Countdown
We've been
togerther for
ค้นหา
Latest topics
Most active topics
[OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
+5
leralalita
justpn04
Feran.FS
Fenrir
SilverCloud
9 posters
หน้า 1 จาก 1
[OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
Pairing : จางฉี่หลิง x อู๋เสีย
Rate : PG
เวลาที่ผมเห็นคู่รักตามท้องถนน มันทำให้ผมรู้สึกอิจฉาพวกเขาอยู่เสมอ
เดินจับมือกัน พูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกัน ชี้ชวนดูเลือกซื้อของใช้ด้วยกันอย่างหวานชื่น
จางฉี่หลิง นายเมินโหยวผิงของผมไปอยู่ที่ไหนกันนะ จะรู้บ้างรึเปล่าว่าอู๋เสียคนนี้คิดถึงนายใจแทบขาดอยู่แล้ว
จากวันนั้นที่เขาหายตัวไปนับๆ ดูก็ปาเข้าไป 10 ปีแล้วสินะ ผมในตอนนี้โตขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว
กาลเวลาที่ขึ้นได้เปลี่ยนผมคนเดิม จากเทียนเจินอู๋เสียที่ต้องคอยให้ใครๆ มาปกป้องอยู่เสมอ
ได้กลายเป็นชายหนุ่มที่สมกับเป็นนายน้อยสามแห่งตระกูลอู๋อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ
ผมยังคงรอเขาอยู่.....
เฝ้าตั้งตารอคอยให้ใครคนนั้น คนที่มีความสำคัญกับผมมากมายเหลือเกินคนที่ผมแอบเรียกด้วยฉายาที่ผมตั้งขึ้นในใจเสมอ....
'เมินโหยวผิง' นายเรือพ่วงแสนน่าเบื่อที่ไม่ได้น่าเบื่อเลยในสายตาผม ถึงแม้มันจะดูงี่เง่ามากก็ตามกับการที่เอาแต่รอการกลับมาของใครซักคน
ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมารึเปล่าแต่ผมก็เชื่อ....
เชื่อ...ในคำสัญญาในวันนั้นของเรา
จนบางครั้งนายอ้วนชอบแซวว่า ผมชักจะเหมือนสาวน้อยแรกรักเข้าไปทุกทีแถมวันก่อนที่เขามาเยี่ยม เห็นสภาพผม คันปากทนไม่ไหวถึงกับพูดขึ้นมาว่า
'เพราะแบบนี้ไง นายถึงยังไม่ได้แต่งเมียซักที'
ผมหัวเราะ แล้วตอบเขาไปว่า 'เจ้าสาวฉันยังไม่กลับ แล้วฉันจะแต่งได้ไงล่ะ'
นายอ้วนทำหน้าดูถูกผม 'เทียนเจินหนอ เทียนเจิน อย่างนายเนี่ยนะคิดจะแต่งเมียน้องเสี่ยวเกอ ทำตัวเรียบร้อยรอเขามาสู่ขอน่ะถูกต้องแล้ว'
หมายความว่าไง อย่างน้อยผมก็สูงกว่าเสี่ยวเกอนะ ถึงจะแค่เซนต์เดียวก็เถอะ
หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ นายอ้วนรบเร้าให้ผมพาไปเลี้ยงมื้อใหญ่เนื่องในโอกาสอันดีที่ร้านขายของเก่าของเขาที่ปักกิ่งได้เปิดสาขาใหม่
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงด่านายอ้วนไปแล้ว ตัวเองเป็นเถ้าแก่แล้วแท้ๆ ยังจะมาขูดรีดผมอีก
แต่นายอ้วนเองก็ทำอะไรหลายอย่างเพื่อผมมามาก ในกรวยถ้าไม่ได้เขาในหลายๆ ครั้ง ผมคงกลายเป็นบ๊ะจ่างประดับสุสานซักแห่งไปแล้ว
แถมในช่วง 10 ปีมานี้เขาเองก็คอยเกื้อหนุนผมทุกอย่าง
เวลาผมทำตัวเอาแต่ใจ อยากไปคว่ำกรวยที่นู่นที่นั่น เขาก็เป็นคนคอยจัดหาสิ่งของจำเป็น และติดต่อทีมลงกรวยให้
หรือแม้แต่ตอนที่ผมแทบจะเป็นบ้าไปเพราะเรื่องของเสี่ยวเกอ ก็ได้เขาคอยอยู่เคียงข้าง ปลอบใจ ให้กำลังใจจนผมสามารถประคองตัวขึ้นยืนอีกครั้งได้
เพราะฉะนั้น กะอีแค่ข้าวมื้อเดียว เลี้ยงเขาซักหน่อยจะเป็นไรไป อีกอย่าง ถ้าอารองรู้ว่าแค่เลี้ยงข้าวเพื่อนเก่า นายน้อยสามยังไม่มีปัญญาเลี้ยง
ผมคงได้โดนลากตัวกลับบ้านใหญ่ โดนอารองอบรมเรื่องการเป็นผู้นำคนที่ดีอีกแน่
แปะ...
คิดเรื่อยเปื่อยพลันรู้สึกถึงความเย็นแตะต้องยังปลายจมูกโด่ง
อา หิมะเริ่มตกแล้วหรือนี่ ผมเดินใจลอยจนป่านนี้เชียว
ต้องรีบกลับบ้านแล้ว ถึงผมจะไม่ได้อ่อนแอถึงขั้นโดนลมหนวานิดหน่อยก็นอนซม
แต่ก็ไม่ได้พิศมัยการเดินตากหิมะ ท่ามกลางลมหนาวของฤดูเหมันต์หรอกนะ
ร่างบางหมุนตัว เดินย้อนกลับทางเดิมที่ก้าวเดินมา กลมกลืนกับฝูงชนที่ต่างทะยอยกันกลับสู่ที่พักของตน
.................................................................................................................................
กว่าผมจะถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว มือเท้าของผมเย็นไปหมด ท่าทางฤดูหนาวปีนี้จะหนาวกว่าทุกปีที่ผ่านมา
พรุ่งนี้ผมคงต้องออกไปหาซื้อสะเบียงมาตุนเอาไว้ จะได้ไม่ต้องไปเดินท้าลมหนาวบ่อยๆ
"ถ้าได้ซดน้ำซุปอุ่นๆ ซักถ้วย คงไม่เลวเลย"
รำพันกับตัวเอง พลางนึกถึงซุปหัวปลาที่นายอ้วนเคยทำให้กินยามที่อยู่ในกรวยใต้ทะเลซีซา
รายนั้นดูเป็นคนโผงผางไม่ละเอียดอ่อน แถมยังใจร้อนสุดๆ แต่กลับมีฝีมือทำอาหารเกินคาด
ยิ่งกว่านั้น ทั้งที่เขาจะไม่สนใจก็ได้ แต่กลับคอยใส่ใจผมอยู่เสมอ ในยามที่ไม่มีเสี่ยวเกอ ถ้าไม่มีนายอ้วนอยู่เป็นเพื่อนปลอบใจ ผมคงผ่านมันไปไม่ได้ด้วยตัวคนเดียว
และเพราะมีเขาอยู่ คอยมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ตัวผม สรรหาของแปลกใหม่มาคอยดึงความสนใจผมจากเรื่องของนายเมิน ผมจึงไม่รู้สึกเหงาเท่าที่ควร
แต่ก็เพราะนิสัยนายอ้วนเป็นแบบนั้น สุดท้ายตอนจบเราเลยมักจะเถียงกันจนกลายเป็นทะเลาะกันงี่เง่าเหมือนเด็กๆ อยู่ทุกครั้งไป
คิดแล้วก็หลุดขำออกมา เมื่อนึกได้ว่าตัวเองแทบจะไม่ได้สนใจนายอ้วนเท่าไหร่เลยนี่หว่า
ตลอดมาผมเอาแต่มองตามแผ่นหลังของคนเพียงคนเดียวอยู่เสมอ ไม่เคยมองดูคนรอบกายตัวเองเลยทั้งๆ ที่ทุกคนเองก็เป็นห่วงผมออกจะขนาดนี้แท้ๆ
ขอโทษนะนายอ้วน ไว้ว่างๆ จะซื้อซุปไก่อย่างดีไปฝากละกัน
คิดหมายมาดว่าคราวหน้าจะเป็นฝ่ายบินไปเยี่ยมนายอ้วนที่ปักกิ่งบ้าง จะได้ถือโอกาสให้เขาพาเที่ยวด้วยซะเลย
ผมล้วงหยิบกุญแจขึ้นมากำลังจะไขประตู พลันรู้สึกหนาวสันหลัง
จากประสบการณ์ในการลงกรวยของผมหลายครั้งทำให้สัมผัสได้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างหลังผมในระยะประชิด
เจ้านั่นเข้าใกล้ผมขนาดนี้โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยตั้งแต่เมื่อไหร่กันเพราะมัวแต่เหม่อแน่ๆ เลยถึงได้เสียท่าขนาดนี้ ถ้าเป็นโจรผู้ร้ายขึ้นมาละก็ผมจะรับมือยังไงดี
บ้าจริง...
ผมไม่ใช่นายเมินโหยวผิง หรือพานจื่อซะด้วย
ถ้าเป็นสองคนนั้นล่ะก็คงล้มเจ้าโจรนั่นได้ในกระบวนท่าเดียว หรือต่อให้เป็นนายอ้วนก็คงหาทางรอดให้ตัวเองได้อยู่ดี
ถ้าเกิดมันมีอาวุธขึ้นมาผมคงจบเห่กลายเป็นศพแข็งกลางหิมะแน่คราวนี้ แถมยังไม่ทันจะมีทายาทสืบสกุล ผมก็ทำให้ตระกูลอู๋มาสิ้นสุดที่รุ่นสามซะแล้ว
คิดไปก็ป่วยการณ์ ถึงอย่างไรผมก็เป็นแค่เทียนเจินอู๋เสียอยู่ดี จะไปมีวิชาแบบคนไม่ปกติได้ยังไง
ถ้าผมชิงลงมือก่อน อย่างน้อยก็คงพอถ่วงเวลาหาทางรอดจากเจ้าโจรนั่นได้
ฮึบบ
ผมสูดหายใจเข้าปอด รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมด หันไปซัดหมัดใส่เจ้าโจรนั่นเต็มแรง และแทบจะในทันทีที่ผมเห็นหน้าคนข้างหลังชัดๆ
ตัวผมพลันรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ร่างกายเย็นเฉียบ หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ หมัดที่ปล่อยไปค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะปล่อยตกลงข้างตัวอย่างหมดแรง
ใบหน้านิ่งเฉยราวรูปสลักยังคงหล่อเหลาไม่เปลี่ยนแปลง เส้นผมสีดำคลับที่ดูจะยาวขึ้นเล็กน้อยนั่นมีละอองหิมะเกาะอยู่ประปราย
แววตาไร้อารมณ์คู่นั้นทอดมองมาเงียบๆ อย่างที่เคยเป็น
"สะ เสี่ยวเกอ?!"
พระเจ้า...พระเจ้า...
เขากลับมาแล้ว
นายเมินโหยวผิงของผมคนนั้น เขากลับมาหาผมแล้ว
ชั่ววินาทีนั้น สมองผมว่างเปล่า
ทิ้งของในมือลง พุ่งเข้ากอดเขาอย่างไม่กลัวอารองมาเห็นอีกต่อไป
มือนุ่นที่เริ่มสากจากการคว่ำกรวยลูบไล้ใบหน้า สัมผัสถึงไออุ่นจางๆ จากตัวเมินโหยวผิงซึมซาบถึงความมีชีวิตของร่างตรงหน้านี้
ย้ำเตือนตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป เขากลับมาแล้วจริงๆ
ผมเคยคิด...
ว่าท้ายที่สุดแล้ว ต่อให้จางฉี่หลิงจะเหลือเพียงเถ้ากระดูกกลับมาหาผม... ผมก็จะรอ
แต่ตอนนี้
ในขณะนี้
จางฉี่หลิงคนนั้น ได้มาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว....
น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด
คำพูดนับร้อยนับพันที่ผมเตรียมเอาไว้ มาตอนนี้กลับหายไปหมดสิ้น
ริมฝีปากสั่นระริก ตื่นเต้นจนไม่สามารถเรียบเรียงถ้อยคำใดๆ ออกมาได้ เข้าใจแล้วว่าคำว่าความสุขมันจุกอกจนพูดไม่ออกมันเป็นยังไง
นับแต่ตอนที่ผมได้เห็นหน้าเขา ความรู้สึกของผมมันเปี่ยมล้นขึ้นมา...
"อู๋เสีย ฉันกลับมาแล้ว"
....เพียงแค่นี้...ก็พอแล้ว...
เฮือก!!
"เสี่ยวเกอ?"
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกของคืนหนึ่งในฤดูหนาว ประตูบานตรงหน้ายังคงปิดสนิทอยู่เช่นเดียวกับก่อนหน้าหลังจากที่ผมกลับจากในเมือง
ไม่มีใครอยู่ที่นี่นอกจากตัวผม
น้ำตารินไหลออกมา...
.....ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แค่เพียงผมฝันไป.....
Fin.
Rate : PG
เวลาที่ผมเห็นคู่รักตามท้องถนน มันทำให้ผมรู้สึกอิจฉาพวกเขาอยู่เสมอ
เดินจับมือกัน พูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกัน ชี้ชวนดูเลือกซื้อของใช้ด้วยกันอย่างหวานชื่น
จางฉี่หลิง นายเมินโหยวผิงของผมไปอยู่ที่ไหนกันนะ จะรู้บ้างรึเปล่าว่าอู๋เสียคนนี้คิดถึงนายใจแทบขาดอยู่แล้ว
จากวันนั้นที่เขาหายตัวไปนับๆ ดูก็ปาเข้าไป 10 ปีแล้วสินะ ผมในตอนนี้โตขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว
กาลเวลาที่ขึ้นได้เปลี่ยนผมคนเดิม จากเทียนเจินอู๋เสียที่ต้องคอยให้ใครๆ มาปกป้องอยู่เสมอ
ได้กลายเป็นชายหนุ่มที่สมกับเป็นนายน้อยสามแห่งตระกูลอู๋อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ
ผมยังคงรอเขาอยู่.....
เฝ้าตั้งตารอคอยให้ใครคนนั้น คนที่มีความสำคัญกับผมมากมายเหลือเกินคนที่ผมแอบเรียกด้วยฉายาที่ผมตั้งขึ้นในใจเสมอ....
'เมินโหยวผิง' นายเรือพ่วงแสนน่าเบื่อที่ไม่ได้น่าเบื่อเลยในสายตาผม ถึงแม้มันจะดูงี่เง่ามากก็ตามกับการที่เอาแต่รอการกลับมาของใครซักคน
ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมารึเปล่าแต่ผมก็เชื่อ....
เชื่อ...ในคำสัญญาในวันนั้นของเรา
จนบางครั้งนายอ้วนชอบแซวว่า ผมชักจะเหมือนสาวน้อยแรกรักเข้าไปทุกทีแถมวันก่อนที่เขามาเยี่ยม เห็นสภาพผม คันปากทนไม่ไหวถึงกับพูดขึ้นมาว่า
'เพราะแบบนี้ไง นายถึงยังไม่ได้แต่งเมียซักที'
ผมหัวเราะ แล้วตอบเขาไปว่า 'เจ้าสาวฉันยังไม่กลับ แล้วฉันจะแต่งได้ไงล่ะ'
นายอ้วนทำหน้าดูถูกผม 'เทียนเจินหนอ เทียนเจิน อย่างนายเนี่ยนะคิดจะแต่งเมียน้องเสี่ยวเกอ ทำตัวเรียบร้อยรอเขามาสู่ขอน่ะถูกต้องแล้ว'
หมายความว่าไง อย่างน้อยผมก็สูงกว่าเสี่ยวเกอนะ ถึงจะแค่เซนต์เดียวก็เถอะ
หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ นายอ้วนรบเร้าให้ผมพาไปเลี้ยงมื้อใหญ่เนื่องในโอกาสอันดีที่ร้านขายของเก่าของเขาที่ปักกิ่งได้เปิดสาขาใหม่
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงด่านายอ้วนไปแล้ว ตัวเองเป็นเถ้าแก่แล้วแท้ๆ ยังจะมาขูดรีดผมอีก
แต่นายอ้วนเองก็ทำอะไรหลายอย่างเพื่อผมมามาก ในกรวยถ้าไม่ได้เขาในหลายๆ ครั้ง ผมคงกลายเป็นบ๊ะจ่างประดับสุสานซักแห่งไปแล้ว
แถมในช่วง 10 ปีมานี้เขาเองก็คอยเกื้อหนุนผมทุกอย่าง
เวลาผมทำตัวเอาแต่ใจ อยากไปคว่ำกรวยที่นู่นที่นั่น เขาก็เป็นคนคอยจัดหาสิ่งของจำเป็น และติดต่อทีมลงกรวยให้
หรือแม้แต่ตอนที่ผมแทบจะเป็นบ้าไปเพราะเรื่องของเสี่ยวเกอ ก็ได้เขาคอยอยู่เคียงข้าง ปลอบใจ ให้กำลังใจจนผมสามารถประคองตัวขึ้นยืนอีกครั้งได้
เพราะฉะนั้น กะอีแค่ข้าวมื้อเดียว เลี้ยงเขาซักหน่อยจะเป็นไรไป อีกอย่าง ถ้าอารองรู้ว่าแค่เลี้ยงข้าวเพื่อนเก่า นายน้อยสามยังไม่มีปัญญาเลี้ยง
ผมคงได้โดนลากตัวกลับบ้านใหญ่ โดนอารองอบรมเรื่องการเป็นผู้นำคนที่ดีอีกแน่
แปะ...
คิดเรื่อยเปื่อยพลันรู้สึกถึงความเย็นแตะต้องยังปลายจมูกโด่ง
อา หิมะเริ่มตกแล้วหรือนี่ ผมเดินใจลอยจนป่านนี้เชียว
ต้องรีบกลับบ้านแล้ว ถึงผมจะไม่ได้อ่อนแอถึงขั้นโดนลมหนวานิดหน่อยก็นอนซม
แต่ก็ไม่ได้พิศมัยการเดินตากหิมะ ท่ามกลางลมหนาวของฤดูเหมันต์หรอกนะ
ร่างบางหมุนตัว เดินย้อนกลับทางเดิมที่ก้าวเดินมา กลมกลืนกับฝูงชนที่ต่างทะยอยกันกลับสู่ที่พักของตน
.................................................................................................................................
กว่าผมจะถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว มือเท้าของผมเย็นไปหมด ท่าทางฤดูหนาวปีนี้จะหนาวกว่าทุกปีที่ผ่านมา
พรุ่งนี้ผมคงต้องออกไปหาซื้อสะเบียงมาตุนเอาไว้ จะได้ไม่ต้องไปเดินท้าลมหนาวบ่อยๆ
"ถ้าได้ซดน้ำซุปอุ่นๆ ซักถ้วย คงไม่เลวเลย"
รำพันกับตัวเอง พลางนึกถึงซุปหัวปลาที่นายอ้วนเคยทำให้กินยามที่อยู่ในกรวยใต้ทะเลซีซา
รายนั้นดูเป็นคนโผงผางไม่ละเอียดอ่อน แถมยังใจร้อนสุดๆ แต่กลับมีฝีมือทำอาหารเกินคาด
ยิ่งกว่านั้น ทั้งที่เขาจะไม่สนใจก็ได้ แต่กลับคอยใส่ใจผมอยู่เสมอ ในยามที่ไม่มีเสี่ยวเกอ ถ้าไม่มีนายอ้วนอยู่เป็นเพื่อนปลอบใจ ผมคงผ่านมันไปไม่ได้ด้วยตัวคนเดียว
และเพราะมีเขาอยู่ คอยมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ตัวผม สรรหาของแปลกใหม่มาคอยดึงความสนใจผมจากเรื่องของนายเมิน ผมจึงไม่รู้สึกเหงาเท่าที่ควร
แต่ก็เพราะนิสัยนายอ้วนเป็นแบบนั้น สุดท้ายตอนจบเราเลยมักจะเถียงกันจนกลายเป็นทะเลาะกันงี่เง่าเหมือนเด็กๆ อยู่ทุกครั้งไป
คิดแล้วก็หลุดขำออกมา เมื่อนึกได้ว่าตัวเองแทบจะไม่ได้สนใจนายอ้วนเท่าไหร่เลยนี่หว่า
ตลอดมาผมเอาแต่มองตามแผ่นหลังของคนเพียงคนเดียวอยู่เสมอ ไม่เคยมองดูคนรอบกายตัวเองเลยทั้งๆ ที่ทุกคนเองก็เป็นห่วงผมออกจะขนาดนี้แท้ๆ
ขอโทษนะนายอ้วน ไว้ว่างๆ จะซื้อซุปไก่อย่างดีไปฝากละกัน
คิดหมายมาดว่าคราวหน้าจะเป็นฝ่ายบินไปเยี่ยมนายอ้วนที่ปักกิ่งบ้าง จะได้ถือโอกาสให้เขาพาเที่ยวด้วยซะเลย
ผมล้วงหยิบกุญแจขึ้นมากำลังจะไขประตู พลันรู้สึกหนาวสันหลัง
จากประสบการณ์ในการลงกรวยของผมหลายครั้งทำให้สัมผัสได้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างหลังผมในระยะประชิด
เจ้านั่นเข้าใกล้ผมขนาดนี้โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยตั้งแต่เมื่อไหร่กันเพราะมัวแต่เหม่อแน่ๆ เลยถึงได้เสียท่าขนาดนี้ ถ้าเป็นโจรผู้ร้ายขึ้นมาละก็ผมจะรับมือยังไงดี
บ้าจริง...
ผมไม่ใช่นายเมินโหยวผิง หรือพานจื่อซะด้วย
ถ้าเป็นสองคนนั้นล่ะก็คงล้มเจ้าโจรนั่นได้ในกระบวนท่าเดียว หรือต่อให้เป็นนายอ้วนก็คงหาทางรอดให้ตัวเองได้อยู่ดี
ถ้าเกิดมันมีอาวุธขึ้นมาผมคงจบเห่กลายเป็นศพแข็งกลางหิมะแน่คราวนี้ แถมยังไม่ทันจะมีทายาทสืบสกุล ผมก็ทำให้ตระกูลอู๋มาสิ้นสุดที่รุ่นสามซะแล้ว
คิดไปก็ป่วยการณ์ ถึงอย่างไรผมก็เป็นแค่เทียนเจินอู๋เสียอยู่ดี จะไปมีวิชาแบบคนไม่ปกติได้ยังไง
ถ้าผมชิงลงมือก่อน อย่างน้อยก็คงพอถ่วงเวลาหาทางรอดจากเจ้าโจรนั่นได้
ฮึบบ
ผมสูดหายใจเข้าปอด รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมด หันไปซัดหมัดใส่เจ้าโจรนั่นเต็มแรง และแทบจะในทันทีที่ผมเห็นหน้าคนข้างหลังชัดๆ
ตัวผมพลันรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ร่างกายเย็นเฉียบ หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ หมัดที่ปล่อยไปค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะปล่อยตกลงข้างตัวอย่างหมดแรง
ใบหน้านิ่งเฉยราวรูปสลักยังคงหล่อเหลาไม่เปลี่ยนแปลง เส้นผมสีดำคลับที่ดูจะยาวขึ้นเล็กน้อยนั่นมีละอองหิมะเกาะอยู่ประปราย
แววตาไร้อารมณ์คู่นั้นทอดมองมาเงียบๆ อย่างที่เคยเป็น
"สะ เสี่ยวเกอ?!"
พระเจ้า...พระเจ้า...
เขากลับมาแล้ว
นายเมินโหยวผิงของผมคนนั้น เขากลับมาหาผมแล้ว
ชั่ววินาทีนั้น สมองผมว่างเปล่า
ทิ้งของในมือลง พุ่งเข้ากอดเขาอย่างไม่กลัวอารองมาเห็นอีกต่อไป
มือนุ่นที่เริ่มสากจากการคว่ำกรวยลูบไล้ใบหน้า สัมผัสถึงไออุ่นจางๆ จากตัวเมินโหยวผิงซึมซาบถึงความมีชีวิตของร่างตรงหน้านี้
ย้ำเตือนตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป เขากลับมาแล้วจริงๆ
ผมเคยคิด...
ว่าท้ายที่สุดแล้ว ต่อให้จางฉี่หลิงจะเหลือเพียงเถ้ากระดูกกลับมาหาผม... ผมก็จะรอ
แต่ตอนนี้
ในขณะนี้
จางฉี่หลิงคนนั้น ได้มาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว....
น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด
คำพูดนับร้อยนับพันที่ผมเตรียมเอาไว้ มาตอนนี้กลับหายไปหมดสิ้น
ริมฝีปากสั่นระริก ตื่นเต้นจนไม่สามารถเรียบเรียงถ้อยคำใดๆ ออกมาได้ เข้าใจแล้วว่าคำว่าความสุขมันจุกอกจนพูดไม่ออกมันเป็นยังไง
นับแต่ตอนที่ผมได้เห็นหน้าเขา ความรู้สึกของผมมันเปี่ยมล้นขึ้นมา...
"อู๋เสีย ฉันกลับมาแล้ว"
....เพียงแค่นี้...ก็พอแล้ว...
เฮือก!!
"เสี่ยวเกอ?"
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกของคืนหนึ่งในฤดูหนาว ประตูบานตรงหน้ายังคงปิดสนิทอยู่เช่นเดียวกับก่อนหน้าหลังจากที่ผมกลับจากในเมือง
ไม่มีใครอยู่ที่นี่นอกจากตัวผม
น้ำตารินไหลออกมา...
.....ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แค่เพียงผมฝันไป.....
Fin.
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3949
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
อยากเข้าไปปลอบนายน้อย แต่หน้าที่นั้นควรเป็นของนายคนบ้าที่หายไป10ปีมากกว่า.....
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ จบได้วางระเบิดด้วงมากเลยค่ะ!!!!
Feran.FS- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 457
Points : 3951
Join date : 27/10/2014
Age : 28
ที่อยู่ : ใต้เตียงนอนเซี่ยจื่อหยาง...
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
นายน้อยคงคิดถึงมากๆเลยเนาะ ถึงจะได้ยินคำว่ากลับมาแล้วที่อยากฟัง แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝันโฮฮ
นายน้อยยย ไม่เอาไม่ร้องนะคะ ;; /กอดปลอบ
มันทำให้เห็นว่าความคิดถึงมันทรมานมากเลย ดูสิพอเจอก็โผเข้ากอดแล้ว ฮืออ////
ไม่รู้ทำไมค่ะ แอบคิดว่าคงมีหลายๆครั้งที่นายน้อยสะดุ้งตื่นเพราะฝันถึงแบบนี้ แล้วก็ร้องไห้อยู่คนเดียวกลางดึก แอออ /ไมมมม่
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ ;///;
นายน้อยยย ไม่เอาไม่ร้องนะคะ ;; /กอดปลอบ
มันทำให้เห็นว่าความคิดถึงมันทรมานมากเลย ดูสิพอเจอก็โผเข้ากอดแล้ว ฮืออ////
ไม่รู้ทำไมค่ะ แอบคิดว่าคงมีหลายๆครั้งที่นายน้อยสะดุ้งตื่นเพราะฝันถึงแบบนี้ แล้วก็ร้องไห้อยู่คนเดียวกลางดึก แอออ /ไมมมม่
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ ;///;
leralalita- ด้วง
- จำนวนข้อความ : 34
Points : 3513
Join date : 27/10/2014
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
แวบมาตอบคอมเม้นของทุกท่าน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องแรกของบันทึกฯของเรานะคะ //กราบบ
Fenrir
กว่าอีตานั่นจะกลับมา นายน้อยคงร้องจนไม่มีน้ำตาแล้ว เพราะฉะนั้นด้วงอย่างเราต้องฉวยโอกาสตอนนี้เข้าไปปลอ--- #โดนคีบไส้
Feran.FS
ลั้ลลา นานๆทีก็อยากดราม่าบ้างอะไรบ้างค่ะ
justpn04
เห็นโดจินสั้นเลยแต่งให้จบแบบนี้น่ะค่ะ ตอนแต่งบีบหัวใจด้วงมาก สงสารนายน้อย ฮืออ TT
leralalita
ตั้งแต่วันที่เสี่ยวเกอจากไป เราก็คิดว่านายน้อยคงไม่ได้นอนเต็มอิ่มซักคืนหรอกค่ะ เพราะแค่หลับตาลง ความปรารถนาส่วนลึกในจิตใจก็จะทำให้ฝันว่าเสี่ยวเกอกลับมาแล้วอยู่เสมอ แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง จิตใจของนายน้อยคงบอบช้ำน่าดู
Fenrir
กว่าอีตานั่นจะกลับมา นายน้อยคงร้องจนไม่มีน้ำตาแล้ว เพราะฉะนั้นด้วงอย่างเราต้องฉวยโอกาสตอนนี้เข้าไปปลอ--- #โดนคีบไส้
Feran.FS
ลั้ลลา นานๆทีก็อยากดราม่าบ้างอะไรบ้างค่ะ
justpn04
เห็นโดจินสั้นเลยแต่งให้จบแบบนี้น่ะค่ะ ตอนแต่งบีบหัวใจด้วงมาก สงสารนายน้อย ฮืออ TT
leralalita
ตั้งแต่วันที่เสี่ยวเกอจากไป เราก็คิดว่านายน้อยคงไม่ได้นอนเต็มอิ่มซักคืนหรอกค่ะ เพราะแค่หลับตาลง ความปรารถนาส่วนลึกในจิตใจก็จะทำให้ฝันว่าเสี่ยวเกอกลับมาแล้วอยู่เสมอ แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง จิตใจของนายน้อยคงบอบช้ำน่าดู
SilverCloud- ด้วงตำหนักทิพย์พิมานเมฆ
- จำนวนข้อความ : 433
Points : 3949
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : ตู้เสื้อผ้าของอารอง
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
เศร้าเกินไปแล้ว
เสี่ยวเกอขา กลับมาหาอู๋เสียเถอะ
sagacity191- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 53
Points : 3522
Join date : 06/11/2014
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
แงงงงงงงงงงงง *ร้องไห้ตามนายน้อย*
gaaraclub- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 81
Points : 3560
Join date : 27/10/2014
ที่อยู่ : แขนเสื้อปู่อู๋
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
โอ๊ยยย กำลังจะดีใจกับนายน้อยที่เสี่ยวเกอกลับมาแล้ว
เจอว่ามันเป็นฝันนี่ ความหวังพังพินาศเลยค่ะ ด้วงตายสนิท ทุกข์ระทมกันเลยทีเดียว
เจอว่ามันเป็นฝันนี่ ความหวังพังพินาศเลยค่ะ ด้วงตายสนิท ทุกข์ระทมกันเลยทีเดียว
ryu77- ด้วงตำหนักหลู่หวังเจ็ดดารา
- จำนวนข้อความ : 64
Points : 3549
Join date : 01/11/2014
Re: [OS] กลับมาแล้ว [ผิงเสีย]
โอยมีแต่ความเศร้าเคล้าน้ำตา ทำไมคู่นายน้อยนี่ต้องดราม่า
kuramajoy- ด้วงต้นไม้เทพเจ้า
- จำนวนข้อความ : 206
Points : 3780
Join date : 27/10/2014
Similar topics
» [OS] #dmbjdaily '520' (ผิงเสีย :: เหม่งจาง,ผิงเสีย)
» [OS] All alone with you [ผิงเสีย]
» [OS-AU] วิธีสยบเด็กฉบับเฮยเสียจื่อ #ผิงเสีย + เฮย
» [OS] งานวิจัยว่าด้วยการศึกษาพฤติกรรมของจางฉี่หลิง (ผิงเสีย)
» [OS] โรค - ผิงเสีย
» [OS] All alone with you [ผิงเสีย]
» [OS-AU] วิธีสยบเด็กฉบับเฮยเสียจื่อ #ผิงเสีย + เฮย
» [OS] งานวิจัยว่าด้วยการศึกษาพฤติกรรมของจางฉี่หลิง (ผิงเสีย)
» [OS] โรค - ผิงเสีย
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Fri 24 Jul 2020, 01:39 by gustoon
» [คู่มือด้วง] Keyword จีนสำหรับการขุด(แฟนดอม)สุสาน
Thu 21 Jun 2018, 00:29 by miskizfullmoon
» มังฮวาและภาคทิเบต
Thu 21 Jun 2018, 00:23 by miskizfullmoon
» [OS] Father is the best (ผิงเสีย)
Thu 03 Aug 2017, 16:12 by schneewittchen
» [Fic] สิ่งเล็กๆที่เชื่อมโลก5 [เมินโหยวผิง+อู่เสีย+เสี่ยอ้วน]+OC
Tue 01 Aug 2017, 12:30 by natsume
» [OS] #dmbjdaily (จูปาจุ๊บ) Bittersweet [ผิงเสีย AU]
Thu 06 Apr 2017, 15:58 by Zeth
» [OS] #dmbjdaily "โทรศัพท์มือถือ" - no Pairing [All]
Tue 04 Apr 2017, 22:27 by Zeth
» [OS] #DMBJDaily (แว่น): ระยะที่มองไม่เห็น [ฮัวเสีย]
Sat 01 Apr 2017, 16:55 by Zeth
» [OS] #DMBJdaily (5.20) ท่านยอดฝีมือ [หวังเหมิง (+เหมิงเสีย)(+ผิงเสีย)]
Thu 30 Mar 2017, 17:24 by Zeth