พุ่งเข้ามา ข้าเอี้ยวตัวหลบเกือบไม่ทันโชคยังดีที่ราชาอสรพิษคว้ามหาเล็กของเขาไว้ได้ หยุดยั้งไม่ให้ทำร้ายข้า
“อย่าสิ” เฮยเสียจื่อเอ็ดคนของตนเบาๆ แต่เจ้างูสีแดงกลับขู่ฟ่อทำให้ราชาประหลาดคลี่ยิ้มลูบหัวเจ้างูน้อย “โอ๋ๆ ไม่ขู่นะเด็กดี ไม่เป้นไรหรอก”
“ขอโทษข้าเพียงแค่จะติดเครื่องประดับให้เจ้า” ข้าดึงดอกไม้ดอกหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงตนเอง มันคือดอกไม้ของเมืองข้า แสร้งหาเรื่องเบี่ยงเบนไม่ให้รู้ว่าข้าพยายามถอดแว่นของเขา ข้ามองเขาแล้วก็อดถามไมได้ “พ่อแม่เจ้าเล่า”
เขาต้องไม่มีพ่อแม่เป็นงูแน่ ถ้ามีจริงข้าจะยอมแพ้
“เอ...” ราชาแห่งดินแดนงูทำท่าครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะหันไปมองเจ้างูที่เลื้อยพันคอตน “เฮ้ แม่ข้าอยู่ไหนนะ”
“ถ้าองค์ราณีเลื้อยพันอยู่ใต้ปราสาทช่วงนี้จำศีลอยู่ ท่านก็รู้สิบปีพบนางได้หนเดียว” สิ้นคำของเจ้างูตัวเล็กเฮยเสียจื่อก็หยักหน้าก่อนที่จะหยักไหล่
“เอ้อ โทษทีนะแม่ข้านอนหลับอยู่นะ อีกสิบปีค่อยมาเจอกัน ว่าไปตั้งแต่เด็กข้าได้เจอท่านแค่สองครั้งเอง” ข้าเหลือบตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นางคลอดเจ้ามาหรือ” ข้ามองยังกองผ้าอีกฝั่งสาละวนกับการรื้อในที่สุดก็พบเข้ากับชุดสีแดงขลิบดิ้นทองรู้สึกว่ามันเข้ากับเขาอย่างบอกไม่ถูก
“หือ” ราชาผู้จำไม่ได้สักนิดหันไปมองมหาเล็กข้างกายอีกครั้ง เจ้างูสีแดงตัวจิ๋วไม่ตอบได้แต่ขู่ข้าท่าทางจะเกลียดขี้หน้าข้าหนักหนา เห็นแบบนั้นเฮยเสียจื่อก็หยักไหล่เลิกสนใจ “ข้าไม่รู้แล้วละ อาจไม่ใช่ก็ได้มั้ง”
งูยักษ์อายุยืนยาวนับพัน ได้แต่หลับตาตื่นทุกสิบปีตัวนั้นขาดคู่มานานแสนนานแล้วจะให้กำเนิดราชาได้เยี่ยงไร ข้ายิ้มจางเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนเฉกเช่นกัน แต่เป็นคนที่เติบโตมาท่ามกลางดงงู
สำหรับข้า ข้าคิดว่าผู้คนนั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าภูตผีปีศาจหรือสัตย์ร้าย
ข้ายื่อกองผ้าให้เขาแต่เจ้างูตัวเล็กที่ไม่ชอบข้ากลับเลื้อยพันมาตามแขนของราชา นัยน์ตาคมจับจ้องข้าราวกับอยากฆ่าให้ตาย
“ไม่เป้นไรๆ ไปตรงโน้นก่อนนะ” เฮยเสียจื่ออุ้มเจ้างูตัวเล็กไปวางไว้บนหลังตู้ข้างมุมห้องก่อนที่จะโดดโลดเต้นมายืนตรงหน้าข้า “เอ๊าไหนละ จะให้ใส่อะไร”
เห็นรอยยิ้มจอมปลอมของเขาแล้วข้าก็วางกองผ้าที่เลือกแล้วลง ก่อนที่จะเปิดอีกตู้หนึ่งหยิบเสื้อผ้าสำหรับสตรีสูงศักดิ์ขึ้นมาหนึ่งชุด เฮยเสียจื่อไม่ว่ากล่าวอะไรกับเสื้อที่ข้าให้เขาไป เขากลับยิ้มกว้างบอกว่าฟูฟ่องดีไม่เลว ท่าทางไม่เดือดร้อนอะไร
ข้าคิดว่าคนที่ใส่แค่ผ้าคลุมตัวเดียวไม่ปิดอะไรเดินไปเดินมา กับอีแค่ใส่ชุดผู้หญิงคงไม่แคร์อะไรกระมั้ง
“เสร็จแล้ว” รอเพียงอึดใจเขาก็สวมใส่มั่วซั่วเสียจนข้าอดไม่ได้ดึงหูของเขา เพียงแค่แตะตัวเจ้ามหาเล็กก็ขู่ฟ่อแต่ราชาปรามมันไว้ ก่อนที่อุ้มมันไปปล่อยนอกห้อง
“ราชา!” เจ้างูประท้วงแต่เฮยเสียจี่ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากมัน
“ไม่เป็นไร คนผู้นี้อ่อนแอกว่าข้า”
“แต่เขาหลอกท่านได้” ข้าเหลือบตาดูท่างูจะฉลาดราชาเสียแล้ว....ตอนที่พวกเจ้าเลือกราชากันนี่เสี่ยงดวงเอาหรือไม่
“ยังไงข้าก็ไม่ตายหรอก” เฮยเสียจื่อปิดประตูใส่หน้าเจ้างูตัวน้อย ข้าได้ยินเสียงประท้วงบ่นไม่ขาดสายพร้อมกับเสียงประตูไม้สั่น ท่าทางมันจะเอาตัวชน ...รักราชาอะไรขนาดนั้น
“ติดไม่เรียบร้อย” ข้าเอ็นเขาเมื่อเห็นว่าไม่ติดกระดุมสักเม็ดสุดท้ายก็จับเจ้าเด็กตัวโตถอดออกใหม่ เปลอลูบไล้ไปตามผิวกายนวลเนียน ก่อนที่จะจับใส่เสื้อของอิสตรีประดับลายดอกท้องดงามสีชมพู
“ขอบคุณนะ” คนโดนแกล้วไม่รู้แม้แต่น้อยว่าข้าจับใส่เสื้ออะไร สุดท้ายข้าก็หยิบดอกไม้ประจำเมืองออกมา เอื้อมมือไปแตะยังใบหูเรียวของเขา ทัดเส้นปมอ่อนนุ่มถือโอกาสดึงแว่นตาสีดำสนิทที่บดปิดทุกสิ่งทุกอย่าง
สิ่งแรกที่เห็นคือความสวยงามราวกับไม่ใช่ของบนโลก สีสันที่ไม่น่าเป็นไปได้ สีตาที่แปลกประหลาดพอๆกับนิสัยและดินแดนของเจ้าตัว ราวกับอัญมณีที่เปล่งประกายระยิบระยับ เผลอลูบไล้ใต้นัยน์ตาสวยคู่นั้น ราชาแดนงูหัวเราะร่วนก่อนที่จะหลุบตาลง
“อย่าแกล้งสิ ตาข้าแพ้แสงนะ” พุดจบเขาก็นั่งลงเอามือผิดตา ทำท่าราวกับทรมาน ...
จริงด้วยสิงูบางจำพวกอาศัยอยู่ในที่ชื้นมืดสายตาจึงสู้แสงไม่ได้ ดุท่าเขาคงจะอาศัยอยู่กับแม่บุญธรรมของตนเองใต้ปราสาทมาตลอด
“ขอโทษที” ข้าคลี่ยิ้มรู้สึกว่าใบหน้านั้นดูดีเหลือเกิน อดไม่ได้ที่เอียงคอมองนัยน์ตาของเขา เฮยเสียจื่อเงยหน้าขึ้นครั้นเห็นว่าข้ากำลังก้มมองลงมาเขาก็คลี่ยิ้มน่ารัก
“สวยจริงๆด้วย เจ้าสวยจังเลย สวยเหมือนกับเทพธิดา เหมือนดอกไม้เลย แถมยังมีกลิ่นดอมอ่อนอีกด้วย ข้าเรียกเจ้าว่าเทพธิดาได้ไหม”
“ไม่ได้” ข้าหัวเราะรู้สึกว่าเขาน่าเอ็นดุ ถ้าไม่คิดว่าเขาโตแล้วเขาก็เหมือนเด็กน้อย “เซี่ยอวี้ฮัว เรียกข้าเช่นนั้น”
“หือ ไม่เห็นน่ารักเลย เรียกว่าดอกไม้ดีกว่า” เขายียวนข้าอีกรอบ เฮยเสียจื่อหัวเราะฉวยเอาแว่นดำในมือข้าไปสวมก่อนที่จะกระโดดไปรอบห้อง เส้นผมพลิ้วไหว ข้างหูทัดด้วยดอกไม้งามหนึ่งดอก น่าเสียดายถ้าเขาถอดแว่นนัยน์ตาคู่นั้นจะกลบรัศมีของดอกไม้ดอกนั้น..
“เซี่ยอวี้ฮัว เรียกสิแล้วข้าจะเป็นเพื่อนด้วย” ข้าคลี่ยิ้มเมื่อเห็นร่างนั้นชะงัก เฮยเสียจื่อฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะกระโดดเข้ามาหาข้า
“อืม เซี่ยอวี้ฮัว “เห็นรอยยิ้มกว้างของเขาข้าก็เผลอยิ้มไปด้วย หลุบตาก่อนที่จะยื่นมือไปแตะยังพวงแก้มนวลเนียนรู้สึกว่ามันช่างอ่อนนุ่ม โดยที่ไม่ได้ระวังมือของราชาอสรพิษก็กระชากเข้ามา ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะทาบทับลงมา มันราวกับแมลงปอแตะผืนน้ำไม่จาบจ้วงไปกว่านั้น
“เฮยเสียจื่อ” ข้าถลึงตาใส่เขาแต่เจ้างูกลับแลบลิ้นใส่
“ก็เสี่ยวเกอชอบทำแบบนี้เวลาต้องการให้ราชาแดนอู๋ดีใจนี่นะ” ไม่ว่าเปล่าร่างนั้นเข้ามาประชิดตัวจนได้กลิ่นหอมบางเบา มันเป็นกลิ่นแปลกประหลาดที่ยากจะลืมเลือน ราวกับดอกไม้ที่มอบเมา ริมฝีปากนุ่มประทับลงมาอีกรอบ ข้ารั้งใบหน้าของเขาให้แนบสนิทก่อนที่จะแทรกสอดลิ้นเข้าไปแตะยังริมฝีปากที่เผยอออกของเขา แทรกสอดเข้าไปในโพรงปากร้อน กวาดหาความหอมหวาน พัวพันกับลิ้นอ่อน เฮยเสียจื่อนิ่งไปครู่หนึ่งปล่อยให้ข้าทำตามใจก่อนที่ลิ้นนั้นจะพัวพันข้ากลับราวกับงูตัวน้อย
พวกเราจูบกันอย่างดูดดื่มเสียจนรู้สึกชาจึงได้ยอมละจากกันทอดทิ้งร่องรอยสายใยสีใสไว้บนริมฝีปาก ข้ามองยังคราบน้ำลายที่เปรอะริมฝีปากแวววาง อดไม่ได้ที่จะเอื้อมนิ้วแตะลงยังปากบางเช็ดหยาดหยดน้ำลายที่ผสมผสานของเรา
ราวกับได้ลิ้นรสของหวานที่กลมกล่อม ไม่ได้หวานจนเกินไปทว่ากลับแฝงไปด้วยความขมพร่าเล็กน้อย
“ห้ามทำแบบนี้อีก” ข้าสั่งสอนเขา เฮยเสียจื่อหัวเราะก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาคลอเคลีย ริมฝีปากบางกดที่พวงแก้มข้า จมูกโด่งสันแนบลงมา ราวกับออดอ้อนขอจูบอีกรอบ
เรียนรู้เร็วแต่ไม่ใช่สิ่งที่น่าสอนสักนิด
“รู้สึกดีออกข้าเข้าใจแล้วละว่าทำไมคนถึงทำกัน” แขนเรียวคล้องยังคอของเขากดศีรษะของข้าให้รอบรับจูบเร่าร้อนของเขา ข้าจึงจูบเขาไปอีกคราก่อนที่จะดันราชาที่ไม่รู้จักพอออก
“คนทำกัน ...”ข้าขมวดคิ้วทำหน้าดุใส่เขา เจ้าตัวดีถึงได้แลบลิ้นออกมายอมรับสารภาพ
“ก็แหม ไม่รู้ทำไมดินแดนข้าชอบมีคนมาทำแบบนั้นจัง เพราะมันมืดมั้ง”
แอบดู...เจ้านี่...
“เอาเถอะ อย่าทำแบบนี้อีก” ข้าคว้าเอาตัวเจ้าคนอยู่ไม่สุกขึ้นมาหยิบหวีด้ามหนึ่งสางผมให้กับเขา สัมผัสนุ่มนวลพาให้รู้สึกเสียดายที่มันสั้นประคอ ว่าไปคงเพราะความคล่องตัวด้วยกระมั้ง
“งั้นทำกับเจ้าได้ไหม”ได้ยินคำอ้อน กับเสียงหัวเราะข้าก็ทำเสียงขึ้นจมูกตีศีรษะเขาไปทีหนึ่ง เจ้างูน้อยทำท่างอแงราวกับถูกคนรังแก ก่อนที่หน้าต่างไม้ของห้องแต่งตัวจะพังครืนลงมา ข้าตกใจไม่ทันไรหัวยักษ์ของงูสีน้ำตาลก็แทรกสอดศีรษะของมันเข้ามา บนหัวนั้นมีเจ้างูสีแดงเล็กโวยวายไม่หยุด
“อย่ารังแกราชาข้านะ ถึงเขาจะสมองไม่ดีก็ห้ามรังแก”
ข้ายิ้มแห้งไม่รู้ว่านั่นคือคำปกป้องหรือคำด่ากันแน่
“อ้า ได้เวลาแล้วหรือ” เฮยเสียจื่อผุดลุกขึ้นร่างสูงกระโดดขึ้นยังหัวของงูยักษ์ก่อนที่จะหันมาหาข้ายิ้มจนแก้มปริ โบกไม้โบกมือ “ขอโทษนะข้าต้องกลับไปกินข้าวเย็นแล้วละ”
ข้าอยากถามเหลือเกินในดินแดนป่าดงดิบนั้นเจ้ากินอะไรเป็นอาหารแต่ก็คิดว่าการไม่รู้ท่าจะดีกว่า เพราะเหล่านักผจญภัยที่ย่างกรายเข้าสู่บึงงูไม่เคยกลับออกมาและหาศพไม่เจอด้วย
“ข้าไปเล่นกับท่านต่อได้ไหม” น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้นพาให้ข้าพ่นลมหายใจก่อนที่จะโบกมือให้กับเขา
“ได้สิ ถ้าเจ้ามาข้าจะเลี้ยงข้าวเอง” เฮยเสียจื่อโบกมือให้ข้าพร้อมกับเจ้างูสีแดงตัวเล็กที่พันอยู่รอบแขนของเขา เจ้างูยักษ์ชูหัวขึ้นก่อนที่เสียงเอะอะจะตามมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคงจะไปทางที่ระรานชาวบ้านชาวช่อง
ข้ามองกองผ้าในห้องที่วางระเกะระกะแล้วก็พลันนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้...แย่แล้วข้าลืมแต่งหน้าให้เขาด้วย!
ข้าเดินออกจากห้องแต่งตัวมองสภาพที่ทหารเก็บกวาดแล้วก็เผลอแตะยังริมฝีปากตนเอง ข้าเอาตัวไปลบองเล่นกับงูตัวใหญ่โชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้ถูกมันกัด ....
อาไม่สิ ข้าคิดว่าคงจะถูกพิษเข้าเสียแล้ว เมื่อปลายลิ้นยังคงติดในรสชาติของความหวานหอมนี้…
เจ้างูตัวนี้จะมาหาข้าไหมละ อยากจะลองจับมันสักครั้งเหลือเกิน...
นับจากนั้นเวลาล่วงเลยไปไม่เท่าไรราชาจางก็มาหาข้าพร้อมกับมองหน้าข้าด้วยนัยน์ตาที่อ่านไม่ออก ข้าจึงปรึกษาเรื่องปัญหาของเมืองตนเอง เขายอมรับที่จะช่วยข้านั่นทำให้ข้าโล่งใจไปเปราะหนึ่ง สุดท้ายเขาอ้ำอึ้งอยู่นานก่อนที่จะยอมพูดกับข้า
“ชุดนั้น ที่ให้เจ้านั่นไป วันหลังอย่าแกล้งเลย”
ข้าเกือบขำพรืดออกมา ไหนใครว่าราชาจางเป็นคนไร้ใจที่แท้เขาก็เป็นห่วงผู้อื่นด้วย
“ไม่ต้องห่วงคราวหน้าข้าจะจัดชุดเจ้าสาวให้ท่านราชาจางเชยชมเอง”
ท่าทางข้าจะต้องตบตีกับเจ้างูสีแดงตัวเล็กนั้นอีกรอบแล้วสิ..
คิดแล้วก็พลันรู้สึกสนุก ....อดไมได้ที่จะรอคอยเจ้างูจอมขี้เล่นตัวนั้นมาอีกครา
เอาไว้เรามาเล่นกันอีกครั้งนะ ....รสจูบที่ไม่มีวันลืม..
END
เนื่องจากเห็นเฟนอาร์ตซีรีย์ราชา (ทั้ง 4 หนุ่มเป็นราชา ) แว่นเป็นราชาบึงงู รายละเอียดเฟนอาร์ตโปรดดูได้ตามลิงค์นี้เลยคะ https://www.facebook.com/joy.kurama/media_set?set=a.616613745128744.1073741864.100003403720283&type=1&pnref=story
ขอแต่งเล่นสักตอนสั้นๆจบนะคะ
คู่ เสี่ยวฮัว กับเฮยเสียจื่อ ไปคิดเอาเองว่าใครเมะ ใครเคะ ได้ทั้งคู่คะ
สดใสไร้เรท ปิ้งปั้งเหมือนคนแต่ง
ท่ามกลางรัชสมัยที่แว่นแคว้นยังแยกออกจากกัน ดำรงด้วยการปกครองแบบราชาธิราช ผู้ที่สวรรค์เลือกสรรคือผู้ที่จะได้ยืนเหนือผู้อื่นปกครองไพร่ผล
ท่ามกลางดินแดนแบ่งแว่นแคว้นหากจะถามถึงดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดในยามนี้คือแคว้นจางผู้ปกครองด้วยพระร
เซี่ยอวี้ฮัว ราชาแห่งอาณาจักรดอกไม้เซี่ย รับรู้ถึงข้อนี้ดีจึงได้ใช้สายสัมพันธุ์ของแคว้นอู๋ขอเข้าพบสักครา แดนอู๋ของราชาอู๋เสียแม้จะเป็นดินแดนที่แอนแอเก่งกาจด้านการค้าขายแต่กลับได้รับการปกปักษ์จากแคว้นจางจึงทำให้ไม่มีผุ้ใดกล้ามาเปิดศึกกับแคว้นอู๋
ตอนนี้แคว้นของข้ากำลังวุ่นวาย ด้วยกลศึกภายในรัชยาทผู้ต้องรับศึกทั้งภายนอกและภายใน ตนหาใช่พี่น้องคนเดียวดังเช่นราชาอู๋ แต่กลับมีพี่น้องญาติหลายคนครั้นราชาองค์ก่อนสละสิทธิจึงได้เกิดรอยร้าว ยิ่งกับตนที่ถูกราชาแห่งแดนงิ้วเอาไปเลี้ยงจึงมีปัญหา
แม้จะดูขี้ขลาดไปบ้างที่มาขอให้สามีของสหาย แค่ก...เพื่อนของเพื่อนช่วยแต่เพียงแค่อู๋เสียส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้คราหนึ่ง ราชาผู้ทีได้ขนานามว่าไร้ใจ กลับอ่อนยวบ ยินยอมทำตามทุกอย่าง
บางครั้งข้าก็คิดว่า ผู้ที่อ่อนแอที่สุดกลับเข้มแข็งที่สุด
ข้าขอเข้าพบกับราชาจางถูกพามายังห้องทรงงานของฮ่องเต้ ราชาจางเป็นผู้เงียบขรึม น่าเสียดายที่อู๋เสียติดธุระไม่ได้มาด้วย ทำให้ข้าต้องเผชิญหน้ากับเขาตามลำพัง ข้าคิดวาจะรีบคุยธุณะแล้วกลับไปแต่กลับมีเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก
“ท่านจะไม่ดูหรือ” ข้าถามองค์ราชาผุ้นั่งอยู่บนบังลังค์ดว้ยใบหน้าเรียบเฉย เขากลับไม่สนใจไยดีจนกระทั่งมีใครพูดขึ้นมางูยักษ์ ร่างเพรียวของราชาจางกลับลุกพรวดขึ้นคว้ากระบี่วิ่งออกจากห้องทรงงาน ทำเอาข้าผู้เป็นขแกต้องยืนตกตะลึง
“ขอโษด้วยขอรับราชาเซี่ย งานคัร้งนี้เกินกำลังของทหารวัง” มหาเล็กเอ่ยรายงานกับข้าได้ยินเอะอะโวยวายไปทั่ว ทำให้ข้าอยากรู้จึงเดินไปดู สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำเอาข้าเข้าใจว่าทำไมราชาจางผู้เก่งกาจถึงได้เปลี่ยนสีหน้า
งู....อรพิษขนาดมหึมา ลำตัวของมันเทียบเท่ากับบ้านคนสองชั้น นัยน์ตาเรียวคม อ้าปากขู่ดูดุร้าย เพียงค่หางของมันโบกสะบัดทีเดียวก็กวาดทหารยามได้นับร้อย ข้าเห็นองค์ราชาจางฉี่หลิงยืนอย่างสง่างามเบื้องหน้าเจ้าสัตว์ร้าย นัยน์ตาเรียวคมของเขาเงยหน้าขึ้นมองบนศีรษะของเจ้างูยักษ์ ก่อนที่จะคำรามก้อง
“เฮยเสียจื่อกลับไปซะ!” สิ้นเสียงคำรามกึกก้องเจ้างูยักษ์ก็โน้มตัวลง ศีรษะขนาดใหญ่ยักษ์ของมันแนบลงกับพื้น ก่อนที่เรือนร่างสมสว่นของบุรุษผู้หนึ่งจะก้าวลงมาจากหัวของเขา คงเพราะงูมันตัวใหญ่เกินไปและเขานั่งบนหัวของมันจึงได้ไม่มีผุ้ใดพบเห็น
“ก็ข้าเหงานี่นา ....เสี่ยวเกอมาเล่นกันเถอะ” น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น ใบหน้าได้รูปริมฝีปากบางเรียว ผิวกายขาวราวกับคนที่ไม่โดนแดด เครื่องหน้าสมบูรณ์ติดเพียงเขาสวมใส่แว่นตากันแดดหนาทึบ ทุกคนต่างพากันเงียบกริบหาใช่เพราะเขาดูสง่างามเกรงขามแต่เพราะ...
เขาไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้ดยกเว้นเสื้อคลุมสีแดงสดราวกับเลือดที่เปิดอ้าให้เห็นทุกอย่าง...ทั้งกล้ามเนื้อสวยงาม ผิวกายขาวนวล และจุดเร้นลับ..
“เอาน้ำมันมาราดจุดไฟเผามันซะ” คำสั่งเหี้ยมโหดหลุดจากปากของราชาจางแทบจะในทันทีที่เห็นบุรุษผู้นั้น โถ ข้าเข้าใจเขานะเป็นข้าก็คงทำเช่นเดียวกัน
“เดี๋ยวก่อนอะไรกัน “ ชายผู้ถูกเรียกว่าเฮยเสียจื่อทำปากยื่นราวกับเด็กน้อย “ข้ามาเล่นเจ้าก็จะไล่ข้ากลับไม่พอ ยังเอาไฟมาเปาข้าอีก เจ้าเห็นข้าเป็นอะไร ข้าละเสียใจ ข้าจะฟ้องอุ๋เสีย ข้าจะฟ้องราชาแสนน่ารักคนนั้น ราชาจางรังแกข้า”
ท่วงท่าสะดีดสะดิ้งนั้นพาให้ราชาจางตบหน้าผาก ก่อนที่จะโบกมือ
“ข้าเคยบอกแล้วไงว่าให้ใส่เสื้อผ้า” ราชาจางปรายตามองอีกฝ่ายก่อนที่จะหันกายเดินเข้าอาคาร ทิ้งให้เฮยเสียจื่อทำท่างอแงราวกับเด็กน้อย ใบหน้าได้รูป ยิ้มกว้างเมื่อมีทหารยามเดินเข้ามาใกล้ มหาเล็กของราชาจางยื่นเสื้อผ้าให้เขาอย่างเกรงกลัว แต่ครั้นจะแตะต้องยังเรือนกายนั้น เส้นด้าย ไม่สิ งูตัวขนาดแขนตัวหนึ่งก็เลื้อยพัวพันลงมาจากบ่าของเฮยเสียจื่อแลบลิ้นขู่
เพียงทั่น้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องตัวเขาอีกเลย
“มาเล่นกับข้าเถอะนะ” น้ำเสียงร่าเริงดังึข้นอีกครั้ง อรพิษสีแดงก้าวย่างไปตามทางเดินด้วยเท้าเปล่าเปลือย ข้าเหลือบมองเท้าบอบบางนั้นเขรอะไปด้วยฝุ่นดินกลับรู้สึกเสียดาย
ท่าทางเขาคงจะไม่ค่อยได้เดินเอง หรือหากเดินคงไม่ใช่ในสภาพพื้นดินเช่นนี้ เพราะผิวเท้าอ่อนของเขาเริ่มมีรอยถลอก แต่ความจริงบนลานหินใครเขาใช้เท้าเปล่าเดิน
“จางฉี่หลิงคนใจร้าย งั้นข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว ข้าไปหาหนูแฮมเตอร์ดีกว่า” อรพิษงดงามแลบลิ้น ข้าคีล่ยิ้มเมื่อคิดว่าใบหน้านั้นช่างดูน่ารักน่าชังเหลือเกิน...
น่ารักน่าชัง ? ข้าคงบ้าไปแล้วที่คิดว่าผู้ชายตัวโตๆอย่างเช่นเฮยเสียจื่อน่ารัก
“หยุด! เจ้าเป็นถึงราชาหัดทำตัวให้สมฐานะหน่อย” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยห้ามสุดท้ายแล้วจางฉี่หลิงก็ยอมแพ้ เพื่อไม่ให้สุดรักของตนเองโดนงูป่วนเขาเดินเข้ามาใกล้เฮยเสียจื่อดึงผ้าคลุมสีแดงสดนั้นคลุมกายขาวผ่องปิดอันของสงวน ราชาจางเหลือบมองยังเท่าเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายก่อนที่จะเรียกมหาเล็กที่สั่นกลัวมาอีกครั้ง แต่เฮยเสียจื่อกลับทำแก้มป่อง
“ไม่เอาอ๊ะ ข้าไม่เอาคนนี้” สิ้นเสียงว่าไม่เอาของเฮยเสียจื่อเจ้างูยักษ์ที่นอนนิ่งกลับขยับกายอีกครั้ง มันลืมตาราวกับจะตอบคำของผ฿เป็นนายพาให้ผู้คนแตกตื่น
“อย่าเอาแต่ใจ” ราชาจางหรี่นัยน์ตาท่าทางเหนื่อยอ่อน “ข้าไม่ว่างต้องไปปกป้องชายแดน เจ้าจะมาเที่ยวเล่นได้แต่ใส่เสื้อผ้าและทำตัวดีเสียหน่อย”
“เจ้าเป็นคนที่เอาชนะข้า เดินข้ามพรมแดนดินแดดของข้าได้ เจ้าคือเพื่อนของข้า ราชาน่ารักน้อยคนนั้นก็บอกว่าจะเป็นเพื่อนกับข้า ข้ามาเล่นด้วยไม่ได้ งั้นข้าจะกลับแล้ว” เฮยเสียจื่อแลบลิ้นใส่ท่าทางเอาแต่ใจ คลี่ยิ้มยั่วยวน ราชาจางได้แต่ถอนหายใจก่อนที่ทำหน้าเหมือนจะยอมแพ้ข้าจึงได้สอดขึ้นมา
บางครั้งการช่วยเขาจะทำให้เขาช่วยข้าได้ง่ายขึ้น
“งั้นยกหน้าที่นี้ให้เถิด” ข้าเดินออกจากทหารยามที่รายล้อมไปยังเบื้องหน้าบุรุษผู้เอาแต่ใจ เฮยเสียจื่อเอียงคอเมื่อเห็นข้าเขาก็ฉีกยิ้มกว้าง
“สวยจัง สุดยอดเลยสวยเหมือนไอ้ที่วาดอยู่บนผนังเลย อันนั้นมันเรียกว่ากระไรนะ นางฟ้า เทพธิดา” ใบหน้าได้รูปหันไปเสวนากับงูแดงที่พาดคอ ผู้คนต่างหัวเราะเมื่อคิดว่าราชาโง่เง่าคุยกับงู แต่พลันต้องเงียบเสียงเมื่องูสีแดงนั้นเปล่งเสียงเล็กๆ
“บนผนังคือเทพธิดาร่ายรำ”เจ้างูตัวเล็กสีแดงสดดุจเดียวกับเสื้อคลุมของราชาเลื้อยไปมาระหว่างคอ เฮยเสียจื่อคลี่ยยิ้มตบมือราวกับถูกใจก่อนที่จะชี้มายังข้า
“ใช่แล้วสวยเหมือนเทพธิดาเลย นี่ร่ายรำให้ดูหน่อยสิแล้ววันนี้ข้าจะเป็นเด็กดี” ข้าเหลือบตามองเขา ดูเหมือนเขาจะเชื่อฟังราชาจางเพราะราชาได้เอาชนะเขาได้ แต่ข้าคงไม่มีวันเอาชนะเขาได้
ราชาผู้มีงูยักษ์เป้นพาหนะ มีงูพิษร้ายแรงเป็นมหาเล็ดติดตามตัว นิสัยแปลกประหลาดไม่มีผู้ใดได้เห็นยังใบหน้าที่แท้จริง...ราชาแห่งดินแดนอสรพิษ ดินแดนที่อุดม
สมบูรณ์ไปด้วยป่าดงดิบชื้น มีลำธารความอุดมสมบูรณ์ที่สุดใน 4 แผ่นดินใหญ่ เต็มไปด้วยแร่ธรรมชาติ ทว่ากลับมิมีผุ้ใดรุกรานได้ ดินแดนที่ถูกปกปักษ์ด้วยงูนานาพันธุ์
ด้วยอาณาประเทศที่เอื้อแก่การดำรงชีพของเหล่างูพิษ แถมทหารกล้าพวกนี้ยังเต็มไปด้วยพิษร้ายแรงที่กัดทีเดียวสามารถตายได้ในทันที ไม่มีใครจะคาดได้ว่าจะถูกงูลอบโจมตีที่ไหน
แถมด้วยงูยักษ์ที่เป้นตำนานเล่าขานว่าสามารถโอบรอบทั้งเมืองได้หลับใหลอยู่ใต้ธาราของปราสาท เพียงแค่เจ้างูเหลือมที่ราชาแปลกประหลาดขี่ก็สามารถฟาดทหารหายได้ครึ่งทัพ
ดินแดนที่ไม่มีผู้ใดเอาชนะได้ หรือผ่านทางได้ ปกติคนเดินทางจะหลีกเลี่ยงยอมเดินอ้อม ทว่าจางฉี่หลิงกลับนำทัพเดินผ่านดินแดดนี้มาได้
ข้ามองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคลี่รอยยิ้มล้วงเอาพัดขึ้นมาจากสาปเสื้อ ก้าวเท้าไปข้างหน้า เปิดพัดร่ายรำอยู่ชั่ครู่ต่อหน้าเขา ร่างแกร่งกล้าชะงักราวกับต้องมนต์สะกดยืนมองข้าแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ลืมปั้นแต่ง
ราวกับตกอยู่ในภวังค์
ข้าสะบัดพัดเรียกสติของเขาก่อนที่จะคลี่ยิ้มเตือนเขาให้รู้ว่าร่ายรำจบลงแล้ว เฮยเสียจื่อเดินเข้ามาใกล้ข้าริมฝีปากเหยีดยยิ้มเหมืนเด็กเจอของเล่นถูกใจ
“สุดยอดเลย เจ้าทั้งสวย ร่ายรำหรือก็งดงาม ข้าเพิ่งได้เห็น สุดยอดเหลือเกิน” ราชาแดนงูเดินเข้ามาใกล้ข้า ข้าก้มลงมองปลายนิ้วที่พัวพันงูสีแดงสดเล่นของเขา
“ราชา อย่าเข้าใกล้เกินจำเป็น” มหาเล็ดสีแดงเอ่ยเตือนราชาของมันแต่เฮยเสียจื่อกลับส่ายหน้า
“ไม่เป้นไรคนผุ้นี้อ่อนแอกว่าข้า” พูดจบเขาก็ชี้นิ้วไปยังเจ้างูตัวใหญ่ “ไปรอข้านอกเมืองก่อนนะ”
งูยักษ์เหลือบตามองนายของมันห่อนที่เลื้อยคลายนไปทางถนนออกนอกเมือง ทอดทิ้งแต่ราชากับงูพิษสีแดงตัวหนึ่ง
“เอาละ เจ้าจะพาข้าไปไหน” เขาคีล่ยิ้มให้กับข้า ทำไมฉับพลันในใจข้ากลับคิดว่าตนเองไม่ชอบรอยยิ้มนั้นเอาเสียเลย ราวกับใส่หน้าตาเอาไว้หนึ่งใบ ...แต่ข่าก็ว่าเขาไมได้เพราะข้าเองก็สวมใส่หน้าตาเอาไว้หนึ่งใบเช่นกัน
“เราไปใส่เสื้อกันเถอะ” ข้านำทางเขไปทางห้องเปลบี่ยนตัว มหาเล็กของจางฉี่หลิงนำทางข้าด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ถูกเฮยเสียจื่อหยอกเย้าไปหลายที สุดท้ายราชาเอาแต่ใจคนนั้นก็ไล่ทุกคนไปให้พ้นทางเหลือเพียงข้ากับเขา
ข้าถอนหายใจไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีเหตุผล แต่เขาเอาแต่ใจไป
“ถึงชั่วดีเยี่ยงไรเจ้าก็เป้นราชา ไม่ชอบเขาที่กลัวเจ้าก็จงพูดเลี่ยงให้เขาทำงานอื่นเสียสิ” ข้าพาเขามายังห้องเปลบี่ยนเสื้อผ้าภายในมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ ข้าเปิดตู้ดูเหมือนมันจะไม่ได้มีแต่ของผู้ชาย มือรื้อค้นเสื้อผ้าไปปากก็ต่อว่าเขาไป ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไล่คนใช้ไปเสียหมดข้าก็คงไม่ต้องทำงานงี่เง่าเช่นนี้
“ข้าชอบนะ เจ้าสวย ไม่กลัวข้าด้วย เสี่ยวเกอก็เหมือนกัน แข็งแกร่ง ราชาหนูแฮมเตอร์ก้น่ารักแถมยังใจดี อ่อนโยนกับข้าอีก”
เห็นคำชมของเขาข้าก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร ล้วงอารองเท้าได้คู่หนึ่งก็ให้เขาใส่ไปก่อน อย่างน้อยก็จะได้ไม่เจ็บเท้าอีก
“เจ้าควรรู้วิธีวางตนบ้าง เดี๋ยวคนจะไม่อยู่ในอาณัติ” ข้ารื้อค้นกองผ้าอีกจำนวนหนึ่งก่อนที่จะเหลือบมองเขา เฮยเสียจื่อหัวเราะร่วน เดินวนรอบตัวข้าราวกับเด็กน้อยอยู่ไม่สุก
“ข้าจะเรียนรู้ไปไย ในเมื่อเมืองของข้าไม่มีคน”
สิ้นคำของเขาข้าก็เงยหน้ามองความวิปริตเบื้องหน้า...ก่อนที่จะเข้าใจ ที่เขาว่ากันวาไม่เคยเห็นผู้อาศัยในดินแดนงูนอกจากงูนานาพันธุ์และสัตวืป่าคือเรื่องจริง...
หากดินแดนนั้นไม่มีผุ้คนอาศัย มีแต่งูเป็นประชากร และมีมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวเป็นราชาของพวกมัน...การจัดลำดับชั้นแบบนั้นออกจะแปลกเกินความเข้าใจไปบ้าง
หากเป้นพวกงูด้วยกัน จะเชื่อฟังนางพญางู หรืองูตัวใหญ่ข้าไม่สงสัย แต่งูทั้งหมดพาเชื่อฟังมนุษย์นี่นะ..
“เจ้าเป็นมนุษย์หรือไม่” ข้าอดไม่ได้ที่จะถามเขา เฮยเสียจื่อเอียงคอทำท่าน่ารักก่อนที่จะแลบลิ้นยียวน
“ไม่รู้สิ แต่ข้าเหมือนกับพวกเจ้า ถ้าเจ้าเป็นมนุษย์ ข้าเป็นมนุษย์กระมั้ง”
ข้ามองเขาอีกครั้งหนึ่งพิจารณาตั้งแต่เรือนผมนุ่มนิ่มสีดำสนิท ใบหน้าได้รูป จมูกโดด่งเป็นสัน เรือนร่างขาวผ่องสมส่วนไม่ว่าส่วนใดก็เหมือนมนุษย์ทุกประการ จะยกเว้นก็แต่ ....แว่นตาสีดำสนิทบนใบหน้า โดยไม่รู้ตัวข้าเอื้อมมือไปใกล้เขาหมายจะถอดสิ่งเกะกะนั้นออก ฉับลพันเสียงขู่พร้อมกับเส้นสีแดงก็พุ่งเข้ามา ข้าเอี้ยวตัวหลบเกือบไม่ทันโชคยังดีที่ราชาอสรพิษคว้ามหาเล็กของเขาไว้ได้ หยุดยั้งไม่ให้ทำร้ายข้า
“อย่าสิ” เฮยเสียจื่อเอ็ดคนของตนเบาๆ แต่เจ้างูสีแดงกลับขู่ฟ่อทำให้ราชาประหลาดคลี่ยิ้มลูบหัวเจ้างูน้อย “โอ๋ๆ ไม่ขู่นะเด็กดี ไม่เป้นไรหรอก”
“ขอโทษข้าเพียงแค่จะติดเครื่องประดับให้เจ้า” ข้าดึงดอกไม้ดอกหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงตนเอง มันคือดอกไม้ของเมืองข้า แสร้งหาเรื่องเบี่ยงเบนไม่ให้รู้ว่าข้าพยายามถอดแว่นของเขา ข้ามองเขาแล้วก็อดถามไมได้ “พ่อแม่เจ้าเล่า”
เขาต้องไม่มีพ่อแม่เป็นงูแน่ ถ้ามีจริงข้าจะยอมแพ้
“เอ...” ราชาแห่งดินแดนงูทำท่าครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะหันไปมองเจ้างูที่เลื้อยพันคอตน “เฮ้ แม่ข้าอยู่ไหนนะ”
“ถ้าองค์ราณีเลื้อยพันอยู่ใต้ปราสาทช่วงนี้จำศีลอยู่ ท่านก็รู้สิบปีพบนางได้หนเดียว” สิ้นคำของเจ้างูตัวเล็กเฮยเสียจื่อก็หยักหน้าก่อนที่จะหยักไหล่
“เอ้อ โทษทีนะแม่ข้านอนหลับอยู่นะ อีกสิบปีค่อยมาเจอกัน ว่าไปตั้งแต่เด็กข้าได้เจอท่านแค่สองครั้งเอง” ข้าเหลือบตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นางคลอดเจ้ามาหรือ” ข้ามองยังกองผ้าอีกฝั่งสาละวนกับการรื้อในที่สุดก็พบเข้ากับชุดสีแดงขลิบดิ้นทองรู้สึกว่ามันเข้ากับเขาอย่างบอกไม่ถูก
“หือ” ราชาผู้จำไม่ได้สักนิดหันไปมองมหาเล็กข้างกายอีกครั้ง เจ้างูสีแดงตัวจิ๋วไม่ตอบได้แต่ขู่ข้าท่าทางจะเกลียดขี้หน้าข้าหนักหนา เห็นแบบนั้นเฮยเสียจื่อก็หยักไหล่เลิกสนใจ “ข้าไม่รู้แล้วละ อาจไม่ใช่ก็ได้มั้ง”
งูยักษ์อายุยืนยาวนับพัน ได้แต่หลับตาตื่นทุกสิบปีตัวนั้นขาดคู่มานานแสนนานแล้วจะให้กำเนิดราชาได้เยี่ยงไร ข้ายิ้มจางเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนเฉกเช่นกัน แต่เป็นคนที่เติบโตมาท่ามกลางดงงู
สำหรับข้า ข้าคิดว่าผู้คนนั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าภูตผีปีศาจหรือสัตย์ร้าย
ข้ายื่อกองผ้าให้เขาแต่เจ้างูตัวเล็กที่ไม่ชอบข้ากลับเลื้อยพันมาตามแขนของราชา นัยน์ตาคมจับจ้องข้าราวกับอยากฆ่าให้ตาย
“ไม่เป้นไรๆ ไปตรงโน้นก่อนนะ” เฮยเสียจื่ออุ้มเจ้างูตัวเล็กไปวางไว้บนหลังตู้ข้างมุมห้องก่อนที่จะโดดโลดเต้นมายืนตรงหน้าข้า “เอ๊าไหนละ จะให้ใส่อะไร”
เห็นรอยยิ้มจอมปลอมของเขาแล้วข้าก็วางกองผ้าที่เลือกแล้วลง ก่อนที่จะเปิดอีกตู้หนึ่งหยิบเสื้อผ้าสำหรับสตรีสูงศักดิ์ขึ้นมาหนึ่งชุด เฮยเสียจื่อไม่ว่ากล่าวอะไรกับเสื้อที่ข้าให้เขาไป เขากลับยิ้มกว้างบอกว่าฟูฟ่องดีไม่เลว ท่าทางไม่เดือดร้อนอะไร
ข้าคิดว่าคนที่ใส่แค่ผ้าคลุมตัวเดียวไม่ปิดอะไรเดินไปเดินมา กับอีแค่ใส่ชุดผู้หญิงคงไม่แคร์อะไรกระมั้ง
“เสร็จแล้ว” รอเพียงอึดใจเขาก็สวมใส่มั่วซั่วเสียจนข้าอดไม่ได้ดึงหูของเขา เพียงแค่แตะตัวเจ้ามหาเล็กก็ขู่ฟ่อแต่ราชาปรามมันไว้ ก่อนที่อุ้มมันไปปล่อยนอกห้อง
“ราชา!” เจ้างูประท้วงแต่เฮยเสียจี่ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากมัน
“ไม่เป็นไร คนผู้นี้อ่อนแอกว่าข้า”
“แต่เขาหลอกท่านได้” ข้าเหลือบตาดูท่างูจะฉลาดราชาเสียแล้ว....ตอนที่พวกเจ้าเลือกราชากันนี่เสี่ยงดวงเอาหรือไม่
“ยังไงข้าก็ไม่ตายหรอก” เฮยเสียจื่อปิดประตูใส่หน้าเจ้างูตัวน้อย ข้าได้ยินเสียงประท้วงบ่นไม่ขาดสายพร้อมกับเสียงประตูไม้สั่น ท่าทางมันจะเอาตัวชน ...รักราชาอะไรขนาดนั้น
“ติดไม่เรียบร้อย” ข้าเอ็นเขาเมื่อเห็นว่าไม่ติดกระดุมสักเม็ดสุดท้ายก็จับเจ้าเด็กตัวโตถอดออกใหม่ เปลอลูบไล้ไปตามผิวกายนวลเนียน ก่อนที่จะจับใส่เสื้อของอิสตรีประดับลายดอกท้องดงามสีชมพู
“ขอบคุณนะ” คนโดนแกล้วไม่รู้แม้แต่น้อยว่าข้าจับใส่เสื้ออะไร สุดท้ายข้าก็หยิบดอกไม้ประจำเมืองออกมา เอื้อมมือไปแตะยังใบหูเรียวของเขา ทัดเส้นปมอ่อนนุ่มถือโอกาสดึงแว่นตาสีดำสนิทที่บดปิดทุกสิ่งทุกอย่าง
สิ่งแรกที่เห็นคือความสวยงามราวกับไม่ใช่ของบนโลก สีสันที่ไม่น่าเป็นไปได้ สีตาที่แปลกประหลาดพอๆกับนิสัยและดินแดนของเจ้าตัว ราวกับอัญมณีที่เปล่งประกายระยิบระยับ เผลอลูบไล้ใต้นัยน์ตาสวยคู่นั้น ราชาแดนงูหัวเราะร่วนก่อนที่จะหลุบตาลง
“อย่าแกล้งสิ ตาข้าแพ้แสงนะ” พุดจบเขาก็นั่งลงเอามือผิดตา ทำท่าราวกับทรมาน ...
จริงด้วยสิงูบางจำพวกอาศัยอยู่ในที่ชื้นมืดสายตาจึงสู้แสงไม่ได้ ดุท่าเขาคงจะอาศัยอยู่กับแม่บุญธรรมของตนเองใต้ปราสาทมาตลอด
“ขอโทษที” ข้าคลี่ยิ้มรู้สึกว่าใบหน้านั้นดูดีเหลือเกิน อดไม่ได้ที่เอียงคอมองนัยน์ตาของเขา เฮยเสียจื่อเงยหน้าขึ้นครั้นเห็นว่าข้ากำลังก้มมองลงมาเขาก็คลี่ยิ้มน่ารัก
“สวยจริงๆด้วย เจ้าสวยจังเลย สวยเหมือนกับเทพธิดา เหมือนดอกไม้เลย แถมยังมีกลิ่นดอมอ่อนอีกด้วย ข้าเรียกเจ้าว่าเทพธิดาได้ไหม”
“ไม่ได้” ข้าหัวเราะรู้สึกว่าเขาน่าเอ็นดุ ถ้าไม่คิดว่าเขาโตแล้วเขาก็เหมือนเด็กน้อย “เซี่ยอวี้ฮัว เรียกข้าเช่นนั้น”
“หือ ไม่เห็นน่ารักเลย เรียกว่าดอกไม้ดีกว่า” เขายียวนข้าอีกรอบ เฮยเสียจื่อหัวเราะฉวยเอาแว่นดำในมือข้าไปสวมก่อนที่จะกระโดดไปรอบห้อง เส้นผมพลิ้วไหว ข้างหูทัดด้วยดอกไม้งามหนึ่งดอก น่าเสียดายถ้าเขาถอดแว่นนัยน์ตาคู่นั้นจะกลบรัศมีของดอกไม้ดอกนั้น..
“เซี่ยอวี้ฮัว เรียกสิแล้วข้าจะเป็นเพื่อนด้วย” ข้าคลี่ยิ้มเมื่อเห็นร่างนั้นชะงัก เฮยเสียจื่อฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะกระโดดเข้ามาหาข้า
“อืม เซี่ยอวี้ฮัว “เห็นรอยยิ้มกว้างของเขาข้าก็เผลอยิ้มไปด้วย หลุบตาก่อนที่จะยื่นมือไปแตะยังพวงแก้มนวลเนียนรู้สึกว่ามันช่างอ่อนนุ่ม โดยที่ไม่ได้ระวังมือของราชาอสรพิษก็กระชากเข้ามา ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะทาบทับลงมา มันราวกับแมลงปอแตะผืนน้ำไม่จาบจ้วงไปกว่านั้น
“เฮยเสียจื่อ” ข้าถลึงตาใส่เขาแต่เจ้างูกลับแลบลิ้นใส่
“ก็เสี่ยวเกอชอบทำแบบนี้เวลาต้องการให้ราชาแดนอู๋ดีใจนี่นะ” ไม่ว่าเปล่าร่างนั้นเข้ามาประชิดตัวจนได้กลิ่นหอมบางเบา มันเป็นกลิ่นแปลกประหลาดที่ยากจะลืมเลือน ราวกับดอกไม้ที่มอบเมา ริมฝีปากนุ่มประทับลงมาอีกรอบ ข้ารั้งใบหน้าของเขาให้แนบสนิทก่อนที่จะแทรกสอดลิ้นเข้าไปแตะยังริมฝีปากที่เผยอออกของเขา แทรกสอดเข้าไปในโพรงปากร้อน กวาดหาความหอมหวาน พัวพันกับลิ้นอ่อน เฮยเสียจื่อนิ่งไปครู่หนึ่งปล่อยให้ข้าทำตามใจก่อนที่ลิ้นนั้นจะพัวพันข้ากลับราวกับงูตัวน้อย
พวกเราจูบกันอย่างดูดดื่มเสียจนรู้สึกชาจึงได้ยอมละจากกันทอดทิ้งร่องรอยสายใยสีใสไว้บนริมฝีปาก ข้ามองยังคราบน้ำลายที่เปรอะริมฝีปากแวววาง อดไม่ได้ที่จะเอื้อมนิ้วแตะลงยังปากบางเช็ดหยาดหยดน้ำลายที่ผสมผสานของเรา
ราวกับได้ลิ้นรสของหวานที่กลมกล่อม ไม่ได้หวานจนเกินไปทว่ากลับแฝงไปด้วยความขมพร่าเล็กน้อย
“ห้ามทำแบบนี้อีก” ข้าสั่งสอนเขา เฮยเสียจื่อหัวเราะก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาคลอเคลีย ริมฝีปากบางกดที่พวงแก้มข้า จมูกโด่งสันแนบลงมา ราวกับออดอ้อนขอจูบอีกรอบ
เรียนรู้เร็วแต่ไม่ใช่สิ่งที่น่าสอนสักนิด
“รู้สึกดีออกข้าเข้าใจแล้วละว่าทำไมคนถึงทำกัน” แขนเรียวคล้องยังคอของเขากดศีรษะของข้าให้รอบรับจูบเร่าร้อนของเขา ข้าจึงจูบเขาไปอีกคราก่อนที่จะดันราชาที่ไม่รู้จักพอออก
“คนทำกัน ...”ข้าขมวดคิ้วทำหน้าดุใส่เขา เจ้าตัวดีถึงได้แลบลิ้นออกมายอมรับสารภาพ
“ก็แหม ไม่รู้ทำไมดินแดนข้าชอบมีคนมาทำแบบนั้นจัง เพราะมันมืดมั้ง”
แอบดู...เจ้านี่...
“เอาเถอะ อย่าทำแบบนี้อีก” ข้าคว้าเอาตัวเจ้าคนอยู่ไม่สุกขึ้นมาหยิบหวีด้ามหนึ่งสางผมให้กับเขา สัมผัสนุ่มนวลพาให้รู้สึกเสียดายที่มันสั้นประคอ ว่าไปคงเพราะความคล่องตัวด้วยกระมั้ง
“งั้นทำกับเจ้าได้ไหม”ได้ยินคำอ้อน กับเสียงหัวเราะข้าก็ทำเสียงขึ้นจมูกตีศีรษะเขาไปทีหนึ่ง เจ้างูน้อยทำท่างอแงราวกับถูกคนรังแก ก่อนที่หน้าต่างไม้ของห้องแต่งตัวจะพังครืนลงมา ข้าตกใจไม่ทันไรหัวยักษ์ของงูสีน้ำตาลก็แทรกสอดศีรษะของมันเข้ามา บนหัวนั้นมีเจ้างูสีแดงเล็กโวยวายไม่หยุด
“อย่ารังแกราชาข้านะ ถึงเขาจะสมองไม่ดีก็ห้ามรังแก”
ข้ายิ้มแห้งไม่รู้ว่านั่นคือคำปกป้องหรือคำด่ากันแน่
“อ้า ได้เวลาแล้วหรือ” เฮยเสียจื่อผุดลุกขึ้นร่างสูงกระโดดขึ้นยังหัวของงูยักษ์ก่อนที่จะหันมาหาข้ายิ้มจนแก้มปริ โบกไม้โบกมือ “ขอโทษนะข้าต้องกลับไปกินข้าวเย็นแล้วละ”
ข้าอยากถามเหลือเกินในดินแดนป่าดงดิบนั้นเจ้ากินอะไรเป็นอาหารแต่ก็คิดว่าการไม่รู้ท่าจะดีกว่า เพราะเหล่านักผจญภัยที่ย่างกรายเข้าสู่บึงงูไม่เคยกลับออกมาและหาศพไม่เจอด้วย
“ข้าไปเล่นกับท่านต่อได้ไหม” น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้นพาให้ข้าพ่นลมหายใจก่อนที่จะโบกมือให้กับเขา
“ได้สิ ถ้าเจ้ามาข้าจะเลี้ยงข้าวเอง” เฮยเสียจื่อโบกมือให้ข้าพร้อมกับเจ้างูสีแดงตัวเล็กที่พันอยู่รอบแขนของเขา เจ้างูยักษ์ชูหัวขึ้นก่อนที่เสียงเอะอะจะตามมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคงจะไปทางที่ระรานชาวบ้านชาวช่อง
ข้ามองกองผ้าในห้องที่วางระเกะระกะแล้วก็พลันนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้...แย่แล้วข้าลืมแต่งหน้าให้เขาด้วย!
ข้าเดินออกจากห้องแต่งตัวมองสภาพที่ทหารเก็บกวาดแล้วก็เผลอแตะยังริมฝีปากตนเอง ข้าเอาตัวไปลบองเล่นกับงูตัวใหญ่โชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้ถูกมันกัด ....
อาไม่สิ ข้าคิดว่าคงจะถูกพิษเข้าเสียแล้ว เมื่อปลายลิ้นยังคงติดในรสชาติของความหวานหอมนี้…
เจ้างูตัวนี้จะมาหาข้าไหมละ อยากจะลองจับมันสักครั้งเหลือเกิน...
นับจากนั้นเวลาล่วงเลยไปไม่เท่าไรราชาจางก็มาหาข้าพร้อมกับมองหน้าข้าด้วยนัยน์ตาที่อ่านไม่ออก ข้าจึงปรึกษาเรื่องปัญหาของเมืองตนเอง เขายอมรับที่จะช่วยข้านั่นทำให้ข้าโล่งใจไปเปราะหนึ่ง สุดท้ายเขาอ้ำอึ้งอยู่นานก่อนที่จะยอมพูดกับข้า
“ชุดนั้น ที่ให้เจ้านั่นไป วันหลังอย่าแกล้งเลย”
ข้าเกือบขำพรืดออกมา ไหนใครว่าราชาจางเป็นคนไร้ใจที่แท้เขาก็เป็นห่วงผู้อื่นด้วย
“ไม่ต้องห่วงคราวหน้าข้าจะจัดชุดเจ้าสาวให้ท่านราชาจางเชยชมเอง”
ท่าทางข้าจะต้องตบตีกับเจ้างูสีแดงตัวเล็กนั้นอีกรอบแล้วสิ..
คิดแล้วก็พลันรู้สึกสนุก ....อดไมได้ที่จะรอคอยเจ้างูจอมขี้เล่นตัวนั้นมาอีกครา
เอาไว้เรามาเล่นกันอีกครั้งนะ ....รสจูบที่ไม่มีวันลืม..
END
แก้ไขล่าสุดโดย kuramajoy เมื่อ Sun 09 Nov 2014, 16:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
kuramajoy- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 206
Points : 3780
Join date : 27/10/2014
Re: [OS]Snake[ฮัวเฮย]
อ๊า รู้สึกปวดตากับตัวหนังสือ แต่ชอบมากค่า
meanato- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 487
Points : 3970
Join date : 27/10/2014
Age : 26
ที่อยู่ : หลังประตูสัมฤทธิ์
Re: [OS]Snake[ฮัวเฮย]
//ตามมากรี๊ดอัดอีกรอบ
คือไม่เมนท์ในเด็กดี ถถถ
ชอบซีรี่ส์นี้จังค่าาาา
คือไม่เมนท์ในเด็กดี ถถถ
ชอบซีรี่ส์นี้จังค่าาาา
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [OS]Snake[ฮัวเฮย]
“เอาน้ำมันมาราดจุดไฟเผามันซะ” << พรืดดด คือรู้สึกเห็นด้วยกับราชาจาง ใครสั่งใครสอนให้แต่งตัวแบบนั้นไปเยี่ยมคนอื่นคะนายแว่น
แล้วอะไรคืองูมหาดเล็กบอกว่าราชาตัวเองสมองไม่ดี ถถถถถถ ถ้าเจอกันคราวหน้าคุณชายเอางูไปสอนอะไรๆเกี่ยวกับโลกภายนอกซักคืนสองคืนก็ดีนะคะ เผื่อนายแว่นจะได้อัพเกรดเป็นคนปกติ
แล้วอะไรคืองูมหาดเล็กบอกว่าราชาตัวเองสมองไม่ดี ถถถถถถ ถ้าเจอกันคราวหน้าคุณชายเอางูไปสอนอะไรๆเกี่ยวกับโลกภายนอกซักคืนสองคืนก็ดีนะคะ เผื่อนายแว่นจะได้อัพเกรดเป็นคนปกติ
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3949
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [OS]Snake[ฮัวเฮย]
นายบอดดูน่ารัก น่าเอ็นดูเชียว
YuHua- ด้วงฝึกหัด
- จำนวนข้อความ : 14
Points : 3453
Join date : 06/12/2014
Similar topics
» [Drabble] #dmbjdaily 'ผ้าพันคอ' : Black Snake of the West lake [ฮัวเฮย]
» [sf]คุณลูกตัวร้ายกับคุณพ่อสุดหื่น[ฮัวเฮย]
» [Fic บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน] : Even Now [ฮัวเฮย]
» [OS]คุณลูกตัวร้ายกับคุณพ่อสุดหื่น [ฮัวเฮย]
» [OS] เหตุเกิดที่เยอรมนี (ฮัวเฮย) [NC-15]
» [sf]คุณลูกตัวร้ายกับคุณพ่อสุดหื่น[ฮัวเฮย]
» [Fic บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน] : Even Now [ฮัวเฮย]
» [OS]คุณลูกตัวร้ายกับคุณพ่อสุดหื่น [ฮัวเฮย]
» [OS] เหตุเกิดที่เยอรมนี (ฮัวเฮย) [NC-15]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth