Countdown
We've been
togerther for

ค้นหา
 
 

Display results as :
 


Rechercher Advanced Search


[OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10

5 posters

Go down

[OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10 Empty [OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10

ตั้งหัวข้อ by kaikaizt Wed 05 Nov 2014, 21:39



เคยลงไว้ในบล็อกแล้วนั่นแหละค่ะ ฟหกด แต่มารวมประชากรด้วง ๕๕๕๕๕














Pairing : เมินโหยวผิง x อู๋เสีย (ที่จริงก็ไม่ชัดเจนอะนะ พออ่านอีกทีก็เอ๊ะ.. มองเป็นเสียผิงได้อยู่นะเนี่ย ๕๕๕)

Author : kaikaiz

Warning : อ่านให้จบ 10 เล่มก่อนนะ!!










Once you go












เรื่องราวทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว

ชายหนุ่มลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันเริ่มต้นจากตรงไหน แต่ถึงเขาจะดำเนินชีวิตไปด้วยเรื่องราวเหล่านี้ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ยึดเขาเอาไว้กับโลก

ดวงตาสีดำสนิทคู่สงบหลับลง นึกทบทวนทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่พันธะสัญญากับเก้าตระกูลใหญ่ เหตุการณ์ที่ทะเลซีซา ตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา ฉางไป๋ซาน อาณาจักรเจ้าแม่ซีหวังหมู่ จวบจนหอบ้านสกุลจาง ที่ที่เขาแยกทางจากคนสองคนที่พอจะเรียกได้ว่าเพื่อน แล้วออกเดินทางมาคนเดียวยังสถานที่แสนไกล

หนึ่งในสองคนนั้น มักมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เคยมีใครใช้มองเขามาก่อน

จางฉี่หลิงรู้ดี ด้วยพลังฝีมือของตน ทำให้มีคนอยากได้ตัวไปเพื่อผลประโยชน์มากมาย บางคนก็หวาดกลัว บ้างเพียงมองเขาด้วยหวังพึ่ง แต่อู๋เสียไม่ใกล้เคียงกับทั้งหลายทั้งปวงที่เขาเคยพานพบ

สิ่งที่แฝงอยู่ในดวงตาใสซื่อที่บางครั้งก็ทอประกายเจ้าเล่ห์นั้น คืออะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป

แม้อาการของโรคสูญวิญญาณกำเริบหลังออกจากอาณาจักรซีหวังหมู่ ทว่าท่ามกลางความนึกคิดที่ว่างเปล่าก็ยังหลงเหลือสิ่งหนึ่งที่แจ่มชัด ซึ่งก็คือ..แววตาคู่นี้

เพราะฉะนั้น ก่อนที่เขาจะไปจบเรื่องทั้งหมดอย่างแท้จริง

ความปรารถนาหนักแน่นชัดเจนขึ้นในใจ

เขาต้องไปหาคนเพียงคนเดียวที่เชื่อมเขาไว้กับโลกใบนี้...










“ถ้านายหายไป อย่างน้อยฉันจะรู้”

อู๋เสียเคยพูดไว้อย่างนั้น

แต่ถ้าเขาหายไปโดยที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อีกฝ่ายไม่มีวันรู้แน่นอน

เดินทางแสนไกลมาเพื่อบอกลาคนคนหนึ่ง เป็นสิ่งที่จางฉี่หลิงไม่เคยทำมาก่อน เพราะไม่เคยมีใครสำคัญพอให้ต้องเอ่ยคำลา แต่ครั้งนี้ไม่ทำไม่ได้ ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่อาจหันหลังให้โลกของเขา แล้วก้าวเข้าประตูสำริดไปได้อย่างสงบใจ

“เสี่ยวเกอ” น้ำเสียงเบาหวิว สีหน้าราวกลัวว่าเรื่องตรงหน้าจะเป็นเพียงความฝัน “นาย... กลับ... กลับมายังไง”

ฝ่ายถูกเรียกสบมองคนตรงหน้า เพียงมองนิ่งๆเนิ่นนาน แสร้งเมินคำถามเฉกทุกครั้ง ก่อนบอกจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของตนเอง

“ฉันมาบอกลานาย เวลาของฉันมาถึงแล้ว”

แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่เข้าใจ แล้วพาเขาไปกินข้าว อู๋เสียคงตีความผิด แต่ไม่เป็นไร แค่ได้มาเห็นดวงหน้านี้อีกครั้ง เขาก็รู้สึกว่าเรื่องที่กำลังจะไปทำ เป็นสิ่งที่คุ้มค่า

ตามพันธะสัญญาระหว่างเก้าตระกูล เวลานี้คนที่ควรจะไปอยู่หลังบานประตูสำริด ก็คือคนตรงหน้าที่ยิ้มแย้มไม่รู้อะไร ไร้เดียงสาอย่างสมกับเป็นตัวเองอย่างที่สุด พูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อยด้วยแววตาสดใส เปล่งประกายอย่างมีชีวิต ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่ไม่มีในตัวเขา นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้จางฉี่หลิงมีความรู้สึกพิเศษต่ออีกฝ่าย

คนที่แตกต่างกัน สิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน มักจึงดูดกันและกันโดยไม่อาจต้านทาน

เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร และไม่สนใจจะขบคิด แค่อู๋เสียปลอดภัย ไม่ต้องก้าวไปบนเส้นทางอันตรายร่วมกับเขา ยิ้มได้ในแบบที่เป็นตัวเอง เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

แต่อู๋เสียทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด ตามหาเขาจนเจอ ดื้อรั้นที่จะไปฉางไป๋ซานด้วย เกลี้ยเกล่อมเขาสารพัด พยายามอย่างสุดกำลังให้เขากลับไปด้วยกัน

อยากบอกเหลือเกินว่าเป็นไปไม่ได้หรอก แต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะตัดใจง่ายๆ ดื้อแพ่งตามมาจนเขาคิดว่า สมควรแก่เวลาแล้ว...

ท้องฟ้ายามราตรีพร่างพรายด้วยแสงดาว ท่ามกลางภูเขาหิมะขาวโพลนมากมาย มีจุดสีส้มเล็กๆปรากฏ เป็นกองไฟกองหนึ่ง ข้างกองไฟนั้นคือบุรุษหนุ่มสองคน คนหนึ่งดูว้าวุ่นใจ อีกคนสงบนิ่ง

ดวงตาสีดำสนิทคู่ราบเรียบดึงสายตาตัวเองจากเปลวไฟมายังคนข้างกาย คนที่เขาไม่รู้จะทำอย่างไรด้วยดี

อู๋เสียก็มองเขากลับอย่างติดจะงุนงงเล็กน้อย ถามอะไรต่อมิอะไรมากมายที่คู่สนทนาฟังผ่านหู รับรู้เพียงน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ตั้งใจจดจำ

เส้นทางข้างหน้าอันตรายเกินไป แล้วคนดื้อรั้นอย่างอู๋เสียก็คงไม่ยอมกลับง่ายๆแค่เจรจา เขาจะทำอย่างไรดี...ฟาดให้สลบ? นั่นไม่เท่ากับว่าเขาทำร้ายอู๋เสียหรือ..

โดยไม่ทันรู้สึก ความเครียดก่อตัวภายในใจ ให้ต้องขอบุหรี่จากอีกฝ่ายมาจุด หวังช่วยดับเครียดได้บ้าง

เขาไม่อยากทำร้ายอู๋เสีย แต่หากอีกฝ่ายไม่ยอมกลับ เขาคงไม่มีทางเลือก

ดวงตาคู่สีดำลึกล้ำทอดมองคนในห้วงคิด

ดวงหน้าอ่อนเยาว์ที่เป็นไปตามกาล คิ้วมุ่นนิดๆอย่างฉงนระคนไม่พอใจ เมินโหยวผิงไล่มองทุกรายละเอียดบนใบหน้านั้น พินิจอย่างละเอียดลออประดุจไม่เคยเห็นมาก่อน

นี่คือสิ่งที่เขาอยากจะจดจำ

เคยคิดว่าตนเกิดในตระกูล ตายเพื่อหน้าที่ ไม่มีอะไรต้องอาวรณ์

วินาทีที่ตระหนักรู้ถึงสิ่งดีงามในชีวิต ภาระบนบ่าก็ได้ปัดให้ความหมายของมันสูญสิ้นไป

สุดท้าย แม้แต่ความหมายของความหมาย ก็ไม่มีความหมาย

แต่แล้ววันหนึ่ง สิ่งที่มีค่าต่อเขายิ่งกว่าความหมายของทุกสิ่งบนโลก กลับปรากฏเป็นผู้ชายคนหนึ่ง

เขาคนนั้น...อ่อนโยน อบอุ่นมาก... และเข้มแข็ง

กระนั้นกลับเปราะบางเหลือเกิน.. ปริร้าวเพียงเพราะรู้ว่าเขาจะไป

ดังนั้น เขาจึงให้สัญญา

...สัญญาว่าจะกลับมา...












“สิ่งที่นายต้องไปทำต่อจากนี้ มันมีความหมายเหรอ”

“ตัวความหมาย มันมีความหมายหรือ คำว่า ‘ความหมาย’ ตัวมันเองก็ไม่มีความหมาย”

...เราไม่ค่อยสนทนากันยาวๆนัก...

ทำให้ทุกถ้อยประโยคที่เราพูดกัน กลายเป็นสมบัติล้ำค่า เป็นสมบัติอย่างหนึ่งที่มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้ ผมเท่านั้นที่เก็บรักษามันได้ แล้วพอเผลอนั่งเหม่อทีไร บทสนทนาที่มีร่วมกับเขา ก็จะผุดขึ้นมา ให้บางอย่างตีตื้นขึ้นมาในอกทุกที

ความหมาย ของ คำว่า ‘ความหมาย’ นั่น...ถ้าผมให้คำตอบเขาได้ เขาจะไม่ไปจากผมรึเปล่า

คงไม่..

ผมยิ้มอย่างฝืดเฝื่อนกับตัวเอง เมินโหยวผิงเป็นคนเด็ดขาด หากเขาตัดสินใจทำอะไรแปลว่าคิดมาแล้วอย่างรอบคอบ และจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ

ผมเคยมองหยาเจ่ ที่มองเก้าอี้ว่างเปล่าของอาสาม พลางคิดว่า ผู้ชายคนหนึ่ง จะถูกจดจำไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาทำ แต่เป็นเพราะเขาจากไป

ผมคิดว่าตัวเองคิดถูกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อคนคนนั้นจากไป พร้อมกับคำสัญญา

“ทุกสิ่งเหล่านี้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันทบทวนดูความเชื่อมโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย”

ทุกครั้งที่ถ้อยประโยคนี้เวียนมาในหัว ผมจะรู้สึกอยากร้องไห้

คนอย่างนายเรือพ่วงนั่น ที่บอกว่าตนเองไม่มีทั้งอดีต และอนาคต ไม่มีความเกี่ยวโยงกับโลกใบนี้ กลับทิ้งประโยคนั้นไว้ให้ผม พูดแบบนั้นมันเหมือนจะบอกว่าโลกของเขาคือผมเลยไม่ใช่หรือไง ถ้าอย่างนั้นทำไมยังต้องหันหลังให้โลกใบนี้ด้วย ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าใจเขาได้ทั้งหมดหรอก แต่ผม...ก็ยอมรับทุกอย่างที่เป็นเขา ทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นผู้ชายที่ชื่อว่าจางฉี่หลิง

แล้วทั้งที่เขาบอกว่าตัวเองไม่มีอนาคตใดๆรออยู่ เขากลับสร้างสัญญาให้อนาคตในอีกสิบปี...กับผม

ชีวิตผมที่เดิมทีไม่ได้มีความหมายอะไร มีแต่นั่งเหม่อไปวันๆ คิดแต่ค่าน้ำค่าไฟเดือนหน้า พลันเปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับเขา พบนายอ้วน พบโลกอีกใบที่ผมไม่เคยรู้จัก

ทว่าบัดนี้ชีวิตผมกลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว...

ถึงอย่างนั้น มันไม่ได้ไร้ความหมายอีกต่อไป

ผมมีคนที่ต้องรอ มีสิ่งที่ต้องไปทำ มีคำสัญญาที่ต้องรักษา



“สิบปีต่อจากนี้ หากนายยังจำฉันได้...”



สิบปี...

แค่สิบปี อู๋เสีย

เทียบกับก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้ว่าต้องรอนานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม ไม่รู้ว่าจะตามหาได้ที่ไหน

แค่สิบปีแค่นี้ ช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยเสียเหลือเกิน

สายลมผ่านพัดให้ม่านพลิ้วไหว ดุจน้อมรับถ้อยคำที่เจ้าของร้านเอื้อนเอ่ยอย่างเบาแผ่ว

“..ฉันจะรอนาย.... เสี่ยวเกอ...”

น้ำเสียงอบอุ่น พร้อมรอยยิ้มจาง และมือที่ลูบลัญจกรอย่างทะนุถนอมราวของสูงค่า

...ของที่สัมผัสได้เพียงสิ่งเดียวที่เขาเหลือทิ้งเอาไว้ให้ผม...









END




สิบปี เหมือนสั้น แต่ก็นาน เหมือนยาว แต่ก็ไม่สั้น /พูดไรฟะ๕๕๕


การจะรอใครสักคนเนี่ย เป็นเรื่องทรมานจริงๆ นายน้อยแข็งแกร่งกว่าที่เห็นเยอะเลยค่ะ ///// ฮืออ ที่จริงกลัวนิดๆว่าต่อให้ไปเปิดประตูสำริดสำเร็จแล้ว อะไรๆมันคงไม่ง่ายอย่างนั้น? เสี่ยวเกอจะอยู่มั้ย นายน้อยต้องเข้าไปแทนรึเปล่า ความทรงจำล่ะ ฯลฯ บลาๆๆ มากมาย ไม่อยากคิดแล้ว ปวดหัวกับเต้ามู่มากช่วงนี้ ๕๕

kaikaizt
ด้วงฝึกหัด
ด้วงฝึกหัด

จำนวนข้อความ : 11
Points : 3494
Join date : 04/11/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ฉางไป๋ซาน

http://touchiro.exteen.com

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10 Empty Re: [OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10

ตั้งหัวข้อ by Feran.FS Wed 05 Nov 2014, 22:43

กรี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซ//ทุบโต๊ะปังปังปัง

คืออ่านแล้วมือสั่นค่ะ มันกระแทกใจไปแล้ว แงงงงงงงงงง//ด้วงร้าวราน

ความฟินของคู่นี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำหวาน บรรยากาศโรแมนติกหรือการกระทำใดๆ แค่ความรู้สึกที่ส่งออกมาก็กินขาดแล้วล่ะค่ะ!!//ด้วงมโน
Feran.FS
Feran.FS
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 457
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10 Empty Re: [OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10

ตั้งหัวข้อ by patri_perry Sat 15 Nov 2014, 17:36

ฮือออ น้ำตาจะไหลย์ ;-----;
ทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้านนะเสี่ยวเกออออออออ ปล่อยแฟนอยู่คนเดียวระวังโดนคาบไปกิ-----
patri_perry
patri_perry
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 50
Points : 3551
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตะเข็บเสื้อฮู้ดเสี่ยวเกอ

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10 Empty Re: [OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10

ตั้งหัวข้อ by natsume Tue 20 Jan 2015, 13:16

//น้ำตาร่วง.. ลงไปนั่งคุกเข่า
นายน้อยยยย
ไม่ต้องร้องนะคะ เดี๋ยวเหล่าด้วงจะบินไปช่วยปลอบระหว่างระเฮียเมินกลับมา
(อู๋เสีย:ไม่ต้องมา ไม่ต้องการ!!!)
natsume
natsume
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา

จำนวนข้อความ : 97
Points : 3529
Join date : 08/01/2015
ที่อยู่ : บนหลังกิเลน

ขึ้นไปข้างบน Go down

[OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10 Empty Re: [OS] Once you go [ผิงเสีย] สปอยล์เล่ม 10

ตั้งหัวข้อ by sinnerdarker Tue 20 Jan 2015, 14:23

//ลงไปเข่ากระแทกกับพื้นแล้วนอนตาย

ฮือออออออออ ฟิคนี้เลอค่ามากค่ะ หวานปะแล่มและตรงใจ นังซินเหมือนจะตายแหล่ววววว /กระอักเลือด

ชอบมากเลยค่ะ จะอธิบายยังไงดี ชอบที่เพราะคุยกันไม่กี่คำ ถึงสามารถจดจำทุกอย่างได้ เป็บสมบัติล้ำค่า ;7;//

ในโลกที่ทุกอย่างไม่มีความหมาย นอกเหนือไปจากหน้าที่และตระกูล วันนี้นี่เองที่ได้พบกับความหมายอันงดงาม ได้พบอู๋เสีย ฮรุมมมม ;-; รอวันที่พวกเธอจะได้เจอกันน้าาาาา
sinnerdarker
sinnerdarker
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ

จำนวนข้อความ : 343
Points : 4063
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : บ้านสกุลหวัง

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ